“ในตัวอำเภอมีพวกร้านขายส่งบ้างไหม” โจเซฟถาม“มีอยู่สองสามแห่งครับ” เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แต่ถ้าเป็นร้านขายส่งที่บรรดาแม่ค้าไปรับสินค้ามาขายละก็ มีแน่นอน“คือ... เราจะเดินไปกันเหรอครับ” เวลานี้พ้นแนวป่าแล้ว เริ่มเห็นทุ่งนาสลับกับไร่ข้าวโพดประปรายทีโอไม่ขัดถ้าต้องเดินเท้าหากไม่มียานพาหนะจริง ๆ แต่ถ้ามันสามารถหาได้ก็คงช่วยทุ่นเวลาไปได้มากโขสายตาทั้ง 4 คู่หันมามองเฉินเฟิงพร้อมกันเจ้ากระต่ายอึกอัก ที่บ้านของเขาก็ไม่มีรถยนต์เช่นกัน เวลาที่ต้องไปซื้อของใช้ในตัวเมืองเขาจะปั่นจักรยานไปฝากไว้ที่บ้านของคนรู้จักแล้วขึ้นรถประจำทางไป มาวันนี้เสียใจแล้ว ในตอนนั้นเขาควรออกรถสักคัน“ถ้ายังไงลองไปดูที่หมู่บ้านผมก่อนดีไหมครับ เผื่อจะมีสักคนที่ให้ยืม” เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกโจรได้ทำอะไรกับคนในหมู่บ้านบ้างหรือเปล่า แล้วก็จำได้ว่าบ้านของลุงกำนันมีรถกระบะคันใหญ่ ถ้าเจ้าตัวให้ยืมเขาก็จะรับฝากขนอาหารที่จำเป็นมาให้ด้วย ถ้ายังไม่กลายเป็นซอมบี้ไปเสียก่อนน่ะนะการเดินเท้ามาถึงหมู่บ้านของเจ้ากระต่ายนั้นใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ตอนที่เฉินเฟิ
โจเซฟผู้ผ่านเหตุการณ์สงครามมากมาย บ่อยครั้งก็เคยเห็นประชาชนถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายทารุณกรรมแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้ง ในใจของเขากลับยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเป็นเท่าทวีพวกมันถือสิทธิ์อะไร!ถือสิทธิ์อะไรมาช่วงชิงอิสระภาพของคนอื่น ถือสิทธิ์อะไรมาทำให้ใครสักคนต้องเจ็บปวดเพื่อสนองความต้องการแสนโสโครกในจิตใจของมัน!ดีแล้วที่พวกเขาฆ่ามันไปจนหมด ถ้าปล่อยให้หนึ่งในพวกมันหนีไปได้ เขาคงยิ่งเกลียดโกรธตัวเองไปชั่วชีวิต!“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” เฉินเฟิงไม่ทันเห็นสภาพในห้องก็ถูกแผ่นหลังของคุณหมอหมีบังเสียมิดชิด ใบหูได้ยินเสียงเสียดสีของเสื้อผ้า แสดงว่ามีคนอยู่ในห้องของพ่อแม่เขา แต่พวกโจรก็ตายหมดแล้วนี่?ยิ่งได้ยินเสียงพูดคุยกัน เด็กทั้งสองยิ่งกอดกันแน่นขึ้น“มีเด็กถูกจับมา” นิโคลัสบอกสั้น ๆ เขาในฐานะหมอกำลังคิดว่าควรเริ่มพูดอะไรกับเด็กทั้งสองคนดี เขาอยากเข้าไปตรวจและทำแผลให้ก่อน“เด็กเหรอครับ!” เฉินเฟิงตระหนก ถ้าถูกจับมาก็ต้องเป็นเด็กในหมู่บ้านแน่ ๆ เจ้ากระต่ายพุ่งตัวออกจากหลังของคุณหมอหมี แม้จะเห็นหน้าของเด็กทั้งสองไม่ชัด แต่ก็จำได้ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกับเด็กชายดล“น้องพลอย! น้องปอนด์!” เฉินเฟิงถ
