Share

บทที่ 451

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
นางจีถอนหายใจ "ครั้งนี้ไม่ได้เชิญนางสักหน่อย แต่นางยืนกรานที่จะมา ตอนแรกที่นางแต่งงานเข้าตระกูลฝาง และหลังจากที่น้องเขยเสียชีวิต พวกท่านไม่เพียงแต่คืนสินเดิมทั้งหมดให้ แถมยังมอบค่าทำขวัญของคุณชายสิบเอ็ดให้นาง บวกกับมอบร้านค้าสองร้าน ตอนนี้ของทั้งหมดนี้ถูดนำไปสู่จวนแม่ทัพแล้ว ในวันแต่งงานของนาง นางยังคิดที่จะแข่งสินเดิมกับพระชายาเป่ยหมิงอ๋องอีก"

"เดิมทีคำพูดเหล่านี้ข้าไม่ควรพูดกับท่าน แต่ข้าอดใจไม่ได้ ไม่อยากเห็นท่านต้องห่วงใยนางจนทุนข์ใจ ท่านอย่าไปวนใจนางเลย ดูแลร่างกายของตนเองให่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคุณชายสิบเอ็ดอยู่ในสวรรค์ และเห็นท่านเศร้าโศกทุกวัน คงต้องอยู่ไม่สุขนะ"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางลู่ก็รู้สึกตกใจอย่างยิ่ง

ในใจของนางหวังชิงหลูไม่ใช่คนแบบนั้น นางเป็นคนรู้ความมีเหตุผล เคารพผู้ใหญ่ แต่ทำไมตอนนี้นางถึงกลายเป็นแบบนี้?

ก่อนหน้านี้คือนางเสแสร้งหรือว่านางเปลี่ยนแล้วกันแน่?

นางจีมองไปที่นางลู่ และมีคำบางคำกลิ้งอยู่ในลำคอของนางสักพัก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา

"ขอบคุณฮูหยินที่บอกเรื่องนี้" นนางลู่พูดอย่างขมขื่น "ข้าเคยปฏิบัติต่อนางเสมือนเป็นบุตรสาวของตน และข้าก็ทนเห็นนางต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Ploylalin Cherploy Wongwattanan
เฉียบมากค่ะฮูหยินลู่ จ้านเป่ยว่างเทียบเจ้าสิบเอ็ดไม่ได้เลยสักนิด
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 452

    หวังชิงหลูร้อนใจขึ้นมา "สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ข่าวลือข้างนอกไม่มีมูลความจริง ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ยิ่งไปกว่านั้น ที่จวนแม่ทัพของข้าโดนเทอุจจาระใส่ก็เป็นฝีมือของนาง"นางลู่หันหลังจากไป นางเดินโซเซและหน้าซีด คำพูดของหวังชิงหลูทำให้นางเจ็บมากหลังจากฟังคำพูดของนางจี เดิมทีนางคิดว่าที่หวังชิงหลูแต่งงานกับจ้านเป่ยว่าง แม้ว่านางจะตอบตกลง แต่บอกว่านางถูกใจเขาก็ไม่เป็นจริงแต่หลังจากได้ยินคำพูดของนาง นางลู่ก็รู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ถึงไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะเอาจ้านเป่ยว่างคนชั่วนั้นมาเทียบกับลูกของตนเองนางกลับไปหาฝางฮูหยิน และจับมือหลานสะใภ้ไว้แน่น ไม่เช่นนั้นนางกลัวจริงๆ ว่าตนเองจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้และทำลายงานวันเกิดของสนมฮุ่ยไทเฟยได้ฝางฮูหยินพานางกลับไปโรงงิ้วเพื่อนั่งลง เมื่อซ่งซีซีเห็นดังนั้น นางก็ถามว่า "ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ไม่งั้นรีบกลับไปพักผ่อนเถะ เรามีเวลาอีกยาวนาน จะมาเมื่อไรก็ได้นี่น่ะ""พระชายาไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร" นางลู่ยังคงพยายามระงับอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้เพื่อไม่ให้ตนเองเสียท่าซ่งซีซีพูดว่า "ไม่วงั้นให้ข้าพาท่านไปที่ห้องโถงดอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 453

