นิโคลัสรีบออกมาจากรถเป็นคนแรก ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเจ้ากระต่าย แต่เขาจะไม่ทำอะไร ปล่อยให้ลูกศิษย์เป็นคนจัดการกับซอมบี้เหล่านี้ด้วยตัวคนเดียว ยกเว้นแต่จะตึงมืออีกฝ่ายจนไม่ไหวจริง ๆ เขาถึงจะช่วยเฉินเฟิงไม่รอให้ซอมบี้เดินมาหา เป็นฝ่ายพาตัวเองเข้าไปใกล้มันโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็ถีบไปที่ยอดอกหวังให้มันเสียหลักล้มไปกองกับพื้น ใช้ช่วงเวลาที่มันพยายามจะลุกขึ้นยืนนั้นตัดคอมันตุบเสียงศีรษะกระเด็นไปพร้อมกับร่างกายของมันทรุดลงไปนอนเหมือนเดิมอยู่ชื่นชมผลงานการจัดการกับซอมบี้ได้ภายในไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ต้องกระโดดหลบฉากออกมาจากจุดเดิมเพราะมีซอมบี้อีกตัวตะครุบมาจากด้านข้าง อันที่จริงเขารู้ว่ามันตั้งใจเดินไปหานิโคลัสที่อยู่ด้านหลัง แต่คุณหมอหมีคงเบี่ยงตัวหลบ มันเลยเลือกเล่นงานเขาที่อยู่ใกล้กว่าแทนลูกทีมของวิทย์ที่กำลังพยายามงัดกุญแจตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อหันมาเห็นคุณเชฟฆ่าซอมบี้ก็ได้แต่นึกชื่นชมในใจ การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วและเด็ดขาดมาก กลุ่มของพวกเขาแม้จะมีอาวุธครบมือ แต่เมื่อออกมาด้านนอก การจัดการซอมบี้สักตัวนั้นจำเป็นต้องใช้ 2 รุม 1 เพื่อเป็นหลักยืนยันว่าพวกเขาจะต้องปลอดภัย ไม่มีใครต้องรับหน้
เราฆ่าซอมบี้เพื่อความอยู่รอด เราล่าเพื่อหาอาหาร เราให้ความช่วยเหลือในฐานะมนุษย์ และเราแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันพอนั่งจ้องนานเข้ากิเลสก็เริ่มครอบงำอยากทำมากกว่ามองอยากลองสัมผัสตัวตนแสนน่าหลงใหลนั้นด้วยตัวเองและชั่ววูบนั้นนิโคลัสก็ได้ปีนขึ้นเตียงแล้วนอนกอดเจ้ากระต่ายจนเต็มอ้อมแขนราวกับว่าเวลาทุกอย่างหยุดหมุน ความนุ่มนิ่มในอ้อมอกทำให้รู้สึกอยากจะหยุดทุกสิ่งทุกอย่างลง ณ เวลานั้น ชายหนุ่มจรดจมูกที่ปลายเส้นผม กลิ่นภูเขาอันเป็นเอกลักษณ์ของเฉินเฟิงตีฟุ้งขึ้นมาจนแทบมึนเมาในตอนที่เขาค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้โดยมีจุดมุ่งหมายคือมาร์ชเมลโลว์นุ่มนิ่ม ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่สูดลมหายใจให้เกิดเสียงดัง ไม่อยากจะคิดว่าถ้าในจังหวะที่เขากำลังจะประทับริมฝีปากลงไปแล้วเจ้าของมันตื่นขึ้นมาละก็...“คุณนิค”“...”“คุณนิค! ซอมบี้มาข้างหลังแล้วนะครับ” เฉินเฟิงผลักนิโคลัสออกจากรัศมีการจู่โจมของซอมบี้แล้วยกขาขึ้นถีบมันให้ถอยห่างออกไปก่อน “อย่าเหม่อในเวลานี้สิครับ!” และหันไปต่อว่าครูฝึกที่เผลอใจลอยไปไหนก็ไม่รู้“!!!” นิโคลัสรีบตั้งหลักตัวเองแล้วหันไปเผาซอมบี้ด้วยลูกไฟระดับความร้อนสูง พอสั
