โจเซฟรอจังหวะนี้อยู่แล้ว เขาตั้งใจปั่นประสาทดูว่าจะมีใครสามารถเป็นคู่มือให้กับทีโอและเฉินเฟิงด้านหลังได้บ้าง ดูทรงแล้วคงจะเป็นพ่อหนุ่มหูหนูคนนี้นี่แหละ หัวร้อนเหมาะกับให้มือใหม่ลงมือส่วนพวกที่มีสติและคิดอ่านรอบคอบก็ปล่อยให้เขา หงส์ และนิโคลัสจัดการดีกว่าหัวหน้ากลุ่มทหารเบี่ยงตัวหลบฉากออกจากการพุ่งเข้ามาชกอย่างง่าย ๆ แม้จะมีความเร็วไม่เท่า แต่ปฏิกิริยาตอบสนองกลับมีมากกว่าพลั่กทศที่สูญเสียเป้าหมายไปอย่างฉับพลัน แม้จะตั้งตัวได้แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่มีแต่ต้นไม้ทำให้สะดุดเข้ากับรากของไม้ยืนต้นแล้วล้มลงแทบเท้าของหนุ่มพลังโลหะและพฤกษาจากนั้นก็เป็นนิโคลัสที่พุ่งตัวเข้าไปหาหัวหน้าของกลุ่มโจรอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โจเซฟที่ถูกแย่งคู่ต่อสู้ที่หมายตาจำต้องไปจับคู่กับโจรที่ถูกห้ามไม่ให้หัวร้อนไปก่อนหน้านี้ดินมองลูกน้องคนหนึ่งถูกแยกออกไปและอีกคนหนึ่งที่มองตามผู้หญิงด้วยดวงตาเป็นประกาย เหลือบไปมองชายตาแดงในชุดฮู้ดตัวเดิมเฮ้อ...กลายเป็นแบบนี้ไปเสียแล้วแต่เท่านี้ก็รู้แล้วว่าความรู้สึกแปลกประหลาดที่เขาเป็นนั้นคืออะไรวันนี้เขาต้องปล้นคนคนนี้ไปให้ได้!“เหอะ ทำเป็นพูดพล่าม สุดท้ายก็อยากจะลุยตั้งแ
กรงเล็บของตัวกินมดนับได้ว่าเป็นอาวุธที่สำคัญในการปกป้องตัวมันจากนักล่าชนิดอื่น ดูจากการแทงครั้งเดียวก็สามารถแทงจากข้างหลังทะลุไปด้านหน้าได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความคมของมันจะมากขนาดไหน“ถ้าไม่อยากเป็นรายต่อไปก็ไสหัวไป” ดินพูดขู่ เขาไม่อยากสู้ยืดเยื้อจนเป็นผลให้เฉินเฟิงมีโอกาสหนีไปได้อีก ยิ่งอยู่ในภูเขาแบบนี้ การตามหาตัวจึงเป็นเรื่องยากสำหรับคนไม่เคยเดินป่าแบบเขา“...” นิโคลัสหยิบมีดสั้นของตนขึ้นมา แม้จะเหลือเพียงด้ามเดียวก็ไม่มีปัญหา“ถือว่านั่นเป็นคำตอบก็แล้วกัน” ดินหรี่ตา ขยับมือกรีดกรายกรงเล็บ เสี้ยววินาทีต่อมาก็พุ่งไปทางเป้าหมาย เล็บในมือขวาถูกเงื้อขึ้นเหนือศีรษะ หมายจะตวัดลงให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นถูกกรีดเป็นทางยาวแพทย์ทหารไม่ได้ถอยหลบ แต่เลือกที่จะก้มตัวลงหยิบท่อนซุงที่หมายตาไว้ปาไปด้านหน้าก่อนที่การโจมตีนั้นจะมาถึงตัวท่อนไม้ถูกกรงเล็บแหลมคมตัดผ่านแยกออกเป็นสองท่อน คุณหมอหมีใช้จังหวะนั้นย่อตัวลงต่ำแล้วถีบตัวขึ้นมาในจังหวะที่โจรปล้นบ้านชักกรงเล็บกลับเตรียมโจมตีใหม่ดินเห็นดังนั้นก็รีบถอยหลังเพื่อสร้างระยะห่าง แต่เพราะภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา สภาพพื้นจึงไม่ได้อยู่ในแนวราบ อีกทั้งยังมี
