Share

บทที่ 170 ลูกกตัญญู

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-01-06 16:00:01
บุรุษผู้นั้นยิ้มเยาะ

"อย่างเจ้าน่ะหรือ จะเข้าไปในจวนจิ้งอ๋องได้"

ฟางรั่วกัดริมฝีปาก และไม่พูดอะไรอีก

บุรุษผู้นั้นมองไปข้างหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คนเหล่านั้นล้วนเป็นชาวยุทธ์ พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของเจ้าและข้า แม้ว่าพวกเขาจะถูกจับได้ แต่ก็ให้ปากคำไม่ได้ ไม่ต้องกังวล"

ฟางรั่วโค้งคำนับเล็กน้อย "ข้านอยทราบแล้ว"

นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "น่าเสียดายที่โอกาสในการกำจัดเย่จิ่งอวี้นั้นสูญเปล่า เรามีนักธนูพิษหลายสิบคน หากเราใช้กำลังเต็มที่ บางที..."

ใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เจ้าอยากให้ข้าเดิมพันด้วยชีวิตของชิงเสวียนงั้นรึ"

ฟางรั่วก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก

"ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว"

บุรุษผู้นั้นตะคอกอย่างเย็นชา "ออกไป"

หลังจากที่ฟางรั่วจากไป ดวงตาของบุรุษผู้นั้นก็ค่อยๆ สงบลง

เขาแบมือขวาออก กลางฝ่ามือมีหยกสำชมพูชิ้นหนึ่งอยู่ ที่มุมจี้หยกสลักคำว่าเสวียนตัวเล็กๆ

เมื่อมองดูตัวอักษรน่ารักกระจิริด ดวงตาของบุรุษผู้นั้นก็แสดงความอ่อนโยนที่หาได้ยาก

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เก็บจี้ไว้ในอ้อมแขน ดับเทียนแล้วเหาะลอยไป

วันต่อมา

อินชิง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 171 ข้าไม่มีทางไม่ชอบเจ้า

    จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็นึกถึงคำพูดของอินชิงเสวียน จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเขาพอเข้าใจที่พระสนมแต่ละตำหนักตัดเย็บเสื้อผ้าให้ลูก อย่างไรเสียพวกนางเหล่านี้มักออกอุบายอย่างไม่สิ้นสุดเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน แต่เมื่อพวกนางมาตามคำสั่งของไทเฮา เย่จิ่งอวี้จึงอดคิดมากไม่ได้เมื่อเห็นฝ่าบาทนิ่งเงียบไม่พูดจา หลี่เต๋อฝูค้อมเอวลงและถามว่า "ฝ่าบาท ต้องการพบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"เย่จิ่งอวี้คิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้น "ให้พวกนางเข้ามาทั้งหมด"ทันใดนั้นก็พูดขึ้นอีกว่า "ช้าก่อน เรียกเสี่ยวเสวียนจื่อเข้ามาก่อน""พ่ะย่ะค่ะ"หลี่เต๋อฝูรีบส่งคนไปยังตำหนักจินหวูทันที พร้อมกับให้เหล่าพระสนมแต่ละตำหนักรออยู่ด้านนอกก่อนครู่หนึ่งแม้ว่าดวงอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้า แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกร้อนเกินไป นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะได้พบฝ่าบาท ดังนั้นจึงต้องคว้าทุกสิ่งทุกอย่างไว้ลู่จิ้งเสียนหยิบกระจกเล็กๆ ออกมา และหยิบลิปสติกออกมาเติมหน้าให้ตัวเองซูฉ่ายเวยก็ไม่ยอมแสดงให้เห็นว่าตนด้อยกว่า จึงตบแป้งคุชชั่นอีกชั้นหนึ่งให้ตัวเอง ทำให้คิ้วดอกท้อของนางดูละเอียดอ่อนและสวยงามยิ่งขึ้นเพื่อที่จะรักษาดอกท้อสีทองแห่งคว

    Last Updated : 2024-01-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 172 เจ้าชอบก็ดีแล้ว

