Share

บทที่ 82

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-04-19 16:32:12
พวกเขาทั้งสองขึ้นไปข้างหน้าเพื่อคารวะ "ข้าจ้านเป่ยว่างคารวะท่านผู้บังคับบัญชาขอรับ!"

"ข้ายี่ฝาง คารวะผู้บังคับบัญชาเจ้าคะ!"

เซี่ยหลูโม่เงยหน้าขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "พวกเจ้ามาสักที"

จ้านเป่ยว่างกล่าวว่า "ถนนถูกปิดกั้นด้วยหิมะ ข้าเลยมาช้า โปรดผู้บังคับบัญชาลงโทษให้ขอรับ"

"ธรรมชาติไม่ยอมให้ความร่วมมือ มันไม่เกี่ยวอะไรกั แม่ทัพจ้าน ยี่" เซี่ยหลูโม่เหลือบมองที่ซ่งซีซี และเห็นว่านางแค่เงยหน้ามองแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้เดินเข้าไปเลย เขาจึงรู้สึกว่าพวกเขาสองคนต้องเกิดปัญหาอะไรแล้ว

ในทางกลับกัน ฟางเทียนสวีและแม่ทัพหลิน อดีตสมาชิกสองคนของกองทัพตระกูลซ่งเห็นจ้านเป่ยว่างมา เลยอดไม่ได้ที่จะมองพิจารณาเขา เมื่อเห็นว่าเขาหล่อและมีอ่อร่าเป็นลูกผู้ชาย พวกเขาก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมา

ถึงยังไงเขาเป็นลูกเขยที่ซ่งฮูหยินเลือกกับมือเอง ต้องไม่ผิดเลย?

ฟางเทียนสวีก้าวไปข้างหน้าตบไหล่จ้านเป่ยว่าง และหัวเราะเสียงดัง "แม่ทัพจ้าน ในที่สุดข้าก็ได้เจอเจ้าแล้วในวันนี้ เจ้านี่โชคดีมากจริงๆ ที่ได้ภรรยาที่ดีคนหนึ่ง"

แม่ทัพหลินยังยิ้มและกล่าวว่า "ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับแม่ทัพจ้านเลย เจ้าและภรรยาของเจ้าร่วมมือสร้างผลงานทา
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Pedladda Wimoludomsit
การเดินเรื่องสนุก ชวนให้ติดตาม อยากอ่านต่อเนื่อง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 83

    ซ่งซีซีไม่โกรธเมื่อได้ยินคำถามของนาง นางแค่ยิ้มเบาๆ และพูดว่า "นั่นเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญเลย เลยไม่เห็นจำเป็นต้องพูดถึง"ฟางเทียนสวีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง "หย่าโดยสันติ? ทำไมถึงหย่าโดยสันติด้วยเล่า?"ยี่ฝางกล่าวว่า "หลังจากชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่ชายแดนเฉิงหลิง ฝ่าบาทได้พระราชทานข้าแต่งงานกับแม่ทัพจ้านในฐานะภรรยาที่เท่าเทียมของเขา คุณหนูซ่งทนไม่ไหว ดังนั้นนางจึงขอพระราชกฤษฎีกาเพื่อหย่าโดยสันติ"ประโยคนี้เป็นจริง แต่ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดนางไม่เอ่ยถึงเรื่องที่พวกเขาใช้ผลงานทางทหารเพื่อขอกฤษฎีกาพระราชทานอภิเษกสมรส โดยอยากให้ทุกคนในนั้นได้คิดว่าซ่งซีซีขี้อิจฉาและทนไม่ได้กับพระราชทานอภิเษกสมรสจากฮ่องเต้ เลยขอพระราชโองการเพื่อหย่าโดยสันติเพราะถึงแม้ว่าซ่งซีซีจะเป็นบุตรีของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดีกั๋วกง แต่ในแง่ของสถานะในสนามรบเขตหนานเจียงแล้ว ซ่งซีซีไม่มีค่าอะไรเลยซ่งซีซีมองตรงไปที่นาง แล้วพูดว่า "ทั้งสองท่านประสบความสำเร็จอย่างยิ่งที่ชายแดนเฉิงหลิง ยังใช้ผลงานของตัวเองไปขอฝ่าบาทพระราชทานอภิเษกสมรส สิ่งแรกที่แม่ทัพจ้านพูดกับข้าเมื่อเขากลับมาคือ อยากให้ข้าเติมเต็มความสนองของเขาพวก ข้า

