แชร์

บทที่ 569 ไป๋เสวี่ยลงสนาม

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-09 18:40:10
เมื่อเห็นใบหน้าขาวๆ ราวกับคนตาย ริมฝีปากหนาทาสีแดงเป็นวงใหญ่ องครักษ์ก็สะดุ้งโหยง ชักกระบี่ออกมาทันที

“กล้าดีอย่างไรมาปลอมเป็นพระสนม จับตัวพวกมันไว้เร็ว”

ที่ทางเข้าวังมีทหารอารักขาหลายคน ยังมีทหารองครักษ์ที่เฝ้าเวรด้วย จู่ๆ คนกลุ่มหนึ่งก็ตะโกนเข้ามา

ชายร่างเตี้ยเห็นดังนั้นก็ตะโกนด่าว่าบากะๆ ไม่หยุด

ตาเฒ่าเหล่านั้นบอกอยู่ชัดๆ ว่าปลอมตัวเป็นสตรี ถือป้ายแขวนเอวเข้ามาก็ได้แล้ว ทำไมพอมาถึงหน้าประตูวังก็ถูกจับได้

ทั้งหมดกระโดดลงจากรถม้าทันที และเข้าต่อสู้กับทหารองครักษ์

ทักษะทางร่างกายเหล่านี้แปลก วิธีการต่อสู้ก็ประหลาด ไม่ถึงสิบกระบวนท่า ทหารรักษาพระองค์สองคนก็ถูกคมดาบของคนแคระ

องครักษ์สองหน่วยรีบเข้ามาเสริมกำลัง และล้อมคนเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

ผีแคระไม่เพียงไม่กลัวเท่านั้น แต่ยังระเบิดเสียงหัวเราะอีกด้วย

หนึ่งในนั้นคว้าตัวองครักษ์มา ใช้ดาบผ่าท้อง ควักหัวใจออกมา แล้วอ้าปากกัด เมื่อประกอบกับการแต่งหน้าแปลกๆ ของพวกเขา เหล่าทหารต่างก็รู้สึกเสียวสันหลังอย่างอดไม่ได้

อีกคนหนึ่งตะโกนด่าว่าบากะ ดูเหมือนไม่พอใจกับสิ่งที่คนผู้นั้นกระทำ จึงพ่นควันออกมา

เมื่อควันหายไปก็ไม่พบร่องรอยของคนเหล่าน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 570 ความสุขแบบเรียบง่าย

    ทั้งสองแยกทางกันที่ทางแยกบนถนน แล้วองครักษ์หลายคนก็คุ้มกันอินชิงเสวียนกลับมายังตำหนักจินหวูตามที่คาดไว้ ไป๋เสวี่ยไม่ได้อยู่ในตำหนัก จังอวี้จิ่นบอกว่ามันกิวอาหารเสร็จแล้วก็ออกไปข้างนอกช่างเป็นวัยรุ่นที่ชอบเล่นสนุกจริงๆอินชิงเสวียนเดินไปที่หน้าตำหนัก วางนิ้วบนริมฝีปากแล้วผิวปาก ครู่ต่อมานางก็ได้ยินเสียงโครมคราม ร่างสีขาวดุจหิมะก็กระโดดออกมาจากสวน ร่างใหญ่วิ่งทะยานราวกับม้า ทำให้พื้นสั่นสะเทือนเมื่อเห็นอินชิงเสวียน ไป๋เสวี่ยก็รีบวิ่งไปหาทันที ยกอุ้งเท้าปุกปุยขึ้นกอดเอวของนางอินชิงเสวียนตบหัวอันใหญ่โต แล้วพูดว่า “ไม่เล่นแล้ว ข้ามีภารกิจที่ให้เจ้าทำ แต่ให้เจ้าติดตามคนอื่นไป เจ้ารับปากได้หรือไม่”ไป๋เสวี่ยเห่า เอียงคอ กะพริบตาโตที่ชุ่มชื้น ดูเหมือนกำลังขบคิดอยู่เมื่อเห็นการแสดงออกที่เหมือนมนุษย์มากขึ้นของไป๋เสวี่ย อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะลูบขนที่นุ่มฟูของมัน“ถ้าเจ้าตามไป กลับมาแล้วจะมีอาหารแห้งและเนื้อไก่ให้กิน น้ำพุวิญญาณก็มีอยู่แล้ว ข้าจะเพิ่มให้เป็นสองเท่าเลย แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะทำงานให้สำเร็จ ช่วยข้าตามหาคนร้าย”ไป๋เสวี่ยไม่สนใจสิ่งอื่นมากนัก แต่เมื่อได้ยินน้ำพุวิญญาณ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 571 ข้าไม่มีวันทิ้งเจ้า

