แชร์

บทที่ 323

ผู้เขียน: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-29 18:00:00
ในวันที่ยี่สิบสี่ของเดือนจันทรคติที่สิบสอง หิมะตกในตอนเช้า ฟ้ามืดมาก และลมก็หนาวราวกับมีด

แม่นมเหลียงมองดูท้องฟ้าแล้วอธิษฐาน "วันนี้คุณหนูของเรากำลังจะออกเรือน พระเจ้าให้ตระกูลซ่งและคุณหนูของเราเจอกับสิ่งเลวร้ายมามากพอแล้ว วันนี้ขอให้เป็นวันที่แดดจ้าได้ไหม ข้าน้อยจะจุดธูปและบูชาท่านทุกวัน"

ซ่งซีซีถูกเรียกให้ตื่นแต่เช้า มารับเมื่อเช้านี้ ช่างแต่งหน้าจากร้านมาแล้ว จะทำความสะอาดผิดและบำรุงผิวให้นางก่อน บอกว่าทำเช่นนี้แล้วถึงแต่งหน้าได้สวยขึ้น

ไม่รู้ว่าพวกนางผสมของเหลวชนิดใดที่มันเหนียวๆ จากนั้นก็ทาบนใบหน้าของนาง และให้นางนอนนิ่งๆโดยไม่ให้พูดอะไร

เมื่อคืน นางมีอารมณ์ซับซ้อนมาก และนอนไม่หลับทั้งคืน ตอนนี้เมื่อถูกบังคับให้นอนอยู่เก้าอี้แบบนอนได้ หลับตาไม่ให้ส่งเสียง นางถึงขนาผล็อยหลับไป

จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ นางก็สิ้นหวังแล้วจริงๆ พวกอาจารย์ไม่มา และพวกเสิ่นว่านจือก็ไม่มาด้วย

แม้ว่ารู้ว่ามันเกิดจากความผิดของตนเอง แต่นางก็ยังรู้สึกเสียใจมาก

หลังจากงีบหลับได้สักพัก นางเจ็ดแห่งร้านเหมี่ยวอี้ก็ล้างสิ่งของที่เหนียวๆ ออกไปให้นาง นางไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งนั้น แต่นางตื่นขึ้นแล้ว นางก็ปล่อยให้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Best Tanachai
รออออ มาเลยได้ไหม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 324

    หลังจากนั้นไม่นาน รุ่ยเอ๋อร์ก็มาพร้อมกับเสื้อผ้าใหม่เขาสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และชุดสั่งทำพิเศษนี้พอดีตัวกับเขามาก มันทำจากผ้าสีแดงปักรูปกระต่าย ด้านนอกเสื้อมีเสื้อคลุมตัวเล็กที่ทำจากหนัง ยังมีหมวกที่ข้านอกสีดำและด้านในเป็นสีแดง พอแขวนไว้ที่หลังเหมือนนักสู้เลย ได้มัดผมไว้ และยังผูกด้ายสีแดง ซึ่งทั้งน่ารักและรื่นเริง"ให้ท่านอาดูหน่อยสิ เด็กที่ไหนทำไมน่ารักอย่างนี้ล่ะ" ซ่งซีซีจับมือเขาแล้วมองเขาจากหัวจรดเท้า ใบหน้าที่เพิ่งถูกเส้นด้ายขจัดจนร้อนนั้นเผยรอยยิ้มออกมา "ที่แท้คือรุ่ยเอ๋อร์ของเรานี่น่ะ ท่านอาแทบจะจำไม่ได้แล้ว น่ารักจริงๆ"รุ่ยเอ๋อร์เขินอายเล็กน้อย "นี่เป็นคำกล่อมเด็กนะ ท่านอา ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว""ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ ในใจท่านอา หนูเป็นเด็กอยู่เสมอ" ซ่งซีซีกอดเขาและสัมผัสถึงความอบอุ่นจากคนในครอบครัวของตนเองนางเจ็ดยังยิ้มและกล่าวว่า "คุณชายรุ่ยเอ๋อร์หล่อมากทีเดียว เมื่อเขาโตขึ้น เขาจะแข็งแกร่งและกล้าหาญมาก เขาจะเป็นลูกผู้ชายที่มีความสามารถแน่นอน"รุ่ยเอ๋อร์ชอบคนที่บอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชายมากที่สุด ดังนั้นเขาจึงเอาลูกอมงานแต่งงานที่ตนเองซ่อนไว้ออกมาทันที และมอบให้กับนางเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 325

