แชร์

บทที่ 313

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-29 10:58:50
ในวันที่ยี่สิบสองของเดือนจันทรคติที่สิบสอง เสิ่นชิงเหอจากไปแล้วจริงๆ

ซ่งซีซีจับแขนเสื้อของเขาแล้วเดินส่งเขาไปที่ประตู ลมหนาวพัดแรง สภาพอากาศมืดมน และดูเหมือนว่าหิมะจะตกอีกแล้ว

เฮ๊ะ ศิษย์พี่ก็จากไปแล้ว ขอแค่วันแต่งงานนั้นอย่ามีหิมะตกอีก เกี้ยวสามารถเดินทางสะดวกหน่อย ก็ไม่มีคำขออื่นใดอีกแล้ว

เสิ่นชิงเหอยิ้มและพูดว่า "ข้าสั่งเครื่องประดับให้เจ้าที่ร้านจิน เจ้าส่งคนไปรับเลย จ่ายเงินไปแล้ว ใบเสร็จอยู่ในมือของลุงฟู"

"งั้นเดี๋ยวหาเวลาให้ลุงฟูไปรับของ" ซ่งซีซีเฝ้าดูผู้ดูแลม้าพาม้าของเขาออกมา และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจขึ้นมา "จะรีบไปจริงๆ หรือ อยู่ต่ออีกสองวันไม่ได้หรือ?"

"ไม่ได้ เรื่องเร่งด่วน" เขาลูบหน้าผากของนาง "เราจะเจอกันใหม่เร็วๆ นี้... เจ้าจะกลับภูเขาเหม่ยชานไม่ใช่หรือ?"

"อืม" ซ่งซีซีได้แต่กำชับว่า "ถ้าอย่างนั้นก็เดินทางระวังด้วย"

"รู้แล้วน่า ไม่ต้องส่งเลย กลับไปเถอะ" เสิ่นชิงเหอหยิบแส้ ขึ้นม้า บังเหียนแล้วโบกมือให้นาง "กลับไปเถอะ"

ซ่งซีซีส่ายหัว "ข้าจะไปส่งท่าน"

เสิ่นชิงเหอก็ไม่พูดมากความ และรีบขี่ม้าออกไปโดยตรง

ซ่งซีซียืนอยู่ที่ประตูจวน มองดูศิษย์พี่ของตนเองจากไป ในใจของน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 314

    ซ่งซีซีไม่ได้พูดอย่างชัดเจนในวันนั้น สาเหตุหลักเป็นเพราะเห็นว่าคุณหนูสามดูค่อนข้างพอใจกับจ้านเป่ยว่างหากนางพูดโดยตรงว่า จ้านเป่ยว่างต้องการสินเดิมของนาง งั้นนางก็คงจะทำให้ปลุกเร้าความขุ่นเคืองและความสงสัยจากคุณหนูสามเท่านั้น โดยคิดว่านางจงใจใส่ร้ายอีกฝ่าย"แต่ลูกสาวที่โง่เขลาของข้าเอ๊ย เมื่อฮูหยินเสนาบดีมาถามนั้น นางก็ตอบตกลงโดยไม่คิดอะไรเลย และการแต่งงานครั้งนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เหตุผลในนี้ เกรงว่าคุณหนูคงรู้ดี"ซ่งซีซีพยักหน้า "พอจะรู้บ้าง"นอกเสียจากหวังเบียวได้มาดูแลกองทัพเป่ยหมิงแล้ว ดังนั้นจุดประสงค์ของฮ่องเต้ ก็คือให้จ้านเป่ยว่างแต่งงานกับคุณหนูจากตระกูลหวัง ทั้งสองครอบครัวเกี่ยวดองกัน และให้หวังเบียวเลื่อนตำแหน่งให้จ้านเป่ยว่างหากจวนป๋อผิงซีไม่เห็นด้วย งั้นกองทัพเป่ยหมิงมีความเป็นไปได้สูงที่ต้องเปลี่ยนแม่ทัพ ส่วนจวนป๋อผิงซีก็ตกอับไปเรื่อยๆ แล้วจะพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ได้อย่างไร"วันนั้น คุณหนูไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับจ้านเป่ยว่าง ชิงหลูคิดว่าเจ้าไม่ได้ทำลายชื่อเสียงของจ้านเป่ยว่าง และนางก็ไม่ได้แค้นใจเจ้า"ประโยคนี้พอฟังดูเหมือนไร้เหตุผล แต่ซ่งซีซีเข้าใจว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 315

