Share

บทที่ 319

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ สนมฮุ่ยไทเฟยก็รู้สึกในใจซับซ้อนมาก

ก่อนที่เขาจะไปออกศึก ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องหาคู่ครองให้ เขามักปฏิเสธ ความมุ่งมั่นที่แสดงออกมาในจดหมายทำให้นางคิดว่าลูกชายคนนี้กำลังวางแผนที่จะเป็นโสดไปตลอดชีวิต

แต่พอเขากลับมาอย่างมีชัย กลับบอกว่าจะแต่งงานกับซ่งซีซี

แม้ว่านางจะเป็นผู้หญิงที่แต่งงานครังที่สอง แต่อย่างน้อยให้เขายอมแต่งงาน อีกอย่างได้สืบสวนมาแล้ว จ้านเป่ยว่างไม่เคยแตะต้องนางมาก่อน นางยังบริสุทธิ์ ก็พอจะรับได้กระมัง

สนมฮุ่ยไทเฟยพาแม่นมเกาเข้าไปที่เรือนหอทางฝั่งตะวันออก มีป้ายสีแดงแสดงมงคลติดไว้ทุกที่ เครื่องเรือนใหม่ก็ปูด้วยผ้าไหมสีแดงและผูกรูปแบบหู่กระต่าย

สินค้าที่ซื้อใหม่เกือบทั้งหมดจะผูกเป็นหู่กระต่าย

แม้แต่ที่บังตาขนาดใหญ่ก็ดูเหมือนผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมไหล่ มันถูกพันเป็นวงกลมและผูกหู่กระต่ายใหญ่ตรงกลาง

สนมฮุ่ยไทเฟยพึมพำอยู่ในใจ มีหู่กระต่ายไปทุกที่ ตกลงนางให้กำเนิดลูกชายหรือลูกสาวกันแน่? ทำไมการตกแต่งดูเป็นเจ้าหญิงไปหมด?

เมื่อเข้าไปข้างในเรื่อนหอ ทุกอย่างเป็นสีแดงและเหลืองหมด ผ้าห่มใหม่ๆ จะถูกพับลงทีละผืนบนเตียง ผ้าม่านข้างเตียงสีชมพูลงไปถึงบนพื้น เจ้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 320

    สนมฮุ่ยไทเฟยคิดดูแล้วก็เห็นด้วย แม้ว่าเขาจะอยู่ในสนามรบในเวลานั้น แต่อยากจะห้ามการแต่งงานนั้นคงไม่ใช่ยากกระมังเพียงแต่นางลืมไปว่าการเดินทางนั้นอยู่อีกไกล และแม้ว่าซ่งซีซีจะแต่งงานมีลูก เขาก็อาจจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ได้นางยิ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสนามรบเต็มไปด้วยอันตราย เขากระตือรือร้นที่จะเอาชนะ และคิดว่าซ่งฮูหยินสัญญากับเขาไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่อยากจะชนะศึกและกลับไปเมืองหลวงโดยเร็วที่สุดสนมฮุ่ยไทเฟยไม่รู้เรื่องพวกนี้ นางแค่รู้สึกว่าการมีลูกสะใภ้เช่นนี้เป็นที่ติในชีวิตที่สมบูรณ์แบบของนางดังนั้นอารมณ์ของนางจึงขัดแย้งกันเป็นพิเศษ นางดีใจที่ลูกชายจะแต่งงาน แต่ก็ไม่พอใจที่เขาแต่งงานกับซ่งซีซี ด้วยในเวลาเดียวกัน จวนแม่ทัพและจวนป๋อผิงซีก็กำลังเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญในวันพรุ่งนี้เช่นกันจ้านเป่ยว่างแต่งงานเป็นครั้งที่สามแล้ว แต่อารมณ์ที่เขาจะแต่งงานกับหวังชิงหลูมันแตกต่างจากสองครั้งก่อนหน้านี้เมื่อเขาแต่งงานกับซ่งซีซี เขาเต็มไปด้วยความสุข เขารู้สึกว่าคนที่สมบูรณ์แบบอย่างนางจะเป็นภรรยาของเขาได้ ซึ่งเป็นความโชคดีของเขาในสามชั่วอายุคน ดังนั้นในวันแต่งงานแม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 321

