หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 519 คำสั่งเสียของซูฉ่ายเวย

แชร์

บทที่ 519 คำสั่งเสียของซูฉ่ายเวย

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เช่นนั้นก็ดีเลย หากราชครูต้องการใช้ฟางรั่ว ก็เอ่ยปากได้เลย”

ฟางรั่วพูดจบ แล้วถามหยั่งเชิงว่า “ฟางรั่วไม่เข้าใจเรื่องหนึ่งมาโดยตลอด หากราชครู...เป็นอะไรไป นอนกู่ที่อยู่ในตัวผู้ที่ถูกเสกกู่ใส่จะออกมาเองหรือไม่”

จูอวี้เหยียนเงยหน้าขึ้นทันที ถามด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าถามทำไม”

ฟางรั่วใจเต้นไม่เป็นส่ำ ก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ

“ฟางรั่วแค่อยากรู้อยากเห็น ไม่มีความหมายอื่นใด”

จูอวี้เหยียนพูดด้วยรอยยิ้มเยาะ “ทางที่ดีจงขจัดความอยากรู้อยากเห็นของเจ้าซะ ข้าช่วยเจ้าได้ ข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้เช่นกัน”

ฟางรั่วรีบลนลานคุกเข่าลงบนพื้น

“บ่าวสำนึกผิดแล้ว บ่าวจะออกไปเดี๋ยวนี้”

“ช้าก่อน”

จูอวี้เหยียนเรียกนางไว้ แล้วโยนถุงกระดาษใบเล็กให้ฟางรั่ว

“สตรีที่ชื่อซูฉ่ายเวยนั่น ขัดหูขัดตาข้า เจ้าไปจัดการนางซะ”

“เจ้าค่ะ ฟางรั่วจะไปเดี๋ยวนี้”

ฟางรั่วรับห่อยาและออกจากหอซีอวิ๋น

ในเวลาเดียวกัน อินชิงเสวียนก็มายังคุกหลวง

“พาข้าไปพบหวังซุ่น”

“พ่ะย่ะค่ะ พระสนม”

ผู้คุมไม่กล้าพูดอะไรมาก กุลีกุจอพาอินชิงเสวียนไปที่ห้องขังชั้นในสุด

แล้วก็เห็นร่างอัปลักษณ์ที่สกปรกคนหนึ่งพิงหญ้าคาอยู่ นั่งไขว้ขา มีหญ้าแห้งคาบอยู่ในป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 520 เกลียดเข้ากระดูก

    อินชิงเสวียนถามย้ำอีกครั้ง “เจ้าแน่ใจหรือ”หมอหลวงหนุ่มเช็ดเหงื่อแล้วพูดว่า “กระหม่อมแน่ใจ”“งั้นก็ไปเขียนใบสั่งยา”“พ่ะย่ะค่ะ”เนื่องจากถูกวางยาพิษ จึงจัดการได้ง่ายอินชิงเสวียนตักน้ำพุวิญญาณมาอีกแก้ว แล้วบังคับให้ซูฉ่ายเวยดื่ม“น้ำนี้สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ รีบดื่มเร็ว ข้ามีอะไรให้ทำมากมาย ไม่มีเวลาช่วยเจ้าดูแลครอบครัวหรอกนะ”บางทีความปรารถนาที่จะเอาชีวิตรอดที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับซูฉ่ายเวย หรือไม่ก็เป็นเพราะความเป็นห่วงครอบครัว ทำให้นางอ้าปาก ดื่มน้ำอึกๆ จนสำลักออกมาเซียงหลานและนางกำนัลหลายคนยืนอยู่ข้างๆ ไม่กล้าปริปากพูดประมาณสิบห้านาทีต่อมา ซูฉ่ายเวยลืมตาขึ้น ใบหน้าซีดเซียวก็เริ่มมีสันขึ้นหมอหลวงหนุ่มก็ถือยากลับมาพอดี อินชิงเสวียนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “เจ้าช่วยตรวจชีพจรให้พระสนมอีกครั้ง ดูว่าตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง”หมอหลวงหนุ่มคุกเข่าลงอีก ซึ่งเมื่อตรวจดูแล้วก็ไม่วายประหลาดใจ“แปลกมาก พิษของพระสนม...ดูเหมือนจะถูกถอนออกไปแล้ว”อินชิงเสวียนถามว่า “จริงหรือ”หมอหลวงหนุ่มพยักหน้าแล้วพูดว่า “จริงพ่ะย่ะค่ะ ชีพจรของพระสนมเต้นสงบ ไม่มีสัญญาณว่าถูกวางยาพิษ”“ดี เจ้ากลับไปเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 521 เสียการควบคุม

