เฌอปรางไม่รู้หรอกว่าตนเองหายเข้าไปในห้องน้ำนานแค่ไหน แต่หลังจากก้าวเท้าออกมาก็พบว่าประตูกระจกที่กั้นห้องนอนกับระเบียงไม้เอาไว้ถูกเปิดออก และแน่นอนว่าเคลวินต้องออกไปนั่งดื่มที่นั่น
หล่อนรีบปิดประตูห้องน้ำอย่างเบามือ เพราะไม่ต้องการให้เคลวินรู้ว่าหล่อนออกมาแล้ว แต่เขาหูดีเหลือเกิน เพราะเท้าเล็กยังไม่ทันจะเคลื่อนไปไหน เสียงเย็นชาของเขาก็ดังขึ้น
“มานั่งกับฉันตรงนี้ เฌอปราง”
“ค่ะ”
หล่อนไม่เคยมีทางเลือกเลย หากคำสั่งนั้นออกมาจากริมฝีปากหยักสวยของเคลวิน
เท้าบอบบางค่อยๆ ก้าวตรงไปยังประตูกระจกที่เปิดกว้างเอาไว้ มือเล็กแยกผ้าม่านออกจากกัน และก้าวออกไปเผชิญหน้ากับคนตัวโตที่กำลังดื่มเหล้าอยู่
สายลมเย็นฉ่ำด้านนอกพัดเข้ามาปะทะผิวสาวจนหนาวเหน็บเข้าไปถึงไขกระดูก แต่ฉับพลันกายสาวก็ร้อนรุ่มขึ้นมา เมื่อเห็นสายตาคมกริบของเคลวิน ที่มองมาในลักษณะสำรวจตรวจตรา
เขามองตั้งแต่ฝ่าเท้าเปลือยค่อยๆ เลื่อนสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาหยุดยังหน้าอกอวบที่ตอนนี้ซ่อนอยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนสีเขียวขี้ม้า
สายตาของเคลวินมองอิ่งอ้อยอยู่ที่หน้าอกของหล่อนอยู่นาน ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาสบประสานสายตากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกของหล่อน
“ความจริง เธอก็ดูเป็นสาวขึ้นมากนะเฌอปราง”
หล่อนทำได้แค่เพียงฝืนยิ้ม และทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงกันข้ามกับเขา เมื่อเขาเชื้อเชิญ
“ดื่มสิ”
“เอ่อ... หนู... หนูดื่มไม่เป็นค่ะ” หล่อนปฏิเสธ เมื่อเขารินไวน์สีแดงใส่แก้วส่งมาให้
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบเครื่องดื่มพวกนี้ แต่ถือเสียว่าเป็นการฉลองในชัยชนะของฉันก็แล้วกัน ดื่ม...”
“หนู...”
“แค่แก้วเดียวเอง ไม่เมาหรอก” เขาคะยั้นคะยอ และก็คว้ามือหล่อนไปกุมแก้วใบสวยเอาไว้
“ดื่มเพื่อฉัน”
ดื่มเพื่อเขาเหรอ?
เพราะคำว่าเพื่อเขานี่แหละ ทำให้หล่อนทำได้ทุกอย่าง แม้การกระทำนั้นจะไม่ต่างจากการกรีดเฉือนหัวใจของตนเองก็ตาม
“ค่ะ”
“ฉันชอบที่เธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายนะ เฌอปราง”
มือขาวสะอาดสั่นเทา ค่อยๆ ยกแก้วไวน์ขึ้น จุดหมายก็คือที่ริมฝีปากของตนเอง ท่ามกลางสายตาพึงพอใจของเคลวิน
แค่กๆ
หล่อนถึงกับไอออกมาเลยทีเดียว กับรสชาติที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน
“ดื่มครั้งแรกก็แบบนี้แหละ แต่มันอร่อยใช่ไหมล่ะ”
หล่อนมองแก้วใบสวยที่ตนเองดื่มน้ำสีแดงจนเกลี้ยงด้วยสายตากระอักกระอ่วนใจ
“หนู... ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ”
“ฉันนึกว่าเธอจะชอบเสียอีก แต่ไม่เป็นไร ไม่ชอบก็ไม่ชอบ” เขาอมยิ้ม และก็รินไวน์ใส่แก้วให้หล่อนอีกครั้ง “แต่ฉันคิดว่ายังไงคืนนี้เธอก็ควรจะดื่มมันสักหน่อย จะได้ผ่อนคลาย”
“เอ่อ...”