แกร๊ง ๆเสียงตะหลิวกระทบกับกระทะดังสนั่น เป็นสัญญาณบอกว่าสมาชิกในบ้านควรตื่นจากนิทราอันแสนหวานได้แล้ว“ตีเหล็กแต่เช้าเลยนะป๊า” เฉินเฟิงเดินเกาพุงเข้ามาในครัว เห็นพ่อครัวมือหนึ่งกำลังสะบัดกระทะ อีกมือกำลังราดไวน์สำหรับประกอบอาหารลงไปฟู่ว!ไฟสีแดงส้มโหมกระพือ บวกกับเทคนิคการสะบัดข้อมือที่ไม่เป็นสองรองใครก็ราวกับว่าซี่โครงหมูและหัวหอมกำลังเต้นระบำท่ามกลางเปลวเพลิง“ไปดูปลานึ่งสมุนไพรให้ป๊าหน่อย วันนี้แม่แกไม่สบาย ป๊าเลยว่าจะทำอาหารเบาท้องสักเมนู”“อ้าว แล้วซี่โครงหมูในกระทะล่ะ” ไหนจะกุ้งผัดเปรี้ยวหวานบนโต๊ะ แล้วก็ปูแช่ซีอิ๊วนี่อีก“พวกนี้ของอั๊ว เพราะอั๊วเป็นคนทำ” อดีตพ่อครัวภัตตาคารอาหาร 5 ดาวหันไปหาลูกชายเพียงคนเดียวก่อนจะยิ้มตอบคำถาม “ของลื้อก็ทำกินเองสิ” พูดจบก็กลับมาสนใจกับอาหารในกระทะต่อ“ไม่รู้ล่ะ วันนี้ผมไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น จะแย่งป๊ากับแม่กินให้หมดเลย” เฉินเฟิงลอยหน้าลอยตาตอบพลางเดินไปดูปลานึ่งสมุนไพรที่บิดาไหว้วานอันดับแรกก็ต้องเช็กไฟ... อืม ไฟกำลังดี“ป๊า ผมได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยเชฟแล้วนะ” เฉินเฟิงบอกข่าวดีนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยราวกับพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศทั่ว ๆ ไป“เหรอ ดีแล
“ทำงานเหนื่อยเหรอลูก” เฟื่องฟ้าลูบเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ได้ไปจากเธออย่างเบามือ“ไม่ครับ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”“ถ้าเหนื่อยก็พักผ่อน แค่นั้น” เฉินต๋าเดินถือกาน้ำชาดินเผามารินใส่แก้วให้ภรรยา“แล้วของผมล่ะป๊า” ทำไมมีแค่แก้วของพ่อกับแม่ล่ะ“ไปหยิบมารินเองสิ” เฉินต๋าเลิกคิ้ว เตรียมก่อสงครามครั้งที่สองของวัน“พอเลย ลูกกำลังเหนื่อยนะ” ภรรยาคนสวยหันไปตีสามีหนึ่งที แต่เป็นการตีที่ดูแล้วไม่เจ็บไม่คันสักนิด เสียงดังแปะ“ก็บอกไปแล้วว่าเหนื่อยนักก็พักไป” เฉินต๋าว่าพลางซดน้ำชาอึกใหญ่“ก็กำลังพักอยู่ แต่มันไม่หายเหนื่อยเสียที” เฉินเฟิงลูบคลำบริเวณหน้าอก ความรู้สึกเหนื่อยล้ามันเริ่มมาจากตรงนี้“ไม่หายก็พักอีก” เฉินต๋าสบตากับลูกชาย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พักจนกว่าจะหาย ลื้อยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ ชีวิตยังต้องอยู่อีกหลายปี แม่แกไม่ได้คลอดแกออกมาเพื่อให้ยอมแพ้กับโลกใบนี้ ถ้าถอดใจง่ายนักก็ไม่ควรทำให้แม่แกเจ็บตั้งแต่แรก”“ดูพูดเข้า” เฟื่องฟ้าถอนใจ มีสามีคลั่งรักนี่ก็ลำบากลูกเหมือนกันนะ“ถ้าเหนื่อยนักก็แค่กลับบ้านเรานะลูก” หญิงสาวลูบหัวลูกชายเพียงคนเดียวของตนเองอย่าง
