Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1186 ผู้ชายทุกคนในโลกล้วนเป็นขยะ

Share

บทที่ 1186 ผู้ชายทุกคนในโลกล้วนเป็นขยะ

Author: ม่อเยี่ยน
ทั้งสามคนตอบรับและค่อยๆ เดินออกไป

ถึงอย่างไรอินชิงเสวียนก็เป็นคนนอก ธุระกงการของผู้อื่นนั้น นางย่อมไม่สะดวกพูดมากอยู่แล้ว

แต่สำหรับคำพูดของฉุยอวี้นั้น นางกลับไม่รู้สึกแปลกใจมากนัก

ที่ฉุยอวี้สามารถดำรงในตำแหน่งเจ้าสำนักเซียวเหยาได้นั้น สิ่งที่ต้องพึ่งพาไม่แค่ความงามอย่าง่ายๆ เช่นนั้น สำหรับการรับมือกับสำนักชั่วร้ายเหล่านั้น หากไม่โหดเหี้ยมมากพอ เกรงว่าแม้แต่ศิษย์ในสำนักก็ไม่อาจทำให้หวาดกลัวได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย

เหมยชิงเกอถอนหายใจเบาๆ

“ชิงเสวียน เจ้าจะหัวเราะเยาะข้าไหม”

อินชิงเสวียนยิ้มบางๆ

“มีอะไรให้หัวเราะ คนที่ให้ความรัก ก็มักจะได้รับความรักตอบแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสเหมยที่เป็นคนโดดเด่นขนาดนี้”

เมื่อได้ยินคำชมของลูกสาว ดวงตาของ เหมยชิงเกอก็เป็นประกายสว่างขึ้นทันที

“เจ้า...คิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”

“แน่นอนเจ้าค่ะ”

“ขอบคุณนะชิงเสวียน แต่ข้าไม่ดีพอ ไม่สามารถปกป้องคนที่ข้ารักที่สุดได้”

เหมยชิงเกอก้มศีรษะลง

ในขณะนี้ ดูเหมือนว่านางจะถอดชุดเกราะที่มีหนามออก ร่างกายก็เปล่งแสงอันนุ่มนวลของมารดาออกมา

อินชิงเสวียนรู้ว่านางกำลังพูดถึงใคร แต่ไม่ง่ายเลยที่จะตอบ ถ้านางพูด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1187 จากลา

    เมื่ออินชิงเสวียนกลับมาถึงที่พัก เย่จิ่งอวี้สองอาหลานกำลังคุยกันอยู่ ในขณะที่อินหลีกำลังนั่งเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงอยู่ข้างๆเมื่อมองดูฉากที่กลมเกลียวกันอย่างยิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็มั่นใจมากขึ้นว่านี่คือชีวิตที่นางต้องการแต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยมีความทะเยอทะยานมากนัก ไม่ได้คิดว่าจะมีอำนาจมากมาย หรือต้องมีเงินตรามากน้อยเพียงใดทัศนคติต่อชีวิตของอินชิงเสวียนนั้นเรียบง่ายมาโดยตลอด ได้พบผู้ชายที่รักนาง มีลูกที่น่ารัก และมีครอบครัวที่อบอุ่นก็เพียงพอแล้วบางทีสวรรค์อาจได้ยินความคิดของนางจริงๆ และตอบสนองความปรารถนาทั้งหมด ไม่เพียงแต่ประทานสามีที่หล่อเหลาเอาใจใส่เท่านั้น แต่ยังประทานลูกที่น่ารักร่าเริงมาให้นางด้วยความรักที่นางมีต่อเย่จิ่งอวี้ ไม่ใช้เพราะสถานะฮ่องเต้ของเขา แต่เป็นการสนับสนุนและความเอาใจใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเขา ที่ค่อยๆ ทำให้หัวใจของอินชิงเสวียนหวั่นไหว ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนนี้ ย่อมแข็งแกร่งกว่าการตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นเสมอ นี่คือความรักแบบที่นางต้องการ ไว้ใจซึ่งกันและกัน ไม่เคลือบแคลงสงสัยซึ่งกันและกัน“เสวียนเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว อาการบาดเจ็บของเจ้าตำหนักเหมยเป็นอย่างไรบ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1188 ความแข็งแกร่งที่ประเมินไม่ได้

