“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะคุณเคลวิน”
เชอร์รี่และนกสองสาวประเภทสองเดินยิ้มร่าเข้ามาพบเคลวินเพื่อมารับค่าจ้าง
“แล้วตอนนี้เฌอปรางอยู่ไหนล่ะครับ”
“ตอนนี้คุณน้องเฌอปรางกำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ อีกสักพักก็น่าจะพร้อมแต่งหน้าทำผมค่ะ”
เคลวินยกชาร้อนขึ้นจิบ ก่อนจะหยิบเช็กเงินสดให้กับสองสาวประเภทสอง
“นี่ค่าจ้างของพวกคุณ รถรออยู่แล้วที่หน้าบ้าน”
“อุ้ย ขอบคุณมากนะคะคุณเคลวิน”
สองสาวประเภทสองยิ้มแฉ่งเมื่อเห็นยอดเงินในกระดาษใบเล็กที่เคลวินส่งให้
“ครับ”
“เอ่อ... งั้นพวกเราลากลับก่อนนะคะ ถ้ามีงานให้พวกเรารับใช้อีก เรียกใช้ได้เลยค่ะ พวกเราจะลดค่าบริการให้สามสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ”
เคลวินอมยิ้มบางๆ ในขณะที่สองสาวประเภทสองขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่ก่อนจะไปก็อดที่จะพูดทิ้งท้ายไม่ได้
“คุณน้องเฌอปรางผิวเนียนมากเลยนะคะ แถมหุ่นก็ยิ่งดีมากๆ อีกด้วย คุณเคลวินโชคดีจังค่ะ”
เคลวินยิ้มให้เหมือนเดิม และก็ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
“งั้นพวกเราลากลับจริงๆ แล้วค่ะ”
“ครับ”
สองสาวประเภทสองมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนที่จะพากันเดินออกมาจากห้องโถงกว้าง มุ่งหน้าตรงไปยังรถที่จอดติดเครื่องยนต์รออยู่
“นี่แกว่าไหมนังเชอร์รี่”
“ว่าอะไรนังนก”
“ก็คุณเคลวินน่ะสิ ทำไมดูท่าทางเฉยๆ ไม่เห็นแสดงความยินดียินร้ายอะไรเลย นี่ฉันอุตส่าห์ชื่นชมน้องเฌอปรางให้ฟังแล้วนะ ถ้าเป็นผู้ชายทั่วไป คงจะยิ้มหน้าบานไปแล้ว”
“ใช่ๆ ฉันก็ว่ามันแปลกๆ ท่าทางเย็นชา เหมือนไม่ได้รักไม่ได้ชอบน้องเฌอปรางอ่ะ”
“งั้นข่าวลือที่เขาว่ากันว่าคุณเคลวินเลือกเด็กในปกครองมาทำเมียก็เพราะต้องการประชดเมียเก่าคงจะเป็นความจริงน่ะสิ”
“ชัวร์ป้าบ”
สองสาวประเภทสองเม้าท์มอยกันอย่างสนุกปาก ก่อนจะก้าวขึ้นรถ และออกไปจากไร่ชาในที่สุด
เฌอปรางมองตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาบานใหญ่ด้วยดวงตาเบิกกว้าง เพราะคนในกระจกตรงหน้าคือหญิงสาวผู้งามหยดย้อย ต่างจากเด็กกะโปโลเช่นหล่อนนัก
เส้นผมสีดำขลับที่เคยเหยียดตรงยาวสลายจนถึงบั้นเอว ตอนนี้มันถูกช่างทำผมไดร์ม้วนจนเป็นลอนสวยงาม ส่วนใบหน้าขาวเนียนที่ไม่เคยผ่านเครื่องสำอางใดๆ มาก่อนถูกแต่งแต้มละเลงสีสันจนสวยสดเหมือนไม่ใช่หล่อนคนเดิมอีกแล้ว
“ตายแล้วคุณน้อง... สวยหยดย้อยอะไรเบอร์นี้คะ”
ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมประสานเสียงกันอย่างตื่นเต้นดีใจ กับผลงานของพวกตนเอง ในขณะที่หล่อนทำได้แค่ยิ้มเศร้าหมองเพียงเท่านั้น
“คุณน้องนี่แต่งหน้าขึ้นมากๆ ไหนๆ ลองยืนขึ้น แล้วหมุนตัวให้พวกพี่ดูอีกครั้งสิคะ”
หล่อนตามคำสั่งของสองคนนั้นราวกับหุ่นยนต์ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นยินดีอะไรเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อรู้ดีว่า อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า หล่อนจะต้องกลายเป็นหุ่นเชิดของเคลวิน
“แหม หน้าก็สวย หุ่นก็สะบึ้มมาก นี่พี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องเฌอปรางจะอายุแค่สิบแปดจริงๆ”
“นั่นสิ หุ่นดีสุดๆ นมเป็นนม ตูดเป็นตูด แถมเอวก็เล็กจริงๆ นี่พี่แต่งหน้าแต่งตัวให้กับผู้หญิงมาเป็นพันคนแล้ว น้องเฌอปรางนี่แหละหุ่นดีสุด”
หล่อนควรจะดีใจใช่ไหม แต่กลับยิ้มไม่ออกเลยสักนิด
“คุณเคลวินจะต้องตกตะลึงแน่นอน เชื่อพวกพี่สิ”
ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมต่างมองผลงานของตัวเองด้วยความพึงพอใจ และก็ขอถ่ายรูปเพื่อไปโปรโมทผลงานของตัวเอง ซึ่งหล่อนก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
