Share

บทที่ 306

Author: ทองประกาย
"เจียงซุ่ยฮวน แม่เจ้าอุ้มท้องสิบเดือนคลอดเจ้ามาก็ยากลำบากแล้ว เมื่อครู่นางขอโทษเจ้าต่อหน้าผู้คนมากมาย เจ้ายังไม่ให้อภัย นี่คือความอกตัญญู!"

เจียงซุ่ยฮวนเอียงศีรษะ "หม่อมฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของฮองเฮา"

"เราพูดชัดเจนถึงเพียงนี้ เจ้ายังมีอะไรไม่เข้าใจอีก?"

เจียงซุ่ยฮวนจ้องฮองเฮาตรง ๆ "พระองค์หมายความว่า ไม่ว่าใครจะทำผิดร้ายแรงเพียงใด เพียงแค่ขอโทษจริงใจก็ควรให้อภัยใช่หรือไม่?"

ฮองเฮารู้สึกว่าปฏิกิริยาของเจียงซุ่ยฮวนไม่ค่อยถูกต้อง แต่ก็ยังพยักหน้า "ถูกต้อง รู้ผิดแล้วแก้ไข ไม่มีสิ่งใดประเสริฐกว่านี้ คนเราควรมีจิตใจที่ให้อภัย"

"อ๋อ เข้าใจแล้ว" เจียงซุ่ยฮวนโบกมือเรียกนางกำนัลข้าง ๆ เมื่อนางกำนัลเดินมาใกล้ นางก็ยกมือขึ้นอย่างฉับพลัน ทำท่าจะตบหน้านางกำนัล

นางกำนัลหลับตาปี๋ด้วยปฏิกิริยาอัตโนมัติ แต่มือของนางหยุดอยู่ข้างแก้มนางกำนัล นางลดมือลง หันไปถามฮองเฮา "ฮองเฮา หากหม่อมฉันตบหน้านางกำนัลไปจริง ๆ แล้วเพียงพูดคำว่าขอโทษ นางก็ต้องให้อภัยหม่อมฉันใช่หรือไม่?"

ฮองเฮานิ่งอึ้ง ผ่านไปครู่ใหญ่จึงตรัส "ก็แค่นางกำนัลเท่านั้น"

"นางกำนัลก็คน หม่อมฉันก็คน หม่อมฉันไม่ได้ตบลงไปจริง แต่ 'การ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 307

    เจียงซุ่ยฮวนยืนอยู่ห่างออกไป จึงได้แต่อ่านริมฝีปากขององค์หญิงจิ่นซิ่วว่านางกำลังพูดอะไร องค์หญิงจิ่นซิ่วกล่าวประมาณว่า "เสด็จอา หม่อมฉันจัดสุราและอาหารไว้ที่ศาลาแล้ว ท่านจะร่วมชมหิมะและดื่มสุราสักถ้วยกับหม่อมฉันหรือไม่เพคะ?" ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังสงสัยว่ากู้จิ่นจะตอบว่าอย่างไร นางรำโบกแขนเสื้อผ่านมาตรงหน้า บดบังสายตานาง นางก้มหน้าหัวเราะที่ตนเองช่างชอบสอดรู้สอดเห็น ดื่มน้ำชาในถ้วยจนหมดแล้วลุกออกจากท้องพระโรง กู้จิ่นก้มมององค์หญิงจิ่นซิ่ว ขมวดคิ้วกล่าว "อากาศหนาวเช่นนี้ เหตุใดจึงอยากชมหิมะ?" องค์หญิงจิ่นซิ่วชะงัก พึมพำว่า "แต่...มันช่างมีบรรยากาศเหลือเกินเพคะ..." "ข้าเป็นคนหยาบ ไม่เข้าใจบรรยากาศเช่นนั้น" กู้จิ่นเอ่ยเสียงเย็นชาดุจสายน้ำ ก้าวเดินผ่านองค์หญิงจิ่นซิ่วไป นางรำที่อยู่ตรงหน้าโบกแขนเสื้อเดินจากไป เผยให้เห็นที่นั่งของหมอหลวงที่ว่างเปล่า ฝีก้าวของกู้จิ่นไม่มีแม้แต่จังหวะชะงัก เดินตรงออกจากท้องพระโรงไป องค์หญิงจิ่นซิ่วจ้องมองเงาร่างของกู้จิ่น กระทืบเท้าด้วยความแค้นใจ หยิบถ้วยสุราขึ้นดื่มพลางร้องไห้ หิมะด้านนอกสูงถึงน่อง แต่กู้จิ่นเดินบนหิมะราวกับเดินบนพื้นราบ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 308

