หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 276 เหตุการณ์ร้ายแรงแต่ไม่อันตราย

แชร์

บทที่ 276 เหตุการณ์ร้ายแรงแต่ไม่อันตราย

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อเห็นว่าในมือพวกเขาถือถุงดำอยู่ และดูเหมือนจะมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างใน อินชิงเสวียนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

นางรีบวิ่งเข้าไปในห้องโถงด้านในทันที แล้วเรียกเย่จั้นขึ้น

เย่จั้นเป็นคนนอนไวตื่นไวอยู่แล้ว เขาตื่นตั้งแต่ตอนที่อินชิงเสวียนออกจากห้องโถงด้านในแล้ว

เมื่อเห็นนางเข้ามา เขาก็เงยหน้าขึ้นทันที

“เกิดอะไรขึ้น”

อินชิงเสวียนชี้ไปที่โทรศัพท์มือถือ แล้วพูดด้วยความกระวนกระวายใจ “ท่านอ๋อง มีคนไปที่ตำหนักจินหวู อาจเป็นอันตรายต่อจ้าวเอ๋อร์ ท่านอ๋องโปรดไปช่วยเขาโดยเร็วด้วยเถิด”

เมื่อมองดูร่างทั้งสองบนโทรศัพท์ เย่จั้นก็สะดุ้ง และลุกขึ้นยืนทันที

“นี่คือสิ่งของชั่วร้ายอะไร”

“ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย สิ่งนี้เรียกว่าโทรศัพท์มือถือ สามารถเห็นภาพอีกฟากหนึ่งได้ ถ้าท่านอ๋องชอบ ข้าจะมอบให้ท่านอ๋องอันหนึ่ง ภาพที่อยู่ตรงนี้คือตำหนักจินหวู พวกเขากำลังขึ้นไปบนหลังคา คงมีแผนชั่วร้ายอยู่แน่ๆ ขอท่านอ๋องรีบไปช่วยลูกชายของข้าด้วยเถิด”

อินชิงเสวียนกระวนกระวายใจจนนิ้วสั่น

ในเวลานี้ เงาสีขาวได้แวบเข้ามาในจอ แล้วจึงเห็นไป๋เสวี่ยเห่าไปที่หลังคา

พอเห็นไป๋เสวี่ย เย่จั้นจึงเริ่มเชื่อขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าอินชิงเสว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ชุติมา สุขีรัตน์
ลบปลดล้อกอัตโนมัติอแ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 277 คุณสบายดีไหม

    หลังจากที่เย่จั้นจากไปแล้ว อินชิงเสวียนก็รีบหยิบกระจกออกมาดู เมื่อครู่ตอนที่นางร้องไห้ ผงสีดำเหล่านั้นก็ถูกเช็ดออกไปเกือบหมดแล้วจึงรีบเข้าไปในมิติแล้วหยิบผงสีดำออกมา และทาอีกครั้งเมื่อออกมา ก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเย่‍จิ่ง‍อวี้ขาวซีดขึ้นเล็กน้อยอินชิงเสวียนสัมผัสมือของเขา ก็รู้สึกว่านิ้วมือนั้นเย็นเฉียบ ไม่มีความอุ่นเลยอินชิงเสวียนรีบหยิบผ้าห่มอีกผืนมาห่มให้เย่‍จิ่ง‍อวี้ แต่ก็เห็นบนหน้าผากของเย่‍จิ่ง‍อวี้มีเหงื่อมากขึ้นเรื่อยๆ นางก็ไม่วายตื่นตระหนกทำไมถึงดูแย่ลงอีกล่ะอินชิงเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไปที่ประตู กำลังจะไปตามหมอหลวงแต่เมื่อได้ยินเสียงโกลาหลข้างนอก นางก็กดเสียงให้ทุ้มต่ำลงทันที แล้วถามว่า “วุ่นวายอะไร”ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว หลี่เต๋อฝูก็จำอินชิงเสวียนไม่ได้ เมื่อเห็นว่านางอยู่กับเย่จั้นตลอด จึงคิดว่านางเป็นคนสนิทของเย่จั้น ดังนั้นเขาจึงตอบว่า “ฝูอี้อ๋อง บอกว่าเขาต้องการเข้าเฝ้าฝ่าบาท” อินชิงเสวียนมีความคิดแวบหนึ่งขึ้นในหัวเขามาทำอะไรหรือว่าเจ้าเด็กนี่ก็โลภบัลลังก์เช่นกันขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น นางก็ได้ยินเย่จิ่งหลานพูดว่า “ข้ามียาอยู่ด้วย อาจสามารถ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 278 เย่จิ่งหลานผู้ยอดเยี่ยม

