ซ่งซีซีก็สังเกตเห็นเช่นกัน พอเขากินก็จะไอทันที ไอจนหน้าแดงฉ่ำ เห็นๆ อยู่ว่ากินเผ็ดไม่ค่อยเป็นนี่ แล้วทำไมต้องเลือกร้านอาหารนี้ล่ะนางขยับอาหารที่ไม่เผ็ดวางตรงหน้าเขา "ถึงแม้ท่านจะชอบอาหารเผ็ด แต่วันนี้คอของท่านผิดปกติ หลีกเลี่ยงอาหารจัดก่อน และกินอาหารเบาๆ ให้มากๆ""คอของข้าไม่สบายจริงๆ" เซี่ยหลูโม่กระแอมในลำคอ และรู้สึกถึงความเจ็บปวดอันแสบร้อนที่ยังคงอยู่ในปากของเขา ซึ่งรู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง"ข้าจะให้ผู้บริการนำชามนมแพะมาให้ท่าน" ซ่งซีซีลุกขึ้นเปิดประตูห้องส่วนตัวแล้วตามหาผู้บริการนำชามนมแพะมาให้ถ้วยนึง"นมสามารถบรรเทารสชาติเผ็ดได้" ซ่งซีซียิ้มราวกับกำลังกล่อมเด็กคนนึงอย่างไรอย่างนั้น "ดื่มเร็วๆ สิ"เซี่ยหลูโม่หยิบนมแพะขึ้นมา พอกินเข้าปากก็มีกลิ่นคาว แต่มันเย็นชื่นใจ ก็พอจพกินได้ ที่สำคัญที่สุดคือ นางมีน้ำใจมองออกไม่ได้เปิดโปงออกมา ไม่ได้เปิดโปงความฝืนของเขาและเอาใจเขา นางแตกต่างจากตอนที่อยู่ภูเขาเหม่ยชานอย่างสิ้นเชิงจริงๆแต่เขาก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา เพราะฉากกล่อมให้เขาดื่มนมแพะเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่านางดูแลฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้นให้ดื่มยาแบบนี้มาตลอดกระมัง?เมื่อก่อนนางเคยเห็นผู้คนใ
เซี่ยหลูโม่ยังคงตักอาหารให้นางต่อไป แต่ไม่ได้ตอบคำถามของนางซ่งซีซีเก็บความสงสัยไว้ ถึงยังไงมันก็ไม่สำคัญมากนักเขาก็ให้คำตอบด้วยรอยยิ้ม "หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงใหญ่ในวันนี้ คิดว่าหัวข้อที่ครอบครัวชั้นสูงในเมืองหลวงจิงนินทาจะเพิ่มขึ้นมาก"ซ่งซีซีมองเขาอย่างไม่แยแส "อืม สตรีผู้สูงศักดิ์หลายคนคงอกหักแน่ๆ เมื่อสนมฮุ่ยไทเฟยประกาศว่าข้าจะแต่งงานกับท่าน หลายคนก็มองข้าด้วยความเกลียดชัง""ก็จะมีคนมากมายที่จะอิจฉาข้า และริษยาข้า" เซี่ยหลูโม่พูดอย่างมีเลศนัยอย่างน้อยจ้านเป่ยว่างจะเสียใจ และเสด็จพี่ก็หวั่นไหวใจด้วย"ไม่หรอก ข้าเป็นแค่ผู้หญิงที่หย่า ใครจะชอบล่ะ"เขาใช้ปลายตะเกียบแตะหน้าผากของนางเบาๆ "เจ้ากำลังจะเป็นพระชายาเป่ยหมิงอ๋องแล้วยังดูถูกตัวเองอีกเหรอ?""โลกก็มองคนเป็นแบบนี้แหละ" นางแตะที่เขาเช่นกัน จากนั้นรีบเอาออกทันที ก่อนยิ้มว่า "ข้าไม่ได้ดูถูกตัวเองหรอก ข้ารู้ว่าข้าโดดเด่นแค่ไหน"เมื่อเห็นรอยยิ้มที่สดใสของนาง ดวงตาของนางเปล่งประกาย เขาก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา แม้ว่านางแค่แกล้งทำ แต่นางยอมแกล้งทำ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเมื่อนางเพิ่งถึงเขตหนานเจียง ดวงตาของนางมักจ