เมื่อรถขับมาจอดสนิททุกคนต่างก็วิ่งกรูกันไปกอดวิทย์ไว้ ดูภายนอกคล้ายกลุ่มก้อนอะไรบางอย่าง เพิ่งรู้ว่าพวกเขารักกันเหนียวแน่นมาก ถึงว่าทำไมตอนวิทย์เสนอให้เป็นโจรดักปล้นคนทั่วไป คนกลุ่มนี้ก็ไม่เห็นมีใครค้าน (ยกเว้นครูเมตตาที่ไม่รู้) เพราะพวกเขาก็มีกันแค่นี้ ถ้าหาอาหารไม่ได้ก็เป็นอันจบ ไหนจะปากท้องของเด็กอีกหลายชีวิตที่รออยู่“พวกเราได้อาหารมาเพียบเลย!”“มีรถบรรทุกถูกจอดทิ้งไว้เต็มไปหมด”“บะหมี่พี่ พวกเราได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเต็มเลย!”“(3$#^$&%^$%@@...” หลายคนช่วยกันบอกเล่าเรื่องราวเสียงดังเซ็งแซ่จนฟังไม่ได้ศัพท์ ซึ่งครูเมตตาก็ไม่คิดห้ามปราม เลือกที่จะเดินมาหานิโคลัสและเฉินเฟิง“ขอบคุณมากเลยนะคะ” หญิงชราค้อมศีรษะให้ เธอยกพวกเขาให้เป็นผู้มีพระคุณของบ้านหลังนี้เลยทีเดียว ถ้าไม่มีพวกเขา เด็ก ๆ คงจะต้องอดมื้อกินมื้อไปอีกนาน“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอบคุณขนาดนั้นก็ได้” เฉินเฟิงยกมือปฏิเสธไม่กล้ารับคำขอบคุณจากผู้ใหญ่“พวกเราทำเรื่องที่สมควร” นิโคลัสเอ่ย“ใช่ครับ” เจ้ากระต่ายพยักหน้าเห็นด้วยไม่นานเด็ก ๆ ที่กำลังช่วยกันดูแลแปลงผักอยู่ด้านหลังก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายด้านหน้า จึงพากันวิ่งออกมาดูโด
เฉินเฟิงอาสาขับรถภายในเมืองเล็ก ๆ นี้เอง ยังไงก็ไม่มีซอมบี้หรือรถคันอื่นส่วนกันไปมา ทั้งสองคนเลือกบ้านหลังที่มังคุดเคยไปนั่งเล่นน้ำอยู่เพราะคิดว่าเจ้าสัตว์ตัวใหญ่คงนอนเล่นอยู่ที่นั่นแล้วก็ใช่“มังคุด” เฉินเฟิงกระโดดลงจากรถหลังจอดสนิทดีแล้ว เห็นแร็กคูนมองมาที่พวกเขา นัยน์ตาเม็ดลำไยของมันเปล่งประกายพอ ๆ กับพวงหางที่สะบัดขึ้นลง‘เจ้านายใหม่กลับมาแล้ว!!’“แอบไปซนที่บ้านครูเมตตาหรือเปล่า” เจ้ากระต่ายหรี่ตาจับผิด ซึ่งได้รับการส่ายหัวจากมังคุดกลับมา “ดีมาก เด็กดีที่เชื่อฟังจะได้รางวัล”“จะเอาอันนั้นมาให้มันกินเหรอ” นิโคลัสค่อนข้างเสียดายหากเจ้าสิ่งนั้นจะกลายเป็นแค่ของกินเล่นของมังคุด“ไม่เป็นไรหรอกครับ ตอนนี้เรายังไม่จำเป็นต้องใช้มันนี่นา เก็บไว้นานกว่านี้จะหมดอายุได้” คุณเชฟเปิดท้ายรถหยิบกระสอบเกล็ดขนมปังสำหรับชุบแป้งทอดออกมาวางตรงหน้าพร้อมกับใช้มีดกรีดเปิดปากถุงให้เจ้าแร็กคูนได้สูดดมกลิ่นหอมหวานงี้ด!มังคุดสูดจมูกฟุดฟิด ในถุงนั่นมีของกินแสนอร่อยรอมันอยู่!“เอาล่ะ กินได้เลย” เจ้ากระต่ายกรีดแผ่กระสอบให้แบออก เขาไม่อยากเทลงพื้นถนนแล้วให้มันกินแบบนั้น แต่ก็ไม่มีจานหรือชามที่ใหญ่พอจะใส่เกล็ดข