    เลือดพุ่งกระเซ็นใส่เต็มใบหน้าของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนเป็นคนที่กลัวเลือดมาก จู่ๆ ในโพรงจมูกก็มีความรู้สึกหายใจไม่ออกดันออกมาเย่จิ่งหลานเหลือบมองนางแล้วพูดเบาๆ “ถึงรู้สึกเวียนหัวก็ต้องอดทนให้ได้นะ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า คีมห้ามเลือดหมายเลข 3”อินชิงเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วไปหาคีมเลือดหมายเลข 3 มา“ข้าไม่เป็นไร”นางอดทนต่ออาการเวียนหัว แล้วส่งอุปกรณ์ให้เย่จิ่งหลานต่อเมื่อมองดูใบหน้าเล็กๆ ที่ดูจริงจังมากของเขา อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้จริงๆ ที่เด็กอายุเจ็ดแปดขวบจะสามารถทำการผ่าตัดที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้พอมองดูบาดแผลที่น่ากลัวภายใต้ผ้าฆ่าเชื้อสีน้ำเงิน อินชิงเสวียนก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอีก รีบเบือนหน้าหนีไปอีกด้านทันทีภาพการโชกเลือดแบบนี้ กระทบกระเทือนจิตใจของนางมากจริงๆมิน่าล่ะแพทย์ที่ทำการผ่าตัดถึงไม่อนุญาตให้สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยเข้ามาระหว่างการผ่าตัด คนที่มีความอดทนทางใจต่ำอาจเป็นลมไปเลยก็ได้ทว่าใบหน้าของเย่จิ่งหลานกลับสงบลงเรื่อยๆ ความตื่นเต้นในดวงตายิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆมิติของเขาต้องทำการผ่าตัดใหญ่ จึงจะได้คะแนนที่เหมาะสมมา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 279 เจ็บปวดหัวใจ

    ขนตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้สั่นเบาๆ แล้วเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นสายตาของเขายังคงพร่ามัวเล็กน้อย สามารถมองเห็นคนสองคนที่อยู่ตรงหน้าได้รางๆแล้วเขาก็ถามอย่างอ่อนแรง “ที่นี่ที่ไหน”เย่จั้นรีบตอบ “นี่คือตำหนักเฉิงเทียนในวังหลวง”เย่‍จิ่ง‍อวี้ตอบรับเบาๆ หลับตาแล้วพูดด้วยเสียงงัวเงีย “ดูเหมือนข้าจะฝันไป...ข้าฝันถึงเสวียน‍เอ๋อร์...”เมื่อได้ยินเขาพูดถึงชื่อของตัวเอง อินชิงเสวียนก็รู้สึกว่าลำคอตีบตัน อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากแรง“ฝ่าบาทอย่าเพิ่งพูดเลย รีบพักผ่อนให้มากๆ เถิด”เย่‍จิ่ง‍อวี้มองมาทางนางทันที“เสวียน‍เอ๋อร์?”แล้วเขาก็ส่ายศีรษะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรงว่า “ข้าคงฝันไปอีกแล้ว นางเกลียดข้าถึงเพียงนั้น นางจะมาหาข้าได้อย่างไร”หลังจากพูดจบ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็หลับลึกอีกครั้งอินชิงเสวียนจับมือของเขา ในใจรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบทนไม่ไหวนางหายใจเข้าลึกๆ อดทนต่อความร้อนในดวงตา แล้วพูดโดยไร้สุ้มเสียง เย่‍จิ่ง‍อวี้ ท่านดีกับข้ามากขนาดนี้ ข้าจะเกลียดท่านได้อย่างไรเย่จั้นตรวจชีพจรเย่‍จิ่ง‍อวี้อีกครั้งแล้วกระซิบว่า “ในเมื่อฝ่าบาททรงฟื้นได้แล้ว เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาปลอดภัยแล้ว เพื่อป้องก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 280 พระองค์ทำให้หม่อมฉันตกใจแทบแย่

