Share

บทที่ 156

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านกลับโกรธจนปากบิดเบี้ยว

แม้ว่าทองคำร้อยตำลึงจะมาก แต่พวกเขาไม่ได้ไปที่รบเพื่อรับรางวัลแค่นี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮูหยินผู้เฒ่าจ้านรู้ว่าจ้านเป่ยว่าง อาจได้เลื่อนยศ แต่เนื่องจากรับผิดกับยี่ฝาง บวกกับยี่ฝางนำกองกำลังของเขาไปขัดขวางการโจมตี กระทรวงกลาโหมทั้งให้รางวัลและลงโทษ จึงลงเอยด้วยทองคำร้อยตำลึง นางโกรธมากจนเกือบเลือดออกในสมอง

นางมีสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว หลังจากโกรธครั้งนี้ ก็หมดสติในตอนกลางคืน ต้องรีบเชิญให้หมอไปฝังเข็มในชั่วข้ามคืน จึงค่อยยังชั่ว

แต่เมื่อเห็นว่าต้องซื้อยาจากหมอมหัศจรรย์ดันอีกแล้ว เงินในมือจึงถูกใช้ไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย เงินสำหรับงานเลี้ยงน้ำชาก็ยืมมา ตอนนี้มีทองคำร้อยตำลึงแล้ว นอกจากใช้หนี้ ซื้อยาก็ซื้อไม่ได้มาก

เสี่ยงชีวิตไปต่อสู้ฆ่าฟัน แต่กลับลงเอยแบบนี้ ในตอนแรกฮูหยินผู้เฒ่าจ้านชอบยี่ฝางแค่ไหน ตอนนี้ก็เกลียดแค่นั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นตัวเองเป็นลมและฟื้นขึ้นมา นางกลับไม่ได้เฝ้าอยู่ข้างเตียง อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโกรธว่า "แต่งกาลกิณีอะไรกลับมา? ทำให้สามีไม่ได้รับยศไม่พอ แม้แต่ความกตัญญูกตเวทีขั้นพื้นฐานที่สุดก็ไม่ปฏิบัติตามแล้ว"

"ท่านแม่ ห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ข่าวลือหนาหู ไม่สามารถสยบข่าวลือได้
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ข่าวลือข้างนอกจวนแม่ทัพ ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวตระกูลจ้าน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 157

    จ้านเส้าฮวนรู้สึกหวาดกลัวกับดวงตาที่ดุร้ายของนาง ถอยกลับไปนั่งที่ขอบเตียง น้ำตาแห่งความคับข้องใจตกลงไปที่พื้น "ท่านแม่ นางตบข้า"เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าจ้านเห็นลูกสาวสุดที่รักของถูกตบ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโกรธ "เจ้าสอง ดูภรรยาเจ้าให้ดีด้วย"จ้านเป่ยว่างยืนอยู่ตรงหน้ายี่ฝาง สายตาดูเหนื่อยและในใจก็รู้สึกเหนื่อยกว่า "เจ้าจะลงมือตบคนได้ยังไง? นางพูดอะไรผิดไป เจ้าตำหนินางกี่ประโยคก็พอแล้ว"ดวงตาของยี่ฝางเต็มไปด้วยความผิดหวังและความโกรธ "ข้าตบนางแล้วจะทำไม? นางพูดจามั่วซั่วใส่ร้ายข้า ทำไมเจ้าถึงไม่ว่านาง?""ไม่ใช่ข้าพูดสักหน่อย คนข้างนอกพูดต่างหาก เจ้าเก่งจริงก็ไปตบคนข้างนอกเลย" จ้านเส้าฮวนพูดพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น แววตาเกลียดชัง "เจ้าไม่กล้าตบคนข้างนอก เลยได้แต่มาระบายใส่ข้า เก่งแบบไหนกัน?"ยี่ฝางพูดอย่างแข็งกร้าว "คนข้างนอกจะว่ายังไงก็เป็นเรื่องของพวกเขา ข้าจัดการกับคนข้างนอกไม่ได้ ข้ายังจัดการกับเจ้าไม่ได้? ข้าเป็นพี่สะใภ้รองของเจ้า ในบ้านนี้ ท่านพ่อไม่แยแส พี่ชายคนโตก็อ่อนแอ ดูแลบ้านวุ่นวายไปหมด ท่านแม่ป่วยหนักตลอดแม้แต่เงินซื้อยาก็ไม่มี เจ้ายังตะโกนที่จะซื้อเครื่องประดับซื้อเสื้อผ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 158