กว่าสองสัปดาห์ที่เฉินเฟิงและนิโคลัสต้องอาศัยอยู่ที่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้กับกลุ่มผู้รอดชีวิตซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ครึ่งหนึ่ง“ปักเสายาวเท่านี้ก่อนก็ได้ครับ” เฉินเฟิงตะโกนบอกกลุ่มกรรมกรจำเป็นในวันนี้ เวลาเริ่มเย็นมากแล้ว ถ้าไม่รีบกลับจะมืดค่ำเอาได้“เมฆเองก็ลอยต่ำลงด้วย อีกไม่นานคงมีฝนตก” นิโคลัสเสริมงี้ดมังคุดเงยหน้ามองฟ้าทำจมูกฟุดฟิด ความชื้นในอากาศทำให้มันต้องร้องเตือนเจ้านายมนุษย์ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ฝนตกธรรมดาเสียแล้วหลังจากไปขนเสบียงจากรถบรรทุกมามากมาย กลุ่มของวิทย์ก็เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น เมื่อเฉินเฟิงสอบถามว่าอยากจะสร้างเส้นทางให้ที่นี่ไปถึงหมู่บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ มีใครคัดค้านหรือไม่ ก็มีแต่คนเห็นดีเห็นงามและพร้อมใจกันเสนอว่าควรใช้เส้นทางไหนในการสัญจรไปมาระหว่างกลุ่มผู้รอดชีวิตด้วยกันการพูดคุยกินเวลากว่า 2 วัน สุดท้ายก็ใช้เส้นถนนเส้นเล็กที่รู้กันเพียงไม่เยอะลัดเลาะไปเรื่อย ๆ อาศัยการปักเสาไปก่อน จากนั้นค่อยนำลวดหนามมาขึงไว้เพื่อป้องกันซอมบี้ และตบท้ายด้วยการทำกำแพงไล่ตามมาเรื่อย ๆโดยหน้าที่หลักของเฉินเฟิงก็คือการเร่งโตต้นไม้ให้มีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการทำรั้
“///” ก็ไม่ใช่ว่ารู้สึกแย่อะไร แค่ทำให้เขินมากเกินไปฮื่อออ!!!เจ้ากระต่ายเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ยังคงมีฝนตกหนัก แม้แต่มังคุดเองก็ไม่หาที่หลบฝน นอนอ้าปากรับน้ำด้วยซ้ำ“พอแล้ว เดี๋ยวไม่สบาย” คุณหมอเห็นว่าเฉินเฟิงตากฝนเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้ว มากกว่านี้คงไม่ดีแน่“ขออีกนิดไม่ได้เหรอครับ” กำลังเย็นสบายเลย ไม่ได้อาบน้ำแบบเต็มที่มากี่วันแล้วนะ สำหรับยุคที่อาหารสำคัญกว่าของใช้จำเป็นทั่วไป บอกเลยว่ากลิ่นตัวแต่ละคนไม่ใช่เล่น ๆ ยิ่งออกไปทำงานเหงื่อไหลเป็นก๊อกทั้งวัน เวลาต้องไปพูดคุยเพื่อปรึกษาหารือกันเขาแทบอยากจะยืดคอให้อยู่เหนือลม แน่นอนว่ากลิ่นตัวของเขาเองก็ไม่ใช่เล่นขนาดยาสีฟันเองก็ต้องพยายามใช้ทีละน้อยกับผสมเกลือเข้าไป อีกไม่นานถ้าไม่สามารถหาแปรงสีฟันได้เขาอาจต้องหาหนังสือประวัติศาสตร์อ่านละ ดูว่าคนโบราณเขาทำความสะอาดฟันกันยังไงเป็นท้อ…ชีวิตวันสิ้นโลกแม่งลำบากจังวะ พี่ดาเองก็มีปัญหาเรื่องประจำเดือน ตอนเขาไปบอกว่าถ้าเข้าเมืองจะหาผ้าอนามัยมาให้ อีกฝ่ายบอกว่าไม่ต้อง เจ้าตัวได้ใช้ผ้าที่บ้านมาเย็บเป็นผ้าอนามัยแบบใช้แล้วซักเรียบร้อยแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยถูกสุขลักษณะหรือเปล่
สมองยังไม่หายมึนงง การกระทำของเจ้ากระต่ายกลับทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเฉินเฟิงเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดที่ต้องการ จากนั้นก็เลื่อนมือไปที่ชายเสื้อของตนแล้วค่อย ๆ ถอดมันออก…ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าตัวจงใจหรือสมองเขามองมันเป็นภาพสโลว์โมชั่นเองกันแน่ การกระทำทุกอย่างถึงได้ดูเชื่องช้าราวกับว่ากำลังสะกดให้เขาหลงงงงวยเอวขาวค่อดกิ่วปรากฏสู่สายตาเมื่อไร้สิ่งปกปิด ส่วนล่างเป็นกางเกงวอร์มสีดำผิดไซส์ที่เกาะบั้นเอวไว้หมิ่นเหม่ และผู้ชายอย่างที่รู้กันใครเขาจะใส่กางเกงชั้นในเวลานอน มีแค่บ็อกเซอร์หรือกางเกงวอร์มก็พอแล้ว จึงทำให้เห็นเนินเนื้อตรงบั้นท้ายอย่างหมิ่นเหม่ใกล้จะเห็นแก้มก้นสีขาวอยู่รอมร่อเฉินเฟิงเลื่อนมือไปพลิกไม้แขวนเสื้ออยู่ครู่หนึ่งก็ได้เสื้อที่หมายตาไว้ ต้องบอกว่าตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้ตอนนอน เขาแทบไม่แตะเสื้อผ้าในกระเป๋าของตัวเองเลยแค่ขี้เกียจซักน่ะ…ก่อนหน้านี้แอบถือวิสาสะดูรูปในห้องนี้ไปเสียหลายอัลบั้ม รูปร่างของเจ้าของบ้านกะด้วยสายตาแล้วคงพอ ๆ กับเขา ติดที่จะตัวใหญ่กว่านิดหน่อย ทำให้เวลาสวมจะดูหลวม แต่สวมใส่แล้วนอนสบายกลับมาที่ปัจจุบันก่อน เฉินเฟิงเลือกเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นมากลัดกระดุม ความ
แต่ทันทีที่เจ้ากระต่ายหันกลับมาก็เข้าทางใครอีกคนที่รอคอยอยู่นิโคลัสเปิดฉากจู่โจมด้วยการคว้าคนตัวบางไปนอนที่เตียงแล้วพาตัวเองไปคร่อมทับไว้ปิดทางหนีทีไล่ไม่ให้ได้ตั้งตัว“!!!” เฉินเฟิงตาเหลือกเมื่อถูกโยนลงเตียงพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของคุณหมอที่ตามลงมาทาบทับเอ๋… เอ๋!!!ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ!“ยั่วผมเหรอ หืม…” นิโคลัสโน้มหน้าผากไปชนกับคนใต้ร่าง ใช้สายตาดุจ้องสบกับนัยน์ตาสีทับทิม “อยากข้ามขั้นตอนก็ไม่บอก”“ผะ ผมไม่ได้ทำนะ” เฉินเฟิงรีบแย้ง เขาไม่ได้ยั่ว แค่จะเอาคืนที่อีกฝ่ายอ่อยเขาเท่านั้นเอง“จริงเหรอ” ฝ่ามือสากเลื่อนลงไปลูบตั้งแต่โคนเข่าขึ้นมายังต้นขาอ่อน พาให้ขนคอผู้ถูกกระทำลุกชัน“คุณนิค!” เจ้ากระต่ายแหวเสียงดัง ฝ่ามือข้างนั้นจึงยังคงหยุดค้างอยู่ตรงหน้าขาของเขา แต่ถ้าหากเลื่อนขึ้นมาอีกก็เป็นใต้เสื้อเชิ้ตแล้ว!“ครับ” คุณหมีขานรับตาใส แต่มือกลับไม่หยุดลูบไล้ ยังคงเลื่อนขึ้นมาอย่างเชื่องช้าให้คนใต้ร่างดิ้นเร้าเพราะความตื่นตระหนก“ผมขอโทษ ก็คุณอ่อยผมก่อน” เฉินเฟิงละล่ำละลักสารภาพความผิด“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดนี่” นิโคลัสจ้องมองกระต่ายตื่นตูม นัยน์ตาปรากฏแววเจ้าเล่ห์พาดผ่านไปวูบหนึ่ง แต่มีห
“ฮึบ” ทีโอผลักพัดลมใบมีดสีส้มอมแดง ยามที่มันหมุนคว้างอยู่กลางอากาศก็มีเปลวไฟลุกโหมขึ้นมาต้นเห็ดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างโดนตัดเฉือนพร้อมกับเผาทำลายไปในคราวเดียวกัน เส้นทางด้านหน้าและด้านหลังที่เคยถูกปิดล้อมต่างก็กลายเป็นทะเลเพลิงขนาดย่อมในพริบตาเดียว“รีบไปกันเลยครับ” หากยังมีพลังเพียงขั้นแรกท่าไม้ตายนี้คงไม่มีทางสำเร็จ การใช้พลังในรูปแบบนี้ต้องใช้ทั้งสมาธิและพลังงานพอสมควร หลังจากเคลียร์ทางเดินได้ บนใบหน้าของทีโอจึงปรากฏเหงื่อไหลซึมออกมาหมดพลังไปเกือบครึ่ง!