รถคันงามจอดที่หน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่ภายในไร่ชา หล่อนก้าวลงจากรถโดยไม่รอให้ใครต้องมาเปิดประตูรถให้ ในขณะที่เคลวินก็ก้าวตามลงมาเช่นกัน
เรือนกายสูงใหญ่เดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน สายตาสีน้ำตาลเข้มยังอัดแน่นไปด้วยความสะใจมากมาย
“คืนนี้เธอทำได้ดีมากเฌอปราง”
“เอ่อ...”
หล่อนอึกอัก เพราะไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยคำใดออกไปดี จึงทำได้แค่ฝืนยิ้มและก้มหน้าลงมองพื้นดินแทน
“อ๊ะ...”
ต้นแขนเปลือยกลมกลึงถูกสัมผัสด้วยฝ่ามืออบอุ่นเกือบร้อนของเคลวิน และเขารั้งหล่อนเข้าไปหา จนเนื้อตัวแทบจะสัมผัสกัน หัวใจสาวเต้นโครมคราม และก็จำต้องเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตากับคนที่สูงกว่ามาก
กลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะของเคลวินโชยมาเข้าจมูก มันทำให้หล่อนรู้สึกรวดร้าวในอุ้งเชิงกรานแปลกประหลาด กลีบปากอิ่มสั่นระริก เมื่อใบหน้าหล่อจัดโน้มหน้าต่ำลงมาหา เขาคล้ายกับจะจูบปากของหล่อน แต่ไม่ใช่
“เราไปดื่มฉลองกันเถอะ”
“หนู... ขอกลับห้องได้ไหมคะ”
“กลับห้อง?” เขาดันร่างของหล่อนออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มขบขันเป็นครั้งแรกในค่ำคืนนี้ “เธอลืมไปแล้วหรือว่าเธอย้ายมาอยู่กับฉันแล้ว ห้องเดียวที่เธอจะกลับก็คือห้องของฉัน”
นั่นสิ หล่อนลืมไปสนิทเลย
“เอ่อ... หนูลืมไปค่ะ”
“ไปฉลองกัน ฉันต้องการเพื่อนดื่ม”
มือของหล่อนถูกคว้าเอาไว้ และเขาก็รั้งให้หล่อนเดินตามเข้าไปในบ้าน หัวใจของหล่อนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดต่อจากวินาทีนี้เหลือเกิน
เคลวินพาเข้ามาในห้องนอนของเขา หลังจากที่ออกคำสั่งให้คนรับใช้นำเครื่องดื่มมึนเมามาให้เรียบร้อยแล้ว
หล่อนก้าวตามหลังคนตัวโตด้วยแข้งขาสั่นเทา บรรยากาศภายในห้องนอนของเคลวินยามค่ำคืนมันไม่เหมือนตอนกลางวันแม้แต่น้อย มันดูลึกลับ น่าค้นหา และก็แสนอันตราย
ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ ด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน เตียงใหญ่ริมห้องช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน กลีบปากอวบอิ่มสั่นเทา และก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อเคลวินก้าวเข้ามาหยุดด้านหลัง
“คิดอะไรอยู่หรือ”
“เอ่อ... ปะ เปล่าค่ะ”
มือใหญ่ของเขากุมที่เอวคอดเอาไว้ นิ้วแข็งแรงลูบไล้ขึ้นลงเล็กน้อย แต่มันกลับทำให้กายสาวสะท้านยะเยือกด้วยความตื่นกลัวเป็นที่สุด
“จะเปล่าได้ยังไง ฉันเห็นเธอจ้องมองเตียงนอนของฉัน... ไม่สิ ของเราตาแป๋วเลย”
“หนู...”
ดวงหน้างามร้อนผะผ่าว และแน่นอนว่าสองพวงแก้มจะต้องแดงระเรื่อยิ่งกว่าสีของผลตำลึงสุกเสียอีก
“คืนนี้เราจะทำอะไรสนุกๆ กันบนนั้นแหละ”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกอะไรมากนักนอกจากความกระหายใคร่ของบุรุษ ตรงกันข้ามกับหล่อนที่ใจสั่น ตัวสั่น และก็แทบจะเป็นลมอยู่รอมร่อ
“หนู... ขอ... เวลาได้ไหมคะ”
“ไม่...” เคลวินส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับดึงคนที่ยืนหันหลังให้หมุนมาสบประสานสายตา
“ในเมื่อคืนนี้ณิชาเข้าหอ ฉันก็ต้องได้เข้าหอเหมือนกัน และฉันก็ต้องมีความสุขกว่าผู้หญิงทรยศคนนั้น”
หล่อนควรจะดีใจใช่ไหมกับสิ่งที่ได้ยิน...