    "กำเริบเสิบสาน!"ฮูหยินผู้เฒ่าคนรองโกรธมากจนกระแทกโต๊ะ ไฟสลัว ๆ ที่ลานบ้านคนรอง สองใบหน้าที่โกรธจัดของนางจ้านเป่ยชิงและนางหมินต่างก็ก้มหัวและไม่กล้าพูดอะไรตอนที่ถูกนางด่า"พวกเจ้ามีหน้าอะไรให้ข้าไปจวนเสนาบดีกั๋วกง? แล้วข้าจะมีหน้าไปที่ไหน? ไม่งั้นจะให้ข้าไปบอกนางว่า จ้านเป่ยว่างเสียใจแล้ว แต่งหญิงที่ทำร้ายพ่อปู่กลับมา บ้านไม่สงบสุข ให้นางกลับมาจัดการความยุ่งเหยิง เอาเงินทองของนางมาให้แม่ย่าไปหาหมอต่อ และซื้อเสื้อผ้าสี่ฤดูให้น้องสาวสามีต่อเหรอ?""แม่เจ้าก็พูดออกมาได้ ตอนนั้นต้องการจะหย่านาง ได้เหลือความเมตตาบ้างไหม? แม้แต่สินสอดของก็ยังคิดจะเอา ถ้าฮ่องเต้ไม่มีพระราชโองการหย่าให้นาง พวกเจ้าจะไม่ฮุบร้านของนางทั้งหมดเหรอ? พวกเจ้ามีหน้าไปขอได้เลย ข้าไม่ไป แม้ว่าหน้าข้าจะหนาเหมือยกำแพง ก็ไม่ได้เอามาใช้เป็นคันเหยียบให้พวกเจ้า""ในเมื่อไม่เอาหน้าตากันแล้ว ก็ไปหาพระชายาอ๋องเยี่ยนได้เลย ตอนนั้นการแต่งงานของพวกเจ้าถูกจัดโดยพระชายาอ๋องเยี่ยน ตอนหย่าภรรยาไม่กล้าเชิญพระชายาอ๋องเยี่ยน ตอนนี้ควรไปเชิญแล้วหรือเปล่า? กลัวพระชายาอ๋องเยี่ยนให้คนตีพวกเจ้าออกไป?""หรือว่าตั้งใจจะรังแกพระชายาอ๋องเยี่ย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 159

    ไม่ว่าทุกคนจะพูดยังไง จ้านเป่ยว่างก็จะพูดด้วยใบหน้าเย็นชาเสมอว่า "คนของจวนแม่ทัพห้ามไปหาซ่งซีซีเด็ดขาด"เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าเห็นว่าเขาดื้อรั้น ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าแม่อยากไปหานาง แต่จริง ๆ แล้ว จวนแม่ทัพของเราต้องการวิธีที่จะเอาชีวิตรอด เจ้าดูการกระทำของยี่ฝางสิ ไม่ต้องพูดถึงว่านางสร้างความอับอายให้กับจวนแม่ทัพของเรา ทำให้เราถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยังมีอารมณ์รุนแรงและดุร้าย แม้แต่พ่อปู่ก็สามารถลงมือได้ ถ้าพ่อของเจ้าบอบบางหน่อย กลัวว่าจะตายในเงื้อมมือนาง นางกลับดี ตีคนเสร็จก็หนีกลับบ้านตัวเอง ใหนางหลบไปเถอะ ทางที่ดีต่อไปอย่ากลับมาอีกเลย""ไม่เป็นไรถ้าเจ้าหย่ากับนางได้ แต่เจ้าเป็นคนไปขอร้องให้ฮ่องเต้พระราชทานอภิเษกสมรส" จู่ ๆ ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านก็ตกตะลึงและมองไปที่จ้านเป่ยว่าง " นางทำร้ายพ่อปู่และดูหมิ่นแม่สามี สามารถทูลฮ่องเต้ให้หย่านางได้หรือไม่?"จ้านเป่ยว่างเต็มไปด้วยความหงุดหงิด "พอได้แล้ว ตอนนี้ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฮ่องเต้จะลืมข้าไปแล้ว อีกสามห้าปีถึงจะนึกถึงข้าได้ ข้ายังไปขอพระราชโองการหย่าภรรยา อาชีพการงานของข้าก็คงสิ้นลงแน่"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านตกใจมาก "สามถึงห้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 160