ถ้าไม่ใช่ว่าต้องใส่หน้ากากกันแก๊สตลอดเวลา เขาคงหยิบคริสตัลซอมบี้สีใสมากินเพิ่มพลังว่ากันตามจริง เห็ดพวกนี้ไม่ได้น่ากลัวเลยหากมีการเตรียมพร้อมที่ดีพอ ที่น่ากลัวกว่ากลับเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยให้ใช้พลังอย่างเต็มที่ ลองเปลี่ยนเป็นสัตว์กลายพันธุ์หรือต้นจามจุรียักษ์ครั้งก่อนไม่แน่ว่าผลลัพธ์อาจไม่เป็นเช่นนี้“ถึงแล้ว!!” เฉินเฟิงดีใจมาก ในที่สุดก็มาถึงชั้นหนึ่งเสียที ไม่ต้องสูดดมควันอีกต่อไปแล้วแซ่ก ๆ ๆ“กัดไม่ปล่อยเลยนะ” เฉินเฟิงกัดฟัน ตอนนี้ทางเดินด้านหลังเต็มไปด้วยสปอร์เห็ดจำนวนมหาศาล เห็ดบางต้นยอมตายเพื่อที่จะผลิตสปอร์ให้ได้
ดังนั้นการเดินทางกลับขึ้นไปยังชั้นบนจึงมีเฉินเฟิงเดินนำ คอยกรุยทางและปรับอากาศให้ ลำดับต่อมาจึงเป็นทีโอ และนิโคลัสปิดท้าย ซึ่งทีโอที่สภาพร่างกายไม่ค่อยดีนักพยายามเดินตามคุณเชฟกระต่ายให้ทัน กลัวว่าถ้าคลาดกันแล้วอาจจะโดนภาพลวงตาเล่นงานอีกรอบยอมรับว่าในเวลาที่เหงา เขามักย้อนคิดไปถึงวันที่ปกติสุขดี ทำไมตอนนั้นเขาไม่ทำดีกับหมอนั่นให้มากหน่อยนะ เอาแต่เฮฮาปาร์ตี้ไปเรื่อยจนอีกคนคิดว่าเขาเป็นพวกคาสโนว่าทั้งที่ไม่ใช่เลยสักนิดคนที่เขาชอบคือเลวี่...รูมเมตขี้บ่นที่บ่นได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบถึงจะแค่แอบชอบก็เถอะ…แต่เขาก็ให้ใจกับเลวี่ไปมากจริง ๆ การที่ต้องเห็นอีกคนโดนซอมบี้กัดต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวเองไม่สามารถเอื้อมมือไปคว้าไว้ได้ทันเป็นเรื่องที่ปวดใจเขามากที่สุดหลังจากกลุ่มทหารพามาถึงค่ายพันธมิตร เขาพร่ำโทษตัวเองที่ยังมีชีวิตรอด เพราะเขาทำอีกคนหลุดมือก่อนเฮลิคอปเตอร์ช่วยเหลือจะมาถึงเป็นเพราะเขา… เพราะเขาทั้งนั้น!แม้แต่พ่อแม่ก็ช่วยไว้ไม่ได้…ทีโออยากปลิดชีวิตตนเอง แต่พลังพิเศษดันตื่นขึ้นมา เขาจึงกลายเป็นบุคลากรที่สำคัญยิ่งต่อการอยู่รอดของมนุษยชาติ ตัวเขาที่ไม่มีสิ่งใดให้ยึดเหนี่ยวอีกจึงตกล
เอ๊ะทำไมมันร้อน…“โอ้โห ไข้สูงเท่าไรวะเนี่ยมือกูจะพองแล้ว” เลวี่ผละออกไปมือขาวสะบัดไปมาในอากาศนั่นสิ…ทำไมมันร้อนแบบนี้ ร้อนมาก ๆ ด้วย ร้อน…“ร้อน!!!”เฮือก!ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก ดวงตาเบิกกว้างมองซ้ายมองขวาอย่างงุนงง รอบด้านถูกปิดกั้นจนมองไม่เห็นสภาพแวดล้อมภายนอก คล้ายว่าตนเองกำลังอยู่ในกล่องเหล็กกล่องเหล็ก!