    ยี่ฝางดูเหมือนพอจะเดาได้ แต่ก็ไม่อยากยอมรับ และไม่ยอม "ที่ตอนนั้นเจ้าบอกว่ารักข้า แค่เป็นหัวร้อนขึ้นมาในชั่วขณะหรือไม่?"จ้านเป่ยว่างยังคงไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เขาไม่รู้เป็นเรื่องจริงที่เขามีใจให้ยี่ฝางในเวลานั้น แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นแค่หุนหันพลันแล่นในชั่วขณะนึงหรือไม่เพราะหลังจากแต่งงานกับนาง ที่ซ่งซีซีจากไป เขาแอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อยในใจ เขาจำได้ว่าตอนนั้นเขาบอกกับซ่งซื่ออันว่า หวังว่านาง ซ่งซีซีจะไม่เสียใจ แต่จริงๆ แล้ว เขารู้ดีว่าเขาเสียใจในขณะนั้นแต่ตอนนั้นเขาไม่ได้รักยี่ฝางเหรอ? รักแน่นอนเพียงแต่ว่าผู้ชายคนหนึ่งจะรับผู้หญิงสองคนในใจไม่ได้เหรอ?มีผู้ชายตั้งมากมายที่มีภรรยาและอนุภรรยาหลายคน ซ่งซีซีทนไม่ไหว บางที่นางอาจจะโกรธที่เขาผิดสัญญา อย่างไรก็ตาม ซ่งฮูหยินก็ตายไปแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่รักษาสัญญา แต่เขาก็ไม่ต้องการให้คำอธิบายกับตระกูลซ่งบางที ในเวลานั้น เขารู้สึกว่าเขาได้ควบคุมซ่งซีซีไว้แล้วเธอเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีครอบครัวให้พึ่งพา และไม่รู้ว่าทักษะการต่อสู้ของนางทรงพลังมาก มันเก่งกว่าเขาและยี่ฝางเสียอีกยิ่งยากที่จะจินตนาว่านางจะออกศึกตามลำพัง และสร้าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 322

    จวนป๋อผิงซีก็เอิกเกริกมากเช่นกัน เนื่องจากหวังเบียวรับผิดชอบ ดูแลกองทัพเป่ยหมิง ตอนนี้ จวนป๋อผิงซีจึงครึกครื้นอย่างมาก วันพรุ่งนี้ถึงเป็นวันแต่งงาน แต่วันนี้พวกเขาก็มีงานเลี้ยงแล้วเมื่อหวังชิงหลูรับจดหมายหย่าจากตระกูลฝาง ฝ่ายตระกูลฝางคิดว่ารู้สึกผิดต่อลูกสะใภ้คนนี้ นอกเหนือจากการคืนสินเดิมให้แล้ว พวกเขายังให้เงินจำนวนมากแก่นางเพื่อเป็นเงินชดเชย รวมถึงเงินบำนาญทั้งหมดสำหรับการเสียชีวิจของแม่ทัพฝาง ทั้งยังซื้อที่ดินให้นางอีกด้วยตระกูลฝางเป็นครอบครัวทหาร โดยคิดว่าไม่สามารถให้นางใช้ชีวิตอย่างเสียเวลาเปล่าๆ ในเวลานั้น หวังชิงหลูได้บอกว่านางจะไม่แต่งงานใหม่ ดังนั้นตระกูลฝางจึงกังวลว่านางอยู่ครอบครัวพ่อแม่ของตนเอง หากไม่มีเงินทองหรือที่ดินคอยพกตัว ชีวิตนี้ก็คงอยู่ยากดังนั้น จึงให้ไปไม่น้อยเลยชุดแต่งงานจากร้านเฟิงเหลียนควรจะจองล่วงหน้าครึ่งปี แต่นางให้เงินเพิ่ม และบอกว่าจะสวมชุดแต่งงานจากร้านเฟิงเหลียนให้ได้สินเดิมของนางถูกเปลี่ยนให้เป็นกล่องใหม่ และมีการซื้อเพิ่มอีกจำนวนมาก รวมเป็นจำนวนหกสิบแปดกล่องนางได้สอบถามมาแล้ว ว่าสินเดิมที่ซ่งซีซีจะแต่งเข้าจวนอ๋องนั้นก็มีแค่หกสิบสี่กล่อง นา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 323

    ในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนจันทรคติที่สิบสอง หิมะตกในตอนเช้า ฟ้ามืดมาก และลมก็หนาวราวกับมีดแม่นมเหลียงมองดูท้องฟ้าแล้วอธิษฐาน "วันนี้คุณหนูของเรากำลังจะออกเรือน พระเจ้าให้ตระกูลซ่งและคุณหนูของเราเจอกับสิ่งเลวร้ายมามากพอแล้ว วันนี้ขอให้เป็นวันที่แดดจ้าได้ไหม ข้าน้อยจะจุดธูปและบูชาท่านทุกวัน"ซ่งซีซีถูกเรียกให้ตื่นแต่เช้า มารับเมื่อเช้านี้ ช่างแต่งหน้าจากร้านมาแล้ว จะทำความสะอาดผิดและบำรุงผิวให้นางก่อน บอกว่าทำเช่นนี้แล้วถึงแต่งหน้าได้สวยขึ้นไม่รู้ว่าพวกนางผสมของเหลวชนิดใดที่มันเหนียวๆ จากนั้นก็ทาบนใบหน้าของนาง และให้นางนอนนิ่งๆโดยไม่ให้พูดอะไรเมื่อคืน นางมีอารมณ์ซับซ้อนมาก และนอนไม่หลับทั้งคืน ตอนนี้เมื่อถูกบังคับให้นอนอยู่เก้าอี้แบบนอนได้ หลับตาไม่ให้ส่งเสียง นางถึงขนาผล็อยหลับไปจนกระทั่งเมื่อคืนนี้ นางก็สิ้นหวังแล้วจริงๆ พวกอาจารย์ไม่มา และพวกเสิ่นว่านจือก็ไม่มาด้วยแม้ว่ารู้ว่ามันเกิดจากความผิดของตนเอง แต่นางก็ยังรู้สึกเสียใจมากหลังจากงีบหลับได้สักพัก นางเจ็ดแห่งร้านเหมี่ยวอี้ก็ล้างสิ่งของที่เหนียวๆ ออกไปให้นาง นางไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งนั้น แต่นางตื่นขึ้นแล้ว นางก็ปล่อยให้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 324

    หลังจากนั้นไม่นาน รุ่ยเอ๋อร์ก็มาพร้อมกับเสื้อผ้าใหม่เขาสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และชุดสั่งทำพิเศษนี้พอดีตัวกับเขามาก มันทำจากผ้าสีแดงปักรูปกระต่าย ด้านนอกเสื้อมีเสื้อคลุมตัวเล็กที่ทำจากหนัง ยังมีหมวกที่ข้านอกสีดำและด้านในเป็นสีแดง พอแขวนไว้ที่หลังเหมือนนักสู้เลย ได้มัดผมไว้ และยังผูกด้ายสีแดง ซึ่งทั้งน่ารักและรื่นเริง"ให้ท่านอาดูหน่อยสิ เด็กที่ไหนทำไมน่ารักอย่างนี้ล่ะ" ซ่งซีซีจับมือเขาแล้วมองเขาจากหัวจรดเท้า ใบหน้าที่เพิ่งถูกเส้นด้ายขจัดจนร้อนนั้นเผยรอยยิ้มออกมา "ที่แท้คือรุ่ยเอ๋อร์ของเรานี่น่ะ ท่านอาแทบจะจำไม่ได้แล้ว น่ารักจริงๆ"รุ่ยเอ๋อร์เขินอายเล็กน้อย "นี่เป็นคำกล่อมเด็กนะ ท่านอา ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว""ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ ในใจท่านอา หนูเป็นเด็กอยู่เสมอ" ซ่งซีซีกอดเขาและสัมผัสถึงความอบอุ่นจากคนในครอบครัวของตนเองนางเจ็ดยังยิ้มและกล่าวว่า "คุณชายรุ่ยเอ๋อร์หล่อมากทีเดียว เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะแข็งแกร่งและกล้าหาญมาก เขาจะเป็นลูกผู้ชายที่มีความสามารถแน่นอน"รุ่ยเอ๋อร์ชอบคนที่บอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชายมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงเอาลูกอมงานแต่งงานที่ตนเองซ่อนไว้ออกมาทันที และมอบให้กับนางเจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 325

    แม่นมเหลียงเชิญช่างแต่งหน้าจากร้านเหมี่ยวอี้ออกไปกินเลี้ยง งานเลี้ยงได้ถูกจัดไว้แล้ว และต้องทานอาหารล่วงหน้าเพราะเจ้าสาวจะออกเรือนหลังยามเซินหลังจากกินเลี้ยงเสร็จ ช่างแต่งหน้าของร้านเหมี่ยวอี้จะไม่รีบจากไป หนึ่งในนั้นจะตามพวกเขาไปที่จวนอ๋อง หลังจากดื่มสุราร่วมกันแล้ว เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะต้องออกไปดื่มอวยพลกับแขกทุกคน ดังนั้น คนหนึ่งจะต้องติดตามพวกเขาไปเพื่อเติมหน้า แขกในจวนอ๋องมีจำนวนมากเกินไป หากเดินไปรอบๆ เพื่อดื่มชาดื่มสุรา เดี๋ยวจะทำให้หน้าเลอะเทอะได้ใกล้จะถึงวันยามเซินแล้ว สินเดิมต้องถุกขนออกจากบ้านไปฆ้องและกลองดังลั่น และลูกหลานของตระกูลซ่งก็ออกไปขนสินเดิมด้วยตนเองสินเดิมหกสิบสี่กล่อง สิ่งของที่บรรจุอยู่ในนั้นล้วนเป็นของมีค่า หนึ่งกล่องในนั้นคือภาพวาดของเสิ่นชิงเหอ ซึ่งมีค่ามากจวนป๋อผิงซีและจวนเสนาบดีกั๋วกงอยู่ห่างกันเพียงสองถนน และพวกเขาก็ออกไปขนสินเดิมในยามเซินเช่นกันหวังชิงหลูยังสวมชุดแต่งงานของนาง และรอให้สินสอดออกไปก่อน เมื่อถึงยามโย จ้านเป่ยว่างก็จะนำขบวนมารับเจ้าสาวนางส่งคนออกไปดูว่าสินเดิมจากจวนเสนาบดีกั๋วกงได้ขนออกไปหรือยัง และนับดูว่าใช่หกสิบสี่กล่องหรือไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 326

