Share

บทที่ 303

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-05-29 10:58:35
องค์หญิงใหญ่โดนโต้แย้งจนพูดไม่ออก โกรธอยู่นานก่อนที่นางจะลุกขึ้นและเยาะเย้ยว่า "เจ้ารับชมภาพวาดไม่เป็น กลับใช้หัวข้อนี้พูดไปไกล ดูท่าว่าข้ากับฮูหยินโหวผิงหยางพูดไม่เข้าใจกัน ขอกลับก่อน"

หลังจากที่นางพูดจบ ก็จ้องเข็มงสนมฮุ่ยไทเฟย สนมฮุ่ยไทเฟยตกตะลึง ไอ้แก่คนนี้เป็นอะไรกันเนี่ย คนที่ทำให้นางขุ่นเคืองคือฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยาง ทำไมถึงจ้องนางล่ะ?

แต่สุดท้ายแล้วเป็นเพราะนางโดนอีกฝ่ายเอาเปรียบตลอด และบวกกับมีความร่วมมือทางธุรกิจด้วย ดังนั้นนางจึงไม่ต้องการที่จะมีเรื่องกับนาง และถามว่า "องค์หญิงจะไม่รับชมต่ออีกสักหน่อยหรือ"

องค์หญิงใหญ่เดินเข้าไปหานาง แล้วกระซิบข้างขู่เบาๆ แต่มีแฝงไปด้วยน้ำเสียงขู่ว่า "แน่นอนว่าต้องรับชม หลังจากที่ทุกคนชมเสร็จ เจ้าเอาภาพวาดนี้ไปส่งที่จวนของข้า จัดส่งภายในวันนี้"

หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็พาท่านหญิงเจียอี้ออกไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ จ้านเส้าฮวนจึงรีบติดตามไป

เมื่อเห็นเช่นนี้ พวกฮูหยินที่สนิทกับองค์หญิงใหญ่ก็ลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนยืนขึ้นและกล่าวลาจากไป

แต่ยังมีคนจำนวนมากที่อยู่ต่อ โดยเฉพาะคุณหนูหยานหรูอวี้ หลานสาวของครอบครัวหยานไท่ฟู่ นางมองภาพแต่ละภาพอย่างจริ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 304

    เมื่อเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ฮ่องเต้ เสนาบดีและขุนนางอื่นๆ ต่างก็อยู่ด้วย แม้แต่ลูกชายของตนเองก็ยังพูดคุยกับชายหนุ่มรูปงามที่สวมชุดสีน้ำเงินเมื่อเห็นนางมา ทุกคนรวมทั้งฮ่องเต้ก็ยืนขึ้นและทำความเคารพนางอารมณ์ของสนมฮุ่ยไทเฟยดีขึ้นทันที เป็นเรื่องปกติที่นางจะได้รับความเคารพและยกย่องจากเหล่าฮูหยิน แต่นางแทบไม่ได้ไปมาหาสู่กับฝ่ายราชสำนัก เมื่อบัดนี้พวกเขาต้องแสดงความเคารพต่อนางทีละคน ความทระนงในตัวของนางก็ถึงจุดสูงสุดทันใดนั้น นางก็ลืมสิ่งที่ตนเองคิดอยู่ในรถม้า และหลังจากเห็นทุกคนคารวะเสร็จ ก็ถูกเชิญให้นั่งตำแหน่งหลักว้าว แม้ว่านางจะมีความรุ่งโรจน์และมีเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตของนาง แต่นางก็ไม่เคยได้รับการไหว้จากพวกขุนนางราชสำนักและคุณชายเสิ่นชิงเหอบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เหมือนทุกวันนี้ และนางยังนั่งที่หนักหลัก ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่นางไม่เคยมีมาในชีวิตจริงๆแย่แล้ว ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อซ่งซีซีดูเหมือนจะเพิ่งขึ้นอีกหลังจากที่คนรับใช้เติมน้ำชาแล้ว เสิ่นชิงเหอก็เดินไปหาซ่งซีซี และกระซิบเบาๆ ว่า "การยกย่องคนใดคนนึงถือว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จัดการคนๆ นั้น"ซ่งซีซีหัวเราะออกมา ใครบอกว่าศิษย์พี่ไม่เ