    แม่นมเหลียงเชิญช่างแต่งหน้าจากร้านเหมี่ยวอี้ออกไปกินเลี้ยง งานเลี้ยงได้ถูกจัดไว้แล้ว และต้องทานอาหารล่วงหน้าเพราะเจ้าสาวจะออกเรือนหลังยามเซินหลังจากกินเลี้ยงเสร็จ ช่างแต่งหน้าของร้านเหมี่ยวอี้จะไม่รีบจากไป หนึ่งในนั้นจะตามพวกเขาไปที่จวนอ๋อง หลังจากดื่มสุราร่วมกันแล้ว เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะต้องออกไปดื่มอวยพลกับแขกทุกคน ดังนั้น คนหนึ่งจะต้องติดตามพวกเขาไปเพื่อเติมหน้า แขกในจวนอ๋องมีจำนวนมากเกินไป หากเดินไปรอบๆ เพื่อดื่มชาดื่มสุรา เดี๋ยวจะทำให้หน้าเลอะเทอะได้ใกล้จะถึงวันยามเซินแล้ว สินเดิมต้องถุกขนออกจากบ้านไปฆ้องและกลองดังลั่น และลูกหลานของตระกูลซ่งก็ออกไปขนสินเดิมด้วยตนเองสินเดิมหกสิบสี่กล่อง สิ่งของที่บรรจุอยู่ในนั้นล้วนเป็นของมีค่า หนึ่งกล่องในนั้นคือภาพวาดของเสิ่นชิงเหอ ซึ่งมีค่ามากจวนป๋อผิงซีและจวนเสนาบดีกั๋วกงอยู่ห่างกันเพียงสองถนน และพวกเขาก็ออกไปขนสินเดิมในยามเซินเช่นกันหวังชิงหลูยังสวมชุดแต่งงานของนาง และรอให้สินสอดออกไปก่อน เมื่อถึงยามโย จ้านเป่ยว่างก็จะนำขบวนมารับเจ้าสาวนางส่งคนออกไปดูว่าสินเดิมจากจวนเสนาบดีกั๋วกงได้ขนออกไปหรือยัง และนับดูว่าใช่หกสิบสี่กล่องหรือไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 326

    ด้านหลังสถาบันชื่อเยียน คือร้านขายยาเย่าหวัง ซึ่งอยู่ในเมืองหลวง โดยจะส่งวัสดุยาอันล้ำค่าต่างๆ เช่น โสมอายุร้อยปี บัวหิมะ เป็นต้นหลังจากที่ร้านขายยาเย่าหวังตะโกนเสร็จแล้ว ต่อมาคือนิกายตงไห่ ของที่ส่งก็ล้วนเป็นสมบัติหายากมาด้วย ซึ่งไข่มุกตงจูนั้นมีค่ามากที่สุด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเอาชนะสถาบันชื่อเยียนอย่างไรอย่างนั้น และมอบไข่มุกตงจูตั้งสามกล่อง ทับทิมต่างๆ ทั้งหมดรวมกันก็สามกล่องเต็มๆหวังชิงหลูยิ่งฟังยิ่งรู้สึกตัวสั่นเทาซ่งซีซีเองก็ตัวสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ นางแทบไม่ได้ยินรายการของ ได้ยินแต่ชื่อของนิกายเท่านั้นมีนิกายหลายนิกายที่นางไม่เคยสุงสิงกัน แล้วพวกเขาจะมาช่วยเติมเต็มสิงเดิมได้ยังไงล่ะ? ต้องเป็นเพราะท่านอาจารย์ได้แจ้งให้พวกเขาทราบแล้วในที่สุด หลังจากฟังอีกหกเจ็ดนิกายแล้ว ซ่งซีซีก็ได้ยินเสียงของศิษย์พี่ที่ห้า "บุตรสาวของผู้นำสถาบันว่านซงเหมินกำลังจะแต่งงาน ขอมอบสินเดิม 108 กล่อง ร้าน 10 แห่งใจกลางเมืองหลวง สวนสองแห่งที่เชิงภูเขาเหม่ยชาน ทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง"เสียงนี้ดังก้องไปตามถนนสายยาว และคาดว่าคนในแถวถนนสิบเส้นทางที่ใกล้เคียงคงจะได้ยินหมดบุตรสาวของผู้นำสถาบันว่านซงเหมินกำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-30
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 327