    เย่จั้นนั่งลงบนเตียงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลเลย จ้าวเอ๋อร์ยังอยู่ดีในตำหนักจินหวู”เย่‍จิ่ง‍อวี้ค่อยๆ วางมือลงแล้วพึมพำ “ดีแล้ว ดีแล้ว!”เย่จั้นล้วงถุงผงสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ แล้วช่วยประคองเย่‍จิ่ง‍อวี้อย่างระมัดระวัง“ฝ่าบาทเสวยยาเหล่านี้ด้วย พระอาการจะได้ดีขึ้นโดยเร็ว”เขารู้ว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้เป็นคนเฉลียวฉลาด ดังนั้นเขาจึงสั่งให้หลี่เต๋อฝูทุบเม็ดยาให้เป็นผงละเอียดเย่‍จิ่ง‍อวี้มองแล้วถามว่า “นี่คือยาอะไร”เย่จั้นกล่าวอย่างขัดเจตนาว่า “เป็นยาที่หมอเท้าเปลือยจากนอกวังเก็บไว้ให้น่ะ หากฝ่าบาทได้เสวยแล้ว อาการจึงจะดีขึ้น”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้า กินยาแล้วหลับไปอีกครั้งในเวลานี้เอง ข่าวที่ฝ่าบาททรงฟื้นได้แพร่กระจายออกไปทันใดนั้นไทเฮาก็เดินกลับไปกลับมาอยู่ในตำหนักเหมือนหนูติดจั่น“เด็กนี่โชคดีจริงๆ ได้ยินว่าถูกพิษจากดีนกยูงไม่ใช่หรือ หมอหลวงเหล่านั้นบอกข้าว่า เมื่อพิษนั้นเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะหมดทางเยียวยา เหตุใดเขาถึงฟื้นขึ้นมาได้อีก”ชุยไห่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าที่ปริปากเอ่ยคำใดทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดถึงบางอย่างขึ้นได้ จึงพูดออกมาว่า “กระหม่อมได้ยินม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 281 ห้ามคนนอกมาใส่ไคล้ทำลายชื่อเสียงเด็ดขาด

    “เจ้ามาได้อย่างไร”เมื่อเห็นสวีจือย่วน เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยสวีจือย่วนพูดด้วยขอบตาแดงก่ำ “หม่อมฉันได้ยินมาว่าฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัส ในใจรู้สึกกระวนกระวายดั่งไฟแผดเผา วันนี้รู้มาว่าฝ่าบาททรงฟื้นแล้ว จึงรีบมาเยี่ยมทันที”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดเบาๆ “ทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว”สวีจือย่วนก้มหน้ายืนข้างเตียง พูดด้วยความเคารพนบนอบ “ฝ่าบาทช่วยหม่อมฉันให้พ้นจากอันตราย หม่อมฉันย่อมเป็นห่วงพระองค์อยู่แล้ว”เย่‍จิ่ง‍อวี้เหลือบมองนางแวบหนึ่ง “ข้าไม่เป็นไร”สวีจือย่วนกัดริมฝีปาก แล้วถามด้วยเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ จะไม่เป็นไรได้อย่างไร บาดแผลของฝ่าบาทจะต้องเจ็บปวดมากใช่หรือไม่เพคะ”“ไม่เป็นไร ข้าทนได้”เย่‍จิ่ง‍อวี้พิงหมอนนุ่ม เรียวตาหงส์ครึ่งหลับครึ่งตื่น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจที่จะพูดคุยมากนักสวีจือย่วนลอบมองหน้าเขา แล้วถามว่า “ได้ยินมาว่าคนที่แทงฝ่าบาท...คือพระสนมเหยาเฟย?”ทันใดนั้นเรียวตายาวของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ลืมตาขึ้น แววตาเยียบเย็นขึ้นหลายส่วน“ไร้สาระ เหยาเฟยจะแทงข้าได้อย่างไร”เมื่อเกิดความรู้สึกโกรธ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็เริ่มหอบอีกครั้งสวีจือย่วนคุกเข่าข