ฆาตกรหนุ่มมองชายที่เป็นคู่ต่อสู้ของตน ในหัวพลันนึกถึงตอนที่เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ชายคนนี้ยืนอยู่ด้านหน้า ถ้าไม่ใช่คนนำทางก็ต้องเป็นหัวหน้าโจเซฟไม่ปล่อยให้เต๋าได้คิด พุ่งตัวเข้าไปหาก่อนเป็นคนแรก จากข้อมูลที่เฉินเฟิงเล่าให้ฟัง หมอนี่คงมีพลังเกี่ยวกับกำลังกาย ภายนอกยังเป็นมนุษย์แต่พละกำลังมากล้นเหมือนดาริณี ดังนั้นเขาต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกโจมตีไม่ว่าจะเป็นสมรภูมิแบบไหน โจเซฟก็ยังคงใช้รูปแบบการต่อสู้เดิมของตนเสมอ นั่นคือไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้สามารถตั้งตัวได้ ชิงใส่ก่อนเพื่อประเมินสถานการณ์ได้เปรียบเสียเปรียบ ฟังดูบ้าบิ่น แต่กับชายคนนี้มันได้ผลเสมอตูม!เต๋าที่กำลังวิเคราะห์ว่าตนควรตั้งรับหรือเสี่ยงบุกเข้าไปถึงกับผงะเมื่อเห็นชายหนุ่มวิ่งเข้ามาหาตรง ๆ พร้อมกับมีดสั้นและมีดยาว เพราะไม่สามารถคาดเดาว่าอีกฝ่ายมีพลังพิเศษใดอยู่ในร่าง ฆาตกรหนุ่มจึงยกหินที่ใกล้มือที่สุดขว้างไปทางโจเซฟหัวหน้ากลุ่มทหารเบี่ยงตัวหลบอย่างง่ายดายโดยไม่แม้แต่จะชะงักฝีเท้าของตน เป็นผลให้คู่ต่อสู้ต้องคว้าหินก้อนที่ใหญ่กว่าเดิมขึ้นมา คล้ายอยากให้เจ็บหนักด้วยการโจมตีในครั้งนี้ไม่สิ ถ้าตายไปได้เลยยิ่งดี!ตูม!!เสียงหินก้อ
การต่อสู้ทางฝั่งของนิโคลัสและดินนั้นเป็นไปอย่างดุเดือด ด้วยคุณหมีไม่อยากใช้พลังไฟของตนมากนักเพราะเขายังพลิกแพลงมันให้เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดที่ตนถนัดได้ไม่ดี อีกทั้งที่นี่ยังเป็นพื้นที่ป่า ถ้าหากเผลอทำไฟไหม้ภูเขาขึ้นมาล่ะได้เป็นเรื่องใหญ่แน่ เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ทั้งคู่ดูเหมือนสามารถสู้ได้สูสีทัดเทียมกันนอกจากการโจมตีแรกที่ดินเผลอประมาทไปเพราะไม่ได้คำนึงถึงภูมิประเทศโดยรอบทำให้เกิดข้อผิดพลาดน่าอาย การเคลื่อนไหวในระยะหลังจึงมีความประณีตมากกว่าเดิมนิโคลัสเองก็เห็นถึงจุดนี้เช่นกัน แพทย์ทหารลอบสบถในใจ ครั้งแรกที่อีกฝ่ายพลาดพลั้งเขาน่าจะซ้ำให้ซี่โครงแตกไปเลย“แฮ่ก ๆ” ดินถอยออกมาจากระยะการโจมตีของนิโคลัส ริมฝีปากอ้าออกรับอากาศเข้าปอดอย่างหนักหน่วง แม้ภายนอกจะดูเหมือนว่าเขามีความสามารถสูสีกับอีกฝ่าย แต่คงมีเพียงเขาที่รู้ว่ามันยากลำบากเพียงใด ดีเท่าไรที่การกลายพันธุ์ของเขาไม่ได้มีเพียงกรงเล็บที่เป็นลักษณะพิเศษของตัวกินมดเท่านั้น แต่ยังมีเส้นขนตามตัวและผิวหนังที่ถูกพัฒนาให้มีความทนทานไม่ต่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิม แค่ไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ปุกปุยเฉกเช่นตัวกินมดในสารคดีเท่านั้นถึงอย่างนั้นก็ไ