    เนื่องจากสินเดิมได้ถูกส่งออกไปแล้ว อีกไม่ถึงครึ่งชั่วยาม นางก็ต้องออกเรือนแล้วเซี่ยหลูโม่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขาจะมารับเจ้าสาวด้วยตนเอง ดังนั้นใบหน้าที่เลอะเทอะของนางนั้นก็ต้องรบกวนช่างแต่งหน้าจากร้านเหมี่ยวอี้ช่วยเติมหน้าให้อีกครั้งอย่างไรก็ตาม ซ่งซีซีไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้เลย นางทุบตีท่านอาจารย์ และจากนั้นก็ไปต่อยศิษย์พี่ใหญ่ นางไม่อาจลงมือกับศิษย์พี่สาวรองได้ เลยกอดนางแน่น "ศิษย์พี่สาวรอง ข้าคิดว่าพวกท่านจะไม่มาแล้ว ข้าเสียใจจะตายอยู่แล้ว ข้านึกว่าพวกท่านไม่ต้องการข้าแล้ว"ผิงหวูจูง ศิษย์พี่สาวรองปาดน้ำตาให้นางด้วยรอยยิ้ม เพียงแต่ตนเองก็ตาแดงด้วย ศิษย์น้อง ศิษย์น้องของนางเอ๊ย เฮะ ต้องทนทุกข์มากขนาดนั้น ทนทรมานอีกด้วย นางอดทนรับมาหมดเลยผิงหวูจูงรู้สึกปวดหัวในใจ นางปาดน้ำตาแล้วพูดอ่อนโยนว่า "เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลยนะ วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดและสวยงามที่สุด เราจะร้องไห้ได้ยังไง"ผิงหวูจูงมีรูปร่างสูงและสวย เมื่อมองแวบแรกก็ดูเหมือนหญิงสาวจากตระกูลใหญ่ เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าวิชาตัวเบาของนางมันแข็งแกร่งมากแค่ไหน และการซ่อนตัวและปลอมตัวของนางเก่งขนาดไหนนางเป็นสายลับอัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-31
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 328

    เฉินฟูปาดน้ำตาแล้วพูดว่า "คุณหนู เกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะมาแล้ว ดังนั้นรีบแต่งหน้าเถอะนะขอรับ"ซ่งซีซีเพิ่งจะเจอกับพวกอาจารย์และศิษย์พี่ของนาง ยังไม่ทันได้พูดคุยสักหน่อยก็ต้องออกเรือนไปแล้ว นางอาลัยอาวรณ์พวกเขา และพูดอ้อมๆ ว่า "ขอเลื่อนไปอีกชั่วยามได้ไหม""ไม่ได้เด็ดขาด คุณหนู ท่านต้องทำพิธีให้เสร็จตามเวลาอันเป็นมงคล"ผิงหวูจูงจับมือของนาง "ไป กลับไปแต่งหน้ากันเถอะ วันสำคัญเช่นนี้จะร้องไห้ได้ที่ไหน เรามาที่นี่เพื่อส่งเจ้าออกเรือน เดี๋ยวจะไปพร้อมกับเจ้าด้วย ที่จวนเป่ยหมิงอ๋องมีที่นั่งสำหรับเราด้วย เราจะไปกินเลี้ยงที่นั่น"ซ่งซีซีกระพริบตาของนาง ปกคลุมไปด้วยหมอกหนาทึบ "นั่นหมายความว่าท่านอ๋องรู้ว่าพวกท่านจะมาหรือ?""เขารู้ แต่เขาไม่รู้ว่าเจ้าไม่รู้"ก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเขาปกปิดเรื่องหลังจากรวบรวมอารมณ์ได้แล้ว นางก็ยืนขึ้นและขอบพวกคุณผู้นำนิกายและลูกศิษย์ที่มาแสดงความยินดี"ไม่ต้องมากพิธ ไปแต่งหน้าเร็วๆ สิ" เหรินหยางอวิ๋นโบกมือ จะขอบคุณอะไรนักหนา? ทั้งหมดนี้เป็นผลบุญแก่เขาซ่งซีซีตอบว่า "โอ้" แล้วหันกลับมาโดยคิดว่าอาจารย์นี่เสียมารยาทจริงๆขณะที่นางกำลังแต่งหน้าอยู่นั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-31
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 329

