Share

บทที่ 1074

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
การตายของยี่ฝาง อันที่จริงก็ไม่ได้ทำให้ซ่งซีซีรู้สึกสบายใจแต่อย่างใด

ตอนกลางคืนนางนอนบนเตียง เมื่อหลับตา ลมหายใจก็สม่ำเสมอราวกับว่านางหลับสนิท

แต่นางไม่ได้หลับด้วยซ้ำ

เรื่องราวในอดีตปรากฏขึ้นในหัวของนาง ราวกับผีเสื้อที่บินอยู่บนหน้าผาในหุบเขา นางทำยังไงก็จับมันไว้ไม่ได้

เมื่อใกล้สว่าง นางถึงจะสะลึมสะลือหลับไป

เซี่ยหลูโม่ลืมตาขึ้น อันที่จริงเขาก็ยังนอนไม่หลับ ตอนที่คนนอนหลับ ก็จะผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ แต่ร่างกายของซีซีแข็งทื่อ แค่แสร้งทำเป็นหลับเท่านั้น

แต่ตอนนี้ นางหลับไปแล้วจริงๆ

เขารู้สึกอึดอัดใจมาก ตั้งแต่อภิเษกกับซีซีจนถึงตอนนี้ ระหว่างพวกเขาก็ถือว่ารักกัน แต่เขารู้ซีซี ปิดหัวใจนางไว้เสมอมา เรื่องอื่นจะพูดยังไงก็ได้ เรื่องสำคัญของประเทศพูดกับเขาไม่หยุด มีเพียงเรื่องความรู้สึกของนาง อารมณ์ของนาง ก็มักเก็บซ่อนไว้ในใจเสมอ

นางฝังบาดแผลไว้ในใจ แสร้งทำเป็นมีความสุข นางถึงขนาดไม่กล้าแสดงความสุขออกมาจากใจด้วยซ้ำ นางคิดว่านางไม่มีคุณสมบัติจะมีความสุขอีกต่อไปแล้ว

ไม่ว่ารอยยิ้มของนางจะสดใสแค่ไหน ในแววตาก็มักจะมีร่องรอยของความเศร้าสุดซึ้งซ่อนอยู่ในดวงตาเสมอ ความเศร้านี้ทำให้นางมีสติเป็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1075

    วันต่อมาซ่งซีซีลุกขึ้น ก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนางอย่างนั้น ขี่ม้าออกไปข้างนอกกลับกัน จ้านเป่ยว่างบาดเจ็บหนักและลาราชการ หลังจากจักรพรรดิ์ซูชิงเข้าใจที่ไปที่มาแล้ว ก็ตรัสด่าขึ้นว่า "ถ้ารักเดียวใจเดียวจริงๆ ตอนนั้นคงไม่ทำกับซีซีแบบนั้น ตอนนี้กลับทำร้ายตัวเองเพื่อนักโทษเช่นนี้ แม้แต่หน้าที่ก็ไม่สนใจ ชื่อเสียงของจวนแม่ทัพก็ไม่สนใจ ทั้งไม่ซื่อสัตย์ ทั้งเนรคุณ จะส่งเสริมเขาเพื่ออะไรกัน? คนไม่เอาไหนมันก็ไม่เอาไหนจริงๆ "อู๋ต้าปั้นรู้ว่าฝ่าบาทหลายครั้งที่ยังไม่ยอมตัดใจจากจ้านเป่ยว่าง หนึ่งคือเห็นแก่ท่านแม่ทัพใหญ่จ้าน สองคือต้องการใช้เขามาควบคุมกองทัพซวนเจีย สามคือเพราะชั่วขณะหนึ่งก็ไม่สามารถปลดเขาได้ กลัวว่าจะกระทบต่อนายพลชายแดนเฉิงหลิงตอนนี้ข่าวการถอนกำลังของซีจิงได้แพร่กระจายมาแล้ว ดูเหมือนว่าฝ่าบาทก็น่าจะไม่ตามใจเขาอีกต่อไปและวันนี้ขุนนางในราชสำนักร้องเรียนขึ้น อู๋ต้าปั้นตั้งใจรอผู้ตรวจการสวี่ และพูดเรื่องที่ฝ่าบาททรงพิโรธเพราะเรื่องของจ้านเป่ยว่างออกมาโดยไม่ตั้งใจผู้ตรวจการสวี่ถามถึงสาเหตุ อู๋ต้าปั้นก็ไม่ได้พูดออกมา แต่ผู้ตรวจการสวี่ต้องการสืบก็ไม่ยาก ภายในครึ่งวัน เรื่องร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1076

