แชร์

บทที่ 279 เจ็บปวดหัวใจ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-03 16:00:01
ขนตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้สั่นเบาๆ แล้วเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น

สายตาของเขายังคงพร่ามัวเล็กน้อย สามารถมองเห็นคนสองคนที่อยู่ตรงหน้าได้รางๆ

แล้วเขาก็ถามอย่างอ่อนแรง “ที่นี่ที่ไหน”

เย่จั้นรีบตอบ “นี่คือตำหนักเฉิงเทียนในวังหลวง”

เย่‍จิ่ง‍อวี้ตอบรับเบาๆ หลับตาแล้วพูดด้วยเสียงงัวเงีย “ดูเหมือนข้าจะฝันไป...ข้าฝันถึงเสวียน‍เอ๋อร์...”

เมื่อได้ยินเขาพูดถึงชื่อของตัวเอง อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าลำคอตีบตัน อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากแรง

“ฝ่าบาทอย่าเพิ่งพูดเลย รีบพักผ่อนให้มากๆ เถิด”

เย่‍จิ่ง‍อวี้มองมาทางนางทันที

“เสวียน‍เอ๋อร์?”

แล้วเขาก็ส่ายศีรษะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรงว่า “ข้าคงฝันไปอีกแล้ว นางเกลียดข้าถึงเพียงนั้น นางจะมาหาข้าได้อย่างไร”

หลังจากพูดจบ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็หลับลึกอีกครั้ง

อินชิงเสวียนจับมือของเขา ในใจรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบทนไม่ไหว

นางหายใจเข้าลึกๆ อดทนต่อความร้อนในดวงตา แล้วพูดโดยไร้สุ้มเสียง เย่‍จิ่ง‍อวี้ ท่านดีกับข้ามากขนาดนี้ ข้าจะเกลียดท่านได้อย่างไร

เย่จั้นตรวจชีพจรเย่‍จิ่ง‍อวี้อีกครั้งแล้วกระซิบว่า “ในเมื่อฝ่าบาททรงฟื้นได้แล้ว เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาปลอดภัยแล้ว เพื่อป้องก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
booksecondhand
... ... ...
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 280 พระองค์ทำให้หม่อมฉันตกใจแทบแย่

    เย่จั้นนั่งลงบนเตียงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลเลย จ้าวเอ๋อร์ยังอยู่ดีในตำหนักจินหวู”เย่‍จิ่ง‍อวี้ค่อยๆ วางมือลงแล้วพึมพำ “ดีแล้ว ดีแล้ว!”เย่จั้นล้วงถุงผงสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ แล้วช่วยประคองเย่‍จิ่ง‍อวี้อย่างระมัดระวัง“ฝ่าบาทเสวยยาเหล่านี้ด้วย พระอาการจะได้ดีขึ้นโดยเร็ว”เขารู้ว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้เป็นคนเฉลียวฉลาด ดังนั้นเขาจึงสั่งให้หลี่เต๋อฝูทุบเม็ดยาให้เป็นผงละเอียดเย่‍จิ่ง‍อวี้มองแล้วถามว่า “นี่คือยาอะไร”เย่จั้นกล่าวอย่างขัดเจตนาว่า “เป็นยาที่หมอเท้าเปลือยจากนอกวังเก็บไว้ให้น่ะ หากฝ่าบาทได้เสวยแล้ว อาการจึงจะดีขึ้น”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้า กินยาแล้วหลับไปอีกครั้งในเวลานี้เอง ข่าวที่ฝ่าบาททรงฟื้นได้แพร่กระจายออกไปทันใดนั้นไทเฮาก็เดินกลับไปกลับมาอยู่ในตำหนักเหมือนหนูติดจั่น“เด็กนี่โชคดีจริงๆ ได้ยินว่าถูกพิษจากดีนกยูงไม่ใช่หรือ หมอหลวงเหล่านั้นบอกข้าว่า เมื่อพิษนั้นเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะหมดทางเยียวยา เหตุใดเขาถึงฟื้นขึ้นมาได้อีก”ชุยไห่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าที่ปริปากเอ่ยคำใดทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดถึงบางอย่างขึ้นได้ จึงพูดออกมาว่า “กระหม่อมได้ยินม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 281 ห้ามคนนอกมาใส่ไคล้ทำลายชื่อเสียงเด็ดขาด

