แชร์

บทที่ 45

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ณ ห้องหนังสือ

จักรพรรดิ์ซูชิงมองไปยังซ่งซีซีที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นหินอ่อนสีขาว

ทรงสวมชุดสีขาวเรียบๆ และเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ไม่ได้มัดทรงผมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหญิงแต่งงานแล้วไว้เหมือนครั้งล่าสุดที่นางเข้าวัง แต่มัดเป็นหางม้าสูง และใช้ผ้าขาวมัดไว้แน่น

ใบหน้าของนางดูซีดเผือด ดวงตาของนางเป็นสีแดงอ่อน และมีรอยคล้ำด้วย ราวกับว่านางไม่ได้นอนมาทั้งคืน และขนตาที่โค้งงอเล็กน้อยของนางดูเหมือนจะเปื้อนไปด้วยน้ำตา

นางมีหน้าตาที่งดงาม อยู่ในสภาพน่าสงสาร แต่กลับไม่มีความรู้สึกอ่อนแอ เผยให้เห็นความเเข้มแข็งและความอุตสาหะในดวงตาของนาง

"หม่อมฉันคารวะฝ่าบาทเพคะ!" เสียงของนางฟังดูแหบแห้ง เมื่อคืนหลังจากเป่าจูออกไป นางก็ร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มเป็นเวลานาน

"เคยร้องไห้มาหรือ?" จักรพรรดิ์ซูชิงขมวดคิ้ว ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูไม่พอใจเล็กน้อย "เป็นเพราะงานแต่งงานระหว่างจ้านเป่ยว่างกับยี่ฝางหรือเปล่า?"

ซ่งซีซีส่ายหัว และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จักรพรรดิ์ซูชิงก็พูดต่อว่า "เจ้าเป็นคนเข้าวังเพื่อขอพระราชโองการให้หย่าโดยสันติ ในเมื่อหย่ากันแล้ว ต่อไปต่างคนก็ต่างไปเลย เหตุใดเจ้าต้องไปเสียใจเรื่องอดีต หากเจ้าปล่อยวางไ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ฮ่องแต้ที่ยิ่งใหญ่ และแม่ทัพที่เก่งกล้า
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ต้องรักษาแผ่นดินไว้ให้ได้
goodnovel comment avatar
ขนิษฐา พามา
สนุกมากน่าอ่าน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 46

    จักรพรรดิ์ซูชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเป็นจดหมายจากเสิ่นชิงเหอ ศิษย์พี่ของนาง เลยรีบสั่งให้อู๋ต้าปั้นส่งจดหมายให้เขาเขาอ่านข้อความในจดหมาย และมันเป็นลายมือของคุณชายชิงเหอจริงๆ เมื่อเขาเป็นรัชทายาท เขาโชคดีที่ได้รับหนังสือเขียนโดยคุณชายชิงเหอเอง ดังนั้นเขาจึงจำลายมือของคุณชายชิงเหอได้ข้อความที่เขาเขียนในจดหมายส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องราวที่เขาเห็นระหว่างการเดินทาง แต่ย่อหน้าสุดท้ายกล่าวว่า "เมื่อปีนขึ้นไปบนภูเขาลั่วเซีย ก็เห็นทหารของเมืองซีจิงตั้งหลายแสนคนสวมชุดทหารของแคว้งซา และมีข้าวสารพกตัวด้วย องค์ชายสามแห่งแคว้งซาเป็นคนไปต้อนรับพวกเข้าเข้าชายแดนเอง พี่งงมาก ไม่รู้ว่าเมืองซีจิงกับแคว้งซาได้เป็นพันธมิตรกันหรือเปล่า แต่หากเป็นพันธมิตรกัน ทำไมพวกเขาถึงต้องรับทหารตั้งสามแสนเข้าเมือง พี่เลยติดตามพวกเขาอย่างเงียบๆ และพบว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่สนามรบเขตหนานเจียง เกรงว่าพวกเขาอาจจะลงมือกับเขตหนานเจียง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เจ้าคอยพิจารณาดูว่าต้องรายงานกับฝ่าบาทหรือไม่..."ซ่งซีซียังคงก้มหัวตลอด นางรู้สึกใจคอไม่ดีมาก เพราะกลัวว่าฮ่องเต้จะมองออกอะไรหลังจากที่จักรพรร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 47

    มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะลงไม้ลงมือกับกองทัพจักรวรรดิ ไม่เช่นนั้น ฮ่องเต้จะคิดว่า นางกำลังจงใจสร้างเรื่องเพราะเรื่องการแต่งงานของจ้านเป่ยว่างและยี่ฝางนางมองดูแผ่นหลังของฮ่องเต้ขณะที่เขาเดินจากไป และรีบตะโกนว่า "ฝ่าบาท ท่านพ่อของหม่อมฉันเป็นแม่ทัพระดับแนวหน้าในแคว้งซาง พี่ชายก็เป็นแม่ทัพน้อยที่ทำให้ศัตรูในสนามรบหวาดกลัว แม้ว่าหม่อมฉันไม่ดีเท่าพวกเขา แต่หม่อมฉันจะไม่หัวดื้อกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไม่ยอมเลิก ในเมื่อตัดขาดกับจ้านเป่ยว่างแล้ว หม่อมฉันจะไม่เอาเรื่องความรักมาข้องเกี่ยวกับนเมืองแน่นอน โปรดฝ่าบาทเชื่อใจหม่อมฉันสักครั้งเพคะ"จักรพรรดิ์ซูชิงยืนนิ่งโดยไม่หันกลับมามอง และพูดอย่างเย็นชาว่า "ในเมื่อเจ้ารู้ว่าท่านซ่งและพวกแม่ทัพน้อยเป็นวีรบุรุษที่ไม่ย่อท้อ เจ้าก็อย่าทำอะไรที่น่าละอายที่ทำลายชื่อเสียงของพวกเขา ข้าให้เกียรติได้ แต่ก็สามารถยึดกลับมาได้ กลับไปซะ ข้าจะทำเป็นว่าเจ้าไม่ได้มาที่นี่ในวันนี้ เจ้าต้องสำนึกตัวเองบ้าง"หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปซ่งซีซีวางมือลงอย่างจนใจ เรื่องน่าละอายเหรอ?ในสายตาของผู้อื่น แม้แต่ในสายตาของฮ่องเต้ นางเป็นคนที่ไม่แยกแยะระหว่างสิ่งถูกและผิด และเป็น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 48

    เฉินฟูขี่ม้าออกไปพร้อมกับกล่องสองสามใบ ตามที่คาดไว้ องครักษ์ไม่ได้ถามเขาว่าเขากำลังจะไปไหน ถึงยังไงตราบใดที่คุณหนูซ่งไม่ออกไปก็คงไม่เป็นไร ฮ่องเต้แค่สั่งให้กักขังนางไว้ และไม่เกี่ยวอะไรกับคนอื่นในจวน จวนเสนาบดีกั๋วกงใหญ่ขนาดนั้น แต่ละวันต้องมีคนเข้าออกเพื่อซื้อของอยู่แล้วเฉินฟูมาถึงจวนอ๋องฮว ยและบอกว่าคุณหนูจากจวนเสนาบดีกั๋วกงมาขอมอบของขวัญแต่งงานให้ท่านหญิงด้วยคนเฝ้าประตูเข้าไปรายงาน หลังจากนั้นไม่นาน พ่อบ้านเจิงของพระชายาอ๋องฮวยก็เดินออกมา คารวะกันแล้ว เขาพูดว่า "คารวะพ่อบ้านเฉินขอรับ พระชายาบอกว่าคุณหนูจากจวนเสนาบดีกั๋วกงกลับจวนหลังหย่า กำลังต้องการเงินอยู่ ไม่จำเป็นต้องมาเสียเงินกับท่านหญิงเลย ของขวัญไม่จำเป็นหรอก แต่ขอรับน้ำใจไว้ พ่อบ้านเฉินกลับไปเถอะ หากไม่มีอะไรก็ไม่ต้องมาหาหรอก"เฉินฟูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อมองดูสีหน้าที่ไม่แยแสของพ่อบ้านเจิง เขาก็เข้าใจทันทีพระชายาอ๋องฮวยรังเกียจคุณหนูที่เป็นแม่ม่าย การรับของขวัญแต่งงานจากนางคิดว่าเป็นโชคร้าย ดังนั้นจวนอ๋องฮวยจึงไม่ต้องการเฉินฟูมีความโกรธในใจ แต่การอบรมสั่งสมที่ดีจากตระกูลชั้นสูงสอนให้เขาต้องรักษาสุภาพเอาไว้ "ในเมื