    Last Updated : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 305

    ซ่งซีซีรับนำใจนี้เอาไว้ แล้วพูดติดตลกด้วยรอยยิ้ม "ในเมื่อพวกใต้เท้าทุกท่านชอบภาพวาดของศิษย์พี่ของข้ามากเช่นนี้ ถ้าข้าบอกว่าจะไม่ขาย ทุกท่านก็คงต้องด่าข้าลับหลังฉันอย่างแน่นอน""จะกล้าที่ไหนล่ะ ไม่กล้าหรอก" หลี่เต๋อฮวย เจ้ากรมกระทรวงกลาโหมยิ้มแล้วพูดเสียงดัง "หากไม่ขายก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่ด่าแม่ทัพซ่งแน่นอน ผู้ใดกล้าด่าเจ้า ข้าไม่ปล่อยเขาไปแน่"จะล้อเล่นยังไงกัน แม่ทัพที่โดนเด่นเช่นนี้จะด่าได้อย่างไร? ขุนนางฝ่ายบู๊ผู้ใดที่กล้าด่านางก็เท่ากับมีเรื่องกับกระทรวงกลาโหมของเขาเลยเมื่อได้ยินเจ้ากรมกระทรวงกลาโหมพูดเช่นนี้แล้ว สตรีข้างนอกต่างก็มองหน้ากันพวกนางทุกคนต่างรู้ว่าซ่งซีซีเคยสร้างผลงานทางทหารมา แต่ถึงยังไงนางก็เป็นแค่สตรีนางนึง บุรุษจะเห็นนางอยู่ในสายตาจากใจจริงหรือแต่คำพูดของเจ้ากรมกระทรวงกลาโหมดูเหมือนจะล้อเล่น แต่สีหน้าของเขากลับจริงจังมากพวกฮูหยินที่เคยพูดจาแย่ๆ ใส่นางซึ่งเป็นพวกกับองค์หญิงใหญ่นั้น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ หากคำพูดเหล่านั้นถูกแพร่กระจายและทำให้ซ่งซีซีไม่พอใจได้ คงจะส่งผลสร้างปัญหาให้กับสามีของตนเองฮ่องเต้มองดูซ่งซีซี ความหมายในดวงตาของเขาชัดเจนมาก และชี้ไ

    Last Updated : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 306

    วันนี้ พวกฮูหยินได้เห็นซ่งซีซีได้หน้าตาเป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกนางจะอิจฉามากแค่ไหน ก็รู้ว่าเสิ่นชิงเหอกำลังใช้ชื่อเสียงของตนเองเพื่อปกป้องนางด้วยความรักจากศิษย์พี่เสิ่นชิงเหอคนนี้ อย่างอื่นจะยังไงไม่รู้ แต่พวกขุนนางฝ่ายบุ๋นจะต้องให้ความเคารพต่อซ่งซีซีอย่างสูงแน่นอนตัวอย่างเช่น คนอย่างหยานไท่ฟู่ ผู้รักชอมภาพวาดมากพอๆ กับรับชีวิตของตน หากเขายังคงต้องการภาพวาดจากเสิ่นชิงเหอ เขาจะไปมาหาสู่กับซ่งซีซีมากขึ้นอย่างแน่นอนสำหรับทัศนคติของฮ่องเต้ เสนาบดี และหลี่เต๋อฮวยเจ้ากรมกระทรวงกลาโหมในวันนี้ ทุกคนต่างเห็นอยู่กับตาว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับซ่งซีซีเป็นอย่างมาก นี่ไม่ได้เป็นเพราะคุณชายเสิ่นชิงเหอเท่านั้นทุกคนต้องยอมรับว่า ซ่งซีซี ผู้หญิงที่เคยถูกทอกทิ้งและเหยียบย่ำจนถึงที่สุดนั้น ปัจจุบันนี้กลายเป็นคนโปรดในเมืองหลวงแล้วหลังจากที่ทุกคนซื้อภาพวาดเสร็จแล้ว รุ่ยเอ๋อร์ก็ถูกพาออกไปทักทายกับฮ่องเต้และทุกคนด้วยซ่งซีซีต้องการให้รุ่ยเอ๋อร์ออกมาให้ทุกคนได้รู้จักเขาสักหน่อย ด้วยฐานะว่าที่ผู้นำของจวนเสนาบดีกั๋วกงร่างของเขาตัวเล็ก แต่ยื่นหลังตรงมาก ทำให้ผู้คนนึกถึงบุรุษชายของตระกูลซ่งในก่อนหน้านี้

