แชร์

ตอนที่ 3

“นั่งลงสิ”

ท่าทางเป็นการเป็นงานของเคลวิน ทำให้เส้นประสาทของเฌอปรางตึงเครียดยิ่งขึ้น

หล่อนค่อยๆ หย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้นวมนุ่มที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของโต๊ะทำงานไม้ของเคลวิน

มือเล็กประสานกันบนตัก ภายในอุ้งมือชุ่มชื้นด้วยหยาดเหงื่อที่ขยันผุดพรายขึ้นมาเพราะความหวาดหวั่นที่กำลังเต้นระริกอยู่ภายในอกจนล้นปรี่

หล่อนค่อยๆ เงยหน้ามองเขา และก็ได้เห็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่ใบหน้าไร้ความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง เส้นผมสีเข้มของเขาหล่นลงมาปรกละที่บริเวณหน้าผาก แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจมันนัก เพราะมือใหญ่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการดึงกระดาษสีขาวที่ถูกเย็บรวมกันสองสามแผ่นออกจากซองสีน้ำตาลเข้มตรงหน้า

“เอาล่ะ ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องสัญญา”

เขาเงยหน้าขึ้นจากกระดาษสีขาวที่วางอยู่เบื้องหน้า ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องมายังหล่อน มีแววตำหนิอยู่ในนั้นกลายๆ

“ความจริงฉันก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้หรอกนะ แต่ในเมื่อเธอคือคนที่จะมาทำหน้าที่เป็นเมียจ้างของฉัน ฉันก็เลยคิดว่า ยังไงก็ต้องตกลงทำความเข้าใจกันเอาไว้เสียก่อน เพราะฉันไม่ใช่คนที่ชอบมานั่งทะเลาะกับผู้ร่วมงานภายหลัง”

ผู้ร่วมงาน...

เฌอปรางสะท้อนในอกยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าสำหรับเคลวิน นอกจากฐานะเด็กในปกครองแล้ว หล่อนก็เป็นได้แค่ผู้ร่วมงานเท่านั้น คงไม่มีสิทธิ์เป็นมากกว่านี้อีกแล้ว

“เมื่อกลางวันฉันเห็นเธอกับดนัทธ์”

“เอ่อ... พี่นัทมาทานข้าวกับหนูค่ะ”

“หลังจากที่เธอเซ็นชื่อลงในสัญญาจ้างแต่งงานฉบับนี้แล้ว ฉันขอห้ามไม่ให้เธออยู่ตามลำพังกับผู้ชายสองต่อสองอีก หรือถ้าเธอสองคนรักกันจริงๆ ก็รอให้สัญญาของเราจบสิ้นลงเสียก่อน”

“เอ่อ... หนูกับพี่นัท เราไม่ได้...”

เขาไม่ได้สนใจจะฟังคำพูดของหล่อนเลยด้วยซ้ำ

“ฉันไม่ได้สนใจหรอกว่าเธอกับดนัทธ์จะมีอะไรยังไงกัน ฉันแค่สนใจชื่อเสียงของตัวฉันเองมากกว่า”

“หนู...”

“เมื่อก่อนนี้ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะผ่านอะไรมาบ้าง แต่นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ชีวิตของเธออยู่ในการดูแลของฉัน เธอต้องหยุดพฤติกรรมที่เสี่ยงจะทำให้ชื่อเสียงของฉันมัวหมอง และปฏิบัติตามคำสั่งของฉันอย่างเคร่งครัด”

คนฟังฝืนยิ้มและก้มหน้าซ่อนน้ำใสๆ ที่เอ่อล้นออกมาจากสองดวงตาเอาไว้ รู้สึกน้อยใจเหลือเกิน

“ทำได้ใช่ไหม เฌอปราง”

“หนู... ทำได้ค่ะ”

“ดีมาก งั้นก็อ่านสัญญาซะ”

กระดาษสีขาวถูกเลื่อนมาตรงหน้าของหล่อน และเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน

“ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจ ถามฉันได้เลย อย่าเก็บเอาไว้ล่ะ”

“เอ่อ... ค่ะพ่อเลี้ยง”

หล่อนไล่สายตาไปตามตัวอักษรที่อยู่ในกระดาษสีขาวสะอาดทั้งๆ ที่น้ำตาเอ่อล้น

เขาทิ้งช่วงเวลาให้หล่อนได้ทำความเข้าใจกับสัญญาจ้างแต่งงานที่เขาเป็นคนร่างมันขึ้นมากับมืออยู่หลายนาที จนมั่นใจว่ามันเพียงพอที่จะทำให้หล่อนเข้าใจ จึงถามขึ้น