เฌอปรางก้มหน้าลงมองปลายเท้าของตัวเองด้วยความเสียใจ อัปยศอดสูกับชะตาชีวิตของตัวเองนัก
หล่อนรักเควินมาก รักเขาจนยอมได้ทุกอย่าง แม้แต่การเป็นตัวแทนของคนที่เขารักมากก็ตาม
มือเล็กยกขึ้นกุมหน้าอกตรงตำแหน่งที่มีก้อนหัวใจซ่อนอยู่ น้ำตาไหลริน ก่อนจะค่อยๆ พูดออกมา
“หนูขอ... เข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“ได้สิ อ้อ แล้วก็เปลี่ยนชุดเสียด้วยล่ะ ชุดนี้มันไม่เหมาะกับเธอเลย”
คำพูดตรงไปตรงมาของเขา มันทำให้หล่อนเจ็บจนแทบเป็นบ้า เขาประกาศให้รู้โดยไม่ปิดบังว่า หล่อนไม่มีทางเป็นสาวงามสะพรั่งในสายตาของเขาได้ แม้จะพยายามสักแค่ไหนก็ตม
กายังไงก็ยังเป็นกา เหมือนกับหล่อนนั่นแหละ...
“ค่ะ...”
หล่อนตอบรับคำเสียงสั่นเทา ก่อนจะรีบก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทรุดกายนั่งกับพื้นเย็นเฉียบทันทีเมื่ออยู่ตามลำพัง หยาดน้ำตาไหลทะลักอาบสองแก้มนวล มือเล็กยกขึ้นอุดปากเอาไว้ เพื่อไม่ให้เสียงร่ำไห้ของตนเองดังเล็ดลอดออกไปเข้าหูเคลวิน
เฌอปรางไม่รู้หรอกว่าตนเองหายเข้าไปในห้องน้ำนานแค่ไหน แต่หลังจากก้าวเท้าออกมาก็พบว่าประตูกระจกที่กั้นห้องนอนกับระเบียงไม้เอาไว้ถูกเปิดออก และแน่นอนว่าเคลวินต้องออกไปนั่งดื่มที่นั่นหล่อนรีบปิดประตูห้องน้ำอย่างเบามือ เพราะไม่ต้องการให้เคลวินรู้ว่าหล่อนออกมาแล้ว แต่เขาหูดีเหลือเกิน เพราะเท้าเล็กยังไม่ทันจะเคลื่อนไปไหน เสียงเย็นชาของเขาก็ดังขึ้น“มานั่งกับฉันตรงนี้ เฌอปราง”“ค่ะ”หล่อนไม่เคยมีทางเลือกเลย หากคำสั่งนั้นออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของเคลวินเท้าบอบบางค่อยๆ ก้าวตรงไปยังประตูกระจกที่เปิดกว้างเอาไว้ มือเล็กแยกผ้าม่านออกจากกัน และก้าวออกไปเผชิญหน้ากับคนตัวโตที่กำลังดื่มเหล้าอยู่สายลมเย็นฉ่ำด้านนอกพัดเข้ามาปะทะผิวสาวจนหนาวเหน็บเข้าไปถึงไขกระดูก แต่ฉับพลันกายสาวก็ร้อนรุ่มขึ้นมา เมื่อเห็นสายตาคมกริบของเคลวิน ที่มองมาในลักษณะสำรวจตรวจตราเขามองตั้งแต่ฝ่าเท้าเปลือยค่อยๆ เลื่อนสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาหยุดยังหน้าอกอวบที่ตอนนี้ซ่อนอยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนสีเขียวขี้ม้าสายตาของเคลวินมองอิ่งอ้อยอยู่ที่หน้าอกของหล่อนอยู่นาน ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาสบประสานสายตากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระ
แล้วเขาก็ช้อนร่างของหล่อนขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน ก้าวเข้ามาภายในห้องนอน จากนั้นก็พาหล่อนไปวางลงบนเตียงกว้างที่นุ่มอย่างอ่อนโยนหล่อนนอนดิ้นกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง รู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั้งตัวจนต้องดึงทึ้งเสื้อนอนหลายครั้ง ในขณะที่คนตัวโตยืนตระหง่านอยู่ข้างเตียง สายตาคมกริบจ้องมองมาไม่วางตา นิ้วแข็งแรงกำลังเปลื้องปลดเสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างใจเย็น ใบหน้าหล่อจัดแดงก่ำด้วยแรงปรารถนาโดยไม่คิดปิดบังหล่อนควรจะรวบรวมสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด และหนีออกไปจากห้องนี้ซะ ไปให้ไกลจากผู้ชายหล่อเหลาแต่ไม่มีหัวใจอย่างเคลวิน แต่หล่อนทำไม่ได้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้มีแต่เปลวไฟราคะดึงดูดให้หล่อนดำดิ่งลงสู่เหวเสน่หา เคลวินเต็มเปี่ยมไปด้วยความพลังทางเพศที่รุนแรงบ้าคลั่ง และเด็กสาวไร้ประสบการณ์อย่างหล่อนก็ไม่มีทางต้านทานมันได้“พ่อเลี้ยง...”เมื่อกางเกงของเขาถูกปล่อยให้หลุดมือลงไปกองกับพื้น เรือนกายสีคล้ามแดดที่ผิวหนังเรียบตึงก็ปรากฏแก่สายตา ความมึนเมาแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ริมฝีปากของหล่อนแห้งผาก ดวงตากลมโตเบิกกว้างแทบถลนรูปร่างของเคลวินงดงามเหลือเกิน...ลมหายใจของหล่อนติดแหง็กอยู่แค่ลำคอ หัวใจเต้นแรงระร