    หวังชิงหลูนั่งอยู่บนเก้าอี้เป็นเวลานาน สุดท้ายก็เลือกที่จะประนีประนอมและถามเขาว่า "สามารถรับปากข้าสองเรื่องได้ไหม ถ้าเจ้ารับปาก ข้าจะไม่หย่า"จ้านเป่ยว่างถอนหายใจเบา ๆ "เจ้าว่ามา"หวังชิงหลูพูดขึ้นว่า "อย่าพูดถึงซ่งซีซีกับยี่ฝางอีก อย่างน้อยต่อหน้าข้าก็อย่าพูดถึงพวกนาง"จ้านเป่ยว่างเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าช้า ๆ "ได้! "หวังชิงหลูกล่าวพูดขึ้นต่อว่า "เรื่องที่สอง เจ้าต้องปลุกใจให้ฮึกเหิมขึ้นมา กลับไปยังองครักษ์ซวนเท่ ทำหน้าที่รองหัวหน้าของเจ้าต่อไป"จ้านเป่ยว่างมองนาง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ข้าถูกถอดจากตำแหน่งแล้ว จะกลับไปยังองครักษ์ซวนเท่ได้ยังไง? "หวังชิงหลูพูดขึ้นว่า "ข้าจะขอให้พี่สะใภ้ช่วยวิ่งเต้นให้เจ้า ขอเพียงเจ้ารับปากกับข้า หลังจากได้ตำแหน่งคืนมาแล้ว เจ้าจะต้องตั้งใจทำหน้าที่ พยายามให้ได้เลื่อนตำแหน่ง และต่อจากนี้เจ้าต้องเชื่อฟังคำพูดของข้า"จ้านเป่ยว่างส่ายหน้า "ข้าไม่ต้องการให้พี่สะใภ้กังวลเรื่องของข้า อีกทั้งข้าก็เป็นคนที่ฝ่าบาททรงรังเกียจทอดทิ้งแล้ว ถ้าพี่สะใภ้ไปวิ่งเต้นให้ข้าอีก มันจะต้องใช้เงินไม่น้อย และต้องสูญเสียเส้นสายไม่น้อย เส้นสายเหล่านี้เจ้าก็เก็

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1077

    หวังชิงหลูผิดหวังจนหัวใจด้านชา นางไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงมีจุดจบแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าการหย่าเป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าไม่ถึงขั้นสุด ๆ จริง นางก็ไม่อยากไปจากที่นี่ ดังนั้น นางเลยไปหาจ้านจี้ ท่านพ่อสามีกับจ้านเป่ยชิง ท่านลุง ให้พวกเขาไปช่วยพูด ยิ่งไปกว่านั้นยังขอร้องไปถึงฮูหยินผู้เฒ่ารองฮูหยินผู้เฒ่ารองไม่เคยสนใจเรื่องของพวกเขา การตายของนางหมิน ก็ทำให้นางเสียใจมากดังนั้นเมื่อนางได้ยินคำพูดของหวังชิงหลู ก็เห็นด้วยกับนางมาก "กลับไปเข้าร่วมกองทัพใหม่ก็เป็นเรื่องดี ข้าสนับสนุนเขา"หวังชิงหลูรู้ว่าไม่สามารถคาดหวังกับฮูหยินผู้เฒ่ารองได้ แต่คิดว่านางก็เป็นผู้อาวุโส ถ้านางออกหน้าไปโน้มน้าว บางทีจ้านเป่ยว่างอาจจะฟังเพียงแต่เมื่อได้ยินนางพูดแบบนี้ หวังชิงหลูก็ปัดแก้วตกพื้นทันที "ในเมื่อไม่ช่วย ก็ไม่ต้องพูดซ้ำเติมแบบนี้"พูดจบก็ลุกออกไปทันทีจ้านจี้กับจ้านเป่ยชิงก็ไม่ได้โน้มน้าวอะไร ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะเห็นด้วยกับการที่จ้านเป่ยว่างไปเป็นทหารเล็ก ๆ แต่เป็นเพราะขอความช่วยเหลือกับฮูหยินป๋อผิงซีไม่เป็นผล แม้หลังจากแต่งงานแล้ว ทั้งสองตระกูลได้ช่วยเหลือกัน แบบนี้ก็สามารถเสริมสร้างอำนาจให้ยิ่งใหญ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1078

