Share

บทที่ 34

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ซ่งซื่ออันเรียกลูกน้องของตระกูลซ่งมาช่วย เพื่อขนของลงและจัดเก็บพวกมันทั้งหมดให้เรียบร้อย

หลังจากยุ่งมาสักพักใหญ่ ซ่งซื่ออันและซ่งซีซีก็เดินไปรอบๆ จวนด้วยกัน ในจวนเคยมีชีวิตชีวามาก แต่ตอนนี้ มันกลับร้างมาก

ซ่งซื่ออันกล่าวกับนาง "บัดนี้เจ้าเป็นเจ้านายเพียงคนเดียวในจวนเสนาบดีกั๋วกง และคนรับใช้ก็เป็นเพียงคนที่เจ้าพากลับมาจากบ้านสามีของเจ้าเท่านั้น เจ้าต้องหาพ่อบ้านมาช่วยดูแลบ้านก่อน แล้วค่อยหาสาวใช้และพวกทาสด้วย ห้องครัวและสวนต่างๆ และรถม้าก็ต้องมีคนคอยดูแล หากเจ้าไม่สะดวก ข้าก็ช่วยหาให้เจ้าได้"

ซ่งซีซีกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า "ท่านลุงต้องยุ่งกับธุรกิจ ข้าไม่กล้าไปรบกวนเวลา แม่นมฮวงและแม่นมเหลียงจะจัดการเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ"

ซ่งซื่ออันมองดูนาง แล้วถอนหายใจ "เราเป็นสายเลือดเดียวกันจะว่าเป็นรบกวนได้ยังไง? ในสมัยก่อนตอนที่ท่านพ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ทุกครั้งที่เขากลับมาจากชายแดนมักจะชวนพี่น้องเช่นเรามารวมตัวกันเสมอ ฟังเขาเล่าเรื่องอันตรายในสนามรบ ทำเอาเราทั้งชื่นชมและรู้สึกเป็นห่วงกับเขาด้วย แต่ก็รู้สึกภูมิใจมากกว่าเพราะคนของตระกูลซ่งของเราปกป้องบ้านเมืองอยู่ แต่จากนั้นมาตระกูลซ่งของเราก็ไม่ม
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (3)
goodnovel comment avatar
ลุงหย๋อย คนไทยใจอีสาน
ดีเยี่ยมน่าอ่านมากๆๆไ
goodnovel comment avatar
Erawady Mitrabhakdi
นิยายอืดอาดไปแล้วค่ะ
goodnovel comment avatar
Phakim Kaoian
มีทั้งหมดกี่ตอน ยาวมาก น้ำเน้น ๆ
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 35

    แม้ว่าจวนเสนาบดีกั๋วกงจะเป็นตระกูลทหาร แต่คุณหนูก็เป็นคนที่ได้รับการศึกษาที่ดีมา และย่อมหวังว่าคนที่รับใช้ข้างกายนางจะอ่านหนังสือเป็นด้วย“เอาล่ะ พวกเจ้าอยู่ต่อเลย ให้รับใช้คุณหนูเลย ส่วนชื่อของพวกเจ้า เดี๋ยวจะให้คุณหนูตั้งให้”ทั้งสี่คนดีใจกันมาก "ขอบคุณมากนะแม่นม!"แม่นมฮวงพูดอย่างจริงจังว่า "อย่าเพิ่งขอบคุณข้า อยู่ข้างกายคุณหนูก็ต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ด้วย หากเรียนรู้ไม่ดี จะเป็นได้แค่สาวใช้ชั้นสองหรือชั้นสามเท่านั้น"ทั้งสี่คนได้ยินดังนั้นก็คารวะว่า “ข้าน้อยจะต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ให้ดีแน่นอนเจ้าคะ”หลังจากเลือกคนทั้งสี่คนนี้แล้ว แม่นมทั้งสองก็เลือกสาวใช้และชายรับใช้สองสามคนด้วย จากนั้นให้นายหน้าช่วยหาคนขับรถม้า ช่าง ผู้ดูแลม้าและสวนด้วยสำหรับหัวหน้าดูแลฝ่ายนอกและนักบัญชี ย่อมไม่สามารถให้นายหน้าช่วยหาให้หลังจากที่นายหน้ารับเงินไปก็ยิ้มกว้าง "ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปให้แม่นมเลือกเอาเอง"หลังจากที่เขามอบโฉนดขายเป็นทาสแล้ว เขาก็มอบซองแดงแก่แม่นมทั้งสองก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม "ฝากแม่นมด้วยนะ หากท่านต้องการอะไรในอนาคต ติดต่อเราได้เลย เราทำงานเกือบทุกสายเลย"แม่นมรับซองแดง พลางพยั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 36