“แล้วตอนนี้เด็ก ๆ เป็นยังไงบ้างครับ” คุณผู้ช่วยเชฟเอ่ยถามเพื่อไม่ให้จิตใจต้องรู้สึกดาวน์ลงไปอีก“ตอนนี้ยังนอนอยู่ อีกสักพักน่าจะได้สติ”“ขอบคุณนะครับ ทั้งดูแลเด็ก ๆ แล้วก็ดูแลผมด้วย พวกคุณคงเหนื่อยน่าดู” เฉินเฟิงยกยิ้มขอบคุณคุณหมอที่คอยดูแลพวกเขา ถ้าไม่มีนิโคลัส เขาอาจจะช็อกตายเพราะไข้ขึ้นสูงก็เป็นได้“ไม่เป็นไรครับ” ‘ผมเต็มใจ’คุณหมอหมีจำต้องกลืนประโยคหลังลงคอไป เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาสีทับทิมคู่เดิม“เอ่อ หิวหรือยัง”“ไม่ค่อยหิวเท่าไรครับ” มันรู้สึกอึน ๆ ความอยากอาหารเองก็ไม่มี“คุณควรกินอะไรสักหน่อยนะ” แพทย์หนุ่มเตือน“ผมคิดว่าถ้าผมเปิดปลากระป๋องต้องกินไม่หมดแน่” ดังนั้นอย่าสิ้นเปลืองดีกว่า“แบ่งให้เด็กสองคนนั้นสิ” ชายหนุ่มเสนอ“อ๊ะ จริงด้วย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปหยิบออกมาจากกระเป๋า” เฉินเฟิงรีบร้อนลุกขึ้นจากเตียง คิดอย่างเดียวว่าพลอยใสกับปอนด์คงจะหิว อยากนำอาหารที่มีไปแบ่งให้น้องเร็ว ๆ แต่เพราะเพิ่งฟื้นจากพิษไข้ การลุกขึ้นมาอย่างกะทันหันทำให้เกิดอาการหน้ามืดชั่วคราวขึ้นนิโคลัสที่นั่งอยู่ข้างเตียงรีบพุ่งตัวเข้าไปรับ แน่นอนว่าฉากนี้ควรเป็นฉากโรแมนติกในทำนองว่าเจ้ากระต่ายดื้อที่ลุกขึ้
“ช่วงซอมบี้ระบาดในเมือง ผมเองก็ไม่ใช่ทหารมาก่อน แค่มีพ่อกับแม่เป็นทหารเท่านั้น อาจมีได้รับการฝึกบ้างแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไปออกรบได้ ผมเองก็ต้องปรับตัวอยู่พอสมควร ถ้าไม่มีพลังสายโลหะก็ไม่รู้ว่าหัวหน้าจะยอมรับเข้ากลุ่มหรือเปล่า”“ผม เอ่อ... พี่ก็นึกว่าเราเป็นทหารด้วย”“เปล่าครับ” ทีโอส่ายศีรษะเป็นการยืนยัน “ดังนั้นพี่ไม่ต้องโทษตัวเองนักหรอก ผมเองก็ผ่านการอ้วกมานับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะมาเป็นอย่างทุกวันนี้” เอาเข้าจริงก็คือเพิ่งเลิกอ้วกไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ยิ่งตอนได้ฆ่าโจรที่ออกปล้นรถทหารเป็นครั้งแรกก็ถึงกับหมดสติให้โจเซฟพากลับด้วยซ้ำ“วันสิ้นโลกคงไม่หายไปทันทีในวันสองวันนี้ จะรอให้มันมางับคอก็ใช่ที่ เป็นเราเองที่ต้องปรับตัวไม่ใช่เหรอครับ ถ้าไม่ไหวก็แค่พักก่อนแล้วสู้ต่อ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้“นั่นสินะ”‘ถ้าเหนื่อยก็พักผ่อน แค่นั้น’ คำพูดของพ่อในความฝันย้อนกลับมาอีกหนเขาอาจแค่ต้องการเวลาในการปรับตัวอีกสักพัก ส่วนตอนนี้ที่ร่างกายเริ่มประท้วงออกมา ก็คงต้องถึงปล่อยให้พักผ่อนเสียให้พอ…แล้วค่อยมาลุยกันใหม่เมื่อพร้อม!“อ้าวพี่นิค” ทีโอมองเลยไปด้านหลังเห็นนิโคลัสเดินออกมาจากห้องนอนของเฉินเฟิง “คางเป็นอะไ
“อ้อ ขอบคุณมากนะครับ”“จะจัดตรงไหนก่อน” นิโคลัสชวนคุย เก็บบ้านด้วยกันก็ดี เขาจะได้สร้างความสนิทสนมกับอีกฝ่ายให้มากขึ้น ทุกวันนี้ยังเหมือนมีกำแพงบาง ๆ กั้นอยู่ เรื่องเป็นคนรักนั่นคงต้องรอไปก่อน แค่เป็นเพื่อนให้ได้ยังรู้สึกว่าลำบาก“ห้องครัวครับ” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเขากับพ่อ“โอเค” แพทย์หนุ่มลุกตามเจ้ากระต่ายไปยังส่วนหลังบ้าน งานทำความสะอาดจึงเริ่มต้นขึ้นสามชั่วโมงผ่านไป‘นี่มันสงครามชัด ๆ’หงส์เผยสีหน้าหวาดผวาเมื่อนึงถึงภารกิจเก็บกวาดบ้านที่ผ่านมา ตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายเธอก็แทบไม่เคยแตะต้องงานในบ้านอีกเลยเพราะต้องไปกินนอนในโรงเรียนทหาร พอเรียนจบก็ต้องเข้าศึกษาต่อเพื่อเลือกหน่วยเฉพาะ เรื่องทำความสะอาดบ้านแทบจะถูกต้อนทิ้งออกจากสมองแม้ว่าจะมีพละกำลังเพิ่มมากขึ้นจากการกลายพันธุ์ แต่การที่ต้องย้ายตู้ ขยับเตียง เลื่อนโซฟา เพื่อทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมนี่ก็เกินไป เธอเชื่อว่าถ้าทำได้นิโคลัสคงต้มน้ำร้อนราดทั้งบ้านแน่นอน อย่างที่ทำกับห้องของเฉินเฟิง…อยู่ ๆ นิโคลัสก็เดินมาขอให้ช่วยเติมน้ำลงในหม้อใบใหญ่ที่เจ้าตัวถือมาให้เต็ม เธอก็ใช้พลังเรียกน้ำในอากาศให้มารวมตัวกันเป็นลูกบอลขนาดใหญ่ พอน้ำเต
คนในบ้านเองก็ใช่ว่าจะไม่รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวนอกบ้าน แต่ทุกคนยังคงทำเป็นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ด้านนอกรู้ตัวว่าโดนพวกเขาจับได้แล้วเขาเพิ่งจะเก็บบ้านเองนะ จะมีอะไรมาอีกเนี่ย!เจ้ากระต่ายอดคร่ำครวญในใจไม่ได้ ไหนจะเพิ่งหายจากการเป็นไข้ด้วย ไม่รู้ร่างกายจะสู้ได้มากน้อยแค่ไหน แล้วยังมีเด็กสองคนที่ยังสลบไสลอีกดีที่พวกเขาปิดประตูเหล็กหน้าบ้านไว้แล้ว ถ้าเป็นแค่ซอมบี้ก็ยังสามารถเป็นปราการป้องกันแรกได้ แต่ถ้าเป็นคน…“อาเฟิง ๆ ๆ”ก็จะตะโกนเรียก…เอ๋?เสียงคุณยายร้านขายของชำ!ด้านนอกนั่นเป็นคนในหมู่บ้านเหรอ!?เจ้ากระต่ายตกใจจนหูตั้ง ไม่คาดฝันว่าจะได้ยินเสียงคุณยายร้านขายของชำ ร่างโปร่งรีบพุ่งตัวไปหน้าบ้านพร้อมกับนิโคลัสกระโดดออกมาจากหน้าต่างห้องนอนของเขาเพื่อเตรียมคุ้มกัน“คุณยาย”“อาเฟิงจริง ๆ ด้วย ฉันบอกแล้วว่าเห็นอาเฟิง” คุณยายร้านของชำหันไปบอกกับบรรดาคุณลุงคุณป้าที่ถืออาวุธครบมือ ดูเหมือนว่าพวกเขามาเพื่อเตรียมต่อสู้“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นพวกโจรมันออกไปพร้อมกับไอ้โชติ” คุณลุงคนหนึ่งตอบ ในมือถือจอบแน่น“อาเฟิง เป็นยังไงบ้าง” คุณยายยื่นมือมาหาชายหนุ่มผ่านประตูเหล็ก “อยู่ ๆ ก็ม
“ไว้ทางเชื่อมเสร็จก็ทำระบบรถรางต่อดีไหมล่ะ จะได้แวะมาดูบ่อย ๆ” หงส์เสนอ“ก็น่าคิดนะ” โจเซฟเห็นด้วย ระหว่างนี้เขาค่อยหาโอกาสแวะมาดูคุณแม่ให้บ่อยขึ้นก็แล้วกันหาจักรยานเสือภูเขาสักคันก็น่าสนใจ“แวะร้านจักรยานตรงนั้นหน่อยสิ” พอดีกับที่ยังไม่ทันหลุดไปยังถนนเส้นนอกก็ปรากฏร้านขายจักรยานที่ถูกทิ้งร้างใกล้กับปั๊มน้ำมัน สภาพของร้านยังคงดูดีอยู่ คิดว่าคนผ่านไปผ่านมาน่าจะสนใจน้ำมันในปั๊มมากกว่าพาหนะที่ต้องใช้แรงตนเองใครจะขี่จักรยานหนีซอมบี้ทันกัน“...” เฉินเฟิงผู้มีประสบการณ์ขี่จักรยานหนีซอมบี้ระดับเริ่มต้นคิด“ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด” หงส์กรีดนิ้วไปตามแฮนด์จักรยานได้ฝุ่นหนาเตอะติดขึ้นมาหลายชั้น“เอาไปกี่คันดี” มีที่ใช้ได้และสภาพดีอยู่เยอะทีเดียว“สัก 