    Last Updated : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 84

    ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น รวมถึงเซี่ยหลูโม่ต่างก็ตกใจกับคำพูดนี้ทันใดนั้น เซี่ยหลูโม่ก็มองไปที่ซ่งซีซี ดวงตาของซ่งซีซีแดงก่ำเล็กน้อย นางสบตากับเซี่ยหลูโม่ และพยักหน้าเล็กน้อยฟางเทียนสวี แม่ทัพหลินและลูกน้องเก่าคนอื่นๆ ของซ่งฮวยอันต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินข่าวร้ายนี้ "เป็นไปได้อย่างไร"ซ่งซีซีพูดเบาๆ "แปดเดือนก่อน สายลับทั้งหมดที่ซุ่มซ่อนอยู่ในเมืองซีจิงรวมตัวกันลงมือ ที่จวนข้า... นอกจากคนที่ติดตามข้าไปอยู่จวนแม่ทัพพวกนั้น ที่เหลือล้วนเสียชีวิตไปหมด""แม่เจ้า"แม่ทัพทุกคนแทบไม่อยากเชื่อข่าวร้ายนี้ ผู้บังคับบัญชาซ่งพาลูกชายทั้งหกของเขาเสียชีวิตในสนามรบ และครอบครัวของเขาก็ถูกสังหารหมู่อีก นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าสิ้นดีจริงๆแต่สายลับของเมืองซีจิงเป็นบ้าหรือเปล่า? ทำไมทำเช่นนี้?"ซ่งซีซี แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ปกปิดไว้ ตกลงเจ้าอยากจะทำอะไรกันแน่?" ยี่ฝางยังไม่ลืมที่จะยั่วยุ"พอแล้ว!" เซี่ยหลูโม่ตะโกนด้วยเสียงทุ้ม "พวกเจ้าสองคนพาทหารและม้ามาได้กี่นาย รายงานตามความจริงมา"จ้านเป่ยว่างนวดแก้มของเขาแล้วพูดว่า "เรียนผู้บังคับบัญชาขอรับ ข้าได้นำกองกำลังหลวงมาหนึ่งแสนคน ทหารค่ายทหารวิเศษหนึ่งหมื่นคน

    Last Updated : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 85

    จ้านเป่ยว่างจูงมือของยี่ฝาง แล้วพูดว่า "ผู้บังคับบัญชาใจเย็นๆ นะ แม่ทัพยี่แค่หุนหันพลันแล่นไปชั่วขณะ ไม่มีเจตนาที่จะขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา"เซี่ยหลูโม่พูดอย่างเย็นชา "หากไม่ยอมรับคำสั่งทางทหาร ให้ออกจากเขตหนานเจียงเดี๊ยวนี้เลย ข้าต้องการแค่ลูกน้องที่เชื่อฟังเท่านั้น"แม้ว่าในใจยี่ฝางจะไม่ยอม แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก นางเพียงมองไปที่ซ่งซีซีอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ลูกสาวผู้สูงศักดิ์ของจวนเสนาบดีกั๋วกง แน่นอนว่าได้รับการยกย่องอย่างมากโดยธรรมชาติจากทุกคนนาง ซึ่งเป็นแค่ลูกสาวของแม่ทัพชั้นต่ำจะเทียบกับความมั่งคั่งโดยกำเนิดของอีกฝ่ายได้อย่างไร? แต่นางยังรู้สึกภูมิใจในตัว เพราะทุกอย่างที่นางมีอยู่ในทุกวันนี้นางหามาด้วยความสามารถของตัวเองไม่เหมือนซ่งซีซี แม้แต่ผลงานยังถูกส่งมอบให้นางนางออกจากค่ายพร้อมกับจ้านเป่ยว่างอย่างไม่เต็มใจ ก่อนออกไป นางกล่าวอีกว่า "ข้าน้อยมีตำแหน่งต่ำ ไม่ได้มาจากตระกูลสูงศักดิ์ ข้าไม่มีสิทธิ์มาทวงความยุติธรรม คำสั่งของผู้บังคับบัญชาแน่นอนว่าข้าต้องเชื่อฟัง"เห็นได้ชัดว่าประโยคนี้กำลังประชดประชนซ่งซีซีอยู่นางยังหวังว่าซ่งซีซีจะเข้ามาเพื่อโต้เถียงกับนาง ทว่าซ่งซีซีย