    ใบหน้าของจูอวี้เหยียนมืดมน สาวใช้ทุกคนถอยออกไปอย่างรู้สถานการณ์นางเดินกลับไปกลับมา แววตาเหี้ยมเกรียม จากนั้นไปนั่งขัดสมาธิบนเตียงในเมื่อจิตใจของเย่‍จิ่ง‍อวี้แน่วแน่ถึงเพียงนี้ จึงต้องใช้ท่าไม้ตายแล้วนางรวบรวมสมาธิ กระตุ้นเลือดหัวใจออกมาความเจ็บปวดที่กัดกินหัวใจ ทำให้ใบหน้าของจูอวี้เหยียนบิดเบี้ยวด้วยความร้าวราน นางคำรามเบาๆ และมีเหงื่อชั้นบางๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากทันทีกู่แม่ที่ในร่างกายสัมผัสได้ถึงเลือดหัวใจ จู่ๆ ก็เกิดความโกลาหล จูอวี้เหยียนถือโอกาสกระตุ้นกู่เสน่หา หนอนกู่ตื่นเต้นในฉับพลัน มันเพรียกหากู่ลูกที่อยู่ในร่างของเย่‍จิ่ง‍อวี้ให้ตื่นขึ้นเย่‍จิ่ง‍อวี้กำลังตรวจฎีกาในห้องหนังสือ จู่ๆ จิตใจก็กระสับกระส่ายหลังจากตวัดพู่กันเพียงไม่กี่หน เขาก็รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ วางพู่กันลงอย่างทนไม่ได้หลี่เต๋อฝูรีบเข้ามาหาแล้วถามว่า “ฝ่าบาท พระองค์ทรงเหนื่อยแล้วกระมัง”หลายวันมานี้เย่‍จิ่ง‍อวี้ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า อารมณ์ไม่มั่นคง ซึ่งทำให้หลี่เต๋อฝูและคนอื่นๆ ต่างอกสั่นขวัญแขวน จะทำหรือพูดอะไรต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมากเย่‍จิ่ง‍อวี้ยืนขึ้นอย่างหงุดหงิด“วันนี้ไม่ตรวจแ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 522 ต่างก็เกิดเป็นคนครั้งแรก

    แววตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย เรียวตาหงส์กระจ่างชัดขึ้นหลายส่วนจูอวี้เหยียนกระตุ้นหนอนกู่อีกครั้ง ครั้oแล้วเสียงหวานที่มีเสน่ห์ก็น่าหลงใหลมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อประกอบกับรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นของนาง และอากัปกิริยาก็ยิ่งน่าวาบหวามใจ เย่‍จิ่ง‍อวี้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จึงหันกลับมาถาม “เจ้าอยากให้ข้าทำอย่างไร”จูอวี้เหยียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “กุ้ยเฟยมีสถานะสูงส่ง เหยียนหงย่อมไม่กล้าให้ฝ่าบาทลงโทษพระสนมอยู่แล้ว ได้ยินมาว่าในวังหลวงมีหอสวดมนต์ เหตุใดฝ่าบาทไม่ให้กุ้ยเฟยไปสวดมนต์สิบวัน เพื่อจะได้สงบสติอารมณ์”นางรู้ว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่ออินชิงเสวียน การที่จะทำให้เขาส่งอินชิงเสวียนเข้าวังเย็น หรือประหารชีวิตนาง ต้องค่อยเป็นค่อยไปรอจนกระทั่งเย่‍จิ่ง‍อวี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนางโดยสมบูรณ์เท่านั้น จึงจะสามารถทำทุกอย่างที่นางต้องการได้เย่‍จิ่ง‍อวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ให้สงบสติอารมณ์สักพักหนึ่งก็ดี หลี่เต๋อฝู เจ้าไปถ่ายทอดคำสั่งให้กุ้ยเฟยอยู่ในหอสวดมนต์เป็นเวลาสิบวัน เหยียนหง เจ้าก็ออกไปได้แล้ว”จูอวี้เหยียนก็รู้จักการรามือเมื่อได้สิ่งที่พอใจ นางโค้งคำนับพ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 523 บดขยี้

    จูอวี้เหยียนลุกขึ้นนั่งทันที ซึ่งอินชิงเสวียนได้เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นชาเมื่อเห็นว่าเป็นนาง จูอวี้เหยียนก็แค่นเสียงหึ“ดึกขนาดนี้ กุ้ยเฟยยังไม่ไปสงบจิตใจที่หอสวดมนต์อีก มาที่นี่ทำไม”อินชิงเสวียนใช้ความเร็วมิติ แล้วร่างของนางก็หายวับมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าของจูอวี้เหยียนปานอสุนีบาตก่อนที่จูอวี้เหยียนจะทันได้โต้ตอบ คอของนางก็ถูกบีบนิ้วเรียวยาวเหล่านั้นเย็นเฉียบ อันทำให้รู้สึกพรั่นพรึง จูอวี้เหยียนสะบัดฝ่ามือทันที เมื่อเห็นว่าอินชิงเสวียนไม่ได้นำผู้ติดตามมาด้วย นางจึงไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำอีก หากนางสามารถจัดการกับนังแพศยานี้ได้เดี๋ยวนี้ ก็นับว่าเป็นกำไรที่ไม่คาดคิดอินชิงเสวียนหลบหลีก แล้วซัดฝ่ามือใส่นางอ่างรวดเร็วราวกับภูตผีพลังอันท่วมท้นทำให้ตะแกรงหน้าต่างสั่นสะเทือน จูอวี้เหยียนอดไม่ได้ที่จะตกใจกลัวนังหญิงแพศยาผู้นี้มีทักษะวรยุทธ์ดีขนาดนี้ได้อย่างไรนางกลิ้งหลบฝ่ามือของอินชิงเสวียน ทำให้ฝ่ามือก็ซัดออกนั้นได้กระแทกเก้าอี้ตัวยาวทันที ได้ยินเสียงเพล้งอย่างชัดเจน เก้าอี้ตัวยาวก็ถูกซัดจนแตกกระจายหัวใจของจูอวี้เหยียนเต้นรัว หากอินชิงเสวียนมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ นางก็ไม่ใช่ค