    เฉินฟูดูแลจวนนอกมาหลายปีแล้ว มีความรู้กว้างขวางก็มักจะเดาความคิดได้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "คุณหนู อย่างน้อยก็แน่ใจได้ว่าฮ่องเต้ไม่ต้องการให้ท่านเข้าวังจริง ๆ มิฉะนั้นเขาสามารถออกพระราชโองการแต่งตั้งท่านเป็นนางสนมได้โดยตรงและท่านก็ไม่สามารถขัดขืนได้""ข้ารู้ แต่เขาให้เวลาข้าสามเดือนนี้ เหมือนบังคับให้ข้าต้องแต่งงาน" ซ่งซีซีทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย "ข้าโสดไปทำอะไรให้เขา? ข้าไล่อ่านหนังสือราชโองการก่อนหน้านี้ของท่านพ่อหลายครั้งแล้ว อย่างอื่นไม่สําคัญ สิ่งสำคัญคือถ้าข้าแต่งงาน ลูกเขยสามารถสืบทอดตำแหน่งได้ เขาอยากให้คนอื่นสืบทอดตำแหน่งของท่านพ่อข้าเหรอ?"เฉินฟูกล่าว "ข้าน้อยจำได้ว่าราชโองการยังเขียนไว้ว่าสามารถเลือกหลานที่เหมาะสมมาฝึกฝนได้ ในอนาคตก็สามารถสืบทอดตำแหน่งได้ หรือว่าฮ่องเต้ไม่ต้องการให้คนของตระกูลซ่งสืบทอดตำแหน่ง? เขามีคนที่เหมาะสมที่จะสืบทอดตำแหน่ง? ให้ท่านแต่งงานภายในสามเดือน เขามีตัวเลือกสามีที่เหมาะสมสำหรับท่านแล้ว?"ซ่งซีซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง โดยหมุนนิ้วไปรอบ ๆ ลูกประคำที่แม่ทิ้งไว้เพื่อสงบสติอารมณ์"ถ้าการเดาของคุณลุงฟู่ถูกต้อง ฮ่องเต้ต้องการเป็นผู้ตัดสินผู้สืบท

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 161

    ไม่กี่วันต่อมา ประตูจวนเสนาบดีกั๋วกงก็เกือบจะพังแล้วในอดีตบรรดาฮูหยินในตระกูลขุนนางที่ไม่ค่อยไปมาหาสู่กันในอดีต ตอนนี้ผลัดกันมาเยี่ยมที่บ้าน ไม่ใช่เพราะคำสั่งวาจาฮ่องเต้ แต่เป็นเพราะซ่งซีซีทำผลงานกลับมา แม้ว่าจวนเสนาบดีกั๋วกงจะเหลือนางเพียงคนเดียว แต่ดูเหมือนว่าสามารถยกระดับจวนเสนาบดีกั๋วกงได้ตอนหย่า งานเลี้ยงส่วนตัวของฮูหยินขุนนาง ต่างก็นินทาซ่งซีซี นางกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพูดถึงตอนนี้ ก็ยังถูกพูดถึง แต่พอพูดถึงนางก็ไม่กล้ามีทัศนคติเหมือนเมื่อก่อนแล้วการให้รับแขกไม่ใช่เรื่องยากสำหรับซ่งซีซี ก่อนที่จะแต่งงานไปจวนแม่ทัพ ท่านแม่ให้คนมาฝึกเป็นเวลาหนึ่งปีการเข้าสังคมเป็นเพียงการเล่นละคร ยิ้ม พูดคุย พยักหน้า วนไปวนมาหลายรอบตามหัวข้อคนอื่นทุกคนพูดคุยกันและหัวเราะอย่างมีความสุข ตอนจากกันก็ทำเป็นไม่อยากจากไป พอออกจากจวนไปแล้ว ต่างคนต่างเก็บยิ้ม ขยี้แก้มที่เมื่อย จิบชาแล้วค่อยไปร่วมงานต่อไปเย็นวันนี้ พระชายาอ๋องฮวยและท่านหญิงหลานก็มาด้วยเมื่อนึกถึงของขวัญที่ถูกส่งคืนเหล่านั้น ใบหน้าของซ่งซีซียังคงมีรอยยิ้มอ่อน ๆ ทักทายว่า "ท่านน้าและน้องสาวมาแล้วเหรอ? รีบเข้ามาสิ"เมื่อพระ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 162

