แชร์

บทที่ 211 นักฆ่า

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ณ ตำหนักฉือหนิง

งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันประสูติของไทเฮายังคงดำเนินต่อไป

เหล่าขุนนางต่างผลัดถ้วยแลกจอก กล่าววาจาที่เต็มไปด้วยถ้อยคำอันเป็นมงคล

เย่จิ่งเย่าอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น ถึงอย่างไรขิงแก่ก็ยังเผ็ดอยู่วันยังค่ำ

ทำไมเขาจึงไม่เคยนึกถึงเสวียนเจินไต้ซือกันนะ

คืนนี้ต้องให้นังแพศยาอินชิงเสวียนได้ลิ้มรสความร้ายกาจของเขา เพื่อล้างแค้นที่นางโกนขนคิ้วเขาวันั้น

ไทเฮายิ่งยิ้มร่าราวกับดอกไม้บาน คิดไม่ถึงนังแพศยานี่จะถูดจัดการได้ง่ายดายปานนี้

ไม่ว่าสามวันต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร นางก็ไม่มีทางรอดชีวิตออกมาได้

ทว่านัยน์ตาของเย่จิ่งอวี้เย็นเย็น เมื่องานเลี้ยงผ่านไปได้ครึ่งทาง เขาก็อ้างวาปวดศีรษะขอตัวออกมาก่อน

เมื่อกลับมาถึงตำหนักเฉิงเทียน เย่จิ่งอวี้ก็เกรี้ยวกราดในทันที

“ไทเฮานับวันจะยิ่งเหลือเกินจริงๆ ถึงกลับกล้าลงมือกับคนของข้าอย่างอุกอาจถึงเพียงนี้ นางคิดจะแตกหักกับข้าจริงๆ สินะ”

หลี่เต๋อฝูอดเป็นกังวลเสียมิได้

“ฝ่าบาท แล้วพระสนมเหยาเฟยจะทำเช่นไรดีพ่ะย่ะค่ะ จะให้นางอยู่ในหอสวดมนต์สามวันจริงหรือ”

เย่จิ่งอวี้กล่าวเสียงทุ้มต่ำ “นี่เป็นกฎที่ตั้งขึ้นโดยฮ่องเต้องค์ก่อน อีกอย่าง ตอนที่ฮ่อง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Sutinunauj Aujsatid
ตื่นเต้น สนุกมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 212 ข้าจะทำให้นางตายเดี๋ยวนี้เลย

    ชายชุดดำสองคนมีฝีมือการต่อสู้เก่งกาจอย่างมาก หน่วยอารักขาทั้งหลายคำรามเสียงต่ำอยู่มิวายเสวียนเจินยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา ครั้นเห็นหน่วยอารักขาหลายสิบนายล่าถอย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปร้องตะโกนเสียงทุ้มต่ำ “จุดสัญญาณไฟแจ้งเหตุ!”ทันใดนั้นมีคนกระโดดขึ้นไปบนหอสัญญาณไฟด้านหลังหอสวดมนต์ฮ่องเต้องค์ก่อนมีพระบัญชาว่า หากมีการจุดสัญญาณไฟแจ้งเหตุขึ้นในหอสวดมนต์ ทหารองครักษ์ทั้งหมดในวังหลวงต้องมาช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังชายชุดดำสบตากัน หนึ่งในนั้นก็เค้นเสียงตะโกนว่า “ถอย!”จากทั้งสองคนก็ใช้อุบายหลอกตา แล้วกระโดดข้ามกำแพงไปอินชิงเสวียนยกมือขึ้นเท้าคาง ขมวดคิ้วมองอยู่หลวงจีนเฒ่าคนนี้ดูไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย!แค่หอสวดมนต์เล็กๆ แต่กลับมีหอสัญญาณไฟและหน่วยอารักขามากมายขนาดนี้!บ่อน้ำในวังหลวงชักจะลึกขึ้นเรื่อยๆ แล้วตอนนี้นางไม่รู้ว่าผู้ที่มาเป็นใคร จะมาช่วยนาง หรือมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่กันแน่อินชิงเสวียนคิดไม่ตก ทำได้เพียงรอให้ผ่านพ้นไปก่อนสามวัน แล้วจึงค่อยตัดสินใจนางอ้าปากหาว นอนราบบนพื้นสนามหญ้าณ ตำหนักเฉิงเทียนร่างสีดำสองร่างพุ่งปราดเข้ามาในห้องโถงด้านใน หนึ่งในนั้นก็ถอดผ้าปิดหน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 213 หญิงแกร่งห้านาที