    ทุกสายตาจับจ้องไปที่จ้านเส้าฮวน จ้านเส้าฮวนแทบจะหลั่งน้ำตาหลังจากล้มลงอย่างแรงจนหัวเข่าและหน้าผากของนางก็เจ็บสาหัสแต่ความเจ็บปวดนั้นเป็นเรื่องรอง นางเกือบจะแตะต้องท่านอ๋องเข้าแล้วชัดๆนางคิดว่าแม้ว่าท่านอ๋องจะเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ แต่ผู้ชายล้วนมีความเห็นอกเห็นใจต่อสตรี เมื่อเห็นนางโน้วตัวจนกำลังจะล้มลงกับพื้น ไม่ว่าเป็นผู้ใดก็จะเอื้อมมือไปช่วยโดยจิตใต้สำนึกแต่ในขณะที่นางคิดว่าตนเองจะประสบความสำเร็จนั้น จู่ๆ นางก็ดูเหมือนถูกพลังอะไรดึงไปข้างหน้า นางล้มตัวลงบนพื้น แต่ท่านอ๋องก็ถอยกลับไปสองสามก้าวในชั่วพริบตาความเร็วที่เขาถอยหลังนั้นเร็วจนทำเอาคนอื่นมองเห็นไม่ชัดเจน ราวกับว่าเขาไม่ได้ขยับตัวเลยนางเงยหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตา และสบตาเข้ากับดวงตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง ซึ่งทำให้นางสั่นไปทั้งตัวสาวใช้ช่วยพยุงนางลุกขึ้น นางแทบจะยืนไม่มั่นคง พิงกับสาวใช้ นางมองดูท่านหญิงเจียอี้ด้วยสัญชาตญาณ แต่ท่านหญิงเจียอี้ก็เฝ้าดูอยู่ไม่ไกล โดยไม่มีทีท่าจะเข้าไปช่วยนางแม้แต่น้อยและทุกคนมองดูนางด้วยสายตาเสียดสีหรือวิจารณญาณ"จำได้แล้ว นางเป็นคุณหนูจากจวนแม่ทัพ ชื่อจ้านเส้าฮวน""

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 454

    แม่นมเหลียงเดินไปหาจ้านเส้าฮวน แล้วพูดว่า "คุณหนูจ้านได้รับบาดเจ็บที่หน้าผาก ตามข้าน้อยไปทำแผลสักหน่อยเถอะ"แม่นมเหลียงเคยทำงานในจวนแม่ทัพ และนางเป็นคนรู้จักสำหรับจ้านเส้าฮวนนางรู้ว่าหน้าผากของตนเองมีเลือดออก แม้ว่าเลือดออกจะไม่มาก แต่หากร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยสภาพแบบนี้ก็ถือว่าเสียมารยาทจริงๆ ดังนั้นจึงได้แต่ตามแม่นมเหลียงไปขณะที่แม่นมเหลียงทำแผลให้นาง นางดันพูดเบาๆ ว่า "อย่าไปคิดกับของที่มีเจ้าของแล้ว"จ้านเส้าฮวนเพียงรู้สึกละอายใจและตัวสั่นไปทั้งตัวที่ภายนอก เสิ่นว่านจือไปหาซ่งซีซี"เป็นท่านหญิงเจียอี้ผลักนาง แต่เห็นๆ อยู่ว่าทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันมาล่วงหน้า น่าจะต้องการให้จ้านเส้าฮวนไปใกล้ชิดกับชายของเจ้า และผู้ชายของเจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงานกับนาง แต่สิ่งที่แปลกใจคือท่านหญิงเจียอี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจว่าแผนจะสำเร็จหรือไม่"ซ่งซีซีกล่าวว่า "อืม ตั้งแต่ตอนที่เต๋อกุ้ยไทเฟยเข้ามาพร้อมกับหลานกลุ่มหนึ่ง จากนั้นดันพูดเรื่องการแต่งอนุภรรยา ข้าก็รู้ว่าพวกนางมีแผนอะไร เพื่อให้เสด็จแม่อิจฉา จากนั้นช่วยท่านอ๋องแต่งชายารอง ยั่วยวนความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเสด็จแม่ ส่วนจ้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 455