    ซ่งซีซีเดินไปจับมือของอาจารย์โดยไม่รู้ตัว แต่กลับพบว่ามีมือข้างนึงยื่นมาหานางมือทั้งใหญ่และยาว มีฝ่ามือหนา นิ้วยาว และเล็บที่ถูกตัดอย่างเรียบร้อยดีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือข้างบนฝ่ามือเล็กน้อยจะมีชุดแต่งงานปักลายมังกรชุดแต่งงานของพระราชวงค์สามารถใช้ลายมังกร ชุดเครื่องแบบก็ใช้ได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่สามารถใช้ลายมังกรห้าเล็บได้เซี่ยหลูโม่ เป็นสามีของนางหลังจากฟื้นคืนสติได้สักพัก นางวางมือของตนเองลงบนฝ่ามือของเขา ดูเหมือนว่าเขาไม่มีประสบการณ์ในการจับมือกัน ตอนแรกเขาปิดฝ่ามือเพื่อจับมือนาง จากนั้นจึงหมุนมือแบบสุ่มสองสามครั้งเพื่อหาท่าที่จับอย่างสบาย และในที่สุดก็ประสานมือกับนางหัวใจของซ่งซีซีเต้นรัวเหมือนตีกลอง และมันแสบแก้วหูของตนเองเลยแต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น นางจะได้ยินเสียงหัวใจของคนที่จับมือนางก็เต้นเร็วเหมือนกัน และถึงกับรู้สึกเวียนหัวเซี่ยหลูโม่จับมือนาง แล้วเดินไปที่เกี้ยวเจ้าสาว ดูเหมือนมีคนบอกว่าการกระทำเช่นนี้ขัดต่อกฎ และควรจะให้เจ้าสาวขี่หลังแม่สื่อแล้วเข้าไปในเกี้ยวแต่กฎอะไรก็ไปให้พ้นเลย พระชายาของเขา เขาจะจับเอง และพวกเขาจะเดินเคียงข้างกันไปสู่อนาคตที่มีความสุขที่เขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-31
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 330

    ขบวนรับเจ้าสาวสองขบวนได้เจอกันจ้านเป่ยว่างมองไปที่เซี่ยหลูโม่ และเซี่ยหลูโม่ก็มองไปที่จ้านเป่ยว่างด้วยพวกเขาสบตากัน ในใจของเซี่ยหลูโม่มีแต่ความรู้สึกขอบคุณ ขอบคุณที่เขาละทิ้งซ่งซีซี แน่นอนว่าการรู้สึกขอบคุณเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เเรื่องที่ชายคนนี้ทำผิดกับซีซีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งดวงตาของจ้านเป่ยว่างซับซ้อน ครั้งหนึ่ง เขาเคยสู่ขอซ่งซีซีกลับจวนของเขาด้วยท่าทีอันสูงส่งเช่นนี้ในเวลานั้นเขารู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกนี้แต่พระเจ้าชอบเล่นตลกกับมนุษย์ บัดนี้ซ่งซีซีกลายเป็นพระชายาเป่ยหมิงอ๋อง ส่วนเขาแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ยังรู้สึกขาดอะไรไปดังนั้น เมื่อเขามองไปที่เซี่ยหลูโม่ ดวงตาที่ซับซ้อนของเขาไม่เพียงแต่ความอิจฉา ความริษยา ความขุ่นเคือง ความไม่ยอม ความหงุดหงิด ความโศกเศร้า...ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะตระหนักได้อย่างแท้จริงว่าเขาและซ่งซีซีไม่สามารถกลับไปได้แล้ว และพวกเขาจะไม่เกี่ยวข้องกันอีกเลยด้วยจิตสำนึกที่ชัดเจนนี้ ตอนที่พวกเขาสวนหน้ากัน ทำให้เขาพูดขึ้นมาว่า "ขอแสดงความยินดีกับท่านท่านอ๋อง ที่แต่งงานกับผู้หญิงที่ถูกจวนแม่ทัพของข้าทอดทิ้ง"เขารู้ว่าเขาไม่ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-01
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 331

