Share

บทที่ 541

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เมื่อเซี่ยหลูโม่เห็นพวกเขา หัวใจเต้นเร็ว ทำไมจู่ๆ ก็มีผู้คนมากมายโผล่มาแบบนี้? อีกอย่างดูท่าท่างทักษะการต่อสู้ไม่ค่อยดีนัก ยังต้องใช้ตะขอและเชือกเพื่อปีนขึ้นกำแพงสูง พวกเขาเป็นใครกัน? จุดประสงค์ของการบุกเข้าไปเรือนจำดึกคืออะไร?

หากพวกเขาได้ส่งเสียงก่อกวนอะไรขึ้นมาล่ะก็ แผนการช่วยเหลือคืนนี้ต้องล้มเหลวแน่ๆ

สถานที่ที่พวกเขาลงซ่อนตัวนั้นอยู่ในที่มืด และพวกเขาเดินตามกำแพงอย่างรวดเร็วไม่น่าส่งเสียงอะไรได้

เฮะ ช่างเถอะ การเปลี่ยนเวรใกล้จะเสร็จแล้ว พวกเขาจำเป็นต้องบุกเข้าไปโดยเร็วที่สุด

พวกเจ้าสิบเอ็ดฝางก็ค้นพบคนสามคนที่ซ่อนตัวอยู่ตรงหน้า แต่เนื่องจากพวกเขาซ่อนตัวอยู่ในที่มืดและสวมชุดกลางคืนสีดำด้วย แม้ว่าจะไม่ได้ปิดบังศีรษะและใบหน้า แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นชัดเจนได้

โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูหรือเป็นมิตรกันแน่ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขาตัวเบาเหมือนนกนางแอ่นจากนั้นก็บินออกไปในทิศทางที่พวกเขากำลังจะไปทันที ถึงกับตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หรือว่าก็มาเพื่อช่วยเหลือเช่นกันเหรอ?

แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถติดต่อกับฝ่ายนั้นได้ แต่ก็รู้ด้วยว่าผู้บังคับบัญชาในปัจจุบัยเปลี่ยนคนแล้ว และผู้บ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 542

    ร่างเงาสีดำสามร่างบินออกไปอย่างรวดเร็วในความเป็นจริงไม่มีเวลาที่เหมาะสมเลยเพราะมีแสงไฟรอบๆ ห้อง แม้ว่าจะไม่สว่างเท่ากลางวัน แต่อย่างน้อยก็สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของวัตถุหรือบุคคลใดๆ ได้ โดยเฉพาะภายใต้การจ้องมองของดวงตาหลายร้อยคู่ ไม่ว่าพวกเขาจะเร็วแค่ไหน หรือวิชาตัวเบาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ในที่สุดก็ต้องยืนอยู่หน้าห้องเล็กๆ และพังประตูเพื่อเข้าไปในคุกใต้ดินตราบใดที่เข้าไปในคุกใต้ดินแล้ว งั้นก็เท่ากับเข้ากับดักของศัตรูชัดๆเซี่ยหลูโม่และอูโซเว่ยเคยสอบสวนมาก่อน และรู้ว่าเป็นสถานการณ์แบบไหนกันดังนั้นแผนของพวกเขาคือให้อูโซเว่ยและอาจารย์หยูคอยต่อสู้กับผู้คุมก่อน ในขณะที่เซี่ยหลูโม่เข้าไปในคุกใต้ดินเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน หลังจากช่วยคนนั้นออกมาได้ก็มอบให้กับจางต้าจ้วง แล้วค่อยกลับไปช่วยอูโซเว่ยและอาจารย์หยูพ้นจากการต่อสู้ พอตอนนี้มีพวกเจ้าสิบเอ็ดฝางแล้ว งั้นคนที่สู้กับผู้คนนั่นก็มีจำนวนมากขึ้นแล้วเงาร่างของเซี่ยหลูโม่บินตรงไปที่ประตูกห้องเล็กนั้น ประตูทำจากเหล็ก ดังนั้นหากต้องการพังประตูจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีดที่เซี่ยหลูโม่ใช้เป็นมีดทองคำที่ตัดเหล็กออกอย่างง่ายดาย มีน้ำหนั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 543