    เย่จิ่งอวี้เงยหน้าขึ้น พูดอย่างเคืองๆ “ทำไมเสวียนเอ๋อร์ถึงแสดงท่าทางเกรงใจข้าอยู่เรื่อย”อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ใครใช้ให้ข้าวาดรูปไม่เก่งล่ะ ไม่มีรูปเขาเก็บไว้เลย ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องรบกวนท่านหรอก ใช้เครื่องพิมพ์พิมพ์ออกมาเยอะๆ ทั้งสะดวกทั้งรวดเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดแดกดัน “แบบนี้นี่เอง ข้าคิดว่าไม่มีใครแทนข้าได้เสียอีก”ตาดำตัดกับตาขาวชัดเจนของอินชิงเสวียนกลอกไปมา เผยให้เห็นความเฉลียวฉลาดเหมือนแมว“แน่นอนว่าไม่มีใครแทนท่านได้ ได้ยินมาว่าอาอวี้ของเราได้รับการกล่าวขานว่าเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมในด้านหมากรุก ตัวอักษร การวาดภาพ และวรยุทธ์ ข้าอยากเห็นทักษะการวาดภาพของฮ่องเต้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร”“ถ้าอย่างนั้นข้าต้องแสดงฝีมมือให้เต็มที่แล้ว”เย่จิ่งอวี้ยิ้มพร้อมกัยรับพู่กันมา และเริ่มวาดภาพบนกระดาษเซวียนจื่อหลังจากนั้นไม่นาน ภาพวาดที่ราวกับคนมีชีวิตจริงๆ ก็ปรากฏบนกระดาษเมื่ออินชิงเสวียนเห็นดังนั้น ก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจนางเคยเห็นการสเก็ตช์ภาพในยุคปัจจุบัน แม้แต่นักเรียนศิลปะก็สามารถทำได้ แต่นางไม่เคยเห็นใครที่สามารถวาดภาพด้วยน้ำหมึกได้เทพขนาดนี้มาก่อนแม้แต่ท่าทางสบายๆ ของเย่จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1189 ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไม่เกี่ยวข้องกัน

    “ฉุยอวี้!”เหมยชิงเกอประคองคนขึ้น ทว่าฉุยอวี้ได้หมดสติไปแล้ว เลือดไหลซึมออกมาจากมุมปากเหมยชิงเกอโคจรกำลังภายในอย่างรวดเร็ว วางฝ่ามือบนหลังของนาง พยายามรักษาอาการบาดเจ็บของฉุยอวี้ให้คงที่ แต่กลับถูกผลักออกไปด้วยกลิ่นอายที่ยุ่งเหยิงผิดปกติใบหน้าของเหมยชิงเกอเปลี่ยนสีกะทันหันฉุยอวี้ได้รับบาดเจ็บจากใครกันหรือว่านางได้เผชิญหน้ากับหันเจิงหมิงแล้ว?นางตรวจสอบอีกครั้ง แล้วก็ปฏิเสธความคิดของตัวเองนี่ไม่ใช่กำลังภายในของตำหนักเทพนางวางฉุยอวี้ไว้บนเตียงหินเบาๆ แล้วเดินไปมาในห้อง คงเป็นเพราะสองวันแล้วได้เปิดประตูตำหนักเทพ มีบุคคลภายนอกปะปนเข้ามา“ใครก็ได้ ไปผนึกค่ายกลแนวภูเขาเดี๋ยวนี้ แล้วเรียกผู้อาวุโสเฟิงมาหาข้า”ศิษย์หญิงที่รับใช้เหมยชิงเกอรับคำสั่งแล้วจากไป ไม่ถึงสิบห้านาทีต่อมา เฟิงเอ้อร์เหนียงก็เดินเข้ามาจากด้านนอกเมื่อเห็นฉุยอวี้ปิดตาแน่น แถมยังกระอักเลือดไม่หยุด เฟิงเอ้อร์เหนียงก็ตกใจ“ศิษย์พี่ใหญ่ ฉุยอวี้นางเป็นอะไรไปเจ้าคะ”เหมยชิงเกอกล่าวด้วยสีหน้าหงุดหงิด “นางต้องการไปทดสอบวรยุทธ์ของฮ่องเต้หนุ่ม พอกลับมาก็มีสภาพเช่นนี้แล้ว คงมีคนปะปนเข้ามาในตำหนักเทพ แอบโจมตีฉุยอวี้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1190 หมาป่าแฟนสาวของไป๋เสวี่ย

