หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 527 ฝ่าบาทกับพระสนมคืนดีกันแล้ว

แชร์

บทที่ 527 ฝ่าบาทกับพระสนมคืนดีกันแล้ว

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
อินชิงเสวียนกินเนื้อเสียบไม้ย่างหอมๆ และดื่มชามะลิที่นางชื่นชอบ

จูอวี้เหยียนหิวมากจนท้องร้องโครกคราก เมื่อเห็นอินชิงเสวียนเพลิดเพลินกับอาหาร ก็แทบตบะแตก

ชั่วพริบตาก็ถึงยามดึกแล้ว

อินชิงเสวียนเห็นใจที่หมัวมัวเฒ่าอายุจนปูนนี้แล้ว จึงเปลี่ยนคนมาแทน

จูอวี้เหยียนเดินจนปวดขา ง่วงก็ง่วง หมัวมัวเฒ่าถือไม้บรรทัด แล้วชี้ไปที่เอวของนาง

“ตั้งใจหน่อย”

จูอวี้เหยียนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองนางด้วยสายตาดุร้าย

บนเก้าอี้ตัวยาว อินชิงเสวียนเลิกคิ้วขึ้น

“ไม่ยอมหรือ”

จูอวี้เหยียนกัดริมฝีปาก กลืนคำพูดลงไป

เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีขาวมุก

อินชิงเสวียนหาว เปลี่ยนอิริยาบถ แล้วพูดว่า “วันนี้พอเท่านี้เถอะ นายหญิงเหยียน เจ้ากลับไปได้แล้ว”

ดวงตาของจูอวี้เหยียนกลายเป็นสีแดง เลือดเกือบจะพุ่งออกมา

นางโค้งคำนับอย่างไม่เต็มใจ แล้วออกจากตำหนักจินหวู

อินชิงเสวียนให้หมัวมัวเฒ่ากลับไปพักผ่อน จากนั้นนางก็เข้าไปในมิติ

หลังจากแช่น้ำพุวิญญาณแล้ว ก็รู้สึกสดชื่น ความเหนื่อยล้าที่อดนอนทั้งคืนก็หายไป

นางตรวจสอบเวลา แล้วอุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงออกจากวัง

หลังจากที่เมื่อวานทรมานจูอวี้เหยียนมาทั้งคืน อาจทำให้หม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 528 พวกเจ้าทั้งครอบครัวต้องไม่ตายดี

    จูอวี้เหยียนแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “เจ้าคงรู้วิธีการของข้า ถ้าขืนเจ้ากล้าทรยศ ข้าจะทำให้เจ้าร้องขอความตายก็ไม่ได้ ขอมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้”ฟางรั่วก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “บ่าวไม่กล้า”จูอวี้เหยียนเหลือบมองนางแล้วพูดว่า “กลับไปซะ แล้วเรียกชิงจู๋กับฉุยหลิ่วเข้ามา”หลังจากนั้นไม่นาน สาวใช้สองคนก็เดินเข้ามาจากประตู โค้งคำนับอย่างนอบน้อม“บ่าวน้อมคำนับราชครู”จูอวี้เหยียนก้าวออกมา พูดอย่างเย็นชา “ตามข้าไปที่ตำหนักจินหวู”นางกระตุ้นกู่ตลอดทาง เมื่อกู่แม่ถูกเพรียกหา มันเริ่มเคลื่อนไหวอีกเพราะได้ดื่มเลือดหัวใจของจูอวี้เหยียน ทำให้วันนี้กู่แม่รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเมื่อก่อนจูอวี้เหยียนกระตุกมุมปากขึ้น นางอยากเห็นว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้จะทนได้นานแค่ไหนในตำหนัก อินชิงเสวียนกำลังดื่มชาพลางสนทนากับเย่‍จิ่ง‍อวี้เย่‍จิ่ง‍อวี้สวมเสื้อคลุมสีดำที่ดูสงบและสง่างาม ชายเสื้อและปกเสื้อปักด้วยด้ายสีทอง ยิ่งดูสูงส่งอินชิงเสวียนสวมกระโปรงคาดอกสีเหลืองอมส้ม สีวิจิตรงดงามรับกับใบหน้างดงามหยาดเยิ้มของนางได้เป็นอย่างดี ดุจเกสรแรกเกิด ที่สีสันสดสวยแพรวพรายทั้งสองคนหญิงงามหนุ่มหล่อนั่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 529 เจ้าทรมานนางหรือไม่