    ณ ตำหนักฉือหนิงชุยไห่เฝ้าเวรดึกอยู่ด้านนอก ทันใดนั้นเขาเห็นสัญญาณไฟแจ้งเหตุถูกจุดอยู่ไกลๆ จึงวิ่งเข้าไปในห้องโถงด้านในทันที“ไทเฮา ที่หอสวดมนต์มีการจุดสัญญาณไฟแจ้งเหตุพ่ะย่ะค่ะ เกรงว่าอาจเกิดเรื่องขึ้น”ไทเฮายังไม่หลับ มีลู่จิ้งเสียนอยู่ข้างๆ ด้วยวันนี้อินชิงเสวียนถูกจับ ทั้งคู่ตื่นเต้นมาก กำลังพูดคุยกันถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้าเมื่อได้ยินว่ามีการจุดสัญญาณไฟแจ้งเหตุในหอสวดมนต์ ไทเฮาก็ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ข้ารู้อยู่แล้วว่าคืนนี้วังหลังต้องไม่สงบ ชุยไห่เจ้านำทหารองครักษ์ในวังไปที่นั่นก่อน ข้าจะตามไปเดี๋ยวนี้”เมื่อคิดว่าเย่จิ่งเย่าก็ไปที่หอสวดมนต์เช่นกัน ก็อดกังวลไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขา“เสียนเอ๋อร์ รีบไปดูกันเถอะ”ไทเฮาคว้าแขนของลู่จิ้งเสียน แล้วเดินออกไปที่ประตูซึ่งในเวลานี้เอง เย่จิ่งเย่าเดินไปได้ห้าก้าวสามก้าวก็หยุกพักนั่งหนึ่งที อินชิงเสวียนใส่ผงสลอดลงในเค้ก ตอนนี้มันก็ออกฤทธิ์แล้ว เย่จิ่งเย่ากินมากที่สุด จึงออกฤทธิ์เร็วกว่าคนอื่น ทันทีที่ลุกขึ้นยืน ท้องก็เริ่มปวดขึ้นทันทีด้านไทเฮาที่ออกจากตำหนักฉือหนิงแล้ว หลังจากเดินไม่กี่ก้าวนางก็

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 214 เจ้าน่ะสิเป็นปีศาจหลวงจีน

    ณ เรือนจุ้ยหงฟางรั่วขมวดคิ้วเดินกลับไปกลับมาในห้องขนาดตัวเองยังได้ยินเรื่องแบบนี้ นายท่านก็ต้องได้ยินแล้วเหมือนกันขณะที่กวนเซี่ยวนั่งดื่มสุราอยู่ข้างๆ อย่างสบายอารมณ์“คุณชายใหญ่ยังไม่มา เจ้าจะกังวลไปทำไมล่ะ มิสู้ดื่มสุรากับข้าคลายความกังวลไม่ดีกว่าหรือ”ฟางรั่วแค่นเสียงขึ้นจมูก พูดว่า “เจ้ายังมีอารมณ์มาดื่มสุราอีกนะ หากนายท่านรู้ว่าอินชิงเสวียนตกอยู่ในอันตราย เขาต้องบุกเข้าวังหลวงในยามวิกาลอีกแน่นอน”กวนเซี่ยวคลี่ยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ถ้าเขาอยากไป เจ้าจะหยุดเขาได้งั้นหรือ”ในเวลานี้ เขาถือกาสุรา ท่าทางเอื่อยเฉื่อยสบายอารมณ์ ซึ่งแตกต่างจากท่าทีระมัดระวังตัวที่เขาแสดงให้อินชิงเสวียนเห็นโดยสิ้นเชิงฟางรั่วแค่นเสียงขึ้นจมูก พูดว่า “เจ้าก็คงไม่อยากให้คุณชายใหญ่ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันกระมัง หาไม่แล้วเจ้าคงไม่คิดหาหนทางพาเขาออกมาจากจวนจอมพลหรอก”กวนเซี่ยวพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ย่อมเป็นเช่นนั้น คุณชายใหญ่ไม่ใช่คนบ้าบิ่น จะทำสิ่งใดเขาย่อมมีขอบเขตอยู่แล้ว”ฟางรั่วเหลือบมองเขาแล้วพูดว่า “เจ้าที่มีฐานะเป็นถึงหลานชายของจอมพลกวน ทำเช่นนี้เพราะมีเจตนาใด”กวนเซี่ยวจิบสุราแล้วพูดอย่างสบายๆ “เจ้า

