ทันทีที่เฮ่อยวนพูดจบ ร่างหลายร่างก็เหาะลงมาจากภูเขาผู้นำสวมชุดสีแดงสด แววตาคมกริบ ที่ด้านหลังมีสตรีสองคนที่อายุใกล้เคียงกับนาง ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียง“ใครกล้าบุกเข้าประตูภูเขา”สตรีที่เป็นผู้นำยืนอยู่บนถนนบนเขา น้ำเสียงที่ชัดเจนของนาง ก็แว่วกระทบโสตประสาทของเฮ่อยวนเฮ่อยวนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เสียงนี้เขาคุ้นเคยยิ่งนัก เหมยชิงเกอ นางยังมีชีวิตอยู่จริงๆ“ชิงเกอ ข้าเอง ข้าเฮ่อยวน”เหมยชิงเกอจำเสียงของเขาได้เช่นกัน ไฟโทสะสองลูกพลันระเบิดออกมาจากดวงตาของนาง“ท่านมันคนใจร้ายไร้น้ำใจ กล้าดีอย่างไรมาถึงตำหนักเทพ ตายซะเถอะ!”เหมยชิงเกอตวาดอย่างเย็นชา โบกมือโจมตีไปยังเฮ่อยวนเฮ่อยวนไม่ได้หลบเลี่ยง ภายในหัวของเขาคือภาพของเหมยชิงเกอถูกมัดด้วยโซ่เหล็ก ถูกดาบลมหนาวเชือดเฉือนทุกวันไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงที่อ่อนแอเลย แม้แต่ผู้ชายที่แข็งแกร่ง ก็อาจไม่สามารถอยู่รอดได้เกินสิบปีโชคดีที่นางมีความเกลียดชังตัวเองอยู่ในใจเสมอ ถึงทำให้นางต้องรอจนกว่าลูกสาวมาช่วยเหลือได้เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เฮ่อยวนก็ถอนหายใจหนักๆทั้งหมดนี้เป็นเขาที่ติดค้างนาง แม้ว่าเหมยชิงเกอจะปลิดชีพเขาไ
เสียงของคนชุดดำทุ้มลึกและแหบแห้ง ทำให้ยากต่อการแยกแยะว่าเป็นชายและหญิงเหมยชิงเกอกอดเฮ่อยวน แล้วเหาะไปไกลหลายจั้ง“อวิ๋นลี่ พาเขากลับไปที่ห้องโถงจื่อชี่ตงไหลก่อน”เฟิงอวิ๋นลี่มารับร่างของเฮ่อยวน และตะโกนอย่างเร่งด่วนว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ทักษะของคนผู้นี้แปลกมาก ท่านต้องระวัง”“อย่าพูดไร้สาระ รีบไป”เหมยชิงเกอใช้วิทยายุทธ์ของตำหนักเทพ พลังงานสีม่วงอันเข้มข้นก็แพร่ปกคลุมไปทั่วร่างกายของนางในทันที คนทั้งคนเหมือนกำลังยืนอยู่ในก้อนกลุ่มเปลวไฟสีม่วง อันเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวร่างของคนชุดดำก็ถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มแสงสีขาว โดยมีแสงดาวอยู่ข้างใน รังสีอำมหิตกดดันผู้คน“ส่งเฮ่อยวนมาให้ข้า”คนชุดดำตบฝ่ามือ พลังของฝ่ามือก็เหมือนกับลมภูเขาคำราม ห่อหุ้มตัวเหมยชิงเกอไว้ในนั้น“เจ้าเป็นใครกันแน่”เหมยชิงเกอซัดฝ่ามือออกไป ทั้งสองเผชิญหน้ากัน ต่างถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แสงดาวหลายจุดทะลุผ่านพลังงานสีม่วงที่ป้องกัน และทะลุเข้าไปในเส้นเลือดหัวใจของเหมยชิงเกอเหมยชิงเกอรู้สึกเจ็บปวดเส้นลมปราณอย่างรุนแรง อดไม่ได้ที่จะตกใจ ทักษะอะไรกัน ทำไมถึงร้ายกาจขนาดนี้คนชุดดำพูดอย่างเย็นชาว่า “แน่นอนข้ามาจากอิ๋นเฉิง