    ต่อมาก็หลี่ฮูหยินพูดขึ้น บอกว่าไม่ต้องตามหาแล้ว ในเมื่อพวกเขาบอกว่าตระกูลว่านไม่มีว่านฉิน ถ้าอย่างนั้นว่านฉินก็เป็นคนใหม่ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลว่านอีกแม้ซ่งซีซีกับเสิ่นว่านจือจะรู้สึกว่าตระกูลว่านใจดำ แต่สิ่งที่หลี่ฮูหยินพูดก็มีเหตุผล ตามาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ทุบตีพวกเขาระบายความโกรธก็ไม่มีความหมายอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ได้ปล่อยให้ว่านฉินมีชีวิตต่อไป ล้มเลิกความคิดฆ่าตัวตาย บอกชื่อคนชั่วคนนั้นออกมา นี่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเดิมทีนางจีรับปากว่าจะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเย็บปัก แต่ตอนนี้ก็มาได้ถูกเวลาแล้วนางยกโจ๊กข้าวฟ่างถ้วยหนึ่งเข้ามา มองดูเด็กสาวไร้ชีวิตชีวาที่นอนอยู่บนเตียงแวบหนึ่ง นางดูซีดเซียว และสวยงาม ความซีดเซียวก็ไม่สามารถปกปิดใบหน้างดงามของนางได้นางจีเข้าไปไม่พูดอะไร เพียงยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นางเช็ดแก้มและมือ จากนั้นลูบผมของนางแต่เป็นว่านฉินที่ขยับตัวออกไป และขดตัวไว้ "สกปรก! "นางพูดคำหนึ่ง นี่เป็นคำแรกที่นางพูดหลังจากมาที่โรงงานเย็บปักซู่เจินนางรังเกียจที่นางสกปรกนางจีจับมือของนางไว้ พูดขึ้นเบา ๆ ว่า "เด็กดี เจ้าไม่สกปรกเลย"ว่านฉินไม่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1079

    เสิ่นว่านจือไปจัดการเรื่องนี้ ตอนนี้ซีซีก็มีเรื่องสำคัญอื่นต้องทำ นั่นก็คือสถาบันการศึกษาสตรีกำลังจะเปิดสอนแล้วซ่งซีซีได้หาอาจารย์มาได้ห้าคนแล้ว หยานหรูอวี้ หลานสาวของไทฟู่ ซวี่ฮูหยิน พี่สะใภ้ขององค์หญิงใหญ่หมิ่นชิง เสิ่นชิงเหอ ฮูหยินใหญเจิ้งกั๋ว และแม่นางตระกูลอู๋ หสายร่วมเรียนขององค์หญิงใหญ่หมิ่นชิงแม่นางอู๋คนนี้ตอนนี้อายุสามสิบแล้ว และคู่หมั้นของนางก็เป็นเพื่อนที่เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ในปีที่พวกเขากำลังเตรียมการแต่งงานก็เสียชีวิตในสนามรบ แม่นางอู๋ก็ไม่เคยพูดเรื่องการแต่งงานอีกเลย และไม่มีความคิดจะแต่งงานอีกศิษย์พี่เสิ่นเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว แต่เขาเป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในแคว้นซาง บุคลิกสง่างาม มีคุณธรรมสูงส่ง มีเขามาเป็นอาจารย์ของสถาบันการศึกษาสตรีก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกลับกัน ด้วยชื่อเสียงของเขา ก็สามารถดึงดูดนักเรียนได้มากขึ้นฮูหยินใหญ่เจิ้งกั๋วถอนตัวจากวงสังคมมาเป็นเวลานานแล้ว ตอนนางยังเป็นสาวก็เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมาก ครั้งหนึ่งเคยเดินทางติดตามสามีไปทั่วทั้งแคว้นซาง รวมถึงตำรา "ภูเขาและแม่น้ำ" เล่มนี้ ปัจจุบันแผนที่แคว้นซางก็เป็นใต้เท้าเจิ้งสามีของนางเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1080

    เซี่ยหลูโม่ได้ยินข่าวลือนี้จากเจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ ตอนนั้นเขาหารือเรื่องงานกับทุกคน เวลาพักชั่วคราว เขาก็เข้าไปดื่มชากับเฉินยีอยู่ข้างใน แล้วคนที่เหลือก็คุยเล่นกันอยู่ข้างนอก จึงได้พูดถึงเรื่องนี้หัวหน้าว่านดำรงตำแหน่งนั้นมาห้าปีแล้ว และเขาต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่ง และได้ข่าวว่าใต้เท้าฉี เจ้ากรมขุนนางเคยมีบ้านเล็กมาก่อน บัดนี้ถูกส่งตัวไปยังสำนักแม่ชีแล้ว และบ้านเล็กนั้นมีลูกสาวคนหนึ่งด้วยดังนั้นทำให้หัวหน้าว่านคิดว่าเจ้ากรมฉีเป็นคนหื่นกาม เลยคิดจะส่งว่านฉิน ลูกสาวตนเองไปเป็นอนุภรรยาให้เขา แต่กลับถูกเจ้ากรมฉีปฏิเสธหัวหน้าว่านเป็นคนชอบคิดต่างๆ นานาอยู่แล้ว โดยคิดว่าฉีฮูหยินใหญ่ขี้อิจฉาและไม่ยอมให้รับอนุภรรยา ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะมอบลูกสาวให้กับเจ้ากรมฉีเล่นสนุกก่อน รอให้พวกเขามีอะไรกัน อย่างลับๆ ไปเลยเขาพยายามอย่างหนักถึงได้ข่าวว่าทุกครั้งที่หยุดงาน เจ้ากรมฉีจะพาฮูหยินของตนเองไปทำบุญหรือไม่ก็เดินเล่นข้างนอก ดังนั้นเขาจึงติดสินบนผู้ดูแลประตูล่วงหน้าถึงรู้ว่าหลังจากที่พวกเขาทำบุญเสร็จก็จะไปบ่อน้ำร้อน เขาเลยแอบส่งลูกสาวไปที่นั่นแต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แม้ว่าเจ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1081