5 คันก็พอมั้งครับ เยอะกว่านี้จะไม่มีที่วาง” มองไปยังรถบรรทุกเล็กเห็นมังคุดต้องนั่งคุดคู้อยู่กับกล่องสมุนไพรก็น่าสงสารพอแล้ว ไหนจะบนหลังคารถบรรทุกยังมีแผงโซลาร์เซลล์กับแบตเตอรี่อีก ถ้าต้องเบียดกับจักรยานเพิ่มคงเป็นการทรมานสัตว์ใหญ่เกินไป“ร้านนี้มีแร็กจักรยานติดหลังคารถพอดีเลย” ตุ่นเดินเข้าไปสำรวจในร้านแล้วเจอกับแร็กสำหรับล็อกจักรยานไว้กับหลังคารถเข้าพอด
“จริงสิ ผมยังไม่ได้บอกคุณนี่นะ” เฉินเฟิงหันไปมองนิโคลัสคุณหมอพยักหน้าอนุญาตตอบ“มีวิธีได้พลังพิเศษมาแล้วนะครับ นอกเหนือจากการถูกซอมบี้ข่วนหรือกัดแต่ค่อนข้างเสี่ยงหน่อย” เฉินเฟิงอธิบายการใช้คริสตัลสีใสให้ฟังแล้วให้เจ้าตัวลองนำไปปรึกษากับคนในทีมเอาเอง ว่าความเสี่ยงถึงชีวิตนี้มีใครกล้าพอจะรับไว้ไหมวิทย์รับฟังแล้วขมวดคิ้วคิดหนัก“เสี่ยงน่าดูเลยนะครับ” แถมความเสี่ยงนั้นยังมีเฉพาะคนที่อายุเยอะแบบพวกเขาด้วย…และใครจะอยากให้น้อง ๆ ของเขาในบ้านครูเมตตาเป็นแนวหน้าต่อสู้กันล่ะ ถ้าพวกเขาอยากมีพลังก็ควรจะเติบโตและคิดถึงผลดีและผลเสียจากการมีพลังได้เองก่อนลองไปถามเด็ก ๆ ตอนนี้สิว่าใครอยากมีพลังพิเศษบ้าง คงยกมือกันให้พรึ่บ“ผมแค่ให้ข้อมูลที่ผมมี ส่วนคุณจะทำยังไงกับข้อมูลชุดนี้ต่อก็แล้วแต่คุณเลย แต่อยากให้มีสติก่อนจะเอามันเข้าปากด้วยนะครับ” เฉินเฟิงล้วงกระกล่องเหล็กออกมาจากกระเป๋า มอบคริสตัลสีใสให้กับวิทย์ไว้ทั้งหมด 5 เม็ด“นะ… นี่” ให้เขาจะดีหรือ“ผมยังมีอีกเยอะ คุณเก็บไว้เถอะ”“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ” วิทย์ก้มศีรษะเอวโค้ง 90 องศา บุญคุณที่ได้รับจากกลุ่มนี้ไม่รู้ว่าจะชดใช้อย่างไรหมด“ไม่เป็นไรครั
“บนดาดฟ้ามีเนื้อตะโขงตากแห้งนะ” โจเซฟชี้ชวนให้ดุดาดฟ้าของร้านขายอาหารสัตว์“ก็ว่าได้กลิ่นเนื้อหากแห้งหอมเชียว” ตุ่นทำจมูกฟุดฟิด“พวกนายหลับกันไปนานจนลืมเนื้อที่แช่น้ำไว้ สองเดือนก่อนฉันเลยพามังคุดไปเอาเนื้อขึ้นมาจากน้ำ กว่าจะตัดเหล็กออกมาได้ก็ใช้เวลาไปนานโข แต่ไม่ได้ทำอะไรมากนะแค่ทาเกลือหมักไว้แล้วก็ตากเลย” โจเซฟยักไหล่ เขามีความสามารถด้านงานครัวแค่นี้แหละ เพราะมันเป็นความรู้พื้นฐานในการเอาชีวิตรอดหากต้องติดอยู่ในป่า เวลาต้องเดินทางไกลชายหนุ่มจะพกเกลือติดตัวเสมอ“ดีมากแล้วครับ” เฉินเฟิงสูดดมกลิ่นเค็มในอากาศบ้าง“ได้ยินเชฟพูดแบบนี้ก็โล่งใจ”กี๊ซ! (มังคุดก็ช่วยทำนะ)“เหรอ ๆ มังคุดก็ทำด้วยเหรอ” เฉินเฟิงหันไปสนใจมังคุดที่ยกมือข้างขวาขึ้น พร้อมกับใช้มือซ้ายตบอกตนเอง“ช่วยชิมน่ะสิ” เขากำลังทาเกลืออยู่แท้ ๆ หันไปอีกทีเนื้อที่ตากอยู่บนถาดไม้ก็อันตรธานหายไปทีละชิ้นสองชิ้นหงิง (ก็มันอร่อย)“แสดงว่าเจ้าแสบนี่คงติดใจรสมือของหัวหน้าแล้วล่ะ” เจ้ากระต่ายกลั้วหัวเราะ ไม่ได้โกรธเรื่องการกระทำของมันเลยสักนิด“ก็คงใช่ สองสามวันนี้เนื้อหายไปเกือบ 10 กิโลได้แล้วล่ะ” โจเซฟโยนระเบิดไปอีกลูก“มังคุด!” คราวน