    Last Updated : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 86

    ไม่น่าแปลกใจนัก นางรู้ว่าชาวซีจิงปลอมตัวเป็นคนชาวแคว้นซาไปรบที่เขตหนานเจียง นางเดินทางหลายพันไมล์ไปยังเขตหนานเจียงเพียงลำพังเพื่อแจ้งข่าวต่อเขา"สงบสติอารมณ์แล้วค่อยมาบอกข้า" เซี่ยหลูโม่นั่งลงข้างกายนาง รูปร่างสูงใหญ่นั้นราวกำแพงมหึมาซ่งซีซีสงบลงมาก “ผู้บังคับบัญชายังต้องการทราบเรื่องอะไรอีกบ้างคะ”ดวงตาของเซี่ยหลูโม่เต็มไปด้วยความสับสนมืดมิด "ทั้งหมด ทำไมถึงแต่งงานอย่างกะทันหัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดหลังจากแต่งงาน เรื่องราวทั้งหลายที่สายลับเมืองซีจิงสังหารหมู่จวนโหวทั้งตระกูล"ซ่งซีซีไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากรู้เรื่องการแต่งงาน แต่เธอยังคงเล่าตามความเป็นจริง และพยายามอธิบายอย่างตรงไปตรงมา เพื่อรักษาระดับอารมณ์ตัวเองให้คงที่ “หลังจากที่ฉันกลับมาจากสถาบันว่านซงเหมินที่ภูเขาเหม่ยชาน ฉันถึงรู้ข่าวการเสียสละของท่านพ่อและท่านพี่ ฉันบอกท่านแม่ว่าจะไปรบที่เขตหนานเจียง แต่ท่านแม่ไม่อนุญาต การเสียสละของท่านพ่อและท่านพี่ทั้งหลายสร้างความกระทบกระเทือนใจต่อนางอย่างใหญ่หลวง นางร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด นางบังคับให้ฉันตกลงที่จะอยู่เมืองหลวงต่อเพื่อสร้างครอบครัว มีชีวิตที่มั่นคง แต่ฉันอยู

    Last Updated : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 87

    ซ่งซีซีกล่าวว่า "นี่ไม่นับว่าเป็นข่มเหงรังแก ตอนสุดท้ายต่างหาก"นางเล่าเรื่องราวที่ตระกูลจ้านวางแผนแย่งสินสอดของนาง ใส่ร้ายนางว่าอกตัญญูไร้คุณธรรม และเล่าเรื่องราวที่พยายามไล่เธอออกจากบ้านทั้งหลายออกมา นางกล่าวว่า “เรื่องเหล่านี้ต่างหากที่เป็นการข่มเหงรังแก เพียงแต่ไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้จะออกกฤษฎีกายึดคืนตำแหน่งย้อนหลังเสนาบดีเจิ้นกั๋วกงท่านพ่อของฉัน อนุญาตให้ฉันกับจ้านเป่ยว่างหย่าขาดต่อกันและสามารถเอาสินสอดทั้งหมดไปได้”ดวงตาของเซี่ยหลูโม่เต็มไปด้วยความโกรธ "พวกเขากล้ารังแกเจ้าแบบนี้ เอารัดเอาเปรียบเจ้าถึงเพียงนี้?"“ฉันไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ” ซ่งซีซีวางมือทั้งสองลงบนเข่า หันข้างมองไปยังเซี่ยหลูโม่ สาวงามข้างหน้าสดใสราวกับเลือด “หากฉันมีความรู้สึกต่อเขาสักนิดฉันคงรู้สึกถูกเอาเปรียบ แต่ไม่ใช่ สำหรับฉันแล้ว การออกจากจวนแม่ทัพถือว่าเป็นการปลดปล่อย สิ่งที่พวกเขาวางแผนกันก็ไม่สำเร็จลุล่วง ดังนั้นผู้บังคับบัญชาถึงได้เห็นว่ายี่ฝางโกรธฉันมากขนาดนั้น และฉันก็ไม่สนใจบุรุษที่นางชอบด้วยซ้ำ นางต่างหากที่ไม่มีความสุข”ยี่ฝางต้องการทำให้นางอับอายขายหน้า แต่นางกลับเล่าได้อย่างไม่สะทกสะท้าน แม้แต่น

