ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านมองไปที่ซ่งซีซี และมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนนี้ในตัวของนางเต็มไปด้วยความสูงส่งและความสง่างามที่ไม่อาจพรรณนาได้ นางแตกต่างออกไปแล้วจริงๆดวงตาของนางปะปนไปด้วยความโกรธ ความเสียใจ ความไม่พอใจ และไม่ยอม และซับซ้อนมากจนเหงือกของนางเริ่มเจ็บจ้านเส้าฮวนอยู่ในอารมณ์เดียวกับนาง แต่จ้านเส้าฮวนจะมีความเกลียดชังและความอิจฉามากกว่าอีกนิดเดียว แค่อีกนิดเดียวนางก็เกือบจะกลายเป็นชายารอง ของเป่ยหมิงอ๋องได้แล้ว"โชคร้าย!" เสิ่นว่านจือพูดอย่างเย็นชาซ่งซีซีเพียงเหลือบมองแวบหนึ่งจากนั้นก็ละสายตาออกไป เมื่อเห็นลูกเถ้าแก่ที่ยิ้มแย้มอยู่ตรงหน้าตน โดยแอบคิดว่าดวงตาของนักธุรกิจนี่เฉียบคมจริงๆ วันนั้นนางอยู่ในสภาพเลอะเทอะอย่างนั้นเขายังคงจำนางได้โอ้ แต่ก็ไม่แปลกใจเลย เมื่อก่อนนางและท่านแม่เคยมาร้านจินจิงมาก่อน ได้พบกับลูกเถ้าแก่คนนี้นางยิ้มและพูดว่า "นายน้อย ไม่ต้องสุภาพเช่นนั้น เราอยากจะขึ้นไปชั้นสามเพื่อเลือกเครื่องประดับ ไม่ทราบว่าจะสะดวกไหม?""สะดวก สะดวกมาก" นายน้อยพูดอย่างตื่นเต้น "พระชายาและคุณหนูทั้งสองท่านโปรดตามข้าน้อยมาด้วย และข้าน้อยจะดูแลทั้งสามท่านเองขอรับ"มีแขกผู้
เครื่องประดับไข่มุกหนานจู? เครื่องประดับบนชั้นสามนางสามารถเลือกซื้อตามอำเภอใจงั้นหรือ?ในอดีต ซ่งซีซีจะให้เครื่องประดับและเสื้อผ้าทุกฤดูกาลให้นางนางมือเติบมาก นางเคยสัญญาว่าจะจัดสินเดิมชุดใหญ่ให้นางเวลานางออกเรือนแต่ตอนนี้ นางกลับไปจัดสินเดิมให้คนอื่นและวันนี้นางพาหวังชิงหลูมาเลือกสินเดิม หวังชิงหลูแค่เลือกซื้อของในชั้นนี้เท่านั้น แม้แต่ชั้นสองก็ไม่ขึ้นไป นับประสาอะไรสินค้าพิเศษที่ชั้นสามล่ะเหตุใดความแตกต่างระหว่างผู้คนจึงใหญ่มาก?เมื่อนางเห็นสายตาที่แขกในนั้นกำลังจ้องมองนางเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน นางรู้สึกอับอายขึ้นมา จากนั้นหันกลับไปและคว้าแขนของหวังชิงหลูพลางพูดว่า "พี่สะใภ้รอง ข้าก็อยากจะขึ้นไปชั้นสามด้วย"หวังชิงหลูหัวเสียขึ้นทันที เดิมทีให้นาออกเงินจัดสินเดิมให้กับน้องสามีนางก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ในฐานะพี่สะใภ้นางสามารถออกให้ชุดหนึ่ง แต่บัดนี้กลายเป็นว่าให้นางออกให้หมดตอนแรกนางไม่ต้องการมาร้านจินจิง เครื่องประดับที่นี่ค่อนข้างแพง นางคิดว่าไปที่ร้านขายทองหรือร้านขายเครื่องประดับแห่งไหนก็ได้แค่ซื้อสักหน่อยให้นางก็พอ แต่แม่สามีบอกว่านางต้องแต่งเข้าจวนโหวผิงหยาง ดังนั้นให้ดู
