หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 641 ต้องจับตัวคนแซ่เย่กลับมาให้ได้

แชร์

บทที่ 641 ต้องจับตัวคนแซ่เย่กลับมาให้ได้

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เกิดอะไรขึ้น”

สตรีคนหนึ่งที่สวมกระโปรงคาดอกสีแดงเข้มเดินออกจากห้องข้างๆ โดยที่ในมือถือชามยาอยู่

สตรีสองคนหันกลับอย่างรวดเร็ว

“พี่ฮวาเชียน คุณชายแซ่เย่หนีหายไปแล้ว”

ใบหน้าของฮวาเชียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“อะไรนะ เจ้าสำนักจับกุมฮ่องเต้น้อยจริงๆ หรือ “

สตรีในชุดสีชมพูพยักหน้าและพูดว่า “เจ้าสำนักเพิ่งกลับมา วานให้พวกเราไปเอาเลือดคุณชายน้อยเย่ ไม่นึกว่าจู่ๆ เขาก็ตื่นขึ้น พังประตูแล้ววิ่งหนีไป”

ฮวาเชียนถามอย่างร้อนรน “เจ้าสำนักล่ะ”

“ไปหาหมอเทวดาหนิง พี่ฮวาเชียน ควรทำอย่างไรดี”

หญิงสาวในชุดสีเขียวกังวลมากจนแทบจะร้องไห้

ฮวาเชียนรีบส่งชามยาในมือให้กับหญิงสาวในชุดสีเขียว

“พวกเจ้าป้อนยาชามนี้ให้ผู้คุมตรา ข้าจะออกไปดู ต้องปกป้องผู้คุมตราให้ปลอดภัยนะ”

“เจ้าค่ะ”

ทั้งสองตอบพร้อมกัน และเดินเข้าไปในประตูอย่างรวดเร็ว

ฮวาเชียนใช้วิชาตัวเบา เหาะเหินไปตามตึกในหอ

เมฆมืดมนขนาดมหึมาแผ่ปกคลุมชายฝั่งทะเลเป่ยไห่ ท้องนภาปราศจากแสงเดือนแสงดาว เอื้อมมืออกไปก็ไม่เห็นแม้แต่นิ้วเดียว

แม้ว่าเมืองนี้จะไม่ใหญ่นัก แต่ทางด้านซ้ายก็ล้อมรอบด้วยภูเขา ด้านหน้าติดทะเล การจะหาใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ฮวาเชียนหยุ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 642 ความเกลียดแค้นของเจ้าสำนักเซี่ยว

    ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดหวานๆ ของฮ่องเต้ใจโฉด หวนเอ๋อร์คงไม่ติดตามเขาเข้าวัง ถ้าเขาดีกับหวนเอ๋อร์ก็คงไม่เป็นไร แต่ฮ่องเต้ใจโฉดมีนางสนมมากมาย ได้ใหม่ก็ลืมเก่าหลังจากทราบว่าเซี่ยวอิ๋นหวนเป็นทุกข์ไร้สุขอยู่ในวังตลอดทั้งวัน ป่วยหนักก็ไม่ยอมรักษา เจ้าสำนักเซี่ยวจึงเดินทางไกลไปยังเมืองต้าโจว พาคนกลับมายังหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เดิมทีเขาต้องการที่จะบดขยี้ฮ่องเต้ใจโฉดกับเจ้าเด็กเปรตเย่จิ่งอวี้ให้ตาย แต่เซี่ยวอิ๋นหวนขอร้องอ้อนวอน ถึงขั้นขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย เจ้าสำนักเซี่ยวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้โชคดีที่วันนั้นตัวเองมีใจเมตตา ไว้ชีวิตเจ้าเด็กเปรตนั่น ไม่เช่นนั้นหวนเอ๋อร์คงจะ...เมื่อนึกถึงตรงนี้ ใบหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยวก็แสดงความเกรี้ยวกราดขึ้นอีกเจ้าเด็กเปรตแซ่เย่กล้าหนีไป หากจับเขาได้ จะต้องทำให้เขาเจ็บปวดทรมานร่างกายแน่ขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้ ฮวาเชียนก็เดินเข้ามาจากด้านนอก“ฮวาเชียนคารวะเจ้าสำนัก”เจ้าสำนักเซี่ยวนั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้าง แล้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “มีข่าวของเจ้าเด็กเปรตนั่นแล้ว?”ฮวาเชียนก้มศีรษะลง “ไม่มีเจ้าค่ะ”เจ้าสำนักเซี่ยวแค่นเสียงหึและพูดว่า “งั้นก็

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 643 พี่ใหญ่จะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ

    ใบหน้าของเป่าเล่อเอ่อร์แดงปลั่ง มองไปที่อินสิงอวิ๋นเงียบๆ ดวงตาทั้งสองคู่สบกัน อินสิงอวิ๋นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยซึ่งอินชิงเสวียนก็เห็นการแสดงออกของทั้งสองคนอยู่ในสายตา ในใจรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยคู่รักอยู่ตรงหน้าพอดี ในโลกนี้จะมีอะไรที่สุขกว่านี้อีกชายคนรักที่สมใจของนาง ตอนนี้อยู่ที่ใดหนอเมื่อนึกถึงเย่จิ่งอวี้ ดวงตาของอินชิงเสวียนก็มืดมัวลงทันทีทั้งครอบครัวดื่มด่ำกับความสุขของการแต่งงาน ทว่าไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ ของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนเองไม่อยากสร้างปัญหาให้กับทุกคน ดังนั้นนางจึงปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว ให้กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศหลังมื้ออาหารกลางวัน เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอยากไปเล่นในสนาม อินชิงเสวียนจึงพาเขาไป ในขณะที่กำลังหยอกเย้าลูกชาย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังจากข้างหลังเมื่ออินชิงเสวียนหันหน้ากลับมา ก็เห็นอินสิงอวิ๋นยืนอยู่ห่างออกไปสามก้าวทันที“พี่ใหญ่”“อื้ม”อินสิงอวิ๋นพยักหน้า หยิบกระพรวนเล็กๆ ที่ร้อยด้วยเชือกสีแดงออกมาจากอกเสื้อ แล้วมอบให้เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงครั้นแล้วอินชิงเสวียนก็นึกถึงสายกระพรวนทองที่มีผลกระทบต่อเย่จิ่งอวี้ขึ้นมาทันที จากนั้นก็ได้ยินอินสิงอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 644 ขืนเจ้ากล้าพูดพล่ามข้าจะฉีกปากเจ้าซะ

    ชั่วพริบตารถม้าก็ผ่านไปเมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนยังคงมองออกไปข้างนอก อวิ๋นฉ่ายก็อดถามไม่ได้“พระสนม ท่านดูอะไรอยู่หรือ”“ไม่มีอะไร”อินชิงเสวียนลดม่านรถลงแต่ในใจกลับสงสัยว่าทำไมจูอวี้เหยียนถึงอยากไปเรือนจุ้ยหง?เถ้าแก่เนี้ยคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดาเพียงแต่ว่าตัวเองกำลังจะจากไป ไม่มีหนทางที่จะตรวจสอบเพิ่มเติมได้อีก ทำได้เพียงขอให้เย่จั้นจับตาดูดฟิงเอ้อร์เหนียงไว้เท่านั้นภายในสิบห้านาที รถม้าก็มาถึงประตูวังเสี่ยวอานจื่อรับตัวเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง และเดินกลับไปที่ตำหนักจินหวูอินชิงเสวียนนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าจะไปห้องหนังสือ ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น มีเสียงฝีเท้าที่สม่ำเสมอที่ประตู เป็นเย่จั้นที่เดินเข้ามาจากด้านนอกเขายังคงสวมหน้ากากของเย่จิ่งอวี้ ผิวหน้ากากที่ละเอียดประณีตเกือบจะเหมือนจริงอินชิงเสวียนไม่รู้ว่าจะเรียกเขาว่าอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ดังนั้นนางจึงไม่พูดอะไรเลยเย่จั้นเดินเข้าไปในห้องโถง แล้วถามอย่างเงียบๆ “เตรียมของที่ต้องเตรียมไว้หมดแล้วหรือ”อินชิงเสวียนไม่กล้ามองหน้าเขา เพราะมันจะนำความทรงจำอันน่าเศร้ามากมายของนางกลับมาก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “เกือบเสร็จแล้ว หลังจากการ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 645 คนซื่อหลอกง่ายที่สุด