ปัง!เฉินเฟิงหลับตาปี๋เมื่อได้ยินเสียง ถึงจะคลุกคลีอยู่กับกลุ่มคนที่สามารถปรับตัวเข้ากับวันสิ้นโลกได้แล้ว เขาก็ยังไม่ชินอยู่ดี พอได้รับการยืนยันว่าโจรหมดลมหายใจแล้ว เขาก็ยิ่งออกห่างจากหลุมนั้น ไม่กล้าก้มลงไปมองสภาพของคนตายอีกการปลิดชีวิตคนคนหนึ่งนั้นช่างง่ายดายเหลือเกินง่ายดายจนน่าใจหาย…“จะเลื่อนวันลงไปสำรวจเมืองไหม” โจเซฟเสนอ พวกเขาสามารถลงไปในเมืองได้ในวันนี้ แต่คุณกระต่ายล่ะ เพิ่งเจอการต่อสู้ที่ต้องใช้พลังไปพอสมควร... จะไหวหรือเปล่าไหนจะสภาพจิตใจอีก เขายังจำในตอนที่ตนได้เหนี่ยวไกยิงคนครั้งแรกในสงครามได้ดี ไม่ว่าจะผ่านการฝึกฝนมากหนักหนาแค่ไหน การเห็นคนคนหนึ่งล้มลงไปต่อหน้าต่อตาด้วยน้ำมือของเราก็เป็นประสบการณ์ที่แย่เกินกว่าสามัญสำนึกจะรับไหว“ก็ดีนะครับ” ทีโอเห็นด้วย ตอนนี้พวกเขาได้ทำการตรวจสอบข้าวของในตัวพวกโจรเรียบร้อยแล้ว อะไรที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ก็ปลดออกมา จากนั้นก็นำศพของโจรทุกคนมาวางลงไปในหลุมเดียวกับหัวหน้าโจร จัดการฝังกลบด้วยดิน ยกเว้นศพของสามีดาริณีที่ถูกขุดฝังแยกไปอยู่อีกหลุมหนึ่ง จะอย่างไรก็เคยเป็นคนที่เฉินเฟิงรู้จัก แล้วค่อยให้เฉินเฟิงนำต้นไม้ใหญ่มาปลูกทับลงไปอีกที
ก็ได้แค่คิด ในความเป็นจริงเจ้ากระต่ายขึ้นขี่หลังคุณหมีเป็นที่เรียบร้อย นิโคลัสกระชับใต้เข่าของเฉินเฟิงอย่างแน่นหนา ไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหล่นร่วงไประหว่างการเดินทางถ้านำเชือกมามัดผูกติดกันได้เขาก็พร้อมจะทำ“โอเค ออกเดินทางกันต่อได้” โจเซฟ“โอ้ว~” ลูกทีมต่างยกแขนชูขึ้นพร้อมเดินทาง มีเพียงเจ้ากระต่ายที่กำเป็นหมัดเล็ก ๆ อยู่บนแผ่นหลังกว้างอย่างอ่อนแรง พออยู่แบบนี้นานเข้าก็ผล็อยหลับไป“หลับแล้ว” โจเซฟมองกระต่ายขาวประจำกลุ่มที่พิงซบบนแผ่นหลังของนิโคลัสแล้วหลับไปทั้งแบบนั้น“เดินไป อย่าเสียงดัง” นิโคลัสมองหัวหน้าของตนตาขุ่น“...” โจเซฟมุมปากกระตุก นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป[1]“จากตรงนี้ถึงตีนเขาน่าจะกินเวลาหลายชั่วโมง ลงไปถึงหวังว่าอาเฟิงจะตื่นนะ” ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครนำทางพวกเขาเข้าเมืองกันล่ะ ระบบการเดินทางผ่านดาวเทียมในตอนนี้เป็นอัมพาตอยู่ด้วย“ถ้าเขาไม่ตื่นก็เดินไป” คุณหมอหมีเอ่ยเสียงเรียบ แต่นั่นกลับทำให้ใบหน้าของเพื่อนร่วมทีมเรียบยิ่งกว่า“...” หมอนี่เป็นเอามากแล้วคิดว่าจากตีนเขาถึงตัวเมืองมันระยะทางเท่าไรกันฮะ!ใครก็ได้ไปดึงความรักออกจากตามันที!! “อือ…”
“ในตัวอำเภอมีพวกร้านขายส่งบ้างไหม” โจเซฟถาม“มีอยู่สองสามแห่งครับ” เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แต่ถ้าเป็นร้านขายส่งที่บรรดาแม่ค้าไปรับสินค้ามาขายละก็ มีแน่นอน“คือ... เราจะเดินไปกันเหรอครับ” เวลานี้พ้นแนวป่าแล้ว เริ่มเห็นทุ่งนาสลับกับไร่ข้าวโพดประปรายทีโอไม่ขัดถ้าต้องเดินเท้าหากไม่มียานพาหนะจริง ๆ แต่ถ้ามันสามารถหาได้ก็คงช่วยทุ่นเวลาไปได้มากโขสายตาทั้ง 4 คู่หันมามองเฉินเฟิงพร้อมกันเจ้ากระต่ายอึกอัก ที่บ้านของเขาก็ไม่มีรถยนต์เช่นกัน เวลาที่ต้องไปซื้อของใช้ในตัวเมืองเขาจะปั่นจักรยานไปฝากไว้ที่บ้านของคนรู้จักแล้วขึ้นรถประจำทางไป