    สายตาที่มองพิจารณาเหล่านั้นจ้องมองไปที่ใบหน้าของหวังชิงหลู และนางก็รู้สึกว่าตนเองน่าอายมากทีเดียวอย่างไรก็ตาม นางไม่เห็นสิ่งที่ตนต้องการเห็น ยังคงรู้สึกไม่ยอม แม้ว่าต้องแบกหน้า ต้องเผชิญหน้ากับคนของครอบครัวสามีเก่า นางก็อยากเห็นสภาพที่ซ่งซีซีขายหน้าเป็นไปไม่ได้ที่งานเลี้ยงใหญ่ๆ แบบนี้จะไร้ที่ติจากนั้นก็มาถึงช่วงเวลาดื่มอวยพรแม้ว่าแขกชายและหญิงจะนั่งแยกกัน แต่ก็มีฉากปังตาไม่ไม่อันกั้นไว้เท่านั้นในงานเลี้ยงการดื่มอวยพรเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นพวกแขกชายจึงพูดในทางนั้นว่า "ไปเลย ไปดื่มอวยพรให้ไทเฟยเพื่อฉลองวันเกิดของพระองค์กันเถอะ"พวกสตรีวางตะเกียกลงก่อนหยิบพัดมาปิดหน้าเป่ยหมิงอ๋องเป็นคนนำทาง จากนั้นเสนาบดีมู่ อ๋องฮวย และหยานไท่ฟู่ก็มาก่อน ไม่ได้มองไปด้านข้างหรือมองแขกสตรีที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาได้รักษาระยะหนึ่งห่างจากไทเฟย แล้วยกแก้วขึ้น "ขอให้ไทเฟยมีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรง"เดิมทีที่เป่ยหมิงอ๋องมาที่นี่เพื่อดื่มแทนเสด็จแม่ แต่สนมฮุ่ยไทเฟยมีความสุขมากจนยกแก้วขึ้นพลางพูดด้วยรอยยิ้ม "ดี ขอพรให้ทุกคนต่างมีอายุยืนยาว อยู่นานๆ และร่วมสุขกับลูกหลานไปด้วยกัน"เสนาบดีมู่แ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 456

    หวังชิงหลูเหมือนกับถูกฟ้าผ่า นางไม่คาดคิดจริงๆ ว่าจ้านเส้าฮวนจะทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าและคราวนี้ นางกลับล่วงเกินโหวผิงหยางเข้าโดยตรงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือโหวผิงหยางไม่ได้ดึงนางเฉยๆ แต่เป็นการกอดนางโดยตรงซึ่งอาจเป็นการกระทำในจิตใต้สำนึกโหวผิงหยางเป็นแขกชาย เลยไม่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จ้านเส้าฮวนก่อกวนในสวนดอกไม้ในก่อนหน้านี้ แค่เห็นแม่นางที่ได้รับบาดเจ็บที่กำลังจะหมดสติไป เขาก็เอื้อมมือออกไปช่วยนางด้วยจิตใต้สำนึกการกระทำด้วยจิตใต้สำนึกเร็วเกินไป และสมองของเขาก็ช้าไปหน่อย เพียงช้าไปนิดเดียวเอง เขาได้แตะต้องจ้านเส้าฮวนแล้ว อีกทั้งยังเป็นการกอดจ้านเส้าฮวนต่อหน้าทุกคน!ซ่งซีซีทำหน้าบึ้งตึง "คนใช้ คุณหนูจ้านไม่สบาย ส่งนางกลับจวน"ฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยางมองซ่งซีซีอย่างรู้สึกขอบคุณ หากยังไม่นำนางออกไป เรื่องนี้คงจบยากแม่นมเหลียงเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมยายแก่สองคน คนละแขนช่วยพยุงจ้านเส้าฮวนออกไป แต่จริงๆ แล้วก็คือยกนางออกไปจ้านเส้าฮวนยังคงเหม่อลอยในตอนแรก แต่ในขณะที่นางถูกลากออกไป นางพยายามดิ้นรนอย่างรุนแรงและมองดูท่านหญิงเจียอี้อย่างสิ้นหวัง น้ำตาไหลลงมา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 457

