Share

บทที่ 934

Penulis: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เจ้าหน้าที่บันทึกคำพูดของยี่ฝาง และยืนยันคำพูดของพวกยี่เทียนหมิงอีกครั้ง

ยี่ฝางเสนอให้กลับชายแดนเฉิงหลิงเพื่อกำหนดรายละเอียด แต่ซูลันจีกลับพูดว่าไม่ต้อง เนื่องจากรายละเอียดทั้งสองแคว้นได้ส่งออกมาก่อนแล้ว แต่สองฝ่ายต่างไม่ยอมรับเท่านั้น

สำหรับรายละเอียดนี้ ยี่ฝางก็เคยเห็นแล้ว นี่เป็นข้อเรียกร้องของแคว้นซาง ยุติสงคราม ขยับถอยอาณาเขตไปยังสถานที่ที่แบ่งแยกกันตั้งแต่แรก อาศัยเชิงเขานอกเมืองลู่เปินเอ่อร์เป็นขอบเขต

“ข้าก็่ขาดสติไปชั่วขณะ ขอเพียงข้าลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพนี้ ผลงานก็ต้องเป็นของข้า ดังนั้นข้าจึงให้ซูลันจีถอยทัพออกไปยี่สิบลี้ เหลือทิ้งไว้เพียงสิบสองคน หนึ่ง เพื่อให้แผนการเผายุ้งฉางของจ้านเป่ยว่างดำเนินการได้อย่างราบรื่น อีกอย่างหนึ่งคือ หลังจากข้าลงนามในสนธิสัญญาแล้ว เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของทหารของข้า"

“เดิมทีเขาทิ้งไว้สิบสองคน ข้าก็กังวลว่าจะทิ้งยอดฝีมือไว้ พวกข้าก็จะยังมีอันตรายเช่นเดิม แต่เมื่อรู้ว่าในคนที่เขาทิ้งไว้ คนหนึ่งคือที่ปรึกษาสงคราม อีกสามคนคือหมอทหาร แบบนี้ข้าก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีก การลงนามในสนธิสัญญาราบรื่นกว่าที่ข้าคิดไว้อีก หลังจากลงนามแล้ว เราจับตัวท
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 935

    คำสารภาพถูกส่งยังต่อหน้าพระพักตร์ฝ่ายบาท หลังจากจักรพรรดิ์ซูชิงทอดพระเนตรแล้ว ก็ฟังรายละเอียดตอนที่ยี่ฝางรับสารภาพจากหลี่ลี่ เขาก็ขมวดคิ้วทันทีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองลู่เปินเอ่อร์ทั้งหมด สังหารหมู่ทั้งหมู่บ้านและผู้ถูกจับ คำเหล่านี้ ทุกคำเต็มไปด้วยเลือดแต่รายละเอียดเขาไม่รู้ ในคำรับสารภาพก็ไม่ได้บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการสังหารหมู่ในหมู่บ้าน แต่มีคำอธิบายของหลี่ลี่ รายละเอียดนองเลือดเช่นนี้อยู่ในหู แม้จักรพรรดิ์ซูชิงจะยังจำได้ว่าตัวเองเป็นฮ่องเต้ของแคว้นซาง ก็อดไม่ได้ที่จะตบโต๊ะดุด่ายี่ฝางด้วยความโกรธหลี่ลี่สามารถเข้าใจความโกรธของฝ่าบาท แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกเสียวสันหลัง โชคดีที่คนแบบนี้ขอพระราชทานอภิเษกสมรสด้วยผลงานด้านสงคราม ไม่อย่างนั้นเช่นเดียวกับพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ไม่ว่าจะเป็นขุนนางในราชสำนักหรือเป็นแม่ทัพในกองทัพ ก็เป็นอันตรายอย่างยิ่ง“เป่ยหมิงอ๋องดูคำสารภาพนี้หรือยัง? ” หลังจากจักรพรรดิ์ซูชิงทรงดุด่าแล้ว ก็ถามหลี่ลี่ขึ้นหลี่ลี่รู้ว่าเป่ยหมิงอ๋องได้ส่งคนไปเรียกตัวจ้านเป่ยว่างก่อน ฝ่าบาทถึงจะมีพระราชโองการ ดังนั้นตรงนี้เขาจึงตอบอย่างระมัดระวังมาก "ทันทีที่ยี่ฝางสารภ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 936