จริงด้วย!! ก่อนหน้านี้เขาถูกฝุ่นละอองอะไรก็ไม่รู้โจมตีเข้ามา ในช่วงเวลาที่ใกล้จะหมดสติเขาใช้ลูกเหล็กที่พกติดตัวปิดผนึกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ไว้ก่อน จากนั้นก็สร้างใบมีดเหล็กขึ้นมาพัดพวกมันให้ออกไป แต่ยิ่งพัดมันก็ยิ่งหมุนวนเข้ามาใกล้ทุกที สุดท้ายจึงสร้างกล่องเหล็กครอบคลุมตัวเองแล้วก็หมดสติ…“อึก” ทีโอเบ้หน้า อากาศที่มีใกล้จะหมดเต็มทน แถมแผ่นหลังที่พิงกับกล่องเหล็กอยู่ก็เริ่มร้อนลวกผิว ชายหนุ่มจำต้องปลดกำแพงเหล็กด้านหลังออก ไม่อย่างนั้นได้กลายเป็นไก่อบฟางในอีกไม่นานแน่ทันทีที่กำแพงด้านหลังถูกเปิดออก เป็นจังหวะเดียวกับที่นิโคลัสเผากองเห็ดเกือบหมดแล้ว เฉินเฟิงที่ได้ยินเสียงกุกกักจากในนั้นมาสักพักก็ไม่รอช้า รีบคว้าตัวทีโอให้มาอยู่ฝั่งเดียวกับตนพร้อมกับตรวจเช็กว่าอีกฝ่ายได้สวมหน้ากากกันแก๊ส
“ไม่ใช่หรอก” นิโคลัสส่ายหน้า “ดูตรงนี้สิ” พลางชี้ให้เห็นตรงทางเดินมีกล่องเหล็กอีกหนึ่งกล่องถูกวางตั้งอยู่ ดูจากลักษณะภายนอกแล้วคล้ายคลึงกับกล่องเหล็กที่เฉินเฟิงเคยขอให้ทีโอทำในตอนที่นำเนื้อวัวลงไปแช่ในน้ำตก“งั้นนี่ก็เป็น…” ทีโองั้นเหรอเฉินเฟิงมองกองเห็ดที่เกาะอยู่บนอะไรสักอย่างจนมีขนาดใหญ่ มันขวางทางเดินไว้เหมือนภูเขาขนาดย่อมจนไม่สามารถผ่านไปได้ ในสมองพลันนึกถึงสิ่งที่ตุ่นและหงส์พบเจอถ้าหากว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้คือทีโอ…“จะเผาแล้วนะ” นิโคลัสให้สัญญาณ เฉินเฟิงจึงนำต้นลิ้นมังกรจุ่มลงไปในกระติกน้ำ แล้วเร่งให้มันดูดควันพิษเหล่านี้ออกไป ต้องขอบคุณเจ้าตัวแสบที่หยิบสิ่งนี้มาให้ ไม่อย่างนั้นหน้ากากกันแก๊สคงกรองฝุ่นควันไม่ไหวนิโคลัสเผาภูเขาเห็ดตรงหน้าอย่างระมัดระวัง พอไหม้ไปได้ระยะหนึ่ง บางส่วนที่อยู่ใต้กองเห็ดก็เผยออกมาให้เห็น“เหล็ก!” นั่นก็หมายความว่า!!พรึบ!นิโคลัสเร่งไฟให้รุนแรงขึ้น เห็ดที่เคยไหม้อย่างช้า ๆ ก็พลันอันตรธานหายไปในเวลาไม่นาน...“โอ…” เสียงอะไร“ทีโอ…” ใครกำลังเรียกเขา“ทีโอ!!”เฮือกดวงตาคมเบิกกว้างก่อนยันตัวมองซ้ายมองขวาที่นี่มัน…“ตื่นสักทีนะไอ้บ้า” ชาย
“ขอพาเจ้าพวกนี้ไปที่ค่ายก่อนนะ” โจเซฟให้เฉินเฟิงช่วยกันวางร่างของหงส์และตุ่นลงกระบะหลังรถ “ถ้าเจอทีโอก็รีบพากลับไปที่ค่ายต่อได้เลย” ชายหนุ่มว่าพลางกระโดดขึ้นฝั่งคนขับสตาร์ตรถได้ก็ขับออกไปทันทีชายหนุ่มต้องแข่งกับเวลา จากที่นี่ถึงค่ายพันธมิตรมีระยะห่างประมาณ 10 กิโลเมตร ถ้าขับเร็ว ๆ จะทำเวลาอยู่ที่ 15 นาที ต้องรีบพาสองคนนี้ไปส่งให้ถึงมือหมอให้เร็วที่สุด ถึงนิโคลัสจะเป็นหมอ แต่อีกฝ่ายกำลังติดพันอยู่ในชั้นใต้ดิน เขาที่เป็นหัวหน้าไม่ควรรออยู่เฉย ๆอีกทั้งที่ค่ายก็มีเครื่องมือแพทย์และยาปฏิชีวนะที่น่าจะช่วยชีวิตทั้งสองคนได้ถ้ามีซอมบี้ขวางทางพ่อจะชนไม่เลี้ยงเลย!!เฉินเฟิงเห็นโจเซฟขับรถออกไปก็พาตนเองกลับเข้าไปในอาคารเพื่อช่วยนิโคลัสตามหาทีโอต่อ ไม่รู้อีกฝ่ายเป็นตายร้ายดีอย่างไรมังคุดเห็นมนุษย์สองคนกลับออกมามีสภาพไม่สู้ดีนักก็ร้องเสียงแหลม พยายามจะเข้าประตูตามเจ้านายไปด้วย ข้างในนั้นมีอะไรทำไมทุกคนถึงออกมามีสภาพเป็นแบบนั้นไปได้งี้ด (มังคุดจะไปด้วย)แค่คิดว่าเจ้านายของมันจะกลายเป็นอย่างสองคนนั้นหากเข้าไปอีก เจ้าตัวยักษ์ก็ใจไม่ดีเอาเสียเลย รีบเดินไปรั้งชายเสื้อของเฉินเฟิงไว้แน่น“ไปไม่ได้ มัง