เด็กน้อยตอบด้วยรอยยิ้ม "ขอรับ คุณหนูรอสักครู่ นั่งดื่มน้ำชาและกินขนมก่อน แล้วข้าจะไปห่อให้ท่านเดี๋ยวนี้"เขาไม่ได้บอกราคา เพราะลูกค้าที่มาชั้นสามจะไม่ถามราคาเสมอ หลังจากห่อเสร็จก็แค่แจ้งตัวเลขไปก็พอฮูหยินผู้เฒ่าจ้านมองไปที่ชุดเครื่องประดับบนศีรษะทับทิมนั้นก็ใจเต้นแรงด้วย นางเคยเจอมาก่อน เลยรู้ว่าชุดเครื่องประดับบนศีรษะทับทิมชุดนี้ต้องมีราคาไม่น้อย และทับทิมก็คุณภาพที่แตกต่างกันเช่นกัน เม็ดเล็กๆ ที่ปกติซื้อนั้นมันเทียบกับทับทิมในวันนี้ไม่ติดเลยนางมองไปที่หวังชิงหลู และพูดเบาๆ "ในเมื่อนางต้องการ ก็ซื้อให้นาง เจ้าว่าอย่างไร?"หวังชิงหลูหัวเราะด้วยความโกรธ ว่าอย่างไรงั้นหรือ? นางมีทางเลือกไหม? เด็กน้อยคนนั้นได้นำกล่องเครื่องประดับที่สวยงามออกมาแล้วเริ่มบรรจุมันกล่องเครื่องประดับนั้นก็มองออกว่ามันมีค่าไม่น้อยด้วย ไม้จันทน์ฝังด้วยกระดองเต่าและอัญมณีเล็กๆ เรียงเป็นแถว และขอบแนวตั้งแกะสลักด้วยลวดลายเมฆนำโชค ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเช่นนี้ ชุดเครื่องประดับนี้จะถูกได้อย่างไรหลังจากที่เด็กน้อยบรรจุอย่างชำนาญและเรียบร้อย เขาก็ยื่นให้ด้วยความเคารพ "ฮูหยิน นอกจากชุดเครื่องประดับบนศีรษะนี้แล
หวังชิงหลูน้ำตาคลอเบ้า และเสียงของนางก็สั่น "ไม่ เราไปเลือกที่ชั้นหนึ่ง ค่อยเลือกหลายๆ ชิ้นหน่อยก็พอ"นางเป็นบุตรีของฮูหยินเอกของจวนป๋อผิงซี นางไม่สามารถพูดเสียงดังกับแม่สามีของตนได้ที่นี่ นางทำได้เพียงอ่อนข้อและขอให้พวกเขาตกลงที่จะลงไปชั้นล่างเพื่อเลือกของต่อ ของชั้นหนึ่งก็หาใช่ถูก เครื่องประดับในร้านจินจิงล้วนราคาไม่ใช่น้อยเลยจ้านเส้าฮวนถือมันไว้แน่น "ไม่ ข้าต้องการชุดนี้"หวังชิงหลูตัวสั่นไปทั้งตัว และมีคนมองออกจากห้องส่วนตัวมาดขึ้นเรื่อยๆ พวกนางต่างมองด้วยความประหลาดใจ ซึ่งทำให้ความรู้สึกอับอายของหวังชิงหลูรุนแรงยิ่งขึ้นแต่เงินตั้งสามสี่หมื่นตำลึงนี้จะให้นางออกให้อย่างไร? ขายสินเดิมหมดบวกกับเงินทำขวัญของเจ้าสิบเอ็ดล้วนเอาออกมาให้พวกนางหมดหรือ เป็นไปได้ยังไง?นางยืนตัวสั่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ ไม่เคยประสบกับช่วงเวลาที่น่าอับอายเช่นนี้มาก่อนในชีวิตนี้เลยนางหันหลังกลับและต้องการจะจากไป แต่แม่สามีรีบคว้าแขนเสื้อของนาง นางตัวแข็งทื่อและสบตาเย็นชาของแม่สามีเข้าน้ำเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าจ้านแฝงไปด้วยความอ่อนโยน แต่ดวงตาของนางบ่งบอกการกดขี่ "จะเดินรีบร้อนออกไปทำไม รอเด็กบริการไปด้วยส