หลังจากกลับจากงานวันเกิดขององค์หญิงใหญ่ ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านก็ล้มป่วยลง นางไข้สูงกลางดึกและพูดอะไรเรื่อยเปื่อยนางหมินตามหาหมอมาในชั่วข้ามคืน และจ้านเป่ยชิงก็ไปหาจ้านเป่ยว่างที่พักอยู่โรงเตี๊ยมกลับมาด้วย ตอนแรกจ้านเป่ยว่างยังคิดว่าเขาโกหกเขา แต่เมื่อกลับมาเห็นท่านแม่ของเขาตัวสั่นไปหมด และเอาแต่พึมพำเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาตระหนักว่าท่านแม่ของเขาป่วยหนักจริงๆยี่ฝางก็เข้ามาดูแลนางอย่างเห็นได้ยาก นางไม่ได้เจอจ้านเป่ยว่างมาหลายวันแล้ว นางมีความภาคภูมิใจในตัวของนางเอง และไม่อยากไปหาเขา โดยคิดว่าที่นี่คือบ้านของเขา ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องกลับมาจ้านเป่ยว่างไม่ได้มองนาง ได้แต่ถามอย่างกังวลว่า "ทำไมจู่ๆ ถึงป่วยกะทันหัน? และยังป่วยหนักเช่นนี้"จ้านเส้าฮวนร้องไห้เสียงดัง "จะเป็นเพราะอะไรได้อีกล่ะ ก็ซ่งซีซีคนนั้นแหละ นางไปงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงใหญ่ด้วย โดยอาศัยที่ตนเองจะแต่งงานกับเป่ยหมิงอ๋อง กลับฉวยโอกาสด่าองค์หญิงใหญ่และท่านหญิงเจียอี้ยกใหญ่…"ทันทีที่คำพูดนี้พูดออกมา ทั้งจ้านเป่ยว่างและยี่ฝางต่างก็มองไปยังจ้านเส้าฮวนด้วยความตกใจจ้านเป่ยว่างเกือบสูญเสียเสียง "อะไรนะ นางจะแต่งงานกับเป่ยหมิ
ในกลางดึกเช่นนี้ สุดท้ายก็ระเบิดแล้ว นางหมินรู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจมาก จึงหันหลังกลับและออกไปเสียงคำรามของชายและหญิงดังมาจากด้านหลัง และพร้อมกับเสียงกรีดร้องของจ้านเส้าฮวนอีกด้วย นางหมินค่อยๆ เดินไปยังห้องโถงใหญ่ของลานด้านใน เมื่อก่อนซ่งซีซีก็นั่งอยู่เก้าอี้นั้นเป็นผู้นำจัดการเรื่งต่างๆ ของครอบครัวงานต่างๆ ที่วุ่นวายซับซ้อน นางมักจะมีความอดทน และปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเมตตาเสมอ แม้ว่าท่านแม่สามีจะอาการกำเริบในตอนกลางคืน นางยังเฝ้าดูแลทั้งคืน วันถัดไปก็ไม่พักผ่อนสักหน่อย ยังคงทำงานต่อดูเหมือนนางจะเหนื่อยไม่เป็นด้วยเลย แต่ใครล่ะที่ไม่เหนื่อย? มันแค่เพียงทนไว้ก็เท่านั้นก่อนหน้านี้นางหมินไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้นางเข้าใจทุกอย่างแล้วนางนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง และมองไปที่ห้องโถงใหญ่ที่ว่างเปล่า เพื่อประหยัดเงิน ระเบียงข้างหน้าแค่จุดโคมไฟเพียงอันเดียว มันส่งแสงส่องที่โต๊ะเก้าอี้อย่างโดดเดี่ยว จวนแม่ทัพแก่งนี้ราวกับหลุมฝังศพนางมีความสุขกับซ่งซีซี ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพื่อตอนที่นางอยู่จวนแม่ทัพ นางให้ความช่วยเหลือกับตนเองไม่น้อยไม่เพียงแต่ด้านวัตถุเท่านั้น ตอนนี้นางทำหน้า
