“ปล่อยฉันนะ นายจะทำอะไร อย่านะ” คนกลัวร้องโวยวาย เพราะสถานการณ์ช่างล่อแหลมเสียเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยเต้นรัวไม่รู้จะหลุดพ้นจากตรงนี้ไปได้ยังไง แต่ปิติญาดายิ่งกลัวเมื่อคณินโน้มตัวลงมาจูบเธออีกครั้ง เสียงร้องห้ามหายเข้าไปในลำคอ
ความหอบหวานที่ได้รับจากหญิงสาวช่างยากที่คณินจะหยุดการกระทำได้ เพราะชอบเป็นทุนเดิมจึงอยากสัมผัสเธอไปเสียทุกส่วน เขาชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ชอบผู้หญิงบ้าๆ คนนี้ตั้งแต่ตอนไหนก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่มารู้ใจก็ตอนที่อยู่ในงานแต่งงานของกิ่งดาวนี่เอง ปิติญาดาออกแรงเท่าที่มีผลักชายหนุ่มหวังให้เขาออกห่าง แต่กลับไม่เป็นผลอย่างที่คิด ความรู้สึกวาบหวามเกิดขึ้นภายในร่างกายอย่างยากที่จะควบคุม ทั้งสับสนและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ยิ่งได้สัมผัสคณินก็ยิ่งพอใจ ชายหนุ่มยอมตัดใจถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะเปลี่ยนไปสัมผัสจุดอื่นบนร่างกายของปิติญาดาบ้าง หญิงสาวถึงกับห่อไหล่หลบสัมผัสนั้น “อย่านะ” เสียงห้ามอันสั่นเครือของคนในอ้อมกอดดังขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเสียแล้ว คณินซุกไซ้ไปตามซอกคอหอมกรุ่นของปิติญาดา เขาชปิติญาดาทำอะไรไม่ได้เลย หญิงสาวบิดเร้าร่างกายไปมา ยื่นมือไปสัมผัสศีรษะของคณินหวังผลักให้ชายหนุ่มออกห่างส่วนที่หวงแทนแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม คณินกลายเป็นคนใจร้านเพราะเขาเฝ้าปรนเปรอจนปิติญาดาต้องเผลอร้องออกมาว่าไม่ไหวแล้วชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก มั่นใจว่าเธอนั้นพร้อมสำหรับเขาจึงขยับตัวขึ้นไปนอนทาบทับ แต่ความคิดยังไม่อยากรุกล้ำเข้าไปในตัวเธอตอนนี้ แม้ใจจะอยากทำแบบนั้นก็ตามที ดวงตาของปิติญาดาหยาดเยิ้มด้วยไฟปรารถนา ที่เขาเป็นคนจุดให้เธอ หญิงสาวละลายคล้ายน้ำผึ้ง คณินจับมือเธอมาสัมผัสส่วนที่พองขยายของตัวเองบ้าง ให้รู้ว่าเขาเองก็ทรมานไม่แพ้เธอในตอนนี้นักหญิงสาวถึงกับตาโต อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะให้เธอสัมผัสส่วนนั้นของเขา สิ่งที่อยู่ในมือเธอตอนนี้เต้นตุบๆ ร้อนผ่าว กุมแทบไม่มิด ปิติญาดาเขินอายจะดึงมือกลับแต่คณินกลับรั้งมือเธอไว้ ก่อนจะขยับมือบางที่กุมความเป็นชายของตนขึ้นลง ชายหนุ่มนิ่วหน้าเหมือนคนกำลังเจ็บปวด จนปิติญาดาอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอทำให้เขาเจ็บหรือเปล่า“จะ...เจ็บเหรอ” คำถามแบบซื่อๆ ของหญิงสาวทำให้&nb