    แต่เรื่องนี้ไม่มีทางสอบสวนได้อีกแล้ว สายลับตายบ้าง คนที่ไม่ตายก็หนีกลับไปที่เมืองซีจิงแล้ว และหาไม่เจออีกเลยนางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงท่านพ่อและพี่ชายของนางอีกครั้ง รู้สึกทั้งเสียใจและเจ็บปวดใจด้วยท่านพ่อและพี่ชายเคยยึดเขตหนานเจียงกลับคืนมา แต่ปกป้องไม่ดีเองก็ถูกแย่งชิงไปอีก ในที่สุดทั้งท่านพ่อและพี่ชายต่างก็เสียชีวิตอย่างอนาถในสนามรบหากเป่ยหมิงอ๋องได้ชนะสงคราม และยึดเขตหนานเจียงกลับคืนมา ก็ถือว่าสนองความปรารถนาของท่านพ่อและพี่ชายของนางด้วยคืนแรกที่กลับบ้าน ซ่งซีซีนอนไม่หลับ ความฝันของนางเต็มไปด้วยฉากที่ท่านแม่ พี่สะใภ้ หลานชาย และคนอื่นๆ ที่ถูกฆ่าตาย นางตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วไม่สามารถเข้านอนได้อีก นางจ้องมองเพดานด้วยดวงตาเบิกกว้าง สมองของนางเอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยมองจากอาการบาดเจ็บของพวกเขาก็สามารถพิจารณาได้ว่าพวกฆาตกรโหดเหี้ยมแค่ไหน และฆาตกรกำลังระบายความโกรธชัดๆเมื่อทั้งสองประเทศทำสงคราม แม้ว่าเมืองซีจิงจะพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนี้ออกนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาพ่ายแพ้ พวกเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับท่านพ่อและพี่ชายจนไม่เป็นท่า ถูกสังหารทหารและม้าไป สามหมื่นนาย แต่สายลับจา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 37

    ฮูหยินผู้เฒ่ากระทืบเท้าแล้วพูดว่า "ให้เขาขนของไปหมด ไม่เหลืออะไรแล้ว ต่อไปจวนแม่ทัพแม้แต่ค่ายาของข้าก็จ่ายไม่ไหวแล้ว"จ้านเป่ยว่างรู้สึกอึดอัดใจมาก แต่เขาทำได้เพียงปลอบใจท่านแม่ "ไม่ต้องห่วง สงครามที่เขตหนานเจียงต้องให้ข้าและยี่ฝางไปเร็วๆ นี้ ข้าจะต้องสร้างผลงานกับมาอีกครั้ง"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านร้องไห้อย่างหนัก "นางจะใจร้ายขนาดนี้ได้ยังไง ก็แค่ภรรยาเท่าเทียมกันนี่เอง ทำไมนางถึงทนไม่ได้ล่ะ เป็นเด็กกำพร้าชัดๆ นางยังคิดว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนูสูงส่งจริงๆ เหรอ?"จ้านเป่ยว่างกระตุกริมฝีปากของเขา ยามนี้ นางเป็นบุตรีของฮูหยิงเอกของจวนเสนาบดีกั๋วกงแล้ว แน่นอนว่านางเป็นลูกคุณหนูสูงส่ง"สมควรที่นางถูกสังหารทั้งโคตร สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าจริงๆ!" ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านพูดด้วยความโกรธสำหรับเรื่องที่ว่าตระกูลซ่งถูกสายลับของเมืองซีจิงฆ่าสังหารนั้นจ้านเป่ยว่างก็รู้สึกแปลกๆ เช่นกัน เหตุใดสายลับของเมืองซีจิงจึงฆ่าคนแก่และผู้อ่อนแอเหล่านั้น? มันไม่คุ้มค่าโดยสิ้นเชิงแต่เรื่องของตระกูลซ่งไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้ว และเขาจะไม่เสียเวลาไปสนใจมันอีกซ่งซีซีจะต้องเสียใจภายหลัง อันที่จริง ตอนเขารู้เรื่องนี้เขา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 38