    อินจ้งพูดโดยเร็ว “กระหม่อมเห็นฝ่าบาทไม่มาประชุมเช้าวันนี้ นึกเป็นห่วง จึงมาเยี่ยมพ่ะย่ะค่ะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดอย่างอบอุ่น “แม่ทัพอินมีน้ำใจแล้ว เมื่อวานข้าดื่มสุรากับเสด็จอา ดื่มมากโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้รู้สึกสบายดีแล้ว”อินจ้งกล่าวว่า “ดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินมาว่าฝ่าบาทไม่เคยได้พักผ่อนเลยแม้แต่วันเดียวนับตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ โปรดรักษาสุขภาพด้วย”“ขอบคุณท่านขุนนางที่เป็นห่วง เข้ามาคุยกันเถอะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้เดินเข้าไปในห้องหนังสือ แต่อินจ้งมองไปที่อินชิงเสวียน เหมือนลังเลที่จะพูดบางอย่างอินชิงเสวียนถามทันที “ท่านพ่อมีอะไรก็พูดมาเถิด เกิดเรื่องขึ้นกับพี่ใหญ่หรือเจ้าคะ”อินจ้งพูดด้วยสีหน้ากังวล “พี่ใหญ่เจ้ายังเหมือนเดิม สลบไสลทั้งวัน โชคดีที่เขาไม่กระอักเลือดแล้ว พ่อให้เขากินยาหลายขนาน แต่ก็ยังไม่มีผลอะไร เกรงว่าใครเป็นคนก่อต้องเป็นคนแก้”อินชิงเสวียนปลอบใจเบาๆ “ท่านพ่อไม่ต้องกังวลไป จูอวี้เหยียนถูกฝ่าบาทจับตัวไว้แล้ว อีกไม่กี่วันลูกจะทำให้นางนำยาถอนพิษออกมา”เมื่อเขาได้ยินว่าจูอวี้เหยียนถูกจับ สีหน้าของอินจ้งก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย“เจ้า...เจ้าทรมานนางหรือไม่”อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว“เหตุ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 530 ตกตะลึงพรึงเพริด

    อินชิงเสวียนตกตะลึง ดวงตาเบิกโพลงพอเปิดมิติดู ก็เห็นเย่‍จิ่ง‍อวี้นอนอยู่ในมิติแล้วจริงๆทำไมเขาถึงสามารถเข้าสู่มิติได้หรือว่าทุกคนก็สามารถเข้ามาอยู่ในมิติของนางได้อย่างนั้นหรือถ้าเป็นเช่นนั้น ก็สุดยอดแล้วน่ะสิ!เมื่อใดก็ตามที่นางต้องการโจมตีที่แห่งใด ก็สามารถยกกองทหารทั้งหมดเข้าไปในมิติ แล้วนางก็เดินทางไปคนเดียว ไม่เพียงแต่สามารถประหยัดเสบียงอาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถประหยัดแรงได้อีกด้วยอินชิงเสวียนค่อนข้างตื่นเต้น นางมาที่ประตู แล้วคว้าข้อมือของอวิ๋นฉ่ายอวิ๋นฉ่ายมองไปที่อินชิงเสวียนด้วยสีหน้ามึนงง“พระสนม เป็นอะไรไปเพคะ”อินชิงเสวียนไม่ได้พูดอะไร แต่ใช้ความคิดเพื่อจะพาอวิ๋นฉ่ายเข้าไปในมิติทว่า ยังได้รับคำเตือนจากระบบอยู่ว่า บุคคลภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในมิติ!แต่ทำไมเย่‍จิ่ง‍อวี้ถึงถูกตัดสินว่าเป็นตัวเองหรือว่า...เพราะเคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตัวเอง?อินชิงเสวียนคิดอยู่นานก็ไม่ได้คำตอบ นางจึงต้องปล่อยผ่านไปเช่นนี้“ไม่มีอะไร ไปทำงานของเจ้าเถอะ”อินชิงเสวียนปล่อยอวิ๋นฉ่าย ในเมื่อใส่เย่‍จิ่ง‍อวี้เข้าในมิติได้ จึงไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้วแม้ว่าการจี้สกัดจุ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 531 มโนภาพ