เนื้อตัวแข็งแกร่งและหนักอึ้งของเคลวินทาบทับลงมาหา เบียดบดกายสาวจนแทบจมหายลงไปในที่นอนนุ่ม ความหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังทำให้หล่อนตัวสั่นเทา กลีบปากอิ่มสั่นระริก มือเล็กที่ยกขึ้นดันแผงอกขนดกเอาไว้เย็นเฉียบ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มีหยาดน้ำใสๆ คลอ“ไม่ต้องกลัว... มีแต่ความสนุก”“หนู...”หล่อนอ้ำอึ้ง สบประสานสายตากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้กลายเป็นสีมืดดำผ่านม่านน้ำตา“เซ็กซ์มันคือเรื่องธรรมชาติของชายหญิง”“เอ่อ... แต่หนูไม่เคย...”“คนเรามันต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้น” น้ำเสียงของเขาเจือปนความหงุดหงิดจนสัมผัสได้ “แม้ว่าฉันจะไม่ได้ต้องการเป็นชายคนแรกที่ต้องพร่ำสอนบทสวาทให้เธอนักก็ตาม”คำพูดของเขาสร้างรอยกลวงในหัวใจสาวจนเลือดทะลักออกมาเซ็กซ์ครั้งนี้มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย ก็เหมือนกับหล่อนนั่นแหละ ที่ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับผู้ชายอย่างเขา เฌอปรางแสนเจ็บปวด แต่ก็ต้องก้มหน้ายอมรับต่อความต้องการของเคลวิน“อย่าทำตัวน่าเบื่อ ฉันขอแค่นี้แหละ”“หนู... จะพยายามค่ะ”เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากก้มหน้าลงซุกไซ้ลำคอขาวเนียน ไม่แม้จะจูบปากอิ่มที่กำลังสั่นระริกแม้แต่น้อยเขา
จากนั้นเขาก็ทำให้หล่อนสะท้านไหว สั่นระริกไปทั้งตัว ด้วยการคลี่ต้นขาอวบออกจากกัน และก็ทำให้กายสาวรวดร้าวด้วยความปรารถนาด้วยการวางฝ่ามือลงบนเนินนางอวบอูม“อืมมม อวบใหญ่มาก เฌอปราง...”“อ๊ะ... อ๊า... อา... พ่อเลี้ยง อา...”หล่อนดิ้นเร่าๆ ด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยพานพบมาก่อน เมื่อมือใหญ่เคลื่อนไหวบนความเป็นหญิง จากนั้นเขาก็ไล้นิ้วยาวหยอกเย้ากับหยาดน้ำหวานด้วยลีลาที่หล่อนต้องแอ่นร่อนร่างขึ้นสูง“อา... อ๊า... อา...”ร่างกายของหล่อนกำลังจะแตกสลาย แม้จะรู้สึกน่าอับอายที่ร่อนที่เด้งจุดซ่อนเร้นขึ้นรับปลายนิ้วพลิ้วไหวของเคลวินอย่างกระตือรือร้นแบบนี้ แต่หล่อนห้ามตัวเองไม่ได้ นิ้วแข็งแรงกำลังหลอมละลายให้หล่อนสลายกลายเป็นผุยผงหล่อนกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว...“อ๊า... อา... อา... ได้โปรด... พ่อเลี้ยง อา...”กายสาวอวบอัดยกหยัดขึ้นหา วิงวอนร้องขอให้เขาทำมากกว่าการไล้นิ้วไปตามร่องสาวฉ่ำเยิ้ม หล่อนต้องการมากกว่านี้ ต้องการให้เขา... ดับไฟในอุ้งเชิงกรานลงเสียที“ได้โปรด... อา... อ๊า... พ่อเลี้ยงขา... ช่วยหนูด้วย... อา...”หล่อนลืมกาล ลืมเวลา เผยอร่างสาวรับนิ้วยาวที่กำลังขยับอย่างช่ำชองอย่างไร้สติ เพลิงปรารถน