    หลังจากออกจากโรงน้ำชาแล้ว ซ่งซีซีก็หัวเราะด้วยความโกรธจริงๆหวังชิงหลูคนนี้มีสมองแบบไหนกันเชียว? ถึงขนาดเชื่อสิ่งที่จ้านเส้าฮวนพูดนางรู้ดีว่าทำไมจ้านเส้าฮวนถึงใส่ร้ายป้ายสีนาง และเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงรับชมหิมะของสนมฮุ่ยไทเฟยในวันนั้น นางก็รู้เรื่องด้วยจ้านเส้าฮวนถูกใจเซี่ยหลูโม่ และต้องการเป็นชายารองของเซี่ยหลูโม่นางบอกเช่นนั้นกับหวังชิงหลู หากหวังชิงหลูมาสร้างปัญหาถึงที่ เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกเซี่ยหลูโม่ได้ยินเข้า งั้นเซี่ยหลูโม่ก็เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง แน่นอนว่าเขาจะเย็นชาต่อนาง หรือไม่ก็รังเกียจนางอย่างน้อย นางก็แน่ใจว่าจ้านเส้าฮวนต้องคิดเช่นนั้นนิสัยของหวังชิงหลู จะให้พูดเพราะหน่อยคือเป็นคนตรงไปตรงมา หากพูดไม่น่าฟังก็คือคนบ้าบิ่น ถูกชักจูงและยุยงได้ง่ายดูเหมือนว่าหากจวนแม่ทัพต้องการหานายหญิงที่สามารถครองอำนาจดูแลเรื่องต่างๆ ในจวนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งไปกว่านั้น ด้วยนิสัยของหวังชิงหลูและยี่ฝาง สามารถคาดเดาได้ว่าพวกนางจะต้องมีปัญหาอะไรในอนาคตในวันนั้น เนื่องจากนางไม่ต้องการมีความแค้นหรือความเข้าใจผิดใดๆ กับใคร นางจึงเลือกที่จะพบกัน และคำพูดส่วนมากนั้นก็พูดตร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 316

    ในจวนได้เริ่มจัดเตรียมงานเลี้ยงแล้ว เนื่องจากมีคนในจวนไม่เพียงพอ ซ่งไท่กงจึงให้สมาชิกกลุ่มของพวกเขามาช่วย อีกทั้งยังพาคนรับใช้ในบ้านมาด้วยที่ตระกูลใหญ่มีลูกหลานจัดงานเลี้ยงออกเรือน จะไม่ได้จัดงานเลี้ยงในงานแต่งงาน ล้วนจะจัดงานล่วงหน้าหนึ่งวันเพื่อเลี้ยงสมาชิกในครอบครัวมารับประทานอาหาร จากนั้นจะจัดงานเลี้ยงต่อเนื่องเป็นเวลาสามวันเพื่อให้ชาวบ้านชาวเมืองมาร่วมมงคลด้วยเนื่องจากเป็นการแต่งงานครั้งที่สอง ดังนั้นซ่งซีซีเลยไม่ได้เรียกยายนำโชคมาหวีผมให้ เมื่อถึงเวลานั้นค่อยให้ช่างแต่งหน้าที่ร้านแต่งหน้ามาหวีให้นางก็ได้แล้วอาจเป็นเพราะอาจารย์และคนอื่นๆ ไม่ได้มา ซ่งซีซีจึงไม่ได้ใส่ใจกับพิธีก่อนออกเรือนอย่างมากนักหาใช่ว่านางไม่ให้ความสำคัญที่จะแต่งงานกับเซี่ยหลูโม่ หลังจากแต่งงานแล้ว นางย่อมปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเองในฐานะภรรยาคนนึง เรื่องที่นางต้องรับผิดชอบนางจะทำหมด เรื่องฝ่ายในจวนจะไม่หันเหความสนใจของเซี่ยหลูโม่แน่เพียงแต่ว่า ไม่ว่าสามีที่นางกำลังจะแต่งงานด้วยจะดีแค่ไหน พอไม่มีคนฝ่ายท่านพ่อแม่ของตนเองอยู่ข้างกาย นางก็ไม่อาจจะดีใจได้ แน่นอนว่า ไม่ได้ไม่อยากจากบ้านไป ไม่ได้แสบจมูกจนอยากร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 317