“ฉันหมายถึง...” ดวงตาคมกริบจ้องมองมา และสำรวจไปทั่วดวงหน้าที่เป็นสีระเรื่อของหล่อน “เธอจะสนุกไปกับฉัน เวลาที่เราอยู่บนเตียงด้วยกันยังไงล่ะ”
หล่อนอ้าปากค้าง ดวงตากลมโตเบิกโพลง เมื่อเขาพูดตรงไปตรงมาเหลือเกิน
“ดื่มเถอะ แล้วเธอจะรู้สึกดีขึ้น”
มือเล็กสั่นเทา ก่อนจะค่อยๆ ยกขึ้น และดื่มไวน์สีแดงในแก้วจนหมดอีกครั้ง
ครั้งนี้หล่อนไม่ได้ไอแค่กๆ เหมือนครั้งแรก แต่รสชาติของมันก็ยังบาดคอจนต้องเบ้หน้าเบี้ยวอยู่ดี
“เป็นไงบ้าง อร่อยขึ้นบ้างไหม”
“ก็... ดีขึ้นค่ะ”
“งั้นดื่มอีก” เขารินไวน์ใส่แก้วให้หล่อนอีกแล้ว
“เอ่อ... หนูคิดว่า หนูควรจะหยุดดื่ม ตอนนี้หัวหนูวิงๆ แปลกๆ แล้วค่ะ”
“ดื่มเถอะ เราจะได้สนุกกันอย่างเต็มที่”
รอยยิ้มทรงเสน่ห์ สายตาร้อนแรง และน้ำเสียงเซ็กซี่ที่คะยั้นคะยอแผ่วเบา ทำให้เด็กสาวอย่างหล่อนยากที่จะต้านทานอำนาจลึกลับนั้นได้
กี่แก้วนะที่หล่อนยกไวน์สีแดงเทลงไปในลำคอระหง หล่อนจำไม่ได้หรอก รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ หล่อนรู้สึกผ่อนคลายและสนุกเหมือนที่เคลวินบอกจริงๆ
หล่อนยิ้มแย้มออกมา ดวงตากลมโตหวานฉ่ำ และไร้ความประหม่าอีกอย่างสิ้นเชิง
ความทุกข์ใจ ความน้อยอกน้อยใจ และทุกความปวดร้าวคล้ายกับถูกกดปุ่มให้หยุดทำงานไปชั่วขณะ ตอนนี้ร่างกายของหล่อนร้อนผะผ่าว รู้สึกคล้ายกับมีกองไฟเล็กอยู่ทั่วทั้งร่าง
“ขอ... อีกค่ะพ่อเลี้ยง...”
หล่อนยื่นแก้วใบสวยในมือของตัวเองออกไปตรงหน้า และขอไวน์แดงอีก แต่เคลวินส่ายหน้าไปมา
“เธอเมาแล้วเฌอปราง”
“แต่หนู... อยากดื่มอีกค่ะ รู้สึกว่ามันอร่อยดี...”
หล่อนหัวเราะคิกคักและพยายามจะคว้าขวดไวน์มารินเอง แต่เคลวินหยิบขวดยกหนีไปทางอื่น
“พ่อเลี้ยงน่ะ... หนูอยากดื่มอีก”
“ถ้าเธอเมากว่านี้ ฉันคิดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนเตียง คงไม่น่าสนุกเท่าไหร่”
แม้จะเมามาย แต่สิ่งที่เขาพูดก็ทำให้เฌอปรางชะงักได้เล็กน้อย ก่อนที่หล่อนจะยิ้มอายๆ ออกมา
“นี่พ่อเลี้ยง... จะทำหนูจริงๆ เหรอคะ...”
“ถูกต้อง และก็ถึงเวลาที่ฉันจะทำเธอแล้วด้วย”
กายสูงใหญ่ของเคลวินหยัดยืนขึ้น พร้อมกับเสี้ยววินาทีเดียวที่ก้าวมาหยุดข้างหลังเก้าอี้ที่หล่อนนั่ง เขาโน้มตัวลงมาหา มือใหญ่คว้าต้นแขนกลมกลึงทั้งสองข้างเอาไว้ และรั้งให้ลุกขึ้นยืน
“ฉันไม่ชอบนอนดึก ดังนั้นเราควรจะเริ่มต้นมันซะ”
ร่างของหล่อนเซเล็กน้อย เข้าไปสัมผัสกับเรือนกายกำยำที่แน่นหนั่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแข็งแรง สมองที่มึนเมา ทำให้เฌอปรางทรงตัวไม่อยู่
“เธอเมากว่าที่ฉันคิดเอาไว้เสียอีก”
แล้วเขาก็ช้อนร่างของหล่อนขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน ก้าวเข้ามาภายในห้องนอน จากนั้นก็พาหล่อนไปวางลงบนเตียงกว้างที่นุ่มอย่างอ่อนโยนหล่อนนอนดิ้นกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง รู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั้งตัวจนต้องดึงทึ้งเสื้อนอนหลายครั้ง ในขณะที่คนตัวโตยืนตระหง่านอยู่ข้างเตียง สายตาคมกริบจ้องมองมาไม่วางตา นิ้วแข็งแรงกำลังเปลื้องปลดเสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างใจเย็น ใบหน้าหล่อจัดแดงก่ำด้วยแรงปรารถนาโดยไม่คิดปิดบังหล่อนควรจะรวบรวมสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด และหนีออกไปจากห้องนี้ซะ ไปให้ไกลจากผู้ชายหล่อเหลาแต่ไม่มีหัวใจอย่างเคลวิน แต่หล่อนทำไม่ได้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้มีแต่เปลวไฟราคะดึงดูดให้หล่อนดำดิ่งลงสู่เหวเสน่หา เคลวินเต็มเปี่ยมไปด้วยความพลังทางเพศที่รุนแรงบ้าคลั่ง และเด็กสาวไร้ประสบการณ์อย่างหล่อนก็ไม่มีทางต้านทานมันได้“พ่อเลี้ยง...”เมื่อกางเกงของเขาถูกปล่อยให้หลุดมือลงไปกองกับพื้น เรือนกายสีคล้ามแดดที่ผิวหนังเรียบตึงก็ปรากฏแก่สายตา ความมึนเมาแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ริมฝีปากของหล่อนแห้งผาก ดวงตากลมโตเบิกกว้างแทบถลนรูปร่างของเคลวินงดงามเหลือเกิน...ลมหายใจของหล่อนติดแหง็กอยู่แค่ลำคอ หัวใจเต้นแรงระร