ในขณะที่ฉุยอวี้กำลังพูด ฮั่วเทียนเฉิงและศิษย์น้องอีกสองคนมาถึงแล้วเช่นกันเขาชอบอยู่เงียบๆ ตามธรรมชาติ อาศัยอยู่ในถ้ำที่อยู่ด้านหลังภูเขามาโดยตลอด ได้ยินเสียงไม่ชัด ถ้าเฟิงเอ้อร์เหนียงไม่ส่งคนมารายงาน เขาก็คงไม่รู้ว่าเหมยชิงเกอถูกโจมตีเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านี้ แต่อาคันตุกะจำนวนมากกับเหมยชิงเกอและฉุยอวี้ก็ยังไม่สามารถรับมือได้ไหว เช่นนั้นต้องเป็นศาสตร์ที่ทรงพลังอย่างยิ่งเขารีบพูดว่า “ข้ารู้จักแม่นางอิน ข้าจะลงเขาไปหานาง”ฮั่วเทียนเฉิงยังพูดไม่ทันขาดเสียง เขาก็หายตัวไปศิษย์น้องต้วนจื่อฉู่รีบเรียกศิษย์ทุกคนอย่างรวดเร็ว ช่วยเหลือเหมยชิงเกอ ฉุยอวี้ และอาคันตุกะทั้งหลายที่ได้รับบาดเจ็บบนภูเขาพระจันทร์กลมโตค่อยๆ ลับหายไปทางทิศตะวันตก ท้องฟ้าเริ่มเห็นทอแสงขาวเงินจางๆ แล้วอินชิงเสวียนชอบนอนตื่นสาย แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ นางถึงได้ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเสื้อผ้าเสียดสีกัน เย่จิ่งอวี้ก็ลืมตาขึ้นทันที“เสวียนเอ๋อร์ฝันร้ายหรือเปล่า ทำไมวันนี้เจ้าตื่นเช้าจัง”อินชิงเสวียนยักไหล่“บางทีเมื่อคืนข้าอาจจะนอนหลับสบายมาก ตอนนี้นอนอิ่มแล้ว”นางโน้มตัวลงจูบใบหน้าเ
“ข้าเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว นั่งกินข้าวก่อน พ่อเจ้าออกไปสักพักแล้ว น่าจะกลับมาเร็วๆ นี้”กงซวินฮูหยินรีบให้สาวใช้ยกอาหารเข้ามา ขณะที่พูดเฮ่อฉางเฟิงก็เข้ามาแล้วเช่นกัน เมื่อเขารู้ว่าทั้งสองกำลังจะจากไป ก็รีบมาเกลี้ยกล่อมพวกเขา“น้องเล็กได้กลับมาที่นี่ทั้งที ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องอยู่นานๆ สิบวันครึ่งเดือน ท่านพ่อตัดสินใจสละทางสู่วิถีแห่งสวรรค์แล้ว ทั้งสองสำนักจะหารือรายละเอียดร่วมกัน น้องเล็กไม่ต้องการเห็นท่านพ่อกับผู้อาวุโสเหมยแก้ไขความเข้าใจผิด ให้เราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวหรอกหรือ”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งจับมืออินชิงเสวียน แล้วถอนหายใจ “ใช่แล้ว เจ้าเป็นลูกของท่านพี่กับพี่หญิงเหมย ถ้าพี่หญิงเหมยเข้ามา แล้วไม่เจอชิงเสวียน นางจะเสียใจแน่ๆ เจ้ารีบร้อนแค่ไหนก็รอแค่ไม่กี่วัน ถ้าจากไปโดยไม่บอกลา พ่อเจ้าคงไม่มีความสุข”“ใช่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรน้องเล็กกับน้องเขยต้องอยู่ต่ออีกหลายๆ วัน ในเมืองนี้มีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย วันนี้ข้าจะพาพวกเจ้าไปเดินเล่น”ยากที่จะปฏิเสธความมีน้ำใจของสองแม่ลูก อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่จิ่งอวี้เจ้าผู้ครองแคว้นจะอยู่ห่างจากบ้านเมืองตลอดทั้งปีได้อย่างไร อ
ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก เพื่อที่จะได้รับความโปรดปรานจากอาจารย์ ฉีอวิ๋นจื่อมีทักษะในการสังเกตคำพูดและสีหน้าผู้คนมาก แต่นางไม่สามารถอ่านความคิดของคนชุดดำได้ชัดเจนคำพูดของเขาทำให้ฉีอวิ๋นจื่อมีความรู้สึกขัดแย้งกันทุกครั้ง ราวกับว่าเกลียดเหมยชิงเกอและเฮ่อยวน แต่น้ำเสียงที่เบาหวิวกลับดูไม่เหมือนความเกลียดชัง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉีอวิ๋นจื่อที่ได้รู้จักกับคนแบบนี้ นางไม่เข้าใจเลย ที่เขาช่วยตัวเองไว้นั้น มีเจตนาใดกันแน่ในอิ๋นเฉิง เขาอยู่ในสถานะใดกันแน่นอกเมืองเย่จิ่งหลานพาหวังซุ่นและฮั่วเทียนเฉิงไปตามหาอินเย่สองสามีภรรยาเฉิงเฟิ่งโหลวเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ไม่ค่อยรู้จักนายท่านและนายหญิงมากนัก ไม่รู้เลยว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหนเมืองนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก ทั้งสามแยกย้ายกันไปค้นหา และภายในระยะเวลาอันสั้นก็ค้นหาทั่วจนแทบพลิกพื้นดินได้แล้วฮั่วเทียนเฉิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวจับขั้วหัวใจ“พวกเขากลับเมืองหลวงจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างมั่นใจว่า “เป็นไปไม่ได้ หากพวกเขาออกไป ไม่มีทางที่จะไม่บอกข้า”ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่ามีน้ำพุวิญญาณอยู่ในมิติของตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะตบหัวตัวเองอย่
เฮ่อยวนยังคงหมดสติ ไม่สามารถตอบได้เลยเฟิงเอ้อร์เหนียงทนมองดูไม่ได้ จึงดึงเหมยชิงเกอออกมา“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านได้รับบาดเจ็บ อย่าตื่นเต้นเกินไป”ขาของเหมยชิงเกออ่อนลง และทรุดนั่งลงบนพื้นอีกครั้งเย่จิ่งหลานก็ใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจสถานการณ์อีกหน่อย เขาลูบคางแล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้าเมืองเฮ่อมาที่นี่เพื่อรับผิด แล้วจะส่งนักฆ่ามาทำไม ไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นคนปกป้องเจ้าตำหนักเหมย นี่ไม่เท่ากับว่าถอดกางเกงผายลมไม่ใช่หรือ ทำอะไรซ้ำซ้อน หากต้องการจัดการกับเจ้าตำหนักเหมยจริงๆ ก็แค่พาคนขึ้นเขามาฆ่าเลย จะง่ายกว่าหรือ”คำพูดของเย่จิ่งหลานเป็นคนหยาบคายแค่ความหมายไม่หยาบ เมื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างใจเย็น เรื่องนี้ก็ดูน่าสงสัยมากมายจริงๆ“แต่วิทยายุทธ์ของคนผู้นั้นมาจากอิ๋นเฉิงจริงๆ ยังรู้เรื่องราวทั้งหมดตอนที่ศิษย์พี่ใหญ่ถูกไล่ล่า เรื่องนี้จะอธิบายอย่างไร”หลังจากดื่มน้ำพุวิญญาณแล้ว ฉุยอวี้ก็รู้สึกดีขึ้นเช่นกันเย่จิ่งหลานขมวดคิ้วและพูดว่า “ข้อนี้ก็เป็นปัญหาจริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาและเฮ่อยวนจะเป็นพวกเดียวกัน ในกรณีที่ดีที่สุดก็พูดได้เพียงว่าเขาเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เก
