Share

บทที่ 447

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
หลังจากที่เต๋อกุ้ยไทเฟยนั่งลงแล้ว นางก็ยิ้มและพูดว่า "เมื่อพูดถึงบุญคุณน่ะ งั้นก็เทียบกับท่านผู้เฒ่าจวนโหวเจี้ยนคังไม่ติดสิ"

ฮูหยินผู้เฒ่าโหวเจี้ยนคังยิ้ม "ทุกคนในนี้ต่างก็เป็นคนมีบุญคุณด้วย เต๋อกุ้ยไทเฟยมีบุญคุณอยู่แล้ว สนมฮุ่ยไทเฟยก็เช่นกัน ได้ลูกสะใภ้แสนดี ยิ่งไปกว่านั้นเป่ยหมิงอ๋องก็สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมด้วย ต่างก็มีบุณคุณ"

หลังจากได้ยินคำพูดนี้ สนมฮุ่ยไทเฟยก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย เป็นคนที่ผ่านโลกมามากย่อมรู้จัดการสถานการณ์ดีกว่าพวกนางสิ?

คำพูดที่พูดอย่างส่งๆ นั้นก็ช่างเข้าหูทีเดียว

ทันใดนั้นนางก็ยิ้ม "ข้ากลับหวังว่าโม่เอ๋อจะใช้ชีวิตสบายๆ ในเมืองหลวงเช่นเดียวกันกับฉินอ๋อง มีภรรยาและลูกมากมาย ไม่ได้เหมือนบุตรชายอย่างข้าเป็นคนบ้างาน บางครั้งเห็นเขายุ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ข้าก็รู้สึกเห็นใจเขาเลย"

เต๋อกุ้ยไทเฟยยิ้ม "นั่นแสดงว่าโม่เอ๋อมีความสามารถ"

ขณะที่นางพูดนั้น ก็อุ้มหลานชายไว้ในอ้อมแขนแล้วจูบเขาทีนึง จากนั้นมือน้อยๆ อวบๆ ของเขาก็กุมรอบคอของนาง แล้วกล่าวด้วยเสียงน่ารักว่า "เสด็จย่า"

คำเรียกเสด็จย่านี้ทำเอาคนอื่นใจอ่อนระทวยทุกรายเลย สนมฮุ่ยไทเฟยเพิ่งจะได้ใจไม่นานนักก็เริ่มอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 448

    สีหน้าของหวังชิงหลูแข็งทื่อตระกูลฝางงั้นเหรอ? นี่เป็นความทรงจำอันยาวนานจนนางเกือบลืมเรื่องตระกูลฝางไปแล้วนางรีบหามุมห้องนั่งลง ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดจากตระกูลฝางมา แม่สามีคนเก่าของนางคงไม่มา นางชอบอยู่บ้านไม่ค่อยออกไปไหนเลยแต่ทว่าพอนางนั่งลงก็เห็นฝางฮูหยินคอยช่วยพยุงนางลู่ แม่สามีเก่าของนางเข้ามาแล้วพร้อมกับคุณหนูหลายคนจากตระกูลฝางด้วย"อาสะใภ้ฝาง" ซ่งซีซีรีบก้าวไปข้างหน้าคารวะกับฮูหยินฝางเทียนสวี แล้วทักทายนางลู่ "ฮูหยินสบายดีไหม"เมื่อนางลู่เห็นซ่งซีซี ดวงตาของนางก็รู้สึกร้อนขึ้นมา มีสถานการณ์เดียวกัน เมื่อสบตากับซ่งซีซีนางอดไม่ได้ที่รู้สึกเห็ฯใจทว่านางรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันอะไร ดังนั้นนางจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับอารมณ์ของตน และพูดด้วยรอยยิ้ม "พึ่งบารมีของพระชายา สบายดีเจ้าค่ะ"หลังจากที่นางพูดจบก็ติดตามฝางฮูหยินพร้อมกับเด็กๆ ไปข้างหน้าเพื่อคารวะสนมฮุ่ยไทเฟย จากนั้นทักทายกับองค์หญิงที่อยู่ ณ ที่นั้น เมื่อเหลือบมองรอบๆ นางลู่ก็เห็นหวังชิงหลูเข้านางสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นเดินตรงไปที่หวังชิงหลู "ชิงหลู ไม่เจอกันนาน บัดนี้สบายดีไหม"นางไม่รู้เกี่ยวกับการแต่งงานของหวังชิงหลู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 449

    บรรยากาศนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัดจริงๆ แม้แต่สนมฮุ่ยไทเฟยซึ่งค่อนข้างเชื่องช้าก็ยังมองออกแล้ว นางเป็นคนแรกที่ลุกขึ้น "เมื่อไม่กี่วันก่อนซีซีได้เติมเต็มดอกไม้ล้ำค่ามากมายให้กับข้า ทุกคนไปรับชมกันดีกว่า และเฟื่องฟ้าบนผนังกำลังเบ่งบาน ดอกไม้สวยงามมาก หากไม่รับชมตอนนี้เมื่อรออีกสักพักคงจะเหี่ยวเฉาหมดแล้ว"ซ่งซีซีก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อกล่าวว่า "ใช่ ถ้าคนที่ไม่ชอบดูดอกไม้ และอยากดูงิ้วก็ตามข้าไปนะ"นางเข้าไปช่วยประคองสนมฮุ่ยไทเฟยเดินลงไป จากนั้นจึงเดินไปจับแขนนางลู่แล้วพูดเบาๆ ว่า "ไป ไปชมดอกไม้เป็นเพื่อนท่านกัน ไม่เจอกันนานมาก อยากคุยกับท่านให้หายคิดถึง"นางลู่ดูเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเล็กน้อย นางไม่เข้าใจว่าทำไมหวังชิงหลูแต่งงานกับจ้านเป่ยว่าง ในเมื่อนางแต่งงานกับจ้านเป่ยว่าง ทำไมวันนี้นางต้องมาด้วยตระกูลฝางปล่อยนางกลับไป โดยหวังว่านางจะได้พบกับผู้ชายที่ดี แต่จ้านเป่ยว่างไม่ใช่อารมณ์ปัจจุบันของนางลู่น่าขยะแขยงพอๆ กับการกินแมลงวันเข้าปากไม่มีผิดบุตรชายของนาง คุณชายสิบเอ็ดเป็นคนโดดเด่นมากเพียงใด แม้ว่านางจะหาคนใหม่ ต่อให้ไม่ได้โดดเด่นเท่าบุตรชาย แต่ก็ไม่ควรเป็นคนชั่วที่ไร้คุณธร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 450

    ซ่งซีซีกล่าวว่า "ตระกูลหวังไม่ถูกรังแกได้ง่ายๆ หรอก ดังนั้นไม่ว่าจ้านเป่ยว่างจะเป็นคนแบบไหน ตราบใดมีจวนป๋อผิงซีอยู่ หวังชิงหลูจะไม่ถูกรังแกแน่ๆ"หลังจากหยุดชั่วครู่ นางก็พูดว่า "อย่าไปสนใจคนอื่นเลย ใช้ชีวิตของตนเองให้ดีก็พอ จะว่าไปบัดนี้ก็ไม่ใช่ครอบตรัวเดียวกันแล้ว หลังจากที่นางจากไปก็ไม่มีทางฝังหลุมฝังศพเดียวกันกับคุณชายสิบเอ็ด ใหเมื่อให้จดหมายหย่าแล้ว งั้นนางอยากจะแต่งกับผู้ใดก็เป็นเรื่องของนางเอง จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร นางก็ต้องยอมรับเอง"นางลู่ถอนหายใจช้าๆ "พระชายาพูดถูก เป็นข้าที่ยุ่งเรื่องคนอื่นมากไปจริงๆ"อันที่จริงนางไม่ได้สนิทกับซ่งซีซีเลย ตอนซ่งซีซียังเด็ก นางเคยพบมาไม่กี่ครั้งเอง ต่อมาซ่งซีซีกลับมาจากภูเขาเหม่ยชาน ทั้งสองครอบครัวก็ได้ไปมาหาสู่กันบ้าง แต่ตอนนั้นมีแต่ซ่งฮูหยินที่สุงสิงกับพวกนาง ซ่งซีซีมากสุดก็แค่เข้าไปคารวะเท่านั้นแต่เมื่อนางลู่เสียบุตรชายไปก็ราวกับเสียเสาหลักไป เมื่อเห็นซ่งซีซีก็คิดถึงบุตรชายของตนเองเคยอยู่ภายใต้คำสั่งของเสนาบดีกั๋วกง อีกทั้งเคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้บัญชาเซียวด้วย เลยรู้สึกใกล้ชิดกับนางโดยยากจะอธิบายได้ขณะที่พวกนางกำลังคุยกันอยู่ มีส

