แววตาที่เจ็บปวดมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก หลินเฟิ่งปลดเสื้อของนางออกอย่างไร้ความปราณี เสี่ยวเอ๋อนอนสั่นเพราะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะสู้ชายตรงหน้าได้ นางไม่คิดเลยว่าคนที่นางเคยคิดจะมอบรักให้จะมาทำกับนางเช่นนี้
แต่ไม่ทันที่หลินเฟิ่งจะทำอะไรนางต่อเหมือนเขาจะดื่มมากไปทำให้เขาเกิดอาการอาการมึนหัว เขานั่งลงข้างๆนางก่อนที่จะล้มตัวลงนอนสลบไป ดั่งสวรรค์จะรู้ถึงความไม่ยุติธรรมต่อนาง เสี่ยวเอ๋อทำอะไรไม่ถูก นางดีใจที่เขาไม่ทันได้ขืนใจนาง นางรีบจับเสื้อมาสวมใส่ก่อนที่จะไปจับตัวของหลินเฟิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเมาหลับไปแล้วจริงๆ
"คุณชายเฟิ่ง ท่านหลับไปจริงๆใช่หรือไม่" แม้นางจะดูว่าเขาหลับแต่นางก็ยังคงกลัวเขาอยู่ดี นางค่อยๆใช้นิ้วเขี่ยๆที่แขนของเขาแต่ร่างกายหลินเฟิ่งไม่ได้ตอบสนองต่อการแตะตัวของนาง เสี่ยวเอ๋อรีบลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่ห้องพักของหยางหยางทั้งๆที่ยังสั่นอยู่
"หยางหยาง เปิดประตูให้ข้าที" เสี่ยวเอ๋อมาเคาะประตูห้องของหยางหยาง เมื่อนางได้ยินก็รีบมาเปิดประตูดูว่าคุณหนูของนางมาทำอะไรในเวลาเยี่ยงนี้
"คุณหนู นี่มันก็ดึกมากแล้วคุณหนูมีอะไรให้หยางหยางรับใช้เจ้าคะถึงมาหาข้าที่ห้องเช่นนี้หรือว่าคุณหนูไม่สบาย" หยางหยางเปิดประตูก็ถามคุณหนูของนางทันที เสี่ยวเอ๋อเมื่อเห็นหน้าของหยางหยาง นางเก็บความรู้สึกหวาดกลัวและความเสียใจไว้ไม่อยู่ นางจึงปล่อยน้ำตาไหลหลินออกมาต่อหน้าหยางหยาง จนนางเองก็ต้องตกใจรีบพาคุณหนูของนางมานั้งที่เตียง
"หยางหยางขะ..ข้า ฮือ ๆ..."
"เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะคุณหนูใครมาทำอะไรคณหนูหรือเจ้าคะ เข้ามาข้างในก่อนเถอะทำไมคุณหนูถึงตัวสั่นแบบนี้ละ" หยางหยางโอบกอดคุณหนูของนางมานั่งที่เตียงพร้อมลูบหลังปลอบนางเบาๆ
"คุณชายหลินเฟิ่ง..เขาช่างน่ากลัวยิ่งนักข้าอยากกลับบ้านไปหาท่านแม่"
"คุณชายหลินเฟิ่งทำอะไรคุณหนูเจ้าคะ"
"เขา...จะขืนใจข้า ตั้งแต่ข้ามาอยู่ที่นี่ข้าไม่เคยมีความสุขเลยหยางหยาง คุณชายหลินเฟิ่งเขายังมองข้าเป็นเพียงตัวแทนพี่เสี่ยวหลินเท่านั้น ข้าเจ็บตรงนี้ข้าปวดตรงนี้เหลือเกินหยางหยาง ฮื้อ...." เสี่ยวเอ๋อทุบไปที่หน้าอกข้างซ้ายของนาง น้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย
"คุณหนูเจ้าคะ หยางหยางข้าใจคุณหนูดีแต่คุณหนูมาอยู่ที่จวนของคุณชายแล้วคุณหนูก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของคุณชาย สามีภรรยานอนด้วยกันมิใช่เรื่องใหญ่นี่เจ้าคะ " หยางหยางนางก็ได้ตอบตามความคิดของนาง
"ถึงข้าจะเป็นภรรยาของคุณชายแต่ข้าเป็นเพียงในนามเมื่อถึงฤดุหนาวข้าก็จะจากที่นี่ไป ข้าทนอยู่ที่นี่กับคนไร้หัวใจเช่นคุณชายหลินเฟิ่งไม่ได้หรอกนะหยางหยาง ไม่อาจจจะเป็นตัวแทนให้ใครได้"
'' คุณหนูนอนพักสักหน่อยเถอะเจ้าคะ วันนี้คุณหนูคงเหนื่อยมามากพอแล้ว เดี๋ยวข้าจะจุดธูปหอมให้นะเจ้าคะ คุณหนูจะได้รู้สึกสบายใจขึ้น" หยางหยางจับคุณหนูของนางนอนลงบนที่นอนและห่มผ้าให้ ก่อนจะลุกออกไปเอาธูปหอมมาจุดเพื่อทำให้นอนหลับสบาย
รุ่งสางหลินเฟิ่งตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนหัวเขามองไปรอบๆห้องก็ต้องแปลกใจนี่มันห้องของเสี่ยวเอ๋อนี่หน่า เขาจำได้ว่ามื้อวานเขานั่งดื่มอยู่ที่ห้องของเขาทำไมเขาถึงมาอยู่ที่ห้องของเสี่ยวเอ๋อได้ เขานึกย้อนไปก็มีภาพแทรกเข้ามาในหัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ย้อนกลับมาอยู่ในสมองของเขา เขารีบหันมองข้างๆก็ไม่เห็นเสี่ยวเอ๋อแล้ว หลินเฟิ่งรีบลุกขึ้นทันที