    ซ่งซีซีไปโรงละครกับท่านป้า ท่านลุงของนางและกลุ่มพี่น้องของตนเอง รุ่ยเอ๋อร์ก็อยากไปเช่นกัน เมื่อเขาเป็นขอทาน เขาก็เคยแอบไปที่โรงละครเพื่อขอทาน ในขณะที่เขาดูอย่างสนุกสนามนั้นก็โดนผู้คนรู้เข้า แล้วถูกซัดคน จากนั้นถูกโยนออกไปคราวนี้ เขาก็สามารถนั่งบนเก้าอี้อย่างตรงๆ เพื่อรับชม โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกไล่ วันที่ยากลำบากในอดีตทำให้เขาหวงแหนทุกสิ่งที่เขามีในตอนนี้เสียงฆ้องและกลองของการแสดงดังขึ้น ทำให้บรรยากาศเกิดความตื่นเต้น ซ่งซีซีรู้สึกได้ถึงความสุขในงานแต่งงาน และอารมณ์ของนางก็ดีขึ้นไปด้วยถึงยังไง ชีวิตก็ต้องก้าวไปข้างหน้า ไม่ว่ายังไง อย่างน้อยก็มีรุ่ยเอ๋อร์อยู่เคียงข้างนางซ่งซีซีดูรายการการแสดง แต่เนื่องจากนางไม่ชอบชมการแสดงมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร นางจึงมอบให้ภรรยาของซ่งซื่ออันมาสั่ง พวกนางชอบรับชมการแสดง และรู้ว่าการแสดงใดที่จะเหมาะสำหรับงานแต่งงานนางซ่งสั่งการแสดงชื่อ กิ่งทองใบหยก การแสดงนี้จะน่าชมหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็เหมาะกับโอกาสนี้มากพระเอกเป็นแม่ทัพที่หลงรักลูกสาวข้าราชการ คำสั่งของพ่อแม่ การคลุมถุงชนนี้ ทั้งสองก็มีใจให้กัน สุดท้ายพวกเขาก็แต่งงานก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 318

    อาจารย์หยูไร้สีหน้า และสั่งกับทหารองครักษ์ว่า "มานี่ ส่งท่านอ๋องกลับไปต้อนรับแขก เขาจะไม่ออกไปข้างนอกจนกว่าจะถึงเย็นวันพรุ่งนี้ไปรับจ้าวสาว ถ้าท่านอ๋องออกไปก่อนเวลานั้น ทหารทุกคนจะโดนหักเงินเดือนเป็นเวลาสามเดือน"พออาจารย์หยูพูดแบบนั้น เหล่าทหารต่างจ้องมองที่เซี่ยหลูโม่ บังคับให้เขาถอยกลับไปทีละก้าว ถอยเลย ถอยเซี่ยหลูโม่กลอกตามองบน "พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกัน ข้าแค่ดื่มกับแขกเยอะไปหน่อย อยากออกไปสูดอากาศสดชื่นเพื่อส่างสุรา"อาจารย์หยูออกคำสั่งอีกครั้ง "ใครก็ได้ ไปนำแกงแก้เมาให้ท่านอ๋องหนึ่งถัง"หนึ่งถัง... เซี่ยหลูโม่จ้องมองเขาด้วยความโกรธ แต่อาจารย์หยูเป็นคนเด็ดขาด แม้ว่าดวงตาของเขาจะมองจนฆ่าคนได้ มันก็ไร้ผลต่ออาจารย์หยูหัวหน้าลู่ ซึ่งมีงานยุ่งมาก วิ่งเหยาะๆ เข้ามา ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นเช่นนี้ยังเหงื่อออก เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วบ่นว่า "เฮ๊ะ ท่านเอ๊ย ท่านช่วยให้คนอื่นไม่ต้องมาห่วงใยสักทีได้ไหม พรุ่งนี้จะแต่งงานอยู่แล้ว แล้วยังวิ่งไปหาฝ่ายหญิงในวันนี้ มันได้ที่ไหนกัน หากถูกแพร่ออกไปเดี๋ยวโดนคนหัวเราะได้นะ""เอาล่ะๆๆ หยุดพูดมากได้แล้ว" เซี่ยหลูโม่สะบัดมือด้วยความโกรธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 319

    เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ สนมฮุ่ยไทเฟยก็รู้สึกในใจซับซ้อนมากก่อนที่เขาจะไปออกศึก ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องหาคู่ครองให้ เขามักปฏิเสธ ความมุ่งมั่นที่แสดงออกมาในจดหมายทำให้นางคิดว่าลูกชายคนนี้กำลังวางแผนที่จะเป็นโสดไปตลอดชีวิตแต่พอเขากลับมาอย่างมีชัย กลับบอกว่าจะแต่งงานกับซ่งซีซีแม้ว่านางจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานครังที่สอง แต่อย่างน้อยให้เขายอมแต่งงาน อีกอย่างได้สืบสวนมาแล้ว จ้านเป่ยว่างไม่เคยแตะต้องนางมาก่อน นางยังบริสุทธิ์ ก็พอจะรับได้กระมังสนมฮุ่ยไทเฟยพาแม่นมเกาเข้าไปที่เรือนหอทางฝั่งตะวันออก มีป้ายสีแดงแสดงมงคลติดไว้ทุกที่ เครื่องเรือนใหม่ก็ปูด้วยผ้าไหมสีแดงและผูกรูปแบบหู่กระต่ายสินค้าที่ซื้อใหม่เกือบทั้งหมดจะผูกเป็นหู่กระต่ายแม้แต่ที่บังตาขนาดใหญ่ก็ดูเหมือนผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมไหล่ มันถูกพันเป็นวงกลมและผูกหู่กระต่ายใหญ่ตรงกลางสนมฮุ่ยไทเฟยพึมพำอยู่ในใจ มีหู่กระต่ายไปทุกที่ ตกลงนางให้กำเนิดลูกชายหรือลูกสาวกันแน่? ทำไมการตกแต่งดูเป็นเจ้าหญิงไปหมด?เมื่อเข้าไปข้างในเรื่อนหอ ทุกอย่างเป็นสีแดงและเหลืองหมด ผ้าห่มใหม่ๆ จะถูกพับลงทีละผืนบนเตียง ผ้าม่านข้างเตียงสีชมพูลงไปถึงบนพื้น เจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 320

    สนมฮุ่ยไทเฟยคิดดูแล้วก็เห็นด้วย แม้ว่าเขาจะอยู่ในสนามรบในเวลานั้น แต่อยากจะห้ามการแต่งงานนั้นคงไม่ใช่ยากกระมังเพียงแต่นางลืมไปว่าการเดินทางนั้นอยู่อีกไกล และแม้ว่าซ่งซีซีจะแต่งงานมีลูก เขาก็อาจจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ได้นางยิ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสนามรบเต็มไปด้วยอันตราย เขากระตือรือร้นที่จะเอาชนะ และคิดว่าซ่งฮูหยินสัญญากับเขาไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่อยากจะชนะศึกและกลับไปเมืองหลวงโดยเร็วที่สุดสนมฮุ่ยไทเฟยไม่รู้เรื่องพวกนี้ นางแค่รู้สึกว่าการมีลูกสะใภ้เช่นนี้เป็นที่ติในชีวิตที่สมบูรณ์แบบของนางดังนั้นอารมณ์ของนางจึงขัดแย้งกันเป็นพิเศษ นางดีใจที่ลูกชายจะแต่งงาน แต่ก็ไม่พอใจที่เขาแต่งงานกับซ่งซีซี ด้วยในเวลาเดียวกัน จวนแม่ทัพและจวนป๋อผิงซีก็กำลังเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญในวันพรุ่งนี้เช่นกันจ้านเป่ยว่างแต่งงานเป็นครั้งที่สามแล้ว แต่อารมณ์ที่เขาจะแต่งงานกับหวังชิงหลูมันแตกต่างจากสองครั้งก่อนหน้านี้เมื่อเขาแต่งงานกับซ่งซีซี เขาเต็มไปด้วยความสุข เขารู้สึกว่าคนที่สมบูรณ์แบบอย่างนางจะเป็นภรรยาของเขาได้ ซึ่งเป็นความโชคดีของเขาในสามชั่วอายุคน ดังนั้นในวันแต่งงานแม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 321