    ชางอี้อุ้มมันเทศเผาในมืออย่างเลิ่กลั่ก จะถือไว้ก็ไม่ใช่ จะทิ้งก็ไม่เชิง เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นสายตาเยียบเย็นของกู้จิ่น เขาแทบจะร้องไห้ออกมา เจ้ามือบ้าเอ๊ย! ทำไมถึงอดใจไม่ไหวรับมันเทศเผานั่นมาเสียได้! เจียงซุ่ยฮวนก้มหน้าจัดการมันเทศ ไม่ทันสังเกตสีหน้าของกู้จิ่น นางแบ่งมันเทศบนพื้นเป็นสองกอง ใช้แขนเสื้อกวาดกองหนึ่งเข้ามาไว้ในอ้อมอก ส่วนอีกกองที่ใหญ่กว่าดันไปตรงหน้ากู้จิ่น "หากรู้ว่าท่านชอบกินมันเทศเผา ข้าคงหยิบมามากกว่านี้ เอ้า รับไปสิ ข้ายกให้ท่านทั้งหมดนี่แหละ" กู้จิ่นอารมณ์ดีขึ้นในทันใด แววตาและสีหน้าอ่อนโยนลงในพริบตา แต่ผู้ที่มีความสุขที่สุดในยามนี้คงไม่พ้นชางอี้ เขาเอามือประสานท้ายทอยพลางกัดมันเทศเผา นอนสบาย ๆ อยู่บนหลังคา ช่วงนี้อุปนิสัยขององค์ชายนุ่มนวลขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แม้แต่การลงโทษบ่าวไพร่อย่างพวกเขาก็แทบไม่มีแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปนับแต่เจียงซุ่ยฮวนปรากฏตัว ชางอี้มองท้องฟ้ายามราตรี ภาวนาในใจ: 'สวรรค์เอ๋ย ขอให้องค์ชายกับหมอหลวงเจียงได้ครองคู่กันเร็ว ๆ เถิด จะได้มีโอกาสกินมันเทศเผาอร่อย ๆ แบบนี้บ่อย ๆ...' หิมะตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ร่างของเจียงซุ่ยฮวนและกู้จิ่นถูกปกค

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 309

    นางกำนัลในชุดสีชมพูเงยหน้าขึ้น ที่แท้ก็คืออาเซียง นางกำนัลคนสนิทของจีกุ้ยเฟย บัดนี้บุคลิกของอาเซียงแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง เพิ่มความลึกลับบางอย่าง ความอ่อนแอที่เคยมีหายไปไม่เหลือร่องรอย เจียงเม่ยเอ๋อร์ยังจำได้ว่าครั้งหนึ่งนางเคยทำร้ายอาเซียง นางมองไปด้านหลังอาเซียงด้วยความกังวล แต่กลับพบว่าในห้องมีเพียงพวกนางสองคน อาเซียงยิ้มพลางกล่าว "พระชายากำลังมองหาใครหรือเพคะ? บ่าวสืบมาแล้ว องค์ชายหนานหมิงไปขอพระราชทานอภัยโทษให้ท่านจากฝ่าบาท ส่วนนางกำนัลคนเดียวในห้องนี้ บ่าวก็ส่งออกไปแล้ว" "เจ้าจะทำอะไร?" เจียงเม่ยเอ๋อร์ถอยหลังเล็กน้อย แววตาฉายความหวาดกลัว "บ่าวบอกไปแล้วว่ามาช่วยท่านเพคะ" อาเซียงกล่าว "ดังนั้นจึงต้องไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย" เจียงเม่ยเอ๋อร์ชี้ไปที่ประตู "ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาช่วย ออกไป!" สีหน้าของอาเซียงไม่เปลี่ยนแปลง "พระชายา ท่านคิดให้ดีเสียก่อน ต่อให้องค์ชายหนานหมิงไปขอพระราชทานอภัยโทษ ก็ช่วยท่านไม่ได้หรอกเพคะ" "ยามนี้ฝ่าบาทกำลังกริ้ว อาจถึงขั้นให้องค์ชายหนานหมิงหย่าท่านเลยทีเดียว" "บังอาจ!" เจียงเม่ยเอ๋อร์โกรธจนตวาดลั่น "แค่นางกำนัลอย่างเจ้าก็กล้าพูดเช่น