“นี่น้ำมนต์ฟังนะ” คำเรียกของชายหนุ่มเหมือนมนต์สะกดให้ปิติญาดานิ่ง“เธอ…ไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ตัวสำรอง แต่เธอคือคนที่ทำให้ฉันรู้สิ่งไหนควรปล่อยวางและสิ่งไหนควรไขว่คว้าต่างหาก”“พูดอะไรของนาย ฉันไม่เข้าใจ”“ก็จริงที่พี่จงใจพาน้ำมนต์ไปงานแต่งงานของบัว ยอมรับว่าพี่เห็นแก่ตัวที่ทำแบบนั้น แต่วันนี้น้ำมนต์ทำให้พี่ได้คำตอบอะไรบางอย่าง”“คำตอบอะไร”“ไม่รู้เหรอ” คณินเลิกคิ้วสูงถาม แต่ปิตญาดาก็ยังจับต้นชนปลายไม่ได้“ถ้าไม่พูดแล้วจะรู้ไหม”“ให้ตายสิ อุตส่าห์ทำไปเป็นชั่วโมงๆ จนน้ำมนต์ร้องครางเป็นลูกแมวยังไม่รู้อีกเหรอ” คำแซวของคณินทำให้ปิติญาดาหน้าแดงซ่าน ก่อนจะทุบอกเขาไปแรงๆ“หยุดพูดแบบนั้นนะคนบ้า”“พี่คิดว่า พี่ชอบน้ำมนต์ได้ยินไหม”“อะ…อะไรนะ ชอบฉัน” คนฟังตาโตเพราะ
ส่วนคู่ฮันนีมูนหวานอย่างภคมณและวศินนั้น หลังจากสิ้นสุดโปรแกรมบนเรือสำราญสุดหรูแล้ว ทั้งคู่ก็ยังไม่มีกำหนดกลับเมืองไทยแต่อย่างใด ขณะเดินลงจากเรือภคมณก็ขอเก็บภาพความประทับใจไว้เสียหน่อย เธอพยายามถ่ายภาพเรือสำราญให้ได้ทั้งลำ ซูมเข้าซูมออกอยู่หลายครั้ง ก่อนจะร้องอุทานออกมาเมื่อพบคนใบหน้าคุ้นๆ ผ่านกล้องถ่ายรูปในมือ“เอ๊ะ...นั่นคุณลุง คุณป้าหรือเปล่า” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวยังถ่ายรูปท่านทั้งสองคนไว้ด้วย ทำไมถึงเห็นพ่อและแม่ของปิติญาดาที่นี่ หรือจะมาเที่ยวเติมความหวานให้กันแบบสองต่อสองเพราะไม่เห็นเงาเพื่อนสักนิด คิดแล้วก็อิจฉา ถ้าแก่ตัวไปเธอยังมีวศินคอยจับมืออย่างห่วงใยแบบนั้นก็คงดีเหมือนกัน“ถ่ายอะไรอยู่ครับ”“อ้อ...ความประทับใจน่ะค่ะ ไว้เรามาล่องเรือกันอีกได้ไหมคะ”“ได้...ถ้าหนูจ๋าท้องเมื่อไหร่ พี่จะพามา” ภคมณส่งค้อนให้สามีไปวงใหญ่ ก่อนจะกลับมาตั้งใจถ่ายรูปอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่เห็นพ่อและแม่ของปิติญาดาอยู่ในเฟรมเสียแล้ว อยู่บนเรือลำเดียวกันมาตั้งหลายวัน แต่กลับไม่เจอกันเลย ส
“กลัวพี่เข้ามาในห้องขนาดนั้นเลยหรือน้ำมนต์”“ปะ...เปล่าสักหน่อย ก็นี่เป็นบ้านพี่คิงส์ น้ำมนต์จะทำแบบนั้นกับเจ้าของบ้านได้ยังไงกัน” น้ำเสียงของปิติญาดาแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวลีบลงไปทุกขณะ หญิงสาวกระชับผ้าขนหนูแน่น หัวใจดวงน้อยสั่นไหวรุนแรง เต้นไม่เป็นส่ำชวนให้เป็นลมเสียเหลือเกิน“แล้วนี่อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ”“เสร็จแล้วค่ะ”“แน่ใจ พี่ยังเห็นคราบสบู่ ติดอยู่บนแก้มน้ำมนต์อยู่เลยนะ”“เอ่อ...