Home / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 41 กระหม่อมจะไปกับพระสนม

Share

บทที่ 41 กระหม่อมจะไปกับพระสนม

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2023-12-08 20:00:00
ณ สุสานหลวง

ชายผู้หนึ่งในชุดผ้าแพรสีฟ้ากำลังมองไปในทิศทางของวังหลวงด้วยท่าทางน่ากลัว

ชายผู้นี้อายุสิบเจ็ดสิบแปดปีโดยประมาณ รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ดวงตายาวเรียว แววตามืดมนเล็กน้อย

ซึ่งบุคคลผู้นี้ก็คือน้องชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน อันผิงอ๋อง ผู้ที่ซึ่งมีนามว่าเย่จิ่งเย่า

หนึ่งปีก่อน ตอนที่เย่จิ่งอวี้ขึ้นครองบัลลังก์ เขาถูกส่งไปยังสุสานหลวงในนามการไว้ทุกข์แทนฮ่องเต้พระองค์ใหม่

เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตทุกๆ เรื่องราว ความเกลียดชังในแววตาของเย่จิ่งเย่าพลันแข็งกร้าวขึ้น

ถ้าตาเฒ่าอินจ้งยอมช่วยเขาในวันนั้น บัลลังก์ก็จะเป็นของเขา...

ยามนี้ก็ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว ในวังหลวงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เห็นชัดว่าเจ้าลูกสุนัขเย่จิ่งอวี้ผู้นี้ กลัวเขากลับราชสำนัก

นิ้วมือค่อยๆ รวบเข้าหากัน เสียงข้อต่อหักดังกรอบ

หากเขาสามารถกลับราชสำนักได้ เขาจะชำระหนี้แค้นนี้แน่นอน

ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทันใดนั้นก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งจากไกลๆ ในใจจิ่งเย่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เพียงชั่วพริบตา หลี่เต๋อฝูและเสนาบดีกรมพิธีการก็เข้ามาใกล้มากขึ้น

เสนาบดีกรมพิธีการพลิกกายลงจากม้า ยกเสื้อคลุมขึ้นแล้วคุกเข่าลงกับพื้น

“กระ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 42 ถูกลดตำแหน่งเป็นผิน

    อินชิงเสวียนขยิบตากับเสี่ยวอานจื่อ จากนั้นก็ติดตามทั้งสองคนไปเสี่ยวอานจื่อลุกขึ้นทันที แล้ววิ่งไปที่ห้องหนังสือลู่จิ้งเสียนปรายตามองข้างๆ เมื่อนางเห็นอินชิงเสวียนติดตามมา รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏบนริมฝีปากของนางเมื่อใดที่เข้าไปในวังจิ้งอานของตนเอง ยังตามใจผู้อื่นได้อีกงั้นหรือฝ่าบาทเสด็จมาแล้วอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่ไทเฮาทรงอนุญาตด้วยองค์เองเมื่อนึกได้ว่าขันทีน้อยผู้นี้ถือชาดทาปากที่ฝ่าบาทขายให้ตนเอง โทสะในอกพลันลุกโชนอีกคราบ่าวชั้นต่ำ จะได้รับของที่ฝ่าบาทประทานให้ได้อย่างไรบางทีเขาอาจจะขโมยไปยิ่งลู่จิ้งเสียนคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าใด นางก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น และอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าของนางทางด้านอินชิงเสวียนก็กลอกตาครุ่นคิดอย่างรวดเร็วที่ลู่จิ้งเสียนต้องการตัวเองไปนั้น คิดว่านางคงมีเจตนาไม่ดี ต้องเป็นเพราะถูกเย่จิ่งอวี้คุมขังอยู่หลายวัน จึงรู้สึกอยากแก้แค้นแต่นางก็ไม่กลัวมากนัก ถ้านางกล้าทำอะไรตัวเอง นางก็จะเข้าไปซ่อนในมิติ นางจจะยังสามารถตามเข้าไปจับตัวเองไดในมิติกระนั้นหรือเมื่อคิดถึงตรงนี้ อินชิงเสวียนก็สงบลงทันทีชุ่ยจู๋เหลือบมองข้างๆ ในใจเก