    ประมาณช่วงยามอู่ (๑๑.๐๐-๑๓.๐๐ น.) วันรุ่งขึ้น นักการทูตจากเมืองซีจิงมาถึงเมืองหลวง และได้รับการต้อนรับจากกรมพิธีการและสำนักหงลู่ จะเข้าพักที่หอฮุ่ยตงระบบขุนนางของเมืองซีจิงคล้ายคลึงกับระบบของแคว้นซาง เพียงแต่เมืองซีจิงไม่มีตำแหน่งเสนาบดี แต่มีคณะรัฐมนตรีและหกกรมเก้าขุนนางคราวนี้มาแคว้นซาง มีองค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่และเจ้ากรมกลาโหมซูลันซือเป็นผู้นำและนำเกากงและเหลียงอัน ผู้เป็นมหาอำมาตย์เอกคณะรัฐมนตรี ซูฉินผู้เป็นเจ้าสำนักหงลู่หัว ล่ามอีกสองคน เจิ้งหยงโชวผู้บัญชาการกองทัพชิงจวิน หลินเหออวี่นายทหารจากจวนจวนองค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่และขุนนางหญิงสามคน เนื่องจากขุนนางหญิงนั้นไม่ได้รายงานชื่อของพวกนาง จึงไม่ทราบชื่อของพวกนาง ส่วนที่เหลือคือองครักษ์และพวกผู้รับใช้เซี่ยหลูโม่ ซ่งซีซีและคนอื่นๆ เฝ้าดูนักการทูตเดินผ่านในร้านอาหารที่แถวประตูเมือง องค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่สวมเครื่องแบบสีม่วงและขี่ม้าสีน้ำตาลแดง เดินเข้าเข้าเมืองพร้อมกับขบวนยิ่งใหญ่อายุที่แท้จริงขององค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่คือสามสิบสองปี แต่บางทีอาจจะเหนื่อยจากการเดินทางอันแสนไกลและทำให้นางดูแก่กว่าอายุจริง"ชายที่ขี่ม้าสีดำด้านหลังอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 937

    วันรุ่งขึ้น ศิษย์พี่ผิงสืบเจอว่าหลังจากที่นักการทูตซีจิงเข้าพักหอฮุยตงเมื่อวานนี้ อ๋องฮวยก็แอบกลับจวนเลย และเมื่อเช้าวันนี้ เขาก็ปลอมตัวเดินทางออกไปอีกครั้ง ราวกับว่าเขากำลังระดมกำลังคนอยู่ศิษย์พี่ผิงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพอจะคาดเดาเจตนาของอ๋องฮวยอย่างคร่าวๆ "ระวังตัวด้วย ถ้าเขาสมรู้ร่วมคิดกับซูลันซือ เขามีแนวโน้มที่จะออกโรงกับเจ้ามาก""รับทราบ" ซ่งซีซีพยักหน้า อันที่จริงศิษย์น้องได้บอกเขาเมื่อคืนนี้ว่าเขาพบคนหนึ่งในขบวนองครักษ์ซีจิง และบุคคลนั้นดูเหมือนอ๋องฮวยมากดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงคาดเดาต่างๆ นานามาทั้งคืนในเมื่อคืนนี้ และตั้งสมมติฐานความเป็นไปได้มากมายงานเลี้ยงในพระราชวัง ไฟส่องสว่างเหมือนดวงดาว ส่องแสงห้องจัดเลี้ยงทำให้สว่างราวกับอยู่ในตอนกลางวันเมื่อคู่สามีภรรยาเซี่ยหลูโม่มาถึง นักการทูตซีจิงได้เข้าไปในพระราชวังแล้วและนั่งอยู่ทางด้านขวาของห้องโถงแล้ว ส่วนพวกองครักษ์และขันทีจากเมืองซีจิงได้รออยู่ข้างนอก เนื่องจากการเข้าวังไม่ได้รับอนุญาตให้พกอาวุธไปด้วย ดังนั้นองครักษ์จึงไม่มีดาบติดตัวไทเฮาและฮองเฮากำลังนั่งตัวตรง เนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เริ่ม ยามนี้พวกนางกำลังดูแลอง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 938