    สิ่งที่อินชิงเสวียนเสนอขึ้นมาสอดคล้องกับความคิดของเย่‍จิ่ง‍อวี้พอดี ตราบใดที่สามารถจับคนเหล่านี้ได้ ต่อให้ต้องทุ่มเทอะไรไปก็คุ้มค่ายามนี้มีผู้สูงอายุเสียชีวิตจำนวนมาก เกิดข่าวลือมากมายและการคาดเดาไปต่างๆ นานา เขาซึ่งอยู่ในฐานะจักรพรรดิ ควรให้คำอธิบายแก่ราษฎรเมื่อได้ยินว่าอินชิงเสวียนกำลังจะใช้เครื่องมือติดตาม เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากแม้ว่าเขาจะมีภูมิคุ้มกันจากสิ่งแปลกๆ พิลึกพิลั่นทุกประเภทที่อินชิงเสวียนนำออกมาแล้วก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ไม่คิดว่า แม่หนูนี่จะมีของที่ดีเช่นนี้“ของสิ่งนี้สามารถผลิตจำนวนมากได้หรือไม่”“ด้วยระดับเทคโนโลยีของเราในปัจจุบันยังยากที่จะผลิตได้เพคะ แต่ถ้าเทคโนโลยีพัฒนาไปถึงระดับหนึ่ง ก็สามารถเป็นไปได้”เย่‍จิ่ง‍อวี้ถามอีกครั้ง “เทคโนโลยีคืออะไร”อินชิงเสวียนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “เทคโนโลยีครอบคลุมหลากหลาย รวมถึงการผลิตพลังงานไฟฟ้า การทำงานของเครื่องจักร ยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่ง กล่าวโดยสรุป ระดับความรู้ความสามารถในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ แต่ถ้าเหล่าบัณฑิตสามารถเรียนรู้คณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ได้เป็นอย่างดี บางทีพวกเขาอาจจะสร้างสิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 572 หัวใจของข้าไม่อร่อย

    “ข้ากำลังถามเจ้าอยู่นะ ตอบมาเร็ว”ผีแคระถามเสียงแข็งกระด้างขึ้นมาอีกลู่ทงยังไม่อยากตาย เขายังอยากเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท เขากลอกตาแล้วพูดว่า “บางทีนางสนมในวังอาจจะแยกแยะได้ง่ายๆ ถ้าพวกเจ้าปลอมตัวเป็นนางกำนัลหรือขันที อาจจะเข้าไปได้”ผีแคระคนหนึ่งด่าทอ “ป้ายตราคำสั่งถูกยึดคืนไปหมดแล้ว เจ้าพูดไร้สาระจะมีประโยชน์อะไร”คนตัวเตี้ยที่ศีรษะล้านเลี่ยนพูดด้วยสำเนียงต้าโจวทื่อๆ “ไม่ต้องพูดไร้สาระกับตาแก่บ้านี่แล้ว ควักหัวใจเขาออกมา ยังสามารถเสริมพลังได้”ลู่ทงพูดขึ้นโดยเร็ว “อย่า อย่า อย่า อย่า ข้าแก่แล้ว หัวใจของข้าไม่อร่อยหรอก เจ้ากินของพวกเขาดีกว่า”ใต้เท้าอีกคนเขาหวาดกลัวเจ้าคนหน้าขาวซีดเหล่านี้จนหมดสติไปแล้ว ตอนนี้กำลังนั่งหน้าม่อยคอตกพิงเสาอยู่ชายร่างเตี้ยที่มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากหัวเราะเหี้ยมเกรียม“เจ้าพูดถูกต้อง หัวใจของคนแก่ไม่อร่อยนักหรอก หัวใจของคนหนุ่มสาวบำรุงได้ดีกว่าอีก แต่การได้กินของพวกเจ้า ก็ช่วยให้ข้าฟื้นกำลังได้บ้าง”หลังจากที่เขาพูดจบก็ย่างสามขุมเข้าไปหาลู่ทง ยื่นมือไปยังทรวงอก ล้วงเข้าไปอย่างแรง แล้วควักหัวใจออกมาลู่ทงไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้อง เขาตายไปทั้งอย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 573 อะบิโกะชินจิ