"นี่ข้าทำอะไรลงไป...นางคงจะเสียใจมากจนทนเห็นหน้าข้าไม่ได้ เลยตื่นนอนก่อนข้าสินะ เหตุใดข้าถึงได้ยำยีนางเช่นนี้"
หลินเฟิ่งเขาคิดว่าเมื่อคืนนี้เขาได้ย่ำยีนางและนางก็ได้เป็นภรรยาของเขาเต็มตัวมิใช่ ภรรยาในนาม
"เจ้าเห็นเสี่ยวหลินหรือไม่นางออกไปไหน" เขาได้ถามคนใช้ที่ถูพื้นอยู่หน้าห้องของเสี่ยวเอ๋อ
"ข้าไม่เห็นคุณหนูเลยเจ้าค่ะ" คนใช้ได้ถูพื้นต่อส่วนหลินเฟิ่งเขาก็ได้เดินกลับไปที่ห้องของเขา
"คุณชายฮูหยินใหญ่มาขอรับ. " หลินเฟิ่งที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์อยู่คนใช้ก็ได้เดินเข้ามาบอก
"ให้ท่านแม่เข้ามาได้ เดี๋ยวข้าจะออกไป เจ้าเตรียมน้ำชาให้ข้าด้วย"
"ได้ขอรับคุณชาย"
เมื่อหลินเฟิ่งแต่งตัวเสร็จแล้วก็ได้เดินออกมาหาแม่ของเขาที่นั่งจิบน้ำชารอ
"ท่านแม่มาหาข้าแต่เช้ามีเรื่องอันใดรึเจ้าค่ะ"
"ก็ภรรยาของเจ้านะสิไปหาข้าตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน นี่เจ้ามีเรื่องอันใดกันหรือไม่ทำไมนางถึงมาขอข้าจะกลับไปเยี่ยมท่านพ่อกับท่านแม่ที่จวนของนาง" หลินเฟิ่งได้ยินก็รู้สึกผิดนี่เขาทำร้ายนางจนนางได้หนีหน้าเขากลับไปที่จวนแต่เขาเองก็ไม่กล้าจะบอกความจริงกับท่านแม่จึงโกหกนางไป
"ไม่มีเรื่องอันใดหรอกเจ้าค่ะ นางคงคิดถึงบ้านของนาง ท่านแม่ไม่ต้องคิดมาก"
"ข้าไม่คิดมากเรื่องนี้หรอก เรื่องที่ข้าคิดมากน่าจะเรื่องเกี่ยวกับบุตรของเจ้าต่างหากเมื่อไหร่เสี่ยวหลินจะมีหลานให้ข้าได้ ถ้าอีกหนึ่งเดือนนางยังไม่ตั้งท้องข้าจะรับซูหมิงเข้ามาอยู่ที่จวนในฐานะภรรยาของเจ้าอีกคน เจ้าก็รู้ใช่หรือไม่ว่าซูหมิงนางก็รักเจ้ามาตั้งแต่เด็กพวกเจ้าเติบโตมาด้วยกัน นางเฝ้ามองแต่เจ้าเพียงผู้เดียวขนาดเจ้าแต่งกับแม่นางเสี่ยวหลินนางก็ยังมาหาเจ้าที่จวนอยู่บ่อยครั้ง."
"ท่านแม่แต่ว่า...." หลินเฟิ่งเขามิได้มองซูหมิงในฐานะอื่นเขามองนางเป็นเพียงน้องสาวที่คลานตามกันออกมา
"เจ้าไม่ต้องพูดในเมื่อภรรยาของเจ้าทำหน้าที่ไม่ได้ก็ต้องให้คนอื่นทำแทนเจ้าอย่าเอาความรักของเจ้ามาอ้างกับข้า ฟางเมิงกลับห้อง"
ฮูหยินเดินสะบัดออกไปโดยไม่ได้สนใจความคิดของบุตรชายตนเอง เธอก็ไม่ได้แต่งเข้าจวนอองด้วยความรักเช่นกันทุกอย่างอยู่ที่ผลประโยชน์นางโชคดีมีบุตรชายให้ตระกูลหลินนางจึงเชิดหน้าชูตาอยู่ได้ถึงทุกวันนี้
"เฮ้อ!!! ข้าเคยทำอะไรได้ดั่งใจบ้างมั้ยนะ เสี่ยวเอ๋อเจ้าทำไมต้องหลบหน้าข้าด้วย ข้าว่าจะไปขอโทษเจ้าแต่เจ้ากลับหนีหน้าข้า " หลินเฟิ่งพูดอยู่คนเดียวก่อนจะตัดสินใจไปหาท่านพ่อของเขา เมื่อวานก่อนเขาไปสืบและได้รู้มาเรื่องแผนการของเสนาบดีฝ่ายซ้าย ส่วนเรื่องของเสี่ยวเอ๋อเขาคิดว่ารอนางกลับมาเขาค่อยไปขอโทษนางทีหลัง
ฝั่งด้านของเสี่ยวเอ๋อที่กำลังเดินทางไปหาท่านแม่ที่จวนของนางก็ได้แวะพักทานอาหารเช้าที่โรงเตี้ยม
"คุณหนูข้าหิวจัง ทำไมต้องเดินทางออกมาแต่เช้าด้วยเจ้าคะตอนนี้ท้องของข้าร้องออกมาเสียงดังจนคนควบม้าได้ยินไปหมดแล้ว" หยางหยางบนพรางใช้มือลูบที่ท้อง เสี่ยวเอ๋อนางยังไม่พร้อมที่จะพบหน้าของคุณชายหลินเฟิ่งนางเลยตื่นแต่เช้าและได้ไปขอฮูหยินใหญ่มาเยี่ยมท่านแม่ที่บ้าน
"งั้นเจ้าก็บอกคนควบม้าให้เขาแวะพักที่โรงเตี้ยมก่อนก็ได้ " หยางหยางยิ้มออกมาอย่างดีใจและตะโกนบอกคนควบม้าให้แวะโรงเตี้ยมก่อน
"นี่เจ้าคุณหนูของข้าบอกให้เจ้าแวะที่โรงเตี้ยมด้านหน้า"
"ได้ขอรับ" เมื่อถึงโรงเตี้ยมคนควบม้าก็ได้ทำให้ม้าหยุดวิ่งรถเกี้ยวก็หยุดลงทันที