    เสิ่นว่านจือรู้สึกใจหายเลย "แล้วควรทำอย่างไรดีเล่า จะปล่อยให้เขาทำร้ายลูกสาวของเขาต่อไปหรือ? เพื่ออนาคตของตนเอง จะให้ทุกคนต้องเสียสละเช่นนี้ ทำลูกสาวเหมือนสิ่งของแล้วมอบให้ทั้งอย่างนั้น ทำไมเขาต้องให้ว่านฉินฆ่าตัวตาย ตามความคิดเจ้าเล่ห์ของเขา ไม่ใช่ว่าควรจะให้ว่านฉินทำต่อไป... ถุ๊ย ข้าพูดไม่ออกเลย"เซี่ยหลูโม่หยิบตะเกียบขึ้นมา กินไปสองคำแล้ววางมันลง เขาไม่อยากอาหารจริงๆ "เพราะไม่รู้ว่าคนๆ นั้นคืนใคร และเรื่องก็ถูกแพร่กระจายออกไปแล้ว เขาเลยกลัวว่าจะเกิดปัญหาทีหลัง เลยให้ว่านฉินไปตาย และไม่ยอมรับว่าตนเองมีลูกสาวคนนี้ จะได้ไม่ถูกคนอื่นมาจับผิด คาดว่าจะตัดชื่อของนางออกจากรายชื่อครอบครัว"ดวงตาของเสิ่นว่านจือเหมือนจะกำลังลุกเป็นไฟ "ทำอะไรไม่ได้แล้วหรือ ปล่อยให้เขาทำร้ายลูกสาวของตนเองเช่นนนี้ เกิดเรื่องน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ในแวดวงขุนนาง ฝ่าบาทก็ ไม่สนใจหรือ และเสนาบดีมู่ก็ไม่สนหรือ?""มันตรวจสอบได้ ทางหอต้าหลี่ก็ตรวจสอบเขาได้" เซี่ยหลูโม่เหลือบมองที่ซ่งซีซี "แต่ถ้าไม่ต้องการที่จะดึงว่านฉินเข้าไปเกี่ยวข้อง งั้นก็ต้องลงมือจากก้านอื่นของเขา เป็นแค่หัวหน้างานเล็กๆ จากกรมพิธีการ ตำแหน่งเล็ก เขา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1082

    ซ่งซีซีไปที่ร้านจินจิงเพื่อตามหาเถ้าแก่น้อยจินด้วยตนเองเถ้าแก่น้อยจินคนนี้ทั้งฉลาดและบริสุทธิ์ แม้ว่าเขาจะไม่เอาจริงเอาจังกับเงินทุกเบี้ย แต่ก็พยายามหาเงินอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เป็นคนรักชาติด้วย เขาเรียนหนังสือไม่เก่ง ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ไม่เป็น แต่หากเกิดสงครามขึ้นมา เขาก็ยอมบริจาคเงินก้อนใหญ่เขาชื่นชมซ่งซีซีมากและอยากเป็นเพื่อนกับซ่งซีซี แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นซ่งซีซี ในฐานะพ่อค้า มันยิ่งไม่เหมาะที่ไปเยี่ยมถึงที่ บัดนี้ซ่งซีซีมาหาเอง แน่นอนว่าเขาจะต้อนรับอย่างกระตือรือร้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ่อน้ำร้อน เขาพอจะได้ยินมาบ้าง แต่มันเกี่ยวข้องกับความลับของขุนนางมากมาย เขาไม่อาจไปตรวจสอบให้ แค่รู้ว่ามีแม่นางโดนเอาเปรียบตอนนี้ซ่งซีซีบอกว่านางต้องการตรวจสอบเรื่องนี้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็บอกว่ายินยอมร่วมมือพลางตบหน้าอก "วางใจได้เลย ใต้เท้าซ่งกลับไปรอข่าวดีของข้าได้เลย"ภายในครึ่งวัน เถ้าแก่น้อยจินก็ไปที่สำนักกองกำลังเมืองหลวงเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่าลูกค้าผู้มีเกียรติคนหนึ่งได้ทำจี้หยกของครอบครัวหายในบ่อน้ำร้อนอวี้ซานเมื่อหลายวันก่อน และต้องการให้ค่ายลาดตระเวนช่วยค้นหามันให้คน