หลังจากทำกายภาพบำบัดอยู่ 2 สัปดาห์ วันนี้จึงเป็นวันแรกที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที ชายหนุ่มเคยเดินตลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง ข้าวของที่ผู้คนนำออกมาซื้อขายไม่ได้มีอะไรน่าสนใจอีกเมื่อต้องเดินวนเป็นครั้งที่ 2 เดินได้ไม่นานก็ชวนทุกคนกลับ บนหลังรถกระบะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้มาอย่างยากลำบาก เจ้ากระต่ายเดินวนดูมันหลายต่อหลายครั้งพร้อมกับเมนูอาหารที่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมดอ้อ เขาซื้อเมล็ดพืชที่ไม่มีอยู่ในหมู่บ้านมาได้จำนวนหนึ่งด้วย ไว้เพาะพันธุ์บนบ้านภูเขาเสร็จค่อยนำไปแจกจ่ายให้กับคนในหมู่บ้านต่อ“ไปหามังคุดกันเถอะครับ” หายไปร่วมสองเดือน มันต้องคิดถึงเขามากแน่“อืม” นิโคลัสไม่ขัดข้อง หงส์กับตุ่นบอกว่าหัวหน้าโจเซฟออกจากค่ายไปอยู่กับมังคุดตั้งแต่ช่วงที่เฉินเฟิงนอนหลับไป ชายหนุ่มก็ไม่ได้กลับเข้ามาในค่ายอีก ทั้งที่แจ้งไว้ว่าอีก 7 วันจะกลับมา ตุ่นที่เป็นห่วงจึงออกไปตามหาที่ร้านขายอาหารสัตว์ที่ให้มังคุดใช้หลับนอนเป็นการชั่วคราว‘ดูเหมือนพี่หัวหน้าจะไปเจอของน่าสนใจเข้าน่ะ ก็เลยพามังคุดตระเวนทั่วเลย’ ตุ่นว่าอย่างนั้น…ไปทำอะไรกันนะฟากสิงหาที่เพิ่งเสนอผลงานวิจัยใหม่ขึ้นที่ประชุมก็งานรัดตัวจนออกมาส่งทั้งสองคนที
ตอนแรกเฉินเฟิงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา คิดว่าตนเองนั้นคงสามารถใช้พลังพฤกษาได้หลากหลายกว่าเมื่อก่อน การควบคุมที่เคยเชื่องช้าคงมีความเร็วเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่คราวนี้ล่ะ!เขาจะได้เป็นกระต่ายแนวหน้าเสียทีจะลอกวิธีการต่อสู้ของพวกพืชมหาภัยที่เคยเจอมากับตัวเองให้ดู!จุดเริ่มต้นนั้นมาจากไม้ประดับที่ใช้ตกแต่งในห้องพักผู้ป่วยของเขาเอง คาดว่าแต่เดิมห้องนี้อาจจะเป็นห้องที่คนรวยมีเงินในยุคก่อนซื้อไว้ ยามเจ็บไข้จะได้พักผ่อนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเตียงจากทางโรงพยาบาล เพราะที่นี่มีต้นฟิโลเดนดรอนถูกตั้งไว้อยู่ เขาก็จำชื่อไม่ค่อยได้ว่าชื่อเต็ม ๆ ของมันคือต้นอะไร เอาเป็นว่าตามหลักแล้วโรงพยาบาลคงไม่มีทางนำของเหล่านี้มาประดับห้องผู้ป่วยแน่นอนเพราะพืชชนิดนี้… มีพิษเฉินเฟิงมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบซื้อต้นไม้ในกระแสมาปลูกมาก ต้นไหนที่ว่าแพงหรือต้นไหนที่เรียกทรัพย์ก็จะไปกวาดซื้อมาไว้ในครอบครองให้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือฟิโลเดนดรอนที่เจ้าตัวดูจะชอบมากเป็นพิเศษครั้งหนึ่งเคยมีเด็กฝึกงานไปกินเลี้ยงที่บ้านนั้น พอเหล้าเข้าปากก็ก่อกวนกันเต็มที่ แม้เจ้าของบ้านจะแยกส่วนสถานที่กินเลี้ยงและ