    ยี่ฝางดูเหมือนพอจะเดาได้ แต่ก็ไม่อยากยอมรับ และไม่ยอม "ที่ตอนนั้นเจ้าบอกว่ารักข้า แค่เป็นหัวร้อนขึ้นมาในชั่วขณะหรือไม่?"จ้านเป่ยว่างยังคงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เขาไม่รู้เป็นเรื่องจริงที่เขามีใจให้ยี่ฝางในเวลานั้น แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นแค่หุนหันพลันแล่นในชั่วขณะนึงหรือไม่เพราะหลังจากแต่งงานกับนาง ที่ซ่งซีซีจากไป เขาแอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อยในใจ เขาจำได้ว่าตอนนั้นเขาบอกกับซ่งซื่ออันว่า หวังว่านาง ซ่งซีซีจะไม่เสียใจ แต่จริงๆ แล้ว เขารู้ดีว่าเขาเสียใจในขณะนั้นแต่ตอนนั้นเขาไม่ได้รักยี่ฝางเหรอ? รักแน่นอนเพียงแต่ว่าผู้ชายคนหนึ่งจะรับผู้หญิงสองคนในใจไม่ได้เหรอ?มีผู้ชายตั้งมากมายที่มีภรรยาและอนุภรรยาหลายคน ซ่งซีซีทนไม่ไหว บางที่นางอาจจะโกรธที่เขาผิดสัญญา อย่างไรก็ตาม ซ่งฮูหยินก็ตายไปแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่รักษาสัญญา แต่เขาก็ไม่ต้องการให้คำอธิบายกับตระกูลซ่งบางที ในเวลานั้น เขารู้สึกว่าเขาได้ควบคุมซ่งซีซีไว้แล้วเธอเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีครอบครัวให้พึ่งพา และไม่รู้ว่าทักษะการต่อสู้ของนางทรงพลังมาก มันเก่งกว่าเขาและยี่ฝางเสียอีกยิ่งยากที่จะจินตนาว่านางจะออกศึกตามลำพัง และสร้าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1344

    แม้ว่าจะไม่ถูกต้องตามระเบียบ แต่ก่อนที่นางจีจะกลับไป ซ่งซีซีก็สั่งให้คนไปซื้อโจ๊กเนื้อบดสองหม้อ โดยอ้างว่าเป็นของชาวบ้านที่ต้องการขอบคุณฮูหยินจีสำหรับการแจกจ่ายโจ๊กตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้ต้องการตอบแทนบุญคุณครั้งนี้นางจีร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจ นางหวังว่าลูกๆ จะได้ดื่มโจ๊กอุ่นๆ สักคำ แม้เพียงนิดเดียวหลังออกจากหอต้าหลี่ ซ่งซีซีครุ่นคิดแล้วสั่งให้อาจารย์หยูไปเล่าถึงเรื่องที่ชาวบ้านบริจาคโจ๊กให้เป็นที่แพร่หลายเดิมทีผู้คนยังจดจำความมีน้ำใจของนางจีที่แจกจ่ายโจ๊กได้ แต่ช่วงนี้เรื่องราวนั้นเริ่มเงียบหายไปตอนนี้จึงเหมาะที่จะใช้โอกาสนี้จุดกระแสเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งอาจารย์หยูจึงแต่งเรื่องเล็กน้อย โดยเล่าว่าชาวบ้านที่มอบโจ๊กเดิมทีเป็นคนเร่ร่อนชานเมืองหลวงที่อดอยากจนเกือบตาย ดื่มโจ๊กที่โรงทานหลายวันติดต่อกัน และก่อนออกจากเมืองหลวง โรงทานยังมอบเสบียงให้เขาห่อหนึ่งแม้ปัจจุบันชีวิตของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นนัก แต่เมื่อได้ยินว่าผู้มีพระคุณของเขาประสบเคราะห์ เขาจึงรีบเดินทางมาที่เมืองหลวงและซื้อโจ๊กอุ่นๆ สองหม้อมาส่งที่เรือนจำ พร้อมร้องขอให้นำไปให้ผู้มีพระคุณเซี่ยหรูหลิงซึ่งดูแลเรือนจำ เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1343