    ซ่งซื่ออันพาลูกน้องขนสินเดิมทั้งหมดกลับไปที่จวนเสนาบดีเจิ้นกั๋วกงซ่งซีซีออกมากล่าวขอบคุณ และชวนทุกคนเข้าไปดื่มชาซ่งซื่ออันกลับส่ายหัว "จะไม่ดื่มชานี้ในตอนนี้แล้ว ข้ามีเรื่องสำคัญอื่นที่ต้องทำ อีกอย่าง จ้านเป่ยว่างให้ข้าฝากบอกเจ้าว้า เขาบอกว่าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจภายหลัง"ซ่งซีซีหรี่ตาลง "หลานได้ยินแล้ว แต่ไม่มีอะไรจะตอบเขา ในเมื่อท่ารลุงยุ่งอยู่ หลานก็ไม่ฝืนใจให้เขาอยู่ต่อ"ซ่งซื่ออันพอใจกับคำตอบของนางมาก ตระกูลซ่งขาดอะไรก็ได้ แต่ขาดความภาคภูมิใจในตัวของพวกเขาไม่ได้ จากนั้นเขาก็พาคนออกไปไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไปดื่มชา แค่ว่ายามนี้จวนเสนาบดีกั๋วกงยังวุ่นวายอยู่ และคนใช้มาใหม่คงยังเรียนรู้กฎไม่ได้เร็วขนาดนี้ หากเป็นเขาคนเดียวก็ไม่เป็นไร แต่เขายังพาลูกน้องคนอื่นมาด้วยคนเยอะก็มักจะมีเรื่องเยอะ หากคนรับใช้ทำอะไรไม่ดีขึ้นมาโดนแพร่ออกไป ยามนี้จวนเสนาบดีเจิ้นกั๋วกงไม่สามารถทนต่อข่าวลือแม้แต่น้อยเลยซ่งซีซีกลับไปที่เรือนหลิงหลง เขียนจดหมายและสั่งให้ผู้คนรีบส่งกลับไปให้อาจารย์ โดยขอให้อาจารย์ช่วยตรวจสอบสงครามระหว่างเมืองซีจิงและแคว้งซางที่ชายแดนเฉิงหลิงในใจของนางยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่นา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 39