เสี่ยวเอ๋อเดินลงจากเกี้ยวเข้ามาในโรงเตี้ยมพร้อมหยางหยาง เฒ่าแก่เจ้าของโรงเตี้ยมก็เดินมาต้อนรับเสี่ยวเอ๋อทันที ''แม่นางเดินทางมาเหนื่อยๆเชิญด้านในเลยขอรับ ทางโรงเตี้ยมของเรายังมีโต๊ะว่างเหลืออยู่ไม่ทราบว่าแม่นางมากันกี่ท่านกันขอรับ""เรามากันสามคนแต่อีกคนรออยู่ข้างนอก""งั้นเชิญด้านในเลยขอรับ" เฒ่าแก่โรงเตี้ยมผายมือให้เสี่ยวเอ๋อและหยางหยางเดินไปที่โต๊ะด้านในสุด"ที่โรงเตี้ยมของท่านมีอะไรน่าอร่อยแนะนำเราบ้าง" หยางหยางผู้ที่หิวได้ถามขึ้นทันที"มีหลายอย่างเลยขอรับ"หยางหยางทำหน้าขุ่นคิดว่านางจะทานอะไรดี เสี่ยวเอ๋อจึงสั่งให้เฒ่าแก่จัดอาหารที่ขึ้นชื่อมาให้กับหยางหยาง"เฒ่าแก่จัดอาหารที่ขึ้นชื่อของโรงเตี้ยมท่านมาให้เราสักสองสามอย่าง ข้าจะให้ท่านห่ออีกชุดหนึ่งได้หรือไม่""ได้ขอรับขอให้แม่หญิงทั้งสองท่านทานให้อร่อยเดี๋ยวข้าจะบอกพ่อครัวให้โปรดรอสักครู่" เฒ่าแก่ได้เดินจากไปในครัว หยางหยางที่หิวจนนางอยู่นิ่งไม่ได้จึงนับตะเกียบเล่นไปมา สักพักเสียงข้างนอกจวนก็ดังโวยวายอย่างกับว่ามีเรื่องอันใดกัน หยางหยางนางอยากรู้อยากเห็นมันเป็นนิสัยที่ติดตัวนางมาตั้งแต่เด็กๆ นางจึงรีบลุกขึ้นออกไปดูทันที "หยางหย
จางเหว่ยกับเสี่ยวเอ๋อได้นั่งกินข้าวด้วยกัน ตอนแรกนางก็มิกล้าที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับองค์รัชทายาทผู้สูงส่งแต่ทว่าเขากลับเอาเรื่องเมื่อครู่ให้นางนั่งลงกินกับเขาเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ ส่วนหยางหยางก็ได้ไปนั่งกินอีกโต๊ะกังองครักษ์"เจ้าจะไปที่ใดกันเหตุใดถึงเดินทางมากันเพียงสองคนหลินเฟิ่งทำไมถึงกล้าปล่อยเจ้าออกมา"เมื่อจางเหว่ยถามหาหลินเฟิ่งเสี่ยวเอ๋อก็ชะงักและหยุดกินทันที นางวางตะเกียบลงพร้อมดื่มน้ำ จางเหว่ยก็ได้เห็นท่าทีและสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปของเสี่ยวเอ๋อก็ฉุดคิด"ข้าถามอะไรผิดไปหรือไม่""ไม่เจ้าค่ะ ข้าอิ่มแล้วข้าต้องเดินทางต่อ ขอบคุณท่านอีกครั้ง''เสี่ยวเอ๋อเตรียมจะลุกขึ้นจางเหว่ยจึงได้จับมือนางไว้"เจ้ายังไม่ตอบข้าเลยว่าเจ้าจะไปที่ใดกัน""ข้าจะกลับบ้านของข้าเจ้าค่ะ ท่านชายโปรดปล่อยมือข้าด้วย" จางเหว่ยจึงรีบปล่อยมือเล็กๆของนางทันที"ข้าจะผ่านทางนั้นพอดี เดี๋ยวข้าจะเดินทางไปพร้อมกับเจ้าเผื่อระหว่างทางคนพวกนั้นดักทางเจ้าอยู่เจ้าจะเป็นอันตรายได้""ข้ามิอาจรบกวนท่านหรอกเจ้าค่ะ แค่นี้ก็มากพอแล้ว""เฒ่าแก่เก็บโต๊ะด้วย" จางเหว่ยไม่ฟังคำพูดของเสี่ยวเอ๋อ เขาให้เฒ่าแก่โรงเตี้ยมมากินค่าอาหารและเดิน
ผ่านมาสองวันหลินเฟิ่งเมื่อไม่เห็นใบหน้าของเสี่ยวเอ๋อเขาก็เริ่มรู้สึกเหมือนอะไรได้ขาดหายไป เขาเดินคิดอะไรอยู่เพลินๆก็ได้เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเสี่ยวเอ๋อ เขาฉงนใจตนเองเพราะเหตุใดเท้าของเขาถึงมาหยุดอยู่ตรงนี้ หรือว่าเขาคิดถึงนาง เมื่อเขาคิดแบบนั้นเขารีบส่ายหัวไปมาเพราะยอมรับความจริงไม่ได้ "ไม่....ไม่มีทางคนอย่างข้าหรือจะคิดถึงนางอีกแค่ฤดูเดียวนางก็จะย้ายออกไปแล้ว คนที่ข้าคิดถึงคือเสี่ยวหลินต่างหาก" เขาพึมพำอยู่อย่างนั้นจู่ๆก็ได้เดินเสียงฝีเท้าของคนสองคนที่กำลังเดินมาทางนี้"ท่านพี่หลินเฟิ่งมาทำอะไรอยู่ที่หน้าห้องของพี่เสี่ยวหลินหรือเจ้าคะ ข้าได้ยินท่านป้าบอกว่าท่านพี่เสี่ยวหลินนางกลับไปเยี่ยมที่บ้าน" ซูหมิงเดินมากับสาวใช้ของนาง "ใช่เสี่ยวหลินนางกลับไปที่บ้านของนาง ว่าแต่เจ้าทำไมถึงอยู่ที่นี่แต่เช้า""ท่านป้ายังไม่ได้บอกท่านพี่หรือเจ้าคะ ว่าวันนี้ข้าจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี้ในฐานะภรรยาของท่านพี่ ก็เมื่อวานท่านป้าได้นำเบี้ยอัฐของล้ำค่าไปสู่ขอข้า ในตอนแรกท่านแม่กับท่านพ่อของข้าก็ไม่ยอมแต่เพราะเห็นว่าข้ารักท่านพี่ พวกท่านเลยยอมให้ข้ามาเป็นภรรยาอีกคนของท่าน อย่าบอกนะเจ้าคะ ว่าท่านพี่ไม่
