Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 452 เก็บเรื่องราวไว้ในใจและพยายามอดกลั้น

Share

บทที่ 452 เก็บเรื่องราวไว้ในใจและพยายามอดกลั้น

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-03-12 18:16:54
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอินชิงเสวียน หัวใจของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็เต้นรัว จับมือน้อยที่อบอุ่นอ่อนโยนนั้นไว้

“เจ้าทำเพื่อข้ามากมาย ชั่วชีวิตนี้ ข้าจะไม่มีวันทำให้เจ้าผิดหวัง”

อินชิงเสวียนคลี่ยิ้มบางๆ และพูดว่า “เมื่อฝ่าบาทจะไม่ทำให้หม่อมฉันผิดหวัง หม่อมฉันก็จะไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังเช่นกันเพคะ”

เย่‍จิ่ง‍อวี้ยกมือที่ขาวเนียนละเอียดขึ้นมาจรดริมฝีปากของเขา จุมพิตเบาๆ แล้วพูดด้วยสีหน้ารักลึกซึ้ง “เช่นนั้นพวกเราก็ได้สัญญากันแล้ว ร้อยปีก็ไม่เปลี่ยน”

ครั้นมองไปยังดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังคู่นั้น อินชิงเสวียนก็หัวเราะคิกคัก

“เหตุใดถึงพูดเหมือนกำลังเล่นพ่อแม่ลูกอยู่เลย รีบกินตอนร้อนเถอะเพคะ เย็นแล้วจะไม่อร่อย”

เย่‍จิ่ง‍อวี้เงยหน้าขึ้น พูดอย่างดื้อรั้น “ เจ้าต้องรับปากกับข้าก่อน”

อินชิงเสวียนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เพคะ หม่อมฉันรับปาก ร้อยปีก็ไม่เปลี่ยน เท่านี้คงพอใจแล้วกระมัง”

เย่‍จิ่ง‍อวี้หยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างมีความสุข พอกินได้สองคำ แล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “ข้าได้บอกจอมพลเฒ่ากวนเกี่ยวกับโรงเรียนสอนการต่อสู้แล้ว เขาเห็นด้วยกับความคิดของเสวียน‍เอ๋อร์มาก สองวันนี้เลือกสถานที่ในเมืองหลวงได้แล้ว เมื่อก
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 453 ลงมือ

    ทันทีที่กวนเซี่ยวโพล่งขึ้น ทุกคนก็ถลึงตามองด้วยความโกรธทันที“เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้าดีอย่างไรมาสั่งสอนพวกเรา เชื่อหรือไม่พวกเราอาบน้ำร้อนมาก่อนเจ้าอีก”“อย่าคิดว่าเพียงเพราะเจ้าติดตามแม่ทัพอิน แล้วจะมาสำคัญตัวเองเช่นนี้ อย่างเจ้าไม่มีค่าอะไรด้วยซ้ำ”“ใช่แล้ว เป็นแค่เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ยังกล้าคุยเรื่องปกป้องบ้านเมืองกับพวกเรา ตอนที่เราอยู่ในสงคราม ไม่รู้ว่าเจ้ายังเป็นวุ้นอยู่ในท้องของสตรีผู้ใดอยู่”แม่ทัพเหล่านี้พูดฉอดๆ คนละประโยคสองประโยค พวกเขาไม่กล้ามุ่งเป้าไปที่อินจ้ง แต่กลับไม่เห็นกวนเซี่ยวอยู่ในสายตาในสายตาของพวกเขา กวนเซี่ยวเป็นเพียงขุนพลน้อยที่ฝ่าบาทเรียกให้มาร่วมกองทัพเท่านั้น คงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร“จริงอยู่ที่กวนเซี่ยวไม่เคยต่อสู้ในสงคราม แต่จอมพลเฒ่ากวนและแม่ทัพใหญ่กวนต่างก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยสนาม ไม่เคยได้ยินรึว่าพ่อเสือไม่ให้กำเนิดลูกหมา แม่ทัพทั้งหลายกล่าวหาเขาเช่นนี้ ค่อนข้างด่วนตัดสินเกินไปแล้วกระมัง”น้ำเสียงของอินจ้งแผ่วเบา แต่ทันทีที่เสียงนั้นเปล่งออกไป กลับเป็นเหมือนอสุนีบาตที่ฟาดเปรี้ยงทั้งๆ ที่ลมฝนสงบ ทำให้ทุกคนตกตะลึง

    Last Updated : 2024-03-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 454 สำนักศึกษาหลวง