    Last Updated : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 88

    กำลังพลสามหมื่นของกองทัพซวนเจียในเมืองหลวงล้วนได้รับการฝึกฝนจากเซี่ยหลูโม่ มีหน้าที่รับผิดชอบปกป้องเมืองหลวง กองทัพซวนเจียทั้งสามหมื่นนายล้วนเป็นชนชั้นสูง และถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้กษัตริย์ประเทศราชหรือหรือกบฏบุกเข้าไปในเมืองหลวงโดยทั่วไปแล้วกองทัพซวนเจียจะไม่ออกรบเว้นแต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ขณะนี้ถึงเวลาจำเป็นต้องมีการฟื้นฟูเขตหนานเจียง เนื่องจากการระดมกำลังทหารของฮวายโจวจะทำให้แคว้นเยว่คิดคด ดังนั้นกองกำลังพิทักษ์ฮวายโจวจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ความจริงที่ว่ากองทัพซวนเจียไม่ออกรบไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่เคยออกรบ ในทางกลับกัน กองทัพซวนเจียทั้งสามหมื่นนายได้รับการคัดเลือกจากผู้ที่ผ่านการรบและได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมมีทหารรักษาพระองค์ซวนเจียหนึ่งหมื่นนายในกองทัพซวนเจียซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของฮ่องเต้และดูแลความสงบเรียบร้อยของเมืองหลวงมีผู้ควบคุมเรือนจำหนึ่งหมื่นนาย สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้โดยตรงรวมทั้งสมาชิกราชวงศ์ และไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนอย่างเปิดเผย เพียงแค่รายงานต่อฮ่องเต้เป่ยหมิงอ๋องเท่านั้นที่เหลืออีกหนึ่งหมื่นนาย คือเจ้าหน้าที่ติดตามและกำกับดูแล ส

    Last Updated : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 89

    จ้านเป่ยว่างตามไป “เจ้าไม่ยอมบอกข้ามาโดยตลอด ย้อนกลับไปที่เมืองลู่เปินเอ่อร์ในตอนนั้น ข้ามีหน้าที่นำกองทหารไปเผายุ้งฉาง เจ้าทำให้ซูลันจีผู้บังคับบัญชาเมืองซีจิงลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับเจ้าได้อย่างไร?”ยี่ฝางแสดงสีหน้าอย่างหมดความอดทน “ข้าบอกท่านแล้วมิใช่รึ? ข้าตะโกนไปทั่วเมืองลู่เปินเอ่อร์ว่าเป่ยหมิงอ๋องได้รับชัยชนะในเขตหนานเจียงแล้ว และกำลังเดินทางมาที่สนามรบชายแดนเฉิงหลิง กอปรด้วยยุ้งฉางถูกเผา พวกเขาได้ยินดังนั้นก็โกลาหลอลหม่านขึ้นมายกใหญ่ ดังนั้นจึงเลือกที่จะยอมจำนน”ใช่ คำอธิบายนี้เคยพูดไปหลายครั้งแล้วเมื่อก่อนจ้านเป่ยว่างไม่เคยคิดว่ามีอะไรผิดปกติมาก่อนจนกระทั่งเขาและยี่ฝางแต่งงานกัน ยี่ฝางเรียกพี่น้องนับร้อยคนมา แม่ทัพหลินถึงกับตำหนินางในภายหลังเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความจริงปรากฏว่านางได้โยกย้ายทหารนับร้อยนายออกจากค่ายทหารโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าอย่างไรก็ตาม นางสามารถบอกเขาได้โดยไม่ละอายใจว่าเธอได้แจ้งเรื่องนี้ไปแล้วและแม่ทัพหลินก็ได้อนุญาตแล้ว นางสามารถโกหกได้อย่างตาใสเมื่อมองย้อนกลับไปคิดถึงชัยชนะที่ชายแดนเฉิงหลิง มักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติจนกระทั่งทหารเม

    Last Updated : 2024-04-19
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 90