"คุณหนูเจ้าคะใกล้จะถึงจวนคุณชายหลินเฟิ่งแล้ว คุณหนูตื่นเต้นหรือไหมเจ้าคะ" หยางหยางสาวใช้ข้างกายของเสี่ยวเอ๋อถามขึ้นด้วยความตื่นเต้นที่นายหญิงของตนเองจะได้เป็นภรรยาของคุณชายหลินเฟิ่งผู้โด่งดังเรื่องหน้าตาและวรยุทธ์มิมีผู้ใดกล้าเทียบเทียม"หยางหยางเจ้าพูดอันใดกันเจ้าก็รู้รึใช่รึว่าข้าเป็นเพียงตัวของของพี่เสี่ยวหลินเท่านั้น" เสี่ยวเอ๋อสตรีงามที่อยู่ในชุดแต่งงานเธอเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยถึงหลินเฟิ่งจะเป็นคนรักของพี่สาว แต่ทว่าเสี่ยวเอ๋อนั้นก็แอบรักหลินเฟิ่งมาตั้งแต่น้อยเช่นกัน เธอทำได้เพียงแอบดูเวลาที่หลินเฟิ่งไปหาเสี่ยวหลินที่จวน“แต่ตอนนี้คุณหนูกำลังจะเป็นภรรยาของคุณชายเหตุใดต้องพูดแบบนั้นด้วยเจ้าค่ะในเมื่อคุณหนูเสี่ยวหลินไม่อยู่คุณหนูของหยางหยางใยต้องคิดมากด้วยเจ้าค่ะ” หยางหยางสงสารคุณหนูของเธอจับใจเธอรู้ว่าในใจของคุณหนูมีหลินเฟิ่งเต็มหัวใจเมื่อรถม้าของเสี่ยวเอ๋อมาถึงจวนของหลินเฟิ่งก็มีสาวใช้ในจวนออกมาต้อนรับอย่างสมฐานะหยางหยางจับมือของเสี่ยวเอ๋อเดินลงมากรถม้า ทันใดนั้นเองหลินเฟิ่งก็ปรากฎตัวขึ้นมารับภรรยาของเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เขาไม่รู้เลยว่าหญิงที่อยู่ภายใต้ผ้าคุมหน้านี้มิใช่หญ
เสี่ยวเอ๋อตัวสั่นนั่งมองดูหลินเฟิ่งดื่มเหล้าด้วยความกลัว เธอไม่เคยเห็นหลินเฟิ่งมีอารมณ์แบบนี้มาก่อน เขาเป็นบุรุษที่แสนดีคอยเอาอกเอาใจพี่หญิงมาตลอด แต่ทว่าบัดนี้คุณชายท่านนี้ได้เปลี่ยนไปจนนางแทบไม่เคยรู้จักมาก่อน หลินเฟิ่งเริ่มเมาเขาเดินมาใกล้ๆตัวของเสี่ยวเอ๋อที่ถอยหลังหนีด้วยความสั่นกลัว เขาจับใบหน้าของนางให้สบตากับเขา“ข้าเกลียดเจ้า ตระกูลของเจ้าต้องได้รับหายะนะที่ปิดบังเรื่องนี้กับข้า เจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้อยู่ในจวนของข้าอย่างมีความสุข ถึงแม้ใบหน้าของเจ้าจะเหมือนเสี่ยวหลินสักเพียงใดก็อย่าหวังที่จะได้หัวใจของข้าไปเลย “ เสี่ยวเอ๋อนางรู้ว่านางเองไม่มีทางที่จะแทนพี่หญิงได้ นางทำใจมาแล้วแต่ทว่ามันก็เกิดความรู้สึกที่นางจะเก็บความเสียใจเอาไว้ได้ นางได้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด“ข้าไม่คิดว่าจะมาแทนพี่เสี่ยวหลิน ข้ารู้ว่าท่านไม่เคยมีข้าอยู่ในสายตาแต่ข้าต้องทำเพื่อตระกูล”“ฮึ !! เจ้าอ้างแต่ตระกูลของเจ้าแล้วตระกูลของข้าเล่าที่ถูกหลอกลวงเจ้าจะรับผิดชอบการกระทำนี้เยี่ยงไร”เสี่ยวเอ๋อไม่มีคำแก้ตัวใดๆทำได้เพียงก้มหน้ารับชะตากรรมก่อนที่นางจะนึกได้ว่าในเมื่อการแต่งงานของนางกับคุณชายหลินเฟิ่งม
เมื่อเข้าเฝ้าและคำนับฮ่องเต้กับฮองเฮาเสร็จสิ้นหลินเฟิ่งต้องเข้าร่วมคุยราชการลับต่อจึงให้เสี่ยวเอ๋อเดินเล่นรอเขาอยู่ในวังเพื่อรอกลับจวนพร้อมกันเสี่ยวเอ๋อกับหยางหยางจึงมาเดินชมสวนในวังหลวงเพื่อฆ่าเวลารอ หยางหยางเมื่อเห็นใบหน้าที่เศร้าสร้อยของคุณหนู นางจึงพยายามทำให้คุณหนูอารมณ์ดีขึ้น"คุณหนูของหยางหยางทำไมท่านต้องทำหน้าอมทุกข์ตลอดเวลาด้วยเจ้าคะ หยางหยางอยากเห็นคุณหนูยิ้มออกมาเหมือนตอนที่อยู่บ้านเวลาที่คุณหนูยิ้มโลกทั้งใบช่างงดงามจริงๆนะเจ้าคะ""ข้าแค่เหนื่อยเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกนะหยางหยาง"หยางหยางนางหันไปเห็นผีเสื้อที่บินดอมดมชื่นชมดอกไม้ภายในสวนอยู่นั้นนางจึงเรียกให้คณหนูให้ดูด้วยความตื่นเต้น"คุณหนูเจ้าคะ ผีเสื้อสวยๆทั้งนั้นเลยคุณหนูเห็นมั้ยเจ้าคะ เดี๋ยวหยางหยางจะจับมาให้คุณหนูดูนะเจ้าคะ" หยางหยางว่าแล้วนางก็วิ่งไล่จับผีเสื้อจนเสี่ยวเอ๋อหลุดหัวเราะออกมาเพราะความเป็นเด็กของหยางหยาง"อย่าวิ่งเร็วนักสิ หยางหยางเราอยู่ในวังหลวงเจ้าช่วยสำรวมกิริยาด้วย" เสี่ยวเอ๋อพูดไม่ทันขาดคำหยางหยางก็วิ่งชนเข้าอย่างจังเมื่อหยางหยางเห็นบุรุษตรงหน้าก็รู้ในทันทีว่าคุณชายท่านนี้ต้องเป็นผู้ที่มียศหรือส