มาวันนี้เสียใจแล้ว ในตอนนั้นเขาควรออกรถสักคัน“ถ้ายังไงลองไปดูที่หมู่บ้านผมก่อนดีไหมครับ เผื่อจะมีสักคนที่ให้ยืม” เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าพวกโจรได้ทำอะไรกับคนในหมู่บ้านบ้างหรือเปล่า แล้วก็จำได้ว่าบ้านของลุงกำนันมีรถกระบะคันใหญ่ ถ้าเจ้าตัวให้ยืมเขาก็จะรับฝากขนอาหารที่จำเป็นมาให้ด้วย ถ้ายังไม่กลายเป็นซอมบี้ไปเสียก่อนน่ะนะการเดินเท้ามาถึงหมู่บ้านของเจ้ากระต่ายนั้นใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ตอนที่เฉินเฟิ
โจเซฟผู้ผ่านเหตุการณ์สงครามมากมาย บ่อยครั้งก็เคยเห็นประชาชนถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายทารุณกรรมแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้ง ในใจของเขากลับยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเป็นเท่าทวีพวกมันถือสิทธิ์อะไร!ถือสิทธิ์อะไรมาช่วงชิงอิสระภาพของคนอื่น ถือสิทธิ์อะไรมาทำให้ใครสักคนต้องเจ็บปวดเพื่อสนองความต้องการแสนโสโครกในจิตใจของมัน!ดีแล้วที่พวกเขาฆ่ามันไปจนหมด ถ้าปล่อยให้หนึ่งในพวกมันหนีไปได้ เขาคงยิ่งเกลียดโกรธตัวเองไปชั่วชีวิต!“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” เฉินเฟิงไม่ทันเห็นสภาพในห้องก็ถูกแผ่นหลังของคุณหมอหมีบังเสียมิดชิด ใบหูได้ยินเสียงเสียดสีของเสื้อผ้า แสดงว่ามีคนอยู่ในห้องของพ่อแม่เขา แต่พวกโจรก็ตายหมดแล้วนี่?ยิ่งได้ยินเสียงพูดคุยกัน เด็กทั้งสองยิ่งกอดกันแน่นขึ้น“มีเด็กถูกจับมา” นิโคลัสบอกสั้น ๆ เขาในฐานะหมอกำลังคิดว่าควรเริ่มพูดอะไรกับเด็กทั้งสองคนดี เขาอยากเข้าไปตรวจและทำแผลให้ก่อน“เด็กเหรอครับ!” เฉินเฟิงตระหนก ถ้าถูกจับมาก็ต้องเป็นเด็กในหมู่บ้านแน่ ๆ เจ้ากระต่ายพุ่งตัวออกจากหลังของคุณหมอหมี แม้จะเห็นหน้าของเด็กทั้งสองไม่ชัด แต่ก็จำได้ว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกับเด็กชายดล“น้องพลอย! น้องปอนด์!” เฉินเฟิงถ
“ไว้ทางเชื่อมเสร็จก็ทำระบบรถรางต่อดีไหมล่ะ จะได้แวะมาดูบ่อย ๆ” หงส์เสนอ“ก็น่าคิดนะ” โจเซฟเห็นด้วย ระหว่างนี้เขาค่อยหาโอกาสแวะมาดูคุณแม่ให้บ่อยขึ้นก็แล้วกันหาจักรยานเสือภูเขาสักคันก็น่าสนใจ“แวะร้านจักรยานตรงนั้นหน่อยสิ” พอดีกับที่ยังไม่ทันหลุดไปยังถนนเส้นนอกก็ปรากฏร้านขายจักรยานที่ถูกทิ้งร้างใกล้กับปั๊มน้ำมัน สภาพของร้านยังคงดูดีอยู่ คิดว่าคนผ่านไปผ่านมาน่าจะสนใจน้ำมันในปั๊มมากกว่าพาหนะที่ต้องใช้แรงตนเองใครจะขี่จักรยานหนีซอมบี้ทันกัน“...” เฉินเฟิงผู้มีประสบการณ์ขี่จักรยานหนีซอมบี้ระดับเริ่มต้นคิด“ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด” หงส์กรีดนิ้วไปตามแฮนด์จักรยานได้ฝุ่นหนาเตอะติดขึ้นมาหลายชั้น“เอาไปกี่คันดี” มีที่ใช้ได้และสภาพดีอยู่เยอะทีเดียว“สัก 5 คันก็พอมั้งครับ เยอะกว่านี้จะไม่มีที่วาง” มองไปยังรถบรรทุกเล็กเห็นมังคุดต้องนั่งคุดคู้อยู่กับกล่องสมุนไพรก็น่าสงสารพอแล้ว ไหนจะบนหลังคารถบรรทุกยังมีแผงโซลาร์เซลล์กับแบตเตอรี่อีก ถ้าต้องเบียดกับจักรยานเพิ่มคงเป็นการทรมานสัตว์ใหญ่เกินไป“ร้านนี้มีแร็กจักรยานติดหลังคารถพอดีเลย” ตุ่นเดินเข้าไปสำรวจในร้านแล้วเจอกับแร็กสำหรับล็อกจักรยานไว้กับหลังคารถเข้าพอด