    Last Updated : 2023-12-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 43 การค้านี้ทำไม่ได้

    อินชิงเสวียนติดตามเย่จิ่งอวี้ออกจากตำหนัก โดยก้มหน้าก้มตามองดูนิ้วเท้าของตัวเองไปตลอดทางแต่ในใจกลับคิดว่าฮ่องเต้นั้นไร้หัวใจจริงๆหากสตรีที่อยู่ในวังหลังไม่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ ไม่ว่าตำแหน่งจะสูงเพียงใด ก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อใดที่เขาไม่ถูกใจ ทุกสิ่งก็จะสูญหายโชคดีที่นางไม่ได้เลือกที่จะต่อสู้ในวังอย่างโง่เขลา ซึ่งการทำเช่นนั้นรัแต่จะเหนื่อยและเปลืองสมองเมื่อเห็นเสียนเฟยถูกลดตำแหน่งอยู่ในขั้นผิน อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะปรารถนาชีวิตนอกวังหลวงมากยิ่งขึ้นอาศัยที่มีผลไม้และธัญพืชอยู่ในมิติของนาง เรื่องการหาเงินก็ไม่ใช่ปัญหา ถือโอกาสขายเครื่องประทินโฉมไปด้วย ขณะเดียวกันก็ทำไร่ทำนา อินชิงเสวียนทำราวกับเห็นชีวิตของตัวเองมีบ่าวไพร่ตามเป็นโขยง มีเงินทองให้ใช้สอยไม่ขาดมือ ตลอดทางก็ครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย แต่พอรู้ตัวอีกที ก็เดินมาถึงห้องหนังสือแล้วเย่จิ่งอวี้เดินก้าวอาดๆ เข้าไปในห้อง ใบหน้าหล่อเหลาของเขามืดมนอินชิงเสวียนเดินตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว ข้างนอกร้อนมาก ดังนั้นนางจึงยืนอยู่ข้างถังน้ำแข็งหลี่เต๋อฝูที่ค้อมตัวมาถึงโต๊ะ เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท เลยยามบ่ายแล้ว จัด

    Last Updated : 2023-12-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 44 ห่อเกี๊ยวให้ฮ่องเต้

    ณ วังเย็นไม่มีทหารองรักษ์เฝ้าอยู่ที่ประตูบางทีอาจเป็นเพราะอินชิงเสวียนเสียชีวิต เย่จิ่งอวี้รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเปลืองกำลังคนอินชิงเสวียนหยิบกุญแจที่ได้มาจากพี่น้องตระกูลหวัง แล้วพูดกับหลี่เต๋อฝู “ในนั้นมีสิ่งชั่วร้ายมากมาย หลี่กงกงไม่ควรเข้าไปดีกว่า ได้ยินจากน้องสาวว่ามีนางสนมฆ่าตัวตายขณะตั้งครรภ์ มักจะได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ในนั้น”หลี่เต๋อฝูถอยไปสองก้าวทันที ถามด้วยสีหน้าลำบากใจ “เป็นเรื่องจริงหรือ”ขันทีน้อยสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้ากังวลและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดอินชิงเสวียนพูดอย่างจริงจัง “จะไม่ใช่ได้อย่างไร ถ้าหลี่กงกงไม่เชื่อ ไปถามผู้อาวุโสในวังก็รู้แล้ว นอกจากนี้นะ สองพี่น้องตระกูลหวังก็ถูกทุบตีจนตายที่ประตูนี้”“อา!”หลี่เต๋อฝูถอยหลังไปอีกหลายก้าว เหล่าขันทีน้อยก็เริ่มลนลาน พวกเขาซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหลี่เต๋อฝูอินชิงเสวียนเปิดประตูเสร็จแล้ว ทันทีที่หลี่เต๋อฝูรู้สึกถึงอากาศเย็นที่เข้ามาปะทะใบหน้า เขาก็ออกวิ่งไปไกลอีกหลายก้าว“เจ้ารีบไปเอาเถอะ ที่นี่ไม่ต้องมาบ่อยๆ จะดีกว่า”เมื่อเห็นสีหน้าหลี่เต๋อฝูกลายเป็นสีเขียวคล้ำด้วยความกลัว อินชิงเสวียนก็แอบหัวเราะเ