    ซ่งซีซียังดูแลแขกต่อ แต่ได้สั่งให้เสิ่นว่านจือคอยจับตาดูทุกคนเป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะคุณหนูที่มีเจตนาแอบแฝงพวกนั้นเสิ่นว่านจือพบว่ามีคุณหนูสองคนมักจะสบตากับองค์หญิงใหญ่ หลังจากที่นางจดจำไว้อย่างเงียบๆ นางก็ไปถามแม่นมเหลียงว่าสองคนนั้นเป็นใครแม่นมเหลียงกำลังรับใช้อยู่ข้างใน หลังจากมองดูอย่างชัดเจนแล้วก็จำบุคคลนั้นขึ้นมา นางออกมาและพูดกับเสิ่นว่านจือ "คุณหนูสองคนนั้น คนที่สวมชุดสีเหลืองเป็นคุณหนูจากครอบครัวพ่อแม่ของพระสนมหรง ชื่ออะไรข้าน้อยไม่รู้ ไส่วนคนที่สวมชุดสีม่วงเป็นคุณหนูจากครอบครัวพ่อแม่ของพระสนมกุ้ยเฟยยี่ ชื่อชีหลูเป่า เป็นคนมีความสามารถและหน้าตาดีด้วย ทุกคนชอบเอานางไปเปรียบเทียบกับหวงโฮ่วฉี หวงโฮ่วในสมัยก่อนก็มีใบหน้างดงามล่มเมืองเช่นกัน"หลังจากที่เสิ่นว่านจือจดจำไว้ นางก็บอกซ่งซีซีถึงตัวตนของทั้งสองคนเมื่อนางออกมาซ่งซีซีพอจะเดาได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระสนมหรงหรือว่าพระสนมกุ้ยเฟยยี่ในสมัยก่อน ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับองค์หญิงใหญ่และอ๋องเยี่ยนพวกเขาต้องการติดตั้งเส้นสายตัวเองในจวนเป่ยหมิงอ๋อง ที่พวกนางพาจ้านเส้าฮวนมาก็แค่อยากทำให้ท่านอ๋องขายหน้าก็เท่านั้นดูเหมือนว่าจะปล่อย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 458