    เมื่อชายร่างเตี้ยคนอื่นเห็นเพื่อนถูกแทง ก็รีบเข้าไปช่วยเหลือทันที อะบิโกะชินจิก็เดินออกจากห้องเขาฝึกฝนวิชาชั่วร้าย กินหัวใจของคนเพื่อบำรุงกำลัง นอกจากนี้ยังจะหาหัวใจหมูหัวใจสุนัขยัดกลับเข้าไปแทน แล้วเย็บด้วยด้าย หากจะพูดให้สละสลวยก็คือ เพื่อทำให้พวกเขามีอวัยวะครบสมบูรณ์หลังความตายในเวลานี้ เขาได้เติมกำลังด้วยหัวใจของคนสามคนแล้ว ดวงตาเป็นประกายราวกับกระดิ่งทองแดงเจวี๋ยอิ่งรู้ว่าคนผู้นี้ร้ายกาจเพียงใด จึงเอ่ยเตือนทันที“คุณชายใหญ่อินระวังด้วย!”ครั้งที่แล้วองครักษ์เงาหลายคนพ่ายแพ้ให้แก่คนผู้นี้อินสิงอวิ๋นพยักหน้า จากนั้นกระชับกระบี่ แล้วแทงใส่อะบิโกะชินจิทันทีอะบิโกะชินจิหัวเราะลั่น ไม่หลบหลีกแต่อย่างใด ยอมให้กระบี่แทงใส่ร่างเมื่อปลายกระบี่สัมผัสกับหน้าอก กลับเกิดเสียงที่กริ๊งราวกับโลหะกระแทกผนังทองแดงกำแพงเหล็กเหมือนครั้งที่แล้วนัยน์ตาของอินสิงอวิ๋นฉายแววพรั่นพรึง ออกแรงส่งจากปลายเท้าถอยหลังออกไปหลายจั้ง จากนั้น เสียงกรีดร้องดังขึ้นสองครั้ง องครักษ์อีกสองคนถูกกระแทกลงกับพื้น“คนพวกนี้เป็นใคร”อินสิงอวิ๋นขมวดคิ้วถามนับตั้งแต่ที่เขาอาบน้ำที่อินชิงเสวียนนำมา อินสิงอวิ๋น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 574 ธาตุไฟเข้าแทรก