งั้นน้ำมนต์ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พูดจบก็ทำท่าจะตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ ขอให้เข้าไปในนั้นได้ทีเถอะ เธอจะนอนในนั้นเลยคืนนี้ แต่คณินกลับดีดตัวขึ้นจากเตียง เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าไปขวางหน้าปิติญาดาเรียบร้อยพร้อมรั้งเธอเข้ามากอดแน่น เนื้อสาวนุ่มนิ่มที่ได้สัมผัส ทำเอาคนหนุ่มหัวใจพองโต“พี่ก็ยังไม่ได้อาบ เอาเป็นว่าเราอาบพร้อมกันดีไหม”“เอ๋...” คนถูกชวนอุทานเสียงสูง ก่อนจะส่ายหน
“จริงครับ จริง” เสียงขาดๆ หายๆ ของคณินเอ่ยตอบกลับไป ก่อนจะครางออกมาเมื่อปิติญาดายกสะโพกขึ้นสูงก่อนจะทิ้งตัวลงมาหนักๆ ชายหนุ่มกดสะโพกเธอค้างไว้แบบนั้นก่อน ไม่นานเธอก็ค่อยๆ ขยับอีกครั้ง คงพอใจที่ได้ฟังคำตอบ แต่สำหรับคณินเขามีแผนจะทำให้ปิติญาดาสารภาพรักเขาเช่นเดียวกัน แต่แผนนั้นคงต้องเก็บไปใช้วันอื่นชายหนุ่มออกแรงพลิกตัวปิติญาดาให้ลงไปนอนบนเตียง ก่อนจะเป็นฝ่ายขึ้นทาบทับและพาเธอไปส่งยังจุดหมายปลายทางของความสุขในรักอีกครั้ง จากนั้นจึงตามเธอขึ้นไปสัมผัสความสุขเช่นเดียวกันบ้าง คืนนั้นทั้งคืนกว่าที่ปิติญาดาจะได้ก้าวลงจากเตียงก็ผ่านไปหลายชั่วโมง ตอนเช้าเธอก็ยังได้รับการปลุกด้วยวิธีพิเศษของคณินอีกต่างหาก เรียกได้ว่าแข้งขาอ่อนไปตามๆ กัน พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็มายืนส่งค้อนให้เขา“คนบ้าเซ็กส์” พูดจบก็ทุบแผงอกชายหนุ่มไปหลายครั้งอย่างเหลืออด ส่วนคณินได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอเท่านั้น ไม่เถียงที่ ปิติญาดาพูดสักคำ ก็เซ็กส์ดีๆ แบบนี้เขาไม่ต้องการก็คงกลายเป็นคนเซ็กส์เสื่อมน่ะสิ แต่ก่อนจะออกจากห้องไป ปิติญาดาก็หันมามองคณินหน้า
รถยุโรปคันสวย แล่นไปตามถนนยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร ความที่บรรยากาศรอบข้างช่างเงียบเชียบจนน่าวังเวงชวนขนหัวลุก มือน้อยๆ ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่จับพวงมาลัยรถอยู่นั้นจึงเอื้อมไปเปิดวิทยุ นิ้วเรียวสวยจิ้มเลือกสถานีมาสักหนึ่งสถานีเพื่อฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อยอย่างไม่เจาะจง สายตาก็ไม่ได้ละไปจากท้องถนนตรงหน้า ก่อนที่หูจะสะดุดกับเพลงที่กำลังดังขึ้น จนหัวทุยๆ ที่จัดแต่งทรงผมมาอย่างสวยงาม แทบจะทิ่มไปกับพวงมาลัยรถ ‘งานแต่งที่ใด เป็นได้แค่แขกรับเชิญ อยากแต่งกับเขาเหลือเกิน ขัดเขินที่ยังไร้คู่…’ ปิติญาดาอยากจะหักพวงมาลัยในมือชนต้นไม้ข้างทางให้รู้แล้วรู้รอด เพลงอะไรช่างเปิดได้ประจวบเหมาะกับชีวิตเธอตอนนี้เสียเหลือเกิน หญิงสาวละมือจากวิทยุมากำพวงมาลัยทั้งสองข้าง ไม่ได้เปลี่ยนสถานีหนีเพลงที่ดังขึ้นแต่เสียดแทงใจดำคนโสดแต่อย่างใด นั่งฟังไปอย่างนั้น ตอกย้ำคนโสดไร้คู่อย่างเธอให้ถึงที่สุดกันไปข้าง อายุอานามก็จะแตะเลขสามเข้าไปทุกขณะ ก็ยิ่งกลัวว่าคานทองนิเวศที่ไม่ต้องการจะหล่นตุ๊บลงมาบนตัก “เฮ้อ!!” เสียงถอนหายใจของคนโสดดังออกมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะสำรวจตัวเองผ่านกระจกมองหลัง เธอไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เสี