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 310

    อาเซียงกล่าว "แมวกินเข้าไปแล้วเป็นอย่างไร คนกินเข้าไปก็จะเป็นเช่นนั้น" พูดจบ อาเซียงก็เดินไปอุ้มแมวสิงโตมาวางไว้ในอ้อมอกของเจียงเม่ยเอ๋อร์ "พระชายาจะให้มันกินหรือเจ้าคะ?" "ทำไม ไม่ได้รึ?" เจียงเม่ยเอ๋อร์ย้อนถาม อาเซียงส่ายหน้า "น่าเสียดายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้" เจียงเม่ยเอ๋อร์ขอยาเม็ดหนึ่งจากอาเซียง ยัดเข้าปากแมวสิงโต บีบคางแมวบังคับให้มันกลืนลงไป ในชั่วขณะถัดมา แมวก็พลันอาเจียนเป็นเลือดสด แล้วล้มลงชักสองสามที ก่อนจะนิ่งสนิท แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว เจียงเม่ยเอ๋อร์ก็ยังตกใจไม่น้อย โดยสัญชาตญาณนางอยากจะโยนแมวสิงโตในอ้อมอกทิ้งไป อาเซียงรับแมวสิงโตไปอย่างนุ่มนวล "อีกสามวันมันก็จะฟื้น พระชายาอย่าได้ทิ้งมันเลยนะเจ้าคะ" เจียงเม่ยเอ๋อร์ขมวดคิ้วแน่น "หากมันไม่ฟื้นล่ะ?" "หากมันไม่ฟื้น บ่าวจะนำหัวมาให้พระชายา" "ได้!" อาเซียงวางแมวลงข้าง ๆ อย่างเบามือ ค้อมกายคำนับ "พระชายาทรงพักผ่อนให้สบาย บ่าวขอทูลลาก่อน" นางวางขวดกระเบื้องไว้ข้างเตียงเบา ๆ แล้วหมุนตัวเดินออกไป เจียงเม่ยเอ๋อร์จ้องขวดกระเบื้องเขม็ง ราวกับมีอำนาจลึกลับบางอย่างดลใจ นางหยิบขวดขึ้นมาซุกเข้าในแขนเสื้อ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 311

    แปลกยิ่งนัก ยาเม็ดสีขาวนั้นเมื่อเข้าปากก็ละลายดุจดังสายน้ำ ความเย็นฉ่ำแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ เจียงเม่ยเอ๋อร์เพิ่งจะรู้สึกประหลาดใจ จู่ ๆ ก็รู้สึกราวกับมีไฟร้อนแผดเผาอยู่ในอวัยวะภายใน ทั้งร้อนระอุและปวดแสบปวดร้อน นางทรุดลงคุกเข่าบนเตียง มือกุมท้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายค่อย ๆ โน้มไปข้างหน้า แล้วพลันอาเจียนเป็นโลหิตสดออกมามากมาย นางกำนัลสองคนที่วิ่งเข้ามาหานางยืนตะลึงอยู่ข้างเตียง เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตที่เจียงเม่ยเอ๋อร์อาเจียนออกมา นางกำนัลอีกหลายคนที่อยู่ด้านหลังชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวิ่งกรีดร้องออกไปตะโกนลั่น "แย่แล้ว! พระชายาองค์ชายหนานหมิงกินยาพิษฆ่าตัวตาย!"ฉู่เจวี๋ยเพิ่งกลับมาจากตำหนักว่อหลง หลายวันมานี้เขาไปขอพบฝ่าบาททุกวันเพื่อขอความเมตตาให้เจียงเม่ยเอ๋อร์ แต่ฝ่าบาทไม่ทรงพระราชทานพระบรมราชวโรกาส วันนี้ในที่สุดก็ทรงยอมพบ แต่กลับรับสั่งให้เขาหย่าขาดกับเจียงเม่ยเอ๋อร์เสีย บัดนี้เขาไม่อาจขาดเจียงเม่ยเอ๋อร์ได้ พอได้ยินรับสั่งเช่นนั้นก็โกรธจัดออกจากตำหนักว่อหลงไปทันที เขาเดินมาได้ครึ่งทาง จู่ ๆ ก็เห็นนางกำนัลวิ่งซวนเซมาแต่ไกล พลางร้องตะโกน "ช่วยด้ว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 312