    พระชายาอ๋องฮวยและท่านหญิงหลานนั่งเป็นชั่วโมงแล้วจึงจากไป ซ่งซีซีส่งพวกนางออกไปนอกจวน โดยไม่แสดงท่าทีสงสัยเลยเป่าจูรู้สึกเสียใจแทนนาง "คุณหนูมอบของให้ท่านหญิง แต่ถูกพระชายาส่งคืน เห็นได้ชัดว่าตอนนั้นพระชายาดูถูกคุณหนู ทำไมวันนี้คุณหนูถึงต้องทำดีกับพวกนางขนาดนี้?"ซ่งซีซีนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ให้เป่าจูถอดปิ่นของนางออก "เข้าสังคมใครไม่แสดงกัน? แค่ยิ้มและพูดจาสุภาพ ท่านน้าก็ดีกลับข้ามาตลอด ข้าก็ไม่เรื่องจริง ๆ ตัวเองหย่าร้าง กลับไปมอบของให้น้องสาว""แต่ท่านก็ไม่ได้ไปด้วยตนเอง นอกจากนี้ ท่านก็ได้รับการประทานหย่าจากฮ่องเต้ ไม่ใช่โดนหย่า ทำไมจะมอบของให้ไม่ได้?""เป่าจูน้อย จงเปิดใจให้กว้างขึ้น ถ้าคิดมากกับทุกเรื่องนั้นมันเหนื่อย" ซ่งซีซีมองใบหน้าที่เหนื่อยล้าในกระจกทองเหลือง หลายวันมานี้ไม่ได้หยุดจริง ๆ ทุกวันมีคนมาเป็นระลอก ๆนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในเมืองหลวงมีฮูหยินขุนนางเยอะขนาดนี้ และผู้คนที่มีเกียรติมากที่สุดในโลกก็มารวมตัวกันในส่วนนี้ของเมืองหลวงเป่าจูกล่าวว่า "คุณหนูช่างคิดได้"ซ่งซีซีมองตัวเองในกระจก ยิ้มเล็กน้อย และคิดในใจ ถ้าคุณหนูคิดไม่ได้ คงไม่สามารถอยู่รอดได้นานแล้ว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 163

    ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านมาที่นี่พร้อมกับจ้านเป่ยชิงกับนางหมิน รวมถึงจ้านเส้าฮวนทันทีที่ลงจากรถม้า ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านก็ข้อเท้าแพลง นั่งลงที่หน้าจวนเสนาบดีกั๋วกง และเริ่มร้องไห้เสียงดัง"ซีซี ข้าปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนลูกสาวมาโดยตลอด เจ้าไม่เคยได้รับความน้อยใจแม้แต่น้อยในการแต่งงานไปยังจวนแม่ทัพ และข้าก็ไม่เคยตั้งกฎเกณฑ์ใด ๆ ให้เจ้า การหย่าก็เป็นฮ่องเต้ประทาน จะเกลียดข้าได้อย่างไร? เจ้ารู้ว่าข้าต้องใช้ยาของหมอมหัศจรรย์ดันถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ เจ้าไม่อนุญาตให้หมอมหัศจรรย์ดันมารักษาข้า เจ้าต้องการเอาชีวิตของข้าเหรอ"จ้านเส้าฮวนก็ร่วมมือกันร้องไห้ "ใช่ พี่สะใภ้รอง เป็นคนเนรคุณไม่ได้เด็ดขาด ตอนนั้นบ้านของเจ้าถูกสังหาร ท่านแม่กลัวเจ้าจะเสียใจมาก อยู่กับเจ้าทั้งวันทั้งคืน กลางคืนก็นอนกับเจ้า ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปกับเจ้า ทำไมตอนนี้เจ้าถึงใจร้ายขนาดนี้ล่ะ?"ฮูหยินผู้เฒ่าจ้านปิดหน้าอกและร้องไห้ช้ำใจ แต่นางยังคงพูดได้อย่างชัดเจน " ซีซี ในวันหย่าเจ้าบอกว่าเจ้าจะปฏิบัติต่อข้าเหมือนแม่ของเจ้าเสมอ ดังนั้นเมื่อเจ้าหย่าออกจากจวนแม่ทัพ แม่ก็ได้เอาเงินออกจากจวนจนหมดให้เจ้าเพื่อเป็นการชดเชย กลัวว่าเจ้าออกจากจว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 164

    แน่นอนว่าฮูหยินผู้เฒ่าจ้านไม่สามารถตอบได้ นางเคยชดเชยอะไรให้ที่ไหนกัน แม้แต่เข็มด้ายก็ไม่มีนางทำได้แต่ร้องไห้ต่อไปว่า "มีไม่มี ซีซีรู้อยุ่แก่ใจ เจ้าเรียกนางมาถามก็จะรู้เอง""ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ต้องร้องไห้ ถ้ามีการชดเชยบอกแค่สิ่งของชดเชยและจำนวนเงินทองก็พอขอรับ วันนั้นตอนหย่าขุนนางก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย มีไม่มีตรวจสอบก็รู้""ยิ่งกว่านั้น" เฉินฟูพูดต่อด้วยน้ำเสียงสงบ "ฮูหยินผู้เฒ่าบอกว่าปฏิบัติต่อคุณหนูของเราเหมือนลูกสาว ตอนตระกูลซ่งถูกสังหาร ท่านอยู่เคียงข้างนางทั้งวันทั้งคืน คำพูดนี้ไม่เท็จ แต่ก็ไม่เป็นความจริงทั้งหมด ตอนนั้นท่านป่วย เป็นคุณหนูของเราที่อยู่เคียงข้างท่านทั้งวันทั้งคืนเพื่อดูแลและรับใช้ แม้แต่คุณหนูของข้าน้อยแต่งงานไปบ้านท่าน ตั้งแต่ท่านแม่ทัพจ้านเป่ยว่างเริ่มออกรบ คุณหนูของข้าน้อยก็ดูแลท่านเหมือนเดิม นางอยู่ที่จวนของตัวเองน้อยมาก""ประการที่สอง รายได้และรายจ่ายของจวนแม่ทัพไม่สมดุล ไม่มีเงินสำหรับใช้จ่าย เสื้อผ้าของเจ้านายในจวนเป็นเงินติดตัวที่คุณหนูเราเราจ่ายให้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่ผู้เฒ่าจ้านจนถึงน้องสามี ตั้งแต่ห่วงปิ่นผมไปจนถึงรองเท้า ชิ้นไหนที่ไม่ใช่คุณหนูของเราซื้อ แ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1591