“ฉันไม่ชินน่ะที่ผู้หญิงที่นอนด้วยร้องไห้” เขาไหวไหล่กว้างที่มีหยาดเหงื่อเกาะพราวน้อยๆ “แต่นั่นคงเป็นเพราะฉันไม่เคยนอนกับสาวบริสุทธิ์มาก่อนนั่นเอง”หล่อนไม่ได้โต้ตอบ เอียงหน้าหนี ไม่คิดจะสบตากับเขาอีก“และฉันก็ไม่ได้รู้สึกดีที่ผู้หญิงร่วมเตียงไม่เสร็จ และค้างเติ่งแบบที่เธอกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้”“เอ่อ... หนู...” หล่อนรีบหันมาสบตากับเขา ส่ายหน้าซีดเผือดไปมา “หนูไม่... ไม่เป็นไรค่ะ”“เธอไม่เป็นไร แต่ฉันไม่ชอบ”“อ๊ะ...”เขาขยับบางส่วนที่ยังคงผนึกติดพันกันอยู่เป็นจังหวะ จากนั้นก็ก้มลงจูบปากบวมเจ่อที่กำลังจะเผยอทัดทาน“อื้อ... อุ๊บบบบ...”รสจูบของเคลวินมีอำนาจทำลายล้างสูงไม่ต่างจากครั้งแรก แต่ครั้งนี้สัมผัสของเขานุ่มนวลขึ้น ไม่ดุดัน เอาแต่ใจเหมือนครั้งก่อนหน้าที่ผ่านมาปากของเขาจูบ ดูดกลืนลิ้นเล็กจนอิ่มเอม ก็ซุกไซ้ต่ำลงมายังหน้าอกสาวที่มือใหญ่ฟอนเฟ้นรอคอย ยอดถันของหล่อนถูกปากร้อนจัดดูดอม“อา... อา... อ๊า...”ลิ้นสากของเขาตวัดโลมเลียจนหล่อนอ่อนระทวย มือเล็กยกขึ้นกดทึ้งศีรษะทุยทระนงเอาไว้ พร้อมกับหยัดแผ่นหลังขึ้นสูง เพื่อให้คนตัวโตได้ขยำกัดกินเต้าทรวงถนัดปาก“อา... อ๊า... พ่อเลี้ยง...”ครั้งนี
เคลวินยืนรับลมอยู่ริมระเบียง สายลมเย็นฉ่ำยามค่ำคืนที่พัดเข้ามาปะทะผิวหนุ่ม มันไม่อาจจะช่วยดับความร้อนรุ่มที่เกิดจากตัณหาราคะได้เลยเขายังคงต้องการที่จะทำแบบนั้นอีก... จ้วงแทงเข้าใส่ร่างสาวเล็กแคบจนน่าอัศจรรย์ของเฌอปรางครั้งแล้วครั้งเล่า อยากจะแตกระเบิดภายในกล้ามเนื้อนุ่มที่รัดรึงมากเท่าที่ตนเองจะสามารถทำได้ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวอย่างเฌอปราง ผู้หญิงที่เขาลากเข้ามาเป็นเครื่องมือในการฟาดฟันเอาคืนณิชาหญิงคนรัก จะสามารถจุดไฟในเลือดหนุ่มของเขาให้ร้อนฉ่า และเดือดพล่านจนควบคุมไม่ได้แบบนี้เขายังจดจำวินาทีที่ฝังลึกเข้าไปในความคับแน่นของเด็กสาวได้เป็นอย่างดี เยื่อบางๆ ที่เขาไม่เคยสัมผัสจากหญิงใดมาก่อนขาดวิ่น ก่อนที่เขาจะถูกกลีบนางโอบรัดแนบแน่นมันคือความรู้สึกที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด ไม่เคยมีหญิงใดทำให้เขาขาดสติได้อย่างที่เฌอปรางทำ แม้แต่ณิชาจริงสิ... ตอนที่เขาได้เคลื่อนไหวอยู่ในร่างของเฌอปราง ชื่อของณิชาไม่ได้อยู่ในหัวของเขาเลย สิ่งที่เขากระทำกับเด็กสาว มันคือความปรารถนาที่แท้จริงของบุรุษ“หกเดือนนี้คงไม่น่าเบื่ออย่างที่เคยคิดเอาไว้เสียแล้ว”ใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มหยัน หัวใจข
หล่อนยังไม่ตาย...เฌอปรางลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในตอนสายของวันรุ่งขึ้น แต่วันนี้ทุกอย่างในชีวิตของหล่อนมันเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ไม่สิ... ทุกอย่างในชีวิตของหล่อนมันเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่หล่อนจรดชื่อลงในสัญญาจ้างแต่งงานของเคลวินหยาดน้ำตารินไหลออกมาทางหางตา เมื่อเหตุการณ์ดั่งฝันร้ายเมื่อคืนย้อนกลับเข้ามาในสมอง เคลวินขู่กรรโชก เก็บดอกผลจากเม็ดเงินที่เขาใช้หว่านเลี้ยงดูดอกหญ้าเช่นหล่อนมานานนับสิบปีอย่างคุ้มค่าคุ้มราคาหล่อนแทบไม่ได้นอนหลับจริงๆ เลยเมื่อคืน เพราะเคลวินปลุกหล่อนให้ตื่นขึ้นมาพบกับความเร่าร้อนของตัณหาที่อัดแน่นอยู่ในกายหนุ่มนับครั้งไม่ถ้วนหลายครั้งที่หล่อนถูกเขาล่อลวงจนตกลงไปในลำธารแห่งความปรารถนาแสนบ้าคลั่ง และมันก็น่าอับอายนัก เมื่อจดจำได้ว่าหล่อนแหวกว่ายอยู่ในกระแสสวาทนั้นอย่างเต็มอกเต็มใจร่างกายของหล่อนไม่อาจจะต่อต้านปรมาจารย์แห่งราคะอย่างเคลวินได้ เขาช่ำชองเหลือเกิน และก็รู้ว่าต้องแตะต้องตรงไหนของกายสาวหล่อนถึงจะเร่าร้อนหยาดน้ำตารินไหลอาบแก้มจนหมอนใบใหญ่เปียกชุ่ม กายสาวไหวสะท้าน เมื่อนึกถึงยามที่เขาจ้วงแทงเข้ามาครอบครอง ครั้งแรกหล่อนเจ็บจนแทบขาดใจ แต่ครั้งต่อต่อมาจนถึงครั้ง