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1598

    บางครั้งข้าก็สอนศิษย์ทั้งหลายให้กล้าเผชิญหน้ากับชีวิต กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด แต่ตัวข้าเองกลับมิอาจกระทำได้เช่นนั้นหลายปีมานี้ ข้าแทบไม่ได้พบหน้าเขาเลย หากรู้ว่าเขาจะไปที่ใด ข้าย่อมหลีกเลี่ยงไม่ไปเมื่อครั้งที่ข้ายังดื้อดึงอยู่ เคยถูกพี่สะใภ้ตำหนิว่าข้ายังติดหนี้เจ้าสิบเอ็ดฝางอยู่ แต่ในใจข้ากลับไม่ยอมรับนัก ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าน้อยใจไปเพื่ออะไรเล่า? ใครเป็นคนที่ติดหนี้ข้ากัน? ฟ้าดินเมตตาข้าไม่มากพอแล้วหรือ? ทุกสิ่งล้วนเป็นผลจากการกระทำของข้าเองทั้งสิ้นหลายครา ข้าเปิดกระดาษเขียนจดหมาย ตั้งใจจะเขียนถึงเขาเพื่อขอขมาจากใจจริงแต่ยามจับพู่กันลงหมึก พอหมึกหยดลงกระดาษกลับเขียนไม่ออกแม้แต่คำเดียวข้ากลัวว่าจดหมายขอขมานั้นจะดูแปลกประหลาดเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาระแวง หรือแม้แต่ทำให้จ้านเป่ยว่างคิดมากแม้ว่าตอนนี้ ข้ากับจ้านเป่ยว่างจะมิได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้วก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ต้องการทำลายความสงบเช่นนี้ระหว่างนั้น จ้านเป่ยว่างเคยกลับมาสองสามครั้ง อาจเพราะเห็นกองกระดาษที่ถูกขยำทิ้งในห้องหนังสือของข้า เขาจึงสั่งให้เตรียมเหล้าหนึ่งเหยือก กับกับข้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1597

    ข้ามาอยู่ชายแดนเฉิงหลิงได้หนึ่งเดือนแล้ว ก็กำลังครุ่นคิดว่าจะทำสิ่งใดดีในนามแล้ว ข้าคือภรรยาของจ้านเป่ยว่าง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากลับมีน้อยนัก เขามักพำนักอยู่ในค่ายทหาร มีเพียงบางครั้งที่กลับมามองข้าสองสามตาด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีเวลาว่างมากมาย พอจะทำกิจการเล็กๆ ได้ชายแดนเฉิงหลิงนั้นต่างจากที่ข้าคาดไว้เล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าดินแดนชายขอบย่อมแร้นแค้น ขาดแคลนสิ่งของ แต่เหนือความคาดหมาย ที่นี่แทบจะมีทุกอย่างขาย ยกเว้นเพียงเครื่องประดับล้ำค่าและผ้าไหมชั้นดีจากแคว้นสู่เท่านั้นสิ่งเหล่านี้ก็หาใช่ว่าไม่มีไม่ เพียงแต่ว่าหลังจากพ่อค้าเดินทางนำมาถึงแล้ว ก็มักเก็บไว้รอส่งไปขายแก่พวกขุนนางมั่งคั่งในซีจิงชาวบ้านที่ชายแดนเฉิงหลิงซื้อเครื่องประดับเพียงเพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ใจว่าล้ำค่าหรือไม่ข้ากำลังตรองว่าจะค้าขายสิ่งใดดี เพียงแต่ไม่ว่าคิดจะค้าขายอะไร สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือต้องซื้อร้านก่อนมิใช่หรือ?ดังนั้น ข้าจึงพาบ่าวชายและสาวใช้เดินไปตามตรอกซอกซอย ค้นหาร้านค้าที่เหมาะสมการมาครั้งนี้ พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินติดตัวข้ามาด้วย พี่สะใภ้รองกับว่านจือก็ให้มาบ้าง รวมกับเงินที่ข้าเก็บไว้เอง ที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1596