    และนังตัวดีคนนั้นด้วย เป็นหลานสาวของครอบครัวพ่อแม่ของไอ้แก่นั่น ได้แต่งงานกับสามีเป็นอนุภรรยา ยังให้กำเนิดลูกชายและลูกสาวสองคนเหมือนหมูตัวเมีย บัดนี้ยังตั้งครรภ์อีก น่าจะคลอดในเร็วๆ นี้ที่นางกลับไปตอนนี้ ก็เท่ากับหาเรื่องไม่สบายใจให้ตนเองแต่ท่านแม่ออกคำสั่งแล้ว งั้นนางก็จำเป็นต้องกลับไปเพียงแต่ว่าตอนแรกนางพูดอย่างกำเริบเสิบสานว่าจะกลับไปบ้านพ่อแม่ แต่บัดนี้ไม่มีผู้ใดมารับนาง ได้แต่กลับไปตามลำพัง น่าอายจริงๆแต่งจ้านเส้าฮวน... นังตัวดีคนนั้นให้กำเนิดลูกชายและลูกสาวสองคน และตอนนี้กำลังจะคลอดอีกแล้ว แม้ว่าจ้านเส้าฮวนจะโง่ แต่นางก็ยังสาวอยู่ ไปสู้กับนังตัวดีคนนั้น งั้นตนเองก็รอได้ผลประโยชน์แล้วแม้ว่านางจะคิดแบบนี้ แต่ในใจก็เกลียดจ้านเส้าฮวนจนเข้ากระดูกดำเอาซะเลย นังสารเลว ล้วนเป็นนังสารเลวหมด ทำให้นางต้องหาเรื่องใสตนเองชัดๆองค์หญิงใหญ่หลับตาและกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ตอนนี้อ๋องเยี่ยนต้องการแต่งงานกับสตรีจากตระกูลเสิ่น การแต่งงานถูกกำหนดไว้ไม่นานหลังจากที่พระชายาอ๋องเยี่ยนสิ้นพระชนม์ตระกูลเสิ่นมีทั้งอำนาจและเงินทอง ยังมีเกราะ อาวุธ และม้าศึกด้วย แค่ไม่รู้ว่าสตรีที่เขาจะแต่งจากต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 459

    เซี่ยหลูโม่ยังคงดื้อรั้น เขาผลักเสด็จแม่ออกไปเบาๆ แล้วบิดข้อมือของซ่งซีซีด้วยมือเดียว "ข้าเพิ่งได้ยินมาว่าเจ้าอยากหาชายารองให้ข้า เจ้ามากับข้า ดูสิว่าข้าจะสั่งสอนเจ้ายังไง"หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ลากซ่งซีซีออกไปโดยตรงสนมฮุ่ยไทเฟยตกใจมาก แค่เอ่ยถึงเรื่องนี้เฉยๆ นี่เองมิใช่หรือ บุตรชายบ้าบอคนนี้บ้าจริงๆ"แม่นมเกา รีบตามออกไปดูสิ" สนมฮุ่ยไทเฟยรีบสั่งขึ้น "ถ้าโดนเขาสั่งสอนจนเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ข้าจะอธิบายให้ท่านพี่ฟังได้อย่างไร ท่านพี่รักใคร่ซ่งซีซีมากที่สุดแล้ว"แม่นมเกาถอนหายใจ "จะไปดูได้ยังไง หลังจากฟังคำพูดขององค์หญิงใหญ่และเต๋อกุ้ยไทเฟย เดิมทีไทเฟยก็อยากจะหาชายารองให้ท่านอ๋อง ถ้าข้าน้อยไป ไม่เท่ากับยิ่งทำให้ท่านอ๋องโกรธเข้าไปใหญ่หรือ ดูเหมือนพระชายาน่าจะทนกับการทุบตีได้…""บ้าจริง ลูกสะใภ้ผู้ใดที่แต่งเข้ามาต้องทนการทุบตีด้วยล่ะ หากเจ้าไม่ไปงั้นข้าจะไปเอง"แม่นมเกาห้ามนาง "เอาล่ะๆๆ ข้าน้อยจะไปหาอาจารย์หยู ท่านอ๋องทรงเชื่อฟังอาจารย์หยูมากที่สุด""ไปเร็วเข้า!" สนมฮุ่ยไทเฟยตบโต๊ะจนใจร้อนมาก หากโดนทุบตีจริงๆ ใบหน้าที่งดงามของนาง...เฮอะๆๆ แค่คิดก็รู้สึกเห็นใจเข้าทันทีที่เซี่ยหลู