    ในทางกลับกัน เมื่อซูลันซือเห็นว่าจักรพรรดิ์ซูชิงเพิกเฉยต่อเขา และทางเป่ยหมิงอ๋องยังสร้างความกดดันอยู่ข้างๆ ทำเอาเขารู้สึกไม่สบอารมณ์มาก และอยากจะยกหยิบเรื่องชายแดนเฉิงหลิงมาหารือในตอนนี้เลยในขณะที่ดวงตาที่ลุกเป็นไฟนั้น เซี่ยหลูโม่ก็ถามขึ้นว่า "ได้ยินมาว่าแม่ทัพใหญ่ซูได้รับบาดเจ็บ ยามนี้ดีขึ้นแล้วหรือยัง?"ซูลันซือถอนสายตากลับมาและตอบว่า "ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงห่วงใย ท่านพี่ได้หายดีแล้วขอรับ""ข้านึกว่าแม่ทัพซูจะมาด้วยกันเสียอีก"ดวงตาของซูลันซือยังคงเย็นชา "แม้ว่าท่านพี่ชายจะหายดีแล้ว แต่ถึงยังไงก็เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่เหมาะกับการเดินทางไกล"เซี่ยหลูโม่แสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าซูลันจีถูกกักขังเข้าคุกและพูดว่า "แม่ทัพใหญ่เซียวของราชวงศ์เราก็เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน เขาถูกลูกธนูยิงเข้าสองครั้งในปีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เขาเพิ่งผ่านวันเกิดปีที่เจ็ดสิบ อายุปูนนี้แล้วเพื่อเรื่องระหว่างทั้งสองประเทศก็เพิ่งกลับเมืองหลวงจากชายแดนเฉิงหลิงด้วย"ซูลันซือขมวดคิ้ว นี่หมายความว่าอย่างไร? ไหนบอกว่าวันนี้จะไม่พูดถึงมันไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อต้องการพูดถึงมัน งั้นเขาก็มีอะไรมากมายที่จะพูดแต่ก่ยั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 939

    ซ่งซีซีกลับได้ยินทุกคำพูดของพวกเขาก็จริง พวกเขากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงทำสงคราม แต่ไม่สามารถให้ซีจิงมั่นใจได้ว่าพวกเขาไม่ต้องการทำสงครามโดยเฉพาะต้องการให้ซูลันซือรู้ว่าคนที่ไม่ต้องการทำสงครามนั้นมีแต่ตระกูลซ่งและตระกูลเซียวเท่านั้น สำหรับเขา เป่ยหมิงอ๋องกลับต้องการสงครามเช่นนี้เพื่อยึดอำนาจทางทหารของเขากลับคืนมาซ่งซีซีละสายตามองไปทางอื่นและฟังองค์หญิงใหญ่พูดภาษาซางได้คล่องแคล่ว "ข้าอยากพบพระชายาสักครั้งมาโดยตลอด ดังนั้นข้าจึงพยายามอยากได้โอกาสมาแคว้นซางในครั้งนี้ หนึ่งในจุดประสงค์ของการเดินทางของข้าคือเพื่อพระชายา"นางเคยพูดเรื่องนี้มาแล้วครั้งหนึ่งสีหน้าของนางดูจริงใจมาก ราวกับว่ากำลังพูดจากใจจริงๆ ไม่ใช่คำประจบอย่างเมื่อตะกี้ซ่งซีซียิ้มเล็กน้อย "เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับข้าที่ได้พบกับองค์หญิงเจ้าค่ะ"เมื่อมองอย่างใกล้ชิด องค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่ไม่มีท่าทีเหนื่อยล้าเหมือนเมื่อเห็นนางที่ประตูเมืองเมื่อวานนี้ เห็นได้ชัดว่าคงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในเมื่อคืนนี้ และรอยคล้ำใต้ดวงตาของนางถูกปกปิดด้วยแป้งหนา มันมองไม่ออกอีกเลยอย่างไรก็ตาม รูปร่างหน้าตาของนางมันดูแก่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 940

    เจิ้งหยงโซวรู้สึกว่าวิธีนี้ไม่เหมาะสม ไม่ว่าเป่ยหมิงอ๋องจะสนใจพระชายาหรือไม่นั้น ด้วยวิธีนี้ก็หยั่งเชิงอะไรไม่ได้หรอกไม่เพียงไร้ประโยชน์เท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงสูงอีกด้วย"ใต้เท้าซู ข้าน้อยยังคิดว่ามันไม่เหมาะสม พวกเขาจะคิดว่าเป็นฝีมือพวกเรา" เจิ้งหยงโซวส่ายหัว"มีอะไรที่ไม่เหมาะเล่า?" ใบหน้าของซูลันซือแฝงไปด้วยความโกรธ "ก็เพื่อให้เขาเดาว่าเป็นฝีมือของเรา หากเขาต้องการทำสงครามจริงๆ นี่จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา เขาจะทำลายการเจรจาและทำสงครามตรงๆ หากเขาก็แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วแอบส่งคนไปช่วยเหลือเป็นการส่วนตัว แบบนี้ก็รู้ความคิดของเขาแล้วนี่?"ประเด็นที่ไม่เหมาะก็คือทำสงคราม องค์หญิงกล่าวไว้ว่าเราควรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงทำสงครามระหว่างทั้งสองประเทศอีกครั้ง""ความเห็นที่ไม่เอาถ่นของผู้หญิง ใจอ่อนอย่างกับซูลันจี" ซูลันซือสบถขึ้นมาเบาและหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอ้อมแขนของเขาแล้วยื่นให้ "เจ้าดูสิ นี่ต่างหากคือความต้องการที่แท้จริงของฝ่าบาท"ท่ามกลางแสงสว่างในห้องลงพระบังคน เจิ้งหยงโซวเปิดจดหมายมาอ่านพร้อมกับขมวดคิ้วช้าๆจดหมายฉบับนี้เขียนโดยฝ่าบาทจริงๆ เขารับใช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 941