    ณ เรือนจุ้ยหงเฟิงเอ้อร์เหนียงกำลังแต่งตัวอยู่ในห้อง วันนี้นางเปลี่ยนจากการแต่งหน้าสีสดตามปกติ เป็นการแต่งหน้าอ่อนๆ กระโปรงคาดอกสีแดงสดก็ถูกแทนที่ด้วยสีขาวล้วน คนทั้งคนก็ดูสง่างามขึ้นมากนางเปิดกล่องสมบัติข้างๆ นาง แล้วหยิบปิ่นปักผมดอกอวี้หลานสีขาวที่เป็นสนิมออกมา และปักบนศีรษะเมื่อมองดูกลีบดอกอวี้หลานที่หัก ดวงตาของเฟิงเอ้อร์เหนียงก็เศร้าโศกเล็กน้อยในขณะที่นึกถึงความหลัง บริกรชายก็เข้ามาจากด้านนอก“เอ้อร์เหนียง แม่นางที่นั่งรถเข็นคนเมื่อวานกลับมาอีกแล้ว”เฟิงเอ้อร์เหนียงพูดอย่างเย็นชา“ไม่พบ”บริกรชายพูดว่า “ข้าจะไปตอบนางเดี๋ยวนี้”ทันทีที่พูดจบ ก็ได้ยินเสียงคนพูดว่า “ไม่ทราบว่าเฟิงเอ้อร์เหนียงจะเห็นแก่หน้าอาจารย์ข้าได้หรือไม่ พูดกับข้าสักสองสามคำ”ท่าทีหยิ่งยะโสในยามปกติของจูอวี้เหยียนเปลี่ยนไป คำพูดคำจาเจือไปด้วยคำสัตย์ซื่อจริงใจขึ้นเฟิงเอ้อร์เหนียงจัดทรงผมอย่างไม่รีบร้อน“อาจารย์ของเจ้าคือใคร”“ราชากู่หยางเฉิง”เมื่อได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของเฟิงเอ้อร์เหนียงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย น้ำเสียงเยียบเย็นลงเล็กน้อย“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”ดวงตาของจูอวี้เหยียนฉายแววเศร้าโศก น้ำเส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 646 จวนจะจาก

    ซูหมิงหลานเดินเข้ามาใกล้ จุดธูปแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่ซูหนิง ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยท่านดูแลลูกๆ ทั้งสามเป็นอย่างดี ก่อนวันแต่งงานของสิงอวิ๋น ข้าจะพาเขามาสักการะที่นี่ ลูกสะใภ้คนโตของเราก็ตั้งครรภ์แล้ว ปีหน้าก็จะได้หลานแล้วล่ะ ดวงวิญญาณของท่านบนสวรรค์ ต้องช่วยปกป้องคุ้มครองให้พวกเขาปลอดภัยด้วยนะ”ต่อจากนั้นอินสิงอวิ๋นก็โขกศีรษะสามครั้ง“ท่านแม่ ลูกมาหาท่านแล้ว หลายปีมานี้ไม่ได้กลับมาเลย ท่านแม่คงไม่ตำหนิข้ากระมัง ต่อไปลูกจะมาทุกปี จะมาเผาเสื้อผ้าและให้เงินกับท่านแม่” อินปู้อวี่ยังคุกเข่าและพูดว่า “ท่านแม่ ปู้อวี่ก็มาแล้วขอรับ จากนี้ไปลูกจะมาเยี่ยมท่านแม่บ่อยๆ และจะอยู่ในเมืองหลวง อยู่ข้างๆ ท่านแม่ด้วย”เมื่อถึงคราวของอินชิงเสวียน นางไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง จึงโขกศีรษะสามครั้ง พนมมือและอธิษฐานอย่างเงียบๆ ข้าหวังว่าอินฮูหยินจะอวยพรให้การเดินทางของนางในครั้งนี้ราบรื่น ตามสามีของนางกลับมาได้ เช่นนี้ถึงจะเรียกว่าอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างแท้จริง นางถอนหายใจเบาๆ แล้วอินชิงเสวียนยกกระโปรงยืนขึ้นไม่มีใครบังคับให้นางพูด ถึงอย่างไรลูกสาวพวกเขาก็เรื่องในใจมากมาย ไม่เห็นต้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 647 โสดมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ยี่สิบแปดปี

    อินชิงเสวียนพยักหน้า“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้ากลับก่อนนะ”อินจ้งพยักหน้า พูดด้วยความรัก “อย่าลืมดูแลตัวเอง ออกไปข้างนอกต้องระวังตัวด้วยนะ”เมื่อเห็นดวงตาของอินจ้งเปลี่ยนเป็นสีแดง อินชิงเสวียนก็รู้สึกไม่สบายใจแม้ว่านางจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดโดยตรงกับพวกเขา แต่หลังจากที่อยู่ด้วยกันมานาน อินชิงเสวียนก็ถือว่าพวกเขาเป็นครอบครัวแล้วนางหายใจเข้าลึกๆ แล้วคลี่ยิ้ม“ท่านพ่อไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”ถ้านางร้องไห้ ตระกูลอินจะรู้สึกลำบากใจ และเป็นกังวลมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนนางเป็นเพียงแขกที่ผ่านเข้ามาในยุคนี้ จะไปรบกวนชีวิตพวกเขาทำไมซูหมิงหลานจับมือนางแล้วพูดว่า “เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว ต้องเขียนจดหมายกลับมา แจ้งสักคำว่าปลอดภัย”เมื่อพูดคำสุดท้าย ดวงตาก็เปียกชื้นจากหยาดน้ำตาตอนที่นางเพิ่งแต่งเข้าตระกูลอิน เด็กน้อยคนนี้ต่อต้านตัวเองมาโดยตลอด ในที่สุดนางก็โตขึ้น รู้ความขึ้น ความสัมพันธ์แม่ลูกยังไม่อบอุ่นพอ อินชิงเสวียนก็จะจากไปแล้วแม้รู้ว่านางไปไม่ไกล รู้ว่านางจะกลับมาเร็วๆ นี้ แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าใจมากถ้าเป็นอินสิงอวิ๋นหรืออินปู้อวี่ ซูหมิงหลานก็ไม่ได้เป็นกังวลมากน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 648 เหตุต่างๆ ในโลกเปรียบเหมือนกระดานหมากรุก