    ด้านหลังสถาบันชื่อเยียน คือร้านขายยาเย่าหวัง ซึ่งอยู่ในเมืองหลวง โดยจะส่งวัสดุยาอันล้ำค่าต่างๆ เช่น โสมอายุร้อยปี บัวหิมะ เป็นต้นหลังจากที่ร้านขายยาเย่าหวังตะโกนเสร็จแล้ว ต่อมาคือนิกายตงไห่ ของที่ส่งก็ล้วนเป็นสมบัติหายากมาด้วย ซึ่งไข่มุกตงจูนั้นมีค่ามากที่สุด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเอาชนะสถาบันชื่อเยียนอย่างไรอย่างนั้น และมอบไข่มุกตงจูตั้งสามกล่อง ทับทิมต่างๆ ทั้งหมดรวมกันก็สามกล่องเต็มๆหวังชิงหลูยิ่งฟังยิ่งรู้สึกตัวสั่นเทาซ่งซีซีเองก็ตัวสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ นางแทบไม่ได้ยินรายการของ ได้ยินแต่ชื่อของนิกายเท่านั้นมีนิกายหลายนิกายที่นางไม่เคยสุงสิงกัน แล้วพวกเขาจะมาช่วยเติมเต็มสิงเดิมได้ยังไงล่ะ? ต้องเป็นเพราะท่านอาจารย์ได้แจ้งให้พวกเขาทราบแล้วในที่สุด หลังจากฟังอีกหกเจ็ดนิกายแล้ว ซ่งซีซีก็ได้ยินเสียงของศิษย์พี่ที่ห้า "บุตรสาวของผู้นำสถาบันว่านซงเหมินกำลังจะแต่งงาน ขอมอบสินเดิม 108 กล่อง ร้าน 10 แห่งใจกลางเมืองหลวง สวนสองแห่งที่เชิงภูเขาเหม่ยชาน ทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง"เสียงนี้ดังก้องไปตามถนนสายยาว และคาดว่าคนในแถวถนนสิบเส้นทางที่ใกล้เคียงคงจะได้ยินหมดบุตรสาวของผู้นำสถาบันว่านซงเหมินกำ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 327

    เนื่องจากสินเดิมได้ถูกส่งออกไปแล้ว อีกไม่ถึงครึ่งชั่วยาม นางก็ต้องออกเรือนแล้วเซี่ยหลูโม่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาจะมารับเจ้าสาวด้วยตนเอง ดังนั้นใบหน้าที่เลอะเทอะของนางนั้นก็ต้องรบกวนช่างแต่งหน้าจากร้านเหมี่ยวอี้ช่วยเติมหน้าให้อีกครั้งอย่างไรก็ตาม ซ่งซีซีไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้เลย นางทุบตีท่านอาจารย์ และจากนั้นก็ไปต่อยศิษย์พี่ใหญ่ นางไม่อาจลงมือกับศิษย์พี่สาวรองได้ เลยกอดนางแน่น "ศิษย์พี่สาวรอง ข้าคิดว่าพวกท่านจะไม่มาแล้ว ข้าเสียใจจะตายอยู่แล้ว ข้านึกว่าพวกท่านไม่ต้องการข้าแล้ว"ผิงหวูจูง ศิษย์พี่สาวรองปาดน้ำตาให้นางด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่ตนเองก็ตาแดงด้วย ศิษย์น้อง ศิษย์น้องของนางเอ๊ย เฮะ ต้องทนทุกข์มากขนาดนั้น ทนทรมานอีกด้วย นางอดทนรับมาหมดเลยผิงหวูจูงรู้สึกปวดหัวในใจ นางปาดน้ำตาแล้วพูดอ่อนโยนว่า "เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลยนะ วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดและสวยงามที่สุด เราจะร้องไห้ได้ยังไง"ผิงหวูจูงมีรูปร่างสูงและสวย เมื่อมองแวบแรกก็ดูเหมือนหญิงสาวจากตระกูลใหญ่ เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าวิชาตัวเบาของนางมันแข็งแกร่งมากแค่ไหน และการซ่อนตัวและปลอมตัวของนางเก่งขนาดไหนนางเป็นสายลับอัน