“เป็นแบบนี้แล้ว… พวกนั้นคงอยู่ที่นี่แน่” โจเซฟฟันธง ความคิดของพืชและสัตว์บางครั้งก็เรียบง่าย สิ่งที่พวกมันอยากปกป้องหวงแหนจะได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ประหนึ่งราชินีผึ้งที่อาศัยอยู่ในรังท่ามกลางบริวารอีกหลายพันตัว“ไปกันเถอะ” นิโคลัสเรียกลูกไฟออกมาเผาเห็ดยักษ์ตรงหน้า แต่เมื่อเผาหมดไปต้นหนึ่ง ก็มีต้นอื่นงอกขึ้นมาแทนที่ทันที“...” เฉินเฟิงหรี่ตามอง“อาเฟิง” นิโคลัสคิดจะลองเผามันอีกครั้งเป็นต้องชะงัก เมื่อคนรักแตะบ่าขอให้เขาหลบไป“พอดีเห็นว่ามันเป็นพืชน่ะครับ” เลยอยากลองดูว่าใครจะควบคุมใครได้กันแน่ คราวต้นจามจุรีเฉินเฟิงเองก็มีความคิดนี้อยู่ในหัว แต่เพราะถูกโจมตีจนแทบจะไม่มีจังหวะให้พักหายใจ เรื่องลองใช้พลังควบคุมอะไรนั่นลืมไปได้เลย แค่หลบหลีกและโจมตีกลับก็เต็มกลืนแล้วแต่เห็ดที่อยู่นิ่ง ๆ นี่ก็น่าทดสอบดูไม่ใช่หรือ?พลังการควบคุมของเขากับเห็ดพวกนี้ใครจะเหนือกว่ากัน!ถ้าทำสำเร็จจะได้ไม่ต้องทนสูดดมควันไฟด้วย… จะหายใจไม่ออกแล้ว!“ถ้าไม่ไหวต้องรีบถอนตัวกลับมานะ” นิโคลัสไม่มั่นใจในเรื่องนี้เท่าไร พลังของเขาคือการควบคุมเปลวไฟที่ไม่มีความนึกคิด แต่เจ้ากระต่ายกลับแตกต่างออกไป ต้นไม้เองก็เป็นสิ
“เห็ดบางชนิดแค่สูดดมสปอร์เข้าไปก็เป็นอันตรายแล้วครับ” นิโคลัสอธิบาย ดีที่เขาให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากกันแก๊สก่อน ฝ่ามือหนาถอดถุงมือออกข้างหนึ่ง ลูกบอลไฟขนาดเท่าไข่ไก่หลายลูกหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของชายหนุ่ม แสงไฟเต้นระริกในความมืด ดูคล้ายมัจจุราชกำลังเริงระบำถ้ามองไม่ผิดเฉินเฟิงเหมือนเห็นหมวกเห็ดกำลังสั่น ไม่รู้ว่าตาฝาดหรือเป็นเพราะแสงสะท้อนจากลูกบอลไฟของคนรัก“ฮึบ” นิโคลัสปาลูกบอลไฟใส่ผนังและพื้น เผาทำลายทางเดินเห็ดจนมอดไหม้เป็นจุณ ชายหนุ่มควบคุมไฟไม่ให้มันรุนแรงจนกลายเป็นย่างสดคนไปจนหมด เดินนำไปเรื่อย ๆ จนมาถึงห้องที่มีการติดตั้งซูเปอร์คอมพิวเตอร์“ตรงนั้นมีเครื่องคอมพ์วางไว้ด้วยครับ” ตรงมุมหนึ่งของทางเดินมีเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมสายถูกถอดมาวางไว้บนทางเดินที่มีเห็ดขึ้นเต็มไปหมด“น่าจะเป็นสามคนนั้นแหละที่ถอดมาวางไว้”‘แล้วหายไปไหนกันนะ’ โจเซฟขมวดคิ้วคิดหนัก“ทีโอบอกว่านอกจากที่นี่่จะมีห้องใต้ดินตามแปลนที่เราได้มา แถมน่าจะมีห้องเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ลึกลงไปอีก เป็นไปได้ไหมว่าสามคนนั้นจะอยู่ที่นั่น” นิโคลัสนึกถึงการประชุมก่อนปฏิบัติภารกิจเมื่อเช้า“เป็นไปได้สูงทีเดียว” นิโคลัส“ใช่ทางนั้นหรือเปล่