“สัญญาเป็นยังไงบ้าง”

หล่อนเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง กะพริบตาถี่ๆ เพื่อขับไล่หยาดน้ำให้หายไปจากดวงตา ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองเขา และฝืนใจระบายยิ้ม

“ก็... ดีค่ะ”

“แสดงว่าเธออ่านสัญญาละเอียดแล้วอย่างนั้นใช่ไหม”

สายตาของเขาจ้องเขม็งมองมาที่หล่อนและรอคอยคำตอบ

“เอ่อ... ค่ะ หนูอ่านสัญญาละเอียดแล้วค่ะ”

"ถ้าอ่านละเอียดแล้ว เธอคงรู้ข้อห้ามทั้งสามข้อที่เธอต้องทำให้ได้แล้วใช่ไหม"

"ค่ะ หนูทราบแล้วค่ะ"

"งั้นลองบอกฉันมาสิ ว่าข้อห้ามมีอะไรบ้าง"

หล่อนช้อนตาขึ้นมองผู้มีพระคุณด้วยสายตาที่ซ่อนความเศร้าเอาไว้แทบไม่มิด

"ข้อแรก หนูไม่มีสิทธิ์ในตัวของคุณค่ะ"

"ถูกต้อง"

เขายิ้มอย่างพอใจ

"แล้วข้อสองล่ะ"

หล่อนกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก

"ห้ามรักคุณค่ะ"

เขายิ้มอย่างพอใจอีกแล้ว

"แล้วข้อสามล่ะ"

"ห้าม... เอ่อ... ห้ามปล่อยให้ท้องค่ะ เพราะถ้าท้อง คุณจะไม่รับผิดชอบ"

"ถูกต้อง และฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด"

หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากฝืนยิ้มออกไป

"แล้วถ้าครบสัญญาหกเดือนแล้ว เอ่อ... หนูต้องไปจากที่นี่ไหมคะ"

"ฉันคิดว่ามันจะดีสำหรับเราสองคน หากไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก หรือเธอคิดว่าไงล่ะ"

ท่าทางของเคลวินเย็นชา ไร้หัวใจ ทำราวกับกำลังเจรจาธุรกิจไม่มีผิด

"เอ่อ หนูแล้วแต่พ่อเลี้ยงค่ะ"

เธอทำได้แค่ฝืนยิ้ม ซ่อนน้ำตา ให้กับผู้ชายที่ตนเองทั้งรักทั้งบูชาเท่านั้น

“งั้นก็เป็นอันว่าเราสองคนพอใจกับสัญญาจ้างแต่งงานฉบับนี้ ถูกต้องนะ”

หล่อนก้มหน้าลงมองมือเล็กของตัวเอง พยายามซ่อนความเสียใจจากสายตาของเคลวินอย่างสุดความสามารถ

“ค่ะ”

“ขอบใจเธอมากนะ สำหรับความมีน้ำใจของเธอ”

“หนู... ทำทุกอย่างเพื่อพ่อเลี้ยงได้อยู่แล้วค่ะ เพราะ... พ่อเลี้ยงมีพระคุณท่วมหัวของหนู”

เขาระบายยิ้มบางๆ สายตาที่มองหล่อนนั้นเย็นชา

“เรื่องบุญคุณอย่าคิดมากเลย ฉันดูแลเธอก็เพราะมนุษยธรรมน่ะ เพราะถึงไม่ใช่เธอ ฉันก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน”

“ยังไง... หนูก็ต้องขอบคุณอยู่ดีแหละค่ะ”

หล่อนจำต้องฝืนยิ้มออกมากับคำพูดไร้หัวใจของผู้ชายหล่อเหลาตรงหน้า ทั้งๆ ที่ภายในอกเต็มไปด้วยรอยแผลเหวอะหวะ

“เอ่อ... ถ้าพ่อเลี้ยงไม่มีอะไรแล้ว หนู... ขอตัวนะคะ”

หล่อนพูดขึ้นหลังจากเซ็นชื่อลงในสัญญาเรียบร้อยแล้ว

“อย่าเพิ่งสิ เรายังไม่ได้คุยเรื่องจำนวนเงินที่เธอจะได้รับหลังจากสัญญาฉบับนี้จบเลยนะ”

เคลวินไม่ได้ใส่จำนวนเงินลงในสัญญา นั่นเป็นเพราะเขาต้องการสอบถามความคิดเห็นของเฌอปรางก่อน

“เอ่อ... หนูไม่เอาหรอกค่ะ”

คิ้วหนาดกที่พาดอยู่เหนือดวงตาคมกริบดุกระด้างของเคลวินเลิกสูง

“แต่ฉันคิดว่าเธอควรจะรับมันเอาไว้”

“แต่หนู...”