    นางถามว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูมีอันตรายถึงชีวิตหรือไม่?”หงเชวี่ยตอบว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าอาการยังพอรับได้ แต่ถ้าหวังชิงหลูไข้สูงไม่ลด ก็อาจเป็นอันตรายได้ นางเครียดเกินไป ตอนที่พบนาง นางจับมือข้าไว้แน่น ถามว่าตัวเองจะตายหรือไม่ พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อ เดี๋ยวโทษคนนั้น เดี๋ยวโทษคนนี้ บางครั้งก็โทษตัวเองที่ตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง”ซ่งซีซีไม่ได้พูดอะไร นางไม่มีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของผู้อื่น เพียงแต่หวังว่านางจะไม่ทำให้ฮูหยินจีลำบากไปกว่านี้หากหวังชิงหลูเสียชีวิตในเรือนจำ จะสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในตระกูลหวัง ซึ่งจะเพิ่มภาระทางจิตใจให้กับฮูหยินจีอย่างแน่นอน“หงเชวี่ย อีกสองวันเจ้าไปดูพวกเขาอีกทีนะ”หงเชวี่ยพยักหน้า “เจ้าค่ะ”ซ่งซีซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อีกสองวันเจ้าไป ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”นางอยากพูดคุยกับฮูหยินจีตามลำพัง เพราะในที่สิ้นหวังเช่นเรือนจำนั้น หากไม่มีแม้แต่คนพูดคุย มีเพียงเสียงร้องไห้ที่ไม่สิ้นสุด วันเวลาก็จะยืดยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุดอย่างไรก็ตาม ตอนนี้นางมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ เนื่องจากฝ่าบาททรงพระประชวรและงดราชกิจ นางจึงต้องไปพบเสนาบดีมู่เพื่อแจ้งเรื่องจินชางหมิงเปล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1342

    เนื่องจากฝ่าบาททรงส่งชีกุ้ยไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก งานดูแลเรือนจำจึงถูกมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ดูแล และผู้ที่รับหน้าที่นี้คือเซี่ยหรูหลิงไม่นานนัก เซี่ยหรูหลิงก็เดินทางมาที่จวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อพบซ่งซีซี บอกว่ามีเรื่องที่เขาตัดสินใจไม่ได้ และขอให้ซ่งซีซีช่วยแนะนำซ่งซีซีรีบกินข้าวเพียงสองสามคำแล้วออกมาพบเขา เพราะกังวลว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮูหยินจีและเด็กๆแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เซี่ยหรูหลิงกล่าว นางก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูทั้งสองคนหลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็วิตกกังวลทุกวัน อีกทั้งอาหารยังแย่ยิ่งกว่าอาหารที่เคยให้สุนัขกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีเคยให้ยากับฮูหยินจี ซึ่งรวมถึงยาสำหรับอาการท้องเสียและปวดท้องเพราะไม่ชินสภาพแวดล้อม ยาทำให้อาการดีขึ้น แต่เพราะต้องกินอาหารแบบนั้นต่อไป อาการจึงกลับมาแย่ลงอีก และหวังชิงหลูก็มีไข้สูงฮูหยินผู้เฒ่าร้องขออย่างน่าสงสารให้ช่วยหาหมอ เซี่ยหรูหลิงไม่กล้าตัดสินใจ จึงออกมาขอคำปรึกษาจากซ่งซีซีซ่งซีซีถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ? มีอาการเหมือนกันหรือไม่?”“เดิมที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1341

    แต่ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในวัง กลับไม่ได้พบฝ่าบาท อู๋ต้าปั้นออกมาแจ้งข่าวว่า วันนี้ฝ่าบาทไอจนมีเลือดปนและเกือบหมดสติ ตอนนี้หมอหลวงกำลังรักษาซ่งซีซีรีบถาม “เป็นเพราะพระวรกายอ่อนแอ หรือถูกลอบวางยาพิษ?”คำถามนี้ชัดเจนว่าแฝงด้วยความระแวง หากเป็นสถานการณ์ปกติหรือคนอื่น ซ่งซีซีคงไม่กล้าถามแต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป อีกทั้งคนที่นางเผชิญหน้าอยู่คืออู๋ต้าปั้น นางจึงถามอู๋ต้าปั้นถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “หมอหลวงวินิจฉัยว่าไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่เพราะฝ่าบาททรงวิตกกังวลอย่างหนัก พักผ่อนน้อยและเบื่ออาหาร อีกทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ทรงติดเชื้อและไอมาแล้วหลายวัน แม้จะดื่มยามาหลายวันแต่ไม่ได้ผล วันนี้ไอไม่หยุดจนกระทั่งมีเลือดปนและแทบหายใจไม่ออก”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่การวางยาพิษ ซ่งซีซีก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย หากเป็นการวางยาพิษ ก็หมายความว่ามีคนแฝงตัวเข้ามาในวังแล้ว ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้นการไอเป็นเลือดอาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ได้ ซ่งซีซีจึงยังไม่จากไป แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอหมอหลวงออกมาแจ้งสถานการณ์นอกจากซ่งซีซีแล้ว ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่รอเพื่อกราบทูลเรื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

DMCA.com Protection Status