    ซ่งซีซีหยุดฝีเท้า หันกลับมากล่าวว่า “คนในครอบครัวของนางปฏิบัติต่อนางค่อนข้างดี เพียงแต่ตอนที่หลานสาวของนางจะออกเรือน เกิดเรื่องสะดุดอยู่บ้าง โชคดีที่ท้ายที่สุดก็แต่งกับบุรุษที่ดี นางคงกลัวว่าตนเป็นหญิงโสดสูงวัย เคยแต่งงานมาแล้วถึงสองครั้ง จะถูกผู้คนติฉินนินทา พลอยทำให้หลานๆ เดือดร้อน และไม่อยากให้พี่สะใภ้ใหญ่ของนางเป็นกังวลด้วย”ข้าตอบรับในลำคอ พลางนึกถึงฮูหยินจีผู้เด็ดเดี่ยวแต่จิตใจดีงามฮูหยินจีมีบุตรชายหนึ่ง บุตรหญิงหนึ่ง ด้านหลังยังมีลูกอนุอีกหลายคน เรือนรองก็เช่นกัน บัดนี้คงยังมีบางคนที่ยังไม่ได้ออกเรือนข้านึกถึงตอนที่ฮูหยินจีจะต้องไปเจรจาสู่ขอให้พวกเขา คงยากลำบากไม่น้อย ต้องเผชิญกับเสียงนินทานานัปการจากภายนอกข้าเห็นนางเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยใจจริง และรู้สึกสงสารในสิ่งที่นางต้องพบเจอ“เจ้าลองคิดดูเถิด” ซ่งซีซีกล่าวข้าพยักหน้า แล้วเหลือบมองภายนอก เห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่แถบนั้น จึงอดถามไม่ได้ว่า “เจ้ามาอยู่กับข้าสองต่อสองเช่นนี้ มิกลัวเนี่ยเจิ้งอ๋องหึงหรือ? เขาไม่รู้หรือไร?”ซ่งซีซีมีท่าทีตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนนึกไม่ถึงว่าข้าจะถามเรื่องเช่นนี้นางอาจไม่คิดจะตอบ เพราะนางก้าวเท้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1590

    เมื่อแม่ทัพใหญ่เซียวได้ฉลองวันเกิดอายุครบแปดสิบปี ข้าก็ได้พบกับซ่งซีซีอีกครั้งก่อนหน้านี้ ข้าก็เคยพบนางหลายครั้ง นางเคยมาที่ชายแดนเฉิงหลิงข้ากับนางดูเหมือนคนแปลกหน้า ไม่มีการพูดคุยกัน เพียงแต่ทุกครั้งที่นางจากไปจากชายแดนเฉิงหลิง ข้าก็มักจะแอบตามส่งนางอยู่ห่างๆใจลึกๆ ที่ทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่อสิ่งใดข้ามักรู้สึกผิดกับนางอยู่เสมอกับยี่ฝางและหวังชิงหรู ข้าก็มีสิ่งที่รู้สึกผิดอยู่เช่นกัน แต่ระหว่างข้ากับพวกนางต่างฝ่ายต่างบาดหมาง โต้เถียงกัน พวกนางเคยทำร้ายข้า ข้าก็เคยทำร้ายพวกนางแต่กับซ่งซีซี มีเพียงข้ากับคนในครอบครัวที่ทำร้ายนาง นางไม่เคยแม้แต่จะทำร้ายพวกเราเลยสักครั้ง แม้แต่หลังจากหย่าขาดกันแล้ว นางจะไม่สนใจอาการป่วยของท่านแม่ก็ได้ แต่นางกลับสอนพี่สะใภ้ใหญ่ให้รู้วิธีขอยาดันเสวี่ยเมื่อข้าได้พบกับนางในงานฉลองวันเกิดแปดสิบปีของแม่ทัพใหญ่เซียว นางได้กลายเป็นพระชายาของเนี่ยเจิ้งอ๋องแล้ว เรื่องราวในราชสำนักนั้น พวกทหารชายแดนอย่างพวกข้าไม่ค่อยใส่ใจนัก แต่เสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ครบครัน แม้แต่เงินเดือนที่เราได้รับก็เพิ่มขึ้น นี่คือผลประโยชน์ที่เห็นได้ชัด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1589

