แชร์

บทที่ 1201 ซักถาม

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อได้ยินฉีอวิ๋นจื่อเอ่ยคำว่าแม่ เย่จิ่งอวี้จำต้องชักมือกลับ เพราะถึงอย่างไรที่นี่คือเขตพื้นที่ของเหมยชิงเกอ เขาไม่ต้องการทำให้อินชิงเสวียนกับแม่ของนางมีเรื่องบาดหมางกันเพราะเขา

อินชิงเสวียนไม่สนใจคำพูดไร้สาระของฉีอวิ๋นจื่อโดยสิ้นเชิง กว่าจะจับตัวตู้เยี่ยนได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉะนั้นจึงต้องจัดการเขาให้ได้ในคราวเดียว

ฝังโลหิตที่อยู่ในตัวเย่จิ่งอวี้นั้น เป็นภัยคุกคามมาตั้งแต่ต้นจนจบ

นางหันหลังกลับ ผ่านร่างของฉีอวิ๋นจื่อไป และซัดฝ่ามือใส่ฉางเฮิ่นเทียน

ศาสตร์วิชาอันชั่วร้ายเช่นนี้ ต้องไม่ให้เผยแพร่ไปทั่วโลกเด็ดขาด

ในเวลาเดียวกันฉีอวิ๋นจื่อก็ใช้ฝ่ามือโจมตีไปยังอินชิงเสวียน

วิชาฝังโลหิตสามารถแยกตัวออกจากพันธนาการของกายเนื้อร่างเดิมได้ ศาสตร์ที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ ผู้ใดบ้างจะไม่อยากครอบครอง หากสามารถเรียนรู้ศาสตร์นี้ได้ เช่นนี้ก็จะสามารถออกจากร่างเดิมได้ และเป็นไปไม่ได้ที่เฮ่อยวนจะไม่ชอบร่างกายในวัยที่อ่อนเยาว์กว่า

เย่จิ่งอวี้ไม่มีทางยอมให้อินชิงเสวียนได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว ขยับมือทำท่าดัชนีกระบี่ ชี้ไปที่หลังคอของฉีอวิ๋นจื่อ

ฉีอวิ๋นจื่อพร้อมที่จะโจมตีอย่างรุนแรงเพื่อหยุดอินชิง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
วัน นภาฉัตร
ยาวเกินไปแล้วค่ะ..ควรหาบทจบได้แล้วค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1202 โหดเหี้ยม

    ฉีอวิ๋นจื่อถอนหายใจพูดว่า “แม่นางอิน เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าจะอยากครอบครองวรยุทธ์ที่แสนชั่วร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร ที่ทำเพราะไม่อยากทำให้มือของเจ้าสกปรกจริงๆ”ฉุยอวี้ถามด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่”อินชิงเสวียนกล่าวอย่างเย็นชา “เกรงว่าพวกท่านยังไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของฉางเฮิ่นเทียนกระมัง แซ่เดิมของเขาคือตู้ และชื่อเดียวคือเยี่ยน บุคคลนี้ฝึกฝนศาสตร์ชั่วร้าย ศาสตร์นี้มีผลทำให้คนหลุดพ้นจากกายเนื้อเดิมย้ายไปร่างกายใหม่ บรรลุชีวิตนิรันดร์ ย้อนกลับไปตอนที่อยู่เป่ยไห่ เราเห็นเขาตายอย่างอนาถด้วยตาของเราเอง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้ศาสตร์จักจั่นลอกคราบนี้ และกลายเป็นฉางเฮิ่นเทียนในวันนี้”เหมยชิงเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย“ตู้เยี่ยน? ฉางเฮิ่นเทียน...เขาเป็นรองเจ้าเมืองเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง? เป็นไปได้อย่างไร ตู้เยี่ยนตายไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือ”อินชิงเสวียนดูตกตะลึงเล็กน้อย“เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง? เขามาจากเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง?”เรียวตาหงส์ของเย่จิ่งอวี้ก็หรี่ลงเล็กน้อยเขารู้เพียงว่าครั้งหนึ่งตู้เยี่ยนเคยเป็นราชครูอยู่ในวังหลวง จากนั้นได้เข้าไปในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทำไม

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1203 รอดพ้นจากความตาย

    อินชิงเสวียนพูดด้วยสีหน้ายุ่งยากใจว่า “เป็นข้าที่ประมาทเอง เมื่อท่านยังถูกควบคุมด้วยกลิ่นเลือดได้ นั่นหมายความว่าตู้เยี่ยนยังไม่ตาย เราต้องตามหาเขาให้เจอโดยเร็ว อย่าปล่อยให้เขาทำร้ายใครอีกเด็ดขาด”“อืม”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าอย่างเคร่งขรึมเหมยชิงเกอจึงกล่าวตามมาอีกว่า “ในเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นในตำหนักเทพ ตำหนักเทพจะต้องรับผิดชอบจนถึงที่สุดด้วย”นางหันหน้ามาพูดกับเฟิงเอ้อร์เหนียงว่า “รีบไปเรียกศิษย์ในตำหนักเทพทันที พยายามค้นหาที่อยู่ของฉางเฮิ่นเทียนอย่างเต็มกำลัง เมื่อมีข่าว ให้รายงานกลับทันที”“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ลาก่อน”อินชิงเสวียนประกบมือคำนับเหมยชิงเกอ ครั้นแล้วก็จูงมือเย่จิ่งอวี้ลงมาจากภูเขาเหมยชิงเกอก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้นวิธีเดียวที่จะสงบความโกรธของชิงเสวียนได้คือการตามหาฉางเฮิ่นเทียน มิฉะนั้นนางอาจจะไม่ให้อภัยตัวเองนางถอนหายใจหนัก จากนั้นเหมยชิงเกอหันกลับมาด้วยสีหน้าโดดเดี่ยว“เรากลับกันเถอะ!”ฉุยอวี้พูดด้วยความรู้สึกผิด “ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ว่าฉางเฮิ่นเทียนคือตู้เยี่ยน ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่มีวันเก็บเขาไว้”เหมยชิงเกอหยุดชั่วคราวและพูดว่า “เรื่อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1204 เจอศัตรูโดยบังเอิญ

    เมื่ออินชิงเสวียนสองสามีภรรยามาถึงเชิงเขา ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างเป็นสีขาวเงินแล้วท่ามกลางแสงสลัวยามเช้า ชาวบ้านหลายคนได้เดินทางไปตลาดโดยถือผัก ไข่ และสิ่งของอื่นๆ ที่ตนเองปลูกไว้ เพื่อนำไปแลกกับของใช้ในครัวเรือน หรือขายเป็นเงินเล็กๆ น้อยๆที่ด้านหน้าของอิ๋นเฉิง ยิ่งมีคนจำนวนมากที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนที่รอรับการรักษาพยาบาล ผู้อาวุโสของอิ๋นเฉิงที่เส้นผมหงอกขาวหลายคนนั่งอยู่หลังโต๊ะเล็กๆ และเริ่มทำการตรวจรักษาแม้ว่าจะไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ แต่เหล่าผู้อาวุโสก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แม้ต้องเผชิญกับชาวบ้านที่ตรวจรักษาได้ยาก ก็ไม่เบื่อหน่ายแม้แต่น้อย ยังสอบถามอย่างละเอียดรอบคอบเด็กผู้ช่วยเตรียมยาที่อยู่ข้างหลังได้จัดเรียงสมุนไพรเป็นหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แจกจ่ายให้กับคนที่อยู่ข้างหลังตามอาการของพวกเขาอย่างเป็นระบบระเบียบท่ามกลางการต่อแถวอันยาวเหยียดนี้ ยังมีคนวัยหนุ่มสองคนปะปนมาด้วยผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าหน้าตาหล่อเหลา เขาสวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนที่ให้อารมณ์ร่าเริง มีไฝสีแดงระหว่างคิ้วดูโดดเด่นเป็นพิเศษ เพิ่มความเย้ายวนใจให้กับใบหน้าอันหล่อเหลาดวงนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังเขาแต่งต

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1205 ขายความน่าสงสาร

    “ขอรับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”หวังซุ่นค้อมกายลงต่ำที่สุดอินชิงเสวียนมีของล้ำค่าไม่เคยขาด ถึงตอนนั้นขายความน่าสงสารสักหน่อย ต้องขออะไรได้อย่างแน่นอนหวังซุ่นขานตอบ แล้วรีบวิ่งไปที่เมือง เขาพอจะจำที่พักชั่วคราวของเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนได้อยู่ในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนก็กลับมาที่เรือนเล็กแล้วเช่นกันเฉิงเฟิ่งโหลวกำลังทำความสะอาดลานบ้าน เดิมทีคิดว่าคุณชายและนายหญิงยังหลับอยู่ เขาจึงไม่กล้าส่งเสียงดังมาก แต่เมื่อเห็นทั้งสองเข้ามาจากข้างนอก ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย“คุณชาย นายหญิง พวกท่านออกไปข้างนอกงั้นหรือ”อินชิงเสวียนยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนเช้าอากาศดี ข้าก็เลยไปเดินเล่นที่เชิงเขาน่ะ”เฉิงเฟิ่งโหลวอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ห้อง คุณชายกับนายหญิงทิ้งคุณชายน้อยไว้ข้างหลัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไว้วางใจในตัวเขา จึงรู้สึกซาบซึ้งในใจ โดยที่หารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วเสี่ยวหนานเฟิงไม่ได้อยู่ในห้องเลย หากแต่ในมิติของอินชิงเสวียน“เจ้าไม่จำเป็นต้องเกร็งเกินไป ถือว่าเป็นบ้านของเจ้าเองก็พอ ข้าจะไปทำของกินหน่อย”อินชิงเสวียนพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแล้วเดินไปที่ห้อง แต่กลับได้ยินใครบางคนอยู่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1206 ฝ่าเข้าไป