    องค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่ก็รู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยกับการจากไปของซูลันจีและเจิ้งหยงโซวเมื่อฉันเห็นพวกเขากลับมา และยังมองหน้ากัน ราวกับว่าพวกเขากำลังมีแผนอะไรบางอย่างซ่อนไว้องค์หญิงใหญ่ขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกผิดแผลกมากขึ้นเรื่อยๆแต่มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเรียกตัวเจิ้งหยงโซวออกไปเพื่อถามให้ชัดเจน ในระหว่างงานเลี้ยงจะเรียกตัวเจิ้งหยงโซวออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า และผู้ใดที่มีสมองต่างก็มองออกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆความขัดแย้งในประเทศกำลังจะปะทุขึ้นในเมืองซีจิง และองค์หญิงใหญ่เหลิ่งอวี่ไม่ต้องการมีสงครามกับประเทศอื่นจริงๆ ที่มาแสวงหาความยุติธรรมในครั้งนี้ก็เพื่อรักษาบัลลังก์ของน้องสามให้มั่นคงและปลอบใจประชาชนด้วยเมื่อเข้าสู่สนามรบเขตหนานเจียงเพื่อแสวงหาความยุติธรรมนั้นก็สูญเสียกำลังทหารไปไม่น้อยแล้ว และให้อุดหนุนแคว้นซาอย่างเต็มที่อีกด้วย ทำให้กรมคลังประเทศร้อนเงินแล้ว มันไม่สามารถเกิดสงครามที่ต้องเสียเงินเสียแรงอีกเลยต่อให้ทำสงครามอย่างน้อยต้องรออีกห้าปีข้างหน้าในงานเลี้ยงพระราชวัง นักดนตรีเล่นเครื่องดนตรีและนักเต้นก็รำอย่างสวยงาม แต่ต่างคนต่างมีความคิดของตน โดยใช้รอยยิ้มปลอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 942

    ถนนอวี่เจียในยามไฮ นอกจากเสียงรถม้าแล้วก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีกกุ้นเอ๋อร์กำลังควบคุมรถม้าอยู่ข้างหน้า และตอนนี้เขาก็มีความเชี่ยวชาญในงานนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ถึงยังไงแล้วเขาก็เป็นคนที่ขับรถม้าเป็นด้วยเสิ่นว่านจือที่เป็น "สาวใช้" กำลังนั่งอยู่ในรถม้ากับซ่งซีซี นางพิงหัวบนไหล่ของซ่งซีซี และบ่นอย่างอ่อนแอและน้อยเนื้อต่ำใจมาก "พวกเจ้าเข้าไปกินของดีๆ ปล่อยให้พวกเราต้องโดนลมหนาวอยู่ข้างนอก โชคดีที่เป่าจูบอกให้เรานำเป็ดย่างและขนมอบมาด้วย และเทชาลงในถุงน้ำหนังวัวอย่างเอาอกเอาใจ มิเช่นนั้นอดอาหารมาถึงบัดนี้ข้าคงเป็นลมไปแล้ว"ซ่งซีซียิ้มและพูดว่า "เป็นบาปจริงๆ ที่ทำให้คุณหนูเสิ่นของเราต้องหิวโหยเช่นนี้ รอผ่านเรื่องนี้ไป จะให้เจ้าจัดงานเลี้ยงและเลี้ยงอาหารดีๆ ให้พวกเราถือว่าเป็นการชดเชยเลย"เสิ่นว่านจือไม่โกรธ แต่ยังยิ้ม "เจ้านี่รู้จักข้าดีที่สุด สิ่งเดียวที่ข้าสามารถใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายในชีวิตนี้ก็มีแต่เงินแล้วแหละ"นางชอบใช้จ่ายเงินให้กับคนรอบข้าง แต่หากเป็นคนนอก งั้นก็ดูสถานการณ์ก่อน หากเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ นางก็ยินดีที่จะใช้จ่ายให้กับคนแปลกหน้าเล็กน้อยด้วยซ่งซีซีใช้หัวของตนเองงัดหัวของ