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 215 กระหน่ำตีเสวียนเจิน

    เสวียนเจินรู้สึกราวกับว่าใบหน้าของเขาถูกแผ่นเหล็กตบอย่างแรงหลายครั้ง ความเจ็บปวดรุนแรงมากจนส่งเสียงไม่ได้เลย รู้สึกถึงความเค็มอยู่ในปาก มีฟันซี่ใหญ่สองซี่หลุดออกมาจากปากด้วยซึ่งเหตุการณ์อันกลับตาลปัตรนี้ทำให้ทุกคนตกใจดวงตาหลายคู่มองไปที่ร่างที่สวมชุดสีเหลืองอ่อนครั้นแล้วคนผู้นั้นก็หยุดมือ แล้วชี้ไปที่เสวียนเจิน ตะโกนว่า “เจ้าปีศาจหลวงจีน เห็นชัดว่าเจ้าเป็นปีศาจที่สร้างปัญหาในวังหลัง”เมื่อเห็นใบหน้าที่สวยงามนั้น ไทเฮาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเป็นอินชิงเสวียน นังแพศยานี่ยังไม่ตาย!“บังอาจ เจ้าปีศาจร้าย กล้าทำร้ายเสวียนเจินไต้ซือได้อย่างไร เด็กๆ มาจับตัวปีศาจร้ายไว้”“ช้าก่อน!”เย่จิ่งอวี้กลับมามีสติสัมปชัญญะในทันที ก้าวไปข้างหน้า ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ไต้ซือบอกว่ารูปลักษณ์ของพระสนมเหยาเฟยถูกทำลายแล้วมิใช่หรือ แล้วตอนนี้จะอธิบายว่าอย่างไร”เมื่อเป็นคำสั่งจากฮ่องเต้ ทหารองครักษ์ย่อมไม่กล้าลงมือเป็นธรรมดาเสวียนเจินถูกตบจนเลือดไหลออกมาจากจมูก เครื่องแบบหลวงจีนสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือด ไม่ได้ดูเหมือนหลวงจีนผู้สูงส่งอีกแล้วเขายกมือขึ้นปิดจมูก สูดหายใจเข้าแรงๆ แล้วพูดว่า “ไม่คิดว่าพล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 216 อับอายจนเหงื่อตก