ก๊อก! ก๊อก!! ก๊อก!!!“พ่อ แม่คะ นอนกันหรือยังคะ?” เสียงเคาะประตูและน้ำเสียงของลูกสาวที่ดังขึ้น ทำให้ศรชัยและผกามาศยุติการสนทนาจับคู่เอาไว้ก่อน ปิติญาดาเห็นไฟในห้องนอนพ่อและแม่ยังเปิดอยู่จึงอยากจะคุยด้วย จะได้เล่าเรื่องงานแต่งงานของภคมณให้ฟัง “เข้ามาสิน้ำมนต์” เสียงอบอุ่นของผู้เป็นแม่ดังขึ้น ไม่นานประตูห้องบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของปิติญาดาแทรกเข้ามา วันนี้หญิงสาวแต่งตัวสวยสมเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยชุดโทนสีหวานที่เจ้าสาวของงานสั่งมาให้โดยเฉพาะ รูปแบบของชุดก็สวยสมวัย“ไปงานแต่งหนูเต้ยมาเป็นยังไงบ้าง ชื่นมื่นไหม” คนเป็นพ่อเอ่ยถามขึ้นก่อน ส่วนผกามาศก็แอบสังเกตท่าทางของลูกสาวที่ยิ้มแก้มแทบปริ ทำยังกับเป็นเจ้าสาวเสียเองอย่างนั้นแหละ “บ่าวสาวเขาหว้านหวานใส่กัน ตั้งแต่งานยังไม่ได้เริ่ม กระทั่งอัพเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ” เสียงใสๆ เอ่ยบอก อันที่จริงภคมณนั้นส่งการ์ดเชิญมาให้เธอทั้งบ้าน แต่พ่อติดประชุมกับลูกค้าสำคัญจึงไม่ได้ไปด้วย ส่วนแม่ถ้าพ่อไม่ไปมีหรือจะยอมไป มีแต่ใส่ซองฝากเธอไปปึกใหญ่เท่านั้นเอง เพราะทั้งคู่ก็เอ็นดูเพื่อนของเธอคนนี้ไม่น้อย “นี่ค่ะของชำร่วย”“น่ารักเชียว” ผกามาศรับของชำร่วยมาจ
“หืม…ว่าไงจ๊ะ” เสียงอบอุ่นของแม่ขานรับคำเรียกนั้น “ถ้าหนูต้องขึ้นคาน แม่จะอายเขาหรือเปล่า?”“อายทำไม ลูกคนเดียว แม่เลี้ยงได้” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ปิติญาดาไม่มีวันขึ้นคานอย่างที่พูดออกมาอย่างแน่นอน ใครจะยอมให้ลูกสาวเธอครองตัวเป็นโสดได้ สวยๆ แบบนี้ต้องมีคู่แท้สิ “ได้ยินแบบนี้แล้วค่อยรู้สึกดีกับการจะขึ้นคานหน่อย” คนเป็นลูกส่งยิ้มให้ สงสัยวันนี้เธอจะจิตตกเข้าขั้นโคม่าเป็นแน่แท้ พอเห็นภคมณแต่งงานไปก็เก็บมากดดันตัวเองซะอย่างนั้น ใช่เรื่องไหมเนี่ย “เด็กโง่ นี่อย่าบอกนะว่ากลัวพ่อกับแม่โกรธที่ลูกยังไม่มีแฟนหรือจะแต่งงานในเร็ววันนี้น่ะ” ศรชัยเอ่ยอย่างรู้ทันความคิดของลูกสาว จะว่าไปเขานั้นไม่เคยเห็นปิติญาดาพูดเรื่องแบบนี้มาก่อน “ก็มันกดดันนี่ค่ะพ่อ บางอารมณ์น้ำมนต์เองก็อยากมีคนรัก อยากมีครอบครัวเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ บ้างอะไรบ้าง เพื่อนๆ ในกลุ่ม นอกกลุ่มก็แต่งงานมีลูกกันเกือบหมดแล้วด้วย พอมองตัวเองก็ เฮ้อ…ปลง!”“เนื้อคู่คนเราบางครั้งก็อาจมาเร็วมาช้า เจอกันวันนี้พรุ่งนี้แต่งงานก็มีให้เห็น” คนเป็นลูกพยักหน้าให้กับคำพูดของแม่ ก่อนจะเอ่ยเสริมเป็นตุเป็นตะ “นั่นน่ะสิคะ แต่สงสัยเนื้อคู่ของน้ำมนต์จะนั