…“อื้อ…” เสียงร้องจากริมฝีปากบางซีดพาให้คนที่กำลังฟุบหน้านอนอยู่ข้างเตียงรู้สึกตัว ใบหูกลมสีน้ำตาลกระดิกไปมาราวกับจะหาต้นตอของเสียง วันนี้เขาอยู่เฝ้าคนรักเพียงคนเดียว สามคนที่เหลือนัดแนะกันว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืนแล้วกลับไปนอนที่บ้านเช่า“อือ”“อาเฟิง!” นิโคลัสรีบเงยหน้ามองคนรักในความมืด แสงจันทร์จากหน้าต่างส่องให้เห็นเรียวคิ้วของเจ้ากระต่ายที่กำลังผูกกันเป็นโบหรือว่าจะไข้ขึ้น?คุณหมอหมีใช้หลังมือตนเอง แตะหน้าผาก แก้ม และลำคอ… ก็ไม่มีไข้หรือว่า!!“ที่รัก คุณตื่นแล้วใช่ไหม อาเฟิง อาเฟิง” ชายหนุ่มจ้องมองดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นอย่างตั้งใจ จินตนาการถึงนัยน์ตาสีทับทิมเปล่งประกายที่เขาชอบจ้องมอง และหวังว่าวันนี้จะได้เห็นมันอีกเพียงแค่เปลือกตาของคนที่นอนอยู่ขยับขึ้นเท่านั้นและดูเหมือนว่าคำภาวนานั้นจะเป็นจริงเฉินเฟิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด ทั้งที่รู้สึกว่ากำลังลืมตา แต่ภาพด้านหน้าก็ยังคงดำมืด…หรือว่าเขายังคงฝันอยู่?“อาเฟิง” เสียง…เจ้ากระต่ายหันเหสายตาไปมองด้านข้าง มือของตนถูกบางสิ่งบางอย่างกอบกุมอยู่ ฝ่ามือหนาอุ่นนี้เขาคุ้นชินนัก“พี่... นิค” เสียงที่ถูกเปล่งออกมาทั้งแห
นักวิทย์ฯ อัจฉริยะมองทรัพยากรต่าง ๆ ที่ถูกใช้ไปแล้วก็ครุ่นคิดต่อ การจะให้คนคนหนึ่งเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 2 จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นจะประสบปัญหาเดียวกับทีโอ ทั้งที่เลื่อนเป็นระดับ 2 แล้วแต่ร่างกายที่ไม่ได้รับสารอาหารเลยตลอด 1 เดือนย่อมไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะไปหาอาหารมาบำรุงส่วนที่สูญเสียไปได้ หากปล่อยทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์คงเสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดายเป็นจริงอย่างที่สิงหาคาดเดา กลุ่มผู้รอดชีวิตด้านนอกที่เจอสถานการณ์การเลื่อนเป็นระดับ 2 เพียงลำพังล้วนตายจากไปโดยที่ไม่มีใครรู้ บางคนเห็นเพื่อนถูกซอมบี้กัดก็ปลิดชีวิตกันก่อนจะได้พิจารณาอาการเบื้องต้นด้วยซ้ำ พลอยทำให้มนุษย์ยังคงติดอยู่ในระดับ 1 ไปอีกหลายเดือนกว่าสิงหาจะประกาศผลการทดลองนี้“อาหารเช้ามาแล้วครับ” ทีโอถือกล่องใส่อาหารเดินเข้ามาในห้อง ดีนะที่เขาเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับ 2 และมีร่างกายแข็งแรง เปลี่ยนเป็นให้คนธรรมดาเดินขึ้นบันได 10 ชั้นทุกวันก็ไม่ไหวหรือเปล่า แถมยังต้องไปเช้า กลางวัน เย็นด้วย “ผมเจอหลานท่านนายพลที่โรงอาหารอีกละ ทักถามหาพี่ทุกวัน”“ช่างหมอนั่นเถอะ” และนี่ก็เป็นคำตอบที่นิโคลัสตอบกลับไปเช่นเดิม“ผมก็ไม่ได้อ