“มีเสียงจากด้านบน” ใบหูสี่เหลี่ยมกระดุกกระดิกสองสามครั้ง“ในที่สุดพวกนั้นก็จัดการกับสัตว์ประหลาดด้านนอกได้แล้วสินะ” หงส์โล่งใจ อย่างน้อยก็คงไม่มีใครเป็นอะไร“ถ้าตะโกนออกไปตอนนี้พวกนั้นจะได้ยินหรือเปล่านะ” ตุ่นเอ่ยน้ำเสียงอ่อนแรง สติของเขาเหลือไม่มาก ในสภาพที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพูด การขอความช่วยเหลือจึงเป็นความหวังเดียวที่พวกเขาจะรอดออกไปได้ แต่ถ้าพวกเขาสองคนอยู่ชั้นใต้ดินก็ลำบากแล้ว ถึงจะหูดีแต่ชั้นใต้ดินของที่นี่ก็ลึกไม่ใช่เล่นน่ากลัวว่าเสียงอาจจะส่งไปไม่ถึง …“เงียบเกินไปหรือเปล่าครับ” เฉินเฟิงเอียงหูฟัง เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยสักนิด“อาจอยู่ชั้นใต้ดินกันละมั้ง” โจเซฟคาดเดา เขาเองก็เป็นคนหนึ่งที่ศึกษาแปลนอาคารนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง“งั้นลองลงไปสำรวจกันเลยไหมครับ” ไหน ๆ ก็ไม่ได้ยินเสียงจากด้านบนนี่นา “มีกลิ่นอับชื้นในอากาศด้วย” เจ้ากระต่ายสูดดมทำจมูกยุกยิก“หรือหงส์จะใช้พลัง?” หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างคาดเดางี้ด“มังคุด รออยู่ด้านนอกสิ” เฉินเฟิงดันจมูกของเจ้าตัวโตออกจากบานประตูประตูที่นี่ก็บานใหญ่นะ… ทว่าพุงมังคุดใหญ่กว่า“คอยระวังอย่าให้พวกมันบุกเข้าไปในตึกไง” คนเป็นเจ้านายปลอ
“ใช่ครับ ถ้าเป็นเจ้าสิ่งนั้นอาจจะทำให้คริสตัลระดับ 2 เกิดปฏิกิริยาก็เป็นได้” พวกเขาลองใช้ของใกล้ตัวหลากหลายชนิดที่พอหาได้มาทำการทดลองแล้ว ส่วนเห็ดที่พูดถึงยังไม่เคยลองสักครั้ง“อาจจะได้และอาจจะไม่ได้” ถึงปากจะบอกแบบนั้น แต่สิงหารู้ดีว่าในระหว่างการทดลอง เขาได้แอบผสมสปอร์เห็ดพิษหลากหลายชนิดเข้าด้วยกัน แต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างดีก็ดันมาเกิดเรื่องที่ทำให้ทดลองต่อไม่ได้ไม่รู้ว่าเห็ดที่เขาผสมไว้ในตอนนั้นจะเป็นยังไงบ้างจะเติบโตขึ้นหรือว่าตายไปแล้วเพราะไม่มีใครให้สารอาหารอีกกันนะ…คำตอบของสิงหานั้นคงมีแต่สองคู่รักสุนัขกวางที่รู้ ถ้าถามว่าเห็ดที่สิงหาเพาะเลี้ยงนั้นเป็นอย่างไร… ทั้งคู่คงตะโกนเสียงดังกลับไปว่า‘ก็เป็นแบบนี้ไง!!’ก่อนหน้านี้ตุ่นและหงส์อยู่บริเวณทางเข้าก่อนลงไปชั้นใต้ดิน พอทีโอตัวปลอมหันคอกลับมา 180 องศา หญิงสาวก็รีบใช้พลังดันมันออกไปด้วยแรงดันน้ำ หวังจะให้มันปลิวออกไปพ้นตัวก่อนสามีอย่างตุ่นจะเป็นลมเพราะคิดว่าเป็นผีจริง ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าการพ่นน้ำออกไปจะเป็นการทำให้พวกมันตื่นตัวกลายเป็นละอองแล้วตรงเข้ามาดูดซึมน้ำไปใช้ในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทางเดินที่เคยเปิดโล่งก็กลายเป็นถ้ำเห็