    สีหน้าท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปทันตา“แม่ทัพอิน ท่านอย่าเหิมเกริมนัก”อินจ้งหยิบป้ายทองอาญาสิทธิ์ออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าได้รับคำสั่งให้รักษาชายแดนและยึดดินแดนที่สูญเสียไปกลับคืน สามารถประหารก่อนค่อยทูลรายงานได้ ทหาร มาจับตัวแม่ทัพเหล่านี้ ประหารทันทีไม่มีการยกโทษ”ทหารจากเมืองหลวงก็รุมจับคนเหล่านั้นทันที เหลือเพียงเหลียงอันไท่คนเดียวเหลียงอันไท่ตัวสั่นด้วยความกลัว ขาสั่นพั่บๆ โชคดีที่เมื่อครู่คัวเองเพิ่งบอกว่าจะส่งทหารไป ไม่เช่นนั้นคงมีจุดจบเช่นกันคนที่เหลือเห็นดังนั้นก็รีบร้องขอความเมตตา แต่ก็ถูกลากลงจากกำแพงเมืองแล้วเสียงกรีดร้องระงม ครั้นแล้วแม่ทัพทั้งสี่ก็ถูกตัดศีรษะทันทีทหารทั้งหมดได้มาอยู่ภายใต้คำสั่งของอินจ้ง ไม่มีผู้ใดบ่นคำใดอีก กวนเซี่ยวจึงเข้าใจเจตนาของอินจ้ง เขาไม่ได้แสดงความเมตตา หากแต่ทำเพื่อให้ได้ใจของเหล่าทหารตอนนี้กองทัพมีใจไปทิศทางเดียวกัน มีขวัญกำลังใจเข้มแข็ง หากส่งทหารออกไปทำศึกอีกครั้ง จะได้ผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวอย่างแน่นอนหลังจากนั้นอินจ้งได้เลื่อนตำแหน่งจังเถี่ยและสวีเหลียง ให้ทั้งสองเป็นแม่ทัพรักษาเมืองชั่วคราว

    Last Updated : 2024-03-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 455 เจอหวังซุ่นอีกครั้ง

    อินชิงเสวียนเอามือไพล่หลังพูดว่า “สัญลักษณ์นี้เรียกว่าตัวเอ็กซ์ ซึ่งหมายถึงตัวแปรที่ไม่ทราบค่า ซึ่งนี่ก็คือสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวในคณิตศาสตร์”“ตัวเอ็กซ์? ทำไมชื่อถึงดูแปลกๆ”บัณฑิตเฒ่าไม่เข้าใจฉางเฮ่อไหลก็เดินมาหาด้วย“ใช่ๆ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แล้วตัวแปรที่ไม่ทราบค่าคืออะไร”แล้วอินชิงเสวียนก็อธิบายให้ทุกคนฟังทันที พร้อมกับหาโจทย์ง่ายๆ สองสามข้อ มาแสดงวิธีทำและหาคำตอบโดยใช้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวแม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ใช่คนอายุน้อย แต่ในด้านวิชาการ พวกเขาเป็นผู้ที่เก่งที่สุดในแคว้น แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจแล้ว“ไม่นึกว่าโจทย์เลขจะแก้ด้วยวิธีนี้ได้ด้วย”“ใช่ ง่ายกว่าวิธีการคำนวณแบบตั้งเดิมมาก”“วิเศษจริงๆ คิดไม่ถึงว่าอาจารย์อินที่อายุยังน้อย จะมีความรู้มากมายเพียงนี้ ข้าเทียบไม่ได้เลย”เหล่าบัณฑิตเฒ่าต่างก็พยักหน้าพร้อมกัน แล้วอินชิงเสวียนก็สอนเรื่องการหาค่าพื้นที่ของรูปลักษณะต่าง รวมถึงจำนวนบวกและลบ คณิตศาสตร์เชิงตรรกะ และสมการกำลังสองเป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้พื้นฐานตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาถึงมัธยมต้น แต่เสียดายที่บัณฑิตเฒ่าเหล่านี้ไม่สามารถรับความรู้มากมายได้

    Last Updated : 2024-03-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 456 ความจริง

    อินชิงเสวียนมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วเอ่ยถามขึ้น “ความลับอะไร”ดวงตาเล็กตี่เท่าเม็ดถั่วเขียวของหวังซุ่นตวับวาบ พูดว่า “เกี่ยวกับอา‍ซือ‍หลาน”อินชิงเสวียนพูดอย่างจงใจ “เจ้าอยากจะบอกข้าว่า อา‍ซือ‍หลานยังไม่ตาย? ข่าวนี้ไม่มีราคาแล้ว”รูม่านตาของหวังซุ่นเปลี่ยนไป แต่เขาไม่ยอมรับทว่าอินชิงเสวียนยังพบคำตอบจากดวงตาของเขาเหมือนเดิมนางอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจตัวซวยอย่างอา‍ซือ‍หลานยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ด้วย“พาตัวเขาไป”หวังซุ่นตะโกนทันที “นอกจากอา‍ซือ‍หลาน ข้ายังมีข่าวอื่นอีก”“ไปคุยกันในวังเถอะ”อินชิงเสวียนสะบัดแขนเสื้อ แล้วออกจากห้องครั้นแล้วทั้งหมดคุมตัวหวังซุ่น พากลับวังทันทีเมื่อมาถึงประตูวัง องครักษ์เงาถามว่า “กุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ จะให้นำตัวคนผู้นี้ไปที่ใด”อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ส่งไปที่คุกหลวงชั้นใน ต้องจับตาดูคนผู้นี้ให้ดีด้วย”“พ่ะย่ะค่ะ”ต่อมาอินชิงเสวียนก็ตรงไปที่คุกชั้นใน เมื่อมาถึง หวังซุ่นก็ถูกล่ามโซ่ตรวนไว้แล้ว “เจ้ามีอะไรจะพูดอีกหรือไม่”หวังซุ่นสงบลง ดวงตาเล็กตี่คู่นั้นยังคงมองไปยังใบหน้าของอินชิงเสวียนอย่างไม่วางตา“ถ้าข้าบอกไปแล้ว พระสนมจะปล่อยข้าไปได้หร

    Last Updated : 2024-03-12
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 457 ร้อนใจ

    “เสวียน‍เอ๋อร์ไม่ต้องกังวล ข้าจะเขียนจดหมายด่วนแปดร้อยลี้เดี๋ยวนี้”“ต้องใช้เวลากี่วันถึงจะส่งจดหมายถึงด่านถงกู่เพคะ”อินชิงเสวียนถามทันควันแม้ว่านางจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับอินจ้งโดยตรง แต่มนุษย์โลกล้วนมีความรู้สึก อินจ้งและลูกชายคิดเผื่อนางอยู่เสมอ อินชิงเสวียนจะมองไม่เห็นได้อย่างไร และจะไม่รู้สึกซาบซึ้งใจได้อย่างไรเย่‍จิ่ง‍อวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “อย่างเร็วที่สุดก็หกหรือเจ็ดวัน”“ยิ่งเร็วได้ยิ่งดี”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้า แล้วเดินไปเขียนจดหมายลับที่โต๊ะ เมื่อปิดผนึกซองแล้วก็ยื่นให้ผู้ส่งสารหลังจากที่ผู้ส่งสารจากไป อินชิงเสวียนก็ยังคงไม่สบายใจเย่‍จิ่ง‍อวี้จับมือของนาง ออกแรงบีบเล็กน้อย“ไม่ต้องห่วง บิดาเจ้าเป็นคนดีสวรรค์คุ้มครอง เคราะห์ร้ายต้องกลายเป็นดีได้แน่”อินชิงเสวียนถอนหายใจอย่างจนใจ“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”เย่‍จิ่ง‍อวี้ไม่อยากเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของนาง ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อ“วันนี้ไปสำนักศึกษาหลวงเป็นอย่างไรบ้าง มีใครทำให้เจ้าลำบากใจบ้างหรือไม่”อินชิงเสวียนคลี่ยิ้มละไม“ไม่มีเพคะ แค่มีความรู้บางอย่างที่ต้องการให้ใต้เท้าทั้งหลายเชื่อ แต่คงต

    Last Updated : 2024-03-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 458 ฝ่าบาทเป็นห่วง

    “ขอบพระทัยท่านอ๋อง! “อินชิงเสวียนโค้งคำนับกล่าวขอบคุณเขาเย่จั้นยิ้มอย่างอบอุ่น“กุ้ยเฟยไม่ต้องเกรงใจ ถ้าจะกล่าวขอบคุณ ควรเป็นข้าที่กล่าวขอบคุณมากกว่า หากไม่มีน้ำถังนั้น ข้าคงไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วเพียงนี้”“ท่านอ๋องเป็นเสด็จอาแท้ๆ ของฝ่าบาท ข้าต้องช่วยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว”นอกจากนี้อินชิงเสวียนยังเคยสัญญากับเขาไว้ ว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา นางจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ ตอนนี้ก็นับว่าได้ตอบแทนที่เขาได้ดูแลตระกูลอินแล้วเย่‍จิ่ง‍อวี้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้ายังขอบคุณกันต่อไป ฟ้าคงมืดพอดี หากไปนานไม่กลับเสียที ข้าจะเป็นห่วง”“ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้ว หม่อมหม่อมจะออกจากวังพร้อมกับท่านอ๋องเดี๋ยวนี้”อินชิงเสวียนยอบกายคำนับเย่‍จิ่ง‍อวี้ และเดินออกจากห้องหนังสือนำไปก่อน“รบกวนเสด็จอาแล้ว”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้ากับเย่จั้น“ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ กระหม่อมจะส่งกุ้ยเฟยกลับวังอย่างปลอดภัยแน่นอน”เย่จั้นประกบมือคำนับ แล้วเดินตามอินชิงเสวียนไปขณะมองตามหลังทั้งสองคนไป เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยหวังว่าจดหมายฉบับนี้จะถูกส่งไปถึงโดยเร็วที่สุด ช่วยคุ้มครองอินจ้งสองพ่อล