เนื้อตัวแข็งแกร่งและหนักอึ้งของเคลวินทาบทับลงมาหา เบียดบดกายสาวจนแทบจมหายลงไปในที่นอนนุ่ม ความหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังทำให้หล่อนตัวสั่นเทา กลีบปากอิ่มสั่นระริก มือเล็กที่ยกขึ้นดันแผงอกขนดกเอาไว้เย็นเฉียบ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มีหยาดน้ำใสๆ คลอ“ไม่ต้องกลัว... มีแต่ความสนุก”“หนู...”หล่อนอ้ำอึ้ง สบประสานสายตากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้กลายเป็นสีมืดดำผ่านม่านน้ำตา“เซ็กซ์มันคือเรื่องธรรมชาติของชายหญิง”“เอ่อ... แต่หนูไม่เคย...”“คนเรามันต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้น” น้ำเสียงของเขาเจือปนความหงุดหงิดจนสัมผัสได้ “แม้ว่าฉันจะไม่ได้ต้องการเป็นชายคนแรกที่ต้องพร่ำสอนบทสวาทให้เธอนักก็ตาม”คำพูดของเขาสร้างรอยกลวงในหัวใจสาวจนเลือดทะลักออกมาเซ็กซ์ครั้งนี้มันไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย ก็เหมือนกับหล่อนนั่นแหละ ที่ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับผู้ชายอย่างเขา เฌอปรางแสนเจ็บปวด แต่ก็ต้องก้มหน้ายอมรับต่อความต้องการของเคลวิน“อย่าทำตัวน่าเบื่อ ฉันขอแค่นี้แหละ”“หนู... จะพยายามค่ะ”เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากก้มหน้าลงซุกไซ้ลำคอขาวเนียน ไม่แม้จะจูบปากอิ่มที่กำลังสั่นระริกแม้แต่น้อยเขา
จากนั้นเขาก็ทำให้หล่อนสะท้านไหว สั่นระริกไปทั้งตัว ด้วยการคลี่ต้นขาอวบออกจากกัน และก็ทำให้กายสาวรวดร้าวด้วยความปรารถนาด้วยการวางฝ่ามือลงบนเนินนางอวบอูม“อืมมม อวบใหญ่มาก เฌอปราง...”“อ๊ะ... อ๊า... อา... พ่อเลี้ยง อา...”หล่อนดิ้นเร่าๆ ด้วยแรงปรารถนาที่ไม่เคยพานพบมาก่อน เมื่อมือใหญ่เคลื่อนไหวบนความเป็นหญิง จากนั้นเขาก็ไล้นิ้วยาวหยอกเย้ากับหยาดน้ำหวานด้วยลีลาที่หล่อนต้องแอ่นร่อนร่างขึ้นสูง“อา... อ๊า... อา...”ร่างกายของหล่อนกำลังจะแตกสลาย แม้จะรู้สึกน่าอับอายที่ร่อนที่เด้งจุดซ่อนเร้นขึ้นรับปลายนิ้วพลิ้วไหวของเคลวินอย่างกระตือรือร้นแบบนี้ แต่หล่อนห้ามตัวเองไม่ได้ นิ้วแข็งแรงกำลังหลอมละลายให้หล่อนสลายกลายเป็นผุยผงหล่อนกำลังจะขาดใจตายอยู่แล้ว...“อ๊า... อา... อา... ได้โปรด... พ่อเลี้ยง อา...”กายสาวอวบอัดยกหยัดขึ้นหา วิงวอนร้องขอให้เขาทำมากกว่าการไล้นิ้วไปตามร่องสาวฉ่ำเยิ้ม หล่อนต้องการมากกว่านี้ ต้องการให้เขา... ดับไฟในอุ้งเชิงกรานลงเสียที“ได้โปรด... อา... อ๊า... พ่อเลี้ยงขา... ช่วยหนูด้วย... อา...”หล่อนลืมกาล ลืมเวลา เผยอร่างสาวรับนิ้วยาวที่กำลังขยับอย่างช่ำชองอย่างไร้สติ เพลิงปรารถน
“ฉันไม่ชินน่ะที่ผู้หญิงที่นอนด้วยร้องไห้” เขาไหวไหล่กว้างที่มีหยาดเหงื่อเกาะพราวน้อยๆ “แต่นั่นคงเป็นเพราะฉันไม่เคยนอนกับสาวบริสุทธิ์มาก่อนนั่นเอง”หล่อนไม่ได้โต้ตอบ เอียงหน้าหนี ไม่คิดจะสบตากับเขาอีก“และฉันก็ไม่ได้รู้สึกดีที่ผู้หญิงร่วมเตียงไม่เสร็จ และค้างเติ่งแบบที่เธอกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้”“เอ่อ... หนู...” หล่อนรีบหันมาสบตากับเขา ส่ายหน้าซีดเผือดไปมา “หนูไม่... ไม่เป็นไรค่ะ”“เธอไม่เป็นไร แต่ฉันไม่ชอบ”“อ๊ะ...”เขาขยับบางส่วนที่ยังคงผนึกติดพันกันอยู่เป็นจังหวะ จากนั้นก็ก้มลงจูบปากบวมเจ่อที่กำลังจะเผยอทัดทาน“อื้อ... อุ๊บบบบ...”รสจูบของเคลวินมีอำนาจทำลายล้างสูงไม่ต่างจากครั้งแรก แต่ครั้งนี้สัมผัสของเขานุ่มนวลขึ้น ไม่ดุดัน เอาแต่ใจเหมือนครั้งก่อนหน้าที่ผ่านมาปากของเขาจูบ ดูดกลืนลิ้นเล็กจนอิ่มเอม ก็ซุกไซ้ต่ำลงมายังหน้าอกสาวที่มือใหญ่ฟอนเฟ้นรอคอย ยอดถันของหล่อนถูกปากร้อนจัดดูดอม“อา... อา... อ๊า...”ลิ้นสากของเขาตวัดโลมเลียจนหล่อนอ่อนระทวย มือเล็กยกขึ้นกดทึ้งศีรษะทุยทระนงเอาไว้ พร้อมกับหยัดแผ่นหลังขึ้นสูง เพื่อให้คนตัวโตได้ขยำกัดกินเต้าทรวงถนัดปาก“อา... อ๊า... พ่อเลี้ยง...”ครั้งนี
