นางจีถอนหายใจ "ครั้งนี้ไม่ได้เชิญนางสักหน่อย แต่นางยืนกรานที่จะมา ตอนแรกที่นางแต่งงานเข้าตระกูลฝาง และหลังจากที่น้องเขยเสียชีวิต พวกท่านไม่เพียงแต่คืนสินเดิมทั้งหมดให้ แถมยังมอบค่าทำขวัญของคุณชายสิบเอ็ดให้นาง บวกกับมอบร้านค้าสองร้าน ตอนนี้ของทั้งหมดนี้ถูดนำไปสู่จวนแม่ทัพแล้ว ในวันแต่งงานของนาง นางยังคิดที่จะแข่งสินเดิมกับพระชายาเป่ยหมิงอ๋องอีก""เดิมทีคำพูดเหล่านี้ข้าไม่ควรพูดกับท่าน แต่ข้าอดใจไม่ได้ ไม่อยากเห็นท่านต้องห่วงใยนางจนทุนข์ใจ ท่านอย่าไปวนใจนางเลย ดูแลร่างกายของตนเองให่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคุณชายสิบเอ็ดอยู่ในสวรรค์ และเห็นท่านเศร้าโศกทุกวัน คงต้องอยู่ไม่สุขนะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางลู่ก็รู้สึกตกใจอย่างยิ่งในใจของนางหวังชิงหลูไม่ใช่คนแบบนั้น นางเป็นคนรู้ความมีเหตุผล เคารพผู้ใหญ่ แต่ทำไมตอนนี้นางถึงกลายเป็นแบบนี้?ก่อนหน้านี้คือนางเสแสร้งหรือว่านางเปลี่ยนแล้วกันแน่?นางจีมองไปที่นางลู่ และมีคำบางคำกลิ้งอยู่ในลำคอของนางสักพัก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา"ขอบคุณฮูหยินที่บอกเรื่องนี้" นนางลู่พูดอย่างขมขื่น "ข้าเคยปฏิบัติต่อนางเสมือนเป็นบุตรสาวของตน และข้าก็ทนเห็นนางต
หวังชิงหลูร้อนใจขึ้นมา "สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ข่าวลือข้างนอกไม่มีมูลความจริง ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ยิ่งไปกว่านั้น ที่จวนแม่ทัพของข้าโดนเทอุจจาระใส่ก็เป็นฝีมือของนาง"นางลู่หันหลังจากไป นางเดินโซเซและหน้าซีด คำพูดของหวังชิงหลูทำให้นางเจ็บมากหลังจากฟังคำพูดของนางจี เดิมทีนางคิดว่าที่หวังชิงหลูแต่งงานกับจ้านเป่ยว่าง แม้ว่านางจะตอบตกลง แต่บอกว่านางถูกใจเขาก็ไม่เป็นจริงแต่หลังจากได้ยินคำพูดของนาง นางลู่ก็รู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ถึงไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะเอาจ้านเป่ยว่างคนชั่วนั้นมาเทียบกับลูกของตนเองนางกลับไปหาฝางฮูหยิน และจับมือหลานสะใภ้ไว้แน่น ไม่เช่นนั้นนางกลัวจริงๆ ว่าตนเองจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้และทำลายงานวันเกิดของสนมฮุ่ยไทเฟยได้ฝางฮูหยินพานางกลับไปโรงงิ้วเพื่อนั่งลง เมื่อซ่งซีซีเห็นดังนั้น นางก็ถามว่า "ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ไม่งั้นรีบกลับไปพักผ่อนเถะ เรามีเวลาอีกยาวนาน จะมาเมื่อไรก็ได้นี่น่ะ""พระชายาไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร" นางลู่ยังคงพยายามระงับอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้เพื่อไม่ให้ตนเองเสียท่าซ่งซีซีพูดว่า "ไม่วงั้นให้ข้าพาท่านไปที่ห้องโถงดอ