    อินสิงอวิ๋นก็เดินออกจากเรือนหลังนั้นพอดี เขาเหลือบมองจูอวี้เหยียนอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แล้วเดินตามอินจ้งไป“คนพวกนี้มาที่นี่มีจุดประสงค์อะไร”อินจ้งส่ายศีรษะ“พ่อก็ไม่ทราบแน่ชัด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องชาวตงหลิว พวกเขาปรากฏตัวในเมืองหลวง เพราะมีเจตนาร้ายจริงๆ พรุ่งนี้ตอนประชุมเช้าพ่อจะถามฝ่าบาท หวังว่าพวกเขาจะไม่ได้มุ่งเป้าไปที่น้องหญิงใหญ่ของเจ้านะ”จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากไป ชิงเสวียนอยู่ในวังตลอด ก่อนออกเรือนก็อาศัยอยู่แต่ในจวน นางไม่เคยติดต่อกับบุคคลภายนอก ดังนั้นจึงเป็นไม่ได้ที่จะมีความเกี่ยวข้องกับนางความเป็นไปได้มากที่สุดคือ เป็นกำลังคนที่อาซือหลานเรียกมา ครั้นคิดได้ดังนี้ อินจ้งก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังจูอวี้เหยียนไม่รู้ว่าอา‍ซือ‍หลานจะมาตามหานางหรือไม่ หากเขาเข้ามาในเมืองหลวง บางมีอาจสามารถจับตัวปีศาจร้ายที่ขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองแคว้นผู้นี้ได้ในคราวเดียวจูอวี้เหยียนหลับตาลง การได้เห็นฉากสนุกๆ ในวันนี้ทำให้นางมีความหวัง ตราบใดที่เป็นมนุษย์ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ แม้ว่านางจะไม่สามารถฝึกกู่พิษหรือไม่สามารถใช้วรยุทธ์ได้อีก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 575 ข้าชอบเสวียนในตอนนี้

    อินชิงเสวียนตกใจ ทันใดนั้นเองนางก็เหาะถอยหลังกลับไปหลายก้าวนางไม่ได้ใช้ทักษะการเคลื่อนไหวใดๆ และไม่ได้ใช้ความเร็วของมิติ แต่ยังสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมาก ซึ่งการค้นพบนี้ทำให้อินชิงเสวียนตกใจเย่‍จิ่ง‍อวี้รู้สึกตัวในทันที เก็บฝ่ามือทันใด“เสวียน‍เอ๋อร์!”อินชิงเสวียนลงจอดที่พื้น รู้สึกประหลาดใจหรือว่าภายในมิติของนาง นางจะมีอำนาจสามารถควบคุมทุกสิ่งได้?ถ้าเป็นเช่นนั้น นางก็ไร้คู่ต่อสู้น่ะสิ?เนื่องจากเย่‍จิ่ง‍อวี้อยู่ด้วย อินชิงเสวียนจึงไม่สะดวกที่จะทดลอง นางจึงระงับความอยากรู้อยากเห็นไว้ก่อน“ฝ่าบาทเป็นอะไรรึ”เย่‍จิ่ง‍อวี้ลุกขึ้นยืนเขาถามด้วยความเป็นห่วง “เสวียน‍เอ๋อร์ไม่เป็นไรนะ”อินชิงเสวียนยืนมั่นคง ตรวจดูเย่‍จิ่ง‍อวี้แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ฝ่าบาทเป็นอะไรไปเพคะ”คิ้วรูปทรงกระบี่ของเย่‍จิ่ง‍อวี้ขมวดมุ่น“ดูเหมือนข้าจะได้เจอเสด็จแม่แล้ว การตายของเสด็จแม่ อาจมีเงื่อนงำอะไรบางอย่าง”“โอ้? หรือท่านมองเห็นฆาตกรคนอื่น”อินชิงเสวียนถามอย่างพิศวงงงงวยเย่‍จิ่ง‍อวี้เดินไปหาอินชิงเสวียน จับมือของนาง และนั่งบนแท่นหินข้างบ่อน้ำพุวิญญาณ“ในมโนภาพข้ามองเห็นคนชราผู้หนึ่ง พูดให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 576 ล้วนเป็นชื่อเสียงจอมปลอม