    แต่ปัญหาคือไม่มีใครบอกนาง ว่าจะมีทหารมาอีกทั้งมาเป็นร้อยกว่าคน ครอบครองที่นั่งจำนวนมาก ทำให้แขกจำนวนมากที่ได้รับคำเชิญกลับไม่มีที่นั่งคนเหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารที่มาที่นี่เพื่อแสดงเป็นมิตร เป็นคนใหญ่คนโตของราชสำนักนี่น่ะเมื่อตีสนิทได้ มันจะเป็นผลประโยชน์ต่อจ้านเป่ยว่างในเรื่องที่เขาจะเลื่อนตำแหน่งงาน เวลานี้จะให้จัดการอย่างไร?แต่พวกเขาทั้งหมดต่างยืนตัวสั่นท่ามกลางลมหนาว ช่างเป็นบาปจริงๆจู่ๆ ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านก็หันไปหานางหมิน เพื่อให้นางคิดหาวิธีแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว นางหมินก็ตกใจและทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน ไม่มีใครบอกนางว่ายังมีแขกอีกสินะ? นางจัดที่นั่งตามรายชื่อแขกเลยแขกยังประหลาดใจมากที่จู่ๆ เห็นคนไร้ระเบียบกว่าร้อยคนมาที่นั่น พอมาถึงก็ยึดที่นั่งและเริ่มกินดื่ม ต่างหัวเราะล้อเล่นกับเจ้าสาว เสียงหัวเราะดังมาก ทำไมรู้สึกสภาพเช่นนี้ดูแปลกไปหน่อยในนั้นมีขุนนางจากตระกูลชนชั้นสูงมากมาย ที่พวกเขามาเพราะเห็นแก่ฮ่องเต้ พวกเขาเคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนที่ไหนกัน? แม้ว่าจวนแม่ทัพจะไม่ใช่ตระกูลที่ใหญ่โตอะไร แต่ก็สืบทอดกันมาหลายปี แล้วเหตุใดจึงเกิดความวุ่นวายในงานแต่งงานที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 40

    ยี่ฝางรู้สึกว่าข้อกล่าวหาของเขาไม่สมเหตุสมผล นางหัวเราะเยาะ "วันนี้ข้าเพิ่งแต่งเข้ามา เจ้าก็ดุข้าเสียงดังเช่นนี้ ไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะเป็นยังไงบ้าง อีกอย่าง ทหารเหล่านี้ยังบุกน้ำลุยไฟติดตามเจ้ามาตลอดด้วย และเป็นพยานว่าเรารักกันยังไง ก็จริงที่ข้าชวนพวกเขามาไม่ได้บอกพวกเจ้าล่วงหน้า แต่งานเลี้ยงใหญ่เช่นนี้จะไม่เตรียมเผื่อสักสิบโต๊ะไว้ที่ไหนกัน ส่วนพวกเขาได้ออกจากค่ายทหารโดยรับอนุญาตหรือไม่ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แม่ทัพหลิวไม่ใช่คนไร้เหตุผล"ทันทีที่ยี่ฝางดูแข็งแกร่งขึ้นมา จ้านเป่ยว่างก็อ่อนข้อให้เลย เขาไม่ต้องการสร้างปัญหากับนางในวันแต่งงานของพวกเขาจริงๆ ดังนั้นเขาจึงถามแค่ว่า "หากพูดเช่นนี้ ที่พวกเขาออกจากค่ายคือได้รับอนุญาตจากแม่ทัพหลิวงั้นเหรอ"ยี่ฝางไม่ได้ถามแม่ทัพหลิว นางแค่ออกคำสั่งให้พวกเขามาด้วย เพราะนางคิดว่ามันไม่สำคัญ แม่ทัพหลิวเป็นคนคุยง่ายดังนั้นนางจึงเมินคำถามนี้ ก่อนดุว่า "เป็นเพราะพวกเจ้าเตรียมงานไม่พร้อม พวกเจ้าไปถามเจ้าอื่นดูสิ มีใครบ้างที่จัดงานแต่งงานจะไม่เตรียมโต๊ะเผื่อไว้ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนจัดการเรื่องแต่งงานนี้ จัดไม่ได้เรื่องจริงๆ ยังกล้ามาโทษข้าอีก"ในเรื่องน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 41