    แต่ภายในสามวัน กำลังเสริมหนึ่งแสนสองหมื่นนายนั้นต่างก็พูดเรื่อง ๆ หนึ่งด้วยความขุ่นเคืองนั่นก็คือ ซ่งซีซีอาศัยบารมีของพ่อและพี่ชายของนางได้รับการเลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพระดับห้าโดยที่ยังไม่มีความดีความชอบทางทหารใด ๆทหารภายใต้การนำของยี่ฝางยังคงให้กำลังใจต่อไปโดยกล่าวว่า: “หากนางต้องการอาศัยบารมีทางทหารของพ่อและพี่ชายของนาง นางเป็นคุณหนูอยู่ในเมืองหลวงเพลิดเพลินไปกับชีวิตหรูหรามั่งคั่งไม่ดีกว่าหรือ ทำไมนางต้องมาแข่งสร้างความดีความชอบทางทหารกับพวกเราในสนามรบอีก พวกเรามาเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องประเทศ ก็เพื่อสร้างความดีความชอบทางทหารไม่ใช่หรือ นางไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับได้รับตำแหน่งแม่ทัพ ทำไมไม่ยุติธรรมเช่นนี้?”“ได้ยินมาเสมอว่าเป่ยหมิงอ๋องคุมทหารอย่างเข้มงวด มีการตบรางวัลและลงโทษอย่างชัดเจน คาดไม่ถึงว่าเขาเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าแก่มอบความดีความชอบแก่ซ่งซีซีอย่างง่าย ๆ พวกเราจะทุ่มเทกันไปเพื่ออะไร ไม่แน่ว่าความชอบของเราที่สังหารศัตรูในสนามรบ ท้ายที่สุดแล้ว อาจกลายเป็นความชอบของซ่งซีซีก็ได้”“สนามรบเขตหนานเจียงเป็นเรื่องเร่งด่วน พวกเราเดินทางฝ่าลมฝนหิมะเพื่อรีบมาที่นี่ มีทหารจำนวนมากล้มป่ว

    Last Updated : 2024-04-19

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1346

    เสิ่นว่านจือและพรรคพวกพักอยู่ในจวนท่านอ๋องฮุยมาหลายวัน จนแทบจะพลิกจวนค้นหาไปทั่ว แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร นางจึงตัดสินใจจะถอนตัวกลับ ในแต่ละวัน นางเอาแต่นั่งกินดื่มกับท่านอ๋องฮุย จนรู้สึกว่าตัวเองเกียจคร้าน เสียเวลาเปล่า โดยเฉพาะเมื่อซ่งซีซีกำลังยุ่งมาก แต่นางกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ ระหว่างมื้อเย็น นางจึงบอกกับท่านอ๋องฮุยว่าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ ท่านอ๋องฮุยมองนางพร้อมหัวเราะ "ทำไมหรือ? หรือจวนของข้าเลี้ยงดูเจ้าด้วยของดีๆ ไม่พอ?" เสิ่นว่านจือตอบอย่างตรงไปตรงมา "ท่านเลี้ยงดูดีเกินไป ทุกวันมีแต่ของเลิศรสจากป่าและทะเลจนข้ารู้สึกเกินพอ" "เจ้าช่างเป็นหมูป่าเสียจริง กินอาหารเลิศรสไม่เป็น!" ท่านอ๋องฮุยหัวเราะเสียงดัง "เอาเถอะ หากเจ้าอยู่เบื่อแล้ว ก็กลับไปเถิด" เขาเรียกลุงสิบสามมา สั่งว่า "เจ้าสิบสาม ไปที่คลังสมบัติ เลือกของขวัญสักสองสามชิ้นไว้ส่งให้พวกเขาในวันพรุ่งนี้" ลุงสิบสามตอบ "ขอรับ ข้าจะไปจัดการทันที" ลุงกวนที่ยืนรออยู่หน้าประตูได้ยินจึงกล่าวว่า "ฝ่าบาท ให้ข้าไปเถอะ" ท่านอ๋องฮุยมองเขาครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า "อืม เจ้าก็ไปเถิด เลือกของดีๆ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1345