    ในยามที่นายและบ่าวกำลังรู้สึกสงสัย เจียงซุ่ยฮวน หมอหลวงเมิ่ง และหมอหลวงหยางทั้งสามคนก็อุ้มหีบยาเดินมาถึง ด้วยเหตุที่พระชายาลอบกินยาพิษฆ่าตัวตายนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ทั้งสามจึงต้องมาดูอาการ อาเซียงกระซิบถามเบา ๆ "พระสนม จะให้หม่อมฉันห้ามพวกเขาไว้หรือไม่เพคะ" "ไม่ต้อง" จีกุ้ยเฟยส่ายหน้า แล้วเหลือบมองหมอหลวงทั้งหลายที่เดินเข้าไปในห้องด้วยสายตาเย็นชา "พิษชนิดนี้ร้ายกาจนัก ไม่เพียงไร้ทางรักษาแม้แต่หมอเทวดาที่เก่งกาจที่สุดในใต้หล้าก็มิอาจรู้ได้ว่าถูกพิษชนิดใด" ...... เจียงซุ่ยฮวนแต่เดิมอยู่ในห้องทดลอง เมื่อได้ยินเสียงร้องตะโกนจากด้านนอกจึงเดินออกมา พอทราบว่าเจียงเม่ยเอ๋อร์กินยาพิษฆ่าตัวตาย นางก็เข้าใจในทันทีว่าต้องเป็นฝีมือของจีกุ้ยเฟยแน่ แม้จะไม่ทราบว่าจีกุ้ยเฟยใช้วิธีใดให้เจียงเม่ยเอ๋อร์กินยาพิษ แต่ด้วยสถานะหมอหลวงของเจียงซุ่ยฮวน นางจำต้องมาดูอาการ นางเดินเข้าห้องพร้อมกับหมอหลวงเมิ่งและหมอหลวงหยาง เมื่อเห็นฝ่าบาทและฮองเฮา ทั้งสามก็พากันคำนับ "หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมฮองเฮา" ฝ่าบาทมีสีพระพักตร์ไร้อารมณ์ ตรัสว่า "ไม่ต้องคำนับแล้ว รีบไปรักษาเจียงเม่ยเอ๋อร์ก่อน" "หากรัก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 313