“เอียงหน้าทางซ้าย แล้วยิ้มหน่อยค่ะน้องเฌอปราง”
ดวงหน้างามที่ตอนนี้หวานราวกับภาพวาดของนางสวรรค์จำต้องแย้มยิ้ม
“เอียงทางซ้ายเพิ่มอีกนิดค่ะ โอเค แบบนั้นแหละ พระเจ้า น้องเฌอปรางสวยจนพี่สองคนใจสั่นไปหมดแล้วเนี่ย”
น้ำเสียงของพี่สองคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่เฌอปรางกลับทำได้แค่ฝืนยิ้มเท่านั้น
“โอเค ถ่ายรูปเสร็จแล้ว เดี๋ยวพวกพี่พาน้องเฌอปรางออกไปพบคุณเคลวินเลยนะ”
“เอ่อ...” หล่อนอึกอัก เพราะยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขา
“ไม่เอ่อไม่อ่าค่ะน้องเฌอปราง ไปค่ะ”
แขนของหล่อนถูกรั้งเบาๆ จากช่างแต่งหน้าและช่างทำผมคนละข้าง บังคับให้หล่อนก้าวออกมาจากห้อง แต่ชุดราตรีสีทองคำที่เคลวินสั่งให้สวมใส่มันยาวและผ่าสูงมาก ทำให้หล่อนเดินไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร
“มาแล้วค่า... คุณเคลวิน”
เคลวินยืนคุยโทรศัพท์ และหันหลังให้อยู่ เขาอยู่ในชุดสูทสีทองพอดีซึ่งเป็นสีเดียวกับชุดที่หล่อนสวมใส่ และหล่อบาดตาจนทำให้คนมองอย่างหล่อนแทบหยุดหายใจ
มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง... หล่อนไม่เคยต้านทานเสน่ห์แห่งบุรุษเพศของเคลวินได้เลย
เขาหย่อนโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหมุนตัวกลับมามองหล่อนเต็มๆ ตา
หล่อนคาดหวังว่าจะได้เห็นแววตาชื่นชมจากดวงตาสีน้ำตาลเข้มบ้าง แม้จะแค่เล็กน้อยก็ยังดี แต่... หล่อนกลับมองไม่เห็นสิ่งที่ต้องการเลย ในแววตาของเคลวินมีแต่ความเย็นชาไร้ความรู้สึก
เฌอปรางรู้สึกราวกับถูกจับร่างโยนลงไปในเหวลึกที่เต็มไปด้วยมีดแหลมคม ความเสียใจ ความน้อยใจ ความผิดหวังประดังประเดเข้ามาแน่นอก
สำหรับเคลวินแล้ว ไม่ว่าหล่อนจะแปลงโฉมยังไง ในสายตาของเขา หล่อนก็เป็นได้แค่เด็กกะโปโลในไร่คนหนึ่งเท่านั้น
อีกาไม่มีวันเปลี่ยนไปหงส์ฉันใด หล่อนก็ไม่มีทางเข้าไปอยู่ในหัวใจกระด้างของเขา แทนณิชาได้ฉันนั้น
“สวยไหมคะ คุณเคลวิน”
“ครับ”
“แหม ทำไมไม่เห็นตื่นเต้นเลยล่ะคะ นี่พวกเราอุตส่าห์แปลงร่างเด็กสาวให้กลายเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวอย่างสุดฝีมือเลยนะคะ แต่แหม น้องเฌอปรางนี่ผิวดีเป็นบ้าเลยค่ะ ทาอะไรไปก็เนียนเข้ากับสีผิวไปหมดเลย อ้อ... แล้วที่เห็นตูมๆ นั่น...” ช่างแต่งหน้าชี้มาที่บริเวณหน้าอกของหล่อน
“ของจริงนะคะ ไม่มีทิชชูยัดเลยค่ะ”
หล่อนอับอายจนต้องก้มหน้ามองพื้น ในขณะที่เคลวินไม่ได้แสดงทีท่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ ก็แน่ล่ะ ในเมื่อเขาผ่านผู้หญิงนมใหญ่มาอย่างโชกโชน และแม้แต่ณิชา อดีตคนรักของเขาก็นมใหญ่เช่นกัน“ผมฝากเงินค่าจ้างพวกคุณเอาไว้ที่แม่บ้านแล้วนะครับ ไปรับได้เลย ส่วนรถจอดรออยู่แล้วครับ”“ขอบพระคุณมากค่ะ”ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมยกมือไหว้เคลวิน ก่อนจะหันมาพูดทิ้งท้ายกับเฌอปราง“คืนนี้พี่รับรอง น้องเฌอปรางจะต้องสวยโดดเด่นยิ่งกว่าเจ้าสาวอีกค่ะ”หล่อนฝืนยิ้มเศร้าหมอง และก็อดที่จะปรายตามองเคลวินไม่ได้ ซึ่งก็ได้เห็นความสะใจบนใบหน้าหล่อจัดอย่างชัดเจน“พวกเราไปนะคะ”“ครับ”ครั้งเมื่อช่างแต่งหน้าและช่างทำผมเดินจากไปแล้ว เฌอปรางก็ยืนก้มหน้าเงียบๆ หัวใจหวั่นไหวเหลือเกิน จนกระทั่งเคลวินก้าวเดินเข้ามาหยุดใกล้ๆ และออกคำสั่ง“เธอดูเป็นสาวขึ้นเยอะเลยนะ เฌอปราง”หล่อนจำต้องช้อนตาขึ้นมองเจ้าของน้ำเสียงเย็นชาอย่างไม่มีทางเลือก“เอ่อ... ค่ะ”“ฉันดีใจนะที่ตัวเองเลือกผู้หญิงไม่ผิด” รอยยิ้มของเคลวินเลือดเย็นจนหล่อนหน้าซีด“ณิชาจะต้องกระอักเลือด เมื่อเห็นเราสองคนไปร่วมงาน”“ค่ะ...”หล่อนตอบรับออกไปสั้นมาก เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดคำใดออกไ
รถคันงามแล่นมาจอดสนิทยังหน้าโรงแรมหรูซึ่งหากหล่อนจำไม่ผิดโรงแรมแห่งนี้คือโรงแรมระดับเจ็ดดาวแห่งเดียวของจังหวัดเชียงราย“พร้อมนะ”น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นหลังจากภายในรถถูกความเงียบกลืนกินอยู่นานเกือบสี่สิบห้านาทีหล่อนหันไปมองคนตัวโต แสงไฟที่ประดับอยู่หน้าโรงแรมสะท้อนส่องเข้ามาภายในรถ ทำให้หล่อนได้เห็นสีหน้าและแววตาของเคลวินได้อย่างชัดเจน เขาคาดหวังที่จะได้รับคำตอบน่าที่พึงพอใจจากหล่อน“พะ... พร้อมค่ะ”ริมฝีปากหยักสวยของเคลวินยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะก้าวลงไปจากรถ พร้อมกับยื่นมือใหญ่มาตรงหน้าของหล่อน“เอ่อ...” หล่อนไม่คุ้นชินกับการที่ต้องให้สุภาพบุรุษมาดูแลแม้แต่การก้าวลงจากรถ แต่สายตาที่เต็มไปด้วยคำสั่งของเคลวิน ทำให้จำต้องวางมือเล็กขาวสะอาดลงบนอุ้งมือใหญ่อย่างไม่มีทางหลีกหนี“ระวังนะ”น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน แต่หล่อนก็รู้ดีว่า นี่คือการเริ่มต้นของบทละครลวงโลกในวันนี้“ขอบ...คุณค่ะ”เขาอมยิ้มบางๆ และดึงมือของหล่อนให้ไปสอดรัดอยู่กับท่อนแขนกำยำ จากนั้นก็พาหล่อนเดินเคียงข้างเข้าไปบนพรมหนาสีชมพูหวานที่ถูกปูเอาไว้ต้อนรับแขกแข้งขาของหล่อนสั่นเทา หัวใจก็สั่นสะท้าน การ
“ทำไมผมจะไม่มาล่ะ ในเมื่ออดีตเมีย... ไม่สิ... อดีตคนรักเก่าแต่งงานทั้งที”หล่อนเห็นณิชามีสีหน้าไม่ดีนักกับน้ำเสียงเย้ยหยันของเคลวิน แต่หล่อนก็ปรับสีหน้า และแสร้งหัวเราะออกมา ราวกับมันคือเรื่องที่ขบขัน“แหม ก็ณิคิดว่าคุณจะมาไม่ไหว เพราะยังตัดใจจากณิไม่ได้น่ะค่ะ แต่ก็ขอบคุณนะคะที่มา”ณิชายิ้มยียวน และสอดแขนเข้าไปในท่อนแขนของเจ้าบ่าวของตนเอง พร้อมกับแนบหน้าลงไปด้วย“จัสตินคะ นี่เคนค่ะ อดีตคนรักของณิเองค่ะ คนที่เมาจนหัวราน้ำเพราะถูกณิสลัดรักน่ะค่ะ”เฌอปรางเป็นห่วงเคลวินมาก กลัวว่าเขาจะทนรับคำเยาะหยันจากณิชาไม่ไหว แต่ผิดคาด ชายหนุ่มกับหัวเราะร่วน จากนั้นก็เอียงคอมองณิชา“คุณแน่ใจหรือว่าเป็นฝ่ายสลัดรักผมน่ะ ณิชา”ณิชาหน้าเสียและก็ปรายตามองหล่อนด้วยความแปลกใจคลับคล้ายคลับคลาว่าจะจำหล่อนได้“ณิแน่ใจสิคะ แล้วนี่ไปเช่าผู้หญิงมาจากไหนคะ หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้อยู่นะ แต่ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของณิเลย”ณิชาเต็มไปด้วยความหยิ่งทระนง และกระหายที่จะเอาชนะ แต่คนอย่างเคลวินยอมเจ็บแต่ไม่ยอมเสียหน้าเด็ดขาด และที่สำคัญเหตุผลที่เขาเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับณิชาในวันนี้ก็เพื่อที่จะเอาชนะ“คุณจำเฌอปรางไม่ได้หร
รถคันงามจอดที่หน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่ภายในไร่ชา หล่อนก้าวลงจากรถโดยไม่รอให้ใครต้องมาเปิดประตูรถให้ ในขณะที่เคลวินก็ก้าวตามลงมาเช่นกันเรือนกายสูงใหญ่เดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน สายตาสีน้ำตาลเข้มยังอัดแน่นไปด้วยความสะใจมากมาย“คืนนี้เธอทำได้ดีมากเฌอปราง”“เอ่อ...”หล่อนอึกอัก เพราะไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยคำใดออกไปดี จึงทำได้แค่ฝืนยิ้มและก้มหน้าลงมองพื้นดินแทน“อ๊ะ...”ต้นแขนเปลือยกลมกลึงถูกสัมผัสด้วยฝ่ามืออบอุ่นเกือบร้อนของเคลวิน และเขารั้งหล่อนเข้าไปหา จนเนื้อตัวแทบจะสัมผัสกัน หัวใจสาวเต้นโครมคราม และก็จำต้องเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตากับคนที่สูงกว่ามากกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะของเคลวินโชยมาเข้าจมูก มันทำให้หล่อนรู้สึกรวดร้าวในอุ้งเชิงกรานแปลกประหลาด กลีบปากอิ่มสั่นระริก เมื่อใบหน้าหล่อจัดโน้มหน้าต่ำลงมาหา เขาคล้ายกับจะจูบปากของหล่อน แต่ไม่ใช่“เราไปดื่มฉลองกันเถอะ”“หนู... ขอกลับห้องได้ไหมคะ”“กลับห้อง?” เขาดันร่างของหล่อนออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มขบขันเป็นครั้งแรกในค่ำคืนนี้ “เธอลืมไปแล้วหรือว่าเธอย้ายมาอยู่กับฉันแล้ว ห้องเดียวที่เธอจะกลับก็คือห้องของฉัน”นั่นสิ หล่อนลืมไปสนิทเลย“เอ่