“วันนี้ก็ครบวันที่ 7 แล้วนะครับ มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะอีกไหมครับ” สิงหาหยิบชาร์ตคนไข้เดินเข้ามาในห้องพัก VVVIP บนเตียงขนาดใหญ่มีนิโคลัสนอนให้น้ำเกลืออยู่ หลังจากฉีดเข็มแรกเข้าไปคนที่น็อกร่วงกลางอากาศเป็นคนแรกกลับไม่ใช่เฉินเฟิงที่น่าเป็นห่วงที่สุด“ดีขึ้นมากแล้วครับ สองวันนี้ไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากอ่อนเพลียเล็กน้อย” นิโคลัสนอนสำรวจตัวเองครู่หนึ่ง อาการหัวใจเต้นแรงที่ปรากฏขึ้นเป็นบางครั้งเหมือนว่าจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว“ผมลองสแกนกับตรวจคลื่นหัวใจแล้วไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ” สิงหาแปลกใจกับอาการของคุณหมอหนุ่มมาก อาการที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเป็นนิมิตหมายอันดีของโรคภัยไข้เจ็บ แต่ผลตรวจร่างกายกลับไม่พบอะไรเลย อ้อ มีค่าความเข้มข้นของเลือดที่สูงขึ้น จด ๆ“คิดว่าคงไม่เกี่ยวกัน เชื้อซอมบี้อาจจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วส่งผลให้ร่างกายเกิดการ… @%^&%@” เฉินเฟิงกับทีโอนั่งมองหมอสองคนที่เริ่มคุยเรื่องการแพทย์กัน คำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินบินว่อนเต็มห้องพักไปหมด แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปแทรกบทสนทนาเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ“แล้วอย่างนี้ผมจะเริ่มกินคริสตัลเม็ดนี้ได้หรือยังครับ” เฉินเฟิงหยิบคริสตัลสีเหลืองอ่อนออกม
การจะฉีดวัคซีนได้นั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือความพร้อมของร่างกาย วันนี้หมีกระต่ายจึงถูกไล่กลับไปกินอาหารและพักผ่อนก่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยมาพบสิงหาที่โรงพยาบาลแห่งนี้อีกครั้งนิโคลัสเล่าเรื่องที่ตนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซอมบี้ในวันพรุ่งนี้ให้กับสมาชิกในทีมฟัง โจเซฟไม่ได้ว่าอะไรเขายอมรับการตัดสินใจของลูกทีมเสมอ โดยมีทีโอที่พยายามโน้มน้าวให้พวกเขารอให้ผลการทดลองนิ่งกว่านี้ก่อนจะดีกว่า“เกิดฉีดไปแล้วหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมาเหมือนหนูทดลองล่ะครับ” ขนาดวัคซีนก่อนวันสิ้นโลกเองก็ยังพัฒนาไปไม่ถึงไหน ยิ่งเวลานี้มีข้อจำกัดในทุกด้านไม่สมบูรณ์พร้อมสักอย่างย่อมสุ่มเสี่ยงมากกว่าแน่ ๆ“นั่นมันตอนที่ร่างกายเราไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เซลล์ทุกอย่างยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ แต่ตอนนี้เวลานี้ร่างกายที่เป็นของเราล้วนไม่มีใครรู้จักดีแม้แต่ตัวเราเอง” นิโคลัสส่ายศีรษะ ตัดสินใจแล้วว่าจะรับวัคซีนพร้อมคนรัก หากต้องเห็นคนรักกลายเป็นซอมบี้หรือหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมา เขาก็พร้อมจะตามไป…ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ล้วนไร้ความหมายหากไม่มีเจ้ากระต่ายเคียงคู่เขาจะกินอาหารอีกต่อไปได้ยังไง… เมื่อคนทำอาหารไ