เคลวินยืนรับลมอยู่ริมระเบียง สายลมเย็นฉ่ำยามค่ำคืนที่พัดเข้ามาปะทะผิวหนุ่ม มันไม่อาจจะช่วยดับความร้อนรุ่มที่เกิดจากตัณหาราคะได้เลยเขายังคงต้องการที่จะทำแบบนั้นอีก... จ้วงแทงเข้าใส่ร่างสาวเล็กแคบจนน่าอัศจรรย์ของเฌอปรางครั้งแล้วครั้งเล่า อยากจะแตกระเบิดภายในกล้ามเนื้อนุ่มที่รัดรึงมากเท่าที่ตนเองจะสามารถทำได้ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวอย่างเฌอปราง ผู้หญิงที่เขาลากเข้ามาเป็นเครื่องมือในการฟาดฟันเอาคืนณิชาหญิงคนรัก จะสามารถจุดไฟในเลือดหนุ่มของเขาให้ร้อนฉ่า และเดือดพล่านจนควบคุมไม่ได้แบบนี้เขายังจดจำวินาทีที่ฝังลึกเข้าไปในความคับแน่นของเด็กสาวได้เป็นอย่างดี เยื่อบางๆ ที่เขาไม่เคยสัมผัสจากหญิงใดมาก่อนขาดวิ่น ก่อนที่เขาจะถูกกลีบนางโอบรัดแนบแน่นมันคือความรู้สึกที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด ไม่เคยมีหญิงใดทำให้เขาขาดสติได้อย่างที่เฌอปรางทำ แม้แต่ณิชาจริงสิ... ตอนที่เขาได้เคลื่อนไหวอยู่ในร่างของเฌอปราง ชื่อของณิชาไม่ได้อยู่ในหัวของเขาเลย สิ่งที่เขากระทำกับเด็กสาว มันคือความปรารถนาที่แท้จริงของบุรุษ“หกเดือนนี้คงไม่น่าเบื่ออย่างที่เคยคิดเอาไว้เสียแล้ว”ใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มหยัน หัวใจข
หล่อนยังไม่ตาย...เฌอปรางลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในตอนสายของวันรุ่งขึ้น แต่วันนี้ทุกอย่างในชีวิตของหล่อนมันเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ไม่สิ... ทุกอย่างในชีวิตของหล่อนมันเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่หล่อนจรดชื่อลงในสัญญาจ้างแต่งงานของเคลวินหยาดน้ำตารินไหลออกมาทางหางตา เมื่อเหตุการณ์ดั่งฝันร้ายเมื่อคืนย้อนกลับเข้ามาในสมอง เคลวินขู่กรรโชก เก็บดอกผลจากเม็ดเงินที่เขาใช้หว่านเลี้ยงดูดอกหญ้าเช่นหล่อนมานานนับสิบปีอย่างคุ้มค่าคุ้มราคาหล่อนแทบไม่ได้นอนหลับจริงๆ เลยเมื่อคืน เพราะเคลวินปลุกหล่อนให้ตื่นขึ้นมาพบกับความเร่าร้อนของตัณหาที่อัดแน่นอยู่ในกายหนุ่มนับครั้งไม่ถ้วนหลายครั้งที่หล่อนถูกเขาล่อลวงจนตกลงไปในลำธารแห่งความปรารถนาแสนบ้าคลั่ง และมันก็น่าอับอายนัก เมื่อจดจำได้ว่าหล่อนแหวกว่ายอยู่ในกระแสสวาทนั้นอย่างเต็มอกเต็มใจร่างกายของหล่อนไม่อาจจะต่อต้านปรมาจารย์แห่งราคะอย่างเคลวินได้ เขาช่ำชองเหลือเกิน และก็รู้ว่าต้องแตะต้องตรงไหนของกายสาวหล่อนถึงจะเร่าร้อนหยาดน้ำตารินไหลอาบแก้มจนหมอนใบใหญ่เปียกชุ่ม กายสาวไหวสะท้าน เมื่อนึกถึงยามที่เขาจ้วงแทงเข้ามาครอบครอง ครั้งแรกหล่อนเจ็บจนแทบขาดใจ แต่ครั้งต่อต่อมาจนถึงครั้ง
แม้สายตาคมกล้าของเคลวินที่มองมานั้นจะเต็มไปด้วยความพึงพอใจกับเรือนกายเปลือยเปล่าของหล่อน แต่... แต่หล่อนก็ไม่คุ้นชินกับการที่จะแก้ผ้าให้ผู้ชายมองโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร“ขึ้นเตียง”หล่อนจำต้องเดินขาสั่นเทาตรงไปยังเตียงนอน ในขณะที่เคลวินจับจ้องมองบั้นท้ายอวบงอนที่กำลังยักย้ายควักมือเรียกให้สัมผัสนั้นด้วยความหื่นกระหายไม่น่าเชื่อว่าหลังจากเมื่อคืน เขาเล่นรักกับเฌอปรางไปจนหมดเรี่ยวหมดแรง และก็นับครั้งไม่ได้เสียด้วยว่ากี่ครั้ง แต่เช้าวันนี้... วินาทีนี้ ความต้องการของเขามันรุนแรงกว่าเมื่อคืนนี้อีก“ไม่ต้องอ้าขาแล้ว เดี๋ยวฉันจัดการเอง”“อ๊ะ... อื้อ... พ่อเลี้ยง จะทำอะไรคะ อา...”