    “เสวียนเอ๋อร์”สามอึดใจต่อมา เย่จิ่งอวี้ก็มาอยู่ข้างๆ อินชิงเสวียนแล้ว“จะจากไปแบบนี้งั้นหรือ”เย่จิ่งอวี้หันหน้ามาถามอินชิงเสวียนยักไหล่อย่างซุกซน ถามกลับว่า “ไม่งั้นล่ะ นี่ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุดหรือ”“เจ้าคงไม่ได้หมายความว่า...”อินชิงเสวียนขัดคำพูดของเย่จิ่งอวี้“นี่เรียกว่าแผนการตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ข้าเคยบอกว่าข้าต้องการชดเชยความสัมพันธ์แม่ลูกแทนอินชิงเสวียนจริงๆ แต่ว่า ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้นางได้สิ่งที่นางต้องการ แม้แต่ลูกๆ ก็มีความคิดของตัวเอง ไม่ใช่ทรัพย์สินของพ่อแม่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกควบคุมโดยพวกเขาทั้งหมด”ทันใดนั้นดวงตาของเย่จิ่งอวี้ก็แสดงความชื่นชม สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของเย่จิ่งอวี้ ระดับความคิดนั้น ช่างแตกต่างจากคนอื่นมาก“หลักการเช่นนี้ทำให้รู้สึกแปลกใหม่ แต่ต้องยอมรับว่า เสวียนเอ๋อร์พูดถูก ดูเหมือนว่าต่อจากนี้ไปข้าควรให้พื้นที่แก่ลูกๆ ของเราอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นเหมือนเสวียนเอ๋อร์ ที่กำลังโกรธ แล้วทิ้งข้าไว้ลำพัง”อินชิงเสวียนหยุดฝีเท้า“อาอวี้คิดว่าข้าเย็นชางั้นหรือ”“ไม่หรอก ทุกคนควรมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ควรให้ความผูกพันทางครอบครัว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1191 กษัตริย์ผู้ทรงปัญญา

    เย่จิ่งอวี้ก็เห็นเช่นกัน เรียวตาหงส์เบิกโพลง “นี่คือลางบอกเหตุอะไร?”อินชิงเสวียนระงับความรู้สึกสับสนวุ่นวายใจ แล้วพูดปลอบใจ “ในสมัยของเราเรียกว่าดาวตก เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติชนิดหนึ่ง อาอวี้ไม่ต้องคิดมาก”เย่จิ่งอวี้มองอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้าเมื่อทั้งสองมาถึงเมือง ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างแล้วไป๋เสวี่ยตัวสีขาวและหมาป่าสีขาวที่อยู่ข้างนอกทำให้ผู้คนหวาดกลัว อินชิงเสวียนจึงให้พวกมันรออยู่นอกเมืองก่อน แล้วค่อยผิวปากเป็นสัญญาณประชากรในเมืองไม่มาก แต่เดี๋ยวนี้จู่ๆ ก็มีชาวยุทธ์มาจากภายนอกจำนวนมาก อยู่ๆ ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาทั้งสองเจอร้านอาหารเล็กๆ ที่เปิดเช้า รับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ แล้วถามว่ามีใครขายบ้านแถวๆ นี้บ้างไหมเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนพูดจามีมารยาท ทั้งยังมอบเงินก้อนหยวนเป่าให้พิเศษ ก็เริ่มสนใจทันที“ข้ามีบ้านอยู่หลังหนึ่ง แต่ทำเลค่อนข้างไกล บ้านก็นับว่าสะอาดสะอ้าน ถ้าทั้งสองท่านไม่รังเกียจ ข้าจะพาพวกเจ้าไปดูเดี๋ยวนี้”อินชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณมากเถ้าแก่มาก”เมื่อพวกเขามาถึงที่พัก อินชิงเสวียนก็รู้สึกชอบที่นี่มากบ้านสร้างอยู่ในป่าไผ่ โด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1192 พยัคฆ์ร้องมังกรคำราม

    ชายผู้นี้ให้กลิ่นอายอันสุขุมเยือกเย็น แค่มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์แล้วเย่จิ่งอวี้รู้ว่าที่นี่มีทั้งคนดีคนเลวปะปนกันมั่ว ยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน จึงช่วยพยุงขอทานน้อยขึ้นมา และหยิบแท่งเงินมูลค่าสิบตำลึงออกมาจากแขนเสื้อ“เอาเงินนี้ไปซื้อเสื้อผ้าซื้อของกินนะ ไปเถอะ”ขอทานน้อยไม่เคยเห็นแท่งเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน จากเดิมที่ร้องไห้โอดโอย เพียงวิบตาหยาดน้ำตาก็แห้งเหือดไป เขาประคองแท่งเงินด้วยสองมือ คุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวขอบคุณซ้ำๆเมื่อเห็นว่าหลายคนกำลังมองดูเงินในมือขอทานน้อย เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอย่างคำที่ว่าอย่าอวดร่ำรวย เงินจำนวนนี้ไม่น้อยเลยจริงๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจอยู่ในใจ ไม่รู้ว่านี่จะเป็นการทำร้ายเขาหรือไม่แต่เขาที่อยู่ในฐานะฮ่องเต้ เมื่อได้สละเงินของตัวเองแล้ว ย่อมไม่สามารถเอาคืนได้ ในขณะที่กำลังจะไปส่งขอทานน้อย ขอทานน้อยกลับคุกเข่าลงดังตุบ “ขอบคุณคุณชายมากขอรับ ข้าน้อยไม่มีพ่อแม่ ขอคุณชายได้โปรดรับไว้ด้วย ข้าน้อยทำได้ทุกอย่าง ขอแค่คุณชายให้อาหารกิน จะเป็นวัวเป็นม้า ข้าน้อยก็ไม่บ่นเลย”เมื่อเห็นว่าเขาอายุเพียงเจ็ดแปดขวบ เย่จิ่งอวี้ก็อดไม่ไ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1193 ทะนุถนอมซึ่งกันและกัน