    เย่‍จิ่ง‍อวี้ได้ยินเสียงของเจวี๋ยอิ่ง จึงบอกว่า “เข้ามา”ครั้นแล้วชายร่างผอมสูงก็เดินเข้ามาจากประตู หน้าตาไม่นับว่าหล่อเหลา แต่ให้กลิ่นอายเย็นชาราวคมกระบี่ แม้ว่าจะดูธรรมดา แต่ก็ไม่อาจมองข้ามได้คนผู้นี้ฝีเท้าเบากริบ เดินแทบไม่มีเสียง จุดไท่หยางที่อยู่บริเวณขมับโปนเล็กน้อย ดูแววตาเฉียบคมชัดเจน มีกลิ่นอายของยอดฝีมือชั้นสูงเขามองไปที่อินชิงเสวียน แล้วคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ถวายพระพรกุ้ยเฟย”“ลุกขึ้นเถิด จับตัวได้แล้วหรือ”เย่‍จิ่ง‍อวี้หุบยิ้ม นั่งบนเก้าอี้ไม้แดงด้วยท่าทางสง่างาม ใบหน้าอันหล่อเหลาเย็นชาและเคร่งขรึม การวางท่าน่าครั่นคร้ามเมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะพูดคุยธุระ อินชิงเสวียนก็ถอยออกไปอย่างรู้สถานการณ์จู่ๆ คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นด้วยความเคารพ กระซิบ “กระหม่อมไร้สามารถ ที่จับชายตงหลิวได้เพียงคนเดียว เพราะโชคดีที่ได้แม่ทัพอินและคุณชายใหญ่อินช่วยเหลือ แต่ถึงกระนั้น คนอื่นๆ ก็ยังหนีไปได้ กระหม่อมเห็นว่าสูญเสียทหารองครักษ์ไปมาก จึงสั่งให้ถอยไป”เย่‍จิ่ง‍อวี้โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วถามว่า “ครั้งนี้มีสูญเสียไปกี่คน”เจวี๋ยอิ่งกล่าวอย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 577 แค่เดินสวนทาง

    หวังซุ่นพยักหน้าอย่างตื่นเต้น“กุ้ยเฟยโปรดวางใจ ข้าน้อยจะส่งข้อความนี้ไปถึงแน่นอน รับรองว่าจะไม่ให้พวกเขามาสร้างปัญหาให้กับกุ้ยเฟยอีก”“ดีแล้ว”อินชิงเสวียนโบกมือไปทางผู้คุมคุกหลวง“ปลดโซ่ตรวนออกให้เขา”ผู้คุมก้าวไปข้างหน้า ถอดโซ่เหล็กออกจากร่างของหวังซุ่นหวังซุ่นสะบัดข้อมือไปมา รู้สึกเหมือนได้เห็นแสงสว่างอีกครั้งอินชิงเสวียนเรียกองครักษ์อีกคนหนึ่งให้พาหวังซุ่นออกจากวัง ขณะที่เจวี๋ยอิ่งได้ติดตามเขาไปในความมืดพร้อมกับองครักษ์เงาชายหญิงจำนวนหนึ่งสิบห้านาทีต่อมา หวังซุ่นก็มาถึงถนนสายยาวเขาหยุดอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สั่งเนื้อวัวราดซีอิ๊วและสุราชั้นดีหนึ่งเหยือก แล้วกินอย่างเต็มที่ระหว่างกินข้าวก็คิดตลอดเวลาหวังซุ่นเป็นคนฉลาดมาก ต่างจากคนตงหลิวที่มีความคิดไม่ซับซ้อนพวกนั้น เขาไม่แม้แต่จะคิดหลบหนีเลยเขารู้ดีว่าในเมื่ออินชิงเสวียนกล้าที่จะปล่อยเขาออกจากวัง ย่อมต้องมีแผนรับมืออย่างแน่นอนหากหนีไม่พ้น ถูกจับได้อีก ก็ไม่ได้กินสุราอาหารชั้นดีเช่นนี้อีกแล้วดังนั้นเขาจึงต้องช่วยอินชิงเสวียนทำงานนี้ให้สำเร็จ จากนั้นดูว่านางมีท่าทีอย่างไรต่อเขาตอนนี้อาซือหลานได้กลับเจียงวูแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-10

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status