หล่อนยังไม่ทันได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงตามคำสั่งแรกของเขาเลย แต่จู่ๆ เคลวินก็สวมกอดเข้ามาจากทางด้านหลังโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียก่อน มือใหญ่ข้างหนึ่งขยำเต้านม นิ้วยาวคีบยอดทรวงสีหวานปลุกเร้าจนเคร่งครัด ในขณะที่อีกมือก็ล้วงต่ำลงมาที่ซอกขา กอบกุมเนินนางบอบช้ำเอาไว้ และดันนิ้วผ่านรอยแยกสวาทเข้าไปข้างใน พร้อมกับบี้คลึงเกสรอ่อนไหว“อย่าดิ้นสิ... อืมมม”“อ๊ะ... อา... อา... อย่าค่ะ... พ่อเลี้ยง... หนูไม่ไหวแล้ว... หนูเพลีย... อื้
เฌอปรางนอนพักผ่อนอยู่ครึ่งค่อนวันตามคำสั่งของเคลวินที่สั่งเอาไว้ จนกระทั่งไม่อาจจะทนอุดอู้อยู่ภายในห้องนอนได้อีกต่อไป หล่อนก้าวลงจากเตียง พร้อมกับเดินออกมาบรรยากาศรอบๆ ตัวยังคงเหมือนเมื่อวาน ก็คงมีแต่หล่อนเท่านั้นแหละมั้งที่แตกต่างออกไป และไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้วเท้าบอบบางก้าวเดินลงไปยังชั้นล่าง จิตกับแจ่มกำลังง่วนอยู่กับการเช็ดถูตู้ไม้อยู่ และเมื่อเห็นหล่อน ก็ยิ้มทักทาย“น้องปรางเป็นยังไงบ้าง ฟินไหม”“นังจิต เรียกน้องปรางได้ยังไง ต้องเรียกคุณปรางสิถึงจะถูก” แจ่มแย้งขึ้น และฉีกยิ้มกว้างเฌอปรางฝืนยิ้ม สายตาของคนทั้งคู่บอกให้รู้ว่ากำลังคิดอะไรเกี่ยวกับตัวของหล่อนอยู่“เอ่อ... ปรางขอตัวก่อนนะคะ”“น้องปราง... เอ่อ คุณปรางจะรีบไปไหนล่ะ ตอบพี่ก่อนสิว่าฟินไหมเมื่อคืนน่ะ”“นังจิต แกก็ไปละลาบละล้วงเรื่องเจ้านาย เดี๋ยวกระเด็นออกจากไร่หรอกนะยะ”“แหม ก็แค่เจ้านายชั่วคราวน่ะ ไม่เห็นต้องเกรงใจอะไรนักหนาเลยนังแจ่ม”เสียงสนทนาของสองสาวใช้ดังแว่วตามมาเข้าหู เรียกหยาดน้ำใสๆ ให้เอ่อล้นขอบตาได้อย่างง่ายดายเฌอปรางก้มหน้าลงมองพื้น ขณะเดินย่ำมุ่งหน้าจะกลับไปยังห้องพักที่ตัวเองเคยอยู่ ที่น
“กำลังคิดถึงฉันอยู่ใช่หรือเปล่า”เสียงนุ่มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมๆ กับอ้อมกอดอบอุ่นที่สอดมาทางด้านหลังเฌอปรางอมยิ้มอย่างมีความสุข ละสายตาจากดวงจันทร์กลมโตหมุนกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาของเคลวินแทน มองเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“หนูคิดถึงพ่อเลี้ยงทุกวินาทีนั่นแหละค่ะ”เขาหัวเราะร่วน ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนไปมา “งั้นก็เหมือนฉันเลยน่ะสิ ที่คิดถึงเธอตลอดเวลา ทุกวินาทีเลยรู้ไหม...”“พ่อเลี้ยงปากหวานอีกแล้วนะคะ”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา รัดรึงร่างอวบอัดของเมียรักแนบแน่นยิ่งขึ้น“ฉันไม่เคยปากหวาน พูดหวานๆ ก็ไม่เป็น ที่เธอได้ยินทุกอย่างนี่ก็คือความจริงจากใจล้วนๆ”“หนูไม่เชื่อหรอกค่ะว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยพูดหวานๆ อย่างน้อยๆ ตอนจีบผู้หญิงก็ต้องพูด ไม่งั้นพ่อเลี้ยงจะมีคนรักเหรอคะ” หล่อนได้ทีย่นจมูกใส่เขาอย่างมันเขี้ยวบ้าง“ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย”คนฟังเบิกตากว้าง เหลือเชื่อ “อ้าว ถ้าไม่ได้จีบแล้วคุณณิชามาเป็นแฟนพ่อเลี้ยงได้ยังไงคะ”“ณิชาเป็นฝ่ายจีบฉันน่ะ”“ฮะ?” เฌอปรางเหลือเชื่อมากๆ“จริงๆ นะ เห็นฉันหน้าตาดีแบบนี้ แต่ฉันไม่เคยจีบผู้หญิงมาก่อนเลย ตอนเรียนก็เอาแต่เรียน ตอนทำงานก็ทำแต่งาน