    แขกทุกคนจากไปหมดแล้ว เหลือเพียงทหารหยาบคายจำนวนหนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธมากจนแทบจะหัวใจวายคนอื่นๆ ในจวนแม่ทัพก็มองหน้ากันด้วยความสับสน พวกเขาไม่เคยเห็นมีเจ้าไหนบ้างได้จัดงานแต่งงานจนกลายเป็นสภาพเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นมันคือพระราชทานอภิเษกสมรสจากฮ่องเต้เสียอีกหากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป เกรงว่าจวนแม่ทัพจะกลายเป็นตัวตลกในเมืองหลวงเข้าแล้วจ้านเป่ยว่างไปตามหานางหมิน และความโกรธในใจของเขาไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป เขาตบโต๊ะอย่างแรงแล้วพูดว่า "พี่สะใภ้ ถ้าเจ้าไม่อยากช่วยข้าเพื่อจัดงานแต่งงานให้มีเกียรติดูยิ่งใหญ่ก็บอกข้าได้เลย ตอนนี้งานแต่งดีๆ กลับกลายเป็นเรื่องตลกแทน แขกไปกันหมด แล้วต่อไปข้าจะเป็นข้าราชการในราชสำนักได้ยังไงล่ะ"นางหมินรู้สึกคับข้องใจมาก และน้ำตาไหล "ข้าก็จัดตามรายชื่อแขกเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ ก็มีคนมากันเยอะขนาดนี้ เรื่องนี้จะมาโทษข้าได้ยังไง อีกอย่าง คนที่ดูแลบ้านในอดีตก็ไม่ใช่ข้า ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงต่างๆ มักจะเป็นซีซีจัดการให้ ข้าเห็นนางจัดเรียงตามรายชื่อแขกด้วย และไม่เคยเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ใครจะรู้ว่าจะมีคนมามากมายโผล่มาเช่นนี้""อย่าพูดถึงนาง!" จ้านเป่ยว่างกำลังรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 42

    เขาเงียบไปสักพัก แล้วหันกลับมาสั่งคนเข้าไปทำความสะอาดนี่คือผู้หญิงที่เขาสู่ขอมาด้วยผลงาน งานแต่งงานในคืนนี้ดูไม่เหมาะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นความผิดของใครก็ตาม ก็นางข้องใจจริงๆเขาอดทนไว้เขาไม่อาจปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย เพราะเขายังต้องเห็นซ่งซีซีเสียใจอีกเฮอะ ถ้าซ่งซีซีรู้ว่างานแต่งงานของเขากับยี่ฝางล้มไม่เป็นท่าเช่นนี้ นางคงจะหัวเราะเยาะกระมังณ จวนเสนาบดีเจิ้นกั๋วกง คืนนี้ซ่งซีซีเหงื่อออกมากหลังจากฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ นางเลยอาบน้ำร้อน และให้เป่าจูนำหม้อเหล้ามา นางจะดื่มคนเดียวเดือนที่ผ่านมา นางใช้ชีวิตเกือบแบบนี้ทุกวัน อ่านหนังสือตอนกลางวันและฝึกศิลปะการต่อสู้ตอนกลางคืน หลังจากแต่งงานเข้าจวนแม่ทัพได้หนึ่งปี นางก็ไม่ได้ฝึกฝนแม้แต่ท่าเดียว แม้ว่าไม่ถึงขั้นลืมท่าไป แต่ท่าบางท่าก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนนางต้องการฝึกฝนให้ดีกว่าเดิมนางไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของจ้านเป่ยว่างและยี่ฝาง แม่นมฮวงและแม่นมเหลียงควบคุมคนรับใช้อย่างเข้มงวดมาก เรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับจวนแม่ทัพไม่อนุญาตให้พูดคุยเลยแม้แต่น้อยหลังจากเมานิดหนึ่ง เป่าจูก็เปิดม่านแล้วรีบเข้าไปอย่างรวดเร็วโดยถือ