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 282 ราชาสวรรค์เหนือกว่าพยัคฆ์ประจำถิ่น

    ณ จวนจิ้งอ๋องอินชิงเสวียนล้างผงสีดำออก แล้วผลัดเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษสีฟ้าครามนางรวบผมขึ้นด้วยกวานรัดเกล้าทรงสูง ด้านในสวมเสื้อป้ายตัวในสีขาว เมื่อประกอบกับแววตาที่ซ่อนไว้ด้วยความองอาจ ยิ่งทำให้มองไม่เห็นลักษณะเด่นของความเป็นสตรีชัดเจน แต่กลับให้ความรู้สึกของหนุ่มน้อยผู้มีรสนิยมดีที่สวมชุดหรูหราเมื่อเทียบกับกระโปรงคาดอกสามชั้น อินชิงเสวียนชอบชุดบุรุษที่ดูสบายตัวมากกว่า“ขอบพระทัยท่านอ๋อง เสื้อผ้าสวมใส่ได้พอดี”นางดึงชายเสื้อคลุมแล้วถามว่า “วันนี้ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง”“ยังดี มื้อเช้าพอกินอะไรได้บ้าง อาการก็ค่อยๆ ฟื้นตัวดัขึ้น”เย่จั้นวางถ้วยชาลงแล้วพูดอย่างอบอุ่น “ฝ่าบาทฝึกฝนวรยุทธ์สม่ำเสมอทั้งปี สุขภาพดีกว่าคนทั่วไปมาก พระสนมเหยาเฟยไม่ต้องเป็นห่วง”“ดีแล้ว”เมื่อนึกถึงใบหน้าที่ซีดเซียวและดวงตาที่ปิดสนิทของเย่‍จิ่ง‍อวี้ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“ในเมื่อเขาไม่ว่ามีวิชาแปลงโฉม เกรงว่าคงเป็นการยากที่จะขจัดความสงสัยในตัวข้า”เย่จั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “นั่นไม่เป็นความจริงเลย ข้าเห็นว่าฝ่าบาทไม่ได้ลืมความรักที่มีต่อเจ้าเพราะเหตุนี้เลย เพียงแต่เป็นเรื่องยากท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 283 หน้ากากครึ่งหน้า

    สีหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนไปทันที แล้วร่างนั้นก็ถอยหลังไปหนึ่งจั้ง“ท่านอ๋อง จอมพลเฒ่ากวน พวกท่าน...”“ข้าต้องเอาชีวิตเจ้ามาให้ได้!”เย่จั้นเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย แล้วร่างของเขาก็พุ่งไปยังอินชิงเสวียนอย่างรวดเร็วตัวปลอมยังคงเสแสร้งแกล้งทำ เหาะกลับไปกลับมาพร้อมกับตะโกนไปด้วย “ปาจารย์ ช่วยข้าด้วย”แม้ว่าจอมพลเฒ่าจะขาพิการไปข้างหนึ่ง แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็ไม่ช้าเขาคว้าหอกที่อยู่ข้างๆ และพุ่งหอกใส่ตัวปลอม“ชิงเสวียนไม่เป็นวรยุทธ์ เจ้าเป็นตัวปลอม”ดวงตาของกวนเซี่ยวแสดงความประหลาดใจ นับตั้งแต่ฝ่าบาทถูกลอบสังหาร ชายชราก็ไม่ยอมให้เขาออกจากจวน ดังนั้นกวนเซี่ยวจึงไม่ได้เจอหน้าอาซือหลาน และไม่รู้เกี่ยวกับหน้ากากผิวหนังมนุษย์ เมื่อได้ยินสิ่งที่ปู่พูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสนตัวปลอมนี้คงไม่ใช่ใครอื่นแล้ว นอกจากโยวหลานผู้เป็นหนึ่งในสาวใช้ของอา‍ซือ‍หลานเมื่อเห็นว่าตัวตนของนางถูกเปิดเผย นางกลับไม่ตื่นตระหนก แต่กลับหัวเราะ สะบัดข้อมือ แล้วมีดสองเล่มก็มาอยู่ในมือ“ในเมื่อพวกเจ้ารู้ว่าข้าเป็นตัวปลอม เช่นนั้นก็หมายความว่าได้พบกับอินชิงเสวียนแล้ว นางอยู่ที่ไหน บอกมานะ แล้วข้าจะไว้ชีว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 284 ข้าเวียนศีรษะ