ใบหน้าของเหมยชิงเกอซีดเผือด พูดด้วยความโกรธว่า “ท่านจับตัวชิงเสวียนไว้จริงๆ เฮ่อยวนท่านยังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า”“ไม่ใช่ข้าที่จับกุมชิงเสวียน แต่เป็นชิงเสวียนที่พาสามีและลูกของนางไปที่อิ๋นเฉิง ถ้าข้าไม่เห็นลูกสาว ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ชิงเกอ เชื่อข้าเถอะ ข้าจะสืบให้รู้แน่นอนว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ต้องมีคำอธิบายให้เจ้าแน่นอน”เฮ่อยวนรู้ดีว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไร เหมยชิงเกอก็จะไม่เชื่อ มีเพียงการค้นหาผู้บงการเบื้องหลังเท่านั้น เขาถึงจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาได้เหมยชิงเกอแค่นเสียงหึ และพูดว่า “ถ้าท่านต้องการให้ข้าเชื่อ ก็ให้ชิงเสวียนมาพบข้า ข้าจะให้เวลาท่านอีกสามวัน ถ้าท่านสืบไม่ได้ ก็อย่ามาหาข้าอีก”เฮ่อยวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“ได้ ข้าจะกลับไปที่อิ๋นเฉิงเดี๋ยวนี้ ส่วนระบำสวรรค์ดาวสีเงินเจ้าห้ามบีบบังคับออกด้วยกำลังภายในเด็ดขาด มีเพียงโคจรลมปราณไปที่จุดเส้าซาง ปล่อยออกมาอย่างช้าๆ ช่วงนี้เจ้ารักษาตัวให้ดี ข้าจะไปจัดการเรื่องในอิ๋นเฉิง แล้วจะกลับมาหาเจ้า”เฮ่อยวนจัดแจงเสื้อคลุมให้เรียบร้อย แล้วเดินออกจากห้องโถงจื่อชี่ตงไหลอย่างไม่มั่นคงเมื่อเห็น
ใบหน้าของกงซวินอวิ๋นเฟิ่งซีดลงด้วยความตกใจ นิ้วมือเริ่มสั่นเทา“วิชาต้องห้ามอะไรที่หายไปงั้นหรือ”“ระบำสวรรค์ดาวสีเงิน ไปดูที่หอลับกันก่อน”หลังจากที่เฮ่อยวนพูดจบ เขาก็รีบเดินออกจากประตูไปอินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้มองหน้ากัน แม้ว่านางจะเป็นลูกสาวของเฮ่อยวน แต่ก็เพิ่งได้รู้จักกัน อาศัยอยู่เพียงวันเดียว เมื่อสิ่งของของพวกเขาหายไป ก็รู้สึกประดักประเดิดจริงๆเฮ่อยวนก้าวไปสองก้าว ดูเหมือนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาหันหน้ามาแล้วพูดว่า “พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก มาด้วยกันเถอะ”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งยิ้ม พูดกับทั้งสองคนว่า “หอลับไม่มีอะไรพิเศษ มีแค่หนังสือไม่กี่เล่ม ในเมื่อมาที่อิ๋นเฉิงแล้ว ก็ควรไปดูสักหน่อย”เมื่อทั้งคู่เชื้อเชิญแบบนี้ ถ้าไม่ไป กลับยิ่งดูเหมือนคนร้อนตัว อินชิงเสวียนจึงพยักหน้าให้เย่จิ่งอวี้พวกเขาทั้งสี่มาถึงหอลับ ประตูยังคงลงกลอนอยู่ กลอนประตูนั้นใหญ่เท่ากับอิฐ ดูเหมือนจะหนักมากเฮ่อยวนเอื้อมมือไปคว้ากลอนประตู แสงสีขาวจางๆ ลอดผ่านเข้าไป จากนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้กงซวินอวิ๋นเฟิ่งถามด้วยท่าทางกังวลว่า “ท่านพี่สืบอะไรได้บ้าง”เฮ่อยวนรับกุญแจจากกงซวินอวิ๋นเฟิ่ง