    Last Updated : 2023-12-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 45 เสด็จพี่ช่างน่าสนใจ

    เมื่อได้กลิ่นหอมเกี๊ยวจางๆ หลี่เต๋อฝูก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายส่วนคนที่เหลือต่างจ้องมองไปที่หยวนเป่าชิ้นขาวๆ อ้วนๆ นั่นเกี๊ยวที่อินชิงเสวียนปรุงออกมานั้นสวยงามมาก ช่วงท้องกลม ด้านข้างของเกี๊ยวก็บางมาก แค่มองดูก็น่ารับประทานมากแล้วหลี่เต๋อฝูอดไม่ได้ที่จะมองดูเกี๊ยวด้วยสายตาแรงกล้า โบกมือแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ”หลังจากพูดจบเขาก็นำอินชิงเสวียนออกจากห้องพระเครื่องต้นด้วยท่วงท่าสง่างามอินชิงเสวียนรีบนำซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูดำมาอย่างรวดเร็ว และติดตามหลี่เต๋อฝูกลับไปที่ห้องหนังสือเย่จิ่งอวี้ยังคงตรวจฎีกาอยู่ โดยมีเสี่ยวอานจื่อคอยพัดให้อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็เงยหน้าขึ้น และขมวดคิ้วเมื่อเห็นหลี่เต๋อฝูเข้ามาพร้อมกล่องอาหาร“เราบอกว่าไม่หิว เหตุใดจึงนำมาอีก”หลี่เต๋อฝูหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือของเสี่ยวเสวียนจื่อพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ไม่ทรงอยากลองชิมหรือ”“โอ้” เย่จิ่งอวี้วางฎีกาลง แล้วมองไปที่อินชิงเสวียนซึ่งยืนอยู่ด้านหลังหลี่เต๋อฝูหลี่เต๋อฝูกล่าวเสริม “นี่คือเกี๊ยวที่ทำจากแป้งหมี่ กระหม่อมเห็นว่าฝ่าบาทดูชอบมาก จึงให้เสี่ยวเสวียนจื่อปรุงมาให้ฝ่าบาท

    Last Updated : 2023-12-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 46 ที่แท้ก็เป็นนาง

    ไทเฮาไม่เคยพบกับอินชิงเสวียน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าลูกชายของนางกำลังคิดอะไรอยู่หลังจากฟังคำพูดของลู่จิ้งเสียนแล้ว นางพูดด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ “ฮ่องเต้จะเลินเล่อเช่นนี้ได้อย่างไร แค่ขันทีผู้หนึ่งถึงกับต้องลดตำแหน่งเจ้าด้วย ช่างไร้วุฒิภาวะจริงๆ เย่าเอ๋อร์ เจ้าเพิ่งกลับมาจากไปเฝ้าสุสานหลวง ก็ควรไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้หน่อย พวกเราจะเข้าไปดูกันว่าขันทีเช่นไรถึงทำให้ฮ่องเต้ร้อนใจเพียงนี้”ลู่จิ้งเสียนพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าวทันที“เสด็จแม่ ท่านให้ความเป็นธรรมกับหม่อมฉันนะเพคะ”เย่จิ่งเย่ายื่นมือออกไปพยุงไทเฮา“ก็ได้ ข้าก็ควรไปดูสักหน่อยเหมือนกัน”ครั้นแล้วขบวนคนกลุ่มใหญ่ก็ออกจากตำหนักฉือหนิง มีขันทีนางกำนัลถือพระกลดพู่สีเหลือทองเดินตามหลัง มุ่งหน้าไปยังห้องหนังสืออย่างสง่างามอินชิงเสวียนกำลังเหม่อมองฟ้า ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสี่ยวอานจื่อตะโกนจากด้านนอกว่า “ไทเฮาเสด็จ อันผิงอ๋องเสด็จ พระสนมเสียนผินเสด็จ”อันผิงอ๋องรึเขาเป็นบุรุษระยำที่เจ้าของร่างเดิมชอบไม่ใช่หรือเหตุใดจู่ๆ เขาจึงเข้ามาในวังถ้าเขาจำตัวเองได้จะทำเช่นไรดีทันใดนั้นอินชิงเสวียนก็เหงื่อแตกพลั่ก รีบวิ่งไปข้างหลังเย่จิ่งอวี้ พย