เฌอปรางไม่รู้หรอกว่าตนเองหายเข้าไปในห้องน้ำนานแค่ไหน แต่หลังจากก้าวเท้าออกมาก็พบว่าประตูกระจกที่กั้นห้องนอนกับระเบียงไม้เอาไว้ถูกเปิดออก และแน่นอนว่าเคลวินต้องออกไปนั่งดื่มที่นั่นหล่อนรีบปิดประตูห้องน้ำอย่างเบามือ เพราะไม่ต้องการให้เคลวินรู้ว่าหล่อนออกมาแล้ว แต่เขาหูดีเหลือเกิน เพราะเท้าเล็กยังไม่ทันจะเคลื่อนไปไหน เสียงเย็นชาของเขาก็ดังขึ้น“มานั่งกับฉันตรงนี้ เฌอปราง”“ค่ะ”หล่อนไม่เคยมีทางเลือกเลย หากคำสั่งนั้นออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของเคลวินเท้าบอบบางค่อยๆ ก้าวตรงไปยังประตูกระจกที่เปิดกว้างเอาไว้ มือเล็กแยกผ้าม่านออกจากกัน และก้าวออกไปเผชิญหน้ากับคนตัวโตที่กำลังดื่มเหล้าอยู่สายลมเย็นฉ่ำด้านนอกพัดเข้ามาปะทะผิวสาวจนหนาวเหน็บเข้าไปถึงไขกระดูก แต่ฉับพลันกายสาวก็ร้อนรุ่มขึ้นมา เมื่อเห็นสายตาคมกริบของเคลวิน ที่มองมาในลักษณะสำรวจตรวจตราเขามองตั้งแต่ฝ่าเท้าเปลือยค่อยๆ เลื่อนสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาหยุดยังหน้าอกอวบที่ตอนนี้ซ่อนอยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนสีเขียวขี้ม้าสายตาของเคลวินมองอิ่งอ้อยอยู่ที่หน้าอกของหล่อนอยู่นาน ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาสบประสานสายตากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระ
แล้วเขาก็ช้อนร่างของหล่อนขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน ก้าวเข้ามาภายในห้องนอน จากนั้นก็พาหล่อนไปวางลงบนเตียงกว้างที่นุ่มอย่างอ่อนโยนหล่อนนอนดิ้นกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง รู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั้งตัวจนต้องดึงทึ้งเสื้อนอนหลายครั้ง ในขณะที่คนตัวโตยืนตระหง่านอยู่ข้างเตียง สายตาคมกริบจ้องมองมาไม่วางตา นิ้วแข็งแรงกำลังเปลื้องปลดเสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างใจเย็น ใบหน้าหล่อจัดแดงก่ำด้วยแรงปรารถนาโดยไม่คิดปิดบังหล่อนควรจะรวบรวมสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด และหนีออกไปจากห้องนี้ซะ ไปให้ไกลจากผู้ชายหล่อเหลาแต่ไม่มีหัวใจอย่างเคลวิน แต่หล่อนทำไม่ได้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้มีแต่เปลวไฟราคะดึงดูดให้หล่อนดำดิ่งลงสู่เหวเสน่หา เคลวินเต็มเปี่ยมไปด้วยความพลังทางเพศที่รุนแรงบ้าคลั่ง และเด็กสาวไร้ประสบการณ์อย่างหล่อนก็ไม่มีทางต้านทานมันได้“พ่อเลี้ยง...”เมื่อกางเกงของเขาถูกปล่อยให้หลุดมือลงไปกองกับพื้น เรือนกายสีคล้ามแดดที่ผิวหนังเรียบตึงก็ปรากฏแก่สายตา ความมึนเมาแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ริมฝีปากของหล่อนแห้งผาก ดวงตากลมโตเบิกกว้างแทบถลนรูปร่างของเคลวินงดงามเหลือเกิน...ลมหายใจของหล่อนติดแหง็กอยู่แค่ลำคอ หัวใจเต้นแรงระร
เนื้อตัวแข็งแกร่งและหนักอึ้งของเคลวินทาบทับลงมาหา เบียดบดกายสาวจนแทบจมหายลงไปในที่นอนนุ่ม ความหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังทำให้หล่อนตัวสั่นเทา กลีบปากอิ่มสั่นระริก มือเล็กที่ยกขึ้นดันแผงอกขนดกเอาไว้เย็นเฉียบ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มีหยาดน้ำใสๆ คลอ“ไม่ต้องกลัว... มีแต่ความสนุก”“หนู...”หล่อนอ้ำอึ้ง สบประสานสายตากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้กลายเป็นสีมืดดำผ่านม่านน้ำตา“เซ็กซ์มันคือเรื่องธรรมชาติของชายหญิง”“เอ่อ... แต่หนูไม่เคย...”