    Last Updated : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 307

    หลังจากงานแสดงภาพวาดจบลง ฮ่องเต้ก็พาใต้เท้าทั้งหมดจากไปอย่างมีความสุขพวกฮูหยินก็ทยอยกล่าลาและจากไป หลังจากผ่านเรื่องวันนี้ สถานะของจวนเสนาบดีเจิ้นกั๋วกงในเมืองหลวงก็คงมั่นคงมากแล้ว แม้แต่ฮ่องเต้ก็มาด้วยตนเองซึ่งถือเป็นการให้เกียรติมากทีเดียวเมื่อพระชายาอ๋องฮวยจากไป นางรู้สึกไม่ยอม เพราะซ่งซีซีให้คนส่งภาพวาดแก่สนมฮุ่ยไทเฟย แต่นางในฐานะท่านน้ากลับไม่ได้สักรูปนึงเนื่องจากคนที่เมื่อกี้ซื้อภาพวาดเหล่านี้ล้วนเป็นพวกฮ่องเต้หรือไม่ก็ขุนนาง ท่านอ๋องไม่ได้มา นางเป็นสตรีเข้าไปแย่งซื้อกับพวกบุรุษก็ไม่เหมาะสมอย่างไรก็ตาม จะซื้อหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องนึง ซีซีควรมอบให้นางหนึ่งรูปเพื่อแสดงว่าพวกนางได้คืนดีกันแล้วแต่จนถึงนางจะจากไปแล้ว นางก็ไม่ได้เอ่ยอะไรเลย แค่ไหว้ให้ตามมารยาทว่า "ท่านน้าเดินทางระวังด้วย"นางได้แต่ฝื้นยิ้ม "อืม ไม่ต้องไปส่งข้า"คนที่เดินลงบันไดหินกับนางคือเฉินฮูหยิน เฉินฮูหยินเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาเสมอ เมื่อเห็นนางกลับด้วยมือเปล่า ก็ถามว่า "ท่านพระชายา ทำไมคุณหนูซ่งไม่มอบภาพวาดรูปนึงให้ท่านล่ะ ท่านเป็นถึงท่านน้าของนางเลยนี่"ทันใดนั้น ใบหน้าของพระชายาอ๋องฮวยก็ไม่น่ามองมาก