“จริงครับ จริง” เสียงขาดๆ หายๆ ของคณินเอ่ยตอบกลับไป ก่อนจะครางออกมาเมื่อปิติญาดายกสะโพกขึ้นสูงก่อนจะทิ้งตัวลงมาหนักๆ ชายหนุ่มกดสะโพกเธอค้างไว้แบบนั้นก่อน ไม่นานเธอก็ค่อยๆ ขยับอีกครั้ง คงพอใจที่ได้ฟังคำตอบ แต่สำหรับคณินเขามีแผนจะทำให้ปิติญาดาสารภาพรักเขาเช่นเดียวกัน แต่แผนนั้นคงต้องเก็บไปใช้วันอื่นชายหนุ่มออกแรงพลิกตัวปิติญาดาให้ลงไปนอนบนเตียง ก่อนจะเป็นฝ่ายขึ้นทาบทับและพาเธอไปส่งยังจุดหมายปลายทางของความสุขในรักอีกครั้ง จากนั้นจึงตามเธอขึ้นไปสัมผัสความสุขเช่นเดียวกันบ้าง คืนนั้นทั้งคืนกว่าที่ปิติญาดาจะได้ก้าวลงจากเตียงก็ผ่านไปหลายชั่วโมง ตอนเช้าเธอก็ยังได้รับการปลุกด้วยวิธีพิเศษของคณินอีกต่างหาก เรียกได้ว่าแข้งขาอ่อนไปตามๆ กัน พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็มายืนส่งค้อนให้เขา“คนบ้าเซ็กส์” พูดจบก็ทุบแผงอกชายหนุ่มไปหลายครั้งอย่างเหลืออด ส่วนคณินได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอเท่านั้น ไม่เถียงที่ ปิติญาดาพูดสักคำ ก็เซ็กส์ดีๆ แบบนี้เขาไม่ต้องการก็คงกลายเป็นคนเซ็กส์เสื่อมน่ะสิ แต่ก่อนจะออกจากห้องไป ปิติญาดาก็หันมามองคณินหน้า
“กลัวพี่เข้ามาในห้องขนาดนั้นเลยหรือน้ำมนต์”“ปะ...เปล่าสักหน่อย ก็นี่เป็นบ้านพี่คิงส์ น้ำมนต์จะทำแบบนั้นกับเจ้าของบ้านได้ยังไงกัน” น้ำเสียงของปิติญาดาแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวลีบลงไปทุกขณะ หญิงสาวกระชับผ้าขนหนูแน่น หัวใจดวงน้อยสั่นไหวรุนแรง เต้นไม่เป็นส่ำชวนให้เป็นลมเสียเหลือเกิน“แล้วนี่อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ”“เสร็จแล้วค่ะ”“แน่ใจ พี่ยังเห็นคราบสบู่ ติดอยู่บนแก้มน้ำมนต์อยู่เลยนะ”“เอ่อ...งั้นน้ำมนต์ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พูดจบก็ทำท่าจะตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ ขอให้เข้าไปในนั้นได้ทีเถอะ เธอจะนอนในนั้นเลยคืนนี้ แต่คณินกลับดีดตัวขึ้นจากเตียง เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าไปขวางหน้าปิติญาดาเรียบร้อยพร้อมรั้งเธอเข้ามากอดแน่น เนื้อสาวนุ่มนิ่มที่ได้สัมผัส ทำเอาคนหนุ่มหัวใจพองโต“พี่ก็ยังไม่ได้อาบ เอาเป็นว่าเราอาบพร้อมกันดีไหม”“เอ๋...” คนถูกชวนอุทานเสียงสูง ก่อนจะส่ายหน