    ซูฉ่ายเวยอึ้งไปชั่วขณะนางเพียงแค่อยากได้หน้า และนางคงจะมีความสุขไปหลายวันหากได้รับคำชมเพียงเล็กน้อย ไม่คิดว่าฝ่าบาทจะประทานตำแหน่งพระสนมให้นาง?ไม่ได้หูฝาดใช่ไหม?อินชิงเสวียนพูดขึ้นข้างๆ "พระนางสนม ยังไม่ก้มหัวแสดงความเคารพขอบพระทัยฝ่าบาทอีก"ซูฉ่ายเวยจึงได้สติขึ้นมา คุกเข่าลงพื้นด้วยความตื่นเต้น และก้มคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่า"กระหม่อมขอบพระทัยในพระกรุณาธิคุณของฝ่าบาท กระหม่อมจะจัดการเรื่องวังหลังให้ดี เพื่อแบ่งเบาความกังวลของไทเฮาและฝ่าบาทเพคะ""ลุกขึ้นเถอะ"เย่จิ่งอวี้พูดเสียงราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆถึงกระนั้น ลู่จิ้งเสียนยังคงโกรธมากจนกัดฟันกรอด แต่นางยังคงต้องอดกลั้นความโกรธไว้ในใจ พลางบิดเอวเพื่อส่งเสื้อผ้าที่เหล่าข้าหลวงหญิงตัดเย็บขึ้นถวาย"ฝ่าบาท นี่คือเสื้อผ้าที่กระหม่อมใช้ผ้าเจ็ดสีในการตัดเย็บ หากดาวมงคลได้สวมใส่ ก็จะมีโชคลาภและอายุยืนยาวอย่างแน่นอนเพคะ"เย่จิ่งอวี้กวาดตามองผ่านๆ"วางลงเถอะ"คนอื่นๆ ก็ทยอยกันนำเสื้อผ้ามาถวายเย่จิ่งอวี้ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจมากนัก จนกระทั่งมาถึงสวีจือย่วน เขาจึงก้มศีรษะมองดูสีสันเรียบง่าย อินชิงเสวียนน่าจะชอบเด

    Last Updated : 2024-01-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 173 นี่เป็นเรื่องสุดท้ายที่นางช่วยเขา

    สามสิบนาทีต่อมา อินชิงเสวียนก็มาถึงประตูวัง ข้างกายยังคงมีฉินเทียนและหลี่ชีติดตามอยู่พวกเขาทั้งสองกลายเป็นองครักษ์หลวงของนางไปโดยปริยาย ไม่จำเป็นต้องพูดจาอย่างสุภาพเกรงใจ ทันทีที่ขึ้นหลังม้าก็วิ่งตรงไปที่สนามฝึกจังเถี่ยและสวีเหลียงกำลังฝึกทหาร และแม่ทัพหลายคนยืนบนแท่นสูงเพื่อคุมการฝึกซ้อมเมื่อไม่มีปลาเน่าอย่างซ่งเฉียวอัน แม่ทัพที่เหลืออยู่ตั้งใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นอินชิงเสวียน คนทั้งหลายต่างพากันลงมาจากแท่นสูง และพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น "เสี่ยวเสวียนจื่อกงกงมาแล้ว"อินชิงเสวียนลงจากม้าและทำความเคารพ "สวัสดีท่านแม่ทัพทั้งหลาย ข้าได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ให้มาตรวจดูว่าการฝึกซ้อมสร้างเกราะกระดองเต่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว"ผู้หนึ่งยิ้มและพูดขึ้น "นายพลทั้งสองกำลังฝึกซ้อมอยู่ และตอนนี้ก็เริ่มเห็นผลแล้ว"อีกคนหนึ่งพูดต่อว่า "วิธีการทำสงครามของกงกงน้อยเก่งกาจเสียจริง เรียกได้ว่าเป็นกำแพงทองแดงและกำแพงเหล็ก ป้องกันง่าย แต่โจมตียาก"คนอื่นๆ ต่างก็พูดขึ้น "กงกงน้อยสามารถออกความคิดอันชาญฉลาดเช่นนี้ ถือเป็นบุญวาสนาของต้าโจวเสียจริง""ฝ่าบาททรงค้นพบกงกงน้อย ถือว่าพระองค์

    Last Updated : 2024-01-07
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 174 ข้าอาจช่วยเจ้าได้อีกแรง