    หมอหลวงเมิ่งและหมอหลวงหยางมองนางด้วยความตกตะลึง หมอหลวงหยางพึมพำว่า "นี่เป็นวิธีที่ดีจริง ๆ พระชายาเพิ่งดื่มยาพิษไปไม่นาน พิษยังไม่ได้แพร่กระจาย หากล้างท้องก็จะขับพิษส่วนใหญ่ออกได้" "แต่ปัญหาคือ จะล้างท้องอย่างไร" "ใช่แล้ว จะล้างท้องได้อย่างไรกัน หรือว่าต้องผ่าท้องเอากระเพาะออกมาล้างแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่งั้นหรือ" ฝ่าบาทก็ทรงงุนงงยิ่งนัก "มิใช่เช่นนั้นเพคะ" เจียงซุ่ยฮวนตกใจกับคำอธิบายเช่นนั้น รีบชี้แจงว่า "การล้างท้องคือการทำให้นางอาเจียนเอาของในกระเพาะออกมาให้หมด ทำซ้ำหลายๆครั้ง น่าจะขับยาพิษออกมาได้บางส่วน" เมื่อทุกคนเข้าใจ หมอหลวงเมิ่งจึงถามว่า "แล้วจะทำให้นางอาเจียนได้อย่างไร" เดิมทีเจียงซุ่ยฮวนอยากจะหยิบขวดน้ำยาล้างท้องจากห้องทดลองออกมา แต่เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้มีคนอยู่เต็มห้อง คงยากจะอธิบายให้ผู้คนเข้าใจนางจึงได้แต่กล่าวว่า "เอาสบู่ไปละลายน้ำ แล้วให้นางดื่ม นางก็จะอาเจียนออกมาเอง" ไม่นาน นางกำนัลสองคนก็นำน้ำสบู่มาหนึ่งอ่างใหญ่ โดยมีองครักษ์เสื้อแพรช่วยป้อนน้ำสบู่ใส่ปากเจียงเม่ยเอ๋อร์ เจียงเม่ยเอ๋อร์นิ่งเฉย ปล่อยให้นางกำนัลป้อนน้ำ เมื่อป้อนไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ เจียงเม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 314

    เจียงเม่ยเอ๋อร์เพิ่งคลอดบุตรเสร็จ ร่างกายอ่อนแรงยิ่งนัก นอนอยู่บนเตียงดวงตาเลื่อนลอยราวกับจะหมดสติลงทุกเมื่อนางกำนัลสองคนยืนก้มหน้าอยู่ข้าง ๆ รอคำสั่งจากเจียงซุ่ยฮวนอย่างเงียบ ๆ ภายในห้องเงียบสงัดชั่วขณะ เจียงซุ่ยฮวนมองทารกบนเตียงด้วยความเงียบงัน ทารกนี้มีศีรษะใหญ่ราวเท่ากระด้ง แขนขาสั้นเตี้ย ใบหน้าแปลกประหลาด ไม่มีตาขาว มีเพียงนัยน์ตาสีดำสนิททั้งดวง มีรูจมูกถึงสามรู ผิวทั่วทั้งร่างเป็นสีเขียวซีด น่าสยดสยองยิ่งนัก แม้เจียงซุ่ยฮวนจะทำใจไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อได้เห็นเข้าจริงกลับยังอดขนลุกไม่ได้นางเคยเห็นทารกพิการมามากมาย แต่ไม่เคยเห็นทารกที่มีรูปลักษณ์วิปลาสถึงเพียงนี้ช่างแปลกนัก เจียงเม่ยเอ๋อร์กับฉู่เจวี๋ยไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน แล้วเหตุใดจึงให้กำเนิดทารกที่พิกลพิการเช่นนี้ แม้รูปลักษณ์จะน่าสะพรึง แต่ทารกน้อยผู้นี้ก็ร้องไห้เสียงดังตั้งแต่ลืมตาดูโลก อาการทั่วไปไม่แตกต่างจากเด็กแรกเกิดนักเจียงซุ่ยฮวนส่ายหน้า เด็กทารกผู้นี้ไม่เพียงมีหน้าตาที่ผิดปกติ ร่างกายก็บิดเบี้ยวผิดรูปเช่นกัน ท่าทางจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานสีหน้านางดูหนักใจ แต่ก็ยังฝืนทนความรู้สึกไม่สบายใจไว้เพี