    “เจ้ามาได้อย่างไร”เมื่อเห็นสวีจือย่วน เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยสวีจือย่วนพูดด้วยขอบตาแดงก่ำ “หม่อมฉันได้ยินมาว่าฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัส ในใจรู้สึกกระวนกระวายดั่งไฟแผดเผา วันนี้รู้มาว่าฝ่าบาททรงฟื้นแล้ว จึงรีบมาเยี่ยมทันที”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดเบาๆ “ทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว”สวีจือย่วนก้มหน้ายืนข้างเตียง พูดด้วยความเคารพนบนอบ “ฝ่าบาทช่วยหม่อมฉันให้พ้นจากอันตราย หม่อมฉันย่อมเป็นห่วงพระองค์อยู่แล้ว”เย่‍จิ่ง‍อวี้เหลือบมองนางแวบหนึ่ง “ข้าไม่เป็นไร”สวีจือย่วนกัดริมฝีปาก แล้วถามด้วยเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ จะไม่เป็นไรได้อย่างไร บาดแผลของฝ่าบาทจะต้องเจ็บปวดมากใช่หรือไม่เพคะ”“ไม่เป็นไร ข้าทนได้”เย่‍จิ่ง‍อวี้พิงหมอนนุ่ม เรียวตาหงส์ครึ่งหลับครึ่งตื่น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจที่จะพูดคุยมากนักสวีจือย่วนลอบมองหน้าเขา แล้วถามว่า “ได้ยินมาว่าคนที่แทงฝ่าบาท...คือพระสนมเหยาเฟย?”ทันใดนั้นเรียวตายาวของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ลืมตาขึ้น แววตาเยียบเย็นขึ้นหลายส่วน“ไร้สาระ เหยาเฟยจะแทงข้าได้อย่างไร”เมื่อเกิดความรู้สึกโกรธ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็เริ่มหอบอีกครั้งสวีจือย่วนคุกเข่าข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 282 ราชาสวรรค์เหนือกว่าพยัคฆ์ประจำถิ่น

    ณ จวนจิ้งอ๋องอินชิงเสวียนล้างผงสีดำออก แล้วผลัดเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษสีฟ้าครามนางรวบผมขึ้นด้วยกวานรัดเกล้าทรงสูง ด้านในสวมเสื้อป้ายตัวในสีขาว เมื่อประกอบกับแววตาที่ซ่อนไว้ด้วยความองอาจ ยิ่งทำให้มองไม่เห็นลักษณะเด่นของความเป็นสตรีชัดเจน แต่กลับให้ความรู้สึกของหนุ่มน้อยผู้มีรสนิยมดีที่สวมชุดหรูหราเมื่อเทียบกับกระโปรงคาดอกสามชั้น อินชิงเสวียนชอบชุดบุรุษที่ดูสบายตัวมากกว่า“ขอบพระทัยท่านอ๋อง เสื้อผ้าสวมใส่ได้พอดี”นางดึงชายเสื้อคลุมแล้วถามว่า “วันนี้ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง”“ยังดี มื้อเช้าพอกินอะไรได้บ้าง อาการก็ค่อยๆ ฟื้นตัวดัขึ้น”เย่จั้นวางถ้วยชาลงแล้วพูดอย่างอบอุ่น “ฝ่าบาทฝึกฝนวรยุทธ์สม่ำเสมอทั้งปี สุขภาพดีกว่าคนทั่วไปมาก พระสนมเหยาเฟยไม่ต้องเป็นห่วง”“ดีแล้ว”เมื่อนึกถึงใบหน้าที่ซีดเซียวและดวงตาที่ปิดสนิทของเย่‍จิ่ง‍อวี้ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“ในเมื่อเขาไม่ว่ามีวิชาแปลงโฉม เกรงว่าคงเป็นการยากที่จะขจัดความสงสัยในตัวข้า”เย่จั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “นั่นไม่เป็นความจริงเลย ข้าเห็นว่าฝ่าบาทไม่ได้ลืมความรักที่มีต่อเจ้าเพราะเหตุนี้เลย เพียงแต่เป็นเรื่องยากท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-03
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 283 หน้ากากครึ่งหน้า

    สีหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนไปทันที แล้วร่างนั้นก็ถอยหลังไปหนึ่งจั้ง“ท่านอ๋อง จอมพลเฒ่ากวน พวกท่าน...”“ข้าต้องเอาชีวิตเจ้ามาให้ได้!”เย่จั้นเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย แล้วร่างของเขาก็พุ่งไปยังอินชิงเสวียนอย่างรวดเร็วตัวปลอมยังคงเสแสร้งแกล้งทำ เหาะกลับไปกลับมาพร้อมกับตะโกนไปด้วย “ปาจารย์ ช่วยข้าด้วย”แม้ว่าจอมพลเฒ่าจะขาพิการไปข้างหนึ่ง แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็ไม่ช้าเขาคว้าหอกที่อยู่ข้างๆ และพุ่งหอกใส่ตัวปลอม“ชิงเสวียนไม่เป็นวรยุทธ์ เจ้าเป็นตัวปลอม”ดวงตาของกวนเซี่ยวแสดงความประหลาดใจ นับตั้งแต่ฝ่าบาทถูกลอบสังหาร ชายชราก็ไม่ยอมให้เขาออกจากจวน ดังนั้นกวนเซี่ยวจึงไม่ได้เจอหน้าอาซือหลาน และไม่รู้เกี่ยวกับหน้ากากผิวหนังมนุษย์ เมื่อได้ยินสิ่งที่ปู่พูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนตัวปลอมนี้คงไม่ใช่ใครอื่นแล้ว นอกจากโยวหลานผู้เป็นหนึ่งในสาวใช้ของอา‍ซือ‍หลานเมื่อเห็นว่าตัวตนของนางถูกเปิดเผย นางกลับไม่ตื่นตระหนก แต่กลับหัวเราะ สะบัดข้อมือ แล้วมีดสองเล่มก็มาอยู่ในมือ“ในเมื่อพวกเจ้ารู้ว่าข้าเป็นตัวปลอม เช่นนั้นก็หมายความว่าได้พบกับอินชิงเสวียนแล้ว นางอยู่ที่ไหน บอกมานะ แล้วข้าจะไว้ชีว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 284 ข้าเวียนศีรษะ

    ทันใดนั้นดวงตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็มืดลง เขามองไปยังซ่งเซี่ยด้วยแววตาเยียบเย็น“ใครบอกแม่ทัพซ่ง ว่าผู้ที่ทำร้ายข้าคือเหยาเฟย?”ซ่งเซี่ยเป็นคนที่ดีแค่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่กลับมีความคิดมักง่าย เขาพูดโดยไม่ยั้งคิด “ข่าวนี้มาจากในวังพ่ะย่ะค่ะ ทุกคนต่างก็ทราบดี ขอฝ่าบาทโปรดทรงวินิจฉัยโดยเร็ว”เย่‍จิ่ง‍อวี้แค่นเสียงอย่างเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ผู้ที่กล้าบิดเบือนความจริงเช่นนี้ ทำราวกับไม่เห็นข้าในสายตา หากรู้ว่าผู้ใดเป็นคนแพร่ข่าวลือ ข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ เด็ดขาด”ซ่งเซี่ยยังคงพูดอย่างดื้อดึง “ดังคำกล่าวที่ว่า หากไม่มีลมไหนเลยจะมีคลื่น ฝ่าบาทควรจับตัวนังมารร้ายนั่นมา เพื่อดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรม!”เรียวตาหงส์ของเย่‍จิ่ง‍อวี้เย็นชา พูดเสียงเฉียบขาด “เป็นเพียงคนที่ได้ฟังข่าวลือมาเท่านั้น แต่กลับกล้ามาเห่าหอนต่อหน้าข้า ข้าต้องทำอย่างไร ต้องให้เจ้ามาสอนด้วยรึ”เมื่อเห็นว่าฝ่าบาทโกรธ ซ่งเซี่ยก็ตกใจกลัว รีบคุกเข่าเสียงกระทบพื้นดังลั่น“ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะ กระหม่อมเพียงแต่คิดถึงความปลอดภัยของฝ่าบาท”เย่‍จิ่ง‍อวี้เกรี้ยวกราดรุนแรง “ยังกล้าแก้ตัวอีก เด็กๆ ลากตัวซ่งเซี่ยออกไป ลงโทษโบย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 285 ภาพวาดม้วนหนึ่ง