    Last Updated : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 308

    พระชายาอ๋องฮวยพูดไม่ออก เมื่อถูกสาวโต้กลับเช่นนี้ หลังจากนั้นไม่นาน นางก็นึกขึ้นดึงพระชายาอ๋องเยี่ยนเข้ามาเกี่ยวด้วยเพื่อแก้ตัวให้ตนเอง "แล้วพระชายาอ๋องเยี่ยนก็เป็นท่านป้าห่างๆ ของนางด้วย เป็นแม่สื่อของนางเสียอีก ทำไมไม่เห็นนางกลับมาล่ะ หาใช่ว่าแค่แม่เลือดเย็น ทุกคนล้วนเป็นเช่นนี้"ท่านหญิงหลานถอนหายใจ "ท่านป้าสะใภ้มีสนานการณ์เช่นไร ท่านเองก็รู้ดี นางล้มป่วยหนัก ต่อให้อยากมาก็มาไม่ได้หรอก อีกอย่างที่จวนอ๋องเยี่ยนนางก็ตัดสินจะไรไม่ได้ เป็นชายารองที่ดูแลจวน เท่ากับว่ากักบริเวณนางไปแล้ว"พระชายาอ๋องฮวยถอนหายใจ "ช่างเถอะ ต่อไปนี้ฝั่งท่านพี่ของเจ้า ข้าจะไม่ไปมาหาสู่กันอีกเลย เจ้าสุงสิงกับนางก็พอ หากตัดขาดความสัมพันธ์จริงๆ ก็ไม่ได้ เพราะถึงยังไงนางจะเป็นพระชายาเป่ยหมิงอ๋องในอนาคต อย่าคิดว่าเสด็จแม่ของเจ้าและนางล้วนเป็นพระชายา แต่มันแตกต่างออกไปเลย เสด็จพ่อของเจ้าทำอะไรไม่ได้เรื่อง ขี้กลัว แม้ว่าเป่ยหมิงอ๋องในยามนี้ไม่กุมอำนาจทางทหาร แต่กลับดูแลกองทัพซวนเจีย และหอต้าหลี่อยู่ เขามีงานข้าราชการจริงๆ"ท่านหญิงหลานไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เสด็จพ่อจะสร้างผลงานได้หรือ เมื่อจักรพรรดิแงค์ก่อนอยู่มีชีว

    Last Updated : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 309

    ซ่งซีซีส่งนางไปที่ประตู และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "อย่าทำให้ตัวเองต้องเสียเปรียบทุดเรื่อง เอาแต่เอาใจพวกเขา ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาให้ความสำคัญกับเจ้ามากก็ได้นะ"หลานเอ่อร์เงียบเชียบสักพักนึง จากนั้นก็ส่ายหัวและพูดอย่างหนักแน่น "คำพูดของท่านพี่ไม่จริงหรอก หัวใจของผู้คนทำจากเนื้อ สักวันนึงข้าจะทำให้พวกเขายอมรับข้าได้"หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็ถูกสาวใช้ช่วยพยุงก่อนขึ้นรถม้าซ่งซีซีเห็นสีหน้าของนางในเมื่อกี้ ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ นางก็รู้สึกหนาวขึ้นมา ราวกับเป็นลางร้ายเมื่อนางกลับมาถึงเรือน ยังคงรู้สึกหนาวเช่นกัน จึงให้เป่าจูเอาถังน้ำร้อนมาให้แม่นมเหลียงถามว่า "คุณหนูไม่สบายหรือเปล่า?""เปล่า แต่จู่ๆ ก็รู้สึกหนาวขึ้นมา" ซ่งซีซีกล่าวแม่นมเหลียงเห็นว่านางสวมเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอก และมีเครื่องทำความร้อนที่ห้อง แล้วจะหนาวได้ยังไง?นางแตะหน้าผากของคุณหนู และพบว่ามันหนาวเย็นมาก จึงเรียกหมอหงเชวี่ยที่อยู่ในห้องของรุ่ยเอ๋อร์ ให้มาตรวจชีพจรคุณหนูซ่งซีซีบอกว่าไม่ต้อง แต่ไม่สามารถต้านทานกับแม่นมเหลียงได้หมอหงเชวี่ยเดินมาพร้อมกับกล่องยาบนหลังของเขา จับชีพจรให้นาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "แม่นมอ