    ทันใดนั้นดวงตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็มืดลง เขามองไปยังซ่งเซี่ยด้วยแววตาเยียบเย็น“ใครบอกแม่ทัพซ่ง ว่าผู้ที่ทำร้ายข้าคือเหยาเฟย?”ซ่งเซี่ยเป็นคนที่ดีแค่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่กลับมีความคิดมักง่าย เขาพูดโดยไม่ยั้งคิด “ข่าวนี้มาจากในวังพ่ะย่ะค่ะ ทุกคนต่างก็ทราบดี ขอฝ่าบาทโปรดทรงวินิจฉัยโดยเร็ว”เย่‍จิ่ง‍อวี้แค่นเสียงอย่างเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ผู้ที่กล้าบิดเบือนความจริงเช่นนี้ ทำราวกับไม่เห็นข้าในสายตา หากรู้ว่าผู้ใดเป็นคนแพร่ข่าวลือ ข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ เด็ดขาด”ซ่งเซี่ยยังคงพูดอย่างดื้อดึง “ดังคำกล่าวที่ว่า หากไม่มีลมไหนเลยจะมีคลื่น ฝ่าบาทควรจับตัวนังมารร้ายนั่นมา เพื่อดำรงไว้ซึ่งความชอบธรรม!”เรียวตาหงส์ของเย่‍จิ่ง‍อวี้เย็นชา พูดเสียงเฉียบขาด “เป็นเพียงคนที่ได้ฟังข่าวลือมาเท่านั้น แต่กลับกล้ามาเห่าหอนต่อหน้าข้า ข้าต้องทำอย่างไร ต้องให้เจ้ามาสอนด้วยรึ”เมื่อเห็นว่าฝ่าบาทโกรธ ซ่งเซี่ยก็ตกใจกลัว รีบคุกเข่าเสียงกระทบพื้นดังลั่น“ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะ กระหม่อมเพียงแต่คิดถึงความปลอดภัยของฝ่าบาท”เย่‍จิ่ง‍อวี้เกรี้ยวกราดรุนแรง “ยังกล้าแก้ตัวอีก เด็กๆ ลากตัวซ่งเซี่ยออกไป ลงโทษโบย

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1456 ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้

    “ได้ เช่นนั้นข้าจะทำนายดูอีกครั้ง”นักพรตเทียนชิงหยิบเหรียญอีแปะและกระดองเต่าออกมา เขย่าหกครั้ง ค่อยๆ จัดเรียงเหรียญทีละเหรียญ เขามองดูพวกมันอยู่ครู่หนึ่ง ลูบหนวดเคราแล้วพูดว่า “ภาพทำนายไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย คุณชายน้อยเย่...”“เป็นอย่างไรบ้าง เขากลับมาไม่ได้กระนั้นหรือ”อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ“พูดยาก ทุกสิ่งในตัวเขาไม่แน่นอนมาก ดอกไม้ไม่ใช่ดอกไม้ หมอกก็ไม่ใช่หมอก เหมือนมองดอกไม้ในสายหมอก ยากที่จะเห็นภาพที่แท้จริง ข้าไม่เคยเห็นภาพทำนายเช่นนี้มาก่อน”นักพรตเทียนชิงมองดูเหรียญอีแปะด้วยสีหน้าประหลาดใจมากอินชิงเสวียนถอนหายใจ“เอาเถอะ ถ้าเขาสามารถกลับไปยังที่ที่เขาอยู่ได้จริงๆ ก็คงจะดี”เดิมทีเย่จิ่งหลานไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้มากนัก แทนที่จะเป็นแบบนี้ ไม่สู้ปล่อยให้เขาไปในที่ที่เขาต้องการไปดีกว่าเขาเป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้างประโยชน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้นักพรตเทียนชิงไม่ได้พูด บรรยากาศอึมครึมอยู่พักหนึ่งอินชิงเสวียนรู้สึกเศร้า จากนั้นทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาและถามว่า “ท่านนักพรตสามารถทำนายได้หรือไม่ว่าชิงฮุยอยู่ที่ไหน”นัก

DMCA.com Protection Status