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 451

    นางจีถอนหายใจ "ครั้งนี้ไม่ได้เชิญนางสักหน่อย แต่นางยืนกรานที่จะมา ตอนแรกที่นางแต่งงานเข้าตระกูลฝาง และหลังจากที่น้องเขยเสียชีวิต พวกท่านไม่เพียงแต่คืนสินเดิมทั้งหมดให้ แถมยังมอบค่าทำขวัญของคุณชายสิบเอ็ดให้นาง บวกกับมอบร้านค้าสองร้าน ตอนนี้ของทั้งหมดนี้ถูดนำไปสู่จวนแม่ทัพแล้ว ในวันแต่งงานของนาง นางยังคิดที่จะแข่งสินเดิมกับพระชายาเป่ยหมิงอ๋องอีก""เดิมทีคำพูดเหล่านี้ข้าไม่ควรพูดกับท่าน แต่ข้าอดใจไม่ได้ ไม่อยากเห็นท่านต้องห่วงใยนางจนทุนข์ใจ ท่านอย่าไปวนใจนางเลย ดูแลร่างกายของตนเองให่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคุณชายสิบเอ็ดอยู่ในสวรรค์ และเห็นท่านเศร้าโศกทุกวัน คงต้องอยู่ไม่สุขนะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางลู่ก็รู้สึกตกใจอย่างยิ่งในใจของนางหวังชิงหลูไม่ใช่คนแบบนั้น นางเป็นคนรู้ความมีเหตุผล เคารพผู้ใหญ่ แต่ทำไมตอนนี้นางถึงกลายเป็นแบบนี้?ก่อนหน้านี้คือนางเสแสร้งหรือว่านางเปลี่ยนแล้วกันแน่?นางจีมองไปที่นางลู่ และมีคำบางคำกลิ้งอยู่ในลำคอของนางสักพัก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา"ขอบคุณฮูหยินที่บอกเรื่องนี้" นนางลู่พูดอย่างขมขื่น "ข้าเคยปฏิบัติต่อนางเสมือนเป็นบุตรสาวของตน และข้าก็ทนเห็นนางต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 452

    หวังชิงหลูร้อนใจขึ้นมา "สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ข่าวลือข้างนอกไม่มีมูลความจริง ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ยิ่งไปกว่านั้น ที่จวนแม่ทัพของข้าโดนเทอุจจาระใส่ก็เป็นฝีมือของนาง"นางลู่หันหลังจากไป นางเดินโซเซและหน้าซีด คำพูดของหวังชิงหลูทำให้นางเจ็บมากหลังจากฟังคำพูดของนางจี เดิมทีนางคิดว่าที่หวังชิงหลูแต่งงานกับจ้านเป่ยว่าง แม้ว่านางจะตอบตกลง แต่บอกว่านางถูกใจเขาก็ไม่เป็นจริงแต่หลังจากได้ยินคำพูดของนาง นางลู่ก็รู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ถึงไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะเอาจ้านเป่ยว่างคนชั่วนั้นมาเทียบกับลูกของตนเองนางกลับไปหาฝางฮูหยิน และจับมือหลานสะใภ้ไว้แน่น ไม่เช่นนั้นนางกลัวจริงๆ ว่าตนเองจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้และทำลายงานวันเกิดของสนมฮุ่ยไทเฟยได้ฝางฮูหยินพานางกลับไปโรงงิ้วเพื่อนั่งลง เมื่อซ่งซีซีเห็นดังนั้น นางก็ถามว่า "ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ไม่งั้นรีบกลับไปพักผ่อนเถะ เรามีเวลาอีกยาวนาน จะมาเมื่อไรก็ได้นี่น่ะ""พระชายาไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร" นางลู่ยังคงพยายามระงับอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้เพื่อไม่ให้ตนเองเสียท่าซ่งซีซีพูดว่า "ไม่วงั้นให้ข้าพาท่านไปที่ห้องโถงดอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 453

    ทุกสายตาจับจ้องไปที่จ้านเส้าฮวน จ้านเส้าฮวนแทบจะหลั่งน้ำตาหลังจากล้มลงอย่างแรงจนหัวเข่าและหน้าผากของนางก็เจ็บสาหัสแต่ความเจ็บปวดนั้นเป็นเรื่องรอง นางเกือบจะแตะต้องท่านอ๋องเข้าแล้วชัดๆนางคิดว่าแม้ว่าท่านอ๋องจะเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ แต่ผู้ชายล้วนมีความเห็นอกเห็นใจต่อสตรี เมื่อเห็นนางโน้วตัวจนกำลังจะล้มลงกับพื้น ไม่ว่าเป็นผู้ใดก็จะเอื้อมมือไปช่วยโดยจิตใต้สำนึกแต่ในขณะที่นางคิดว่าตนเองจะประสบความสำเร็จนั้น จู่ๆ นางก็ดูเหมือนถูกพลังอะไรดึงไปข้างหน้า นางล้มตัวลงบนพื้น แต่ท่านอ๋องก็ถอยกลับไปสองสามก้าวในชั่วพริบตาความเร็วที่เขาถอยหลังนั้นเร็วจนทำเอาคนอื่นมองเห็นไม่ชัดเจน ราวกับว่าเขาไม่ได้ขยับตัวเลยนางเงยหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา และสบตาเข้ากับดวงตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง ซึ่งทำให้นางสั่นไปทั้งตัวสาวใช้ช่วยพยุงนางลุกขึ้น นางแทบจะยืนไม่มั่นคง พิงกับสาวใช้ นางมองดูท่านหญิงเจียอี้ด้วยสัญชาตญาณ แต่ท่านหญิงเจียอี้ก็เฝ้าดูอยู่ไม่ไกล โดยไม่มีทีท่าจะเข้าไปช่วยนางแม้แต่น้อยและทุกคนมองดูนางด้วยสายตาเสียดสีหรือวิจารณญาณ"จำได้แล้ว นางเป็นคุณหนูจากจวนแม่ทัพ ชื่อจ้านเส้าฮวน""