แม้สายตาคมกล้าของเคลวินที่มองมานั้นจะเต็มไปด้วยความพึงพอใจกับเรือนกายเปลือยเปล่าของหล่อน แต่... แต่หล่อนก็ไม่คุ้นชินกับการที่จะแก้ผ้าให้ผู้ชายมองโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร“ขึ้นเตียง”หล่อนจำต้องเดินขาสั่นเทาตรงไปยังเตียงนอน ในขณะที่เคลวินจับจ้องมองบั้นท้ายอวบงอนที่กำลังยักย้ายควักมือเรียกให้สัมผัสนั้นด้วยความหื่นกระหายไม่น่าเชื่อว่าหลังจากเมื่อคืน เขาเล่นรักกับเฌอปรางไปจนหมดเรี่ยวหมดแรง และก็นับครั้งไม่ได้เสียด้วยว่ากี่ครั้ง แต่เช้าวันนี้... วินาทีนี้ ความต้องการของเขามันรุนแรงกว่าเมื่อคืนนี้อีก“ไม่ต้องอ้าขาแล้ว เดี๋ยวฉันจัดการเอง”“อ๊ะ... อื้อ... พ่อเลี้ยง จะทำอะไรคะ อา...”หล่อนยังไม่ทันได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงตามคำสั่งแรกของเขาเลย แต่จู่ๆ เคลวินก็สวมกอดเข้ามาจากทางด้านหลังโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียก่อน มือใหญ่ข้างหนึ่งขยำเต้านม นิ้วยาวคีบยอดทรวงสีหวานปลุกเร้าจนเคร่งครัด ในขณะที่อีกมือก็ล้วงต่ำลงมาที่ซอกขา กอบกุมเนินนางบอบช้ำเอาไว้ และดันนิ้วผ่านรอยแยกสวาทเข้าไปข้างใน พร้อมกับบี้คลึงเกสรอ่อนไหว“อย่าดิ้นสิ... อืมมม”“อ๊ะ... อา... อา... อย่าค่ะ... พ่อเลี้ยง... หนูไม่ไหวแล้ว... หนูเพลีย... อื้
“กำลังคิดถึงฉันอยู่ใช่หรือเปล่า”เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมๆ กับอ้อมกอดอบอุ่นที่สอดมาทางด้านหลังเฌอปรางอมยิ้มอย่างมีความสุข ละสายตาจากดวงจันทร์กลมโตหมุนกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินแทน มองเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“หนูคิดถึงพ่อเลี้ยงทุกวินาทีนั่นแหละค่ะ”เขาหัวเราะร่วน ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนไปมา “งั้นก็เหมือนฉันเลยน่ะสิ ที่คิดถึงเธอตลอดเวลา ทุกวินาทีเลยรู้ไหม...”“พ่อเลี้ยงปากหวานอีกแล้วนะคะ”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา รัดรึงร่างอวบอัดของเมียรักแนบแน่นยิ่งขึ้น“ฉันไม่เคยปากหวาน พูดหวานๆ ก็ไม่เป็น ที่เธอได้ยินทุกอย่างนี่ก็คือความจริงจากใจล้วนๆ”“หนูไม่เชื่อหรอกค่ะว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยพูดหวานๆ อย่างน้อยๆ ตอนจีบผู้หญิงก็ต้องพูด ไม่งั้นพ่อเลี้ยงจะมีคนรักเหรอคะ” หล่อนได้ทีย่นจมูกใส่เขาอย่างมันเขี้ยวบ้าง“ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย”คนฟังเบิกตากว้าง เหลือเชื่อ “อ้าว ถ้าไม่ได้จีบแล้วคุณณิชามาเป็นแฟนพ่อเลี้ยงได้ยังไงคะ”“ณิชาเป็นฝ่ายจีบฉันน่ะ”“ฮะ?” เฌอปรางเหลือเชื่อมากๆ“จริงๆ นะ เห็นฉันหน้าตาดีแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ตอนเรียนก็เอาแต่เรียน ตอนทำงานก็ทำแต่งาน
เฌอปรางหัวเราะคิกคักเมื่อเคลวินออกคำสั่งเผด็จการแบบนั้นออกไป“พ่อเลี้ยงน่ะ ดูทำเข้าสิคะ”“ทำไมอะไรมิทราบเมียจ๋า” ใบหน้าหล่อจัดโน้มต่ำเข้ามาหาเรื่อยๆ“ก็... สั่งคนงานแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ น่าเกลียดจัง”“ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอกน่า มานี่เลย...”มือใหญ่ช้อนใต้ท้ายทอยเล็กอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประกบปากลงไปหา“อุ๊บบบ...”เขาบดขยี้จูบแล้วจูบอีก จูบจนเมียรักหายใจหายคอไม่ทัน จึงถอนปาก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากอ้อมแขน“หวานจัง...”“พ่อเลี้ยงน่ะ” คนเป็นเมียเอียงอายม้วนต้วน“ก็จริงนี่ ปากเธอหวานมาก แต่ก็ยังมีที่อื่นหวานกว่านะ อยากรู้ไหมว่าตรงไหน”ดวงตาคมกริบของเคลวินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย ขณะเลื่อนต่ำลงมองที่กลางลำตัวสาวเฌอปรางเนื้อตัวอุ่นวาบ เลือดสาวเดือดพล่านขึ้นมาในทันที ดวงหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอียงอาย“พ่อเลี้ยงน่ะ... ลามก”เขาดึงหล่อนเข้ามากอดแนบอก ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยเอาอย่างแสนรัก“ฉันก็เป็นแบบนี้กับเธอคนเดียวนั่นแหละเฌอปราง... และหวังว่าเธอจะชอบ...”หล่อนยิ้มหวานกับหน้าอกกว้างของสามี “หนูชอบทุกอย่างที่เป็นพ่อเลี้ยงค่ะ”“เมียใครนะปากหวานเจี๊ยบเลย”นิ้วแข็งแรงตรึงปลายคางมน และช
เคลวินถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เพราะเสียเลือดไปมาก ทำให้เขาต้องได้รับการให้เลือดอยู่หลายถุง เฌอปรางเฝ้าสามีอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมห่าง แม้ว่าตัวหล่อนเองจะบาดเจ็บที่ศีรษะเช่นกันก็ตาม“หนูปราง... ไปให้พยาบาลทำแผลก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าเฝ้าหน้าห้องให้ค่ะ ถ้าพ่อเลี้ยงออกมาแล้ว ป้าจะรีบไปบอกค่ะ” ป้าปราณีพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เฌอปรางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า แต่พ่อเลี้ยงบาดเจ็บ เลือดพ่อเลี้ยงออกมาเยอะมาก หนู... หนูกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะตาย...” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น“พ่อเลี้ยงเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ไม่มีทางยอมตายกะอีแค่มีดแทงหรอกค่ะ เชื่อป้านะคะ ไปทำแผลที่หัวก่อน ถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้าว่าหนูปรางไม่ยอมดูแลตัวเอง พ่อเลี้ยงจะโกรธเอานะคะ”“แต่หนูเป็นห่วงพ่อเลี้ยง... หนูอยากรอดูให้มั่นใจก่อนว่าพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย...”“ทำแผลที่หัวนิดเดียวค่ะ และก็แป๊บเดียวด้วย ยังไงก็เสร็จก่อนที่พ่อเลี้ยงจะผ่าตัดเสร็จอยู่แล้วค่ะ”เฌอปรางลังเลอยู่เล็กน้อย“นะคะ เชื่อป้าเถอะ ถ้าหนูปรางไม่สบายไปจะทำยังไงคะ อย่าลืมสิคะว่าตอนนี้ในท้องหนูปรางมีลูกของพ่อเลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ”“ลูก...”มือเล
ณิชาหัวเราะราวกับคนบ้า จากนั้นก็จิกหัวของเฌอปรางแรงๆ ลากลงมาจากรถ ซึ่งก็ทำให้คนที่สลบไสลอยู่ได้สติ“มึงฟื้นแล้วเหรอ อีเด็กบ้า”“คุณณิชา...” เฌอปรางตกใจมาก หน้าตาซีดเผือด และก็พยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหล่อนกับเคลวินกำลังขับรถกลับไร่ แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ และหล่อนก็สลบไปหล่อนไม่ตาย แล้วเคลวินล่ะ...?“พ่อเลี้ยง... พ่อเลี้ยงอยู่ไหนคะ พ่อเลี้ยงไม่เป็นอะไรใช่ไหม พ่อเลี้ยง”“ฉันอยู่นี่เฌอปราง”เฌอปรางหันไปเห็นว่าเคลวินปลอดภัยหล่อนก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“หนูดีใจที่พ่อเลี้ยงปลอดภัย”เคลวินได้ยินได้เห็นความห่วงใยที่เฌอปรางมีให้ตนเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจยิ่งนัก ที่ปกป้องหล่อนไม่ได้“ณิชา... ปล่อยเฌอปรางไป แล้วคุณมาจัดการผมนี่ ผมจะไม่ต่อสู้คุณเด็ดขาด ผมสัญญา...”“ไม่นะคะพ่อเลี้ยง... อย่าพูดแบบนี้นะคะ” เฌอปรางร้องไห้ออกมา และพยายามวิงวอนคนที่เอามีดจี้คอของตนเองอยู่ “คุณณิชา... หนูผิดเองค่ะ ผิดเองทุกอย่าง หนูรักพ่อเลี้ยง แอบรักพ่อเลี้ยงมานาน ก็เลย... ใช้โอกาสที่พ่อเลี้ยงเลิกกับคุณณิชา เข้าหาพ่อเลี้ยงค่ะ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้จะมีคนผ