    หลังจากเข้าไปในจวนอ๋องแล้ว ซ่งซีซีก็ได้ยินเสียงดังวุ่นวายมากมายผสมกับคำอวยพรด้วย บางเสียงก็คุ้นหูและบางเสียงก็ไม่คุ้นเคยนอกจากนี้ยังมีเสียงที่น่ารำคาญขององค์หญิงใหญ่ โอ้ ท่านหญิงเจียอี้ที่น่ารำคาญคนนั้นก็อยู่ด้วย มีแต่ทำเอางานแต่งงานของนางสกปรกได้ศิษย์พี่เป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่แขก และบดบังนางที่เป็นเจ้าสาวอีกด้วย แต่ก็ไม่สำคัญเพราะเสิ่นว่านจือแอบเข้ามาอย่างเงียบๆ และจับมือนาง "เดาสิว่าข้าเป็นใคร?""ทำตัวเป็นเด็กเลย!" ซ่งซีซีพูดด้วยรอยยิ้ม "เจ้าคือกุ้นเอ๋อร์""กุ้นเอ๋อร์อะไร" เสิ่นว่านจือหัวเราะเบาๆ "กุ้นเอ๋อร์ในยามนี้น่าจะถูกแสดงอยู่ในห้องโถงด้านข้างนี่น่ะ เขาเป็นสินเดิม"ซ่งซีซีก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา รู้สึกหายเครียดไม่น้อยเลยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำขั้นตอนอะไรอยู่ แต่ซ่งซีซีก็ยืนอยู่ที่นี่และดูเหมือนว่ากำลังจัดชุดสำหรับการไหว้ นางกำลังคิดแบบสุ่มอยู่ในใจ จัดชุดสำหรับการไหว้งั้นเหรอ? นางกับเซี่ยหลูโม่ไหว้เป็นสหายแล้วหรือ?ฮ่าๆ น่าตลกจังเลยก็ได้ อันที่จริงมันไม่ตลกเลย แต่จิตใจของนางอดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน เพราะนางมองไม่เห็นอะไรเลยทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงคนใค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-01

บทล่าสุด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1344

    แม้ว่าจะไม่ถูกต้องตามระเบียบ แต่ก่อนที่นางจีจะกลับไป ซ่งซีซีก็สั่งให้คนไปซื้อโจ๊กเนื้อบดสองหม้อ โดยอ้างว่าเป็นของชาวบ้านที่ต้องการขอบคุณฮูหยินจีสำหรับการแจกจ่ายโจ๊กตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้ต้องการตอบแทนบุญคุณครั้งนี้นางจีร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจ นางหวังว่าลูกๆ จะได้ดื่มโจ๊กอุ่นๆ สักคำ แม้เพียงนิดเดียวหลังออกจากหอต้าหลี่ ซ่งซีซีครุ่นคิดแล้วสั่งให้อาจารย์หยูไปเล่าถึงเรื่องที่ชาวบ้านบริจาคโจ๊กให้เป็นที่แพร่หลายเดิมทีผู้คนยังจดจำความมีน้ำใจของนางจีที่แจกจ่ายโจ๊กได้ แต่ช่วงนี้เรื่องราวนั้นเริ่มเงียบหายไปตอนนี้จึงเหมาะที่จะใช้โอกาสนี้จุดกระแสเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งอาจารย์หยูจึงแต่งเรื่องเล็กน้อย โดยเล่าว่าชาวบ้านที่มอบโจ๊กเดิมทีเป็นคนเร่ร่อนชานเมืองหลวงที่อดอยากจนเกือบตาย ดื่มโจ๊กที่โรงทานหลายวันติดต่อกัน และก่อนออกจากเมืองหลวง โรงทานยังมอบเสบียงให้เขาห่อหนึ่งแม้ปัจจุบันชีวิตของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นนัก แต่เมื่อได้ยินว่าผู้มีพระคุณของเขาประสบเคราะห์ เขาจึงรีบเดินทางมาที่เมืองหลวงและซื้อโจ๊กอุ่นๆ สองหม้อมาส่งที่เรือนจำ พร้อมร้องขอให้นำไปให้ผู้มีพระคุณเซี่ยหรูหลิงซึ่งดูแลเรือนจำ เ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1343