เมื่อเสี่ยวเอ๋อนางวิ่งกึ่งเดินรีบมาเพราะกลัวว่าคุณชายหลินเฟิ่งจะรอนาน ก็เป็นดั่งที่นางคิดไว้จริงๆเมื่อมาถึงเขาที่ยืนรอนางด้วยใบหน้าที่แสดงความไม่พึงพอใจที่นางทำให้เขาต้องรอนาน“ข้าบอกให้เจ้าเดินเล่นรอข้าอยู่แถวนี้ เจ้าไปที่ใดมารู้หรือไม่ว่าเจ้าทำให้ข้าเสียเวลาขนาดไหน”เสี่ยวเอ๋อที่ยังเดินมาไม่ถึงก็ต้องถูกคุณชายหลินเฟิ่งต่อว่า ต่อหน้าสาวใช้ตนเอง“ข้าขอโทษที่ให้ท่านรอนาน ข้าเกิดเรื่องนิดหน่อยเลย.....” ไม่ทันที่เสี่ยวเอ๋อจะพูดจบหลินเฟิ่งก็ได้ก้าวเท้าขึ้นรถม้าโดยไม่สนใจนาง เสี่ยวเอ๋อเองนางก็ไม่เข้าใจเวลานางทำอะไรทำไมถึงไม่ถูกใจเขาสักที นางรีบขึ้นรถม้าตามคุณชายไปเมื่อรถม้าเคลื่อนออกจากหน้าวังมุ่งตรงกลับจวนของหลินเฟิ่ง เขาไม่แม้แต่จะพูดกับนางสักคำแถมยังไม่มองนางด้วยซ้ำ เสี่ยวเอ๋ออึดอัดเมื่อต้องมานั่งอยู่กับเขาเพียงลำพัง นางจึงเปิดหน้าต่างดูวิวรอบๆเมือง เมื่อรถม้าเคลื่อนเข้ามาในป่าที่เป็นทางผ่านไปยังจวนของหลินเฟิ่ง จู่ๆล้อของรถม้าก็สะดุดกับก้อนหินขนาดใหญ่เข้าอย่างจัง ทำให้เกี้ยวโยกไปมา เสี่ยวเอ๋อที่ไม่ทันระวังตัวเพราะมองดูวิวทำให้ตัวของนางเอนเอียงตามความเคลื่อนไหวของเกี้ยวนั้น นางจึงตะโกนออ
ฝูงนกที่บินไปมาอยู่บนท้องฟ้าแสงแดดสาดส่องลอดใบไม้มากระทบใบหน้าของเสี่ยวเอ๋อที่นั่งจิบชาอยู่ที่สวนหลังจวน“หยางหยางเจ้าว่าปานนี้ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าจะทำอันใดกันอยู่” “คุณหนูคิดถึงพวกท่านหรือเจ้าคะ”“ใช่ข้าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่แล้วก็ท่านพี่ ถ้าท่านพี่ยังอยู่ปานนี้ท่านพี่คงมีความสุขดีสินะ”ไม่ทันที่หยางหยางจะได้ตอบสาวใช้คู่กายของแม่ของหลินเฟิ่งก็ได้มาตามนางให้เข้าไปพบ“คุณหนูเสี่ยวหลินเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่ให้ตามท่านเข้าไปพบเจ้าค่ะ”“ท่านแม่นะหรือได้สิ “ นางมาอยู่ที่จวนแห่งนี้ก็นานมากแล้วนางได้เข้าพบท่านแม่สามีแค่เพียงครั้งเดียวก็ตอนแต่งเข้าจวน มีเหตุอันใดกันแม่สามีถึงตามนางเข้าไปพบ เมื่อนางเดินตามสาวใช้จนมาถึงจวนของฮูหยินใหญ่ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ “เสี่ยวหลินคำนับท่านแม่”“นั่งลงเถิด ฟ่างเมิ่งรินชาให้แม่นางเสี่ยวหลินสิ” นางหันไปสั่งสาวใช้ให้รินชาให้กับเสี่ยวเอ๋อ“ท่านแม่มีสิ่งใดถึงเรียกข้าเข้ามาพบหรือเจ้าคะ”“เจ้านี่ช่างรู้ใจข้าเสียจริง มาถึงก็ถามเลยดีเช่นกันข้าจะได้ไม่อ้อมค้อม”“อะไรหรือเจ้าคะ”“เจ้ามาอยู่ที่จวนที่ก็จะเข้าหนึ่งฤดูแล้ว เมื่อไหร่เจ้าจะมีบุตรชายให้แก่หลินเฟิ่งกัน” เสี่ยวเอ
ผ่านมาสองวันหลินเฟิ่งเมื่อไม่เห็นใบหน้าของเสี่ยวเอ๋อเขาก็เริ่มรู้สึกเหมือนอะไรได้ขาดหายไป เขาเดินคิดอะไรอยู่เพลินๆก็ได้เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเสี่ยวเอ๋อ เขาฉงนใจตนเองเพราะเหตุใดเท้าของเขาถึงมาหยุดอยู่ตรงนี้ หรือว่าเขาคิดถึงนาง เมื่อเขาคิดแบบนั้นเขารีบส่ายหัวไปมาเพราะยอมรับความจริงไม่ได้ "ไม่....ไม่มีทางคนอย่างข้าหรือจะคิดถึงนางอีกแค่ฤดูเดียวนางก็จะย้ายออกไปแล้ว คนที่ข้าคิดถึงคือเสี่ยวหลินต่างหาก" เขาพึมพำอยู่อย่างนั้นจู่ๆก็ได้เดินเสียงฝีเท้าของคนสองคนที่กำลังเดินมาทางนี้"ท่านพี่หลินเฟิ่งมาทำอะไรอยู่ที่หน้าห้องของพี่เสี่ยวหลินหรือเจ้าคะ ข้าได้ยินท่านป้าบอกว่าท่านพี่เสี่ยวหลินนางกลับไปเยี่ยมที่บ้าน" ซูหมิงเดินมากับสาวใช้ของนาง "ใช่เสี่ยวหลินนางกลับไปที่บ้านของนาง ว่าแต่เจ้าทำไมถึงอยู่ที่นี่แต่เช้า""ท่านป้ายังไม่ได้บอกท่านพี่หรือเจ้าคะ ว่าวันนี้ข้าจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี้ในฐานะภรรยาของท่านพี่ ก็เมื่อวานท่านป้าได้นำเบี้ยอัฐของล้ำค่าไปสู่ขอข้า ในตอนแรกท่านแม่กับท่านพ่อของข้าก็ไม่ยอมแต่เพราะเห็นว่าข้ารักท่านพี่ พวกท่านเลยยอมให้ข้ามาเป็นภรรยาอีกคนของท่าน อย่าบอกนะเจ้าคะ ว่าท่านพี่ไม่