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1441

    ฉีฮองเฮายิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านแม่พูดอะไรเช่นนี้ เรื่องนี้จะไปเกี่ยวอะไรกับฮ่องเต้ได้? ฮ่องเต้มีงานราชกิจล้นมือ จะมายุ่งเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? ส่วนอวี้ฉื่อสวี่นั่น ข้าจะไปทำให้เขาตายได้อย่างไร?” อวี้ฉื่อสวี่ เป็นพ่อตาขององค์หญิงใหญ่หมินฉิง ฉีฮองเฮาเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะไปขัดแย้งกับตระกูลนี้ ฉีฮูหยินใหญ่ถอนหายใจ “เจ้านี่ช่างโง่เขลาเสียจริง เป่ยหมิงอ๋องกำลังออกรบ เจ้ากลับไปยุ่งเรื่องหา พระชายารองให้เขา ไหนจะเรื่องที่ฮ่องเต้เคยให้พระชายาเป่ยหมิงอ๋องอยู่ในห้องทรงพระอักษรคนเดียวหลายวัน แล้วเสด็จไปเยี่ยมกลางดึก เรื่องนั้นยังไม่ได้รับการชี้แจงให้กระจ่าง เจ้ายังจะสร้างเรื่องนี้เพิ่มขึ้นมาอีก จะไม่ให้คนเขาคิดมากได้อย่างไร?” “นั่นมันพวกเขาคิดมากไปเองทั้งนั้น เป็นการคาดเดาแบบไม่มีมูล” ฉีฮองเฮากล่าวด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ ฉีฮูหยินใหญ่เห็นสีหน้าที่ไม่ทุกข์ร้อนของนางก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความผิดหวัง “อย่าว่าแต่เรื่องร้อยเรียงที่ผู้คนเขาคาดเดากันเลย แค่ฮ่องเต้ขมวดคิ้วหรือพูดอะไรออกมา ขุนนางก็ยังตีความกันไปต่างๆ นานา เจ้าจะพูดว่าไม่เกี่ยว แต่แม้แต่ในวังหลัง ฮ่องเต้ทำสีหน้ากับเจ้า เจ้าจะไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1440

    เมื่อการคาดเดาเช่นนี้แพร่กระจายออกไป บรรดาขุนนางบางคนก็เริ่มยุยงให้เจ้ากรมฉีไปสอบถาม ฮองเฮาเพื่อขอคำชี้แจง ถ้าข่าวลือนี้เป็นความจริง จะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก!เป่ยหมิงอ๋อง กำลังออกรบที่หนานเจียงอย่างเต็มกำลัง แต่ถ้าข่าวลือว่าสตรีของเขาถูกคนอื่นเล็งไว้แพร่ไปถึงที่นั่น จะทำให้เสียขวัญและกำลังใจจนส่งผลกระทบต่อการรบได้! แม้แต่หลี่เต๋อฮวย เสนาบดีกรมทหาร ยังวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้จนต้องเข้าพบเจ้ากรมฉีด้วยตัวเองเพื่อชี้แจงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เขากล่าวว่า "เป่ยหมิงอ๋องกำลังเสี่ยงชีวิตอยู่ในสนามรบ ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ จะเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ไม่ได้!" จากนั้นเขายังเสริมว่า "ข้าได้ยินมาว่าอวี้ฉื่อสวี่มีแผนจะยื่นฎีกาคัดค้านในท้องพระโรงอย่างแข็งขัน" เจ้ากรมฉีตกใจจนหน้าซีด "เรื่องนี้ยังไม่มีการสอบสวนชัดเจน แล้วจะถึงขั้นยื่นฎีกาได้อย่างไร? อวี้ฉื่อสวี่จะไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นเช่นนั้นหรอก!" หลี่เต๋อฮวยตอบกลับ "เขาต้องการให้ฮ่องเต้ชี้แจงเรื่องนี้ หากปล่อยให้คนคาดเดาต่อไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วข่าวลือเหล่านี้จะไปถึงหนานเจียงและเมืองเฉิงหลิง แล้วคราวนี้ความวุ่นวายจะบังเกิด!" แม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1439