    เมื่อเห็นเขายืนอยู่บนแท่นไม้ใหญ่ อินชิงเสวียนก็อดหัวเราะไม่ได้เย่จิ่งหลานหันหน้าและพูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าเข้ามาทำไม”“ข้านึกว่าเจ้ากำลังปลูกผักมาทำกับข้าว ก็เลยแวะมาดู ต้องการให้ช่วยหรือไม่”อินชิงเสวียนกลั้นยิ้ม ถึงอย่างไรเขาก็ทำอาหารให้ตัวเองกิน ถ้านางหัวเราะเยาะ คงไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่“ไม่ต้อง เป็นจานสุดท้ายก็จะเสร็จแล้ว”ในขณะที่เย่จิ่งหลานกำลังพูด ก็ตักออกใส่จานแล้วที่แท้ก็เป็นปลาตุ๋นน้ำแดง หลังจากราดน้ำปรุงรสแล้ว กลิ่นหอมฉุยก็โชยแตะจมูก สีสันดูสดใสน่ารับประทาน อินชิงเสวียนเห็นแล้วก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้นางชอบกินปลามาก แต่นางทำอาหารไม่เก่ง ทำทุกครั้งมักจะมีกลิ่นคาว รสชาติเหลือรับประทานจริงๆ วิธีทำอาหารในวังนั้นจืดชืดเกินไป อินชิงเสวียนจึงไม่ได้กินปลามานานแล้วเมื่อมองดูจานอาหารที่อยู่ด้านข้าง ก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ซี่โครงหมูตุ๋น ไก่ชุบแป้งผัดหมาล่า มะเขือม่วงยัดไส้ หอยเชลล์ย่างกระเทียม กุ้งทอดซอส และผัดผักต่างๆ อกีเยอะแยะต้องบอกว่าเย่จิ่งหลานมีฝีมือทำอาหารมากๆ ทุกจานอร่อยครบรส ทำให้คนน้ำลายสอเมื่อเห็นรูม่านตาของอินชิงเสวียนขยายออก เย่จิ่งหลานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 649 คือเส้นทางที่เจ้าเลือกเอง แม้ต้องร้องไห้ก็ต้องเดินต่อไป

    อินชิงเสวียนอยู่ในวังมานานแล้ว เจตนาแอบแฝงเหล่านี้นางสามารถมองออกหมด แต่ฝ่าบาทองค์นี้ไม่ใช่ฝ่าบาทคนนั้น ดังนั้นนางจึงไม่กังวลนางเล่าเรื่องที่ตัวเองจะจากไปอย่างเปิดเผย และแต่งตั้งซูฉ่ายเวยให้ช่วยจัดการดูแลวังหลังซูฉ่ายเวยก้าวลงจากเก้าอี้ แล้วโค้งคำนับอินชิงเสวียนด้วยความเคารพ“กุ้ยเฟยไม่ต้องห่วง ข้าจะช่วยพระสนมจัดการวังหลังอย่างดี จะไม่ให้เกิดความผิดพลาดแม้แต่น้อย”“เจ้าเป็นน้องสาวของข้า ข้าย่อมเชื่อใจเจ้าอยู่แล้ว ไม่ต้องคำนับมีพิธีรีตองขนาดนี้ รีบลุกขึ้นเร็ว”อินชิงเสวียนประคองซูฉ่ายเวยขึ้น ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาเมื่อไหร่ที่พวกนางจะได้รับการแต่งตั้งยศ ให้กำเนิดโอรสมังกรกับฝ่าบาทบ้าง แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสวีจือย่วนและฉู่หลิงอวี้ ก็อดขนหัวลุกไม่ได้ มีพระสนมคนนี้อยู่ การจะปีนเตียงมังกรก็ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้ากุ้ยเฟยไปแล้ว นั่นก็ไม่แน่ความคิดบางอย่างแวบเข้ามา แววตาเป็นประกายระยิบระยับอินชิงเสวียนเหลือบมองไปรอบๆ ด้วยแววตาราบเรียบ มองเห็นความคิดชั่วร้ายของทุกคนได้ชัดเจนนางกระแอมในลำคอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวดว่า “ตอนนี้วังหลังไร้นายแล้ว ข้าต้องออกไปทำธุระ ห

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status