“จริงสิ ผมยังไม่ได้บอกคุณนี่นะ” เฉินเฟิงหันไปมองนิโคลัสคุณหมอพยักหน้าอนุญาตตอบ“มีวิธีได้พลังพิเศษมาแล้วนะครับ นอกเหนือจากการถูกซอมบี้ข่วนหรือกัดแต่ค่อนข้างเสี่ยงหน่อย” เฉินเฟิงอธิบายการใช้คริสตัลสีใสให้ฟังแล้วให้เจ้าตัวลองนำไปปรึกษากับคนในทีมเอาเอง ว่าความเสี่ยงถึงชีวิตนี้มีใครกล้าพอจะรับไว้ไหมวิทย์รับฟังแล้วขมวดคิ้วคิดหนัก“เสี่ยงน่าดูเลยนะครับ” แถมความเสี่ยงนั้นยังมีเฉพาะคนที่อายุเยอะแบบพวกเขาด้วย…และใครจะอยากให้น้อง ๆ ของเขาในบ้านครูเมตตาเป็นแนวหน้าต่อสู้กันล่ะ ถ้าพวกเขาอยากมีพลังก็ควรจะเติบโตและคิดถึงผลดีและผลเสียจากการมีพลังได้เองก่อนลองไปถามเด็ก ๆ ตอนนี้สิว่าใครอยากมีพลังพิเศษบ้าง คงยกมือกันให้พรึ่บ“ผมแค่ให้ข้อมูลที่ผมมี ส่วนคุณจะทำยังไงกับข้อมูลชุดนี้ต่อก็แล้วแต่คุณเลย แต่อยากให้มีสติก่อนจะเอามันเข้าปากด้วยนะครับ” เฉินเฟิงล้วงกระกล่องเหล็กออกมาจากกระเป๋า มอบคริสตัลสีใสให้กับวิทย์ไว้ทั้งหมด 5 เม็ด“นะ… นี่” ให้เขาจะดีหรือ“ผมยังมีอีกเยอะ คุณเก็บไว้เถอะ”“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ” วิทย์ก้มศีรษะเอวโค้ง 90 องศา บุญคุณที่ได้รับจากกลุ่มนี้ไม่รู้ว่าจะชดใช้อย่างไรหมด“ไม่เป็นไรครั
“บนดาดฟ้ามีเนื้อตะโขงตากแห้งนะ” โจเซฟชี้ชวนให้ดุดาดฟ้าของร้านขายอาหารสัตว์“ก็ว่าได้กลิ่นเนื้อหากแห้งหอมเชียว” ตุ่นทำจมูกฟุดฟิด“พวกนายหลับกันไปนานจนลืมเนื้อที่แช่น้ำไว้ สองเดือนก่อนฉันเลยพามังคุดไปเอาเนื้อขึ้นมาจากน้ำ กว่าจะตัดเหล็กออกมาได้ก็ใช้เวลาไปนานโข แต่ไม่ได้ทำอะไรมากนะแค่ทาเกลือหมักไว้แล้วก็ตากเลย” โจเซฟยักไหล่ เขามีความสามารถด้านงานครัวแค่นี้แหละ เพราะมันเป็นความรู้พื้นฐานในการเอาชีวิตรอดหากต้องติดอยู่ในป่า เวลาต้องเดินทางไกลชายหนุ่มจะพกเกลือติดตัวเสมอ“ดีมากแล้วครับ” เฉินเฟิงสูดดมกลิ่นเค็มในอากาศบ้าง“ได้ยินเชฟพูดแบบนี้ก็โล่งใจ”กี๊ซ! (มังคุดก็ช่วยทำนะ)“เหรอ ๆ มังคุดก็ทำด้วยเหรอ” เฉินเฟิงหันไปสนใจมังคุดที่ยกมือข้างขวาขึ้น พร้อมกับใช้มือซ้ายตบอกตนเอง“ช่วยชิมน่ะสิ” เขากำลังทาเกลืออยู่แท้ ๆ หันไปอีกทีเนื้อที่ตากอยู่บนถาดไม้ก็อันตรธานหายไปทีละชิ้นสองชิ้นหงิง (ก็มันอร่อย)“แสดงว่าเจ้าแสบนี่คงติดใจรสมือของหัวหน้าแล้วล่ะ” เจ้ากระต่ายกลั้วหัวเราะ ไม่ได้โกรธเรื่องการกระทำของมันเลยสักนิด“ก็คงใช่ สองสามวันนี้เนื้อหายไปเกือบ 10 กิโลได้แล้วล่ะ” โจเซฟโยนระเบิดไปอีกลูก“มังคุด!” คราวน