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1602

    ดอกเหมยบนภูเขาเหม่ยชานบานแล้ว ร่วงโรยแล้วเช่นกันในใจข้าย่อมอดเคืองนางไม่ได้ กลับบ้านไปแล้ว ก็จะทอดทิ้งพวกข้าด้วยหรือ? ไม่นึกถึงน้ำใจไมตรีที่มีต่อกันตลอดหลายปีมานี้เลยหรือ?เฉินเฉินก็ด่านางว่าไร้หัวใจ ไปก็แล้วไป ไยจึงไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาสักฉบับ?นานวันเข้าพวกข้าก็เลิกพูดถึงนางเสียเอง ราวกับว่าการไม่เอ่ยชื่อนางเลย คือการแก้แค้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อผู้ละทิ้งพวกข้าต่างก็ตกลงกันไว้ว่า หากนางกลับมายังภูเขาเหม่ยชานอีกครั้ง ไม่ว่าใครก็จะไม่ไปพบนาง ไม่พูดกับนางสักคำ แม้นางจะให้คนส่งจดหมายมา ข้าก็จะไม่ตอบกลับ แม้แต่จะอ่านยังไม่อ่านวันเวลาผ่านไปกลางดาบคมและเงาเย็น พวกข้าทุกคนต่างฝึกฝนวิชาให้แกร่งกล้า ราวกับได้ตกลงกันไว้แล้วว่า หากยังไม่ตาย ก็จะฝึกจนสุดกำลังแม้ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา แต่ข้าย่อมรู้ว่าในใจของทุกคนคิดไม่ต่างกัน ย่อมไม่มีวันเป็น ‘นางที่ยิ้มแย้ม’ ได้อีกแล้ว เพราะเจ้าหวังห้าเล่าว่า ตั้งแต่นางจากเขาลงไป ท่านอาจารย์ก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดทุกเมื่อเชื่อวันพวกข้าไม่รู้ว่านางประสบเรื่องราวใด แต่ข้าก็ฝึกฝนจนกล้าแข็ง เพียงรอวันที่นางต้องการข้า ดาบในมือย่อมพร้อมชักออกจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1601

    เพียงแต่ ข้ากับซีซีพบกันแทบทุกวัน หากนางไม่มาหาข้าที่สถาบันชื่อเยียน ข้าก็จะไปหานางที่สำนักว่านซง ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงยังคงได้พบหวังเยว่จางอยู่เสมอทว่า ทุกคราที่เขาเห็นข้า ก็จะส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ ราวกับข้าเป็นผู้ล่วงเกินเขากระนั้นครั้งหนึ่งข้าทนไม่ไหว เอ่ยถามเขาว่าจะมองเขม่นข้าไปถึงไหน เขากลับว่าข้าเป็นคนแพร่ข่าวลือ ว่าเขาไปเที่ยวหอนางโลมข้าก็โกรธแทบขาดใจ! เขาประพฤติเสียเอง ไม่รู้จักสำนึก กลับมาโทษคนที่บริสุทธิ์ ข้าไม่ได้แพร่ข่าวลือเสียหน่อย!ข้าแค่เล่าเรื่องนี้ให้สหายสนิทของข้าฟัง แล้วจะนับว่าแพร่ข่าวลือได้อย่างไร?ข้าโมโหจนต่อยเขาไปหนึ่งหมัด แล้วก็ประกาศตัดขาดกับเขาเสียเลยต่อมา ซีซีกลับบ้าน ข้าคิดว่าไม่นานนางก็คงกลับมาเช่นเคย แต่ครานี้ นางกลับหายไปเนิ่นนาน มิได้กลับสำนักภูเขาเหม่ยชานอีกเลยข้าไปที่สำนักว่านซงเพื่อถามหา แต่มิมีผู้ใดยอมปริปากแม้แต่คนเดียวด้วยความร้อนใจ ข้าคิดจะพาเฉินเฉินกับมันโถวออกเดินทางไปเมืองหลวงตามหานาง ก่อนออกเดินทาง หวังเยว่จางก็มาหาเราครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขามีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบอกพวกเราว่า ซีซีมีเรื่องในบ้าน บิดาและพี่ชายล้วนเสียชีวิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status