    เพราะการจัดกำลังป้องกันของกองทัพซวนเจีย เมืองหลวงจึงตกอยู่ในสภาวะระแวงระวังอย่างหนักด้วยการประกาศห้ามออกจากเคหสถานในเวลากลางคืน ทำให้สถานที่บันเทิงเริงรมย์ต่างๆ ดำเนินกิจการได้ลำบาก โรงน้ำชาและโรงสุราต่างปิดประตูทันทีเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เมืองหลวงในยามค่ำคืนราวกับเป็นเมืองร้างกลยุทธ์ในตอนนี้คือ ข้าศึกไม่เคลื่อนไหว เราก็ไม่เคลื่อนไหวงานก่อสร้างคลองยังคงดำเนินต่อไป หากหยุดงานโดยไม่มีเหตุผล กองทัพซวนเจียจะบุกล้อมทันทีเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ซ่งซีซีจึงยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้และถือไพ่เหนือกว่าหากงานก่อสร้างไม่หยุด กิจการคลองจะดำเนินไปตามปกติ ซึ่งเป็นผลดีทั้งต่อราชสำนักและราษฎรแม้การเผชิญหน้าระหว่างสองกองทัพยังไม่เกิดขึ้น แต่บรรยากาศของสงครามกลับเข้มข้นราวกับควันปืนที่เริ่มปกคลุมการเข้าออกประตูเมืองถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดทุกวัน เป็นไปไม่ได้ที่นกต่อจะไม่กลับมาเมืองหลวง เมื่อเดิมพันด้วยชีวิตและทรัพย์สิน เขาจะสั่งการจากระยะไกลได้อย่างไร?ก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีสงสัยว่านกต่ออาจกลับมาแล้ว แต่เสิ่นว่านจือที่พักอยู่ในจวนอ๋องฮุยกลับไม่พบเบาะแสใดเลย อีกทั้งข้ารับใช้ใกล้ชิดของท่านอ๋องฮุยล้วนเป

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1344

    แม้ว่าจะไม่ถูกต้องตามระเบียบ แต่ก่อนที่นางจีจะกลับไป ซ่งซีซีก็สั่งให้คนไปซื้อโจ๊กเนื้อบดสองหม้อ โดยอ้างว่าเป็นของชาวบ้านที่ต้องการขอบคุณฮูหยินจีสำหรับการแจกจ่ายโจ๊กตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้ต้องการตอบแทนบุญคุณครั้งนี้นางจีร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจ นางหวังว่าลูกๆ จะได้ดื่มโจ๊กอุ่นๆ สักคำ แม้เพียงนิดเดียวหลังออกจากหอต้าหลี่ ซ่งซีซีครุ่นคิดแล้วสั่งให้อาจารย์หยูไปเล่าถึงเรื่องที่ชาวบ้านบริจาคโจ๊กให้เป็นที่แพร่หลายเดิมทีผู้คนยังจดจำความมีน้ำใจของนางจีที่แจกจ่ายโจ๊กได้ แต่ช่วงนี้เรื่องราวนั้นเริ่มเงียบหายไปตอนนี้จึงเหมาะที่จะใช้โอกาสนี้จุดกระแสเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งอาจารย์หยูจึงแต่งเรื่องเล็กน้อย โดยเล่าว่าชาวบ้านที่มอบโจ๊กเดิมทีเป็นคนเร่ร่อนชานเมืองหลวงที่อดอยากจนเกือบตาย ดื่มโจ๊กที่โรงทานหลายวันติดต่อกัน และก่อนออกจากเมืองหลวง โรงทานยังมอบเสบียงให้เขาห่อหนึ่งแม้ปัจจุบันชีวิตของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นนัก แต่เมื่อได้ยินว่าผู้มีพระคุณของเขาประสบเคราะห์ เขาจึงรีบเดินทางมาที่เมืองหลวงและซื้อโจ๊กอุ่นๆ สองหม้อมาส่งที่เรือนจำ พร้อมร้องขอให้นำไปให้ผู้มีพระคุณเซี่ยหรูหลิงซึ่งดูแลเรือนจำ เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1343