หลังจากทำกายภาพบำบัดอยู่ 2 สัปดาห์ วันนี้จึงเป็นวันแรกที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที ชายหนุ่มเคยเดินตลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง ข้าวของที่ผู้คนนำออกมาซื้อขายไม่ได้มีอะไรน่าสนใจอีกเมื่อต้องเดินวนเป็นครั้งที่ 2 เดินได้ไม่นานก็ชวนทุกคนกลับ บนหลังรถกระบะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้มาอย่างยากลำบาก เจ้ากระต่ายเดินวนดูมันหลายต่อหลายครั้งพร้อมกับเมนูอาหารที่ผุดขึ้นมาเต็มไปหมดอ้อ เขาซื้อเมล็ดพืชที่ไม่มีอยู่ในหมู่บ้านมาได้จำนวนหนึ่งด้วย ไว้เพาะพันธุ์บนบ้านภูเขาเสร็จค่อยนำไปแจกจ่ายให้กับคนในหมู่บ้านต่อ“ไปหามังคุดกันเถอะครับ” หายไปร่วมสองเดือน มันต้องคิดถึงเขามากแน่“อืม” นิโคลัสไม่ขัดข้อง หงส์กับตุ่นบอกว่าหัวหน้าโจเซฟออกจากค่ายไปอยู่กับมังคุดตั้งแต่ช่วงที่เฉินเฟิงนอนหลับไป ชายหนุ่มก็ไม่ได้กลับเข้ามาในค่ายอีก ทั้งที่แจ้งไว้ว่าอีก 7 วันจะกลับมา ตุ่นที่เป็นห่วงจึงออกไปตามหาที่ร้านขายอาหารสัตว์ที่ให้มังคุดใช้หลับนอนเป็นการชั่วคราว‘ดูเหมือนพี่หัวหน้าจะไปเจอของน่าสนใจเข้าน่ะ ก็เลยพามังคุดตระเวนทั่วเลย’ ตุ่นว่าอย่างนั้น…ไปทำอะไรกันนะฟากสิงหาที่เพิ่งเสนอผลงานวิจัยใหม่ขึ้นที่ประชุมก็งานรัดตัวจนออกมาส่งทั้งสองคนที
ตอนแรกเฉินเฟิงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา คิดว่าตนเองนั้นคงสามารถใช้พลังพฤกษาได้หลากหลายกว่าเมื่อก่อน การควบคุมที่เคยเชื่องช้าคงมีความเร็วเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่คราวนี้ล่ะ!เขาจะได้เป็นกระต่ายแนวหน้าเสียทีจะลอกวิธีการต่อสู้ของพวกพืชมหาภัยที่เคยเจอมากับตัวเองให้ดู!จุดเริ่มต้นนั้นมาจากไม้ประดับที่ใช้ตกแต่งในห้องพักผู้ป่วยของเขาเอง คาดว่าแต่เดิมห้องนี้อาจจะเป็นห้องที่คนรวยมีเงินในยุคก่อนซื้อไว้ ยามเจ็บไข้จะได้พักผ่อนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเตียงจากทางโรงพยาบาล เพราะที่นี่มีต้นฟิโลเดนดรอนถูกตั้งไว้อยู่ เขาก็จำชื่อไม่ค่อยได้ว่าชื่อเต็ม ๆ ของมันคือต้นอะไร เอาเป็นว่าตามหลักแล้วโรงพยาบาลคงไม่มีทางนำของเหล่านี้มาประดับห้องผู้ป่วยแน่นอนเพราะพืชชนิดนี้… มีพิษเฉินเฟิงมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบซื้อต้นไม้ในกระแสมาปลูกมาก ต้นไหนที่ว่าแพงหรือต้นไหนที่เรียกทรัพย์ก็จะไปกวาดซื้อมาไว้ในครอบครองให้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือฟิโลเดนดรอนที่เจ้าตัวดูจะชอบมากเป็นพิเศษครั้งหนึ่งเคยมีเด็กฝึกงานไปกินเลี้ยงที่บ้านนั้น พอเหล้าเข้าปากก็ก่อกวนกันเต็มที่ แม้เจ้าของบ้านจะแยกส่วนสถานที่กินเลี้ยงและ