    Last Updated : 2023-12-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 47 แผนการของฮ่องเต้

    เย่จิ่งอวี้ยิ้มบางๆ “น้องกับพระชายาอ๋องก็ไม่ได้เจอกันมาหนึ่งปีแล้ว ถึงเวลากลับไปหากันแล้ว หากมีเวลาก็พาพระชายาอ๋องเข้ามาในวังมาเยี่ยมเสด็จแม่ได้”เย่จิ่งเย่ายกมือขึ้นประกบคำนับแล้วพูดว่า น้องน้อมรับพระบัญชา ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กระหม่อมขอทูลลา”เมื่อเห็นว่าการคืนตำแหน่งของลู่จิ้งเสียนนั้นเป็นไปได้ยากแล้ว ไทเฮาก็ลุกขึ้นยืนเช่นกันยิ้มอย่างใจดีและพูดว่า “ในเมื่อฝ่าบาทยุ่งอยู่กับราชกิจ เช่นนั้นข้าก็ไม่รบกวนแล้ว เสียนเอ๋อร์ จำสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัสได้แล้วนะ ตราบใดที่เจ้าช่วยดูแลวังหลังอย่างดี ฮ่องเต้จะคืนตำแหน่งสนมขั้นเฟยให้เจ้าเอง”ลู่จิ้งเสียนพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ หม่อมฉันจะเชื่อฟังคำสอนของฝ่าบาทอย่างแน่นอน”เย่จิ่งอวี้ส่งไทเฮาไปที่ประตูและโค้งคำนับเล็กน้อย “ลูกน้อมส่งไทเฮา”“กลับไปเถอะ ราชกิจของเจ้าจะล่าช้าไม่ได้”ไทเฮาคลี่ยิ้มพลางโบกมือ ทันทีที่ออกจากห้องหนังสือ ความมีเมตตบนใบหน้าก็หายไปทันที“ฮ่องเต้ทำเพื่อขันทีน้อยถึงเพียงนี้ เขาเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ หรือว่าเขาคิดไม่ธรรมดากับขันทีน้อยผู้นั้นจริงๆ”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลู่จิ้งเสียนก็รู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้น“หม่อม

    Last Updated : 2023-12-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 48 จะมาไม้ไหน