    นางถามว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูมีอันตรายถึงชีวิตหรือไม่?”หงเชวี่ยตอบว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าอาการยังพอรับได้ แต่ถ้าหวังชิงหลูไข้สูงไม่ลด ก็อาจเป็นอันตรายได้ นางเครียดเกินไป ตอนที่พบนาง นางจับมือข้าไว้แน่น ถามว่าตัวเองจะตายหรือไม่ พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อ เดี๋ยวโทษคนนั้น เดี๋ยวโทษคนนี้ บางครั้งก็โทษตัวเองที่ตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง”ซ่งซีซีไม่ได้พูดอะไร นางไม่มีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของผู้อื่น เพียงแต่หวังว่านางจะไม่ทำให้ฮูหยินจีลำบากไปกว่านี้หากหวังชิงหลูเสียชีวิตในเรือนจำ จะสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในตระกูลหวัง ซึ่งจะเพิ่มภาระทางจิตใจให้กับฮูหยินจีอย่างแน่นอน“หงเชวี่ย อีกสองวันเจ้าไปดูพวกเขาอีกทีนะ”หงเชวี่ยพยักหน้า “เจ้าค่ะ”ซ่งซีซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อีกสองวันเจ้าไป ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”นางอยากพูดคุยกับฮูหยินจีตามลำพัง เพราะในที่สิ้นหวังเช่นเรือนจำนั้น หากไม่มีแม้แต่คนพูดคุย มีเพียงเสียงร้องไห้ที่ไม่สิ้นสุด วันเวลาก็จะยืดยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุดอย่างไรก็ตาม ตอนนี้นางมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ เนื่องจากฝ่าบาททรงพระประชวรและงดราชกิจ นางจึงต้องไปพบเสนาบดีมู่เพื่อแจ้งเรื่องจินชางหมิงเปล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1342

    เนื่องจากฝ่าบาททรงส่งชีกุ้ยไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก งานดูแลเรือนจำจึงถูกมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ดูแล และผู้ที่รับหน้าที่นี้คือเซี่ยหรูหลิงไม่นานนัก เซี่ยหรูหลิงก็เดินทางมาที่จวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อพบซ่งซีซี บอกว่ามีเรื่องที่เขาตัดสินใจไม่ได้ และขอให้ซ่งซีซีช่วยแนะนำซ่งซีซีรีบกินข้าวเพียงสองสามคำแล้วออกมาพบเขา เพราะกังวลว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮูหยินจีและเด็กๆแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เซี่ยหรูหลิงกล่าว นางก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูทั้งสองคนหลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็วิตกกังวลทุกวัน อีกทั้งอาหารยังแย่ยิ่งกว่าอาหารที่เคยให้สุนัขกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีเคยให้ยากับฮูหยินจี ซึ่งรวมถึงยาสำหรับอาการท้องเสียและปวดท้องเพราะไม่ชินสภาพแวดล้อม ยาทำให้อาการดีขึ้น แต่เพราะต้องกินอาหารแบบนั้นต่อไป อาการจึงกลับมาแย่ลงอีก และหวังชิงหลูก็มีไข้สูงฮูหยินผู้เฒ่าร้องขออย่างน่าสงสารให้ช่วยหาหมอ เซี่ยหรูหลิงไม่กล้าตัดสินใจ จึงออกมาขอคำปรึกษาจากซ่งซีซีซ่งซีซีถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ? มีอาการเหมือนกันหรือไม่?”“เดิมที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1341

    แต่ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในวัง กลับไม่ได้พบฝ่าบาท อู๋ต้าปั้นออกมาแจ้งข่าวว่า วันนี้ฝ่าบาทไอจนมีเลือดปนและเกือบหมดสติ ตอนนี้หมอหลวงกำลังรักษาซ่งซีซีรีบถาม “เป็นเพราะพระวรกายอ่อนแอ หรือถูกลอบวางยาพิษ?”คำถามนี้ชัดเจนว่าแฝงด้วยความระแวง หากเป็นสถานการณ์ปกติหรือคนอื่น ซ่งซีซีคงไม่กล้าถามแต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป อีกทั้งคนที่นางเผชิญหน้าอยู่คืออู๋ต้าปั้น นางจึงถามอู๋ต้าปั้นถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “หมอหลวงวินิจฉัยว่าไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่เพราะฝ่าบาททรงวิตกกังวลอย่างหนัก พักผ่อนน้อยและเบื่ออาหาร อีกทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ทรงติดเชื้อและไอมาแล้วหลายวัน แม้จะดื่มยามาหลายวันแต่ไม่ได้ผล วันนี้ไอไม่หยุดจนกระทั่งมีเลือดปนและแทบหายใจไม่ออก”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่การวางยาพิษ ซ่งซีซีก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย หากเป็นการวางยาพิษ ก็หมายความว่ามีคนแฝงตัวเข้ามาในวังแล้ว ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้นการไอเป็นเลือดอาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ได้ ซ่งซีซีจึงยังไม่จากไป แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอหมอหลวงออกมาแจ้งสถานการณ์นอกจากซ่งซีซีแล้ว ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่รอเพื่อกราบทูลเรื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

DMCA.com Protection Status