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 546

    จางรั่วรั่วเพิ่งสังเกตเห็นกู้จิ่น นางยืดตัวตรงทันที ค้อมกายคำนับเล็กน้อย แล้วเอ่ยด้วยความประหม่าว่า "หม่อมฉันเรียนวิชายุทธ์จากสำนักในเมืองหลวงเพคะ" "เจ้าไม่ต้องไปอีกแล้ว" "เหตุใดเล่าเพคะ?" "สิ้นเปลืองเงินทองเปล่า ๆ" จางรั่วรั่วยักไหล่ ก่อนเอ่ยเสียงเบา "เพคะ" เจียงซุ่ยฮวนกลั้นยิ้มที่มุมปาก กล่าวว่า "รั่วรั่ว ครั้งนี้ข้ามาเพราะมีเรื่องจะถาม มารดาของเจ้าอยู่ที่ใดหรือ?" "มารดาของหม่อมฉันกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องเพคะ" จางรั่วรั่วเก็บดาบในมือ เดินมาใกล้เจียงซุ่ยฮวนแล้วกระซิบว่า "ตำรับยาที่ท่านจัดให้บิดามารดาของหม่อมฉันได้ผลยิ่งนัก บิดาของหม่อมฉันเพิ่งรับประทานได้ไม่กี่วัน มารดาก็ตั้งครรภ์เสียแล้ว" เจียงซุ่ยฮวนหัวเราะ "ช่างเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก" "มารดาของหม่อมฉันพูดเสมอว่าอีกไม่กี่วันจะไปเยี่ยมท่าน แต่ไม่คิดว่าท่านจะมาก่อน" จางรั่วรั่วนำทาง พลางหันมาถามด้วยความอยากรู้ "ท่านมาหามารดาของหม่อมฉันเพื่อถามเรื่องใดหรือเพคะ?" "เจ้าเคยบอกข้าว่า เมื่อแรกเกิดของเจ้า มีนักพรตผู้หนึ่งนามว่าเหยียนซวีมาที่จวนของเจ้า เจ้ายังจำได้หรือไม่?" เจียงซุ่ยฮวนถาม "แน่นอนว่าจำได้เพคะ" "ข้ามีภาพ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 545

    ผ่านไปราวหนึ่งกาน้ำชา ฮั่วเซิงวาดภาพเสร็จหนึ่งภาพ เจียงซุ่ยฮวนยกกระดาษขึ้นดู ในภาพเป็นชายวัยกลางคน ดูมีเมตตาและใจดี นางส่งภาพวาดให้กู้จิ่น "ฮั่วเซิงเคยบอกว่านักพรตเหยียนซวีดูมีอายุเจ็ดสิบกว่าปี คนในภาพวาดนี้หนุ่มเช่นนี้ น่าจะเป็นอาจารย์ของเขา" เพื่อไม่ให้ผิดพลาด นางก็ถามฮั่วเซิงอีกหนึ่งประโยค "คนในภาพวาดนี้คือใคร?" "อาจารย์ของข้า" "อืม วาดต่อไปเถิด" เจียงซุ่ยฮวนพยักหน้า ภาพวาดนี้แม้จะไม่ถึงขั้นเหมือนจริง แต่ก็ถือว่าใช้ได้ น่าจะตามหาคนจากภาพวาดได้ เมื่อวาดนักพรตเหยียนซวี การเคลื่อนไหวของฮั่วเซิงช้าลงมาก คงจำใบหน้าของนักพรตเหยียนซวีไม่ชัด จึงวาดได้ช้า เจียงซุ่ยฮวนหาวข้าง ๆ กู้จิ่นเห็นแล้วกล่าว "อาฮวน ข้าส่งคนไปส่งเจ้ากลับก่อนดีหรือไม่?" "ไม่รีบเพคะ" เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ ชี้ไปที่ฮั่วเซิงบนพื้น "หม่อมฉันอยากดูว่านักพรตเหยียนซวีหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่" "รอเขาวาดเสร็จหม่อมฉันค่อยกลับ" "ได้" ผ่านไปอีกหนึ่งกาน้ำชา ในที่สุดฮั่วเซิงก็วางพู่กันยืดตัวขึ้น คราวนี้กู้จิ่นเป็นคนเก็บภาพจากพื้น แล้วดูพร้อมกับเจียงซุ่ยฮวน ในภาพเป็นชายชราอายุเจ็ดสิบกว่าปีจริง ๆ ชายชราผู้นี้มีตาเล็กเ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 544