    นางใช้แรงหนีบหลังม้าไว้ แล้วรีบเลี้ยวเข้าไปในตรอกข้างๆ อย่างรวดเร็วสรุปว่าจะไปหาจอมพลเฒ่ากวน หรือจะไปจวนอ๋องเพื่อตามหาเย่จั้นเมื่อมองดูผู้คนที่ผ่านไปมา อินชิงเสวียนรู้สึกลังเลเล็กน้อยและเมื่อคิดไตร่ตรองดูแล้ว นางตัดสินใจไปยังจวนอ๋องเย่จั้นเป็นลุงแท้ๆ ของเย่จิ่งอวี้ และทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก แม้ว่าเย่จิ่งอวี้รู้อะไรบางอย่าง ก็ไม่อาจตัดสินโทษเย่จั้นให้ถึงแก่ความตาย ส่วนตัวเองก็ใช้เหตุผลในการขอบคุณสำหรับชาคั่วเป็นข้ออ้างจอมพลเฒ่ากวนกลับไม่เป็นเช่นนั้น เย่จิ่งอวี้มีความสงสัยในตัวเขาแล้ว หากเขาถูกจับได้ คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปกป้องตัวเอง และเขาอาจจะปล่อยให้เย่จิ่งอวี้ใช้เรื่องนี้เป็นข้อแก้ตัวอินชิงเสวียนรีบมายังร้านเสื้อผ้าเพื่อซื้อชุดเสื้อผ้าธรรมดา นำม้าไปฝากไว้ยังโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง และรีบมุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องจิ้งประตูของจวนอ๋อง ทหารเกราะแดงสองนายยืนขนาบทั้งสองข้าง เมื่อเห็นอินชิงเสวียนก็รีบพูดขึ้นเสียงเข้ม"มาทำสิ่งใด?"อินชิงเสวียนรุดหน้าหนึ่งก้าวและพูดว่า "ข้ามาหาท่านอ๋อง ข้าจะขอพี่ทหารทั้งสองช่วยรายงานด้วย หากท่านอ๋องเห็นสิ่งนี้ พระองค์จะต้อง

    Last Updated : 2024-01-07
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 175 ทุกสิ่งจากนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นใหม่

    ขณะนี้ เสียงฝีเท้าอยู่ที่หน้าประตูแล้วเสียงเครื่องประดับกระทบกันดังมาจากด้านนอก เสียงอ่อนโยนพูดขึ้น "เสด็จน้องสิบสาม  ไม่พบกันมานาน สบายดีหรือไม่!"ผู้มาเยือนถอดหมวกไม้ไผ่สานที่คลุมศีรษะออก เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามและสง่าผ่าเผยเย่จั้นยกเสื้อคลุมของเขาและคุกเข่าลงบนพื้น"กระหม่อมเย่จั้น ถวายบังคมไทเฮา!""เสด็จน้องสิบสามรีบลุกขึ้นเถอะ"ไทเฮาพยุงเย่จั้นขึ้น และนั่งลงบนเก้าอี้อย่างสง่างามนางมองเย่จั้น และพูดขึ้นอย่างเศร้าโศก "เพียงชั่วพริบตา เราก็ไม่ได้เจอกันนานหลายปี ข้าแต่งงานกับฮ่องเต้ผู้ล่วงลับตอนที่เจ้าอายุยังน้อย ปัจจุบันเป็นถึงขุนนางคนสำคัญที่ดูแลประเทศ เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต รู้สึกเหมือนกับเป็นเรื่องของเมื่อวาน"เย่จั้นถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า "เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และวันเวลามักทำให้คนแก่ลงอย่างไร้ความปรานี ไทเฮายังมีร่างกายที่แข็งแรง ถือเป็นวาสนาของต้าโจวแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ไทเฮายิ้มและพูดขึ้น "ข้าเป็นเพียงผู้ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง จะเป็นวาสนาของต้าโจวได้อย่างไร ชะตากรรมของประเทศข้าไม่อาจตัดสินใจได้ ตอนนี้ฝ่าบาทมีอำนาจอันยิ่งใหญ่และเป็นผู้ควบคุมต้าโจวอย่างแท้จริง"

    Last Updated : 2024-01-07
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 176 เจ้าเป็นห่วงข้ามากเลยหรือ