ส่วนคู่ฮันนีมูนหวานอย่างภคมณและวศินนั้น หลังจากสิ้นสุดโปรแกรมบนเรือสำราญสุดหรูแล้ว ทั้งคู่ก็ยังไม่มีกำหนดกลับเมืองไทยแต่อย่างใด ขณะเดินลงจากเรือภคมณก็ขอเก็บภาพความประทับใจไว้เสียหน่อย เธอพยายามถ่ายภาพเรือสำราญให้ได้ทั้งลำ ซูมเข้าซูมออกอยู่หลายครั้ง ก่อนจะร้องอุทานออกมาเมื่อพบคนใบหน้าคุ้นๆ ผ่านกล้องถ่ายรูปในมือ“เอ๊ะ...นั่นคุณลุง คุณป้าหรือเปล่า” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวยังถ่ายรูปท่านทั้งสองคนไว้ด้วย ทำไมถึงเห็นพ่อและแม่ของปิติญาดาที่นี่ หรือจะมาเที่ยวเติมความหวานให้กันแบบสองต่อสองเพราะไม่เห็นเงาเพื่อนสักนิด คิดแล้วก็อิจฉา ถ้าแก่ตัวไปเธอยังมีวศินคอยจับมืออย่างห่วงใยแบบนั้นก็คงดีเหมือนกัน“ถ่ายอะไรอยู่ครับ”“อ้อ...ความประทับใจน่ะค่ะ ไว้เรามาล่องเรือกันอีกได้ไหมคะ”“ได้...ถ้าหนูจ๋าท้องเมื่อไหร่ พี่จะพามา” ภคมณส่งค้อนให้สามีไปวงใหญ่ ก่อนจะกลับมาตั้งใจถ่ายรูปอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่เห็นพ่อและแม่ของปิติญาดาอยู่ในเฟรมเสียแล้ว อยู่บนเรือลำเดียวกันมาตั้งหลายวัน แต่กลับไม่เจอกันเลย ส
“นี่น้ำมนต์ฟังนะ” คำเรียกของชายหนุ่มเหมือนมนต์สะกดให้ปิติญาดานิ่ง“เธอ…ไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ตัวสำรอง แต่เธอคือคนที่ทำให้ฉันรู้สิ่งไหนควรปล่อยวางและสิ่งไหนควรไขว่คว้าต่างหาก”“พูดอะไรของนาย ฉันไม่เข้าใจ”“ก็จริงที่พี่จงใจพาน้ำมนต์ไปงานแต่งงานของบัว ยอมรับว่าพี่เห็นแก่ตัวที่ทำแบบนั้น แต่วันนี้น้ำมนต์ทำให้พี่ได้คำตอบอะไรบางอย่าง”“คำตอบอะไร”“ไม่รู้เหรอ” คณินเลิกคิ้วสูงถาม แต่ปิตญาดาก็ยังจับต้นชนปลายไม่ได้“ถ้าไม่พูดแล้วจะรู้ไหม”“ให้ตายสิ อุตส่าห์ทำไปเป็นชั่วโมงๆ จนน้ำมนต์ร้องครางเป็นลูกแมวยังไม่รู้อีกเหรอ” คำแซวของคณินทำให้ปิติญาดาหน้าแดงซ่าน ก่อนจะทุบอกเขาไปแรงๆ“หยุดพูดแบบนั้นนะคนบ้า”“พี่คิดว่า พี่ชอบน้ำมนต์ได้ยินไหม”“อะ…อะไรนะ ชอบฉัน” คนฟังตาโตเพราะ
ปิติญาดาทำอะไรไม่ได้เลย หญิงสาวบิดเร้าร่างกายไปมา ยื่นมือไปสัมผัสศีรษะของคณินหวังผลักให้ชายหนุ่มออกห่างส่วนที่หวงแทนแต่การกระทำกลับตรงกันข้าม คณินกลายเป็นคนใจร้านเพราะเขาเฝ้าปรนเปรอจนปิติญาดาต้องเผลอร้องออกมาว่าไม่ไหวแล้วชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก มั่นใจว่าเธอนั้นพร้อมสำหรับเขาจึงขยับตัวขึ้นไปนอนทาบทับ แต่ความคิดยังไม่อยากรุกล้ำเข้าไปในตัวเธอตอนนี้ แม้ใจจะอยากทำแบบนั้นก็ตามที ดวงตาของปิติญาดาหยาดเยิ้มด้วยไฟปรารถนา ที่เขาเป็นคนจุดให้เธอ หญิงสาวละลายคล้ายน้ำผึ้ง คณินจับมือเธอมาสัมผัสส่วนที่พองขยายของตัวเองบ้าง