จ้านเป่ยว่างได้เลื่อนตำแหน่ง ยี่ฝางก็หวังว่าตนเองจะได้ดำรงตำแหน่งเป็นขุนนางได้ ต่อให้เป็นแค่ทหารในกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวง หรือไม่ก็หัวกน้ากลุ่มของกองทัพซวนเจียก็ได้นางรู้ดีว่าตนเองทำเรื่องผิด ตำแหน่งสูงๆ นางไม่หวังแล้ว แต่ถึงยังไงสงครามชายแดนเฉิงหลิง นางเป็นคนสร้างผลงานมากที่สุด มองข้ามสงครามของเขตหนานเจียง ให้นางดำรงตำแหน่งงานเล็กๆ ก็มิใช่เรื่องยากตราบใดที่นางยังมียศถาบรรดาศักดิ์อยู่ นางก็ยังสามารถลืมตาอ้าปากขึ้นได้แต่นางคิดง่ายเกินไป แม้แต่ซ่งซีซีก็มียศแบบในนาม ไม่ต้องไปทำงานที่สำนักกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเมืองหลวงจริงๆ และไม่ต้องเข้าร่วมฝึกฝนของกองทัพซวนเจียด้วย แน่นอนว่าหากมีความจำเป็นจริงๆ นางก็ไปได้ นางไม่ต้องไป แต่ไม่ใช่ว่าไปไม่ได้ดังนั้น ยี่ฝางรอเป็นเวลาหลายวัน แต่กลับได้รับเอกสารจากกระทรวงกลาโหมที่ระบุบว่านางโดนไล่ออกจากกองทัพ และผลงานทั้งหมดที่นางสร้างขึ้นในชายแดนเฉิงหลิง ก็ถูกกำจัดไปหมดนางไม่ใช่แม่ทัพยี่อีกต่อไป หรือแม้แต่ทหาร ผลงานที่ชายแดนเฉิงหลิงก็หายไปหมด ราวกับว่านางไม่เคยออกศึกมาก่อนนางจำเป็นต้องคืนตราประทับของแม่ทัพและอาวุธที่ออกโดยกระ
เซี่ยหลูโม่ไปที่สถาบันว่านซงเหมิน และสนมฮุ่ยไทเฟยได้ส่งคนไปตามหาซ่งซีซีให้เข้าวังหลังจากงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงใหญ่ ความคิดที่สนมฮุ่ยไทเฟยมีต่อซ่งซีซีก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ มันยังไม่เพียงพอที่นางเปลี่ยนใจมายอมรับซ่งซีซีเป็นลูกสะใภ้ของนางนางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเวลานาน จนพบว่านางไม่มีวิธีที่จะมารับมือ ซ่งซีซียังกล้าทำตัวกำเริบต่อหน้าองค์หญิงใหญ่เสียอีก ดังนั้นใช้วิธีแบบบังคับก็ไม่ได้ผลดังนั้น นางจึงวางแผนที่จะใช้อารมณ์และเหตุผลเพื่อทำให้นางยอมแพ้โดยสมัครใจเมื่อซ่งซีซีมาถึงตำหนักฉางชุน นางเห็นว่าได้จัดโต๊ะไว้ มีน้ำชาและของว่างเตรียมไว้ให้พร้อม แม้แต่ใบหน้าที่เย่อหยิ่งของสนมฮุ่ยไทเฟยก็ยังฝืนยิ้มออกมามันมองออกว่านางกำลังฝืนยิ้ม เพราะมันดูแข็งมากหลังจากที่ซ่งซีซีคารวะเสร็จ สนมฮุ่ยไทเฟยก็ให้ตนข้างกายออกไปหมด ก่อนจะคุยเล่นกับนาง"ข้าเป็นหวังดีต่อเจ้าจริงๆ นะ เจ้าถูกโม่เอ๋อหลอก โม่เอ๋อมีคนรักในใจตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อก่อนเขาเคยสาบานว่าจะแต่งงานกับคนนั้นให้ได้ นอกจากหญิงคนนั้นแล้ว เขาจะไม่แต่งกับผู้อื่น ใจของเขาไม่มีทางมีที่ว่างให้เจ้า แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่รักตนเอง เจ้าจะมี
