ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชาวบ้านชาวเมืองเริ่มลือกันเรื่องที่ยี่ฝางถูกชาวซีจิงจับตัวไปและถูกข่มขืนในสนามรบเดิมทีหลังจากกลับจากเขตหนานเจียง ก็มีเสียงเช่นนี้แพร่ออกมา แต่ในเวลานั้นแค่ลือกันว่าถูกชาวแคว้นซาจับตัวไป แล้วข้าวลือก็เงียบหายไปในไม่ช้าแต่คราวนี้ หลังจากกลับมาจากฮูหยินโหวเจี้ยนคังกลังจากกล่าวขอโทษเสร็จ ก็ไม่มีใครโยนอุจจาระไปใส่หน้าประตูจวนแม่ทัพ อีก แต่เรื่องที่ยี่ฝางถูกจับตัวไปและโดนข่มขืนนั้นกลับเป็นข่าวร้อนแรงอีกข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงในเวลาเพียงไม่กี่วัน และจะต้องถูกกระจายออกนอกเมืองอย่างแน่นอนทุกคนในจวนเป่ยหมิงอ๋องต่างก็พูดถึงเรื่องนี้เช่นกันแม้แต่ซ่งซีซีก็รู้สึกว่ามันแปลก เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ทำไมจู่ๆ ถึงถูกเอามาลืนกันอีก ยังร้อนแรงเช่นนี้ด้วย หรือว่ากองทัพทหารมีคนเปิดเผยข่าวหรือ เรื่องนี้กองทัพซวนเจียรู้อย่างชัดเจน แต่กองทัพซวนเจียฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด เรื่องแบบนี้คงไม่ถูกแพร่ออกไปได้เมื่อรอเซี่ยหลูโม่กลับมาจากหอต้าหลี่ ซ่งซีซีก็ถามเขาเซี่ยหลูโม่นั่งลง และจิบน้ำชาพลางขมวดคิ้วก่อนพูดว่า "มีคนจงใจเผยแพร่เรื่องนี้ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อวานนี้ว่า องค์ชายสามข
ภายในไม่กี่วันข่าวลือของยี่ฝางก็ไม่มีคนลือกันอีกอย่างที่คาดไว้นักเล่าเรื่องที่โรงเตี๊ยมต่างเปลี่ยนเนื้อเรื่องของพวกเขา โดยกล่าวว่าที่สงครามเขตหนานเจียงมีทหารถูกจับไปก็จริง แต่ฝ่ายเราก็จับทหารแคว้นซามาไม่น้อยเช่นกัน สุดท้ายทั้งสองประเทศได้แลกผู้ถูกจับกันและกัน เลยไม่มีทางเกิดเหตุการณ์ที่ว่าทรมานผู้ถูกจับของศัตรูหรือทหารแคว้นซาถูกทรมานหรือข่มขืนในสายตาของคนนอก นี่อาจเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง แต่สำหรับคนที่อ่อนไหวต่อสถานการณ์ก็สังเกตเห็นบรรยากาศที่ไม่ปกติได้ประชาชนไม่รู้ว่าทหารจากเมืองซีจิงก็เข้าสู่สนามรบเขตหนานเจียงเพื่อช่วยเหลือแคว้นซา กิจการทางทหารที่สำคัญเช่นนี้จะต้องถูกเก็บเป็นความลับแม้ว่าจะมีคนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็มีน้อยมาก และไม่สามารถแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางเช่นนี้ เว้นแต่จะมีคนที่จงใจเผยแพร่ทหารประจำจวนของจวนเป่ยหมิงอ๋องได้รับการจัดตั้งขึ้น บรรดาทหารนั้นมีมากกว่าสองร้อยคนเป็นคนจากกองทัพเป่ยหมิง เซี่ยหลูโม่ไปขอกับฮ่องเต้นำพวกเขากลับมา เดิมทีคนเหล่านี้เป็นทหารของจวนอ๋องอยู่แล้ว ไม่ได้รับเงินเดือนจากราชสำนักฮ่องเต้ได้อนุญาต ถึงยังไงกองทัพเป่ยหมิงสอ