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 49

    ประตูของจวนเสนาบดีกั๋วกงปิดลง ปิดกั้นนางหมินอยู่ข้างนอกทุกอย่างที่เกี่ยวกับจวนแม่ทัพ แม่นมเหลียงไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใดเลยแต่เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเฉินฟู นางก็ถามว่า "พ่อบ้านเฉิน เกิดอะไรขึ้นหรือ?"เฉินฟูยื่นแส้ม้าให้คนดูแลม้า แล้วขยับขาซ้ายของเขา วันนี้เขาขี่ม้าไปหลายแห่ง ดังนั้นขาที่เคยบาดเจ็บนั้นจึงรู้สึกบวมและเจ็บปวดเล็กน้อย"พระชายาอ๋องฮวยไม่ได้รับของขวัญท่คุณหนูมอบให้ท่านหญิง" เฉินฟูพูดอย่างเบาเสียงมาก กลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเข้าแม่นมเหลียงสะดุ้ง "พระชายากับฮูหยิงของเราเป็นพี่น้องกัน และปกติพวกนางก็ดูใกล้ชิด...จ้า เข้าใจแล้ว"แม้ว่าฮ่องเต้จะแต่งตั้งตำแหน่งเสนาบดีกั๋วกงให้เขา แต่คุณหนูกลับจวนเพราะหย่ากัน คนอื่นคนนอกลือกันอย่างไม่น่าฟังเช่นนั้น บวกกับฮูหยิงก็ไม่อยู่แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างน้ากับหลานเลยหมดไปในสายตาของตระกูลชนชั้นสูง พวกเขามักจะคิดว่าคุณหนูได้รับการหนุนหลังจากท่านพ่อและพี่ชาย ถึงได้รับความสนใจจากฮ่องเต้ ดังนั้นไม่มีใครไม่ดูถูกคุณหนูเลยเฉินฟูกล่าวว่า "ของขวัญนั้นข้าเก็บไว้ในห้องข้างๆ ของเรือนนั้น คืนนี้คุณหนูไปรับม้า คงไม่พบมัน อย่าให้นางรู้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 50