    นางถามว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูมีอันตรายถึงชีวิตหรือไม่?”หงเชวี่ยตอบว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าอาการยังพอรับได้ แต่ถ้าหวังชิงหลูไข้สูงไม่ลด ก็อาจเป็นอันตรายได้ นางเครียดเกินไป ตอนที่พบนาง นางจับมือข้าไว้แน่น ถามว่าตัวเองจะตายหรือไม่ พูดแต่เรื่องเพ้อเจ้อ เดี๋ยวโทษคนนั้น เดี๋ยวโทษคนนี้ บางครั้งก็โทษตัวเองที่ตัดสินใจผิดพลาดหลายอย่าง”ซ่งซีซีไม่ได้พูดอะไร นางไม่มีสิทธิ์ตัดสินชีวิตของผู้อื่น เพียงแต่หวังว่านางจะไม่ทำให้ฮูหยินจีลำบากไปกว่านี้หากหวังชิงหลูเสียชีวิตในเรือนจำ จะสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในตระกูลหวัง ซึ่งจะเพิ่มภาระทางจิตใจให้กับฮูหยินจีอย่างแน่นอน“หงเชวี่ย อีกสองวันเจ้าไปดูพวกเขาอีกทีนะ”หงเชวี่ยพยักหน้า “เจ้าค่ะ”ซ่งซีซีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อีกสองวันเจ้าไป ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”นางอยากพูดคุยกับฮูหยินจีตามลำพัง เพราะในที่สิ้นหวังเช่นเรือนจำนั้น หากไม่มีแม้แต่คนพูดคุย มีเพียงเสียงร้องไห้ที่ไม่สิ้นสุด วันเวลาก็จะยืดยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุดอย่างไรก็ตาม ตอนนี้นางมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ เนื่องจากฝ่าบาททรงพระประชวรและงดราชกิจ นางจึงต้องไปพบเสนาบดีมู่เพื่อแจ้งเรื่องจินชางหมิงเปล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1342

    เนื่องจากฝ่าบาททรงส่งชีกุ้ยไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก งานดูแลเรือนจำจึงถูกมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ดูแล และผู้ที่รับหน้าที่นี้คือเซี่ยหรูหลิงไม่นานนัก เซี่ยหรูหลิงก็เดินทางมาที่จวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อพบซ่งซีซี บอกว่ามีเรื่องที่เขาตัดสินใจไม่ได้ และขอให้ซ่งซีซีช่วยแนะนำซ่งซีซีรีบกินข้าวเพียงสองสามคำแล้วออกมาพบเขา เพราะกังวลว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮูหยินจีและเด็กๆแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เซี่ยหรูหลิงกล่าว นางก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูทั้งสองคนหลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็วิตกกังวลทุกวัน อีกทั้งอาหารยังแย่ยิ่งกว่าอาหารที่เคยให้สุนัขกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีเคยให้ยากับฮูหยินจี ซึ่งรวมถึงยาสำหรับอาการท้องเสียและปวดท้องเพราะไม่ชินสภาพแวดล้อม ยาทำให้อาการดีขึ้น แต่เพราะต้องกินอาหารแบบนั้นต่อไป อาการจึงกลับมาแย่ลงอีก และหวังชิงหลูก็มีไข้สูงฮูหยินผู้เฒ่าร้องขออย่างน่าสงสารให้ช่วยหาหมอ เซี่ยหรูหลิงไม่กล้าตัดสินใจ จึงออกมาขอคำปรึกษาจากซ่งซีซีซ่งซีซีถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ? มีอาการเหมือนกันหรือไม่?”“เดิมที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1341

    แต่ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในวัง กลับไม่ได้พบฝ่าบาท อู๋ต้าปั้นออกมาแจ้งข่าวว่า วันนี้ฝ่าบาทไอจนมีเลือดปนและเกือบหมดสติ ตอนนี้หมอหลวงกำลังรักษาซ่งซีซีรีบถาม “เป็นเพราะพระวรกายอ่อนแอ หรือถูกลอบวางยาพิษ?”คำถามนี้ชัดเจนว่าแฝงด้วยความระแวง หากเป็นสถานการณ์ปกติหรือคนอื่น ซ่งซีซีคงไม่กล้าถามแต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป อีกทั้งคนที่นางเผชิญหน้าอยู่คืออู๋ต้าปั้น นางจึงถามอู๋ต้าปั้นถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “หมอหลวงวินิจฉัยว่าไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่เพราะฝ่าบาททรงวิตกกังวลอย่างหนัก พักผ่อนน้อยและเบื่ออาหาร อีกทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ทรงติดเชื้อและไอมาแล้วหลายวัน แม้จะดื่มยามาหลายวันแต่ไม่ได้ผล วันนี้ไอไม่หยุดจนกระทั่งมีเลือดปนและแทบหายใจไม่ออก”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่การวางยาพิษ ซ่งซีซีก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย หากเป็นการวางยาพิษ ก็หมายความว่ามีคนแฝงตัวเข้ามาในวังแล้ว ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้นการไอเป็นเลือดอาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ได้ ซ่งซีซีจึงยังไม่จากไป แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอหมอหลวงออกมาแจ้งสถานการณ์นอกจากซ่งซีซีแล้ว ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่รอเพื่อกราบทูลเรื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

DMCA.com Protection Status