Bab terbaru

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1526

    ผ่านไปไม่กี่วัน วังหลังได้เคลื่อนย้ายร่างของนางกำนัลคนหนึ่งออกไปวันนั้น จักรพรรดิ์ซูชิงมีพระราชโองการให้พระสนมซูเฟยย้ายออกจากตำหนักฮุ่ยอี๋ นำนางกำนัล องค์หญิงสาม และองค์ชายสามไปพำนักที่ตำหนักกุ้ยหลานตำหนักกุ้ยหลานตั้งอยู่มุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ใกล้กับตำหนักเย็น ปกติแทบไม่มีใครไปเยือนเมื่อพระราชโองการประกาศออกมา พระสนมซูเฟยราวกับถูกฟ้าผ่า ยืนอึ้งอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยสั่งบรรดาข้ารับใช้ด้วยใบหน้าซีดเผือด “เก็บข้าวของเถิด”นางรู้ดีว่า ตนเองและองค์ชายสามหมดโอกาสแล้วโดยสิ้นเชิงแต่ที่จริง นางไม่ได้นึกแปลกใจเลย นับตั้งแต่นางรู้ว่าฝูเจาอี๋สูญเสียลูกไป นางก็ทำใจไว้แล้วเพราะเรื่องนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเร็วถึงเพียงนี้ ยาที่นางให้ไปมีปริมาณเพียงน้อยนิด ต้องดื่มติดต่อกันครึ่งเดือนถึงจะเห็นผลแต่กลับกลายเป็นว่าเพียงวันรุ่งขึ้น ฝูเจาอี๋ก็ตกเลือดเสียแล้ว นั่นย่อมหมายความว่าคนของนางที่แทรกซึมอยู่ข้างกายฝูเจาอี๋ ได้ทรยศและหันไปเข้ากับฮองเฮา หรือมิฉะนั้นก็พระสนมเต๋อเฟยนางไม่จำเป็นต้องไปไตร่ตรองอีกแล้วว่าเป็นใคร เพราะไม่มีความหมายใดอีก ฮ่องเต้มีพระราชโองการให้ย้ายตำหน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1525

    ซ่งซีซีรู้สึกว่าการเป็นฮ่องเต้ช่างอึดอัดยิ่งนัก เรื่องของอำนาจและการคำนวณผลประโยชน์ล้วนเป็นไปตามสถานการณ์โดยมิอาจควบคุมได้เองบัดนี้ฮ่องเต้คงต้องการแต่งตั้งองค์ชายใหญ่เป็นรัชทายาท เช่นนั้นฮองเฮาก็ไม่อาจเกี่ยวข้องได้ องค์ชายใหญ่เดิมทีก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดา หากฮองเฮายังถูกกล่าวหาเรื่องวางแผนปองร้ายรัชทายาท ก่อความวุ่นวายในวังหลัง ตำแหน่งองค์รัชทายาทขององค์ชายใหญ่ก็คงไม่มั่นคงส่วนพระสนมซูเฟยที่เป็นผู้ลงมือโดยตรง ฮ่องเต้ย่อมต้องคำนึงถึงบิดาของนาง จึงมิอาจลงโทษอย่างรุนแรงได้กล่าวโดยสรุป เรื่องทั้งหมดนี้มิอาจเปิดเผยให้รับรู้โดยทั่วไปได้“แต่ละคนล้วนไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ” ไทเฮาถอนหายใจ “แต่เมื่ออยู่เบื้องหน้าอำนาจสูงสุดแล้ว มีผู้ใดบ้างที่ไม่อยากเดิมพันสุดกำลัง?”ซ่งซีซีกำลังจะเอ่ยถามว่าทำไมไทเฮาจึงเล่าเรื่องเหล่านี้ให้นางฟัง ทว่าไทเฮากลับตรัสขึ้นมาก่อน “เรื่องในวัง เจ้าควรรู้ไว้ว่าต้องระวังให้มากที่สุด จิตใจของผู้คนเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ฮ่องเต้ทรงหวาดระแวงต่อจวนเป่ยหมิงอ๋อง บัดนี้กลับให้ความไว้วางใจพวกเจ้า หากพวกนางต้องการแย่งชิงบัลลังก์ ย่อมมิอาจเลี่ยงที่จะลงมือผ่านตัวเจ้า วัง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1524