    การฝึกฝนนี้ใช้เวลาครึ่งชั่วยาม นางเหยียดขาของนางขึ้นไปในกลางอากาศ และร่างกายที่แข็งแกร่งและตัวเบาของนางก็หมุนตัวอย่างรวดเร็วสองสามครั้ง จากนั้นหันกลับมาและใช้กำลังภายในเพื่อกระตุ้นหอกให้โจมตี ทันใดนั้นได้แต่เห็นก้อนหินก้อนหนึ่งแตกออกกลายเป็นฝุ่นไปเลยเฉินฟูประหลาดใจพลางเดินไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบดู เห็นแต่ว่าใบไม้ที่เต็มพื้นนั้นถูกเจาะเป็นรู โดยไม่มีข้อยกเว้นเฉินฟู่รู้สึกปลื้มใจอย่างยิ่ง "ทักษะการใช้หอกของคุณหนูมันดีกว่าแม่ทัพน้อยเสียอีก ขนาดเทียบกับท่านเสนาบดีกั๋วกงได้เลย"ซ่งซีซีถือหอกในมือ ดูคู่กับนางมาก บนหน้าผากของนางมีเม็ดเหงื่อออก และใบหน้าดูแดงราวกับดอกพลัมสีแดงบาน ในที่สุด หลังจากการฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน นางก็กลับมาอยู่ในระดับเดียวกับตอนที่นางลงจากเขา "งั้นคราวนี้ข้าจะออกไปพร้อมกับหอกดอกท้อนี้"จะมีการเสริมกำลังแน่นอน แต่อาจจะไปสายหน่อย นางจึงต้องรวมตัวคนจากสถาบันว่านซงเหมินและสหายเก่าบางคนไปที่สนามรบก่อน เพื่อร่วมมือกับเป่ยหมิงอ๋องช่วยเฝ้าดินแดนจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึงตอนนี้ เป่ยหมิงอ๋องกำลังทำสงครามกับแคว้งซาที่เขตหนานเจียง เขาจะรู้ถึงสถานการณ์ของแคว้งซา แน่น

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 51

    หิมะรอบแรกนี้ ตกไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็หยุดแล้วซ่งซีซียังคงสวมเสื้อผ้าสีขาวล้วน มีดอกไม้สีขาวบนผมของนาง เวลาอยู่ในจวนเสื้อผ้าที่นางสวนใส่นั้นโดยพื้นฐานแล้วเป็นสีขาวหมด ไว้ทุกข์ให้ท่านพ่อและท่านแม่เป็นเวลาสามปี ดังนั้นนาง จึงไม่สวมเสื้อผ้าสีสันสดใสนางยังคงทำตัวเหมือนตอนที่นางอยู่ในจวนแม่ทัพ ไม่รีบไม่ร้อน ตอนเข้าห้องก็คารวะให้ "ข้าคารวะฮูหยินผู้เฒ่ารองเจ้าคะ"จากนั้นนางก็คำนับนางหมิน และพยักหน้าเล็กน้อยฮูหยินผู้เฒ่ารองยืนขึ้นและก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือนาง หลังจากมองพิจราณาดูแล้ว นางยังคงผิวขาว มีสีหน้าสดใส ดูดีกว่าตอนที่อยู่จวนแม่ทัพตั้งเยอะเลยเห็นเช่นนี้นางถึงรู้สึกโล่งใจ แต่เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่นางอยู่ใน จวนแม่ทัพ ดวงตาของนางก็อดไม่ได้ที่จะแดงขึ้น "ซีซี สบายดีหรือไม่?""ฮูหยินผู้เฒ่ารองไม่ต้องกังวล ซีซีสบายดีเจ้าคะ" ซ่งซีซีช่วยพยุงนางนั่งลง ยิ้มเล็กน้อย และเงยหน้าขึ้นมอง "ท่านฮูหยินผู้เฒ่ารองก็สบายดีเช่นกันหรือไม่?""ดี สบายดีแหละ" ฮูหยินผู้เฒ่ารองนั่งลง และโล่งใจเมื่อเห็นว่า นางไม่ได้เสียใจเรื่องที่จ้านเป่ยว่างแต่งงานกับยี่ฝาง"ซีซี" นางหมินคารวะกลับ "คืออย่างนี้...""ฮูหย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 52