    หลานเจี่ยนกูกูลังเลไปครู่หนึ่ง กล่าวว่า “แต่หากปล่อยให้เรื่องนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของคุณหนูเจ็ดจะเสียหายไปด้วย และอาจกระทบถึงชื่อเสียงของบุตรสาวคนอื่นในจวนผิงหนานป๋อด้วยเพคะ” ฮองเฮามองด้วยสายตาเย็นชา “นางเป็นเพียงลูกสาวอนุ ใจสูงเกินตัว มองใครก็ไม่คู่ควร คงอยากแต่งงานสูงส่งเท่านั้น สตรีเช่นนี้ที่หวังเกินความสามารถ หากต้องพังพินาศก็เป็นเพราะตัวนางเอง และข้ายังได้ยินว่านางนิสัยดุร้าย ใครก็ไม่กลัว ถ้าหากนางกล้าไปก่อเรื่องกับซ่งซีซีให้เกิดความวุ่นวาย ข้าจะยิ่งดีใจ เพราะจะมีเรื่องให้นินทากันแทน เรื่องฮ่องเต้ก็จะถูกลืมไปเอง” หลานเจี่ยนกูกูเงียบไป ไม่กล้าพูดอะไร ฮองเฮาจึงโกรธขึ้นมา “ตอนนี้ข้าพูดอะไร เจ้ามีแต่จะคัดค้าน บอกว่าไม่เหมาะสม เจ้าก็ลองบอกข้าสิว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องนี้สงบลงได้ หรือเจ้าจะให้ฮ่องเต้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปตลอด?” หลานเจี่ยนกูกูอยากจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเกี่ยวโยงกันได้เลย แม้คุณหนูเจ็ดจะไปก่อเรื่องจริง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงเรื่องของหญิงสาวบ้านเล็กบ้านน้อย ไม่น่าจะกลบเรื่องของฮ่องเต้ได้ แต่เห็นฮองเฮาโกรธจัด นางจึงไม่กล้าพูดและจำต้องรับคำสั่งไป ช่วงนี้ใกล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1438

    ซ่งซีซีกำลังอยู่ในอารมณ์ขุ่นเคือง แต่เมื่อเสิ่นว่านจือพูดหยอกล้อเช่นนั้น นางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ปล่อยมือ ลงมาแช่ด้วยกันเถอะ” เสิ่นว่านจือหัวเราะพลางรับคำ “ข้าน้อยปฏิบัติตามคำสั่ง!” พูดจบก็จัดการถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ข้างบ่ออย่างรวดเร็ว แล้วลงไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อน ทั้งสองเล่นน้ำหยอกล้อกันสักพัก จากนั้นก็วางคางลงบนหมอนนุ่มริมบ่อ เสิ่นว่านจือพูดขึ้น “ฮองเฮาคนนั้น เหมือนคนโง่จริงๆ เจ้าจะไปสนใจนางทำไม? โกรธเพราะนางไม่คุ้มเสียหรอก” “นางเหมือนมีอะไรผิดปกติจริงๆ ไม่เหมือนคนที่ได้รับการอบรมมาจากตระกูลฉี” ซ่งซีซีหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวต่อ “เอาเถอะ ตระกูลฉีก็มีไม่น้อยที่ไม่เอาไหน” “ใช่หรือไม่ล่ะ? เจ้ากรมฉีเองยังเลี้ยงเมียน้อยไว้เลย ส่วนเรื่องของราชครูฉีก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีแต่ฮูหยินเสนาบดีที่ดูปกติหน่อย แต่น่าสงสารนัก” ซ่งซีซีประสานมือใต้คาง นางวางคางลงบนมือที่พับซ้อนกัน ดวงตาฉายแววหม่น “ใช่แล้ว… จือจือ เจ้ารู้ไหมว่าตอนข้าได้ยินสิ่งที่หลานเจี่ยนกูกูกล่าวมา ข้ารู้สึกอย่างไร?” “โกรธสิ” เสิ่นว่านจือตอบขณะวางคางลงบนมือเหมือนกัน “จะรู้สึกอะไรอีก?”“โกรธน่ะโกรธแน่” ซ่งซีซียกมื