นี่เป็นงานเลี้ยงแรกที่จัดโดยซ่งซีซี หลังจากที่นางแต่งเข้าจวนอ๋องหากจัดได้ไม่ดีก็จะทำให้คนอื่นหัวเราะได้ โดยเฉพราะที่สนมฮุ่ยไทเฟยให้ความสำคัญกับงานวันเกิดของตนเองมากนัก นางย่อมไม่อยากให้งานวันเกิดของตนเองเป็นเรื่องตลกอย่างแน่นอนดังนั้น นางจึงต้องถามสนมฮุ่ยไทเฟยด้วยตนเองว่ามีผู้ใดบ้างที่นางต้องเชิญหรือไม่?สนมฮุ่ยไทเฟยแสร้งคิดอยู่นานและกล่าวว่า "เต๋อกุ้ยไทเฟย ฉีกุ้ยไทเฟย หากพวกนางสามารถออกจากวังก็เชิญมาเลย ส่วนคนอื่นๆ นั้นเจ้าตัดสินใจเอง"ซ่งซีซีรู้ดีว่าพวกนางต้องได้รับเชิญแน่ๆ โดยเฉพาะเต๋อกุ้ยไทเฟยซ่งซีซีรู้สึกแปลกใจ ที่จริงแล้วคนโปรดของฮ่องเต้องค์ก่อนไม่ใช่พวกนาง แต่เป็นพระสนมซูไทเฟยและพระสนมหวั้นกุ้ยไทเฟยที่ตายไปแล้วทำไมนางถึงไม่ลงรอยกันกับเต๋อกุ้ยไทเฟยและฉีกุ้ยไทเฟยตลอดล่ะ?ตอนนี้เนื่องจากการเกี่ยวดองกับตระกูลฉี ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับฉีกุ้ยไทเฟยจึงดีขึ้นมาหน่อย แต่สำหรับเต๋อกุ้ยไทเฟยแล้วยังคงต่อสู้ไปมาและไม่ลงรอยกันซ่งซีซีอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย "เต๋อกุ้ยไทเฟยเคยทำให้ท่านขุ่นเคืองใจหรือ"สนมฮุ่ยไทเฟยสบถขึ้นมาเบา "อย่าถูกหลอกด้วยรูปร่างหน้าตาภายนอกของนาง คนๆ นี้ดูจ
แม่นมเกาส่งรายชื่อมาให้ ชื่อก่อนเข้าวัง ชื่อหลังเข้าวัง บ้านเกิด อายุ ปีที่เข้าวัง และวังที่เคยรับใช้บ้าง ล้วนเขียนไว้อย่างละเอียดเมื่อดูเผินๆ ไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ มีเพียงสามคนเท่านั้นที่เคยรับใช้ในตำหนักอื่น ได้แก่ หลานเยว่ จิ้งซิน และซู่หลานป้าหลานเยว่เคยรับใช้พระสนมหวั้นกุ้ยเฟยมา หลังจากพระสนมหวั้นกุ้ยเฟยสิ้นพระชนม์ หลานเยว่ก็ถูกมอบให้แก่สนมฮุ่ยไทเฟยโดยไทเฮาเดิมทีจิ้งซินและซู่หลานเป็นคนดูแลพระสนมลี่เฟยของฮ่องเต้องค์ก่อน พระสนมลี่เฟยเป็นสนมคนโปรดในขณะนั้น แต่นางเสียชีวิตกะทันหัน ได้ยินว่าตายด้วยโรคร้ายแรงหลังจากที่พระสนมลี่เฟยสิ้นพระชนม์ ฮ่องเต้องค์ก่อนก็โกรธมากจนเอาผิดคนที่อยู่ข้างกายนาง โดนลงโทษถูกวางยาตายหมด มีแต่จิ้งซินและซู่หลานที่ถูกไทเฮาเรียกไปดูแลสนมฮุ่ยไทเฟยที่กำลังป่วยนั้น เลยได้รอดชีวิตสำหรับคนอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นคนที่สนมฮุ่ยไทเฟยนำจากจวนของตนเอง แม่นมเกาเป็นพี่เลี้ยงเด็กของสนมฮุ่ยไทเฟย และสนมฮุ่ยไทเฟยถือว่านางเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กไม่มีทางที่จะมีปัญหากับแม่นมเกา และสำหรับคนที่ถูกนำเข้ามาในวังจากจวนนั้นก็คงไม่มีปัญหาเช่นกันซ่งซีซีเลยสั่งให้ผู้คนจับตาดูทั้งสามคน