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 524 ออกจากวัง

    เป็นเวลาสิบห้านาทีเต็มๆ จูอวี้เหยียนถึงลุกจากพื้นได้นางเคยได้ยินอาซือหลานบอกว่าอินชิงเสวียนเป็นวรยุทธ์ แต่ไม่คาดคิดว่าวรยุทธ์ของนางจะสูงส่งเพียงนี้ และวิชาฝ่ามือที่นางใช้ ความจริงก็คือฝ่ามือเสียงวายุของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์จูอวี้เหยียนเคยได้ยินอาจารย์บอกว่า หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เป็นสำนักที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องดนตรี แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถใช้เครื่องดนตรีได้ ซึ่งวิชาฝ่ามือที่มีชื่อเสียงที่สุดคือฝ่ามือเสียงวายุ ที่สร้างขึ้นโดยเจ้าสำนักของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ตอนที่นางเข้าสู่สำนักห้ากู่ ก็เห็นอาจารย์ของนางต่อสู้กับคนจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ วิชาฝ่ามือนั้นนุ่มนวลทว่าแข็งแกร่ง แข็งแกร่งแต่อ่อนโยน ยามที่ใช้วิชานั้นลมพายุจะผสานจนเป็นเสียงดนตรีบรรเลง อาจารย์ของจูอวี้เหยียนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากศิษย์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ในการต่อสู้ครั้งนั้น และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ดังนั้นจูอวี้เหยียนจึงจดจำวิชาฝ่ามือนี้ได้ขึ้นใจแต่เห็นได้ชัดว่าอินชิงเสวียนไม่ได้ฝึกฝนจนถึงระดับการเปลี่ยนเสียงสายลมได้ แต่ถึงนางจะรู้วิชาเพียงผิวเผิน ถึงกระนั้นก็ทำให้อวัยวะภายในของนางสะเทือนได้ ซึ่งแสดงให้เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 525 พวกเจ้าจะกบฏรึ

    “เสวียน‍เอ๋อร์ เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร”เย่‍จิ่ง‍อวี้ตกใจขณะที่เขากำลังพูด ทักษะวรยุทธ์ยังคงคล่องแคล่ว เขาตีลังกากลับหลังกระโดดขึ้นจากเก้าอี้ตัวยาว อินชิงเสวียนซัดฝ่าโดนอากาศ จึงซัดฝ่ามือใส่อีกครั้งเย่‍จิ่ง‍อวี้พูดด้วยความโกรธ “บังอาจ เจ้าเป็นใคร ทำไมเจ้าถึงหลอมตัวเป็นเสวียน‍เอ๋อร์”อินชิงเสวียนพูดอย่างสงบ “หม่อมฉันไม่ใช่คนปลอมตัว หม่อมฉันคืออินชิงเสวียนตัวจริง เพื่อพระวรกายของฝ่าบาท โปรดให้ความร่วมมือด้วย”เย่‍จิ่ง‍อวี้ขมวดคิ้วและพูดว่า “เหลวไหล ร่างกายของข้าไม่เป็นอะไร ในเมื่อเจ้าคือตัวจริง ก็รีบหยุดซะ”ก่อนที่เขาจะพูดจบ เย่จั้นก็เดินเข้ามาจากประตู“ฝ่าบาท ล่วงเกินแล้ว”เขางอนิ้ว และคว้ากระดูกไหปลาร้าของเย่‍จิ่ง‍อวี้ไว้เย่‍จิ่ง‍อวี้สับสนงุนงงไปหมดสองคนนี้ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด แต่ตอนนี้กลับกำลังร่วมมือกันสู้กับเขา เรียวตาหงส์ฉายแววเกรี้ยวกราดเป็นประกายวาวโรจน์ นัยน์ตาเย็นเฉียบ“เสด็จอา ท่านก็บ้าเหมือนกันหรือ”การโจมตีของอินชิงเสวียนยังไม่หยุด และวิชาฝ่ามือของนางก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ“เป็นฝ่าบาทที่บ้าไปแล้ว เรากำลังช่วยชีวิตท่านอยู่ บางขั้นตอนอาจจะเจ็บปวดเล็กน้อย แต่หม่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 526 จูอวี้เหยียนยอมรับชะตากรรมซะ