หลังจากเลือกซื้อข้าวของเด็กอ่อนเสร็จแล้ว เคลวินก็พาหล่อนเข้าร้านเพชรร้านเดิม แต่หนนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิม เพราะเขาบังคับให้หล่อนรับแหวนเพชรเม็ดโต พอหล่อนอึกอักปฏิเสธ เขาก็ดึงนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมาและสวมแหวนให้ทันที“ห้ามถอดออกเด็ดขาดนะเด็กน้อย” เขาพูดเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความเผด็จการหล่อนอมยิ้มหวาน และก็ตอบรับเขาด้วยการผงกศีรษะขึ้นลงเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็พาหล่อนกินข้าวกลางวัน สั่งให้หล่อนกินยาบำรุงครรภ์ที่หมอจ่ายมาให้ และก่อนกลับบ้านก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารบำรุงสำหรับคนท้องมาจนเต็มรถ“ทีนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”เขาอมยิ้ม ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดทับลำตัว จากนั้นก็เคลื่อนรถกลับขึ้นไปวิ่งบนท้องถนนอีกครั้งเฌอปรางนั่งอยู่ในแอ่งแห่งความสุข แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามค้างคาใจติดอยู่“พ่อเลี้ยงคะ”“ว่าไง” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถาม“คือ...”“มีอะไรก็ว่ามาสิ” เขาเห็นหล่อนอึกอักก็เร่งเร้าให้พูด“หนู... หนูอยากรู้ว่า...”“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ”“พ่อเลี้ยงรู้ใช่ไหมคะว่าหนู... เอ่อ... รักพ่อเลี้ยง”หล่อนเห็นเขาอมยิ้ม และก็หันมามองหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปจ้องถนนเช่นเดิม“รู้สิ ฉันไม่ได้ตาบอดสั
“แล้วถ้าพ่อเลี้ยงรักหนูไม่ได้ล่ะคะ”“มันไม่มีวันนั้นหรอก”“ทำไมพ่อเลี้ยงถึงมั่นใจนักล่ะคะว่าจะรักหนูได้”เคลวินอยากจะกระชากแม่เด็กสาวช่างถามเข้ามาจูบปิดปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่หล่อนต้องการให้เขาสารภาพออกไปเลยหรือไงว่าตอนนี้เขารักหล่อนเรียบร้อยแล้วบ้าจริง...เขาไม่กล้าสารภาพออกไปหรอก ให้เฌอปรางรับรู้ถึงความรักของเขาผ่านการกระทำดีกว่า“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาซักไซ้ผู้ใหญ่นักเลย นั่งอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ ฉันไปจ่ายเงินก่อน” คนตัวโตได้จังหวะหลบเลี่ยงในที่สุด“ถึงพ่อเลี้ยงจะใจดีกับหนูมากกว่าเมื่อก่อน แต่หนูก็ยังต้องการให้พ่อเลี้ยงรักหนู... เหมือนที่หนูรักพ่อเลี้ยง...” เฌอปรางมองตามร่างสูงใหญ่ของเคลวินที่เดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจหล่อนนั่งเศร้าอยู่สักพักเคลวินก็เดินกลับมา พร้อมกับถุงใส่ยาที่คุณหมอจ่ายให้สำหรับหญิงตั้งครรภ์“กลับกันเถอะ”รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้หล่อนตัดสินใจวางมือเล็กลงในอุ้งมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้าอุ้งมือของเขาอบอุ่นเหลือเกิน และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก“ค่อยๆ เดินนะ มาฉันประคอง”“หนูเดินได้ค่ะพ่อเลี้ยง”“ก็บอกแล้วไงอย่าดื้อ... เดินดีๆ ค่อ
“เสียใจไหมที่เรายังจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้”คนตัวโตหยุดเดิน ยืนข้างรถ และดึงมือเล็กของหล่อนมากุมเอาไว้ ดวงตาคมเข้มจ้องมองดวงหน้าของหล่อน บอกให้รู้ว่าไม่ค่อยสบายใจนัก“ไม่เสียใจหรอกค่ะ”“ดีมาก” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนแผ่วเบา ก่อนจะดึงเข้าไปกอดแนบอก เสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ใต้ใบหูของหล่อน เฌอปรางระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ฉันสัญญาว่าถ้าเธออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ ฉันจะรีบพาเธอมาจดทะเบียนสมรสทันที” เขาหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างของหล่อนออกห่าง จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน “ว่าแต่เมื่อไหร่จะครบยี่สิบปีเต็มกันล่ะ หนึ่งปีกับกี่เดือนหรือ”“เอ่อ... หนึ่งปีกับอีกสิบเดือนค่ะ”“เฮ้อ นานจัง นี่ฉันมีเมียเด็กมากจริงๆ สินะ” ว่าแล้วเขาก็อมยิ้ม และดึงหล่อนเข้าไปกอดอีกครั้ง “แล้วฉันก็แก่ว่าเธอมากเสียด้วย หวังว่าเธอจะไม่นอกใจฉันไปหาเด็กหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหรอกนะ เฌอปราง”“พ่อเลี้ยงต่างหากล่ะคะ พอเบื่อหนูแล้วก็จะทิ้งหนู ไล่หนูออกจากไร่เหมือนเดิม”เขาขยับตัวออกห่าง ก้มลงมามองดวงหน้านวลของเฌอปราง ก่อนจะจูบปากอิ่มเบาๆ“ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก ฉันหลงเธอจะตายไป”ก็แค่หลง...เฌอปรางต่อคำพู
ป้าปราณีอมยิ้มเมื่อเห็นหล่อนเดินเคียงคู่มากับเคลวิน ซึ่งก็ทำให้หล่อนอดที่จะเสหลบสายตาด้วยความขัดเขินไม่ได้“ตั้งโต๊ะเลยครับป้า”“วันนี้พ่อเลี้ยงยิ้มแย้มต่างไปจากทุกวันเลยนะคะ” ป้าปราณีหันไปสั่งจิตกับแจ่มให้ตั้งโต๊ะแล้วก็อดที่จะแซวเคลวินที่เพิ่งจะเลื่อนเก้าอี้ให้เฌอปรางนั่งไม่ได้เคลวินหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะดึงมือเล็กบนตักมากุมเอาไว้“ผู้ชายเวลามีเมียเด็กก็อารมณ์ดีประมาณผมทุกคนแหละครับ”หล่อนได้ยินคำตอบของเคลวินก็ยิ่งเอียงอาย แต่ทันทีที่จิตกับแจ่มยกอาหารมาตั้งบนโต๊ะ และกลิ่นอาหารหน้าตาดีโชยเข้ามาในจมูกเท่านั้น ความวิงเวียนพะอืดพะอมก็ตีตื้นขึ้นมากระจุกรออยู่ที่ลำคอ มือเล็กยกขึ้นปิดปาก“เป็นอะไรไปเฌอปราง ไม่สบายหรือ”หล่อนไม่อาจจะตอบความสงสัยของเคลวินได้ เพราะต้องรีบพุ่งตัวไปห้องน้ำให้ทันเวลาเสียงโอ้กอ้ากของเด็กสาวดังมาเข้าหูเคลวิน เขาลุกขึ้นยืนจะเดินเข้าไปดู แต่ป้าปราณีห้ามเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็สั่งให้จิตเข้าไปดูเฌอปรางแทน“จิต เอ็งเข้าไปดูหนูปรางหน่อย”“จ้ะ ป้า”“ส่วนเอ็งก็ไปยกน้ำส้มมาให้หนูปราง นังแจ่ม”“จ้ะป้า”สองสาวใช้หายกันไปคนละทิศละทางแล้ว ป้าปราณีก็มองหน้าเคลวินและ
เฌอปรางกำลังจะเลี้ยวเข้าเรือนพักคนงาน แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเคลวินปรากฏตัวตรงหน้าเสียก่อน เรือนกายล่ำสันในชุดทำงานและสวมหมวกปีกกว้างเดินเข้ามาหา“เอ่อ...”“เมื่อคืนฉันก็ทำโทษเธอทั้งคืนแล้ว ยังไม่เข็ดอีกหรือเฌอปราง”“หนู... แค่มาเอากระเป๋าค่ะ”“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้คนงานยกไปให้” เขาก้าวเข้ามาใกล้จนหล่อนขยับถอยหลังหนีไม่ทัน ดวงตาของเขาที่จ้องมองมา มันทำให้หล่อนอดนึกถึงเรื่องร้อนฉ่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้“กลับเข้าบ้านด้วยกัน ฉันหิวแล้ว”“หิว...?”เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวตีความหมายของคำพูดไปไกลกว่าที่เป็นจริง“ฉันยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลย” เขาจ้องหน้าหล่อน “เพราะรอเด็กขี้เซาคนหนึ่งตื่นน่ะ”“เอ่อ... หนูเหรอคะ”เขายกมือขึ้นยีเส้นผมนุ่มให้ยุ่งมากกว่าเดิม จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดอมดมกลิ่นหอมละมุนด้วยปลายจมูกอย่างอดใจไม่ไหว เฌอปรางหน้าแดงระเรื่อ“พ่อ... พ่อเลี้ยงคะ เดี๋ยวใครมาเห็นค่ะ”เขาจำต้องตัดใจเงยหน้าออกห่างร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น จากนั้นก็กุมข้อมือเล็กให้เดินเคียงข้างไปด้วยกันเฌอปรางอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา มองคนตัวโตที่มีพลังทางเพศสูงลิบอย่างเคลวินด้วยความรักหล่อนจะได้เดินเคียงข้างเขาอ