Pinakabagong kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1600

    แต่จะว่าไปแล้ว สตรีเช่นข้า ก็เป็นที่โปรดปรานของบุรุษไม่น้อยที่ภูเขาเหม่ยชาน มีบุรุษมากมายชื่นชอบข้า เด็กหนุ่มวัยกำลังขึ้นหนวดอ่อนส่งจดหมายรักให้ข้าเขินๆ อายๆ ส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่าข้าก็ไม่เคยเปิดดู ต่อหน้าพวกเขาก็ฉีกมันทิ้งเสียเลยในเมื่อยามนั้น ข้ายังไม่ได้เข้าใจตรรกะของคำปฏิญาณที่ตนตั้งไว้ดีนัก ในใจก็ยังมีคำว่า "ไม่แต่ง" ขวางอยู่เต็มอกข้าฉีกจดหมายรักต่อหน้าพวกเขา ข้ารู้ว่าตนโหดร้าย แต่ขอโทษเถิด ในเมื่อข้าคือสตรีที่ตั้งใจว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องรักใคร่ชั่วชีวิต ข้าย่อมต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้พวกเขามีแม้แต่นิดเดียวของความหวังร้องไห้เสียในตอนนี้ ยังดีกว่าติดบ่วงในวันหน้า จนเจ็บปวดปานฉีกหัวใจแม้พวกเขาจะบอกหน้าตาเศร้าว่าให้ข้าช่วยส่งจดหมายรักให้ซ่งซีซีก็ตาม ข้าก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยหึๆ ยังไม่ทันได้เป็นบุรุษเต็มตัว ก็รู้จักใช้เล่ห์กลยั่วยวนหญิงเสียแล้วที่ภูเขาเหม่ยชาน เพื่อนเล่นที่ดีที่สุดของข้าก็คือพวกซีซี หมั่นโถว เฉินเฉิน และกุ้นเอ๋อร์อ้อ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของเฉินเฉินก็มาเล่นกับพวกเราด้วย แต่น่าเสียดาย ต่อมาเขาก็ลงเขาไปผดุงคุณธรรมเสียแล้ว แต่เฉินเฉินบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1599

    ข้า...เสิ่นว่านจือคนดีคนเดิม ยังคงอยากจะบ่นอยู่ บ่นถึงบุรุษของข้าหวังเยว่จาง เจ้านี่ช่างสมกับเป็นบุตรของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหวังเสียจริงก่อนแต่งงานเราก็ตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ต่อแต่นี้ไปไม่ว่าข้าจะทำสิ่งใด เขาห้ามแทรกแซง ห้ามห้ามปราม และห้ามเข้าร่วมโดยเด็ดขาดผลสุดท้าย เพิ่งแต่งได้ปีเดียว เขาก็ฉีกสัญญาทิ้งหมดสิ้น จะทำด้วยทุกเรื่องตามข้าสิ่งที่ข้าทำนั้น เขาเกี่ยวข้องได้หรือ? ย่อมไม่ได้ สำนักว่านซงมีกฎเข้มงวด อีกทั้งยังมีอาจารย์อาผู้เหี้ยมโหดนั่งประจำอยู่ หากรู้ว่าข้าพาหวังเยว่จางไปตัดหัวคน เกรงว่าจะบดกระดูกข้าเป็นผุยผงไปแล้วแต่เขาว่า เดิมเขาก็เป็นคนในยุทธภพ คนในยุทธภพล้วนถือความสะใจเป็นใหญ่ ทั้งบุญคุณและความแค้น ไม่ว่าเป็นของผู้ใด ก็ล้วนต้องตอบแทนอีกทั้งเราทำอย่างลับๆ สถาบันว่านซงเหมินย่อมไม่รู้เรื่องแต่พี่ห้า ท่านเข้าสังกัดกรมกลาโหมไปแล้วนะ ท่านก็เป็นขุนนางแล้ว จะยังพูดเรื่องยุทธภพสะใจล้างแค้นอะไรอีกเล่า?สิ่งที่ข้าทำ แม้แต่ซ่งซีซีก็ยังไม่รู้ทั้งหมด หรือหากนางรู้ นางก็คงเลือกที่จะปิดหูปิดตาเสีย เพราะว่ามันขัดแย้งกับสถานะ เข้าใจหรือไม่?ข้า...เสิ่นว่านจือ ไม่ย่างกรายเข้าสู่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status