    เย่จั้นตกใจเล็กน้อยนึกไม่ถึงว่าอินชิงเสวียนสามารถพูดคำพูดที่ลึกซึ้งและเฉียบแหลมเช่นนี้ได้เสียงทุ้มลึกควบคู่ไปกับใบหน้าที่ครุ่นคิดเล็กน้อย ทำให้เย่จั้นอึ้งไปชั่วขณะหนึ่งทว่าเพียงพริบตาเดียว เขาก็กลับสู่สภาพปกติ"ในเมื่อเจ้ามีทางออกสำหรับตัวเองแล้ว ก็อย่าได้เสียใจไปเลย"อินชิงเสวียนยิ้มอ่อนๆ และพูดขึ้น "ท่านอ๋องวางใจได้ หม่อมฉันไม่ใช่ผู้ที่พูดกลับไปกลับมา การตัดสินใจทั้งหมดเกิดขึ้นจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว หวังเพียงจะทำได้รอบคอบและไม่พัวพันถึงท่านอ๋องเพคะ"เย่จั้นคิดในใจ ตัวเองได้เข้าไปพัวพัน นับตั้งแต่เขารับข้อความผ้ามาจากอินจ้ง ตอนนี้มีเพียงคำถามว่าเขาสามารถไว้วางใจหลานชายของเขาได้มากแค่ไหนเขาพูดขึ้นเสียงเรียบ "ข้ามีวิธีเอาตัวรอดด้วยตัวเอง เจ้าเพียงรอฟังข่าวจากข้าก็พอ"อินชิงเสวียนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แสดงความเคารพแล้วพูดว่า "เช่นนั้นหม่อมฉันขอขอบพระทัยท่านอ๋องมาก บุญคุณอันใหญ่หลวงครานี้ อินชิงเสวียนจะจดจำไว้ในใจ หากมีโอกาส หม่อมฉันก็จะขอตอบแทน"เย่จั้นยื่นมือไปพยุงกลางอากาศ"ไม่ต้องพูดคำพิธีรีตองกันแล้ว รอให้ข้าเตรียมการเสร็จเรียบร้อย ข้าจะติดต่อเจ้าไปเอง"

    Last Updated : 2024-01-07
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 177 ฟ้าถล่มดินทลายก็ไม่มีทางแก้

    "คนคนหนึ่ง? หรือท่านทำเพื่อสวีจือย่วน?"อินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจอินสิงอวิ๋นประหลาดใจเล็กน้อย "เจ้ารู้จักสวีจือย่วนงั้นหรือ?"อินชิงเสวียนคิดในใจ แน่นอนสิ ตั้งแต่สมัยโบราณวีรบุรุษต้องเสียใจให้กับสาวงาม!"ใช่สิ ตอนนี้นางได้เข้าวังแล้ว นอกเสียจากท่านจะลักตัวนางออกมาจากวังได้ มิเช่นนั้น เกรงว่าทั้งชาตินี้คงไม่ได้พบหน้ากันอีก"สีหน้าของอินสิงอวิ๋นไร้อารมณ์ความรู้สึกในทันที"ข้าไม่ได้ทำเพื่อนาง"อินชิงเสวียนถามอย่างแปลกใจ "เช่นนั้นทำเพื่อสิ่งใด?""เป็นเพราะว่า..."อินสิงอวิ๋นพูดครึ่งหนึ่ง และพูดต่อ "เรื่องพวกนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ข้าขอถามเพียงว่า เจ้าอยากออกจากเมืองหลวงหรือไม่?""แน่นอนว่าข้าอยากไป แต่ตอนนี้ท่านยังเอาตัวเองไม่รอด แล้วจะพาข้าไปได้อย่างไร?"อินสิงอวิ๋นยิ้มแล้วถามว่า "เจ้าเห็นข้าเหมือนคนเอาตัวไม่รอดงั้นหรือ?""แต่ท่านเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญของราชสำนัก เอ่อ ข้าหมายถึง..."อินชิงเสวียนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรแล้วอินสิงอวิ๋นไม่ได้รู้สึกโกรธ พลางดึงมือของอินชิงเสวียนและพูดอย่างอ่อนโยน "เจ้าวางใจได้ ข้ายังคงอยู่ในเมืองหลวง และมีหนทางสำหรับการเข้าออก ขอเ