องค์หญิงใหญ่ยิ้มอย่างเย็นชา "จะรีบร้อนทำไม อยากทำเรื่องนี้ให้สำเร็จก็ต้องให้สนมฮุ่ยไทเฟยมาจัดการเอง""สนมฮุ่ยไทเฟย?" ท่านหญิงเจียอี้นึกถึงครั้งสุดท้ายที่แม่สามีและลูกสะใภ้สองคนมาทวงเงิน และนางก็อดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมา "ตอนนี้นางเป็นพวกเดียวกันกับซ่งซีซีแล้ว จะยอมเชื่อฟังเราหรือ?"องค์หญิงใหญ่ค่อยๆ หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ "นางไม่ฟังเรา แต่วิธีการยั่วยุมันก็มีผลกับนางตลอด มีคนหนึ่งสามารถบรรลุสิ่งนี้ได้"ดวงตาของท่านหญิงเจียอี้เป็นประกาย "จะใช้วิธียั่วยุงั้นเหรอ เต๋อกุ้ยไทเฟย"นางตบขาแล้วพูดว่า "ท่านแม่เป็นคนคิดรอบคอบจริงๆ ฉีอี๋เยว่ พระชายาฉินอ๋องมีบุตรสาวคนหนึ่ง ส่วนชายารองหยวนก็มีบุตรชายและบุตรสาวสองคน ชายารองหมิงก็มีบุตรสาวหนึ่งคน ตอนนี้ก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ คาดว่าที่ชายารองหมิงกำลังตั้งครรภ์นั้น สนมฮุ่ยไทเฟยยังไม่รู้เรื่อง แต่ถ้านางรู้ นางจะถูกยั่วให้เกิดความคิดแต่งอนุภรรยาให้เซี่ยหลูโม่ พวกนางสองแม่สามีและลูกสะใภ้หากทะเลาะกัน งั้นก็สนุกน่าดูเลย"องค์หญิงใหญ่ดื่มชาช้าๆ เมื่อน้ำชาเย็นแล้ว นางก็สั่งให้คนใช้ชงชาอีกแก้ว "พวกนางคงไม่มีทางอยู่ฝ่ายเดียวกันตลอดหรอก แม่สามีกับลูกสะใภ้ถึงยังไงก
"ท่านแม่!" จ้านเส้าฮวนจัดเก็บความตื่นเต้นในสายตาของตนไม่ได้ "ท่านหญิงเจียอี้จะพาลูกไปเข้าร่วมงานด้วย นางบอกว่าในงานเลี้ยงวันเกิดนางจะช่วยให้ลูกกลายเป็นชายารองของเป่ยหมิงอ๋องได้"ทันใดนั้นดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของฮูหยินผู้เฒ่าก็เป็นประกายขึ้นมา และนางพยายามลุกขึ้นนั่ง "เจ้าพูดจริงจังหรือ""แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง ท่านหญิงเจียอี้บอกกับลูกด้วยปากเอง และองค์หญิงใหญ่ก็ฟังอยู่ข้างๆ ด้วย"ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกตื่นตาตื่นใจราวกับว่าเลือดในทั่วร่างไหลเวียนได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น และการหายใจก็เร็วขึ้น "หากเรื่องนี้เป็นจริงล่ะก็ องค์หญิงใหญ่และท่านหญิงเจียอี้ต่างก็เป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของเรา"แต่ไม่นานนักนางก็ขมวดคิ้วทันที "ทำไมพวกนางถึงช่วยเจ้าแบบนี้? พวกนางกำลังวางแผนอะไรกับเจ้าอยู่เหรอ? อย่าเพิ่งดีใจไป ให้แม่คิดดูก่อน"จ้านเส้าฮวนลุกขึ้นยืนและกระทืบเท้าของนาง "ท่านแม่ ไม่ว่าแผนการของพวกนางจะเป็นเช่นไร ขอแค่ข้าสามารถแต่งเข้าจวนอ๋อง ต่อให้ต้องอยู่ต่ำกว่าซ่งซีซี ข้าก็ยอม ถึงยังไงข้ามีอายุน้อยกว่า นางก็แค่ผู้หญิงที่แต่งงานมาสองครั้งนั้นจะดีกว่าข้าได้อย่างไร"จากนั้นนางรีบนั่งลงอีกครั้ง "นอ