    เรื่องที่ฝูเจาอี๋แท้งลูก ซ่งซีซีได้รับรู้จากปากของเซี่ยหลูโม่พระชายาฉินอ๋องมาเชิญนางให้เข้าเฝ้าในวังด้วยกัน ซ่งซีซีก็ตอบตกลงเดิมทีซ่งซีซีกับพระชายาฉินอ๋องไม่มีความเกี่ยวข้องกันมากนัก แต่ตั้งแต่ฉินอ๋องเดินทางไปซีจิงด้วยกัน พระชายาฉินอ๋องก็ดูสนิทสนมกับซ่งซีซีมากขึ้น กล่าวว่าภรรยาของพี่น้องควรไปมาหาสู่กันบ่อยๆพระชายาฉินอ๋องเป็นสตรีตระกูลฉี เป็นลูกพี่ลูกน้องของฮองเฮา แต่หลังจากฮองเฮาถูกกักบริเวณ พระชายาฉินอ๋องก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนฮองเฮาอีกดังนั้น คำว่าภรรยาของพี่น้องควรไปมาหาสู่กันบ่อยๆ สำหรับนางแล้ว แท้จริงหมายความว่าหากไม่มีเรื่องเดือดร้อน ก็สามารถไปมาหาสู่กันได้ แต่หากมีปัญหา ก็ควรอยู่ให้ห่างตัวอย่างเช่น ตอนที่ฮ่องเต้ทรงระแวงจวนเป่ยหมิงอ๋อง พระชายาฉินอ๋องก็ถอยห่างจากซ่งซีซีอย่างชัดเจน ราวกับกลัวจะถูกลูกหลงแท้จริงแล้ว ฉินอ๋องไม่ได้สร้างผลงานอะไรมากนัก เพียงแต่ได้รับคำชมจากฮ่องเต้หนึ่งประโยค ซึ่งก็เพียงพอให้ฉินอ๋องลำพองใจไปได้อีกสองปีขณะที่ทั้งสองเดินทางเข้าเฝ้า พระชายาฉินอ๋องก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงแต่สนทนาเรื่องทั่วไปซ่งซีซีคิดว่าพระชายาฉินอ๋องเป็นคนฉลาด บางครั้งจงใจแ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1523

    จักรพรรดิ์ซูชิงเผยความผิดหวังออกมาเมื่อตรัสกลับถึงตำหนักของพระองค์การสอบสวนไม่พบอะไร ไม่ได้แปลว่าไม่มีปัญหาเล่ห์กลในวังหลังนั้น บางครั้งใช้ออกไปแล้วไม่เหลือร่องรอยให้ตามหาหมอมหัศจรรย์เคยกล่าวไว้ว่า ครรภ์ของฝูเจาอี๋อาจรักษาไว้ไม่ได้ แม้จะรักษาไว้ได้ เด็กที่เกิดมาอาจร่างกายอ่อนแอ หรือแม้กระทั่งเป็นคนปัญญาอ่อนพระองค์เองมิใช่ว่าไม่เคยคิดจะให้ฝูเจาอี๋ดื่มยาถ้วยหนึ่งแต่ท้ายที่สุดก็ยังลังเลไม่อาจตัดใจ นี่อาจเป็นพระโอรสองค์สุดท้ายของพระองค์แล้ว พระองค์จึงอยากลองเสี่ยงดูสักครั้งครานี้พระองค์มั่นใจว่ามีผู้ลงมือแน่นอน ช่วงที่ผ่านมา พระองค์เสด็จไปที่ตำหนักของฝูเจาอี๋บ่อยครั้ง เช่นนี้ย่อมทำให้บางคนรู้สึกไม่พอใจเต๋อเฟยมีใจอยากดูแลฝูเจาอี๋ แต่ฝูเจาอี๋กลับยโสโอหังเพราะความโปรดปราน จนถึงขั้นแสดงความไม่พอใจต่อนาง วันนั้นก็เอ่ยเตือนนางไปแล้ว น่าเสียดายที่นางกลับไม่เข้าใจความหมายเต๋อเฟยเป็นผู้ดูแลวังหลัง หญิงงามมากมายในตำหนักล้วนเป็นคนที่เต๋อเฟยและซูเฟยเป็นผู้เลือก หากคิดจะลงมือกับครรภ์ของฝูเจาอี๋ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อยทว่าเต๋อเฟยคงไม่ได้เป็นคนลงมือเอง ไม่เช่นนั้น คงไม่ช่วยปกป้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1522