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 454

    แม่นมเหลียงเดินไปหาจ้านเส้าฮวน แล้วพูดว่า "คุณหนูจ้านได้รับบาดเจ็บที่หน้าผาก ตามข้าน้อยไปทำแผลสักหน่อยเถอะ"แม่นมเหลียงเคยทำงานในจวนแม่ทัพ และนางเป็นคนรู้จักสำหรับจ้านเส้าฮวนนางรู้ว่าหน้าผากของตนเองมีเลือดออก แม้ว่าเลือดออกจะไม่มาก แต่หากร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยสภาพแบบนี้ก็ถือว่าเสียมารยาทจริงๆ ดังนั้นจึงได้แต่ตามแม่นมเหลียงไปขณะที่แม่นมเหลียงทำแผลให้นาง นางดันพูดเบาๆ ว่า "อย่าไปคิดกับของที่มีเจ้าของแล้ว"จ้านเส้าฮวนเพียงรู้สึกละอายใจและตัวสั่นไปทั้งตัวที่ภายนอก เสิ่นว่านจือไปหาซ่งซีซี"เป็นท่านหญิงเจียอี้ผลักนาง แต่เห็นๆ อยู่ว่าทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันมาล่วงหน้า น่าจะต้องการให้จ้านเส้าฮวนไปใกล้ชิดกับชายของเจ้า และผู้ชายของเจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับนาง แต่สิ่งที่แปลกใจคือท่านหญิงเจียอี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจว่าแผนจะสำเร็จหรือไม่"ซ่งซีซีกล่าวว่า "อืม ตั้งแต่ตอนที่เต๋อกุ้ยไทเฟยเข้ามาพร้อมกับหลานกลุ่มหนึ่ง จากนั้นดันพูดเรื่องการแต่งอนุภรรยา ข้าก็รู้ว่าพวกนางมีแผนอะไร เพื่อให้เสด็จแม่อิจฉา จากนั้นช่วยท่านอ๋องแต่งชายารอง ยั่วยวนความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเสด็จแม่ ส่วนจ้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 455

    สายตาที่มองพิจารณาเหล่านั้นจ้องมองไปที่ใบหน้าของหวังชิงหลู และนางก็รู้สึกว่าตนเองน่าอายมากทีเดียวอย่างไรก็ตาม นางไม่เห็นสิ่งที่ตนต้องการเห็น ยังคงรู้สึกไม่ยอม แม้ว่าต้องแบกหน้า ต้องเผชิญหน้ากับคนของครอบครัวสามีเก่า นางก็อยากเห็นสภาพที่ซ่งซีซีขายหน้าเป็นไปไม่ได้ที่งานเลี้ยงใหญ่ๆ แบบนี้จะไร้ที่ติจากนั้นก็มาถึงช่วงเวลาดื่มอวยพรแม้ว่าแขกชายและหญิงจะนั่งแยกกัน แต่ก็มีฉากปังตาไม่ไม่อันกั้นไว้เท่านั้นในงานเลี้ยงการดื่มอวยพรเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นพวกแขกชายจึงพูดในทางนั้นว่า "ไปเลย ไปดื่มอวยพรให้ไทเฟยเพื่อฉลองวันเกิดของพระองค์กันเถอะ"พวกสตรีวางตะเกียกลงก่อนหยิบพัดมาปิดหน้าเป่ยหมิงอ๋องเป็นคนนำทาง จากนั้นเสนาบดีมู่ อ๋องฮวย และหยานไท่ฟู่ก็มาก่อน ไม่ได้มองไปด้านข้างหรือมองแขกสตรีที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาได้รักษาระยะหนึ่งห่างจากไทเฟย แล้วยกแก้วขึ้น "ขอให้ไทเฟยมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรง"เดิมทีที่เป่ยหมิงอ๋องมาที่นี่เพื่อดื่มแทนเสด็จแม่ แต่สนมฮุ่ยไทเฟยมีความสุขมากจนยกแก้วขึ้นพลางพูดด้วยรอยยิ้ม "ดี ขอพรให้ทุกคนต่างมีอายุยืนยาว อยู่นานๆ และร่วมสุขกับลูกหลานไปด้วยกัน"เสนาบดีมู่แ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status