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1437

    หลานเจี่ยนกูกูถูก ‘ส่ง’ ออกจากจวนอ๋องด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตรจากคนในจวน แม้กระทั่งตอนเดินออกไปยังถูกส่งสายตาเหยียดหยามจากทุกทิศทาง ระหว่างทางกลับวัง นางยังคงไม่แน่ใจว่าพระชายาอ๋องจะเข้าวังหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าพระชายาอ๋องไม่ได้ตอบรับและไม่ได้ปฏิเสธอย่างชัดเจน ฮองเฮาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาพระชายารองให้ท่านอ๋องจริงๆ สิ่งที่นางพูดไปเป็นเพียงการกดดันพระชายาอ๋อง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้พระชายาอ๋องลาออกจากตำแหน่ง ถึงแม้พระชายาอ๋องจะไม่ลาออก ฮองเฮาก็ไม่ได้คิดจะส่งพระชายารองหรือสนมใดๆ เข้าไปในจวนอ๋องจริงๆ แต่หลานเจี่ยนกูกูไม่คาดคิดว่าพระชายาอ๋องจะโกรธถึงเพียงนี้ ถึงขนาดไม่สนใจรักษามารยาทหรือเก็บอารมณ์ และไล่ตนออกมาทันที หากพระชายาอ๋องไม่เข้าวัง เรื่องเข้าใจผิดนี้ก็คงไม่อาจอธิบายได้อย่างชัดเจน แต่… หลานเจี่ยนกูกูถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมตั้งคำถามในใจว่านี่เป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิดจริงหรือ? ความจริงแล้ว นางเองก็คิดว่าการมีสตรีเป็นขุนนางในราชสำนักนั้นเป็นเรื่องดี หากพระชายาอ๋องต้องลาออก นางกลับรู้สึกเสียดายเสียด้วยซ้ำ คิดเช่นนี้แล้ว หลานเจี่ยนกูกูก็รู้สึกผิดที่ตัวเองดูเหมือน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1436

    ฉีฮองเฮากลับไปยังตำหนักฉางชุนด้วยสภาพเหมือนคนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ประโยคที่ฮ่องเต้ตรัสว่า ‘สละตำแหน่งฮองเฮา’ ยังคงดังก้องในหัวของนาง ทุกคำล้วนเหมือนสายฟ้าฟาดที่กระแทกใจนางอย่างหนัก ความคิดของนางชะงักงัน มือเท้าอ่อนล้าไปหมด "ฮองเฮาเพคะ ฝ่าบาทคงเพียงตรัสด้วยความโกรธ โปรดอย่าใส่พระทัยนักเลยเพคะ" หลานเจี่ยนกูกูเห็นว่านางหน้าซีดเซียวเหมือนคนไร้ชีวิต ก็พูดปลอบด้วยความเป็นห่วง ฉีฮองเฮารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก กดหน้าอกไว้ น้ำตาไหลพรากไม่หยุด "เพียงคำพูดด้วยความโกรธ แต่สามารถกล่าวถึงการปลดข้าจากตำแหน่งได้อย่างนั้นหรือ? ฝ่าบาทไม่เคยพูดคำใดด้วยความโกรธ นั่นแสดงว่าพระองค์ทรงตั้งใจจริง" "เป็นไปไม่ได้เพคะ ฝ่าบาทจะให้เสิ่นว่านจือ สตรีจากตระกูลพ่อค้า ขึ้นเป็นฮองเฮาได้อย่างไร?" หลานเจี่ยนกูกูที่อยู่ด้านนอกก็ได้ยินเสียงของฮ่องเต้เช่นกัน จึงกล่าวอย่างหนักแน่น ฉีฮองเฮาน้ำตาไหลเปื้อนทั่วใบหน้า "เจ้ามองไม่ออกหรือ? ไม่ใช่เสิ่นว่านจือหรอก แต่เป็นซ่งซีซีต่างหาก" หลานเจี่ยนกูกูอุทาน "นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ซ่งซีซีเป็นพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ฝ่าบาทต่อให้ทรงเลอะเลือนเพียงใด ก็ไม่มีวันยกตำแหน่งฮอง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1435

    ฮองเฮาตกพระทัย รีบก้มหน้าลง ดวงตาที่หม่นหมองฉายแววไม่พอใจ นางไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ผู้คนในวังหลังพูดถึงเรื่องนี้ ฮ่องเต้กลับปกป้องซ่งซีซีก่อน และความพิโรธของพระองค์นั้นมีเพื่อซ่งซีซีเพียงผู้เดียว หากเรื่องนี้มิได้เกิดจากความคิดที่ไม่เหมาะสมของซ่งซีซี ก็ย่อมเป็นฮ่องเต้ที่ทรงกระทำเอง พระองค์จึงรับความผิดทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว ฮองเฮารู้สึกสับสน เพราะฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของพระองค์เองเป็นที่สุด เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เหตุใดพระองค์จึงไม่ฉวยโอกาสผลักความผิดไปที่ซ่งซีซี เพื่อรักษาพระเกียรติของตน? เหตุใดจึงต้องปกป้องซ่งซีซีก่อน? หากพระองค์ตรัสแบบเดียวกันนี้ต่อเหล่าขุนนางในราชสำนัก ก็ย่อมจะถูกกล่าวหาว่าฮ่องเต้ทรงกระทำการอันเหลวไหล ความคิดหลากหลายประการถาโถมเข้าสู่จิตใจของฉีฮองเฮา นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องในอดีตที่ฮ่องเต้เคยตรัสว่าอยากให้ซ่งซีซีเข้าวัง หรือว่าฮ่องเต้จะมีใจให้ซ่งซีซีจริง? หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ถือว่าน่าหัวเราะสิ้นดี ตั้งแต่วันที่นางแต่งงานกับฮ่องเต้ นางก็รู้ว่า ผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันเป็นของนางเพียงผู้เดียว ความรักหรือความชื่นชอบล้วนไม่สำคั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1434