    “อืม”อินชิงเสวียนตอบรับเบาๆ แต่ในใจนั้นตำหนิยกใหญ่บางทีเขาอาจมีใจให้ซูฉ่ายเวยอยู่บ้างเล็กน้อยเหอะๆ ชายหนอชาย ล้วนปากไม่ตรงกับใจณ หอฉงฮวาด้านในกำลังตกอยู่ในความวุ่นวายซูฉ่ายเวยเพิ่งได้ยินว่าลู่จิ้งเสียนถูกลดตำแหน่งเป็นเสียนผิน จากนั้นก็ได้ยินข่าวเรื่องตนได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นหลิงผินเนื่องด้วยตื่นเต้นมากเสียเกินไปจึงทำให้ซูฉ่ายเวยเป็นลมจนกระทั่งหลี่เต๋อฝูประกาศพระราชโองการเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงได้เอ่ยถามดั่งเพิ่งตื่นจากฝัน “หลี่กงกง นี่ นี่เป็นความจริงหรือ”หลี่เต๋อฝูตอบด้วยรอยยิ้มว่า “จริงแท้แน่นอน หลิงผินควรรับพระราชโองการและขอบพระทัยในพระกรุณาได้แล้ว”ซูฉ่ายเวยซาบซึ้งเสียจนร่างกายสั่นคลอน นางรีบเอื้อมมือไปรับพระราชโองการ จากนั้นสั่งให้เซียงหลานนำหยวนเป่าสองอันใหญ่ให้แก่หลี่เต๋อฝูขันทีน้อยทั้งหลายได้รับผ้าและเครื่องประดับพระราชทานมาแล้ว ต่างพากันยิ้มมิหุบปากเจ้านายแห่งหอฉงฮวาได้เชิดหน้าชูตาสักทีระหว่างที่กำลังปลื้มปีติกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นว่า “ฮ่องเต้เสด็จ”ซูฉ่ายเวยตื่นตระหนกทันใด ฮ่องเต้เสด็จมาเร็วถึงเพียงนี้?นางรีบจัดแจงผมเผ้าเครื่องประดับแล

    Last Updated : 2023-12-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 49 วางแผน

    เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเข้าหากันแล้ววางม้วนหนังสือในมือลง"เข้ามาได้"ครู่เดียว หานสือซึ่งสวมชุดธรรมดาเดินตรงเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเขาเข้ามาถึงก็คุกเข่าลงด้วยความรีบร้อนใจ"เมื่อครู่กระหม่อมเพิ่งได้รับข่าว วิธีการที่ฝ่าบาทให้มานั้นได้ผลแล้ว ขุนนางได้ทำตามที่ฝ่าบาทรับสั่ง กักตัวผู้ที่มิได้ติดเชื้อออกไป สำหรับผู้ที่มิอาจช่วยไว้ได้ ให้นำเอาไปเผา บัดนี้สถานการณ์โรคระบาดถูกควบคุมเอาไว้ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"คิ้วของเย่จิ่งอวี้ที่ขมวดเข้าหากันอยู่จึงคลายออกเล็กน้อย"ดียิ่งนัก จงไปกำชับให้ปรุงยามากขึ้น พยายามช่วยให้ได้ทุกคน อย่าให้พลาดแม้แต่คนเดียว”เมื่อได้ยินประโยคนี้ หานสือก็คุกเข่าลงทั้งสองข้างพร้อมกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า "ฝ่าบาททรงมีพระกรุณาธิคุณเช่นนี้ ช่างเป็นบุญของไพร่ฟ้าประชาชนเหลือเกิน"จากนั้นเขาก็ถอนหายใจกล่าวว่า "แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสวรรค์จึงได้ลงโทษแล้วซ้ำเล่า ทรมานประชาชนในแคว้นต้าโจวเพียงนี้"เย่จิ่งอวี้หรี่ตาเล็กน้อย "เจ้าหมายถึงการระบาดของตั๊กแตน?"หานสือตอบรับว่า "พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท แม้การที่ตั๊กแตนระบาดจะมิใช่เรื่องแปลก แต่ก็มิใช่ว่าเกิดขึ้นทุกปี บัดนี้ทั้งภัยแล้ง โรคระบา