หล่อนกำลังจะปฏิเสธ แต่เขาแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเสียก่อน

“อย่างน้อยๆ ก็ถือว่าเป็นค่าตัวของเธอ เฌอปราง”

ความตื่นตกใจในดวงตาคู่งามของเด็กสาวที่ตนเองอุปการะเอาไว้มีผลแปลกๆ กับหัวใจหนุ่มไม่น้อย แต่ความเห็นแก่ตัวที่ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยความแค้นทำให้เขาเลือกที่จะไม่ไยดีกับมัน

“ขอโทษนะที่ฉันต้องพูดตามตรง แต่ฉันไม่อยากให้เธอปฏิเสธสิ่งที่เธอควรจะได้รับมัน”

“หนู... แล้วแต่พ่อเลี้ยงค่ะ”

เขามองเด็กสาวที่ก้มหน้ามองโต๊ะไม้ราวกับบนนั้นมีลายแทงสมบัติพันล้านด้วยความไม่พอใจนัก

“เธอควรจะหัดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งบ้าง อย่างน้อยๆ ก็ต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ไม่ใช่ตามใจฉันแบบนี้”

“เพราะหนู... รักและเคารพพ่อเลี้ยงค่ะ”

เคลวินมองหล่อนแค่แวบเดียว ก่อนจะก้มลงจิ้มนิ้วลงบนแป้นโทรศัพท์มือถือที่เขาเปิดโปรแกรมคำนวณเลขเอาไว้

เฌอปรางเงยหน้าขึ้นมองเขา เรียวปากแห้งผากราวกับคนขาดน้ำ กระบอกตาก็ปวดแสบปวดร้อนเหลือเกิน จนแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

ท่าทางของเคลวินไม่ได้สนใจไยดีอะไรต่อความรู้สึกของหล่อนเลยแม้แต่น้อย

ทุกอย่างคือการจ้าง และเขาก็กำลังคำนวณเม็ดเงินที่สมควรจะจ่ายให้กับลูกจ้างหัวอ่อนเช่นหล่อน

“ฉันจ้างเธอหกเดือน ก็ประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบวัน... งั้นถ้าฉันจ่ายเธอสักเก้าล้าน ก็เท่ากับว่าเธอทำงานได้รับค่าจ้างวันละห้าหมื่นบาท... ราคานี้โอเคสำหรับเธอไหม เฌอปราง”

หล่อนควรตื่นเต้นกับยอดเงินที่หลุดออกมาจากปากของเขา แต่ทำไมนะ เงินเก้าล้านมันถึงไม่มีคุณค่าอะไรกับหล่อนเลย หากมันต้องแลกกับการที่ต้องเดินออกไปจากที่นี่ และไม่ได้เห็นเคลวินอีกตลอดกาล

“หนู... แล้วแต่พ่อเลี้ยงค่ะ”

“แล้วแต่ฉันอีกแล้ว” เขาทำเสียงดุใส่

“ก็หนู... ไม่รู้ว่าควรจะรับเงินเท่าไหร่ดีน่ะค่ะ”

“โอเค งั้นก็ตามนี้นะ ฉันจะจ่ายให้เธอทันทีเก้าล้านบาท หลังจากสัญญาจบลง ซึ่งก็หมายถึงในอีกหกเดือนข้างหน้า”

“หนู... ขอแค่หนึ่งล้านก็พอค่ะ”

“ไหนว่าแล้วแต่ฉันไงล่ะ เฌอปราง”

เขาดุ และทำให้หล่อนต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาคมกริบ

“เอ่อ... งั้นแล้วแต่พ่อเลี้ยงค่ะ” หล่อนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

เสียงถอนใจแรงๆ ดังออกมาจากปากหยักสวยของคนตัวโต และเขาก็จ้องมองมาที่หล่อนด้วยสายตาไร้ความรู้สึก

“แล้วเธอจะถามฉันไหมว่าเธอต้องย้ายมาอยู่ในห้องของฉันเมื่อไหร่”

“เอ่อ... หนู...” ดวงหน้านวลซีดสลับแดงระเรื่อ

“ถ้าไม่ถาม ฉันบอกเองก็ได้...”

ใบหน้าหล่อจัดของเคลวินยื่นเข้ามาใกล้ อะไรบางอย่างในดวงตาของเขาทำให้กายสาวร้อนผะผ่าว

“พรุ่งนี้... คืนพรุ่งนี้”

“พรุ่งนี้เลยเหรอคะ?!”

“หรือว่าเธออยากย้ายมาคืนนี้เลยล่ะ”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status