    ส่วนการเจรจาที่ภูเขายาดั้งในกลางวันนั้น ทัศนคติของหวังเบียว เด็ดขาดมากก่อนการเจรจา ทั้งฝางเทียนสวีและฉีหลินชักชวนเขาไม่ให้พูดถึงเป่ยหมิงอ๋องต่อหน้าวิกเตอร์ อย่างไรก็ตาม หวังเบียวคิดว่าพวกเขาเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเป่ยหมิงอ๋อง และจะเข้าข้างเป่ยหมิงอ๋องอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาตอบตกลงในชั่วคราว แต่ในใจกลับมีแผนอื่นในการเจรจาครั้งก่อน เขาเคยต่อรองโดยบอกว่าเขาจะใช้ทองคำหรืออาหาร เสื้อผ้า หรือผ้าชั้นดีอื่นๆ เพื่อแลกกับชีซื่อ แต่วิกเตอร์ปฏิเสธทั้งนั้น ดังนั้นการเจรจาจึงถ่วงเวลานานแต่คราวนี้ หวังเบียวหมดความอดทนจริงๆ เพื่อชีซื่อเขายอมอ่อนข้อให้มากมายแล้ว จากห้าพันตำลึงเป็นหนึ่งหมื่นตำลึง ข้าว สามพันหาบ และเส้นไหมสองพันผืน ในของพวกนี้แลกกับตัวประกันคนหนึ่ง พวกเขายังไม่ยอม ถือว่าโลภมากทีเดียวอยากได้เมืองซีม่อนมันเป็นไปไม่ได้ เมื่องซีม่อนถูกยึดคืนจากเงื้อมมือของเป่ยหมิงอ๋อง หากถูกสูญเสียไปจากมือของเขา งั้นเขาจะโดนประชาชนชี้หน้าด่าในช่วงเริ่มต้นของการเจรจาในครั้งนี้ เขาได้เพิ่มข้าวสารเป็นห้าพันหาบ แต่ยังคงถูกวิกเตอร์ปฏิเสธเขาโกรธมากจึงทุบโต๊ะ "ข้าว่าพวกเจ้าไม่ได้คิดจะเจรจาจริงๆ ข้าได้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 544

    เมื่อหวังเบียวเห็นพวกเขาทั้งสองแสดงท่าทีแปลกๆ ก็เกิดความไม่ชอบมาพากลขึ้นมา เขาเป็นผู้ตัดสินของการเจรจาครั้งนี้ อีกอย่างได้กล่าวไปแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเจรจากันอีกต่อไป แต่พวกเขายังหยุดวิกเตอร์ไว้ หรือว่ามีเหตุผลใดบ้างหรือเขามาเป็นผู้นำกองทัพหลังจากที่เขตหนานเจียงได้ยึดกลับคืนมา และแม่ทัพใต้บังคับบัญชานั้นก็ไม่ยอมอยู่แล้ว หากการเจรจาครั้งนี้ยังให้เขาเป็นผู้ตัดสินไม่ได้ งั้นจะทำให้เขาเสียหน้า เขาจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอนเขาตะคอก "เจ้าสองคนกลับมา"จากนั้นเขาก็สั่งล่ามว่า "บอกวิกเตอร์ ถ้าไม่มีความจริงใจการเจรจาก็จะจบแค่นั้น หากยังมีความจริงใจในการเจรจา งั้นก็ตามเงื่อนไขที่ข้าเสนอไว้"หลังจากที่ล่ามถ่ายทอดข้อความแล้ว วิกเตอร์ก็มองย้อนกลับไปที่หวังเบียว เขามีสีหน้าหงุดหงิดมาก ไม่ได้มีทีท่ามั่นใจมาก แต่ก็ประมาทไม่ได้ เขาออกคำสั่ง "กลับเมือง"ฉีหลินและฝางเทียนสวีไล่ตาออกไปเพื่อหยุดวิกเตอร์ต่อฉีหลินยกมือขึ้นแล้วโค้งคำนับอีกครั้ง "ท่านผู้บังคับบัญชาวิกเตอร์ ท่านผู้บังคับบัญชาหวังไม่รู้จักชีซื่อ เขาไม่รู้สึกอะไรกับชีซื่อ ดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจที่จะใช้เมืองซีม่อนไปแลกชีซื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 545