หัวหน้าร้านมองไปที่จ้านเส้าฮวน แล้วพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส "คุณหนู แน่นอนว่ามันได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าชุดเครื่องประดับทับทิมบนศีรษะ ร้านของเรามีหลายรูปแบบ ท่านเพิ่งดูมารูปแบบเดียว ไม่งั้นให้ข้าจัดมาหลายๆ ชุดให้ท่านเลือกดูดีไหม"จ้านเส้าฮวนเงยหน้าขึ้นและเห็นเด็กบริการเดินเข้ามาพร้อมถาดไม้พะยูง พอนางเห็นมันก็รู้ว่ามันกับชุดที่ตนเองถืออยู่นั้นมันคนละระดับเลย ย่อมเอามาจากชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง นางก็เรียกหยุดขึ้นมาทันที "ไม่ ข้าจะเอาชุดนี้"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านก็โกรธขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "จะเลือกอะไรนักหนาอีก บอกว่าเอาชุดนี้แล้ว ร้านจินจิงของพวกเจ้าเป็นอะไรกันแน่ แค่ตามพวกเรากลับจวนรับเงินก็พอ พูดอะไรไร้สาระมากความ"หัวหน้าร้านเป็นคนผ่านโลกมมาเยอะ ลูกค้าแบบนี้ที่ร้านจินจิงมี แต่ไม่เคยพบที่ชั้นสามเท่านั้นแค่มองดูคร่าวๆ ก็รู้ว่าเป็นแม่ลูกสองคนอยากให้ลูกสะใภ้ออกเงินมาซื้อสินเดิม แต่ครอบครัวนี้ดูแปลกๆ ไปหน่อย ฮูหยินผู้เฒ่าดูอายุไม่ได้มาก ตามหลักแล้วน่าจะเป็นนายหญิงดูแลเรื่องราวของจวน งั้นคนที่ออกเงินก็ควรเป็นฮูหยินผู้เฒ่าที่ออกให้นี่ แต่ทำไมฮูหยินที่มีอายุน้อยกว่าที่อยู่ข้างๆ ถึงทำท่าอยากจะร้องไห้
ประโยคคำว่ารับความนับถือและการระลึกได้บ่งบอกข้อมูลมากมายสามีต่างก็เสียชีวิตในสนามรบเช่นกัน และเป็นคนหัวอกเดียวกัน ดังนั้นฮูหยินน้อยจึงต้องการช่วยหวังชิงหลูด้วยความเมตตา แต่ไม่คาดคิดว่าหวังชิงหลูจะไม่รับน้ำใจ ดังนั้นทำให้ฮูหยินน้อยเช่นกัน เขินอายมากพอซ่งซีซีได้ยินตัวตนของอีกฝ่ายก็รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแล้วแต่นางไม่ได้พูดที่นี่ แต่เปลี่ยนเรื่องหัวข้อและถามเซียนหนิงว่าได้เลือกอะไรไปบ้าง และนางต้องการซื้อของขวัญให้แม่สามีที่ซื่อๆ อีกชิ้นหนึ่งด้วย วันนี้ไม่ได้พานางออกมาคงต้องโกรธแน่เหตุผลที่ไม่พานางมาที่นี่ก็เพราะว่าแม่สามีเคยเปิดร้านจินร่วมกับท่านหญิงเจียอี้มาก่อน และรูปแบบก็คัดลอกมาจากที่นี่หมด เพื่อป้องกันไม่ให้แม่สามีต้องร้อนตัวและกระดากใจชุดเครื่องประดับบนศีรษะไข่มุกหนานจูได้ระบุบรูปแบบแล้ว ยังเลือกสิ่งของโปรดหลายชิ้น เซียนหนิงกอดพี่สะใภ้และตะโกนว่าชอบพี่สะใภ้มากที่สุดเถ้าแก่น้อยยิ้มอยู่ข้างๆ เมื่อเปรียบเทียบกับพี่สะใภ้และน้องสามีคู่เมื่อกี้ที่อยู่ข้างนอกนั้น สองพี่น้องนี้รักกันมากจริงๆแม้ว่าเขาจะเป็นนักธุรกิจ แต่เขาก็ยังชื่นชมทหารผู้จงรักภักดีต่อประเทศ ครอบครัวของเส