    หลายปีที่ข้าประจำการอยู่ชายแดนเฉิงหลิง ข้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งถึงสองครั้ง บัดนี้ข้ามียศเป็นแม่ทัพ ดูแลทหารนับพันนายข้าไม่เคยกลับเมืองหลวงอีกเลย เมื่อประจำอยู่ที่ชายแดนเฉิงหลิง หากไม่มีพระราชโองการ ย่อมมิอาจกลับได้ตามอำเภอใจข้ายังคงโดดเดี่ยว ไร้ภรรยา ไม่มีใครอยู่เคียงข้างลมทรายแห่งเฉิงหลิงพัดผ่านปีแล้วปีเล่า ทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าข้า จนข้าดูแก่กว่าอายุจริงไปหลายปีข้าเป็นโรคนอนไม่หลับมาหลายปี ต้องพึ่งยาเพื่อระงับจิตใจจึงจะหลับได้บางครั้ง ข้าก็อดไม่ได้ที่จะคิด...หากวันนั้นข้าไม่ก่อเรื่องกับยี่ฝาง ชีวิตของข้าในวันนี้จะเป็นเช่นไร?ข้ากับซ่งซีซี อาจได้เป็นสามีภรรยาที่เปี่ยมด้วยความรัก เป็นที่อิจฉาของผู้คนกระมัง?พวกเราอาจมีลูกที่น่ารัก ข้าทุ่มเทอยู่ในกองทัพ ส่วนซีซีก็ดูแลบ้าน เฝ้ารับใช้พ่อแม่ ดูแลลูกๆ แม้ว่าข้าจะไม่เจริญก้าวหน้าในตำแหน่ง คงเป็นเพียงแม่ทัพชั้นผู้น้อยตลอดชีวิต...แต่นางก็คงจะไม่จากข้าไปแต่ก่อน ข้าไม่รู้เลยว่านางคืออินทรีที่โผบินบนฟากฟ้า ทว่าเต็มใจหักปีกเพื่อข้าคนเดียว คอยดูแลมารดาที่ป่วยหนัก จัดการทุกเรื่องจุกจิกในจวนแม่ทัพของข้าเมื่อข้ารู้ตัว...ข้าจะเสียใจหรื

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1588

    ข้าขอร้องท่านแม่ไม่สำเร็จ ก็หันไปพึ่งท่านพ่อ แต่กลับได้รับการตำหนิที่รุนแรงยิ่งกว่ามิใช่เพียงเท่านั้น พวกท่านเห็นว่าข้าคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ เพราะยังไม่เคยมีโอกาสพูดคุยกับเหลียงจือชุน จึงตัดสินใจให้เขาพาข้าออกไปเที่ยว เพื่อให้เราได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นข้าไม่เต็มใจจะไป แต่ก็ถูกคุณนางข้างกายท่านแม่บังคับให้ขึ้นรถม้าไป อีกทั้งยังกำชับสาวใช้ให้จับตาข้าไว้ อย่าให้พูดจาเสียหายเหลียงจือชุนหน้าตามันเยิ้ม ตอนแรกก็แสดงความเคารพต่อข้าบ้างเล็กน้อยแต่ไม่นานก็เผยนิสัยแท้ วิจารณ์หน้าตาข้าอย่างไร้มารยาท บอกว่าหากข้ามิใช่หญิงงามเช่นนี้ และมิใช่บุตรีตระกูลเสิ่น เขาคงไม่ยอมรับข้าเป็นภรรยาแน่นอนท่าทางอวดดีของเขาทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง หากมีแค่เพียงเท่านี้ ข้าอาจไม่ถึงขั้นคิดทำสิ่งร้ายแรงนักแต่ระหว่างทางกลับ เขาอ้างว่าจะช่วยพาข้าขึ้นรถ แล้วแอบหยิกก้นข้าเข้าอย่างหนึ่งในขณะนั้น เลือดทั้งร่างข้าพุ่งขึ้นหัวเมื่อสบตากับสายตาหยอกล้อของเขา น้ำตาข้าก็พรั่งพรูออกมา ความอัปยศทำให้ข้าทั้งตัวสั่นเทิ้ม เอ่ยวาจาใดไม่ออกเลยสักคำสาวใช้กับสารถีไม่เห็นเหตุการณ์นั้น กลับคิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1587