    นายท่านป๋ออันถูกหวังเยว่จางเหน็บแนมอยู่ไม่น้อย ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยเส้าหมิ่นออกมา ให้เส้าหมิ่นไปขอความเห็นใจ ถึงได้ช่วยชีวิตคุณชายเส้าเอาไว้เรื่องราวคลี่คลาย พวกเขาก็กล่าวขอบคุณหวังเยว่จางอย่างสุดซึ้ง แม้จะรู้ว่าถูกจงใจบีบไว้ แต่จะทำเช่นไรได้เล่า ใครใช้ให้บุตรชายของตนประพฤติผิด ไร้คุณธรรม ถูกจับได้คาหนังคาเขาเล่า?เส้าหมิ่นรู้ว่ามารดาของตนเคยกลั่นแกล้งเสี่ยวอวี่ เขาจึงอดทนไว้ก่อน รอจนแต่งงานแล้วจึงกล่าวขอแยกเรือนทันทีเขามิได้ทะเลาะกับทางบ้าน เพราะราชสำนักแคว้นซางสอบคุณธรรมข้าราชการเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณธรรมแห่งความกตัญญู หากมีตราบาปว่าอกตัญญู วันหน้าอย่าหวังจะยืนหยัดในวงราชการเหตุผลที่เขาขอแยกเรือนก็สมเหตุสมผล กล่าวว่าสำคัญต่ออนาคต การสอบใกล้เข้ามาแล้ว คนในเรือนมากเกินไปย่อมรบกวนสมาธิ หากแยกเรือนไปจะได้เตรียมสอบอย่างสงบเพราะเขาเป็นบุตรที่กตัญญูมาโดยตลอด อีกทั้งฮูหยินเส้าเพิ่งก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา รู้ดีว่าเบื้องหลังของหวังจืออวี่มั่นคงนัก จึงมิได้ขัดขวางมากนัก อนุญาตให้พวกเขาแยกเรือนไปเรื่องนี้ถูกจัดการอย่างเงียบเชียบ มิได้ก่อผลกระทบอันใด ไม่มีผู้ใดเอ่ยคำซุบซิบนินทาเด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1595

    ตอนนี้เองที่ข้าพึ่งเข้าใจเจตนาของซีซี เส้าฮูหยินนำคนไปก่อเรื่องถึงตระกูลหวังจนเสียหน้า เช่นนั้นก็ต้องไปขอขมาถึงที่นั่นด้วย และใช้เรื่องที่เส้าซื่อจื่อประพฤติตัวต่ำทรามมาจับจุดอ่อนตระกูลเส้า ต่อจากนี้ ต่อให้จืออวี่แต่งเข้ามา พวกเขาก็จะไม่กล้ารังแกอีกทั้งมีคนหนุนหลัง ทั้งมีเรื่องให้ถือไพ่เหนือกว่าแต่วันนี้ข้ามาเพื่อระบายความโกรธ เป้าหมายก็เส้าฮูหยิน ข้าย่อมไม่ยอมจากไปง่ายๆข้ารอจนปี้หมิงกับคนของเขาออกไปหมด จึงกล่าวกับเส้าฮูหยินว่า “เมื่อครู่ได้ยินท่านพูดว่าจวนป๋อเจวี๋ยของพวกท่านเป็นตระกูลขุนนางผู้ดีฟังแล้วช่างน่าขัน ตระกูลขุนนางผู้ดีที่ไหนจะทำเรื่องล่อลวงภรรยาน้อย บุกบ้านผู้อื่นอาละวาดไร้เหตุผล? วันนี้ข้าตั้งใจจะฉีกหน้าตระกูลเส้าให้ขาดเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าเส้าหมิ่นรักเสี่ยวอวี่ด้วยใจจริง ข้าจึงไม่อยากทำให้เรื่องเลวร้ายจนเด็กทั้งสองต้องอับอาย แต่เรื่องที่เสี่ยวอวี่ถูกกดขี่ ข้าไม่อาจปล่อยผ่านได้ เด็กคนนี้ข้าเสิ่นว่านจือเลี้ยงดูมาเองกับมือ จะยอมให้ใครรังแกไม่ได้ เจ้าอาศัยว่าตัวเองเป็นจวนป๋อเจวี๋ย ก็เลยกล้ารังแกตระกูลหวังที่ไร้บรรดาศักดิ์ ตอนเจ้ารังแกผู้อื่นก็อย่ามาโทษคนอื่