“คนเรามันต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้น” น้ำเสียงของเขาเจือปนความหงุดหงิดจนสัมผัสได้ “แม้ว่าฉันจะไม่ได้ต้องการเป็นชายคนแรกที่ต้องพร่ำสอนบทสวาทให้เธอนักก็ตาม”คำพูดของเขาสร้างรอยกลวงในหัวใจสาวจนเลือดทะลักออกมาเซ็กซ์ครั้งนี้มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย ก็เหมือนกับหล่อนนั่นแหละ ที่ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับผู้ชายอย่างเขา เฌอปรางแสนเจ็บปวด แต่ก็ต้องก้มหน้ายอมรับต่อความต้องการของเคลวิน“อย่าทำตัวน่าเบื่อ ฉันขอแค่นี้แหละ”“หนู... จะพยายามค่ะ”เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากก้มหน้าลงซุกไซ้ลำคอขาวเนียน ไม่แม้จะจูบปากอิ่มที่กำลังสั่นระริกแม้แต่น้อยเขา
จากนั้นเขาก็ทำให้หล่อนสะท้านไหว สั่นระริกไปทั้งตัว ด้วยการคลี่ต้นขาอวบออกจากกัน และก็ทำให้กายสาวรวดร้าวด้วยความปรารถนาด้วยการวางฝ่ามือลงบนเนินนางอวบอูม“อืมมม อวบใหญ่มาก เฌอปราง...”“อ๊ะ... อ๊า... อา... พ่อเลี้ยง อา...”หล่อนดิ้นเร่าๆ ด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยพานพบมาก่อน เมื่อมือใหญ่เคลื่อนไหวบนความเป็นหญิง จากนั้นเขาก็ไล้นิ้วยาวหยอกเย้ากับหยาดน้ำหวานด้วยลีลาที่หล่อนต้องแอ่นร่อนร่างขึ้นสูง“อา... อ๊า... อา...”ร่างกายของหล่อนกำลังจะแตกสลาย แม้จะรู้สึกน่าอับอายที่ร่อนที่เด้งจุดซ่อนเร้นขึ้นรับปลายนิ้วพลิ้วไหวของเคลวินอย่างกระตือรือร้นแบบนี้ แต่หล่อนห้ามตัวเองไม่ได้ นิ้วแข็งแรงกำลังหลอมละลายให้หล่อนสลายกลายเป็นผุยผงหล่อนกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว...“อ๊า... อา... อา... ได้โปรด... พ่อเลี้ยง อา...”กายสาวอวบอัดยกหยัดขึ้นหา วิงวอนร้องขอให้เขาทำมากกว่าการไล้นิ้วไปตามร่องสาวฉ่ำเยิ้ม หล่อนต้องการมากกว่านี้ ต้องการให้เขา... ดับไฟในอุ้งเชิงกรานลงเสียที“ได้โปรด... อา... อ๊า... พ่อเลี้ยงขา... ช่วยหนูด้วย... อา...”หล่อนลืมกาล ลืมเวลา เผยอร่างสาวรับนิ้วยาวที่กำลังขยับอย่างช่ำชองอย่างไร้สติ เพลิงปรารถน
“กำลังคิดถึงฉันอยู่ใช่หรือเปล่า”เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมๆ กับอ้อมกอดอบอุ่นที่สอดมาทางด้านหลังเฌอปรางอมยิ้มอย่างมีความสุข ละสายตาจากดวงจันทร์กลมโตหมุนกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินแทน มองเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“หนูคิดถึงพ่อเลี้ยงทุกวินาทีนั่นแหละค่ะ”เขาหัวเราะร่วน ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนไปมา “งั้นก็เหมือนฉันเลยน่ะสิ ที่คิดถึงเธอตลอดเวลา ทุกวินาทีเลยรู้ไหม...”“พ่อเลี้ยงปากหวานอีกแล้วนะคะ”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา รัดรึงร่างอวบอัดของเมียรักแนบแน่นยิ่งขึ้น“ฉันไม่เคยปากหวาน พูดหวานๆ ก็ไม่เป็น ที่เธอได้ยินทุกอย่างนี่ก็คือความจริงจากใจล้วนๆ”“หนูไม่เชื่อหรอกค่ะว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยพูดหวานๆ อย่างน้อยๆ ตอนจีบผู้หญิงก็ต้องพูด ไม่งั้นพ่อเลี้ยงจะมีคนรักเหรอคะ” หล่อนได้ทีย่นจมูกใส่เขาอย่างมันเขี้ยวบ้าง“ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย”คนฟังเบิกตากว้าง เหลือเชื่อ “อ้าว ถ้าไม่ได้จีบแล้วคุณณิชามาเป็นแฟนพ่อเลี้ยงได้ยังไงคะ”“ณิชาเป็นฝ่ายจีบฉันน่ะ”“ฮะ?” เฌอปรางเหลือเชื่อมากๆ“จริงๆ นะ เห็นฉันหน้าตาดีแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ตอนเรียนก็เอาแต่เรียน ตอนทำงานก็ทำแต่งาน