    Last Updated : 2024-01-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 178 เฝ้าสังเกตตำหนักจินหวูอย่างใกล้ชิด

    "พ่ะย่ะค่ะ"อินชิงเสวียนลุกขึ้น และถอยออกไปจากห้องหนังสือเมื่อออกมานอกประตู ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองกลับเห็นเย่จิ่งอวี้ร่างสูงตระหง่าน ยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่าง และกำลังมองมาที่นางดวงตาของทั้งสองสบกันในอากาศ และทันใดนั้นบางสิ่งที่อธิบายไม่ได้ก็ปรากฏขึ้นในใจของอินชิงเสวียนยังไม่ทันจับใจความได้ คนก็เดินออกจากห้องหนังสือไปแล้วจนกระทั่งอินชิงเสวียนหายไปจากสายตา เย่จิ่งอวี้จึงกลับไปนั่งบนเก้าอี้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขา กลับคืนสู่ความน่ายำเกรงของฮ่องเต้ทันที"ได้อะไรมาบ้าง?"เงาของเจวี๋ยอิ่งปรากฏอยู่ด้านหลังที่บังลม และพูดขึ้นด้วยความเคารพ "เสี่ยวเสวียนจื่อกงกงไปยังจวนอ๋องจิ้ง และได้พบกับคนคนหนึ่งในบ้านที่ฝ่าบาททรงมอบให้ ข้าน้อยไร้ความสามารถ เดิมกระหม่อมอยากตามไปสืบว่าเขาคือใคร แต่กลับถูกพรรคพวกของเขาขัดขวางไว้พ่ะย่ะค่ะ"เย่จิ่งอวี้หยิบพู่กันขึ้นมาเพื่ออ่านฎีกา และถามขึ้นเสียงเรียบ "เห็นชัดหรือไม่ว่าเป็นหญิงหรือชาย?"เจวี๋ยอิ่งก้มหน้าลงและพูดว่า "ผู้ชายพ่ะย่ะค่ะ แต่พรรคพวกของเขาเป็นผู้หญิง"เย่จิ่งอวี้ขานรับ "บนกายของผู้หญิงมักจะมีกลิ่นหอมอยู่เสมอ จมูกของเจ้ามี

    Last Updated : 2024-01-08

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1500 มิติพังแล้ว

    “จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1499 เคราะห์ตอบสวรรค์

    นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1498 ชิงฮุยตาย

    เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1494 ฆ่าข้าซะ

    “โอ๊ย พ่องเอ๊ย ตกลงมาเกือบตาย”ชายคนหนึ่งสวมกางเกงยีน เสื้อยืดสีขาว กำลังนวดหลังตัวเองอยู่ จากนั้นก็คลานลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด“เย่จิ่งหลาน...เจ้าจะกลับไปจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานปีนขึ้นมาจากหลุม ตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า “อย่าเพิ่งฆ่าคน นางคือลั่วสุ่ยชิงจริงๆ”อินชิงเสวียนหยุดทันที นางไม่ไว้ใจคนอื่น แต่กลับไม่สงสัยในตัวเย่จิ่งหลานแม้แต่น้อย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”เย่จิ่งหลานก็เดินตามหลังลั่วสุ่ยชิง ช่วยนางรักษาอาการบาดเจ็บของนาง“เรื่องมันยาวนะ ยัยบ้า เจ้ายังมีน้ำอีกไหม รีบเอาน้ำมาให้จอมยุทธ์หญิงลั่วดื่มเร็ว”“อ้อ”อินชิงเสวียนหยิบขวดพุวิญญาณออกมาหนึ่งขวด เย่จิ่งหลานก็เอื้อมมือไปหยิบมัน และส่งให้ลั่วสุ่ยชิงดื่มลั่วสุ่ยชิงนั่งขัดสมาธิทันที ปรับลมปราณ หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าของนางก็ดีขึ้นลิ่นเซียวกางนิ้ว กิ่งไม้ก็กลับมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง“แม่หนูน้อย ข้าให้เวลาเจ้าพักแล้ว มาสู้กันใหม่!”เมื่อเห็นกิ่งไม้หลอมรวมเป็นปราณกระบี่ในมือของเขา อินชิงเสวียนก็รีบคว้าเขาไว้“อาจารย์ นี่คือมิตร”ลิ่นเซียวส่ายผมสีขาว แล้วมองดูนาง “มิตร?”อินชิงเสวียนดึงเขาออกไป“ก็คือพวกเราเอง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1493 วิธีคิดของลิ่นเซียว