    Last Updated : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 310

    หมอหงเชวี่ยกลับไปที่ร้านขายยาเย่าหวัง และรายงานกับหมอมหัศจรรย์ดันเรื่องที่คุณหนูซ่งได้ถามถึงพระชายาอ๋องเยี่ยน"เจ้าไม่ได้พูดอะไรไม่ควรพูดใช่ไหม" หมอมหัศจรรย์ดันเหลือบมองเขา น้ำเสียงของเขาดูแข็งกร้าวเล็กน้อยหงเชวี่ยกล่าวว่า "ศิษย์ไม่กล้าพูดมากความ แค่บอกว่าพระชายาอ๋องเยี่ยนไปพักผื้นที่สำนักแม่ชีชิงมู่ขอรับ"หมอมหัศจรรย์ดันถอนหายใจ "เรื่องนี้ เราปกปิดเอาไว้ก่อน รองานแต่งงานของนางเสร็จสิ้นก่อนค่อยว่ากัน ถ้านางรู้ตอนนี้ นางจะไปหาแน่นอน"หงเชวี่ยกล่าวว่า "ศิษย์ก็คิดเช่นนั้นเช่นกัน อีกไม่กี่วันก็จะจัดงานแต่งงานแล้ว งานแสดงภาพวาดที่คุณชายเสิ่นชิงเหอจัดขึ้นในเมื่อวานยังดึงดูดฮ่องเต้มาด้วย ต่อไปในเมืองหลวงนี้คงไม่มีใครกล้านินทานางอีก ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้หากไปมีเรื่องกับจวนอ๋องเยี่ยนเข้าอีก เรื่องไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ""ใช่ไง นี่นางแต่งงานครั้งที่สอง และแต่งเข้าตระกูลที่มีฐานะสูงกว่าด้วย เดิมทีก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์และมีคนมามายอิจฉาริษยาอยู่แล้ว เมื่อวานเมื่องานแสดงภาพวาดจัดขึ้นก็ทำให้พวกสตรีที่ขี้เม้าท์พวกนั้นได้หยุดม้าท์สักที เมื่อเวลาแต่งงานผ่านไปด้วยดี ได้ยินแต่คำดีๆ ทั้งนั้น งั้นช

    Last Updated : 2024-05-29
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 311

    หิมะตกมาสองวันแล้ว ไม่ได้ตกอย่างไม่หยุดไม่หย่อน แต่หยุดพักนึงก็ตกต่อ มีหิมะปกคลุมทั่วทั้งสวน และคนรับใช้ก็ทำความสะอาดถนน ไม่ได้ขัดขวางการเดินทางดอกบ๊วยบานสะพรั่งแต่กลับถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาทึบ เมื่อใช้เท้าเตะออกไป หิมะก็ตกลงมา และดอกไม้ก็ร่วงหล่นลงมาด้วยเมื่อเห็นสีแดงที่หลงเหลืออยู่ในหิมะสีขาวบนพื้น ซ่งซีซีจึงพารุ่ยเอ๋อร์ออกไปและปั้นมนุษย์หิมะดอกบ๊วยรุ่ยเอ๋อร์ยังไปตามหาก้อนกรวดสองก้อนอย่างมีความสุขเพื่อใช้เป็นดวงตาสำหรับมนุษย์หิมะ ซึ่งดูไม่ค่อยสวยเท่าไรซ่งซีซีหยิบเสื้อคลุมมาสวมบนมนุษย์หิมะแล้วสวมหมวกให้ด้วย เมื่อมองจากระยะไกล มันดูเหมือนคนคนหนึ่งจริงๆไม่ไกลนัก กระดานวาดภาพของเสิ่นชิงเหอก็ถูกจัดวางขึ้นมาแล้ว และเขาวาดภาพได้สักพักแล้ว ศิษย์น้องที่ร่าเริงเช่นนี้ไม่ได้เจอมานานแล้ว ภาพวาดนี้ต้องส่งกลับสถาบันในวันที่ยี่สิบของเดือนจันทรคติที่สิบสอง งานแต่งงานก็ใกล้เข้ามา และซ่งซีซีก็ยุ่งมากทีเดียวชุดแต่งงานถูกส่งมอบมา ชุดแต่งงานที่ใช้เวลาหลายเดือน ย่อมงดงามมากทีเดียวอาภรณ์ชั้นนอกเป็นสีแดงสด ดูหนักมาก แต่จริงๆ แล้วพอสวมแล้วก็รู้ว่ามันทั้งเบาและเรียบเนียนมาก ชุดแต่งงานทำจากเมฆป