    ฉีหลินและฝางเทียนสวีต่างก็บอกไม่ถูกว่าพวกเขากราดเกรี้ยวมากแค่ไหน การเจรจาที่ไม่จริงใจเช่นนี้จะรั้งให้วิกเตอร์อยู่คุยต่อได้อย่างไรตอนนี้เพียงหวังแต่ว่าท่านอ๋องสามารถช่วยชีซื่อออกมาก่อนที่วิกเตอร์จะกลับไป ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาจะเป็นหายนะในทางฝั่งเซี่ยหลูโม่ เขาได้ช่วยเหลือเหล่าจากออกมาแล้ว แต่ในขณะที่วิ่งออกไปนั้นข้างนอกได้ฝ่าฟันอย่างรุนแรงดุเดือด บรรดาพวกเจ้าสิบเอ็ดฝางมีหลายคนได้รับบาดเจ็บแล้วด้วยความที่มีอาจารย์อยู่ด้วย เลยยังไม่ได้รับความเดือดร้อนมากนัก แต่จำนวนกองทหารศัตรูก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และต้องเป็นต้องล่าถอยโดยเร็วที่สุดหลังจากที่เขาวิ่งออกไป ผู้คนมากกว่าสิบคนก็เข้ามาต่อสู้กับเขา เขาใช้วิชาตัวเบากระโดดบินออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า และส่งคนที่อยู่บนหลังของเขาให้จางต้าจ้วง จางต้าจ้วงฉวยโอกาสจากความมืดและจากไปอย่างรวดเร็วในขณะที่แบกคนที่อยู่ด้านหลังของเขาเซี่ยหลูโม่ใช้วิชาตัวเบาอีกครั้งเพื่อบินกลับเพื่อช่วยพวกเขาหลบหนี หากได้ช่วยคนหนึ่งออกมาแต่กลับโดนจับไปอีกหลายคนงั้นแผนการช่วยเหลือนี้ก็ถือว่าล้มเหลวเซี่ยหลูโม่ถือดาบทองคำไว้ในมือแล้วบินตรงไปที่ด้านข้างของอาจารย์หย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 546

    สุสานแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก และทหารที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ที่นี่ มีป้ายสุสานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ทางเข้าสุสานเมื่อเดินเข้าไปข้างใน มีห้องพักสำหรับผู้พิทักษ์สุสานหลายห้อง เหล่าผู้พิทักษ์สุสานถูกควบคุมและคุมขังอยู่ในหนึ่งห้องในนั้นล่วงหน้าแล้ว พวกเขาถูกมัดและปิดปากเอาไว้ ดังนั้นจึงไม่สามารถออกเสียงเพื่อขอความช่วยเหลือได้ก่อนการกู้ภัยพวกเขาเตรียมอาหารและน้ำไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้วเหตุผลในการเตรียมอาหารและน้ำเป็นเพราะคิดได้แล้วว่าชีซื่อจะถูกทรมานอย่างแน่นอน ชาวแคว้นซาจะต้องระบายความโกรธใส่เขาหลังจากพ่ายแพ้ อาการบาดเจ็บของชีซื่อจะสาหัส ดังนั้นจึงไม่สามารถออกเดินทางได้ในทันทีเพียงแต่ว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าชีซื่อจะมีผู้คนมากมายแบบนี้ ดังนั้นปริมาณข้าวของที่พวกเขาเตรียมไว้จึงไม่เพียงพอเมื่อพวกเขากลับมา จางต้าจ้วงกำลังรักษาอาการบาดเจ็บให้เหล่าจางอยู่แล้วเซี่ยหลูโม่วางเจ้าสิบเอ็ดฝางลง และไม่ปล่อยให้ตนเองได้พักผ่อนอะไรก็ยื่นยารักษาบาดแผลและผ้าพันแผลให้อาจารย์และ อาจารย์หยู "รักษาบาดแผลก่อน"เจ้าสิบเอ็ดฝางได้รับบาดเจ็บที่หลัง และฝืนตัววิ่งไปได้ระยะหนึ่ง เมื่อมาถึงสุสาน เขาก็หมดสติไปแล้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 547

    ทุกคนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ตระหนักว่าภรรยาอาจของตนเองก็อาจจะแต่งงานกับคนอื่นเช่นกันบรรดากลุ่มคนนี้ มีเพียงลู่หยาชินเท่านั้นที่ไม่ได้หมั้นหมายหรือแต่งงานกัน เขาเป็นหลานชายจากครอบครัวแม่ของเจ้าสิบเอ็ด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกศึกและเป็นเพียงทหารหวังเอ๋อและหวังหวู่มาจากซูโจว เช่นเดียวกับหยาชินและจางไท่เป็นเพียงทหารธรรมดาเท่านั้นฉีฟางเป็นพี่ชายของคุณชายฉีลิ่ว และเป็นบุตรชายที่รับเลี้ยงโดยฉีฮูหยินคนที่สาม ไม่ใช่เด็กโดยกำเนิดเอง เพราะเขาไม่ชอบเรียนหนังสือและชอบฝึกฝนทักษะการต่อสู้ เขาจึงถูกส่งไปยังสนามรบเพื่อฝึกฝน หลังจากอยู่มาสองสามปี ก่อนที่ถูกจับกุมเขาเป็นหัวหน้าที่มีกองทหารหนึ่งร้อยคนฉีฟางได้หมั้นหมายไว้แล้วก่อนที่จะออกศึก แต่เมื่อข่าวการเสียชีวิตของเขาแพร่กระจายไป คู่หมั้นของเขาคงได้ไปหาคนใหม่แล้ว หัวหน้าตระกูลฉีใจดีและไม่สามารถทำเรื่องที่ใจร้ายอย่างให้หญิงสาวคนนั้นเป็นแม่หม้ายและทำร้ายชีวิตของเขาไปตลอดกาลฉีฟางก็หวังว่าคู่หมั้นของเขาจะมีความสุขเพียงแต่ว่าเขารู้สึกทุกข์ใจแทนเจ้าสิบเอ็ด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขามักจะพูดถึงภรรยาของเขาและอดีตระหว่างสามี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 548

    อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ และทางจวนอ๋องก็เริ่มใช้น้ำแข็งจนถึงบัดนี้เซี่ยหลูโม่ยังไม่ได้ส่งจดหมายกลับมาแม้แต่ฉบับเดียว และซ่งซีซีก็เป็นกังวลเล็กน้อย แม้ว่าจะมีศิษย์อาไปด้วย แต่ถึงยังไงมันเป็นการบุกเข้าไปในเมืองชายแดนของแคว้นซาเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน และทหารของแคว้นซาก็เฝ้าอยู่เมืองชายแดนนั้นด้วย ภรกิจครั้งนี้จึงอันตรายมากตามข่าวที่หงเซียวสืบมาว่ามีองครักษ์หลวงในชุดชาวบ้านประจำการอยู่รอบๆ จวนแม่ทัพ และพวกเขาก็เปลี่ยนกะทั้งวันทั้งคืน ดูเหมือนว่าฮ่องเต้ก็ตระหนักว่ามีคนกำลังจะลงมือกับยี่ฝางไม่รู้ว่าสถานการณ์ในทางเมืองซีจิงเป็นอย่างไร แต่ทูตเจ้ากรมหลี่กลับมาเมืองหลวงเพื่อรายงานงานของเขาแล้ว เรื่องคดีฆ่าสังหารหมูได้สอบสวนชัดเจนแล้ว เป็นเพราะมีคนใส่ไส้เดือนฝอยกับฮูหยินคนนั้นเลยทำให้นางเสียสติทั้งหมดจึงไปฆ่าคนของครอบครัว คือพ่อค้าท้องถิ่นชื่อเถ๋าหม่านฆาตกรก็ยอมรับโทษแล้ว ส่วนสาเหตุของการฆาตกรรมนั้นเป็นเพราะทั้งสองครอบครัวทำธุรกิจเดียวกัน แต่เนื่องจากครอบครัวผู้ตายตีสองหน้าเก่งชอบเสแสร้งกลายขึ้นชื่อว่าเป็นคนมีเมตตาแล้วได้แย่งชิงธุรกิจทั้งหมดของเขาไป เขาอิจฉามาก และนางเถ๋าบังเอิญรู้วิธีใช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 549

    ในเมื่อซีซีบอกว่าน่าสงสัย งั้นเสิ่นว่านจือก็จะไปสืบสวนเพื่อหาคำตอบ นางไปหาหงเซียว ให้นางส่งคนไปจับตาดูอ๋องฮวยด้วย ยังกำชับกับหงเซียวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอย่าเปิดเผยร่องรอยใดๆ และอย่าให้ใครรู้ว่านางกำลังจับตาดูจวนอ๋องฮวยอยู่ก่อนหน้านี้ที่จวนแม่ทัพเจอเหตุการณ์ลอบสังหาร ที่ซีซีออกหน้าไปช่วยยังต้องเข้าวังเพื่ออธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมด ฮ่องเต้เกิดความสงสัยกับทางจวนเป่ยหมิงอ๋องเข้าแล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังมากจู่ๆ ก็มีฝนตกหนัก และบังเอิญเป็นวันที่จ้านเส้าฮวนแต่งงานเข้าไปในจวนโหวผิงหยางฝ่าฝนที่ตกหนัก เกี้ยวคันเล็กเข้ามาทางประตูเล็กของจวนโหวผิงหยาง จ้านเส้าฮวนไม่มีสินเดิมที่ดี ก่อนที่จะเข้าไปในเกี้ยวยังจ้องจ้านเป่ยว่างอย่างขุ่นเคืองหลังจากเข้าไปในจวน นางได้ไหว้กับท่านหญิงเจียอี้และถวายน้ำชาในฐานะอนุภรรยา แต่กลับไม่เห็นหน้าของโหวผิงหยางด้วยซ้ำฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยางก็ไม่ยอมพบนาง เพียงแต่ให้คนใช้มอบกำไลหยกธรรมดาคู่หนึ่งให้นางเป็นรางวัล และให้นางได้อาศัยอยู่ในเรือนชิวหยางเดิมทีนางได้นำสาวใช้สองคนมา แต่เข้าจวนไม่ถึงครึ่งชั่วยาม สองสาวใช้นั้นก็ถูกส่งตัวกลับจวนแม่ทัพ ท่าน

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status