    เขารีบไปเปิดประตูทันที แล้วก็เห็นฝ่าบาทอุ้มอินชิงเสวียนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วปานลมกรด“ถวายบังคมฝ่าบาท!”“ตามสบาย”เย่จิ่งอวี้มาที่ห้องโถงด้านใน และวางอินชิงเสวียนที่กำลังแกล้งเป็นลมไว้บนเตียงเสี่ยวหนานเฟิงเมื่อเห็นแม่เขาก็ถีบขาด้วยความดีใจ มือป้อมๆ ก็ไขว่คว้าไม่หยุด พยายามไปหาอินชิงเสวียนยายหลี่กอดเสี่ยวหนานเฟิงไว้แน่น พูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันรับใช้พระสนมมาตั้งแต่เกิด หม่อมฉันกล้ารับประกันด้วยชีวิตว่าพระสนมไม่ใช่ปีศาจอย่างแน่นอน”อวิ๋นฉ่ายก็คุกเข่าลงโขกศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่า “หม่อมฉันก็ขอรับรองด้วยชีวิตเช่นกันเพคะ นายหญิงนางเป็นคนดี”เสี่ยวอานจื่อก็พูดตามมาอีกว่า “ฝ่าบาท ปีศาจในตำราภาพวาดล้วนแต่เป็นคนจิตใจชั่วร้ายอย่างยิ่ง พระสนมจิตใจดี มักจะคิดถึงราษฎรและต้าโจวเสมอ จะเป็นปีศาจได้อย่างไร”หลังจากได้ยินสิ่งที่คนเหล่านี้พูด อินชิงเสวียนก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ใบหน้าแดงเถือกแม้ว่านางจะทำสิ่งดีๆ ให้กับราษฎร แต่ความตั้งใจเดิมของนางคือการหลอกลวงเย่จิ่งอวี้ ต้องการที่จะไปจากวังหลวง ไม่เหมาะกับคำว่า ‘คนดี’ สองคำนี้จริงๆเย่จิ่งอวี้พูดเบาๆ “พวกเจ้าทุกคนลุกขึ้นเถิด ปีศาจร้ายอะ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 217 เจ้าจับปีศาจได้อีกแล้วรึ

    หลังจากที่หานปิงเดินออกไป สวีจือย่วนก็จมอยู่ในห้วงความคิดลึกซึ้งอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน นางก็ถอนหายใจเบาๆ หยิบเข็มขึ้นมาแล้วเย็บเสื้อผ้าให้เสี่ยวหนานเฟิงต่อ...ในเวลานี้ ซูฉ่ายเวยก็มีความรู้สึกผสมปนเปไปหมดเหมือนกันรู้สึกดีใจที่อินชิงเสวียนยังไม่ตาย ต่อไปยังสามารถซื้อของเพื่อเอาใจนางได้อีก แต่ก็รู้สึกกังวลที่นางยังไม่ตาย ได้ยินมาว่าฝ่าบาทได้อุ้มนางกลับไปที่ตำหนักจินหวูด้วยตัวเองเมื่อคิดว่าพวกนางทั้งสองต่างก็เป็นสนมขั้นเฟย ในขณะที่เหยาเฟยอาศัยอยู่ในตำหนักจินหวู แต่ตัวเองกลับยังคงอาศัยอยู่ในหอฉงฮวาเล็กๆ จู่ๆ ในใจก็คิดว่าไม่ยุติธรรมในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเซียงหลานพูดว่า “พระสนม นายหญิงฉู่และนายหญิงท่านอื่นๆ มาเพคะ”ซูฉ่ายเวยกำลังจะหาคนคุยอยู่พอดี เมื่อได้ยินดังนี้จึงบอกว่า “ให้พวกนางเข้ามา”หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฉู่หลิงอวี้ที่สวมกระโปรงสีเขียวก็เดินนำทุกคนเข้ามาแม้ว่าฉู่หลิงอวี้จะไม่มีตำแหน่ง แต่กลับมีนิสัยเจ้าเล่ห์แสนกลชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ จึงกลายเป็นผู้นำของเหล่าหญิงงามไปโดยปริยาย นอกจากนี้ฉู่หลิงอวี้ยังมีภูมิหลังตระกูลที่ดี ตระกูลฝ่ายแม่เป็นคนค้าขาย จึงมีเงิน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 218 ข้าป้อนเจ้าเอง

    อินชิงเสวียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถามด้วยแววตาเป็นประกาย “ฝ่าบาทยอมมอบตัวปีศาจหลวงจีนนั่นให้หม่อมฉันจริงหรือเพคะ”เมื่อเห็นท่าทางของนางดูมีชีวิตชีวา เย่จิ่งอวี้ก็ดูเหมือนจะได้ตัวเสี่ยวเสวียนจื่อผู้เฉลียวฉลาดซุกซนคนเดิมกลับคืนมาเขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายรักใคร่“แน่นอน แต่เจ้าต้องมั่นใจว่าจะจัดการเขาให้อยู่หมัดให้ได้”อินชิงเสวียนยิ้มอย่างภาคภูมิใจกล่าวว่า “นั่นไม่มีปัญหา หม่อมฉันจะทำให้เขาเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมาอย่างแน่นอน”เย่จิ่งอวี้คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะเรียกรวมทุกคนในวังหลัง ให้ไปพร้อมกันที่หอสวดมนต์”“พรุ่งนี้...” อินชิงเสวียนขมวดคิ้วเย่จิ่งอวี้เงยหน้าขึ้นมอง “มีอะไรรึ เจ้ามีความลำบากใจ?”อินชิงเสวียนลังเลก่อนจะพูดว่า “ไม่มีความลำบากใจเพคะ หากต้องการให้เขาเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริง ไม่ว่าจะอย่างไรหม่อมฉันก็ต้องไปพบเขาก่อน”เย่จิ่งอวี้คลี่ยิ้มบางๆ การจับปีศาจนั้นเป็นเพียงฉากบังหน้าเรื่องไร้สาระจริงๆ ด้วย ยายเด็กนี่ต้องมีความคิดชั่วร้ายอีกแน่ๆ“เจ้าอยากเจอเขายามใด”อินชิงเสวียนกลอกตาครุ่นคิดแล้วบอกว่า “หากมีการประกาศให้ใต้หล้า

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 219 ข้าจะทำอะไรต้องให้พวกเจ้าสอนด้วยรึ

    เมื่อได้ยินคำว่าป้อนเอง อินชิงเสวียนก็นึกถึงฉากในภาพยนตร์ที่ชายและหญิงป้อนยาแบบปากต่อปาก แล้วจึงรู้สึกร้อนหูอยู่มิวาย“ไม่ดีกว่าเพคะ หม่อมฉันดื่มเอง”นางรีบคว้าชามยา ดื่มยาในอึกเดียว และทันใดนั้นใบหน้าแห่งความขมขื่นก็ปรากฏขึ้นเย่จิ่งอวี้หยิบผลไม้แช่อิ่มจากมือของอวิ๋นฉ่ายมาส่งให้นาง“รีบกินซะ จะได้หายขม”อินชิงเสวียนยัดเข้าไปในปากของตัวเองทันที แล้วรสหวานอมเปรี้ยวก็แผ่ซ่านอยู่ในปาก ทำให้รู้สึกความสุขยิ่งเมื่อเห็นปากของอินชิงเสวียนขยับ เสี่ยวหนานเฟิงก็โน้มตัวไปข้างหน้า ยื่นมือเล็กๆ ของเขาออกมา คว้าผลไม้แช่อิ่มชิ้นหนึ่ง หมายจุยัดมันเข้าปากตัวเองอินชิงเสวียนตกใจ “รีบแย่งคืนเร็ว!”เย่จิ่งอวี้มือไวตาไวรีบคว้าผลไม้แช่อิ่มอย่างรวดเร็ว เสี่ยวหนานเฟิงจึงได้กินแต่อากาศดวงตาสีดำโตของเขาจ้องเป๋ง ทำริมฝีปากขมุบขมิบ ไม่เห็นมีรสชาติอะไรเลย จากนั้นเขาก็มองดูผลไม้แช่อิ่มที่อยู่ในมือของเย่จิ่งอวี้ ปากเล็กเบะออก แล้วน้ำตาหยดใหญ่ก็ไหลออกมาทันทีเมื่อเห็นลูกร้องไห้ เย่จิ่งอวี้ก็ตื่นตระหนกทันที“ทำอย่างไรดี มีอะไรที่เขากินได้บ้าง รีบเอามาเร็ว”เสี่ยวหนานเฟิงชี้ไปที่ผลไม้แช่อิ่ม ขณะที่น้ำตาไหล

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

DMCA.com Protection Status