    ดังที่อาจารย์หยูวิตกไว้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยพยายามลอบถามจากเหล่าข้ารับใช้ในจวนเป่ยหมิงอ๋อง โชคดีที่ได้เตือนล่วงหน้าไว้แล้ว ข้ารับใช้เหล่านั้นจึงตอบกลับไปเพียงว่าไม่ทราบในทุกคำถาม แต่ยิ่งจวนเป่ยหมิงอ๋องปิดปากเงียบ ก็ยิ่งทำให้ผู้อื่นสงสัย เพราะเหตุการณ์นี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง การเสด็จออกจากวังของฮ่องเต้ มิใช่เรื่องเล่าที่สามารถเกิดขึ้นง่ายๆ ด้วยการนำคนเพียงไม่กี่คนออกไปตรวจเยี่ยมบ้านเมือง แม้จะเป็นงานมงคลในจวนของขุนนางชั้นสูง หากฮ่องเต้จะเสด็จด้วยพระองค์เอง ย่อมต้องมีพระราชโองการล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าของบ้านเตรียมการรับเสด็จ บางครั้งถึงขั้นต้องซ่อมแซมบ้าน ปูพรม หรือตกแต่งด้วยดอกไม้ เตรียมอาหารและข้าวของต่างๆ แต่การเสด็จไปยังจวนของขุนนางกลางดึก โดยมีเพียงเกี้ยวหนึ่งหลังและคนไม่กี่คน ย่อมเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เป่ยหมิงอ๋องเองก็อยู่ที่หนานเจียงในขณะนี้ แต่ปัญหาใหญ่คือ พระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ซึ่งในตอนนี้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการซ่ง กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่จวน และก่อนหน้านี้ ฮ่องเต้มักทรงเรียกให้นางไปยังห้องพระอักษรเพื่อร่วมปรึกษา ใครจะทราบว่าพวกเขาหารือกันจริงหรือไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1433

    ในห้องหนังสือ โคมไฟยังคงส่องสว่าง หลังจากฟังคำพูดของเสิ่นชิงเหอแล้ว ซ่งซีซีถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก "เช่นนี้ ข้าจะได้หายไวๆ เสียที ข้ารู้สึกอึดอัดแทบบ้าแล้ว" อาจารย์หยูกล่าว "คืนนี้ช่างน่าหวาดเสียวเสียจริง" เสิ่นชิงเหอมองซ่งซีซี พลางถอนหายใจเบาๆ "หากเขาเอาอย่างเยี่ยนอ๋องจริงๆ เกรงว่าศิษย์น้องคงต้องทำตามแบบเซี่ยถิงเหยียนแล้วกระมัง" "เขารู้จักชั่งน้ำหนักผลลัพธ์" อาจารย์หยูกล่าว ซ่งซีซีรู้สึกหงุดหงิด "ข้าว่าเขาช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก ตอนข้ายังเล็ก เขาสนิทสนมกับพี่ชายทั้งสองของข้าและมองข้าเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ต่อมาพอข้าเข้าราชสำนัก เขาก็ปฏิบัติต่อข้าในฐานะขุนนางโดยแท้ แล้วเหตุใดจู่ๆ เขาถึงมีความคิดเช่นนี้ขึ้นมาได้?" อาจารย์หยูกล่าว "มันใช่จะเกิดขึ้นกะทันหันหรือ? พระชายาอ๋องลืมหรือไม่ว่า ตอนที่กลับมาจากการกอบกู้หนานเจียง เขาเคยคิดจะให้ท่านเข้าไปในวังเป็นสนมของเขา" "ข้าเข้าใจมาตลอดว่า เขาต้องการใช้ข้าเพื่อบังคับให้ศิษย์น้องสละอำนาจในกองทัพเสียอีก" อีกทั้งในตอนนั้น ด้วยความที่ข้าเป็นบุตรีของซ่งฮวยอัน การให้ข้าเข้าวังยังเป็นการป้องกันไม่ให้ใครที่มีจิตคิดร้ายแต่งข้าไปอีกด้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status