    ข้าสะดุ้งเฮือก หันหลังกลับไปทันที ก็เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนักใต้เงาไม้ เขาสวมเสื้อผ้าผ้าหยาบสีขาวทั้งชุด ผอมแห้งทรุดโทรม ดวงตายังมีรอยคล้ำอยู่ใต้เบ้าตาเป็นเขา...บัณฑิตที่ขายภาพวาดอยู่ริมสะพานในวันนั้น คนเดียวกับที่ผู้ดูแลสถาบันขงจื้อว่าเป็นศิษย์ที่ไม่เอาถ่าน เลี้ยงหญิงคณิกาแล้วขอลาออกจากสำนัก“เจ้าพูดมั่วแล้ว” ข้าถลึงตาใส่เขา คิดถึงสิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่ ใจก็อดหวั่นไหวไม่ได้ “ข้าไม่เคยได้ยินว่าทะเลสาบนี้มีผี เจ้าหลอกข้า!”ข้าไม่กลัวตาย แต่ข้ากลัวผี ยิ่งกลัวการถูกจมอยู่ใต้โคลนเลนนั่น“ข้ามิได้หลอกเจ้า” เขาเดินออกมา ในลมหนาวทำให้เขาดูบอบบางยิ่งขึ้น “เจ้าดูสิ บริเวณริมทะเลสาบนี้ไม่มีใครเลย มิแปลกหรือ? ทั้งที่ทิวทัศน์ดีถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่มีใครมา?”“นั่นเพราะคนที่มาวัดล้วนมาสักการะ มิใช่มาชมทิวทัศน์ พวกเขากราบพระเสร็จก็จากไป” ข้ากล่าว แต่พลางถอยไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกเหมือนในทะเลสาบลึกนั้นมีบางสิ่งซ่อนอยู่เขาหยุดยืน กล่าวว่า “ผู้ที่มีใจสักการะ ล้วนเคารพฟ้าดินและธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ ใยจะไม่มาชมเล่า? ที่แห่งนี้สมควรจะเปี่ยมด้วยพลังแห่งสวรรค์ กลับกลาย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1586

    ลูกพี่ลูกน้องกับสาวใช้กลับมาตามหาข้า ข้าก็ให้สาวใช้นับเงินสามร้อยอีแปะมอบให้เขา เขายิ้มพลางกล่าวคำขอบคุณข้าเคยคิดว่าเป็นเพียงการพบกันโดยบังเอิญ ไม่อาจเกี่ยวข้องกันอีก คาดไม่ถึงว่าผ่านไปหนึ่งเดือน วันฉลองวันคล้ายวันเกิดของท่านย่า ครอบครัวจัดงานเลี้ยงรับรอง ผู้ดูแลสถาบันขงจื้อก็นำศิษย์คนโปรดของตนมาร่วมงานด้วย...เขาก็อยู่ในกลุ่มนั้นกฎเกณฑ์ธรรมเนียมแห่งเจียงหนานนั้นไม่เคร่งครัดเหมือนเมืองหลวง ยามจัดงานเลี้ยง สตรีก็สามารถออกไปที่เรือนหน้าได้เขาเห็นได้ชัดว่าไม่จำข้าได้...ตอนนั้นข้าคลุมหน้าด้วยผ้าบาง เหลือเพียงดวงตาให้เห็น ไม่จำได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกทว่า เขามิได้อยู่ร่วมงานเลี้ยง เพียงนำภาพหมากู๋ถวายพรอายุวัฒนะมามอบให้ท่านย่า แล้วกล่าวว่ามีธุระที่บ้าน จากนั้นก็ขอลาไปหลังจากเขาไปแล้ว ผู้ดูแลสถาบันก็กล่าวถึงเขาด้วยน้ำเสียงแฝงความเสียดายว่า “เขาเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่น่าเสียดายที่ไม่มุ่งมั่นใฝ่ดี ดื้อรั้นจะลาออกจากสำนัก ข้าคิดจะพาเขามาวันนี้ให้รู้จักกับคนดีมีปัญญา เขากลับไม่เห็นคุณค่า น่าผิดหวังนัก ช่างเถอะ หากอยากลาออกก็ให้ลาไปเถอะ”บิดาข้าปลอบว่า “อย่าได้โกรธเลย ท่านมีศิษย์มากมาย ขาดเขา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status