    Last Updated : 2024-05-29

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1342

    เนื่องจากฝ่าบาททรงส่งชีกุ้ยไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก งานดูแลเรือนจำจึงถูกมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ดูแล และผู้ที่รับหน้าที่นี้คือเซี่ยหรูหลิงไม่นานนัก เซี่ยหรูหลิงก็เดินทางมาที่จวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อพบซ่งซีซี บอกว่ามีเรื่องที่เขาตัดสินใจไม่ได้ และขอให้ซ่งซีซีช่วยแนะนำซ่งซีซีรีบกินข้าวเพียงสองสามคำแล้วออกมาพบเขา เพราะกังวลว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮูหยินจีและเด็กๆแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เซี่ยหรูหลิงกล่าว นางก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูทั้งสองคนหลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็วิตกกังวลทุกวัน อีกทั้งอาหารยังแย่ยิ่งกว่าอาหารที่เคยให้สุนัขกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีเคยให้ยากับฮูหยินจี ซึ่งรวมถึงยาสำหรับอาการท้องเสียและปวดท้องเพราะไม่ชินสภาพแวดล้อม ยาทำให้อาการดีขึ้น แต่เพราะต้องกินอาหารแบบนั้นต่อไป อาการจึงกลับมาแย่ลงอีก และหวังชิงหลูก็มีไข้สูงฮูหยินผู้เฒ่าร้องขออย่างน่าสงสารให้ช่วยหาหมอ เซี่ยหรูหลิงไม่กล้าตัดสินใจ จึงออกมาขอคำปรึกษาจากซ่งซีซีซ่งซีซีถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ? มีอาการเหมือนกันหรือไม่?”“เดิมที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1341

    แต่ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในวัง กลับไม่ได้พบฝ่าบาท อู๋ต้าปั้นออกมาแจ้งข่าวว่า วันนี้ฝ่าบาทไอจนมีเลือดปนและเกือบหมดสติ ตอนนี้หมอหลวงกำลังรักษาซ่งซีซีรีบถาม “เป็นเพราะพระวรกายอ่อนแอ หรือถูกลอบวางยาพิษ?”คำถามนี้ชัดเจนว่าแฝงด้วยความระแวง หากเป็นสถานการณ์ปกติหรือคนอื่น ซ่งซีซีคงไม่กล้าถามแต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป อีกทั้งคนที่นางเผชิญหน้าอยู่คืออู๋ต้าปั้น นางจึงถามอู๋ต้าปั้นถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “หมอหลวงวินิจฉัยว่าไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่เพราะฝ่าบาททรงวิตกกังวลอย่างหนัก พักผ่อนน้อยและเบื่ออาหาร อีกทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ทรงติดเชื้อและไอมาแล้วหลายวัน แม้จะดื่มยามาหลายวันแต่ไม่ได้ผล วันนี้ไอไม่หยุดจนกระทั่งมีเลือดปนและแทบหายใจไม่ออก”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่การวางยาพิษ ซ่งซีซีก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย หากเป็นการวางยาพิษ ก็หมายความว่ามีคนแฝงตัวเข้ามาในวังแล้ว ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้นการไอเป็นเลือดอาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ได้ ซ่งซีซีจึงยังไม่จากไป แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอหมอหลวงออกมาแจ้งสถานการณ์นอกจากซ่งซีซีแล้ว ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่รอเพื่อกราบทูลเรื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

DMCA.com Protection Status