นางหมินประหลาดใจ "ได้รับเชิญจริงๆ หรือว่าหลอกนางกันแน่ จะว่าไปท่านก็เป็นคนจากจวนแม่ทัพด้วย แล้วนางจะเชิญท่านไปได้ยังไง?""ทำไมจะเชิญชวนไม่ได้ล่ะ หาใช่ว่าทุกคนในจวนแม่ทัพล้วนจะใจร้ายหมด" ฮูหยินผู้เฒ่ารองมีความสุขและปลื้มอกปลื้มใจมาก "กลับไปบอกฮวนเอ๋อร์ จะได้ให้นางไปบอกแม่สามีของเจ้า เพื่อให้นางอึดอัดใจสักหน่อย"นางหมินยิ้มอย่างขมขื่น "อาสะใภ้รอง นี่ท่านกับท่านแม่สามีไม่กินเส้นกันขนาดนั้นเหรอ?"ฮูหยินผู้เฒ่ารองหัวเราะเยาะ "ใครล่ะที่จะไม่กินเส้นกันกับนาง แค่ไม่ชอบความโลภและความโหดเหี้ยมของนาง ยังเป็นคนเนรคุณด้วย ฮูหยินใหญ่ ข้าขอพูดอะไรตรงๆ ที่เจ้าอาจไม่ชอบฟังนะ เจ้านี่ช่างโง่จริงๆ ผู้ใดดีกับเจ้า ผู้ใดไม่ดีกับเจ้า เจ้าไม่แยกแยะเลย""ทำไมจะไม่แยกแยะล่ะ อาสะใภ้ก็รู้ดีว่าครอบครัวพ่อแม่ของข้าไร้ความสามารถ ท่านสามีก็ไม่ค่อยชอบข้า แม่สามียิ่งดูถูกข้าด้วย แล้วจะให้ข้าทำอะไรได้ล่ะ""เจ้าไม่สามารถทำอะไรได้ แต่อย่าช่วยคนร้ายทำเรื่องชั่วๆ" ฮูหยินผู้เฒ่ารองพูดตรงๆ "แม่สามีของเจ้า หวังชิงหลู ยี่ฝาง และน้องสาวของสามีเจ้าล้วนไม่ใช่คนดีอะไร พวกนางต่างก็อยากรังแกซีซี เจ้าอยากไปช่วยพวกนางก็พอ""แน่นอน
นางต้องทุ่มเทน้ำพักน้ำแรงไปดูแลเรื่องต่างๆ ในจวน แถมยังใช้เงินส่วนตัวของตนเองมาอุดหนุนอีกด้วย แต่ละวันต้องเหนื่อยล้ามาก เมื่อนอนลงก็เหมือนกับเอวจะหักอยู่แล้วแต่ซ่งซีซีกลับใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นางไม่ยอมจริงๆขณะที่นางกำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดนี้ ก็ได้ยินน้องสามีพูดว่า "ได้ยินมาว่าสนมฮุ่ยไทเฟยเคยพูดต่อสาธารณะว่านางไม่ชอบซ่งซีซีมาก่อน เดาว่าแม่สามีและลูกสะใภ้สองคนนี้คงไม่ลงรอยกัน อาจไม่แน่เมื่อถึงวันจัดงานเลี้ยงนั้น สนมฮุ่ยไทเฟยจะตั้งกฏให้ซ่งซีซีก็ได้ ด้วยนิสัยใจคอของซ่งซีซีในทุกวันนี้ เกรงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เข้าแน่ๆ"หวังชิงหลูจำสิ่งที่นางพูดบนรถม้าในวันนั้นได้ นางหยิ่งผยองและกำเริบเสิบสานมาก อยากจะดูว่านางถูกสนมฮุ่ยไทเฟยรังแกกับตาจริงๆเพียงแต่ว่าไม่มีคำเชิญให้กับจวนแม่ทัพ แล้วนางไปได้อย่างไร?ทันใดนั้นนางก็คิดถึงครอบครัวของพ่อแม่ ตอนนี้พี่ชายได้ดูแลกองทัพเป่ยหมิง แล้วจวนเป่ยหมิงอ๋องกำลังจัดงานเลี้ยง ดังนั้นน่าจะมีบัตรเชิญให้จวนป๋อผิงซีสินะ?เมื่อคิดเช่นนี้ หลังจากดูแลแม่สามีกินยาเสร็จ แล้วบอกว่าท่านแม่ไม่ค่อยสบายเลยอยากกลับไปเยี่ยมแม่เมื่อกลับไปถามแม่แล้ว แก็พบว่าได้รับบัตร