…“อื้อ…” เสียงร้องจากริมฝีปากบางซีดพาให้คนที่กำลังฟุบหน้านอนอยู่ข้างเตียงรู้สึกตัว ใบหูกลมสีน้ำตาลกระดิกไปมาราวกับจะหาต้นตอของเสียง วันนี้เขาอยู่เฝ้าคนรักเพียงคนเดียว สามคนที่เหลือนัดแนะกันว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืนแล้วกลับไปนอนที่บ้านเช่า“อือ”“อาเฟิง!” นิโคลัสรีบเงยหน้ามองคนรักในความมืด แสงจันทร์จากหน้าต่างส่องให้เห็นเรียวคิ้วของเจ้ากระต่ายที่กำลังผูกกันเป็นโบหรือว่าจะไข้ขึ้น?คุณหมอหมีใช้หลังมือตนเอง แตะหน้าผาก แก้ม และลำคอ… ก็ไม่มีไข้หรือว่า!!“ที่รัก คุณตื่นแล้วใช่ไหม อาเฟิง อาเฟิง” ชายหนุ่มจ้องมองดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นอย่างตั้งใจ จินตนาการถึงนัยน์ตาสีทับทิมเปล่งประกายที่เขาชอบจ้องมอง และหวังว่าวันนี้จะได้เห็นมันอีกเพียงแค่เปลือกตาของคนที่นอนอยู่ขยับขึ้นเท่านั้นและดูเหมือนว่าคำภาวนานั้นจะเป็นจริงเฉินเฟิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด ทั้งที่รู้สึกว่ากำลังลืมตา แต่ภาพด้านหน้าก็ยังคงดำมืด…หรือว่าเขายังคงฝันอยู่?“อาเฟิง” เสียง…เจ้ากระต่ายหันเหสายตาไปมองด้านข้าง มือของตนถูกบางสิ่งบางอย่างกอบกุมอยู่ ฝ่ามือหนาอุ่นนี้เขาคุ้นชินนัก“พี่... นิค” เสียงที่ถูกเปล่งออกมาทั้งแห
นักวิทย์ฯ อัจฉริยะมองทรัพยากรต่าง ๆ ที่ถูกใช้ไปแล้วก็ครุ่นคิดต่อ การจะให้คนคนหนึ่งเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 2 จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นจะประสบปัญหาเดียวกับทีโอ ทั้งที่เลื่อนเป็นระดับ 2 แล้วแต่ร่างกายที่ไม่ได้รับสารอาหารเลยตลอด 1 เดือนย่อมไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะไปหาอาหารมาบำรุงส่วนที่สูญเสียไปได้ หากปล่อยทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์คงเสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดายเป็นจริงอย่างที่สิงหาคาดเดา กลุ่มผู้รอดชีวิตด้านนอกที่เจอสถานการณ์การเลื่อนเป็นระดับ 2 เพียงลำพังล้วนตายจากไปโดยที่ไม่มีใครรู้ บางคนเห็นเพื่อนถูกซอมบี้กัดก็ปลิดชีวิตกันก่อนจะได้พิจารณาอาการเบื้องต้นด้วยซ้ำ พลอยทำให้มนุษย์ยังคงติดอยู่ในระดับ 1 ไปอีกหลายเดือนกว่าสิงหาจะประกาศผลการทดลองนี้“อาหารเช้ามาแล้วครับ” ทีโอถือกล่องใส่อาหารเดินเข้ามาในห้อง ดีนะที่เขาเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับ 2 และมีร่างกายแข็งแรง เปลี่ยนเป็นให้คนธรรมดาเดินขึ้นบันได 10 ชั้นทุกวันก็ไม่ไหวหรือเปล่า แถมยังต้องไปเช้า กลางวัน เย็นด้วย “ผมเจอหลานท่านนายพลที่โรงอาหารอีกละ ทักถามหาพี่ทุกวัน”“ช่างหมอนั่นเถอะ” และนี่ก็เป็นคำตอบที่นิโคลัสตอบกลับไปเช่นเดิม“ผมก็ไม่ได้อ