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1594

    ดูสีหน้าของคนตระกูลเส้าหลังจากข้าพูดจบแต่ละคำ…แต่ละคนเหมือนถูกสาปกลายเป็นท่อนไม้ ยืนนิ่งไม่ไหวติง ก็รู้แล้วว่าเหล่าขุนนางใหญ่โตในเมืองหลวงล้วนไม่ให้ตระกูลเส้าเข้าสมาคมด้วย แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำข้าฉวยจังหวะที่เส้าฮูหยินยังตกตะลึง กล่าวเย็นชาต่อว่า “ใครไม่รู้ว่านายท่านสามบ้านข้ารักเสี่ยวอวี่ที่สุด? นางถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจถึงเพียงนี้ นายท่านสามของข้าก็เสียใจแทบคลั่ง ข้าต้องพูดทั้งปลอบทั้งเตือน จึงห้ามเขาไว้ได้ ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาคงไปฟ้องไทเฮาไปแล้ว ในเมื่อข้ามาแล้ว เช่นนั้นใครเป็นคนลงมือ ก็ออกมายอมรับโทษเสีย”หวังเยว่จางมีหลายสถานะในเมืองหลวง แต่ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด ก็คือสามีของข้าเสิ่นว่านจือ ศิษย์แห่งสถาบันว่านซงเหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายคลังยุทโธปกรณ์แห่งกรมทหาร อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งของว่านซงเหมินในเมืองหลวงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลหวัง ถูกจงใจทำให้ดูเลือนราง แต่ในยามจำเป็น ก็ย่อมนำมาใช้งานได้ในบรรดาสถานะทั้งจริงทั้งเท็จเหล่านี้ ต่อให้มีผู้สงสัยว่ามีความเกี่ยวพันกับไทเฮา ก็ย่อมไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เพราะไทเฮานั้นเคารพอาจารย์เหรินแห่งว่านซงเหมินอย่างย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1593

    ข้าชื่อเสิ่นว่านจือ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง ข้าขอระบายเรื่องหนึ่งก่อนเถิดมันช่างเกินจะทนได้แล้ว!ตระกูลเส้าเป็นเพียงจวนป๋อเจวี๋ยเล็กๆ เท่านั้น ฮูหยินตระกูลเส้ากลับกล้าโอหังถึงเพียงนี้ ข้าเสิ่นว่านจือมีชีวิตอยู่มานาน ปากมากปากจัดก็เห็นมาหลายคน แต่พวกสตรีที่ปากมากในหมู่ผู้มีอำนาจ ข้ายังได้พบเพียงไม่กี่คนพอรู้ว่าเสี่ยวอวี่ถูกลากออกไปตบหน้า แล้วถูกกล่าวหาว่าไร้ยางอายไปยั่วยวนบุรุษ ข้าก็แทบอยากจะพังประตูตระกูลเส้าไปเตะใครสักคน ลากคนออกมาแล้วตบกลับให้สาสมใจซีซีเองก็โกรธ แต่เตือนข้าว่าเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว อย่าเพิ่งเอาแต่ระบายอารมณ์ ให้รีบไปดูเสี่ยวอวี่กับหวังชิงหรูก่อน เผื่อว่าทั้งสองจะทำเรื่องไม่คาดฝันต้องยอมรับว่าซีซีเป็นขุนนางมาหลายปี ย่อมมีวิจารณญาณในการแยกแยะเรื่องเร่งด่วนกับเรื่องสำคัญข้าจึงรีบเร่งไปยังตระกูลหวัง แล้วก็ได้รู้ว่าเสี่ยวอวี่กรีดข้อมือ ส่วนหวังชิงหรูก็ไล่สาวใช้ในเรือนออก ข้าจึงรู้สึกทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่จริงอย่างที่คาด หิมะยังไม่ทันตก หวังชิงหรูก็คิดจะแขวนคอตัวเองให้เป็นหมูตากแห้ง ข้าโกรธจนฟาดหน้านางไปหนึ่งฉาดที่จริงช่วงหลังมานี้ข้าเป็นคนอารมณ์ดีมาก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1592

    ข้ารู้ตัวอย่างแท้จริงว่าตนเองผิดมหันต์นั้น...เกิดขึ้นเมื่อใดกันนะ?มิใช่ตอนที่เจ้าสิบเอ็ดฝางกลับมา มิใช่ตอนที่หย่าขาดกับจ้านเป่ยว่าง และก็ไม่ใช่ตอนที่ตระกูลหวังประสบเคราะห์กรรมแต่เป็นตอนที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะออกเรือนตอนที่ตระกูลหวังตกอับ ข้าอยู่ในคุก เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ข้าก็รู้ว่าตัวเองมีเรื่องผิด ข้ายินดีจะขัดเกลาความแข็งกร้าว เปลี่ยนแปลงตนเองแต่ในตอนนั้น ข้ายังไม่อาจเรียกได้ว่าได้สำนึกอย่างแท้จริง เพราะข้ายังคิดว่าทั้งหมดคือเรื่องของตนเอง ต่อให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด ก็เป็นข้าเองที่รับกรรม ใครอื่นล้วนไม่มีสิทธิ์มาตัดสินข้ารู้ดีว่าพี่สะใภ้ใหญ่ต้องลำบากวุ่นวายเพราะความเอาแต่ใจของข้า ต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว ข้าอาจเคยชินกับการที่นางดูแลข้าเช่นนี้ จึงมีทั้งความรู้สึกขอบคุณและเคารพนางแต่เรื่องราวในอดีตของข้า ข้ามิเคยอยากย้อนกลับไปคิด เพราะนั่นคือการทำร้ายตนเอง เป็นความทุกข์ทรมานกระทั่งวันที่อวี่เจี่ยเอ่อร์กำลังจะหมั้นหมาย ข้าจึงเริ่มพลิกดูตัวเองทุกแง่ทุกมุม ให้ความเสียใจแทรกซึมกัดกินหัวใจทุกลมหายใจอวี่เจี่ยเอ่อร์กับคุณชายเส้าหมิ่นแห่งจวนป