    ทางด้านจวนจอมพลกวนฮั่นหลินสั่งให้คนจัดงานเลี้ยง และเชิญเย่จั้นมาดื่มในห้องโถงพวกเขาทั้งสองคนเป็นทหารแม่ทัพเหมือนกัน ย่อมพูดคุยถูกคอมากกว่าคุยกับเหล่าขุนนางในราชสำนักเสียอีกยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาล้วนเป็นคนที่โดดเด่นในเชิงศึกสงคราม ฉะนั้นย่อมขาดไม่ได้ที่จะกล่าวยกย่องซึ่งกันและกันหลังจากดื่มไปสามรอบ กวนฮั่นหลินก็ยกจอกสุราขึ้น“จอกนี้ ขอคารวะแด่ท่านอ๋อง ขอบคุณท่านอ๋องที่ทำเพื่อตระกูลอิน หากอินจ้งกลับราชสำนักได้ ต้องให้เขามาคุกเข่าขอบคุณท่านแน่นอน”เย่จั้นยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “จอมพลเฒ่ายกย่องเกินไปแล้ว แม้ว่าข้าจะประจำการอยู่ที่ชายแดนและไม่เกี่ยวข้องกับกิจการบ้านเมือง แต่ข้าก็รู้ว่าใครทรยศใครภัดี แต่ทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน หากไม่ใช่เพราะค้นเจอจดหมายโต้ตอบกับราชวงศ์เจียงวูในจวนของอินจ้ง ข้าจะช่วยปกป้องเขาจากฝ่าบาทอย่างแน่นอน”เขาถอนหายใจและพูดต่อว่า “จอมพลเฒ่าก็ไม่สามารถตำหนิฝ่าบาทเพราะเรื่องนี้ได้ หากเปลี่ยนเป็นท่านหรือข้าที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์นั้น เกรงว่าเราจะเลือกแบบเดียวกัน”กวนฮั่นหลินวางจอกสุราลง กระแสเสียงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ทอดถอนใจ“ในฐานะขุนนาง จะตำหนิฮ่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 286 เจ้าจะฆ่าข้าอีกก็ได้

    หลังดวงอาทิตย์ตกดิน ดวงจันทร์ก็ลอยเด่นเหนือนภา ในชั่วพริบตาก็เป็นยามท้องฟ้ามืดมนแล้วม้าหนุ่มสองตัวออกจากจวนอ๋อง มุ่งตรงไปยังวังหลวงทันทีอินชิงเสวียนยังคงสวมหน้ากาก ใส่ชุดของบุรุษ เย่จั้นสวมหมวกคลุมศีรษะ บังใบหน้าของเขาไว้ครึ่งหนึ่งเมื่อถึงประตูทางเข้าวังหลวงทั้งสองก็ลงจากหลังม้า แล้วเดินเข้าไปในตำหนักเฉิงเทียนเย่‍จิ่ง‍อวี้กำลังกินลีโวฟล็อกซาซินที่บดเป็นผงอยู่ พอเขาได้ยินว่าเย่จั้นมาถึงแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก“ให้เสด็จอาเข้ามา”เย่จั้นที่สวมเสื้อคลุมเดินเข้ามาจากประตู เมื่อเห็นท่าทางของเขา เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ตวัดเรียวตาหงส์ไปมอง“ท่านอาสิบสามป่วยรึ เหตุใดถึงสวมใส่เสื้อผ้ามากมายเช่นนี้”เย่จั้นก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ข้าอยากให้ฝ่าบาทมองดูอะไรบางอย่าง ฝ่าบาทอย่าตกใจเกินไปนักนะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้ถามด้วยความสับสน “เรื่องอะไรกันแน่ เหตุใดจึงทำให้ลึกลับเพียงนี้”เย่จั้นค่อยๆ ถอดหมวกของเขาออกเมื่อเห็นใบหน้าของเขาเต็มตา เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ตกตะลึง“ใบหน้าของท่าน...”“ไม่เป็นไร อีกครึ่งหน้าเป็นหน้ากากผิวหนังมนุษย์ ฝ่าบาทรู้สึกว่าดูเหมือนใครบางคนหรือไม่”ในตอนท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 287 ความซับซ้อนของคน