“วันนี้ก็ครบวันที่ 7 แล้วนะครับ มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะอีกไหมครับ” สิงหาหยิบชาร์ตคนไข้เดินเข้ามาในห้องพัก VVVIP บนเตียงขนาดใหญ่มีนิโคลัสนอนให้น้ำเกลืออยู่ หลังจากฉีดเข็มแรกเข้าไปคนที่น็อกร่วงกลางอากาศเป็นคนแรกกลับไม่ใช่เฉินเฟิงที่น่าเป็นห่วงที่สุด“ดีขึ้นมากแล้วครับ สองวันนี้ไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากอ่อนเพลียเล็กน้อย” นิโคลัสนอนสำรวจตัวเองครู่หนึ่ง อาการหัวใจเต้นแรงที่ปรากฏขึ้นเป็นบางครั้งเหมือนว่าจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว“ผมลองสแกนกับตรวจคลื่นหัวใจแล้วไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ” สิงหาแปลกใจกับอาการของคุณหมอหนุ่มมาก อาการที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเป็นนิมิตหมายอันดีของโรคภัยไข้เจ็บ แต่ผลตรวจร่างกายกลับไม่พบอะไรเลย อ้อ มีค่าความเข้มข้นของเลือดที่สูงขึ้น จด ๆ“คิดว่าคงไม่เกี่ยวกัน เชื้อซอมบี้อาจจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วส่งผลให้ร่างกายเกิดการ… @%^&%@” เฉินเฟิงกับทีโอนั่งมองหมอสองคนที่เริ่มคุยเรื่องการแพทย์กัน คำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินบินว่อนเต็มห้องพักไปหมด แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปแทรกบทสนทนาเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ“แล้วอย่างนี้ผมจะเริ่มกินคริสตัลเม็ดนี้ได้หรือยังครับ” เฉินเฟิงหยิบคริสตัลสีเหลืองอ่อนออกม
การจะฉีดวัคซีนได้นั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือความพร้อมของร่างกาย วันนี้หมีกระต่ายจึงถูกไล่กลับไปกินอาหารและพักผ่อนก่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยมาพบสิงหาที่โรงพยาบาลแห่งนี้อีกครั้งนิโคลัสเล่าเรื่องที่ตนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซอมบี้ในวันพรุ่งนี้ให้กับสมาชิกในทีมฟัง โจเซฟไม่ได้ว่าอะไรเขายอมรับการตัดสินใจของลูกทีมเสมอ โดยมีทีโอที่พยายามโน้มน้าวให้พวกเขารอให้ผลการทดลองนิ่งกว่านี้ก่อนจะดีกว่า“เกิดฉีดไปแล้วหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมาเหมือนหนูทดลองล่ะครับ” ขนาดวัคซีนก่อนวันสิ้นโลกเองก็ยังพัฒนาไปไม่ถึงไหน ยิ่งเวลานี้มีข้อจำกัดในทุกด้านไม่สมบูรณ์พร้อมสักอย่างย่อมสุ่มเสี่ยงมากกว่าแน่ ๆ“นั่นมันตอนที่ร่างกายเราไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เซลล์ทุกอย่างยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ แต่ตอนนี้เวลานี้ร่างกายที่เป็นของเราล้วนไม่มีใครรู้จักดีแม้แต่ตัวเราเอง” นิโคลัสส่ายศีรษะ ตัดสินใจแล้วว่าจะรับวัคซีนพร้อมคนรัก หากต้องเห็นคนรักกลายเป็นซอมบี้หรือหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมา เขาก็พร้อมจะตามไป…ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ล้วนไร้ความหมายหากไม่มีเจ้ากระต่ายเคียงคู่เขาจะกินอาหารอีกต่อไปได้ยังไง… เมื่อคนทำอาหารไ