    “ตอนนี้ขอพูดสักเรื่องหนึ่ง”อินชิงเสวียนเหลือบมองนางอย่างเยือกเย็น เดินไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพูดว่า “ข้ามีความสนใจเรื่องพิษกู่ ขอเพียงเจ้าสอนวิธีการใช้และวิธีการแก้กู่เสน่หาให้ข้า ใบหน้าของเจ้าก็จะถูกรักษาไว้ได้”จูอวี้เหยียนทำเสียงฮึดฮัดแล้วพูดว่า “ฝันไปเสียเถอะ พิษกู่ต้องเลี้ยงด้วยเลือดบริสุทธิ์ จะเรียนรู้ภายในเวลาสั้นๆ ได้อย่างไรกัน”อินชิงเสวียนพูดว่า “สามารถเรียนได้หรือไม่เป็นเรื่องของข้า ส่วนเจ้าจะสอนหรือไม่?”“ต่อให้ข้ายินยอมจะสอนท่าน ท่านก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้”จูอวี้เหยียนไม่ได้พูดโกหก หากสามารถฝึกฝนหนอนกู่ได้ง่ายดายขนาดนั้นจริงๆ นางคงฝึกนับร้อยนับพันตัว ควบคุมให้ฮ่องเต้และขุนนางต่างก็เชื่อฟังนางทุกคน ไม่จำเป็นต้องเปลืองเรี่ยวแรงเช่นนี้“ในเมื่อเจ้าไม่ยินยอม ทหาร ขูดหน้านางต่อไป”ผู้คุมเรือนจำเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามืดครึ้มน่าสะพรึงกลัวในทันทีจูอวี้เหยียนหดคอกลับโดยไม่รู้ตัว สีหน้าซีดอย่างรวดเร็วแม้นางไม่เคยรักใครด้วยใจจริง แต่ก็เพลิดเพลินกับการที่ถูกผู้ชายไล่ตาม หากไร้ซึ่งใบหน้านี้ นางก็คงไม่เหลืออะไรแล้ว“อย่า ไม่เอานะ อินชิงเสวียน ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากสอนท่าน แต่สิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 532 ความหวังที่ริบหรี่

    อินชิงเสวียนออกมาจากมิติแล้วเดิมทีคิดว่าแผนการของตัวเองจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาด แต่ความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า นางคิดง่ายเกินไปทว่าทั้งหมดกลับไม่ได้เสียเปล่า เมื่อรู้ว่าคนของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์สามารถช่วยอินสิงอวิ๋นได้ ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างเต็มเปี่ยมอีกทั้งยังทำให้นางรู้ถึงความสัมพันธ์ของกู่แม่และกู่ลูก ดังนั้นจึงคิดวิธีอื่นได้แล้วภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จูอวี้เหยียนไม่น่าจะพูดโกหกแต่ผู้อาวุโสที่ชิงเอาพิณไปได้บอกไว้ว่า นางจะไม่กลับมาที่เมืองหลวงอีก เย่จิ่งอวี้ส่งกำลังคนออกไปตามหาจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เลย เกรงว่าเส้นทางนี้จะล้มเหลวทันใดนั้น อินชิงเสวียนก็นึกถึงบทเพลงใจหินผาที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา ไม่รู้ว่าจะทดลองได้หรือไม่หากสามารถช่วยอินสิงอวิ๋นได้จริงๆ ก็อาจทดลองกับเย่จิ่งอวี้ได้เช่นกันเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกถึงความหวังที่ริบหรี่อีกครั้งนางรีบเดินมาที่ห้องหนังสือ อินจ้งก็เดินออกมาจากในห้องพอดี เมื่อเห็นอินชิงเสวียน สีหน้าและสายตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย“พระนางกุ้ยเฟย”“ท่านพ่อไม่ต้องมาพิธี ข้าจะออกจากวังไปเยี่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 533 ราษฎรผู้ต่ำต้อยจังอวี้จิ่น

    อินชิงเสวียนบรรเลงเพลงพิณต่อหน้าคนนอกเป็นครั้งแรก นางจึงรู้สึกไม่มั่นใจทักษะการเล่นพิณของนางยังไม่ชำนาญมากพอ อีกทั้งพิณตัวนี้ก็ไม่ใช่พิณการเวก จึงไม่แน่ใจว่าจะบรรเลงได้ผลดีหรือไม่ตอนนี้ทำได้เพียงลองพยายามอย่างเต็มที่เท่านั้น เพื่อเพิ่มพลังในการบรรเลงพิณ อินชิงเสวียนจึงแลกทักษะห้าสิบห้าสิบ ซึ่งเป็นทักษะการเลียนแบบอีกฝ่ายมาจากในมิติ เมื่อพลังไม่มากพอก็จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสียงพิณดุจสายน้ำ ไหลออกมาอย่างเชื่องช้า จิตใจของอินชิงเสวียนก็ค่อยๆ สงบลง และใช้สมาธิทั้งหมดในการบรรเลงพิณอากาศที่มองไม่เห็นแผ่ออกมาจากเสียงพิณ คล้ายระลอกคลื่นที่ซัดกระเพื่อมเป็นชั้นๆ คลื่นเสียงสัมผัสร่างของอินสิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว และหายเข้าไปในร่างของเขาทันที ราวกับว่ามันพบทางระบายอินชิงเสวียนมองไม่เห็นระลอกคลื่นเสียงนั้น สมาธิของนางยังคงจดจ่ออยู่ที่ใจหินผา หลังจากนั้นไม่นาน ใจหินผาก็บรรเลงได้ช่ำชองมากขึ้น จังหวะของบทเพลงก็ยิ่งสงบมากขึ้นเรื่อยๆอินปู้อวี่รู้ว่าน้องใหญ่กลับมาแล้ว จึงรีบเข้ามาพบในทันที เมื่อได้ยินเสียงเพลงก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แวบผ่านเข้ามา เขาคุกเข่าหนึ่งข้างลงที่พื้นและหลับตาตั