เฌอปรางหัวเราะคิกคักเมื่อเคลวินออกคำสั่งเผด็จการแบบนั้นออกไป“พ่อเลี้ยงน่ะ ดูทำเข้าสิคะ”“ทำไมอะไรมิทราบเมียจ๋า” ใบหน้าหล่อจัดโน้มต่ำเข้ามาหาเรื่อยๆ“ก็... สั่งคนงานแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะคะ น่าเกลียดจัง”“ไม่มีอะไรน่าเกลียดหรอกน่า มานี่เลย...”มือใหญ่ช้อนใต้ท้ายทอยเล็กอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประกบปากลงไปหา“อุ๊บบบ...”เขาบดขยี้จูบแล้วจูบอีก จูบจนเมียรักหายใจหายคอไม่ทัน จึงถอนปาก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากอ้อมแขน“หวานจัง...”“พ่อเลี้ยงน่ะ” คนเป็นเมียเอียงอายม้วนต้วน“ก็จริงนี่ ปากเธอหวานมาก แต่ก็ยังมีที่อื่นหวานกว่านะ อยากรู้ไหมว่าตรงไหน”ดวงตาคมกริบของเคลวินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย ขณะเลื่อนต่ำลงมองที่กลางลำตัวสาวเฌอปรางเนื้อตัวอุ่นวาบ เลือดสาวเดือดพล่านขึ้นมาในทันที ดวงหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอียงอาย“พ่อเลี้ยงน่ะ... ลามก”เขาดึงหล่อนเข้ามากอดแนบอก ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยสวยเอาอย่างแสนรัก“ฉันก็เป็นแบบนี้กับเธอคนเดียวนั่นแหละเฌอปราง... และหวังว่าเธอจะชอบ...”หล่อนยิ้มหวานกับหน้าอกกว้างของสามี “หนูชอบทุกอย่างที่เป็นพ่อเลี้ยงค่ะ”“เมียใครนะปากหวานเจี๊ยบเลย”นิ้วแข็งแรงตรึงปลายคางมน และช
เคลวินถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เพราะเสียเลือดไปมาก ทำให้เขาต้องได้รับการให้เลือดอยู่หลายถุง เฌอปรางเฝ้าสามีอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ยอมห่าง แม้ว่าตัวหล่อนเองจะบาดเจ็บที่ศีรษะเช่นกันก็ตาม“หนูปราง... ไปให้พยาบาลทำแผลก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าเฝ้าหน้าห้องให้ค่ะ ถ้าพ่อเลี้ยงออกมาแล้ว ป้าจะรีบไปบอกค่ะ” ป้าปราณีพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง แต่เฌอปรางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า แต่พ่อเลี้ยงบาดเจ็บ เลือดพ่อเลี้ยงออกมาเยอะมาก หนู... หนูกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะตาย...” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น“พ่อเลี้ยงเข้มแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ไม่มีทางยอมตายกะอีแค่มีดแทงหรอกค่ะ เชื่อป้านะคะ ไปทำแผลที่หัวก่อน ถ้าพ่อเลี้ยงรู้เข้าว่าหนูปรางไม่ยอมดูแลตัวเอง พ่อเลี้ยงจะโกรธเอานะคะ”“แต่หนูเป็นห่วงพ่อเลี้ยง... หนูอยากรอดูให้มั่นใจก่อนว่าพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย...”“ทำแผลที่หัวนิดเดียวค่ะ และก็แป๊บเดียวด้วย ยังไงก็เสร็จก่อนที่พ่อเลี้ยงจะผ่าตัดเสร็จอยู่แล้วค่ะ”เฌอปรางลังเลอยู่เล็กน้อย“นะคะ เชื่อป้าเถอะ ถ้าหนูปรางไม่สบายไปจะทำยังไงคะ อย่าลืมสิคะว่าตอนนี้ในท้องหนูปรางมีลูกของพ่อเลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ”“ลูก...”มือเล
ณิชาหัวเราะราวกับคนบ้า จากนั้นก็จิกหัวของเฌอปรางแรงๆ ลากลงมาจากรถ ซึ่งก็ทำให้คนที่สลบไสลอยู่ได้สติ“มึงฟื้นแล้วเหรอ อีเด็กบ้า”“คุณณิชา...” เฌอปรางตกใจมาก หน้าตาซีดเผือด และก็พยายามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหล่อนกับเคลวินกำลังขับรถกลับไร่ แต่จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้ และหล่อนก็สลบไปหล่อนไม่ตาย แล้วเคลวินล่ะ...?“พ่อเลี้ยง... พ่อเลี้ยงอยู่ไหนคะ พ่อเลี้ยงไม่เป็นอะไรใช่ไหม พ่อเลี้ยง”“ฉันอยู่นี่เฌอปราง”เฌอปรางหันไปเห็นว่าเคลวินปลอดภัยหล่อนก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา“หนูดีใจที่พ่อเลี้ยงปลอดภัย”เคลวินได้ยินได้เห็นความห่วงใยที่เฌอปรางมีให้ตนเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจยิ่งนัก ที่ปกป้องหล่อนไม่ได้“ณิชา... ปล่อยเฌอปรางไป แล้วคุณมาจัดการผมนี่ ผมจะไม่ต่อสู้คุณเด็ดขาด ผมสัญญา...”“ไม่นะคะพ่อเลี้ยง... อย่าพูดแบบนี้นะคะ” เฌอปรางร้องไห้ออกมา และพยายามวิงวอนคนที่เอามีดจี้คอของตนเองอยู่ “คุณณิชา... หนูผิดเองค่ะ ผิดเองทุกอย่าง หนูรักพ่อเลี้ยง แอบรักพ่อเลี้ยงมานาน ก็เลย... ใช้โอกาสที่พ่อเลี้ยงเลิกกับคุณณิชา เข้าหาพ่อเลี้ยงค่ะ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้จะมีคนผ