ทุกสายตาจับจ้องไปที่จ้านเส้าฮวน จ้านเส้าฮวนแทบจะหลั่งน้ำตาหลังจากล้มลงอย่างแรงจนหัวเข่าและหน้าผากของนางก็เจ็บสาหัสแต่ความเจ็บปวดนั้นเป็นเรื่องรอง นางเกือบจะแตะต้องท่านอ๋องเข้าแล้วชัดๆนางคิดว่าแม้ว่าท่านอ๋องจะเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ แต่ผู้ชายล้วนมีความเห็นอกเห็นใจต่อสตรี เมื่อเห็นนางโน้วตัวจนกำลังจะล้มลงกับพื้น ไม่ว่าเป็นผู้ใดก็จะเอื้อมมือไปช่วยโดยจิตใต้สำนึกแต่ในขณะที่นางคิดว่าตนเองจะประสบความสำเร็จนั้น จู่ๆ นางก็ดูเหมือนถูกพลังอะไรดึงไปข้างหน้า นางล้มตัวลงบนพื้น แต่ท่านอ๋องก็ถอยกลับไปสองสามก้าวในชั่วพริบตาความเร็วที่เขาถอยหลังนั้นเร็วจนทำเอาคนอื่นมองเห็นไม่ชัดเจน ราวกับว่าเขาไม่ได้ขยับตัวเลยนางเงยหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา และสบตาเข้ากับดวงตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง ซึ่งทำให้นางสั่นไปทั้งตัวสาวใช้ช่วยพยุงนางลุกขึ้น นางแทบจะยืนไม่มั่นคง พิงกับสาวใช้ นางมองดูท่านหญิงเจียอี้ด้วยสัญชาตญาณ แต่ท่านหญิงเจียอี้ก็เฝ้าดูอยู่ไม่ไกล โดยไม่มีทีท่าจะเข้าไปช่วยนางแม้แต่น้อยและทุกคนมองดูนางด้วยสายตาเสียดสีหรือวิจารณญาณ"จำได้แล้ว นางเป็นคุณหนูจากจวนแม่ทัพ ชื่อจ้านเส้าฮวน""
แม่นมเหลียงเดินไปหาจ้านเส้าฮวน แล้วพูดว่า "คุณหนูจ้านได้รับบาดเจ็บที่หน้าผาก ตามข้าน้อยไปทำแผลสักหน่อยเถอะ"แม่นมเหลียงเคยทำงานในจวนแม่ทัพ และนางเป็นคนรู้จักสำหรับจ้านเส้าฮวนนางรู้ว่าหน้าผากของตนเองมีเลือดออก แม้ว่าเลือดออกจะไม่มาก แต่หากร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยสภาพแบบนี้ก็ถือว่าเสียมารยาทจริงๆ ดังนั้นจึงได้แต่ตามแม่นมเหลียงไปขณะที่แม่นมเหลียงทำแผลให้นาง นางดันพูดเบาๆ ว่า "อย่าไปคิดกับของที่มีเจ้าของแล้ว"จ้านเส้าฮวนเพียงรู้สึกละอายใจและตัวสั่นไปทั้งตัวที่ภายนอก เสิ่นว่านจือไปหาซ่งซีซี"เป็นท่านหญิงเจียอี้ผลักนาง แต่เห็นๆ อยู่ว่าทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันมาล่วงหน้า น่าจะต้องการให้จ้านเส้าฮวนไปใกล้ชิดกับชายของเจ้า และผู้ชายของเจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับนาง แต่สิ่งที่แปลกใจคือท่านหญิงเจียอี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจว่าแผนจะสำเร็จหรือไม่"ซ่งซีซีกล่าวว่า "อืม ตั้งแต่ตอนที่เต๋อกุ้ยไทเฟยเข้ามาพร้อมกับหลานกลุ่มหนึ่ง จากนั้นดันพูดเรื่องการแต่งอนุภรรยา ข้าก็รู้ว่าพวกนางมีแผนอะไร เพื่อให้เสด็จแม่อิจฉา จากนั้นช่วยท่านอ๋องแต่งชายารอง ยั่วยวนความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเสด็จแม่ ส่วนจ้า