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1591

    ซ่งซีซีหยุดฝีเท้า หันกลับมากล่าวว่า “คนในครอบครัวของนางปฏิบัติต่อนางค่อนข้างดี เพียงแต่ตอนที่หลานสาวของนางจะออกเรือน เกิดเรื่องสะดุดอยู่บ้าง โชคดีที่ท้ายที่สุดก็แต่งกับบุรุษที่ดี นางคงกลัวว่าตนเป็นหญิงโสดสูงวัย เคยแต่งงานมาแล้วถึงสองครั้ง จะถูกผู้คนติฉินนินทา พลอยทำให้หลานๆ เดือดร้อน และไม่อยากให้พี่สะใภ้ใหญ่ของนางเป็นกังวลด้วย”ข้าตอบรับในลำคอ พลางนึกถึงฮูหยินจีผู้เด็ดเดี่ยวแต่จิตใจดีงามฮูหยินจีมีบุตรชายหนึ่ง บุตรหญิงหนึ่ง ด้านหลังยังมีลูกอนุอีกหลายคน เรือนรองก็เช่นกัน บัดนี้คงยังมีบางคนที่ยังไม่ได้ออกเรือนข้านึกถึงตอนที่ฮูหยินจีจะต้องไปเจรจาสู่ขอให้พวกเขา คงยากลำบากไม่น้อย ต้องเผชิญกับเสียงนินทานานัปการจากภายนอกข้าเห็นนางเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยใจจริง และรู้สึกสงสารในสิ่งที่นางต้องพบเจอ“เจ้าลองคิดดูเถิด” ซ่งซีซีกล่าวข้าพยักหน้า แล้วเหลือบมองภายนอก เห็นว่าไม่มีผู้ใดอยู่แถบนั้น จึงอดถามไม่ได้ว่า “เจ้ามาอยู่กับข้าสองต่อสองเช่นนี้ มิกลัวเนี่ยเจิ้งอ๋องหึงหรือ? เขาไม่รู้หรือไร?”ซ่งซีซีมีท่าทีตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนนึกไม่ถึงว่าข้าจะถามเรื่องเช่นนี้นางอาจไม่คิดจะตอบ เพราะนางก้าวเท้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1590

    เมื่อแม่ทัพใหญ่เซียวได้ฉลองวันเกิดอายุครบแปดสิบปี ข้าก็ได้พบกับซ่งซีซีอีกครั้งก่อนหน้านี้ ข้าก็เคยพบนางหลายครั้ง นางเคยมาที่ชายแดนเฉิงหลิงข้ากับนางดูเหมือนคนแปลกหน้า ไม่มีการพูดคุยกัน เพียงแต่ทุกครั้งที่นางจากไปจากชายแดนเฉิงหลิง ข้าก็มักจะแอบตามส่งนางอยู่ห่างๆใจลึกๆ ที่ทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่อสิ่งใดข้ามักรู้สึกผิดกับนางอยู่เสมอกับยี่ฝางและหวังชิงหรู ข้าก็มีสิ่งที่รู้สึกผิดอยู่เช่นกัน แต่ระหว่างข้ากับพวกนางต่างฝ่ายต่างบาดหมาง โต้เถียงกัน พวกนางเคยทำร้ายข้า ข้าก็เคยทำร้ายพวกนางแต่กับซ่งซีซี มีเพียงข้ากับคนในครอบครัวที่ทำร้ายนาง นางไม่เคยแม้แต่จะทำร้ายพวกเราเลยสักครั้ง แม้แต่หลังจากหย่าขาดกันแล้ว นางจะไม่สนใจอาการป่วยของท่านแม่ก็ได้ แต่นางกลับสอนพี่สะใภ้ใหญ่ให้รู้วิธีขอยาดันเสวี่ยเมื่อข้าได้พบกับนางในงานฉลองวันเกิดแปดสิบปีของแม่ทัพใหญ่เซียว นางได้กลายเป็นพระชายาของเนี่ยเจิ้งอ๋องแล้ว เรื่องราวในราชสำนักนั้น พวกทหารชายแดนอย่างพวกข้าไม่ค่อยใส่ใจนัก แต่เสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ครบครัน แม้แต่เงินเดือนที่เราได้รับก็เพิ่มขึ้น นี่คือผลประโยชน์ที่เห็นได้ชัด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status