    ในตำหนักฮุ่ยอี๋ องค์ชายสามนั่งอยู่บนเก้าอี้ องค์หญิงสามช่วยเช็ดเส้นผมที่เปียกชื้นของเขา นางกล่าวด้วยความขุ่นเคืองว่า “เพิ่งสระผมไปเมื่อวันก่อนแท้ๆ เจ้าต้องเล่นกับเจ้าแมวป่าตัวนั้นให้ได้ ทำให้เส้นผมและใบหน้าของเจ้ามีแต่ขนแมว ถ้ามีคราวหน้าอีก พี่จะตีเจ้าที่ก้น”เด็กชายตัวน้อยที่งดงามราวกับแกะสลักจากหยก ดวงตาดำขลับทอประกายราวดวงดาว ยิ้มแย้มขณะที่พิงตัวอยู่ในอ้อมกอดพี่สาว “ท่านพี่ เจ้าแมวป่าสนุกและน่ารักมาก มันใช้เท้าเล็กๆ เหยียบข้า รู้สึกสบายจริงๆ แถมเวลากอดมันก็อบอุ่นด้วย”องค์หญิงสามกล่าวว่า “เสด็จแม่บอกแล้วว่าเสด็จพ่อไม่ชอบเจ้าแมวป่า แต่เจ้ากลับเอาแต่นำเรื่องของมันไปพูดกับเสด็จพ่อ ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนี้เสด็จพ่อไม่มาหาเจ้าเลย”องค์ชายสามนั่งตัวตรง ปล่อยให้พี่สาวช่วยเช็ดผม แต่ปากยังไม่วายโต้กลับ “ข้ากับเสด็จพ่อเป็นคนละคน ย่อมมีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบแตกต่างกัน เสด็จพ่อไม่ชอบ แต่ข้าชอบ ข้ารักมัน ต่อให้เสด็จพ่อไม่พอใจ ก็ใช่ว่าจะบังคับให้ข้าทิ้งมันได้”องค์หญิงสามเอานิ้วแตะจมูกเขาเบาๆ “ปากคมเสียจริง”องค์ชายสามยิ้มกว้าง “ท่านพี่เถียงข้าไม่ชนะ เพราะพี่ไม่มีเหตุผล เสด็จอาบอกว่าหากพี่มีเหตุผล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1521

    ฝูเจาอี๋มิได้สังเกตเห็นรอยเย้ยหยันที่มุมปากของชุนถังชุนถังเป็นนางกำนัลที่คอยรับใช้ข้างกายนาง ตั้งแต่นางได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเจี๋ยหยู นางเฉลียวฉลาดและสุขุม ยามที่ฝูเจาอี๋ต้องการคำแนะนำ นางก็มักเป็นผู้วางแผนให้อยู่เสมอ ครั้งนั้น ฮองเฮามีใจต้องการดึงนางเข้าสังกัด ทว่าชุนถังกลับเตือนว่าสถานะของฮองเฮาเริ่มสั่นคลอนแล้ว ถูกกักบริเวณอยู่บ่อยครั้ง ฝ่าบาททรงไม่โปรดอีกต่อไป อีกทั้งยังไม่มีอำนาจดูแลวังหลัง สู้ทำทีเป็นให้ความร่วมมือไปก่อน แล้วค่อยเบนเข้าหาเต๋อเฟยและซูเฟยจะดีกว่าและชุนถังก็คิดถูก เต๋อเฟยเมตตานางยิ่งนัก ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และข้าวของล้วนจัดหาให้อย่างดี ไม่มีใครกล้าดูแคลนนางอีกทว่า ในอดีต เต๋อเฟยเคยดีกับนางก็จริง แต่ตอนนี้กลับใช้ประโยชน์จากครรภ์ของนางเพื่อเข้าหาฝ่าบาท สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก“เจาอี๋มิทรงยินดีให้พระนางเต๋อเฟยเสด็จมาหรือเพคะ?” ชุนถังช่วยประคองศีรษะและเอวของนางให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย การต้องนอนติดเตียงเป็นเวลานานเช่นนี้ ทำให้นางมักบ่นว่าปวดหลังฝูเจาอี๋วางใจชุนถังมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยความในใจ “ตอนที่ครรภ์ของข้ายังมั่นคงอยู่ พระน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1520

    ครรภ์ของฝูเจาอี๋ เดิมทีก็มั่นคงดี หมอหลวงเองก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาใหญ่อันใด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเข้าสู่เดือนเหมันต์ ครรภ์นี้กลับเริ่มไม่มั่นคง อีกทั้งยังมีเลือดออกถึงสองครั้งหมอหลวงจินทุ่มเทสรรพวิธีเพื่อรักษาครรภ์ของนางไว้ ทำให้พอประคองสถานการณ์ได้ แต่นางก็ต้องนอนพักอยู่บนเตียง ยังไม่อาจลุกเดินไปไหนได้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หมอหลวงย่อมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตรวจสอบทั้งอาหารการกินและข้าวของที่ใช้ในวังอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ฝ่าบาทเสวยโอสถมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ครรภ์นี้ไม่มั่นคงจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเป็นกังวลอย่างยิ่งกับครรภ์นี้ นับตั้งแต่นางต้องนอนพักรักษาครรภ์ ฝ่าบาทก็ทรงเสด็จมาเยี่ยมเกือบวันเว้นวัน บางคราก็ทรงประทับร่วมเสวยพระกระยาหารเมื่อเอาใจใส่สิ่งหนึ่ง ก็ย่อมละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป ทำให้ช่วงนี้ฝ่าบาทแทบไม่ได้เสด็จไปยังตำหนักของซูเฟย อีกทั้งยังมิได้ทรงเรียกองค์ชายสามเข้าพบที่ห้องพระอักษรเลยส่วนเต๋อเฟยนั้น เนื่องจากต้องดูแลกิจการในวังหลัง เมื่อพอมีเวลาว่างก็มักจะพาองค์ชายรองมาเยี่ยมฝูเจาอี๋ด้วย ดังนั้นจึงได้มีโอกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1519