    Last Updated : 2023-12-11

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1494 ฆ่าข้าซะ

    “โอ๊ย พ่องเอ๊ย ตกลงมาเกือบตาย”ชายคนหนึ่งสวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีขาว กำลังนวดหลังตัวเองอยู่ จากนั้นก็คลานลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด“เย่จิ่งหลาน...เจ้าจะกลับไปจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานปีนขึ้นมาจากหลุม ตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า “อย่าเพิ่งฆ่าคน นางคือลั่วสุ่ยชิงจริงๆ”อินชิงเสวียนหยุดทันที นางไม่ไว้ใจคนอื่น แต่กลับไม่สงสัยในตัวเย่จิ่งหลานแม้แต่น้อย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”เย่จิ่งหลานก็เดินตามหลังลั่วสุ่ยชิง ช่วยนางรักษาอาการบาดเจ็บของนาง“เรื่องมันยาวนะ ยัยบ้า เจ้ายังมีน้ำอีกไหม รีบเอาน้ำมาให้จอมยุทธ์หญิงลั่วดื่มเร็ว”“อ้อ”อินชิงเสวียนหยิบขวดพุวิญญาณออกมาหนึ่งขวด เย่จิ่งหลานก็เอื้อมมือไปหยิบมัน และส่งให้ลั่วสุ่ยชิงดื่มลั่วสุ่ยชิงนั่งขัดสมาธิทันที ปรับลมปราณ หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าของนางก็ดีขึ้นลิ่นเซียวกางนิ้ว กิ่งไม้ก็กลับมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง“แม่หนูน้อย ข้าให้เวลาเจ้าพักแล้ว มาสู้กันใหม่!”เมื่อเห็นกิ่งไม้หลอมรวมเป็นปราณกระบี่ในมือของเขา อินชิงเสวียนก็รีบคว้าเขาไว้“อาจารย์ นี่คือมิตร”ลิ่นเซียวส่ายผมสีขาว แล้วมองดูนาง “มิตร?”อินชิงเสวียนดึงเขาออกไป“ก็คือพวกเราเอง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1493 วิธีคิดของลิ่นเซียว

    ในช่วงที่เกิดวิกฤติในต้าโจว ฝ่ายของเย่จิ่งหลานก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันหลังอาหารเย็น เขาได้พูดคุยกับชิงผิงชิงอาน แต่กลับไม่สามารถหาสาเหตุได้ จึงเข้าสู่สมาธิอีกครั้งเข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิต แต่ก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทั่วทั้งห้วงทะเลแห่งจิตเต็มไปด้วยหมอกสีดำ ลั่วสุ่ยชิงร่างเปลือยเปล่า นั่งขัดสมาธิอยู่ในค่ายกล ขยับมืออยู่ตลอดเวลา ลมปราณแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าในทันที!“แม่นาง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”เย่จิ่งหลานถามอย่างครอบงำมากลั่วสุ่ยชิงยังคงหลับตาแน่น มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก“นี่ ลั่วสุ่ยชิง เจ้าไม่เป็นไรนะ?”เมื่อเห็นนางมีท่าทางแบบนี้ เย่จิ่งหลานก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยในเวลานี้ เสียงสะท้อนที่ชัดเจนฟังดูเหมือนน้ำใสในห้วงทะเลแห่งจิตก็ตอบกลับมา“เย่จิ่งหลาน มาช่วยข้าที ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในต้าโจว แต่รู้สึกได้ว่าร่างกายของชิงฮุยอ่อนแอ แก่นวิญญาณของข้าได้กลับมาควบคุมร่างกายบางส่วนแล้ว เสี้ยววิญญาณนี้คือกุญแจสำคัญ ว่าเจ้าและข้าจะสามารถกลับไปได้หรือไม่”เย่จิ่งหลานได้ยินเสียงของลั่วสุ่ยชิงเป็นครั้งแรก จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น“เจ้าพูดได้แล้ว?”ลั่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1492 เขาเป็นคนบ้า