ให้รู้ว่าเขาเองก็ทรมานไม่แพ้เธอในตอนนี้นักหญิงสาวถึงกับตาโต อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะให้เธอสัมผัสส่วนนั้นของเขา สิ่งที่อยู่ในมือเธอตอนนี้เต้นตุบๆ ร้อนผ่าว กุมแทบไม่มิด ปิติญาดาเขินอายจะดึงมือกลับแต่คณินกลับรั้งมือเธอไว้ ก่อนจะขยับมือบางที่กุมความเป็นชายของตนขึ้นลง ชายหนุ่มนิ่วหน้าเหมือนคนกำลังเจ็บปวด จนปิติญาดาอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอทำให้เขาเจ็บหรือเปล่า“จะ...เจ็บเหรอ” คำถามแบบซื่อๆ ของหญิงสาวทำให้&nb
“ปล่อยฉันนะ นายจะทำอะไร อย่านะ” คนกลัวร้องโวยวาย เพราะสถานการณ์ช่างล่อแหลมเสียเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยเต้นรัวไม่รู้จะหลุดพ้นจากตรงนี้ไปได้ยังไง แต่ปิติญาดายิ่งกลัวเมื่อคณินโน้มตัวลงมาจูบเธออีกครั้ง เสียงร้องห้ามหายเข้าไปในลำคอความหอบหวานที่ได้รับจากหญิงสาวช่างยากที่คณินจะหยุดการกระทำได้ เพราะชอบเป็นทุนเดิมจึงอยากสัมผัสเธอไปเสียทุกส่วน เขาชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ชอบผู้หญิงบ้าๆ คนนี้ตั้งแต่ตอนไหนก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แต่มารู้ใจก็ตอนที่อยู่ในงานแต่งงานของกิ่งดาวนี่เอง ปิติญาดาออกแรงเท่าที่มีผลักชายหนุ่มหวังให้เขาออกห่าง แต่กลับไม่เป็นผลอย่างที่คิดความรู้สึกวาบหวามเกิดขึ้นภายในร่างกายอย่างยากที่จะควบคุม ทั้งสับสนและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ยิ่งได้สัมผัสคณินก็ยิ่งพอใจ ชายหนุ่มยอมตัดใจถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะเปลี่ยนไปสัมผัสจุดอื่นบนร่างกายของปิติญาดาบ้าง หญิงสาวถึงกับห่อไหล่หลบสัมผัสนั้น“อย่านะ” เสียงห้ามอันสั่นเครือของคนในอ้อมกอดดังขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเสียแล้ว คณินซุกไซ้ไปตามซอกคอหอมกรุ่นของปิติญาดา เขาช
“เป็นอะไร” เมื่อเข้ามานั่งในรถได้ชายหนุ่มก็เอ่ยถามเสียงห้วน แต่เธอกลับไม่ตอบอะไรกลับมา คณินสตาร์ทรถแล้วขับออกไปทันที เขาเองก็ไม่ได้สนใจงานแต่งงานนี่สักเท่าไหร่ มาแค่เป็นพิธีเท่านั้น ชายหนุ่มมุ่งหน้าไปยังบ้านของเขา โดยที่ปิติญาดาเอาแต่นั่งกอดอกมองออกไปนอกรถอย่างเดียว แต่พอเห็นประตูรั้วที่ไม่คุ้นตา เธอจึงยอมพูดขึ้น“มาทำอะไรที่นี่”“บ้านฉันไง” ขณะรอให้ประตูอัตโนมัติค่อยๆ เปิดออกคณินก็หันมาตอบ แต่ปิติญาดากลับตีหน้าบึ้งใส่“ไปส่งฉันที่บ้าน ไม่ใช่มาบ้านนาย”“ดึกแล้ว ขี้เกียจขับรถอ้อมไปอ้อมมา เหนื่อย! นอนที่นี่สักคืนจะเป็นไรไป ไหนๆ เราก็แต่งงานกันแล้วนี่” ชายหนุ่มเปลี่ยนแผน หลังจากที่จะกลับลำปางทันทีหลังจากไปงานแต่งงานของกิ่งดาวเสร็จ คงต้องขอพักเอาแรงสักคืน พรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทาง“ก็แค่ในนาม” ปิติญาดาอยากจะกรี๊ดให้ดังลั่นรถ อยู่ๆ คณินก็อ้างสิทธิ์บ้านั่นขึ้นมา แต่ดูเหมือนเธอจะขัดอะไรไม่ได้เสียแล้ว เมื่อรถชายหนุ่มค่อยๆ