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 534 ขอร้องใครก็ต้องหยิบยื่นความจริงใจออกมา

    อินชิงเสวียนพลิกตัวลงจากหลังม้า และพยุงจังอวี้จิ่นขึ้นมา“แม่นางไม่ต้องมากพิธี ต่อไปก็ทำการค้าขายอย่างระวังด้วย อย่าให้ชายหนุ่มที่มีความประพฤติเลวทรามเหล่านี้เข้ามาวุ่นวายได้”จังอวี้จิ่นกลับไม่ยอมลุกขึ้น แต่คำนับต่ออินชิงเสวียน พร้อมพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ในเมื่อคุณชายช่วยผู้ต่ำต้อยเอาไว้ ผู้ต่ำต้อยก็ควรตอบแทนบุญคุณตลอดจนวันตาย คุณชายได้โปรดรับผู้ต่ำต้อยไปด้วย ผู้ต่ำต้อยยอมรับใช้คุณชายไปตลอดชีวิต”จังอวี้จิ่นเติบโตขึ้นในหมู่บ้านชาวประมง นางไม่เคยได้รับการศึกษา เพียงแต่เคยได้ยินพ่อสอนว่าต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณเดิมทีนางต้องการตอบแทนผู้ที่ช่วยชีวิตนางไว้ แต่คนเหล่านั้นต่างปกปิดใบหน้า จากนั้นก็ทิ้งเงินให้นางแล้วหายตัวไปทั้งหมด จังอวี้จิ่นใช้เงินเหล่านั้นในการทำมาค้าขาย เป้าหมายก็เพื่อตามหาพวกเขาเพียงแต่นางไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของผู้คนเหล่านั้น จึงไม่รู้ว่าควรเริ่มตามหาจากที่ใด ตอนนี้นางถูกคุณชายท่านนี้ช่วยไว้อีกครั้ง ในใจจึงคิดอยากตอบแทนบุญคุณ วิธีเดียวที่นางคิดได้คือการเป็นบ่าวรับใช้อินชิงเสวียนใช้แรงมากขึ้น เพื่อพยุงจังอวี้จิ่นให้ลุกขึ้น“แม่นาง ไม่ต้องคิดมากไป การช่วยเหลือเจ้าเป็น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 535 สัญญาณเตือน

    อินจ้งยังคงอยู่ในห้อง เมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนเชิญฝูอี้อ๋องมาจริงๆ จึงรีบคุกเข่าลงทำความเคารพ“กระหม่อมอินจ้งขอถวายบังคมฝูอี้อ๋อง”เย่จิ่งหลานเอามือเล็กไพล่หลัง และแสดงท่าทางของท่านอ๋องพร้อมพูดขึ้นเบาๆ “ลุกขึ้นเถิด แม่ทัพอินไม่ต้องมากพิธี”อินจ้งลุกขึ้นมือ ประสานมือคำนับแล้วพูดว่า “ขอบพระทัยท่านอ๋อง ลูกสาวข้าบอกว่าท่านอ๋องมีวิชาการแพทย์เป็นเลิศ ท่านอ๋องได้โปรดตรวจดูอาการให้ลูกชายข้าด้วย ตอนนี้เขามีอาการเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่จิ่งหลานตอบรับและพูดว่า “พวกเจ้าออกไปข้างนอกเถอะ เหลือเพียงพระนางกุ้ยเฟยอยู่ที่นี่ก็พอ”อินจ้งรีบมองไปที่อินชิงเสวียนทันที เมื่อเห็นลูกสาวพยักหน้า จึงพาอินปู้อวี่ออกไปจากห้องอินจื่อลั่วมาถึงในบ้านพอดี เมื่อได้ยินว่าพี่สาวกลับมาแล้ว จึงรีบนึกถึงของขวัญของตัวเอง รีบไปหยิบเสื้อคลุมขนกระต่ายให้กับเสี่ยวหนานเฟิง และวิ่งออกมาด้วยความดีใจอินจ้งขวางนางเอาไว้“ท่านพี่ของเจ้าเชิญผู้สูงส่งมาตรวจท่านพี่ใหญ่ของเจ้า อย่าเพิ่งเข้าไป”อินจื่อลั่วตอบรับ และยืนอีกด้านอย่างเชื่อฟังด้านในห้องอินสิงอวิ๋นนอนหลับไปแล้วเขาไม่ได้กินอาหารหลายวัน และมีชีวิตอยู่ได้ด้วยน้ำพุวิ

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

DMCA.com Protection Status