    ในช่วงที่เกิดวิกฤติในต้าโจว ฝ่ายของเย่จิ่งหลานก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกันหลังอาหารเย็น เขาได้พูดคุยกับชิงผิงชิงอาน แต่กลับไม่สามารถหาสาเหตุได้ จึงเข้าสู่สมาธิอีกครั้งเข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิต แต่ก็ต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทั่วทั้งห้วงทะเลแห่งจิตเต็มไปด้วยหมอกสีดำ ลั่วสุ่ยชิงร่างเปลือยเปล่า นั่งขัดสมาธิอยู่ในค่ายกล ขยับมืออยู่ตลอดเวลา ลมปราณแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าในทันที!“แม่นาง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”เย่จิ่งหลานถามอย่างครอบงำมากลั่วสุ่ยชิงยังคงหลับตาแน่น มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผาก“นี่ ลั่วสุ่ยชิง เจ้าไม่เป็นไรนะ?”เมื่อเห็นนางมีท่าทางแบบนี้ เย่จิ่งหลานก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยในเวลานี้ เสียงสะท้อนที่ชัดเจนฟังดูเหมือนน้ำใสในห้วงทะเลแห่งจิตก็ตอบกลับมา“เย่จิ่งหลาน มาช่วยข้าที ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในต้าโจว แต่รู้สึกได้ว่าร่างกายของชิงฮุยอ่อนแอ แก่นวิญญาณของข้าได้กลับมาควบคุมร่างกายบางส่วนแล้ว เสี้ยววิญญาณนี้คือกุญแจสำคัญ ว่าเจ้าและข้าจะสามารถกลับไปได้หรือไม่”เย่จิ่งหลานได้ยินเสียงของลั่วสุ่ยชิงเป็นครั้งแรก จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น“เจ้าพูดได้แล้ว?”ลั่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1492 เขาเป็นคนบ้า

    ลิ่นเซียวตะโกนเสียงดัง ปราณกระบี่บนท้องฟ้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ปราณกระบี่นับพันรวมตัวกันในที่จุดเดียวอีก และปราณกระบี่สีทองก็เปล่งประกายด้วยแสงสีทองพร่างพราว เทียบเคียงกับความรุ่งโรจน์ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ปราณกระบี่อันทรงพลังสามารถสะเทือนขุนเขา สะท้านสวรรค์!ช่างเป็นกระบี่ที่น่าตกใจจริงๆ!ใบหน้าของชิงฮุยแสดงสีหน้าเคร่งขรึมเป็นครั้งแรกคนผู้นี้สมแล้วที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!ปราณโคจรไปทั่วร่าง มีหมอกสีดำลอยขึ้นมาทั่วตัว ร่างนั้นปรากฏขึ้นในหมอกรางๆ ดวงตาทั้งคู่เกือบจะเสียตาขาวไปทั้งหมด ทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นสีดำ ซึ่งทั้งแปลกและน่าสะพรึงกลัว!เพียงชั่วพริบตา กระบี่ก็ร่วงหล่นและหมอกก็หายไปอากาศเงียบสงบอย่างน่าขนลุก ไม่มีเสียงใดๆ แม้แต่เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ที่โจมตีอินชิงเสวียนก็ยืนนิ่งในเหตุการณ์ ชิงฮุยค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากลิ่นเซียววางมือข้างหนึ่งไพล่หลัง ยืนตระหง่านต้านสายลมอินชิงเสวียนดีใจ สำเร็จแล้ว!นางรีบวิ่งไปหาลิ่นเซียว“อา...”“อาจารย์!”วินาทีต่อมา ความประหลาดใจของอินชิงเสวียนกลายเป็นความตกใจหน้าอกของลิ่นเซียวกลายเป็นสีแดงเลือด มีเล

DMCA.com Protection Status