หลังจากเลือกซื้อข้าวของเด็กอ่อนเสร็จแล้ว เคลวินก็พาหล่อนเข้าร้านเพชรร้านเดิม แต่หนนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากเดิม เพราะเขาบังคับให้หล่อนรับแหวนเพชรเม็ดโต พอหล่อนอึกอักปฏิเสธ เขาก็ดึงนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมาและสวมแหวนให้ทันที“ห้ามถอดออกเด็ดขาดนะเด็กน้อย” เขาพูดเสียงนุ่มแต่เต็มไปด้วยความเผด็จการหล่อนอมยิ้มหวาน และก็ตอบรับเขาด้วยการผงกศีรษะขึ้นลงเล็กน้อยหลังจากนั้นเขาก็พาหล่อนกินข้าวกลางวัน สั่งให้หล่อนกินยาบำรุงครรภ์ที่หมอจ่ายมาให้ และก่อนกลับบ้านก็แวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้ออาหารบำรุงสำหรับคนท้องมาจนเต็มรถ“ทีนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”เขาอมยิ้ม ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดทับลำตัว จากนั้นก็เคลื่อนรถกลับขึ้นไปวิ่งบนท้องถนนอีกครั้งเฌอปรางนั่งอยู่ในแอ่งแห่งความสุข แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามค้างคาใจติดอยู่“พ่อเลี้ยงคะ”“ว่าไง” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถาม“คือ...”“มีอะไรก็ว่ามาสิ” เขาเห็นหล่อนอึกอักก็เร่งเร้าให้พูด“หนู... หนูอยากรู้ว่า...”“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ”“พ่อเลี้ยงรู้ใช่ไหมคะว่าหนู... เอ่อ... รักพ่อเลี้ยง”หล่อนเห็นเขาอมยิ้ม และก็หันมามองหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปจ้องถนนเช่นเดิม“รู้สิ ฉันไม่ได้ตาบอดสั
“แล้วถ้าพ่อเลี้ยงรักหนูไม่ได้ล่ะคะ”“มันไม่มีวันนั้นหรอก”“ทำไมพ่อเลี้ยงถึงมั่นใจนักล่ะคะว่าจะรักหนูได้”เคลวินอยากจะกระชากแม่เด็กสาวช่างถามเข้ามาจูบปิดปากเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่หล่อนต้องการให้เขาสารภาพออกไปเลยหรือไงว่าตอนนี้เขารักหล่อนเรียบร้อยแล้วบ้าจริง...เขาไม่กล้าสารภาพออกไปหรอก ให้เฌอปรางรับรู้ถึงความรักของเขาผ่านการกระทำดีกว่า“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาซักไซ้ผู้ใหญ่นักเลย นั่งอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนะ ฉันไปจ่ายเงินก่อน” คนตัวโตได้จังหวะหลบเลี่ยงในที่สุด“ถึงพ่อเลี้ยงจะใจดีกับหนูมากกว่าเมื่อก่อน แต่หนูก็ยังต้องการให้พ่อเลี้ยงรักหนู... เหมือนที่หนูรักพ่อเลี้ยง...” เฌอปรางมองตามร่างสูงใหญ่ของเคลวินที่เดินไปยังเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยสายตาตัดพ้อน้อยใจหล่อนนั่งเศร้าอยู่สักพักเคลวินก็เดินกลับมา พร้อมกับถุงใส่ยาที่คุณหมอจ่ายให้สำหรับหญิงตั้งครรภ์“กลับกันเถอะ”รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้หล่อนตัดสินใจวางมือเล็กลงในอุ้งมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้าอุ้งมือของเขาอบอุ่นเหลือเกิน และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก“ค่อยๆ เดินนะ มาฉันประคอง”“หนูเดินได้ค่ะพ่อเลี้ยง”“ก็บอกแล้วไงอย่าดื้อ... เดินดีๆ ค่อ