    เมื่อเห็นท่าทางทั้งกังวลใจและไม่สบายใจของนางหมิน ซ่งซีซี ก็อดยิ้มไม่ได้ "ไม่เป็นไร เจ้าพูดมาเถอะ"คืนนี้ นางจะออกจากเมืองหลวงแล้ว ถ้าเรื่องนี้วันนี้ไม่ได้จัดการให้เรียบร้อย นางจะมาใหม่พรุ่งนี้และวันมะรืนนี้ด้วย เพื่อไม่ให้นางมาขอพบแต่งเข้าจวนไม่ได้ จนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้นางรู้ว่านางหมินไม่ได้รับความโปรดจากฮูหยินผู้เฒ่าจ้าน นอกจากไม่มีลูกชายแล้ว ทั้งยังครอบครัวของฝ่ายพ่อแม่ของนางไม่มีอำนาจ สินเดิมก็ไม่มีเท่าไร ยิ่งไม่มีความกล้าหาญและความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์ของสตรีผู้สูงศักดิ์ที่จากตระกูลชั้นสูงนางหมินไม่เคยรังแกนางมาก่อน ยิ่งไม่ได้วางมาดที่ในฐานะพี่สะใภ้ให้กับนาง ดังนั้นนางจึงยอมฟังคำบ่นของนางน้ำตาของนางหมินเหมือนลูกปัดที่แตกหล่นลงมาอย่างต่อเนื่อง นางเล่าถึงความวุ่นวายในงานเลี้ยงแต่งงาน แขกออกไปหมดและทหารที่ได้รับเชิญก็จากไปอย่างไม่สบอารมณ์ในที่สุด ทุกคนต่างตำหนินาง รวมทั้งจ้านเป่ยชิง สามีของนางด้วยในคืนวันแต่งงาน ยี่ฝางคว่ำโต๊ะ เดิมทีจ้านเป่ยว่างจากไปแล้ว แต่เมื่อฮูหยินผู้เฒ่ารู้เรื่องแล้วก็ไล่ให้เขากลับเข้าไป"นี่ยังไม่ว่าอะไรนะ" นางหมินพูดด้วยความโกรธและเสีย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 53

    ซ่งซีซีมองสายตาที่สิ้นหวังของนาง โดยคิดว่านางหมินคงหวาดกลัวกับแผนการที่จวนแม่ทัพจะหย่ากับนางนางหมินร้องไห้เสียงดัง และรีบปิดปากด้วยผ้าเช็ดหน้า หลังจากสงบอารมณ์พักใหญ่ถึงพูดต่อ "ซีซี เป็นเรื่องจริงนะ ข้าไม่โกหกเจ้า ท่านแม่บอกว่า จวนแม่ทัพในตอนนี้แตกต่างจากอดีต มันสามารถเข้าสู่ตระกูลชั้นสูงแล้ว ตอนที่ข้าดูแลบ้าน นางมักจะทำตัวไม่พอใจกับข้า โดยบอกว่าในตัวข้าไม่มีออร่าที่เป็นลูกสะใภ้คนโต ยังพูดตรงๆ ว่านางเสียใจที่ปล่อยให้ท่านสามีแต่งงานกับข้าตั้งแต่แรก""ข้าแตกต่างจากเจ้า หากข้าหย่าแล้ว ข้าจะกลับไปบ้านพ่อแม่ไม่ได้ ข้าจะถูกครอบครัวพ่อแม่ด่าไม่เป็นท่า ข้าทำให้พวกเขาต้องเสียชื่อ มันจะส่งผลต่อการแต่งงานของน้องสาวและหลานสาวของข้า ข้าทำได้เพียงตายในจวนแม่ทัพก่อนที่จะหย่าร้างเท่านั้น ไม่แม้แต่เป็นแม่ชีด้วยซ้ำ"ครอบครัวพ่อแม่ของนางหมิน ซ่งซีซีรู้เรื่องบ้างท่านพ่อของนางเป็นบรรณาธิการชั้นเจ็ดในสภาองคมนตรี แม้ว่าตำแหน่งงานไม่สูงนักและก็ไม่มีอำนาจอะไร แต่เป็นเกียรติสูงสุดสำหรับนักวิชาการ หากลูกสาวของตัวเองถูกหย่า บรรณาธิการหมินย่อมไม่ยอมแน่ๆฮูหยินผู้เฒ่าจ้านรู้สึกว่าจวนแม่ทัพในปัจจุบันนี้แตกต่า

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status