จางเหว่ยกับเสี่ยวเอ๋อได้นั่งกินข้าวด้วยกัน ตอนแรกนางก็มิกล้าที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับองค์รัชทายาทผู้สูงส่งแต่ทว่าเขากลับเอาเรื่องเมื่อครู่ให้นางนั่งลงกินกับเขาเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ ส่วนหยางหยางก็ได้ไปนั่งกินอีกโต๊ะกังองครักษ์"เจ้าจะไปที่ใดกันเหตุใดถึงเดินทางมากันเพียงสองคนหลินเฟิ่งทำไมถึงกล้าปล่อยเจ้าออกมา"เมื่อจางเหว่ยถามหาหลินเฟิ่งเสี่ยวเอ๋อก็ชะงักและหยุดกินทันที นางวางตะเกียบลงพร้อมดื่มน้ำ จางเหว่ยก็ได้เห็นท่าทีและสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปของเสี่ยวเอ๋อก็ฉุดคิด"ข้าถามอะไรผิดไปหรือไม่""ไม่เจ้าค่ะ ข้าอิ่มแล้วข้าต้องเดินทางต่อ ขอบคุณท่านอีกครั้ง''เสี่ยวเอ๋อเตรียมจะลุกขึ้นจางเหว่ยจึงได้จับมือนางไว้"เจ้ายังไม่ตอบข้าเลยว่าเจ้าจะไปที่ใดกัน""ข้าจะกลับบ้านของข้าเจ้าค่ะ ท่านชายโปรดปล่อยมือข้าด้วย" จางเหว่ยจึงรีบปล่อยมือเล็กๆของนางทันที"ข้าจะผ่านทางนั้นพอดี เดี๋ยวข้าจะเดินทางไปพร้อมกับเจ้าเผื่อระหว่างทางคนพวกนั้นดักทางเจ้าอยู่เจ้าจะเป็นอันตรายได้""ข้ามิอาจรบกวนท่านหรอกเจ้าค่ะ แค่นี้ก็มากพอแล้ว""เฒ่าแก่เก็บโต๊ะด้วย" จางเหว่ยไม่ฟังคำพูดของเสี่ยวเอ๋อ เขาให้เฒ่าแก่โรงเตี้ยมมากินค่าอาหารและเดิน
เสี่ยวเอ๋อเดินลงจากเกี้ยวเข้ามาในโรงเตี้ยมพร้อมหยางหยาง เฒ่าแก่เจ้าของโรงเตี้ยมก็เดินมาต้อนรับเสี่ยวเอ๋อทันที ''แม่นางเดินทางมาเหนื่อยๆเชิญด้านในเลยขอรับ ทางโรงเตี้ยมของเรายังมีโต๊ะว่างเหลืออยู่ไม่ทราบว่าแม่นางมากันกี่ท่านกันขอรับ""เรามากันสามคนแต่อีกคนรออยู่ข้างนอก""งั้นเชิญด้านในเลยขอรับ" เฒ่าแก่โรงเตี้ยมผายมือให้เสี่ยวเอ๋อและหยางหยางเดินไปที่โต๊ะด้านในสุด"ที่โรงเตี้ยมของท่านมีอะไรน่าอร่อยแนะนำเราบ้าง" หยางหยางผู้ที่หิวได้ถามขึ้นทันที"มีหลายอย่างเลยขอรับ"หยางหยางทำหน้าขุ่นคิดว่านางจะทานอะไรดี เสี่ยวเอ๋อจึงสั่งให้เฒ่าแก่จัดอาหารที่ขึ้นชื่อมาให้กับหยางหยาง"เฒ่าแก่จัดอาหารที่ขึ้นชื่อของโรงเตี้ยมท่านมาให้เราสักสองสามอย่าง ข้าจะให้ท่านห่ออีกชุดหนึ่งได้หรือไม่""ได้ขอรับขอให้แม่หญิงทั้งสองท่านทานให้อร่อยเดี๋ยวข้าจะบอกพ่อครัวให้โปรดรอสักครู่" เฒ่าแก่ได้เดินจากไปในครัว หยางหยางที่หิวจนนางอยู่นิ่งไม่ได้จึงนับตะเกียบเล่นไปมา สักพักเสียงข้างนอกจวนก็ดังโวยวายอย่างกับว่ามีเรื่องอันใดกัน หยางหยางนางอยากรู้อยากเห็นมันเป็นนิสัยที่ติดตัวนางมาตั้งแต่เด็กๆ นางจึงรีบลุกขึ้นออกไปดูทันที "หยางหย
แววตาที่เจ็บปวดมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึก หลินเฟิ่งปลดเสื้อของนางออกอย่างไร้ความปราณี เสี่ยวเอ๋อนอนสั่นเพราะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะสู้ชายตรงหน้าได้ นางไม่คิดเลยว่าคนที่นางเคยคิดจะมอบรักให้จะมาทำกับนางเช่นนี้ แต่ไม่ทันที่หลินเฟิ่งจะทำอะไรนางต่อเหมือนเขาจะดื่มมากไปทำให้เขาเกิดอาการอาการมึนหัว เขานั่งลงข้างๆนางก่อนที่จะล้มตัวลงนอนสลบไป ดั่งสวรรค์จะรู้ถึงความไม่ยุติธรรมต่อนาง เสี่ยวเอ๋อทำอะไรไม่ถูก นางดีใจที่เขาไม่ทันได้ขืนใจนาง นางรีบจับเสื้อมาสวมใส่ก่อนที่จะไปจับตัวของหลินเฟิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเมาหลับไปแล้วจริงๆ "คุณชายเฟิ่ง