    เมื่อได้ยินว่าสวีจือย่วนกำลังจะมา อินชิงเสวียนก็อยากพบนางเช่นกันนอกจากนี้นางควรบอกเรื่องของอา‍ซือ‍หลานกับสวีจือย่วน เพื่อที่นางจะได้ไม่หลงรักจนหัวปักหัวปำ จนโงหัวไม่ขึ้นแต่เย่‍จิ่ง‍อวี้กลับไม่อยากถูกรบกวนจากความอบอุ่นที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้เขาพูดเสียงเรียบ “ไม่พบ”สวีจือย่วนได้เดินมาถึงประตูแล้ว เมื่อนางได้ยินเสียงของเย่‍จิ่ง‍อวี้ คิ้วของนางก็ขมวดเล็กน้อยจากนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยพูดว่า “ฝ่าบาท ท่านพบเถอะ หม่อมฉันก็อยากพบนายหญิงสวีเช่นกัน”สีหน้าของสวีจือย่วนเปลี่ยนไปทันทีเป็นเสียงของอินชิงเสวียน นางกลับมาทำไมแล้วเสียงของเย่‍จิ่ง‍อวี้ดังมาจากภายในห้องโถง“ในเมื่อเสวียน‍เอ๋อร์ต้องการพบนาง ก็ให้นางเข้ามาเถอะ”หลี่เต๋อฝูย่อมได้ยินอยู่แล้ว ซึ่งเขาเองก็จำได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของอินชิงเสวียนโดยปกติแล้วเขาซึ่งเป็นขันทีไม่กล้าถามถึงเรื่องของฝ่าบาท พูดง่ายๆ ก็คือถ้าฝ่าบาทมีความสุข เขาก็สบายใจเขาก้าวถอยหลัง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เชิญนายหญิงสวีเถิด!”“ขอบคุณหลี่กงกง”สวีจือย่วนเปิดประตูอย่างช้าๆเมื่อเข้ามาในห้อง ก็เห็นอินชิงเสวียนในชุดบุรุษนางเดินเข้ามาด้วยความประห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-04

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1506 เส้นทางที่แตกต่างกัน

    อินชิงเสวียนมอบตั๋วเงินเงินอีกหนึ่งพันตำลึงให้แก่ทั้งสามคน กำชับพวกเขาว่าอย่าใช้ฟุ่มเฟือย หากไม่เจอตัวคน ก็สามารถไปพำนักที่เมืองหลวงได้ทั้งสามพยักหน้าซ้ำๆ ขนของทั้งหมดขึ้นรถม้า และจากไปอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“นิสัยแบบนี้นี่เข้ากับเย่จิ่งหลานได้เป็นอย่างดี”เย่จิ่งอวี้ก็มองไปที่ทั้งสามคน พูดด้วยรอยยิ้ม “ชาวยุทธ์ ก็ควรจะเป็นอิสระไม่ยึดติดอย่างชาวยุทธ์ นี่แหละคือความเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริง!”“เช่นนั้นพวกเราก็ควรจากไปอย่างไม่ยึดติดใช่ไหม”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น มองไปยังเย่จิ่งอวี้ ทั้งสองตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ว่าแทนที่จะรอให้พวกเขาสร่างเมา พลัดพรากจากกันด้วยความเป็นความตาย มิสู้จากไปอย่างเงียบๆ “ข้าเชื่อเมียข้าอยู่แล้ว”เย่จิ่งอวี้ผิวปาก เงาสีขาวสองเงาพุ่งออกมาจากระยะไกล ตามมาด้วยรถม้าอินชิงเสวียนตะโกนอย่างมีความสุข“ไป๋เสวี่ย เสี่ยวไป๋!”ไป๋เสวี่ยกางอุ้งเท้าใหญ่ แล้วกอดเอวของอินชิงเสวียนอย่างเสน่หาเสี่ยวไป๋ก็กลิ้งหน้าถูขาของอินชิงเสวียน ซึ่งเป็นการแสดงความใกล้ชิดกับคนที่หาได้ยากอินชิงเสวียนลูบหัวอันใหญ่โตของไป๋เสวี่ย จากนั้นลูบหัวของเสี่ยวไป๋

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1505 ความรู้สึกที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้