    แต่ไม่ว่าจูอวี้เหยียนจะเกลียดนางมากเพียงใด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ตำแหน่งใหญ่กว่าหนึ่งขั้นยังฆ่าคนได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอินชิงเสวียนอยู่ในฐานะที่สูงกว่านางหลายขั้น ในเมื่อเลือกที่จะเข้าวัง ก็ทำได้เพียงอดทนเท่านั้น“ได้ ข้าจะไปกับพวกเจ้า หากพวกเจ้ากล้าใช้เครื่องมือทรมาน ข้าจะรายงานต่อฝ่าบาทอย่างดีเชียว”เสี่ยวอานจื่อขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจนาง แล้วจึงพาองครักษ์กลับไปรายงานจูอวี้เหยียนตามมาข้างหลัง คิดในใจว่าถ้าอินชิงเสวียนทรมานนางอีก นางจะทำอย่างไรดีอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจูอวี้เหยียนจะคิดมากเกินไป อินชิงเสวียนให้หมัวมัวเฒ่ามาสอนกฎเกณฑ์และมารยาทในวังให้นางจริง ส่วนตัวเองกลับนั่งอยู่ข้างๆ กินองุ่น มองดูพวกนางอย่างสบายใจจูอวี้เหยียนเกลียดนางแทบตาย แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ทำได้เพียงปฏิบัติตามหมัวมัวเฒ่าที่สอนว่าจะเดินอย่างไร สอนว่าต้องถวายพระพรเจ้านายแต่ละตำหนักอย่างไร ทำซ้ำๆ อยู่เช่นนั้น ชั่วพริบตาท้องฟ้าก็มืดลง อินชิงเสวียนเรียกเสี่ยวอานจื่อเข้ามา“คืนนี้ทำเนื้อย่างเสียบไม้กันเถอะ ให้พวกเจ้าได้กินด้วย”“ขอบพระทัยพระสนม”เสี่ยวอานจื่อดีใจมาก วิ่งออกไปอย่างยินดีปรีดาอินชิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 527 ฝ่าบาทกับพระสนมคืนดีกันแล้ว

    อินชิงเสวียนกินเนื้อเสียบไม้ย่างหอมๆ และดื่มชามะลิที่นางชื่นชอบจูอวี้เหยียนหิวมากจนท้องร้องโครกคราก เมื่อเห็นอินชิงเสวียนเพลิดเพลินกับอาหาร ก็แทบตบะแตกชั่วพริบตาก็ถึงยามดึกแล้วอินชิงเสวียนเห็นใจที่หมัวมัวเฒ่าอายุจนปูนนี้แล้ว จึงเปลี่ยนคนมาแทนจูอวี้เหยียนเดินจนปวดขา ง่วงก็ง่วง หมัวมัวเฒ่าถือไม้บรรทัด แล้วชี้ไปที่เอวของนาง“ตั้งใจหน่อย”จูอวี้เหยียนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองนางด้วยสายตาดุร้ายบนเก้าอี้ตัวยาว อินชิงเสวียนเลิกคิ้วขึ้น“ไม่ยอมหรือ”จูอวี้เหยียนกัดริมฝีปาก กลืนคำพูดลงไปเวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ท้องฟ้าก็กลายเป็นสีขาวมุกอินชิงเสวียนหาว เปลี่ยนอิริยาบถ แล้วพูดว่า “วันนี้พอเท่านี้เถอะ นายหญิงเหยียน เจ้ากลับไปได้แล้ว”ดวงตาของจูอวี้เหยียนกลายเป็นสีแดง เลือดเกือบจะพุ่งออกมานางโค้งคำนับอย่างไม่เต็มใจ แล้วออกจากตำหนักจินหวูอินชิงเสวียนให้หมัวมัวเฒ่ากลับไปพักผ่อน จากนั้นนางก็เข้าไปในมิติหลังจากแช่น้ำพุวิญญาณแล้ว ก็รู้สึกสดชื่น ความเหนื่อยล้าที่อดนอนทั้งคืนก็หายไปนางตรวจสอบเวลา แล้วอุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงออกจากวังหลังจากที่เมื่อวานทรมานจูอวี้เหยียนมาทั้งคืน อาจทำให้หม

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

DMCA.com Protection Status