    Last Updated : 2024-03-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 459 ท่านอาจารย์เย่จั้น

    พวกเขาทั้งสามพูดคุยเกี่ยวกับโรงเรียนสอนการต่อสู้อยู่พักหนึ่ง จากนั้นอินชิงเสวียนก็กล่าวลาและจากไปกวนฮั่นหลินเดินออกส่งไปจนถึงนอกจวน มองตามแผ่นหลังของคนสองคนที่ค่อยๆ หายไป คิ้วสีเทาของเขาขมวดมุ่นแซ่จู หรือว่าเป็น...กวนฮั่นหลินขมวดคิ้วพร้อมกับเดินกลับห้อง เขาเขียนจดหมายทันที และส่งไปที่ยังซอยจู๋หลินในอวิ๋นโจวถ้าเป็นตระกูลจูจริงๆ ตัวเองก็ได้ทำบาปมหันต์แล้วบนถนนเทียน อินชิงเสวียนถอนหายใจมาด้วยความหวัง แต่กลับต้องผิดหวังกลับไปเย่จั้นกล่าวว่า “กุ้ยเฟยอย่าเพิ่งร้อนใจไป ข้าเดินทางไปทั่วทุกสารทิศ รู้จักเพื่อนชาวยุทธ์มากมาย สามารถช่วยพระสนมค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้”อินชิงเสวียนมีสีหน้ายินดี“เช่นนั้นต้องรบกวนท่านอ๋องแล้ว”เย่จั้นยิ้มอย่างสง่างาม และพูดว่า “พระสนมไม่ต้องเกรงใจ สิ่งที่เจ้าทุ่มเทเพื่อต้าโจว ทำให้ข้าเลื่อมใสศรัทธาจริงๆ ข้าก็อยากจะทำอะไรเพื่อเป็นการตอบแทนแทนต้าโจวด้วย”“แค่เป็นเพียงสิ่งที่สามารถทำได้เท่านั้น ตวามจริงแล้วไม่มีอะไรน่ายกย่องเลย”อินชิงเสวียนพูดอย่างสงบเยือกเย็นเดิมทีเย่จั้นมีความสงสัยเกี่ยวกับนาง แต่ตอนนี้เขาคิดตกแล้วบางทีเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็พูดถูก ไม่ว

    Last Updated : 2024-03-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 460 โจมตีเมือง

    อูเอินสีสีหน้าเศร้าหมองเจียงวูเคยประมือกับอินจ้งเมื่อหลายปีก่อน จึงรู้ถึงความสามารถของเขาอยู่แล้ว เมื่อเห็นทหารโอบล้อมเมืองลั่วสยา ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก“มีอินจ้งเป็นแม่ทัพ เหล่าทหารมีขวัญกำลังใจสูง ไม่ทราบว่าผู้ใดจะเอาชนะเขาได้”อา‍ซือ‍หลานโบกพัดแล้วพูดอย่างใจเย็น “ราชาเผ่ามีแม่ทัพเฒ่าที่เป็นลูกน้องอยู่มากมาย จะต้องกลัวอินจ้งไปไย”ทันทีที่อาซือหลานเอ่ยปาก อูเอินก็เข้าใจความหมายของเขา เขาแค่อยากจะกำจัดแม่ทัพผู้จงรักภักดีเหล่านั้น“แม้ว่าแม่ทัพทั้งหลายจะสันทัดในการรบ แต่พวกเขาก็อายุมากแล้ว คนของน้องล้วนมีแต่แม่ทัพฝีมือล้ำเลิศ มิสู้ส่งพวกเขาออกไป เป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้เหล่าทหารด้วย”อา‍ซือ‍หลานส่ายศีรษะและพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ขิงแก่ยังเผ็ด แม่ทัพเฒ่ามู่จัวรวมถึงแม่ทัพเฒ่าคนอื่นๆ เคยทำศึกกับอินจ้งหลายครั้ง ค่อนข้างคุ้นเคยกับกลศึก ให้พวกเขาไปจะเหมาะกว่า”จูอวี้เหยียนจ้องเขม็งอินจ้งที่อยู่ด้านล่าง โดยไม่สามารถปกปิดความตื่นเต้นของนางได้คนถ่อยกล้ามาถึงเจียงวู ความตายก็ใกล้มาเยือนเขาแล้วอินจ้งได้มาถึงด้านล่างกำแพงเมืองแล้ว ตะโกนขึ้นไปบนกำแพงเมืองด้วยเสียงอันดัง “ทหารเจียงวูฟ

    Last Updated : 2024-03-14

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status