เฌอปรางหัวเราะคิกคักเมื่อเคลวินออกคำสั่งเผด็จการแบบนั้นออกไป“พ่อเลี้ยงน่ะ ดูทำเข้าสิคะ”“ทำไมอะไรมิทราบเมียจ๋า” ใบหน้าหล่อจัดโน้มต่ำเข้ามาหาเรื่อยๆ“ก็... สั่งคนงานแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ น่าเกลียดจัง”“ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอกน่า มานี่เลย...”มือใหญ่ช้อนใต้ท้ายทอยเล็กอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประกบปากลงไปหา“อุ๊บบบ...”เขาบดขยี้จูบแล้วจูบอีก จูบจนเมียรักหายใจหายคอไม่ทัน จึงถอนปาก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากอ้อมแขน“หวานจัง...”“พ่อเลี้ยงน่ะ” คนเป็นเมียเอียงอายม้วนต้วน“ก็จริงนี่ ปากเธอหวานมาก แต่ก็ยังมีที่อื่นหวานกว่านะ อยากรู้ไหมว่าตรงไหน”ดวงตาคมกริบของเคลวินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย ขณะเลื่อนต่ำลงมองที่กลางลำตัวสาวเฌอปรางเนื้อตัวอุ่นวาบ เลือดสาวเดือดพล่านขึ้นมาในทันที ดวงหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอียงอาย“พ่อเลี้ยงน่ะ... ลามก”เขาดึงหล่อนเข้ามากอดแนบอก ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยเอาอย่างแสนรัก“ฉันก็เป็นแบบนี้กับเธอคนเดียวนั่นแหละเฌอปราง... และหวังว่าเธอจะชอบ...”หล่อนยิ้มหวานกับหน้าอกกว้างของสามี “หนูชอบทุกอย่างที่เป็นพ่อเลี้ยงค่ะ”“เมียใครนะปากหวานเจี๊ยบเลย”นิ้วแข็งแรงตรึงปลายคางมน และช
เคลวินถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เพราะเสียเลือดไปมาก ทำให้เขาต้องได้รับการให้เลือดอยู่หลายถุง เฌอปรางเฝ้าสามีอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมห่าง แม้ว่าตัวหล่อนเองจะบาดเจ็บที่ศีรษะเช่นกันก็ตาม“หนูปราง... ไปให้พยาบาลทำแผลก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าเฝ้าหน้าห้องให้ค่ะ ถ้าพ่อเลี้ยงออกมาแล้ว ป้าจะรีบไปบอกค่ะ” ป้าปราณีพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เฌอปรางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า แต่พ่อเลี้ยงบาดเจ็บ เลือดพ่อเลี้ยงออกมาเยอะมาก หนู... หนูกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะตาย...” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น“พ่อเลี้ยงเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ไม่มีทางยอมตายกะอีแค่มีดแทงหรอกค่ะ เชื่อป้านะคะ ไปทำแผลที่หัวก่อน ถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้าว่าหนูปรางไม่ยอมดูแลตัวเอง พ่อเลี้ยงจะโกรธเอานะคะ”“แต่หนูเป็นห่วงพ่อเลี้ยง... หนูอยากรอดูให้มั่นใจก่อนว่าพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย...”“ทำแผลที่หัวนิดเดียวค่ะ และก็แป๊บเดียวด้วย ยังไงก็เสร็จก่อนที่พ่อเลี้ยงจะผ่าตัดเสร็จอยู่แล้วค่ะ”เฌอปรางลังเลอยู่เล็กน้อย“นะคะ เชื่อป้าเถอะ ถ้าหนูปรางไม่สบายไปจะทำยังไงคะ อย่าลืมสิคะว่าตอนนี้ในท้องหนูปรางมีลูกของพ่อเลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ”“ลูก...”มือเล
ณิชาหัวเราะราวกับคนบ้า จากนั้นก็จิกหัวของเฌอปรางแรงๆ ลากลงมาจากรถ ซึ่งก็ทำให้คนที่สลบไสลอยู่ได้สติ“มึงฟื้นแล้วเหรอ อีเด็กบ้า”“คุณณิชา...” เฌอปรางตกใจมาก หน้าตาซีดเผือด และก็พยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหล่อนกับเคลวินกำลังขับรถกลับไร่ แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ และหล่อนก็สลบไปหล่อนไม่ตาย แล้วเคลวินล่ะ...?“พ่อเลี้ยง... พ่อเลี้ยงอยู่ไหนคะ พ่อเลี้ยงไม่เป็นอะไรใช่ไหม พ่อเลี้ยง”“ฉันอยู่นี่เฌอปราง”เฌอปรางหันไปเห็นว่าเคลวินปลอดภัยหล่อนก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“หนูดีใจที่พ่อเลี้ยงปลอดภัย”เคลวินได้ยินได้เห็นความห่วงใยที่เฌอปรางมีให้ตนเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจยิ่งนัก ที่ปกป้องหล่อนไม่ได้“ณิชา... ปล่อยเฌอปรางไป แล้วคุณมาจัดการผมนี่ ผมจะไม่ต่อสู้คุณเด็ดขาด ผมสัญญา...”“ไม่นะคะพ่อเลี้ยง... อย่าพูดแบบนี้นะคะ” เฌอปรางร้องไห้ออกมา และพยายามวิงวอนคนที่เอามีดจี้คอของตนเองอยู่ “คุณณิชา... หนูผิดเองค่ะ ผิดเองทุกอย่าง หนูรักพ่อเลี้ยง แอบรักพ่อเลี้ยงมานาน ก็เลย... ใช้โอกาสที่พ่อเลี้ยงเลิกกับคุณณิชา เข้าหาพ่อเลี้ยงค่ะ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้จะมีคนผ