    หวังซุ่นพยักหน้าอย่างเร่งรีบและพูดว่า “บ่าวรู้ บ่าวจะพานายท่านทั้งสองไปเดี๋ยวนี้”เย่จิ่งอวี้ยื่นมือออกไปหิ้วร่างหวังซุ่น พูดสั้นๆ อย่างกระชับ“ชี้ทางให้ด้วย”หลังจากนั้นอีกสิบห้านาที ทั้งสามคนก็มาถึงปากหุบเขาที่ซ่อนอยู่หวังซุ่นชี้ไปทางนั้นแล้วพูดว่า “ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์อยู่ที่ปลายหุบเขา แต่ที่นี่มีการติดตั้งค่ายกลไว้ ไม่ทราบว่านายท่านทั้งสองจะทำลายได้หรือไม่”“ค่ายกล?”อินชิงเสวียนมองไปข้างหน้า เส้นทางเล็กๆ ที่คดเคี้ยว มีดอกไม้แปลกตามากมายและต้นไม้โบราณที่เติบโตทั้งสองข้างทาง ทุกสิ่งดูม่ต่างจากหุบเขาธรรมดา แล้วจะมีค่ายกลได้อย่างไร“เจ้าแน่ใจหรือ”นางหันไปมองหวังซุ่นหวังซุ่นพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว“มั่นใจและแน่ใจมาก วันนั้นเราได้ติดตามเจ้าเมืองแห่งอิ๋นเฉิงมา เขาเดินไปตามถนนทางเดินนี้จริง เพียงแต่ว่าสมองของบ่าวไม่ดี จำไม่ได้ว่าเขาเดินไปในเส้นทางไหน”อินชิงเสวียนมองดูอย่างระมัดระวังอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เห็นทางเข้าประตูใดๆ นางจึงเตะหินเข้าไปในหุบเขาทันทีที่หินตกลงสู่พื้น มีเสียงระเบิดในอากาศ กระบี่ยาวหลายร้อยเล่มก็ตกลงมาจากความว่างเปล่า และทั้งหมดล้วนกระทบกับก้อนหิน หลังจา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1207 ฆ่าตู้เยี่ยน

    จู่ๆ ใบหน้าของตู้เยี่ยนก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำขึ้นหลายส่วน“เจ้าไม่รู้วิธีเปิดทางสู่วิถีแห่งสวรรค์จริงๆ หรือ”“ไร้สาระ ถ้ารู้ยังต้องถามเจ้าอีกหรือ”เย่จิ่งหลานสะบัดก้นบุหรี่ในมือทิ้ง และตกลงบนหน้าอกของตู้เยี่ยนพอดี ตู้เยี่ยนหยิบก้นบุหรี่ออกไปโดยไม่รู้ตัว และการเคลื่อนไหวที่รุนแรงนี้ ทำให้เขาครางเบาๆ ด้วยความเจ็บปวดนี่เป็นความเจ็บปวดที่ทนไม่ไหว แทงทะลุหัวใจจากภายในสู่ภายนอก เมื่อคิดถึงใบมีดขนาดใหญ่ที่เปล่งประกายด้วยพลังงานสีดำ ตู้เยี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ ทำไมมันถึงมีพลังมากมายมหาศาลขนาดนี้ หากเจ้าใช้สิ่งนั้นแยกก้อนหินที่อยู่ตรงหน้า มันจะมีพลังทำลายล้างด้วยหรือไม่คนชั่วก็คือคนชั่ว แม้ว่าต้องเผชิญกับความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่ก็ยังคิดหาทางจนได้เขากัดฟันพูดอย่างยากลำบาก “ข้าก็ไม่รู้ ถ้ารู้ คงเข้าไปนานแล้ว”เย่จิ่งหลานไม่แปลกใจเลย เขาเหลือบมองตู้เยี่ยนแล้วถามช้าๆ “งั้นบอกข้ามาว่ามีอะไรอยู่ในนั้น”ตู้เยี่ยนหลับตา มุมปากกระตุกเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด“ข้าไม่รู้ ทุกอย่างมาจากปากของคนรุ่นก่อน บางคนบอกว่าเป็นเคล็ดวิชาลับวรยุทธ์ บางคนบอกว่ามีสมบัติมากมายจนใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1208 พบเฮ่อยวนอีกครั้ง