ท่านหลับไปจริงๆใช่หรือไม่" แม้นางจะดูว่าเขาหลับแต่นางก็ยังคงกลัวเขาอยู่ดี นางค่อยๆใช้นิ้วเขี่ยๆที่แขนของเขาแต่ร่างกายหลินเฟิ่งไม่ได้ตอบสนองต่อการแตะตัวของนาง เสี่ยวเอ๋อรีบลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่ห้องพักของหยางหยางทั้งๆที่ยังสั่นอยู่ "หยางหยาง เปิดประตูให้ข้าที" เสี่ยวเอ๋อมาเคาะประตูห้องของหยางหยาง เมื่อนางได้ยินก็รีบมาเปิดประตูดูว่าคุณหนูของนางมาทำอะไรในเวลาเยี่ยงนี้"คุณหนู นี่มันก็ดึกมากแล้วคุณหนูมีอะไรให้หยางหยางรับใช้เจ้าคะถึงมาหาข้าที่ห้องเช่นนี
เสี่ยวเอ๋อเดินกลับมาที่ห้องของนางโดยมีหยางหยางเดินตามมาด้วย หลินเฟิ่งจึงเดินมาจับข้อแขนเล็กของนางให้หยุดเดินและหันมาคุยกับเขา"ข้าบอกให้เจ้าหยุดเดินแล้วหันมาพูดกับข้าเดี๋ยวนี้" เสี่ยวเอ๋อนางไม่อยากคุยกับเขาในตอนนี้ เพราะนางยังโกรธเรื่องที่เขาต่อว่านาง"ท่านมีเรื่องอันใดจะคุยกับข้าหรือเจ้าคะ ""เจ้าไปไหนทำไมถึงไม่แจ้งข้าหรือบอกกล่าวคนที่จวนนี่บ้าง""ท่านเคยบอกข้าว่าท่านจะไม่สนใจตัวข้า แล้วทำไมตอนนี้ท่านถึงมาถามเรื่องนี้เล่าเจ้าคะ ข้าเหนื่อยปล่อยข้าข้าจะไปพักผ่อน หยางหยางกลับห้อง" เมื่อหลินเฟิ่งได้ยินคำพูดของเสี่ยวเอ๋อเขาจึงต้องปล่อยมือนางไปโดยละอายแก่ใจ แถมยังต้องกลืนน้ำลายของตนเองอีกด้วย แม้วันนั้นเขาจะต่อว่านางก็จริง แต่ทว่าตอนนั้นเขายังไม่รู้เรื่องว่าแม่ของเขาต้องการให้นางท้องบุตรของเขา หลินเฟิ่งจึงปล่อยให้เสี่ยวเอ๋อกลับไปห้องพักพร้อมสาวใช้ เขาจะรอให้นางใจเย็นก่อนจะเข้ามาขอโทษนางอีกครั้ง"เจ้าค่ะ "หยางหยางรีบพาคุณหนูของนางเดินไปที่ห้อง หลินเฟิ่งทำได้แค่เพียงถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนที่เข้าจะเดินไปที่ห้องของเขาเช่นกัน"เจ้าไปเอาเหล้าหมักมาให้ข้าที " หลินเฟิ่งก็ได้บอกบ่าวรับใช้ขอ
แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามากระทบใบหน้าของจางเหว่ยที่ตอนนี้ใบหน้าเริ่มแดงจนถึงใบหู เสี่ยวเอ๋อรู้สึกถึงลมหายและเสียงหัวใจขององค์รัชทายาทเต้นแรงและดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อนางหันหน้าขึ้นไปมองก็เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อของเขา หรือนางจะตาฟาดไป นางจึงรีบผลักตัวออกจากอกของเขา“ข้าต้องขอภอัยด้วยเจ้าคะ ข้าไม่ทันได้ระวังเลยเดินชนท่าน”เขารีบหันหน้าไปอีกฝั่งเพื่อปกปิดความรู้สึกของตนเองไว้“เป็นเพราะข้าที่หยุดอย่างกระทันหันทำให้แม่นางไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่ถือว่าเป็นความผิดของแม่นางแต่อย่างใด ไม่ต้องเก็บไปคิดมาก" "ขอบคุณในน้ำใจของคุณชายจางเหว่ย""ข้าคิดว่าเวลานี้เจ้าควรจะกลับจวนได้แล้ว น้ำค้างเริ่มลงเดี๋ยวร่างกายของเจ้าจะเจ็บป่วยเอาได้ นี่ก็ดึกมากแล้วเส้นทางก็เปลี่ยวสตรีเพียงสองนางกลับกันเองคงจะไม่ปลอดภัย เดี๋ยวข้ากับองครักษ์จะเดินไปส่งเจ้าที่จวนเอง" "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้ากลับกันเองได้ข้าไม่อยากให้ท่านลำบาก" เสี่ยวเอ๋อรีบปฎิเสธทันทีแม้ว่านางเองก็กลัวเช่นกัน ใจคนยากแท้หยั่งถึงแต่นางก็ไม่อาจให้ผู้ที่สูงส่งอย่างองค์รัชทายาทไปส่งนางได้ "ข้าไม่ได้ขอเจ้า แต่เป็นคำสั่งเจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าช่วงนี้มีโจรออกปล้นฆ่า