    ลิ่นเซียวตะโกนเสียงดัง ปราณกระบี่บนท้องฟ้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ปราณกระบี่นับพันรวมตัวกันในที่จุดเดียวอีก และปราณกระบี่สีทองก็เปล่งประกายด้วยแสงสีทองพร่างพราว เทียบเคียงกับความรุ่งโรจน์ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปราณกระบี่อันทรงพลังสามารถสะเทือนขุนเขา สะท้านสวรรค์!ช่างเป็นกระบี่ที่น่าตกใจจริงๆ!ใบหน้าของชิงฮุยแสดงสีหน้าเคร่งขรึมเป็นครั้งแรกคนผู้นี้สมแล้วที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!ปราณโคจรไปทั่วร่าง มีหมอกสีดำลอยขึ้นมาทั่วตัว ร่างนั้นปรากฏขึ้นในหมอกรางๆ ดวงตาทั้งคู่เกือบจะเสียตาขาวไปทั้งหมด ทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นสีดำ ซึ่งทั้งแปลกและน่าสะพรึงกลัว!เพียงชั่วพริบตา กระบี่ก็ร่วงหล่นและหมอกก็หายไปอากาศเงียบสงบอย่างน่าขนลุก ไม่มีเสียงใดๆ แม้แต่เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ที่โจมตีอินชิงเสวียนก็ยืนนิ่งในเหตุการณ์ ชิงฮุยค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากลิ่นเซียววางมือข้างหนึ่งไพล่หลัง ยืนตระหง่านต้านสายลมอินชิงเสวียนดีใจ สำเร็จแล้ว!นางรีบวิ่งไปหาลิ่นเซียว“อา...”“อาจารย์!”วินาทีต่อมา ความประหลาดใจของอินชิงเสวียนกลายเป็นความตกใจหน้าอกของลิ่นเซียวกลายเป็นสีแดงเลือด มีเล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1491 เทพกระบี่ลิ่นเซียว

    “อย่างเจ้าน่ะรึ?”ชิงฮุยขยับมือทำท่ามุทรา ครั้นแล้วนักพรตเทียนชิง เฮ่อยวน และเหมยชิงเกอก็ตีล้อมลิ่นเซียวทันที“อาจารย์ ท่านระวังด้วย พวกเขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว”ลิ่นเซียวแค่นเสียงอย่างเย็นชา ยกกิ่งไม้ในมือขึ้นสู่ท้องฟ้า มันได้กลายเป็นปราณกระบี่ขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่าทั้งสามจะรู้ว่าสิ่งนั้นทรงพลังเพียงใด ท่าทางการโจมตีก็ช้าลงดวงตาทั้งคู่ของอินชิงเสวียนเบิกกว้าง ฉายแววปีติยินดีในใจ สมแล้วที่เป็นเทพกระบี่ ไม่ได้พบนานหลายเดือน ดูเหมือนทักษะกระบี่ของลิ่นเซียวจะก้าวหน้าขึ้นมากชิงฮุยเลิกคิ้วขึ้น“คิดไม่ถึงว่าในต้าโจวจะมีคนที่มีความสามารถเช่นนี้”เขาขยับนิ้วเล็กน้อย ทำท่ามุทราอีกครั้ง จากนั้นก็ส่งอีกหลายคนออกไปโจมตีลิ่นเซียว แรงกดดันของอินชิงเสวียนลดลงอย่างกะทันหัน ในใจรู้สึกเสียใจอย่างมากหากอดทนรออีกหน่อย คงไม่ต้องใช้รีบเรียกใบมีดทะมึนออกมา ตอนนี้ไม่สามารถเรียกมันออกมาได้แล้ว ได้แต่หวังว่าสหายชาวยุทธ์จะมาช่วยเหลือเขาในใจย่อมตระหนักดี ความคิดนี้เป็นไปไม่ได้ ชาวยุทธ์จำนวนมากมารวมตัวกันในเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง ยกเว้นลิ่นเซียวแล้ว จะหากำลังคนได้จากที่ไหนอีก จากนั้นก็เริ่มเป็นห่วง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1490 ผู้ช่วยที่คาดไม่ถึง