“เสียใจไหมที่เรายังจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้”คนตัวโตหยุดเดิน ยืนข้างรถ และดึงมือเล็กของหล่อนมากุมเอาไว้ ดวงตาคมเข้มจ้องมองดวงหน้าของหล่อน บอกให้รู้ว่าไม่ค่อยสบายใจนัก“ไม่เสียใจหรอกค่ะ”“ดีมาก” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนแผ่วเบา ก่อนจะดึงเข้าไปกอดแนบอก เสียงหัวใจของเขาเต้นอยู่ใต้ใบหูของหล่อน เฌอปรางระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ฉันสัญญาว่าถ้าเธออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์เมื่อไหร่ ฉันจะรีบพาเธอมาจดทะเบียนสมรสทันที” เขาหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างของหล่อนออกห่าง จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของหล่อน “ว่าแต่เมื่อไหร่จะครบยี่สิบปีเต็มกันล่ะ หนึ่งปีกับกี่เดือนหรือ”“เอ่อ... หนึ่งปีกับอีกสิบเดือนค่ะ”“เฮ้อ นานจัง นี่ฉันมีเมียเด็กมากจริงๆ สินะ” ว่าแล้วเขาก็อมยิ้ม และดึงหล่อนเข้าไปกอดอีกครั้ง “แล้วฉันก็แก่ว่าเธอมากเสียด้วย หวังว่าเธอจะไม่นอกใจฉันไปหาเด็กหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกันหรอกนะ เฌอปราง”“พ่อเลี้ยงต่างหากล่ะคะ พอเบื่อหนูแล้วก็จะทิ้งหนู ไล่หนูออกจากไร่เหมือนเดิม”เขาขยับตัวออกห่าง ก้มลงมามองดวงหน้านวลของเฌอปราง ก่อนจะจูบปากอิ่มเบาๆ“ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก ฉันหลงเธอจะตายไป”ก็แค่หลง...เฌอปรางต่อคำพู
ป้าปราณีอมยิ้มเมื่อเห็นหล่อนเดินเคียงคู่มากับเคลวิน ซึ่งก็ทำให้หล่อนอดที่จะเสหลบสายตาด้วยความขัดเขินไม่ได้“ตั้งโต๊ะเลยครับป้า”“วันนี้พ่อเลี้ยงยิ้มแย้มต่างไปจากทุกวันเลยนะคะ” ป้าปราณีหันไปสั่งจิตกับแจ่มให้ตั้งโต๊ะแล้วก็อดที่จะแซวเคลวินที่เพิ่งจะเลื่อนเก้าอี้ให้เฌอปรางนั่งไม่ได้เคลวินหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะดึงมือเล็กบนตักมากุมเอาไว้“ผู้ชายเวลามีเมียเด็กก็อารมณ์ดีประมาณผมทุกคนแหละครับ”หล่อนได้ยินคำตอบของเคลวินก็ยิ่งเอียงอาย แต่ทันทีที่จิตกับแจ่มยกอาหารมาตั้งบนโต๊ะ และกลิ่นอาหารหน้าตาดีโชยเข้ามาในจมูกเท่านั้น ความวิงเวียนพะอืดพะอมก็ตีตื้นขึ้นมากระจุกรออยู่ที่ลำคอ มือเล็กยกขึ้นปิดปาก“เป็นอะไรไปเฌอปราง ไม่สบายหรือ”หล่อนไม่อาจจะตอบความสงสัยของเคลวินได้ เพราะต้องรีบพุ่งตัวไปห้องน้ำให้ทันเวลาเสียงโอ้กอ้ากของเด็กสาวดังมาเข้าหูเคลวิน เขาลุกขึ้นยืนจะเดินเข้าไปดู แต่ป้าปราณีห้ามเอาไว้เสียก่อน จากนั้นก็สั่งให้จิตเข้าไปดูเฌอปรางแทน“จิต เอ็งเข้าไปดูหนูปรางหน่อย”“จ้ะ ป้า”“ส่วนเอ็งก็ไปยกน้ำส้มมาให้หนูปราง นังแจ่ม”“จ้ะป้า”สองสาวใช้หายกันไปคนละทิศละทางแล้ว ป้าปราณีก็มองหน้าเคลวินและ
เฌอปรางกำลังจะเลี้ยวเข้าเรือนพักคนงาน แต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อเคลวินปรากฏตัวตรงหน้าเสียก่อน เรือนกายล่ำสันในชุดทำงานและสวมหมวกปีกกว้างเดินเข้ามาหา“เอ่อ...”“เมื่อคืนฉันก็ทำโทษเธอทั้งคืนแล้ว ยังไม่เข็ดอีกหรือเฌอปราง”“หนู... แค่มาเอากระเป๋าค่ะ”“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้คนงานยกไปให้” เขาก้าวเข้ามาใกล้จนหล่อนขยับถอยหลังหนีไม่ทัน ดวงตาของเขาที่จ้องมองมา มันทำให้หล่อนอดนึกถึงเรื่องร้อนฉ่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้“กลับเข้าบ้านด้วยกัน ฉันหิวแล้ว”“หิว...?”เขาอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวตีความหมายของคำพูดไปไกลกว่าที่เป็นจริง“ฉันยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลย” เขาจ้องหน้าหล่อน “เพราะรอเด็กขี้เซาคนหนึ่งตื่นน่ะ”“เอ่อ... หนูเหรอคะ”เขายกมือขึ้นยีเส้นผมนุ่มให้ยุ่งมากกว่าเดิม จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ดอมดมกลิ่นหอมละมุนด้วยปลายจมูกอย่างอดใจไม่ไหว เฌอปรางหน้าแดงระเรื่อ“พ่อ... พ่อเลี้ยงคะ เดี๋ยวใครมาเห็นค่ะ”เขาจำต้องตัดใจเงยหน้าออกห่างร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น จากนั้นก็กุมข้อมือเล็กให้เดินเคียงข้างไปด้วยกันเฌอปรางอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขา มองคนตัวโตที่มีพลังทางเพศสูงลิบอย่างเคลวินด้วยความรักหล่อนจะได้เดินเคียงข้างเขาอ