    ชายวัยกลางคนนั่งริมหน้าต่าง โบกมือให้เย่จิ่งอวี้“ทางนี้”เย่จิ่งอวี้เดินไปอย่างรวดเร็ว กางเสื้อคลุมออก และนั่งลงตรงข้ามเขา“ต้องให้ผู้อาวุโสรอแล้ว”ชายวัยกลางคนยิ้มและพูดว่า “การที่คุณชายยอมรับขอทานน้อยไว้ แสดงให้เห็นว่ามีจิตใจเมตตา ข้ารอเจ้าเพียงครู่เดียวเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”เขาหยิบกาสุราขึ้นมา เทสุราให้เย่จิ่งอวี้ด้วยตัวเอง แล้ววางไว้ตรงหน้าเขาเย่จิ่งอวี้ยกจอกสุราขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง อันแสดงถึงความเคารพ พูดอย่างนอบน้อม “ผู้อาวุโสเกรงใจไปแล้ว เห็นความอยุติธรรมแล้วชักดาบช่วยเหลือ เป็นหน้าที่ที่เราควรกระทำ แม้ว่าคนคนเดียวจะไม่สามารถขจัดความอยุติธรรมในใต้หล้าได้ทั้งหมด แต่เมื่อได้พบเจอ ย่อมไม่ปล่อยผ่านไปอยู่แล้ว”ดวงตาของชายวัยกลางคนแสดงความชื่นชม“พูดได้ดี ข้าขอดื่มให้กับประโยคนี้ของคุณชาย”เขายกจอกสุราขึ้น แล้วเงยหน้าขึ้นดื่มจนหมดจอก ท่วงท่ากล้าหาญเปิดเผยเย่จิ่งอวี้ก็ตามมาติดๆ ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดจอกชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ“คุณชายใจป้ำจริงๆ ข้าจะรินให้เจ้าอีกจอก”“ขอบคุณผู้อาวุโส”เย่จิ่งอวี้ลดจอกสุราลง แล้วชนจอกกับชายวัยกลางคน เพื่อแสดงความเคาร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1194 คำรักหวานซึ้ง

    เมื่อเฉิงเฟิ่งโหลวหันกลับมา ก็เห็นเย่จิ่งอวี้ทันที จึงหมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว ก้มหัวแล้วพูดว่า “ข้าน้อยเฉิงเฟิ่งโหลวน้อมคำนับคุณชายขอรับ”“ลุกขึ้นเถิด”เย่จิ่งอวี้เดินอย่างรวดเร็วและเบาหวิวราวกับสายลม เพียงพริบตาก็มาอยู่ข้างหน้าอินชิงเสวียนเฉิงเฟิ่งโหลวโขกศีรษะคำนับขอบคุณเขาอีกครั้ง จากนั้นลุกขึ้นข้างๆ อย่างแสดงความเคารพเย่จิ่งอวี้เหลือบมองเขา แล้วหันความสนใจไปที่อินชิงเสวียน“ลำบากเสวียนเอ๋อร์แล้ว วันนี้ได้พบกับผู้อาวุโสท่านหนึ่ง บุคลิกไม่ธรรมดา รู้สึกเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก จึงอดไม่ได้ที่จะดื่มไปหลายจอก”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมองชัดเจน พูดด้วยรอยยิ้ม “น้อยมากที่ได้ยินอาอวี้ยกย่องใครสักคนขนาดนี้ พูดจนข้าอยากพบบ้างแล้ว”“หากคราวหน้าได้พบกันอีก ข้าจะแนะนำเจ้าให้รู้จักอย่างแน่นอน จ้าวเอ๋อร์ล่ะ?”“เล่นกับไป๋เสวี่ยสักพัก แล้วก็กลับไปนอนแล้ว”อินชิงเสวียนเหลือบมองหมาป่าขาวที่อยู่กับไป๋เสวี่ย อาจเป็นเพราะดื่มน้ำพุวิญญาณ เจ้าหมาป่าขาวก็เป็นมิตรกับเสี่ยวหนานเฟิงมาก สายตาไม่ดุดันเหมือนเมื่อพบกันครั้งแรก นับว่าฉลาดแสนรู้อยู่บ้างเพียงแต่ว่าสัตว์ร้ายก็คือสัตว์ร้าย ความคิดยากท

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status