    อินชิงเสวียนยื่นมือออกไปเรียกพิณการเวก ใช้คลื่นเสียงหยุดการโจมตีของยอดฝีมือทั้งหลาย ชิงฮุยไม่ได้ลงมือใดๆ แต่กลับนั่งมองดูอย่างสงบอินชิงเสวียนรู้สึกกังวลและหงุดหงิด แต่คนที่อยู่ตรงหน้าล้วนเป็นเพื่อนสนิทและญาติของตัวเอง จึงไม่สามารถลงมือรุนแรงได้ แม้ว่าการใช้งานทักษะห้าสิบห้าสิบจะขยายเวลาออกไป แต่อย่างไรก็มีขีดจำกัด เมื่อหมดเวลาใช้งาน นางก็จะได้รับผลสะท้อนกลับเช่นกันนางต้องทำลายสถานการณ์นี้โดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อตัวเองมากขึ้นเท่านั้นวินาทีถัดมา อินชิงเสวียนสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิงนางเห็นเฮ่อยวน เหมยชิงเกอ และนักพรตเทียนชิงทะยานเข้ามาหาตัวเอง โดยใช้เคล็ดวิชาลับของแต่ละสำนักในการโจมตีแสงสีขาวและสีม่วงสองดวงเกาะเกี่ยวพันกัน อินชิงเสวียนก็ถูกโจมตีบนไหล่ทั้งสองข้าง กระอักเลือดออกมา หน้าซีดเผือดเหมือนคนตายนับตั้งแต่ที่ข้ามภพมาถึงตอนนี้ นางต้องเผชิญกับอันตรายมากมาย แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่นางไม่มีความหวังที่จะมีชีวิตรอดเหมือนตอนนี้แม้ว่าตอนนี้นางจะเข้าไปในมิติได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรล่ะ คนรักและญาติของนางล้วนกลายเป็นหุ่นเชิดของชิงฮุย หากนางถู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1489 ใช้ไพ่ตายทั้งหมด

    หลังจากที่ชิงฮุยพูดจบ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านนอกลานบ้าน เจ้าสำนักเฮ่อ เซี่ยวอิ่นหวน ผู้อาวุโสสวี และเจ้าสำนักคนอื่นๆ ต่างก็ปรากฏตัวขึ้นที่ลานบ้าน“คารวะนายท่าน!”ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของอินชิงเสวียน ทุกคนโค้งคำนับ ซึ่งเป็นการคำนับที่ถ่อมตัวและให้ความเคารพสูงสุดชิงฮุยเป่าปากเป็นเสียงแหลมยาวอีกครั้ง ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือ เย่จิ่งอวี้ เฮ่อฉางเฟิง ต่งจื่ออวี๋ และศิษย์รุ่นเยาว์เหมือนกับเก่อหงยวนอินชิงเสวียนแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เย่จิ่งอวี้สามีของนางกำลังโค้งคำนับให้ชิงฮุยแม้แต่อินชิงเสวียนเองก็รู้สึกเวียนหัว อยากจะคุกเข่าลงคำนับเขาเช่นกัน“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ชิงฮุยหัวเราะร่วนอย่างดุเดือด นี่เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าของเขาเสียการควบคุม“ทุกสิ่งที่ข้าต้องการ จะเป็นของข้าในที่สุด ผลลัพธ์นี้ แม่นางอินพอใจหรือไม่”อินชิงเสวียนทั้งตกใจและโกรธ“วิกลจริต เจ้าควบคุมพวกเขาเหมือนหุ่นเชิดไร้อารมณ์ บ้านเมืองเช่นนี้ เจ้าได้ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร”ชิงฮุยยิ้มช้าๆ“ใครบอกเจ้าว่าข้าต้องการบ้านเมือง สิ่งที่ข้าต้องการนั้นมันสูงส่งและยิ่งใหญ่กว่านั้น”อินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “เจ้าต้องการอะไร หรือว่

DMCA.com Protection Status