    ในคุกใต้ดินที่มืดสลัว ดวงตาของเจียงซุ่ยฮวนเป็นประกายวาววับ ราวกับดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับในท้องฟ้ายามค่ำคืน กู้จิ่นถาม "วิธีอะไรหรือ?" "หม่อมฉันมีน้ำยาชนิดหนึ่ง ที่จะทำให้ฮั่วเซิงพูดความจริงออกมาได้" เจียงซุ่ยฮวนยื่นมือเข้าไปในแขนเสื้ออีกครั้ง หยิบขวดน้ำยาบังคับให้พูดความจริงออกมา "มีของเช่นนี้ด้วยหรือ" กู้จิ่นดูประหลาดใจ มองนางด้วยสายตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "อาฮวนของข้าช่างเก่งจริง ๆ" นางรู้สึกเขินเล็กน้อย ลูบจมูก "ก็พอได้" นางรู้สึกสงสัย หากกู้จิ่นรู้ว่านางมีห้องทดลอง เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร? แต่เรื่องเช่นนี้ ยังไม่อาจพูดออกมาก่อน ในระหว่างรอฮั่วเซิงฟื้น กู้จิ่นและเจียงซุ่ยฮวนสนทนากันเสียงเบา ร่างกายของทั้งสองใกล้ชิดกัน รอบข้างแผ่ซ่านไออุ่นบาง ๆ ผู้คุมมองดูทั้งสอง คิดว่าตัวเองคงง่วง ถึงได้รู้สึกอบอุ่นในคุกใต้ดินที่เย็นยะเยือกและมืดมิดเช่นนี้ ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม ร่างของฮั่วเซิงสะดุ้งอย่างแรง เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เจียงซุ่ยฮวนกำลังคุยกับกู้จิ่น หางตาสังเกตเห็นฮั่วเซิงฟื้นแล้ว นางจึงก้มลงมอง ฮั่วเซิงจำพวกเขาได้ในทันที ดิ้นรนถอยหลังไป ปากส่งเสียง "อ่า ๆ" แว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 543

    "ฮั่วเซิง! ฮั่วเซิง!" ผู้คุมตะโกนเรียกสองครั้งผ่านซี่กรง ฮั่วเซิงที่นอนอยู่บนพื้นไม่มีการตอบสนองใด ๆ ผู้คุมกล่าว "ครึ่งชั่วยามก่อน จู่ ๆ เขาก็อาเจียนเป็นฟองขาวออกมา ชักกระตุกไปทั้งตัว ตอนแรกบ่าวคิดว่าเขาแกล้ง พอผ่านไปหนึ่งก้านธูป เขาก็เริ่มอาเจียนเป็นเลือด" "บ่าวไม่รู้วิชาการแพทย์ จึงรีบไปแจ้งชางอี้ เมื่อบ่าวกลับมา ฮั่วเซิงก็เป็นเช่นนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" กู้จิ่นให้เจียงซุ่ยฮวนยืนอยู่ด้านหลัง แล้วสั่งผู้คุม "เปิดประตูคุก ลากฮั่วเซิงออกมา" ฮั่วเซิงอาจจะแกล้ง กู้จิ่นต้องตรวจสอบก่อน จึงจะให้เจียงซุ่ยฮวนลงมือได้ ผู้คุมลากฮั่วเซิงมาตรงหน้ากู้จิ่น ซึ่งไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ก้มลงจับคอฮั่วเซิงพลิกตัว แล้ววางมือไว้ใต้จมูกเขา ลมหายใจที่เขาหายใจออกมาอ่อนมาก แทบจะหายใจออกแต่หายใจเข้าไม่ได้ ร่างกายก็เย็นเฉียบ "ใกล้ตายจริง ๆ" กู้จิ่นลุกขึ้น พูดกับเจียงซุ่ยฮวน "เจ้าลองดู ช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็แล้วไป" "ได้" เจียงซุ่ยฮวนเดินเข้าไปใกล้ เริ่มตรวจร่างกายฮั่วเซิงอย่างละเอียด เพื่อให้เจียงซุ่ยฮวนเห็นชัดขึ้น กู้จิ่นนำตะเกียงน้ำมันมาวางใกล้เท้านาง ได้ยินนางพึมพำ "ตับถูกทำลาย คล้ายเป็นพิษจากยา"