หลังจากเลือกซื้อข้าวของเด็กอ่อนเสร็จแล้ว เคลวินก็พาหล่อนเข้าร้านเพชรร้านเดิม แต่หนนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิม เพราะเขาบังคับให้หล่อนรับแหวนเพชรเม็ดโต พอหล่อนอึกอักปฏิเสธ เขาก็ดึงนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมาและสวมแหวนให้ทันที“ห้ามถอดออกเด็ดขาดนะเด็กน้อย” เขาพูดเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความเผด็จการหล่อนอมยิ้มหวาน และก็ตอบรับเขาด้วยการผงกศีรษะขึ้นลงเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็พาหล่อนกินข้าวกลางวัน สั่งให้หล่อนกินยาบำรุงครรภ์ที่หมอจ่ายมาให้ และก่อนกลับบ้านก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารบำรุงสำหรับคนท้องมาจนเต็มรถ“ทีนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”เขาอมยิ้ม ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดทับลำตัว จากนั้นก็เคลื่อนรถกลับขึ้นไปวิ่งบนท้องถนนอีกครั้งเฌอปรางนั่งอยู่ในแอ่งแห่งความสุข แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามค้างคาใจติดอยู่“พ่อเลี้ยงคะ”“ว่าไง” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถาม“คือ...”“มีอะไรก็ว่ามาสิ” เขาเห็นหล่อนอึกอักก็เร่งเร้าให้พูด“หนู... หนูอยากรู้ว่า...”“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ”“พ่อเลี้ยงรู้ใช่ไหมคะว่าหนู... เอ่อ... รักพ่อเลี้ยง”หล่อนเห็นเขาอมยิ้ม และก็หันมามองหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปจ้องถนนเช่นเดิม“รู้สิ ฉันไม่ได้ตาบอดสั
“แล้วถ้าพ่อเลี้ยงรักหนูไม่ได้ล่ะคะ”“มันไม่มีวันนั้นหรอก”“ทำไมพ่อเลี้ยงถึงมั่นใจนักล่ะคะว่าจะรักหนูได้”เคลวินอยากจะกระชากแม่เด็กสาวช่างถามเข้ามาจูบปิดปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่หล่อนต้องการให้เขาสารภาพออกไปเลยหรือไงว่าตอนนี้เขารักหล่อนเรียบร้อยแล้วบ้าจริง...เขาไม่กล้าสารภาพออกไปหรอก ให้เฌอปรางรับรู้ถึงความรักของเขาผ่านการกระทำดีกว่า“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาซักไซ้ผู้ใหญ่นักเลย นั่งอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ ฉันไปจ่ายเงินก่อน” คนตัวโตได้จังหวะหลบเลี่ยงในที่สุด“ถึงพ่อเลี้ยงจะใจดีกับหนูมากกว่าเมื่อก่อน แต่หนูก็ยังต้องการให้พ่อเลี้ยงรักหนู... เหมือนที่หนูรักพ่อเลี้ยง...” เฌอปรางมองตามร่างสูงใหญ่ของเคลวินที่เดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจหล่อนนั่งเศร้าอยู่สักพักเคลวินก็เดินกลับมา พร้อมกับถุงใส่ยาที่คุณหมอจ่ายให้สำหรับหญิงตั้งครรภ์“กลับกันเถอะ”รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้หล่อนตัดสินใจวางมือเล็กลงในอุ้งมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้าอุ้งมือของเขาอบอุ่นเหลือเกิน และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก“ค่อยๆ เดินนะ มาฉันประคอง”“หนูเดินได้ค่ะพ่อเลี้ยง”“ก็บอกแล้วไงอย่าดื้อ... เดินดีๆ ค่อ