    ในวังหลัง เดิมทีมีผู้คาดเดาเกี่ยวกับพระอาการของฝ่าบาทไม่น้อย แม้ยามนี้ฝูเจาอี๋จะตั้งครรภ์ ทว่าหมอมหัศจรรย์กลับพำนักอยู่ในวัง เป็นหลักฐานว่าพระวรกายของฝ่าบาทหาใช่เพียงต้องบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้น การที่ฝ่าบาทโปรดปรานเช่นนี้ ทำให้บางคนเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้โดยเฉพาะฮองเฮา นางรับรู้เรื่องพระอาการของฝ่าบาทอยู่บ้าง ตอนนี้หมอมหัศจรรย์กลับเข้าวังเพื่อถวายการรักษา ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรนางไม่อาจคาดเดา เพียงแต่รู้สึกว่าฝ่าบาทอาจอยู่ในช่วงที่พละกำลังถดถอยเต็มที่แล้วครรภ์ของฝูเจาอี๋ นางไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าบุตรในครรภ์จะเป็นชายหรือหญิงก็ยังไม่อาจทราบได้ ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ยังไม่ถึงคราวของเขาแต่การที่ฝ่าบาททรงเอ็นดูองค์ชายสามถึงเพียงนี้ กลับทำให้นางรู้สึกถึงภัยคุกคามเดิมทีฝ่าบาทให้ทางเลือกแก่นาง นางเลือกตำแหน่งฮองเฮา เลือกมีชีวิตรอด ทว่าหลังจากนิ่งเฉยมาพักหนึ่ง นางก็เข้าใจว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงละทิ้งองค์ชายใหญ่ได้รวดเร็วเพียงนั้น ยิ่งตอนนี้องค์ชายใหญ่ขยันขันแข็งศึกษาหาความรู้ แม้แต่ไท่ฝู่และเสด็จอายังเอ่ยปากชม นางยังสืบมาว่าฝ่าบาททรงพอพระทัยองค์ชายใหญ่อยู่ไม่น้อยองค์ชายรองและองค์ชายสามล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1518

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงประชุมหารือกับขุนนางในห้องทรงอักษรยาวนานจนถึงดึกดื่น สุดท้ายเป็นหมอมหัศจรรย์ดันที่ต้องเข้าไปขัดจังหวะ แจ้งว่าดึกมากแล้ว พระองค์ถึงกับเหยียดพระกรพลางแย้มพระสรวล “ถึงกับดึกเพียงนี้แล้วรึ? เช่นนั้นก็เลิกประชุมเถิด ประตูวังใกล้จะปิดแล้ว”แม้จะเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว แต่พระองค์กลับยังดูสดชื่น โดยเฉพาะบนพระพักตร์ที่มีเลือดฝาดขึ้น ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ประชวรเลยซ่งซีซีรอให้เซี่ยหลูโม่ประชุมเสร็จ ก่อนจะออกจากวังกลับจวนพร้อมกันนางอ่อนล้ามาก พิงไหล่ของเซี่ยหลูโม่แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวน เซี่ยหลูโม่อุ้มนางขึ้นมา ซ่งซีซีรับรู้ได้รางๆ แต่ก็ขี้เกียจจะตื่น เลยปล่อยให้เขาอุ้มเข้าไป อ้อมแขนอบอุ่นแข็งแกร่งช่างสบายเหลือเกินตลอดสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากตอนอยู่ที่ด่านเฉิงหลิง นางแทบไม่มีคืนไหนที่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ แต่เมื่อกลับถึงจวน ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึกทว่า…นอนหลับไปก็ยังรู้สึกว่ามีมือร้อนจัดคู่หนึ่งลูบไล้ไปทั่วร่างนางยังคงหลับตา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ลืมที่ท่านลุงดันบอกไปแล้วหรือ?”เสียงร้อนผ่าวกระซิบข

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status