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู” หยางหยางวิ่งเข้ามาที่จวนด้วยความรีบร้อน “หยางหยางข้าเคยบอกเจ้าหรือไม่ว่าอย่าวิ่งไปมาในจวน “ เสี่ยวเอ๋อส่ายหัวไปมากับการกระทำของหยางหยางที่เฝ้าพรำสอนตลอดเวลา“ข้าขอโทษเจ้าคะเพราะความตื่นเต้นของข้า ข้าเลยเผลอไป “ หยางหยางนั่งลงกับพื้นทั้งพูดทั้งเหนื่อยหอบในเวลาเดียวกัน“ตื่นเต้นมีเรื่องอันใดกัน”“ข้าไปเดินเล่นซื้อขนมที่ตลาดมาให้คุณหนูข้าได้ยินมาว่าที่หมู่บ้านใกล้ๆเขาได้จัดงานเทศกาลกัน ท่านพาข้าไปเที่ยวบ้างได้มั้ยเจ้าคะ ตั้งแต่มาอยู่ที่จวนแห่งนี้ข้าไม่เคยออกไปเที่ยวเลย”“เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ชอบที่แออัดผู้คนเดินเบียดกันมากมาย.” เสี่ยวเอ๋อนางหยิบตำราขึ้นเตรียมจะมาอ่านก็ถูกหยางหยางแย่งไป“โธ่คุณหนูไม่สงสารหยางหยางคนนี้บ้างหรือเจ้าคะ ข้าก็อยากไปเดินเล่นเหมือนหญิงสาวคนอื่นบ้าง” นางพูดพร้อมทำท่าทางออดอ้อนเหมือนแมวน้อยที่กำลังอ้อนเจ้าของอยู่“งั้นเจ้าก็ไปเที่ยวเล่นกับสาวใช้ในจวนสิ.” เสี่ยวเอ๋อจึงหยิบตำรากลับคืนมาจากมือของหยางหยาง“ท่านก็รู้นี่เจ้าคะ ว่าคุณหนูอยู่ที่ใดข้าต้องอยู่ที่นั้นแล้วจะให้ข้าทิ้งคุณหนูไปได้อย่างไร" หยางหยางนางเศร้าทันทีและก้มหน้าลงเหมือนน้อยใจ เสี่ยวเอ
แต่ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อคุณชายหลินเฟิ่งนึกได้ว่าตนเองต้องถูกแม่นางเสี่ยวเอ๋อวางยาแน่นอนถึงทำให้เขามีกิเลศตันหาเขาก็นึกได้ทันทีต้องมีอะไรในชาที่เขาดื่มไปแน่ๆ“หึเจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้าหรือไง” เสี่ยวเอ๋อที่หลับตาลงนางคิดว่าจะถูกเขาประทับจูบลงที่ริมฝีปากของนาง ถึงกับต้องลืมตามาอย่างไว“ไม่นะเจ้าคะ ข้ามิได้คิดอะไรแบบนั้นเลยมีเพียงท่านที่อุ้มข้ามาที่เตียงเอง.”“แล้วในน้ำชานั้นเล่าข้าดื่มน้ำชาของเจ้ากับถึงต้องมีอารมณ์ เจ้าคิดจะวางยาข้าหรือไง เจ้านี่มันแพศยาจอมวางแผนยิ่งนัก ข้าก็คิดว่าเจ้าจะเป็นคนดีข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำเยี่ยงนี้กับข้า”หลินเฟิ่งลุกขึ้นและกำลังจะออกจากจวนไปเสี่ยวเอ๋อนางรู้ว่ามันเป็นแผนของหยางหยางถ้าเขารู้ว่าเป็นแผนของสาวใช้ นางต้องถูกโบยเป็นแน่“ใช่แล้วมันเป็นแผนของข้าเองเจ้าค่ะ ทำไมกันเจ้าคะข้าก็มีใบหน้าที่เหมือนพี่เสี่ยวหลิน เหตุใดข้าถึงแทนที่ท่านพี่ไม่ได้”“ไม่เจ้าไม่มีวันแทนที่ได้ และต่อจากนี้แม้จะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าข้าก็จะไม่สนใจเจ้าอีกเลย เจ้าลืมเรื่องสัญญานั้นแล้วหรือไง” เสี่ยวเอ๋อนางรู้ดีนางก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น "ข้ามิเคยลืม แต่ท่านแม่
ฝูงนกที่บินไปมาอยู่บนท้องฟ้าแสงแดดสาดส่องลอดใบไม้มากระทบใบหน้าของเสี่ยวเอ๋อที่นั่งจิบชาอยู่ที่สวนหลังจวน“หยางหยางเจ้าว่าปานนี้ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าจะทำอันใดกันอยู่” “คุณหนูคิดถึงพวกท่านหรือเจ้าคะ”“ใช่ข้าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่แล้วก็ท่านพี่ ถ้าท่านพี่ยังอยู่ปานนี้ท่านพี่คงมีความสุขดีสินะ”ไม่ทันที่หยางหยางจะได้ตอบสาวใช้คู่กายของแม่ของหลินเฟิ่งก็ได้มาตามนางให้เข้าไปพบ“คุณหนูเสี่ยวหลินเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่ให้ตามท่านเข้าไปพบเจ้าค่ะ”“ท่านแม่นะหรือได้สิ “ นางมาอยู่ที่จวนแห่งนี้ก็นานมากแล้วนางได้เข้าพบท่านแม่สามีแค่เพียงครั้งเดียวก็ตอนแต่งเข้าจวน มีเหตุอันใดกันแม่สามีถึงตามนางเข้าไปพบ เมื่อนางเดินตามสาวใช้จนมาถึงจวนของฮูหยินใหญ่ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ “เสี่ยวหลินคำนับท่านแม่”“นั่งลงเถิด ฟ่างเมิ่งรินชาให้แม่นางเสี่ยวหลินสิ” นางหันไปสั่งสาวใช้ให้รินชาให้กับเสี่ยวเอ๋อ“ท่านแม่มีสิ่งใดถึงเรียกข้าเข้ามาพบหรือเจ้าคะ”“เจ้านี่ช่างรู้ใจข้าเสียจริง มาถึงก็ถามเลยดีเช่นกันข้าจะได้ไม่อ้อมค้อม”“อะไรหรือเจ้าคะ”“เจ้ามาอยู่ที่จวนที่ก็จะเข้าหนึ่งฤดูแล้ว เมื่อไหร่เจ้าจะมีบุตรชายให้แก่หลินเฟิ่งกัน” เสี่ยวเอ