    เฮ่อซือจวินออกแรงดึงอินชิงเสวียนขึ้นมา แล้วกอดนางไว้ พูดเสียงสะอื้น “เจ้ายอมรับข้า ข้ารู้สึกขอบคุณยิ่งนัก ชั่วชีวิตนี้จะพยายามดูแลสุขภาพของท่านพ่อและน้าเหมยอย่างเต็มที่”อินชิงเสวียนโน้มตัวไปใกล้ใบหน้าของนาง แล้วพูดเสียงอ่อนหวาน “ท่านเป็นพี่สาวต่างแม่ของข้า จะแตกต่างจากพี่สาวแท้ๆ ได้อย่างไร หากท่านอยู่ในอิ๋นเฉิงแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ไปหาข้าที่เมืองหลวงได้ ข้าจะพาท่านท่องเที่ยวให้สำราญใจแน่นอน”เฮ่อซือจวินพยักหน้าโดยเร็ว“ได้ ถ้ามีโอกาส ข้าจะไปหาเจ้าแน่นอน”“สนใจแต่พี่สาวของเจ้าเท่านั้น ไม่ต้องการพี่ชายแล้วหรือ”เฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากประตู สวมเสื้อคลุมใบไผ่สีเขียวที่ขับเน้นให้เขาดูหล่อเหลา สง่า และเป็นวีรบุรุษไม่ธรรมดา“ชิงเสวียนคำนับพี่ใหญ่”อินชิงเสวียนโค้งคำนับ เฮ่อฉางเฟิงก็รีบเอื้อมมือไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น“เจ้ากับข้าเป็นพี่น้อง ไม่ต้องมากพิธี ตั้งใจจะออกเดินทางเมื่อไหร่หรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“พรุ่งนี้น่ะ ไม่ว่าเราจะอยู่กี่วันก็ต้องไปอยู่ดี ฮ่องเต้จากเมืองหลวงมานานเกินไปแล้ว ในใจพะวงถึงอยู่ตลอด ถึงเวลาต้องกลับไปดูแลแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงก็ตัดใจจากน้องสาวไม่ได้ และยังไม่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1504 เศร้าโศกเพราะการจากลา

    ในวันที่สอง สำนักในยุทธ์จักรที่นำโดยเฮ่ออวิ๋นทง ต่างกล่าวคำอำลากับเฮ่อยวนเฮ่อยวนนำลูกศิษย์อิ๋นเฉิงส่งกันไปไกลถึงสิบสิบลี้ ในอิ๋นเฉิง เซี่ยวอิ่นหวนจับมือของอินชิงเสวียน“กลับภูเขาคราวนี้ เกรงว่าจะต้องจัดระเบียบยกใหญ่ ไม่รู้จะได้เจอพวกเจ้าอีกเมื่อไร พวกเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี ปรึกษาหารือกันทุกเรื่อง หากเผชิญหน้ากับเรื่องใด ต้องพูดมันออกไป อย่าเก็บมันไว้ในใจตัวเอง จะได้ไม่เกิดความขุ่นเคืองสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ”นางถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม้ว่าแม่จะเคยเป็นกุ้ยเฟย แต่ไม่รู้หลักการปกครองบ้านเมือง ความรุ่งเรืองและความเสื่อมของต้าโจวล้วนขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ด้วยความสามารถและการเรียนรู้ของเจ้าทั้งสอง เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปี ก็จะสามารถนำความรุ่งเรืองมาสู่ต้าโจวได้ ถ้าแม่มีเวลาว่าง จะไปหาพวกเจ้ากับจ้าวเอ๋อร์ที่เมืองหลวงย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนจับมือเย่จิ่งอวี้ แล้วพูดอ่อนโยน “ท่านแม่วางใจ ข้ากับอาอวี้จะรักษาตัวให้ดีอย่างแน่นอน”อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวหนานเฟิงดึงชายเสื้อของเซี่ยวอิ่นหวนอย่างไม่เต็มใจ“ท่านย่าจะไปแล้วหรือ”เซี่ยวอิ่นหวนกอดเสี่ยวหนานเฟิง จูบใบหน้ากลมจ้ำม่ำของเขา แล้วพูดด้วยความรัก “ใช

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1500 มิติพังแล้ว

    “จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1499 เคราะห์ตอบสวรรค์

    นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1498 ชิงฮุยตาย

    เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี

DMCA.com Protection Status