“คิงส์...ขอบคุณนะคะที่มา” เสียงที่คุ้นหู ซึ่งดังอยู่ข้างหลังทำให้คณินหันไปมอง วันนี้กิ่งดาวสวยในชุดเจ้าสาวสีหวาน เธอเห็นชายหนุ่มตั้งแต่เข้ามาในงานแล้ว ไม่ชอบใจที่เขาควงผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาด้วย หรือผู้หญิงคนนั้นจะมาดามใจเขา ถึงไม่พอใจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องทำเป็นแม่พระไว้ก่อน ทั้งๆ ที่กิ่งดาวตัวจริงไม่ได้เรียบร้อย อ่อนหวานเหมือนท่าทางที่แสดงออกในตอนนี้สักนิด เธอร้ายกาจกว่าที่ใครๆ คิด“ยินดีครับ”“คุณเป็นไงบ้าง ยังโกรธบัวอยู่หรือเปล่า” สีหน้าและแววตาที่กิ่งดาวแสดงออกบ่งบอกว่าเธอยังคงห่วงใยต่อความรู้สึกเขา เรียกได้ว่าตีสองหน้าชัดๆ คณินมองหน้าอดีตคนรักให้เต็มๆ ตา ทำไมการพบกันครั้งนี้เขาถึงไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดทรมานหัวใจอย่างเช่นก่อนหน้าก็ไม่รู้ได้ คงเป็นเพราะได้เห็นเธอมีความสุขในวันที่ต้องการ ซึ่งเขาไม่มีโอกาสได้ทำให้“วันนี้ผมมาแสดงความยินดี คงไม่เหมาะที่จะพูดถึงอดีต” คณินเอ่ยตัดบท เพราะไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาอีก แต่กิ่งดาวก็ยังไม่ยอมหยุดง่ายๆ เพราะจะทำให้คณินเสียดายที่เขาไม่ค
คืนนั้นร่างสูงใหญ่ของคณินนอนกระสับกระส่ายไปมาบนเตียงกว้าง ชายหนุ่มยกมือขึ้นก่ายหน้าผากอย่างคนคิดไม่ตก พรุ่งนี้คือวันแต่งงานของกิ่งดาว เขากำลังคิดว่าจะไปงานนี้ดีหรือไม่ คำพูดของเขตไทยในตอนนั้นย้อนเข้ามา เขาทำใจได้แล้วในระดับหนึ่งแต่ใช่ว่าจะทั้งหมด ผู้ชายเมื่อผิดหวังเรื่องความรักแบบไม่ทันตั้งตัว ก็เจ็บฝังใจไม่ต่างไปจากผู้หญิงแต่อีกหนึ่งใจก็อยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง เขากำลังสับสนในรักครั้งเก่าและความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับปิติญาดา แต่เสียงเคาะประตูห้องนอนที่ดังติดกันหลายครั้งก็ช่วงดึงให้สติชายหนุ่มกลับมาก๊อก! ก๊อก!!ก๊อก! ก๊อก!! ก๊อก!!คณินลุกจากเตียง เดินตรงไปยังประตู พอเปิดออกก็เห็น ปิติญาดายืนยิ้มอยู่ ท่าทางมีความสุขมากถึงมากที่สุด“มีออเดอร์เข้ามาอีกแล้ว” น้ำเสียงดีใจดังขึ้น พร้อมรอยยิ้มที่มีบนใบหน้าสวยที่ไม่ได้แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางใดๆ“หืม...” คนฟังอุทาน ดูท่าออเดอร์ครั้งนี้จะเป็นของจริง เก่งเหมือนกันนี่นา&