เมื่อไทเฟยกลับมาจากวัง นางก็เดินตรงผ่านห้องโถงดอกไม้ เงยหน้าขึ้นและไม่มองดูสตรีที่กำลังพูดอยู่ข้างในสตรีคนหนึ่งถึงกับตะโกนว่า "เสด็จแม่ ท่านกลับมาแล้วเหรอ?"นางเพิกเฉยและเดินต่อไปโดยเชิดหัวขึ้นสตรีอีกคนวิ่งไปคว้าของนาง "เสด็จแม่ ดูสิว่าข้ากับพี่สะใภ้ซื้ออะไรมาให้ท่านบ้าง มาเลย!""ฮึ" สนมฮุ่ยไทเฟยเหลือบมองเซียนหนิงอย่างเย็นชา "คิดว่าข้าจะสนใจหรือ?"เซียนหนิงแสดงสีหน้าผิดหวังขึ้นมา "อ๊ะ? ท่านไม่สนใจเหรอ? พี่สะใภ้อุตส่าห์เลือกให้ตั้งนานเลย""ฮึ่ม อุตส่าห์เลือกให้ตั้งนาน" สนมฮุ่ยไทเฟยมองซ่งซีซีอย่างเย็นชาซึ่งยืนอยู่ที่ประตู ภายใต้การจ้องมองที่ยิ้มแย้มของซ่งซีซี นางเงยคางขึ้น "ดูหน่อยก็ได้ แต่ข้าจู้จี้จุกจิกมาก"ซ่งซีซียิ้มแล้วพูดว่า "เสด็จแม่ มาเร็วเข้า"เสิ่นว่านจือรีบให้คนใช้ไปเตรียมชาผลไม้ และในขณะที่นางรับชมเครื่องประดับนั้นก็เล่าเรื่องสนุกของวันนี้ให้นางฟังด้วยไทเฟยเอาปิ่นระย้าพู่ปะการังสีแดงปักเข้าไปทรงผม จากนั้นเขย่ามันเล็กน้อย นางได้ยินเสียงพู่ รู้สึกไพเราะมาก นางรู้สึกปลื้มใจมาก ต้องยอมรับว่าซีซีเก่งจริงๆ ที่รู้รสนิยมของนางแต่เรื่องสนุกนี้นางแค่ฟังเฉยๆ ก็พอ หากอยู่ใน
ณ จวนแม่ทัพคืนนี้มีโคมไฟเพียงดวงเดียวที่จุดอยู่ตรงหน้าระเบียง และที่ลานบ้านหลักมีโคมไฟสองดวงจุดไว้โดยมีโป๊ะโคมผลึกแก้วคลุมไว้ ซึ่งเป็นของที่ซ่งซีซีลืมเอากลับไปหลังหย่าห้องโถงด้านข้างไม่ได้จุดโคมไฟไว้ เลยมืดสนิท และมียุงบินไปทั่วเด็กบริการจากร้านจินจิงยังไม่กลับ เขานั่งอยู่รอในห้องโถงด้านข้างของลานหลัก เขารออยู่อย่างใจจดใจจ่อมาก ไม่มีผู้ใดส่งน้ำชาให้และไม่มีใครจุดไฟด้วย รอตั้งแต่ฟ้ายังสว่างจนถึงฟ้ามืดเขามาเก็บเงิน แต่หลังจากเข้ามาในจวนแม่ทัพ เขาถูกเรียกให้รออยู่ตรงนั้น จากนั้นก็ได้โวยวายจากห้องโถงหลัก พร้องเสียงร้องห่มร้องไห้อย่างหนักด้วยหลังจากทะเลาะกันไปตั้งครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็สงบลง มีคนเข้ามาบอกให้เขารอต่อ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาอีกเลยเนื่องจากเขามีวรยุทธ์ เพราะงั้นที่ผ่านมาทุกครั้งที่ลูกค้าไปร้านจินจิงและมีเงินติดตัวไม่พอก็มักจะให้เขาตามลูกค้ากลับจวนหรือโรงฝากเงินไปรับเงินบางครั้งก็ต้องรอ แต่เวลาที่รอมานานที่สุดก็ไม่เกินครึ่งชั่วยาม นั่นเป็นเพราะว่าจวนมีขนาดใหญ่เกินไป และบวกกับเจ้าของบ้านเป็นคนใจดีกระตือรือร้นกับแขก ให้น้ำชาและขนมดีๆ แก่เขา รอให้ของกินเสร็จค่อยเอ