    ทั้งสามคนเข้าไปในมิติอย่างรวดเร็ว ครั้นแล้วก็เห็นร่างสง่างามเดินมาจากระยะไกลเย่จิ่งหลานเปิดมิติสำรวจดู แต่ในทันใดนั้น คนผู้นั้นก็มาถึงหน้าทางสู่วิถีแห่งสวรรค์เมื่อเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนก็พูดพร้อมกันว่า “เป็นเขานั่นเอง!”เย่จิ่งหลานหันกลับมาแล้วถามว่า “พวกเจ้ารู้จักกันหรือ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าแล้วพูดว่า “เขาเป็นผู้อาวุโสที่ข้าพบที่โรงเตี๊ยม ชายคนนี้มีทักษะวรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง จิตใจเปิดกว้าง ต้องมีสถานะไม่ธรรมดาแน่นอน”อินชิงเสวียนแค่นเสียงหึเบาๆ และพูดว่า “ท่านเดาถูกแล้ว เขาไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเขาคือเฮ่อยวน เจ้าเมืองแห่งเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง”“เฮ่อยวน?”สองพี่น้องตระกูลเย่มองไปที่อินชิงเสวียนพร้อมกันอินชิงเสวียนพยักหน้า“ใช่ เป็นเขาเอง”เย่จิ่งหลานชี้ไปที่อินชิงเสวียนแล้วพูดว่า “เช่นนั้นก็เป็นพ่อของ...”อินชิงเสวียนไม่พูดอะไร หันหน้ามองออกไปจากมิติเฮ่อยวนหยุดอยู่หน้าทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ เมื่อเห็นร่างของตู้เยี่ยน เขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อครู่ตอนที่เขาอยู่ในอิ๋นเฉิง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าค่ายกลกำลังปั่นป่วน ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่เพื่อตรวจสอบทันที แล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1209 เทียนชิงจื่อคือใคร

    “บนนั้น...ดูเหมือนว่าจะมีอักษรรูนต้องห้ามแห่งเต๋าอยู่”เย่จิ่งอวี้มองไปที่กลุ่มหลักการที่ไร้รูปร่างที่มองไม่เห็น แล้วพูดอย่างไม่แน่ใจเย่จิ่งหลานคว้าแขนของเขาแล้วยืนขึ้น มองซ้ายขวา แต่ไม่เห็นอะไรเลย“มีเขียนอักษรรูนต้องห้ามแห่งเต๋าไว้ที่ไหน หรือเป็นภาพแกะสลักที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้?”เย่จิ่งอวี้ส่ายหัว“นี่เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ดูลึกลับมาก”เย่จิ่งหลานกลอกตา พูดซะลึกลับเลย ก็แค่ก้อนหินเองไม่ใช่หรือ“ยันต์นี้ต้องมีอะไรแปลกๆ แน่ ขอข้าลองดูอีกหน่อย”เขาหยิบเลื่อยไฟฟ้าที่ส่งเสียงดังอีกครั้ง และวิ่งไปที่อักษรรูน ในช่วงเวลาฉับพลันนั้นเองก็มีเสียงดังลั่น เย่จิ่งหลานก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นผลักออกไปอีกครั้ง“ให้ตายเถอะ นี่มันบ้าอะไรเนี่ย เป็นวัชระที่ทำลายไม่ได้งั้นหรือ”เย่จิ่งอวี้ไปประคองหลังเขา ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “สิ่งนี้ดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณ มันรับรู้ได้ว่าเจ้ากำลังจะโจมตีมัน อย่าลองอีกดีกว่า เดิมทีสิ่งนี้ก็ไม่ใช่ของเรา หากฝืนทำลายไป จะเป็นการกระทำที่ผิดธรรมชาติและจะนำมาซึ่งผลเสียตามมา”เย่จิ่งหลานไม่เห็นด้วย แต่ก็ยากที่จะคัดค้านแม้ว่าเย่จิ่งอวี้เ

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

DMCA.com Protection Status