สายตาที่มองพิจารณาเหล่านั้นจ้องมองไปที่ใบหน้าของหวังชิงหลู และนางก็รู้สึกว่าตนเองน่าอายมากทีเดียวอย่างไรก็ตาม นางไม่เห็นสิ่งที่ตนต้องการเห็น ยังคงรู้สึกไม่ยอม แม้ว่าต้องแบกหน้า ต้องเผชิญหน้ากับคนของครอบครัวสามีเก่า นางก็อยากเห็นสภาพที่ซ่งซีซีขายหน้าเป็นไปไม่ได้ที่งานเลี้ยงใหญ่ๆ แบบนี้จะไร้ที่ติจากนั้นก็มาถึงช่วงเวลาดื่มอวยพรแม้ว่าแขกชายและหญิงจะนั่งแยกกัน แต่ก็มีฉากปังตาไม่ไม่อันกั้นไว้เท่านั้นในงานเลี้ยงการดื่มอวยพรเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นพวกแขกชายจึงพูดในทางนั้นว่า "ไปเลย ไปดื่มอวยพรให้ไทเฟยเพื่อฉลองวันเกิดของพระองค์กันเถอะ"พวกสตรีวางตะเกียกลงก่อนหยิบพัดมาปิดหน้าเป่ยหมิงอ๋องเป็นคนนำทาง จากนั้นเสนาบดีมู่ อ๋องฮวย และหยานไท่ฟู่ก็มาก่อน ไม่ได้มองไปด้านข้างหรือมองแขกสตรีที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาได้รักษาระยะหนึ่งห่างจากไทเฟย แล้วยกแก้วขึ้น "ขอให้ไทเฟยมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรง"เดิมทีที่เป่ยหมิงอ๋องมาที่นี่เพื่อดื่มแทนเสด็จแม่ แต่สนมฮุ่ยไทเฟยมีความสุขมากจนยกแก้วขึ้นพลางพูดด้วยรอยยิ้ม "ดี ขอพรให้ทุกคนต่างมีอายุยืนยาว อยู่นานๆ และร่วมสุขกับลูกหลานไปด้วยกัน"เสนาบดีมู่แ
หวังชิงหลูเหมือนกับถูกฟ้าผ่า นางไม่คาดคิดจริงๆ ว่าจ้านเส้าฮวนจะทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าและคราวนี้ นางกลับล่วงเกินโหวผิงหยางเข้าโดยตรงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือโหวผิงหยางไม่ได้ดึงนางเฉยๆ แต่เป็นการกอดนางโดยตรงซึ่งอาจเป็นการกระทำในจิตใต้สำนึกโหวผิงหยางเป็นแขกชาย เลยไม่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จ้านเส้าฮวนก่อกวนในสวนดอกไม้ในก่อนหน้านี้ แค่เห็นแม่นางที่ได้รับบาดเจ็บที่กำลังจะหมดสติไป เขาก็เอื้อมมือออกไปช่วยนางด้วยจิตใต้สำนึกการกระทำด้วยจิตใต้สำนึกเร็วเกินไป และสมองของเขาก็ช้าไปหน่อย เพียงช้าไปนิดเดียวเอง เขาได้แตะต้องจ้านเส้าฮวนแล้ว อีกทั้งยังเป็นการกอดจ้านเส้าฮวนต่อหน้าทุกคน!ซ่งซีซีทำหน้าบึ้งตึง "คนใช้ คุณหนูจ้านไม่สบาย ส่งนางกลับจวน"ฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยางมองซ่งซีซีอย่างรู้สึกขอบคุณ หากยังไม่นำนางออกไป เรื่องนี้คงจบยากแม่นมเหลียงเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมยายแก่สองคน คนละแขนช่วยพยุงจ้านเส้าฮวนออกไป แต่จริงๆ แล้วก็คือยกนางออกไปจ้านเส้าฮวนยังคงเหม่อลอยในตอนแรก แต่ในขณะที่นางถูกลากออกไป นางพยายามดิ้นรนอย่างรุนแรงและมองดูท่านหญิงเจียอี้อย่างสิ้นหวัง น้ำตาไหลลงมา