นางมองไปที่ใบหน้าที่สวยงามของซ่งซีซี และรูปร่างที่เพรียวบางของนาง มันก็ยากที่จะจินตนาการว่านางจะฆ่าศัตรูเป็นสามท่อนในมีดเดียวอย่างที่โม่เอ๋อพูดเลยจากนั้นนางก็นึกถึงสิ่งที่นางพูดในงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงใหญ่ และถามว่า "วันนั้นที่เจ้าทำให้องค์หญิงใหญ่ขุ่นเคืองใจอย่างนั้น ไม่กลัวนางแก้แค้นเจ้าหรือ?"ซ่งซีซีทำท่าใจเย็น "เสือที่ไม่มีฟันแล้ว ทำไมนางต้องไปกลัวล่ะ"สนมฮุ่ยไทเฟยกล่าวอย่างเย็นชา "เจ้ายังเด็กเกินไป และไม่รู้ฝีมือของนาง นางมีกลอุบายมากมายอยู่ลับหลัง คนแบบนี้ มักจะชอบเล่นลูกไม้ลับหลัง เจ้าคอยดูได้เลย""หากนางเล่นลูกไม้ลับหลังสักครั้ง งั้นเราก็โต้กลับอย่างเปิดเผยให้นางสองครั้ง เราเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ได้ทำผิดอะไร จะมองในแง่เปิดเผยหรือแง่ลับหลัง เราต่างไม่เกรงกลัวหรอก แต่กลับนางนั่นเอง มีเรื่องมากมายที่คนอื่นยังไม่รู้ พอคนมีจุดอ่อนแล้ว งั้นก็รับมือได้ง่ายเลย"ขณะที่นางพูด นางก็กำถ้วยในมือให้แน่นขึ้น จนทำให้มันแตกออกเลย จากนั้นวางเศษถ้วยไว้บนโต๊ะเมื่อเห็นเช่นนี้ หัวใจของสนมฮุ่ยไทเฟยก็สั่นเทา และนางก็งอเอวที่เดิมทียึดตรงเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เมื่อตระหนักว่านี่เป็นสัญญาณของควา
หลังจากที่ซ่งซีซีออกจากวัง นางก็ขึ้นรถม้าและมุ่งหน้าไปยังจวนองค์หญิงใหญ่จริงๆเดิมทีนางก็วางแผนจะไปจวนขององค์หญิงใหญ่ในวันนี้อยู่แล้ว แต่เกิดความล่าช้าเนื่องจากถูกเรียกตัวเข้าวังอย่างกะทันหันแต่ก็ไม่ถือว่าล่าช้าอะไร ยามนี้ก็เลยเที่ยงแล้ว คิดดูแล้วองค์หญิงใหญ่ก็คงตื่นจากการงีบหลับยามเที่ยงแล้ว กำลังมีพลังงานอยู่ ไม่น่าทำให้คนเราผิดหวังในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้จัดการกับสินเดิมที่เอากลับมาจากจวนแม่ทัพ บางอย่างก็ถูกจัดเก็บไว้ บางอย่างก็ถูกขายออก ส่วนสิ่งของที่ขายไม่ได้นั้นก็กองไว้ที่มุมนึงเมื่อแต่งงานกับเซี่ยหลูโม่ จะไม่สามารถใช้สิ่งเหล่านั้นเป็นสินเดิมได้อีก ดังนั้นหลังจากจัดเรียงในคลังเพื่อดูว่าต้องซื้อสิ่งของใดบ้าง ลุงฟูจะได้ทำรายการเอาไว้ท่ามกลางกองสิ่งของเลอะเทอะเหล่านั้น ได้พบอนุสรณ์พรหมจรรย์ที่องค์หญิงใหญ่มอบให้การแกะสลักของสิ่งนี้ดูประณีตจริงๆ และวัสดุที่ใช้ก็มีราคาแพงมากเช่นกัน ถึงขนาดแกะสลักจากหยกเหอเทียนด้วยซ้ำแน่นอนว่า "ของขวัญ" อันล้ำค่าเช่นนี้จะต้องส่งคืนให้กับองค์หญิงใหญ่ตอนที่องค์หญิงใหญ่มอบอนุสรณ์พรหมจรรย์นั้น เป็นเวลาที่ข่าวการตายของท่านพ่อและพี่ชายของนา