“เสียใจไหมที่เรายังจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้”คนตัวโตหยุดเดิน ยืนข้างรถ และดึงมือเล็กของหล่อนมากุมเอาไว้ ดวงตาคมเข้มจ้องมองดวงหน้าของหล่อน บอกให้รู้ว่าไม่ค่อยสบายใจนัก“ไม่เสียใจหรอกค่ะ”“ดีมาก” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนแผ่วเบา ก่อนจะดึงเข้าไปกอดแนบอก เสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ใต้ใบหูของหล่อน เฌอปรางระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ฉันสัญญาว่าถ้าเธออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ ฉันจะรีบพาเธอมาจดทะเบียนสมรสทันที” เขาหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างของหล่อนออกห่าง จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน “ว่าแต่เมื่อไหร่จะครบยี่สิบปีเต็มกันล่ะ หนึ่งปีกับกี่เดือนหรือ”“เอ่อ... หนึ่งปีกับอีกสิบเดือนค่ะ”“เฮ้อ นานจัง นี่ฉันมีเมียเด็กมากจริงๆ สินะ” ว่าแล้วเขาก็อมยิ้ม และดึงหล่อนเข้าไปกอดอีกครั้ง “แล้วฉันก็แก่ว่าเธอมากเสียด้วย หวังว่าเธอจะไม่นอกใจฉันไปหาเด็กหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหรอกนะ เฌอปราง”“พ่อเลี้ยงต่างหากล่ะคะ พอเบื่อหนูแล้วก็จะทิ้งหนู ไล่หนูออกจากไร่เหมือนเดิม”เขาขยับตัวออกห่าง ก้มลงมามองดวงหน้านวลของเฌอปราง ก่อนจะจูบปากอิ่มเบาๆ“ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก ฉันหลงเธอจะตายไป”ก็แค่หลง...เฌอปรางต่อคำพู
ป้าปราณีอมยิ้มเมื่อเห็นหล่อนเดินเคียงคู่มากับเคลวิน ซึ่งก็ทำให้หล่อนอดที่จะเสหลบสายตาด้วยความขัดเขินไม่ได้“ตั้งโต๊ะเลยครับป้า”“วันนี้พ่อเลี้ยงยิ้มแย้มต่างไปจากทุกวันเลยนะคะ” ป้าปราณีหันไปสั่งจิตกับแจ่มให้ตั้งโต๊ะแล้วก็อดที่จะแซวเคลวินที่เพิ่งจะเลื่อนเก้าอี้ให้เฌอปรางนั่งไม่ได้เคลวินหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะดึงมือเล็กบนตักมากุมเอาไว้“ผู้ชายเวลามีเมียเด็กก็อารมณ์ดีประมาณผมทุกคนแหละครับ”หล่อนได้ยินคำตอบของเคลวินก็ยิ่งเอียงอาย แต่ทันทีที่จิตกับแจ่มยกอาหารมาตั้งบนโต๊ะ และกลิ่นอาหารหน้าตาดีโชยเข้ามาในจมูกเท่านั้น ความวิงเวียนพะอืดพะอมก็ตีตื้นขึ้นมากระจุกรออยู่ที่ลำคอ มือเล็กยกขึ้นปิดปาก“เป็นอะไรไปเฌอปราง ไม่สบายหรือ”หล่อนไม่อาจจะตอบความสงสัยของเคลวินได้ เพราะต้องรีบพุ่งตัวไปห้องน้ำให้ทันเวลาเสียงโอ้กอ้ากของเด็กสาวดังมาเข้าหูเคลวิน เขาลุกขึ้นยืนจะเดินเข้าไปดู แต่ป้าปราณีห้ามเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็สั่งให้จิตเข้าไปดูเฌอปรางแทน“จิต เอ็งเข้าไปดูหนูปรางหน่อย”“จ้ะ ป้า”“ส่วนเอ็งก็ไปยกน้ำส้มมาให้หนูปราง นังแจ่ม”“จ้ะป้า”สองสาวใช้หายกันไปคนละทิศละทางแล้ว ป้าปราณีก็มองหน้าเคลวินและ
เฌอปรางกำลังจะเลี้ยวเข้าเรือนพักคนงาน แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเคลวินปรากฏตัวตรงหน้าเสียก่อน เรือนกายล่ำสันในชุดทำงานและสวมหมวกปีกกว้างเดินเข้ามาหา“เอ่อ...”“เมื่อคืนฉันก็ทำโทษเธอทั้งคืนแล้ว ยังไม่เข็ดอีกหรือเฌอปราง”“หนู... แค่มาเอากระเป๋าค่ะ”“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้คนงานยกไปให้” เขาก้าวเข้ามาใกล้จนหล่อนขยับถอยหลังหนีไม่ทัน ดวงตาของเขาที่จ้องมองมา มันทำให้หล่อนอดนึกถึงเรื่องร้อนฉ่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้“กลับเข้าบ้านด้วยกัน ฉันหิวแล้ว”“หิว...?”เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวตีความหมายของคำพูดไปไกลกว่าที่เป็นจริง“ฉันยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลย” เขาจ้องหน้าหล่อน “เพราะรอเด็กขี้เซาคนหนึ่งตื่นน่ะ”“เอ่อ... หนูเหรอคะ”เขายกมือขึ้นยีเส้นผมนุ่มให้ยุ่งมากกว่าเดิม จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดอมดมกลิ่นหอมละมุนด้วยปลายจมูกอย่างอดใจไม่ไหว เฌอปรางหน้าแดงระเรื่อ“พ่อ... พ่อเลี้ยงคะ เดี๋ยวใครมาเห็นค่ะ”เขาจำต้องตัดใจเงยหน้าออกห่างร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น จากนั้นก็กุมข้อมือเล็กให้เดินเคียงข้างไปด้วยกันเฌอปรางอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา มองคนตัวโตที่มีพลังทางเพศสูงลิบอย่างเคลวินด้วยความรักหล่อนจะได้เดินเคียงข้างเขาอ