ซ่งซีซียังดูแลแขกต่อ แต่ได้สั่งให้เสิ่นว่านจือคอยจับตาดูทุกคนเป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะคุณหนูที่มีเจตนาแอบแฝงพวกนั้นเสิ่นว่านจือพบว่ามีคุณหนูสองคนมักจะสบตากับองค์หญิงใหญ่ หลังจากที่นางจดจำไว้อย่างเงียบๆ นางก็ไปถามแม่นมเหลียงว่าสองคนนั้นเป็นใครแม่นมเหลียงกำลังรับใช้อยู่ข้างใน หลังจากมองดูอย่างชัดเจนแล้วก็จำบุคคลนั้นขึ้นมา นางออกมาและพูดกับเสิ่นว่านจือ "คุณหนูสองคนนั้น คนที่สวมชุดสีเหลืองเป็นคุณหนูจากครอบครัวพ่อแม่ของพระสนมหรง ชื่ออะไรข้าน้อยไม่รู้ ไส่วนคนที่สวมชุดสีม่วงเป็นคุณหนูจากครอบครัวพ่อแม่ของพระสนมกุ้ยเฟยยี่ ชื่อชีหลูเป่า เป็นคนมีความสามารถและหน้าตาดีด้วย ทุกคนชอบเอานางไปเปรียบเทียบกับหวงโฮ่วฉี หวงโฮ่วในสมัยก่อนก็มีใบหน้างดงามล่มเมืองเช่นกัน"หลังจากที่เสิ่นว่านจือจดจำไว้ นางก็บอกซ่งซีซีถึงตัวตนของทั้งสองคนเมื่อนางออกมาซ่งซีซีพอจะเดาได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระสนมหรงหรือว่าพระสนมกุ้ยเฟยยี่ในสมัยก่อน ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับองค์หญิงใหญ่และอ๋องเยี่ยนพวกเขาต้องการติดตั้งเส้นสายตัวเองในจวนเป่ยหมิงอ๋อง ที่พวกนางพาจ้านเส้าฮวนมาก็แค่อยากทำให้ท่านอ๋องขายหน้าก็เท่านั้นดูเหมือนว่าจะปล่อย
และนังตัวดีคนนั้นด้วย เป็นหลานสาวของครอบครัวพ่อแม่ของไอ้แก่นั่น ได้แต่งงานกับสามีเป็นอนุภรรยา ยังให้กำเนิดลูกชายและลูกสาวสองคนเหมือนหมูตัวเมีย บัดนี้ยังตั้งครรภ์อีก น่าจะคลอดในเร็วๆ นี้ที่นางกลับไปตอนนี้ ก็เท่ากับหาเรื่องไม่สบายใจให้ตนเองแต่ท่านแม่ออกคำสั่งแล้ว งั้นนางก็จำเป็นต้องกลับไปเพียงแต่ว่าตอนแรกนางพูดอย่างกำเริบเสิบสานว่าจะกลับไปบ้านพ่อแม่ แต่บัดนี้ไม่มีผู้ใดมารับนาง ได้แต่กลับไปตามลำพัง น่าอายจริงๆแต่งจ้านเส้าฮวน... นังตัวดีคนนั้นให้กำเนิดลูกชายและลูกสาวสองคน และตอนนี้กำลังจะคลอดอีกแล้ว แม้ว่าจ้านเส้าฮวนจะโง่ แต่นางก็ยังสาวอยู่ ไปสู้กับนังตัวดีคนนั้น งั้นตนเองก็รอได้ผลประโยชน์แล้วแม้ว่านางจะคิดแบบนี้ แต่ในใจก็เกลียดจ้านเส้าฮวนจนเข้ากระดูกดำเอาซะเลย นังสารเลว ล้วนเป็นนังสารเลวหมด ทำให้นางต้องหาเรื่องใสตนเองชัดๆองค์หญิงใหญ่หลับตาและกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ตอนนี้อ๋องเยี่ยนต้องการแต่งงานกับสตรีจากตระกูลเสิ่น การแต่งงานถูกกำหนดไว้ไม่นานหลังจากที่พระชายาอ๋องเยี่ยนสิ้นพระชนม์ตระกูลเสิ่นมีทั้งอำนาจและเงินทอง ยังมีเกราะ อาวุธ และม้าศึกด้วย แค่ไม่รู้ว่าสตรีที่เขาจะแต่งจากต