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 542

    "เข้ามาพูด" ชางอี้ผลักประตูเข้ามา "ฮั่วเซิงที่ถูกขังในคุกใต้ดินเมื่อไม่กี่วันก่อน ดูเหมือนจะไม่ไหวแล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฮั่วเซิง? เจียงซุ่ยฮวนได้ยินชื่อนี้ก็โกรธจนฟันคัน ฮั่วเซิงผู้นี้ไม่เพียงขโมยเสี่ยวถังหยวนที่เพิ่งเกิด ยังจะเอาเสี่ยวถังหยวนไปเป็นเครื่องสังเวย คนเช่นนี้ตายก็ยังไม่พอ! กู้จิ่นกล่าวเสียงเย็น "เกิดอะไรขึ้น?" ชางอี้พูดเสียงเบา "ได้ยินว่าเป็นโรคร้ายกำเริบ บ่าวยังไม่ทันไปตรวจดูพ่ะย่ะค่ะ" กู้จิ่นนวดขมับ พูดกับเจียงซุ่ยฮวน "อาฮวน เรื่องนี้ข้าจะบอกเจ้าทีหลัง ตอนนี้ข้าต้องไปที่คุกใต้ดินก่อน" เจียงซุ่ยฮวนรั้งเขาไว้ "ฮั่วเซิงผู้นั้นยังมีประโยชน์อยู่หรือไม่?" "อืม" กู้จิ่นพยักหน้า "ยังมีความลับที่เขาไม่ได้บอก ยังตายไม่ได้" "เช่นนั้นหม่อมฉันไปกับท่านด้วย" เจียงซุ่ยฮวนสวมรองเท้ายืนขึ้น "ไปกันเถิด" กู้จิ่นกล่าวเสียงทุ้ม "อาฮวน เจ้าควรพักผ่อนให้ดี" "วันนี้หลังจากกลับจากวังแล้ว หม่อมฉันพักผ่อนมานานแล้ว" เจียงซุ่ยฮวนกล่าว นางคลอดบุตรมาหลายวันแล้ว อีกทั้งของบำรุงที่กู้จิ่นส่งมาล้วนเข้าท้องนางไปหมด ร่างกายของนางฟื้นฟูเกือบเป็นปกติแล้ว กู้จิ่นก้าวไปกอดนาง พูดเสียงเบา "อาฮว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 541

    เจ้าถังหยวนกู้จิ่นกล่าวเสียงต่ำ "ข้าก็คิดไม่ออก ดังนั้นช่วงนี้ข้าจึงสืบเรื่อยมา แต่กลับพบความลับเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน" "เปรี๊ยะ" ขณะที่กู้จิ่นกำลังจะพูดต่อ จู่ ๆ นอกหน้าต่างก็มีเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้น คล้ายเสียงกิ่งไม้หัก กู้จิ่นเงยหน้าขึ้นทันที สายตาคมกริบราวกับมีดมองไปที่หน้าต่าง เอ่ยเสียงกร้าว "ใคร?" เจียงซุ่ยฮวนวางมือไว้ข้างหลัง หยิบกริชออกมาจากห้องทดลอง กำไว้แน่น "ฮิ ๆ ข้าเอง" หน้าต่างถูกเปิดออก ฉู่เฉินโผล่หัวเข้ามากล่าว "ข้าเดินผ่านมาทางนี้พอดี ไม่ระวังเหยียบกิ่งไม้เข้า" "ขออภัยจริง ๆ ข้าจะไม่รบกวนพวกเจ้าแล้ว" ฉู่เฉินพูดพลางจะปิดหน้าต่าง "อาจารย์รอก่อน" เจียงซุ่ยฮวนเรียกเขาไว้ ถามว่า "กลางวันท่านไปไหนมา?" ฉู่เฉินหยุดการเคลื่อนไหว กล่าวว่า "ข้าแค่ไปเดินเล่นแถวนี้ นอกจากนั้นก็ไม่ได้ไปไหนเลย" "เช่นนั้นหรือ?" กู้จิ่นเอ่ยเสียงเย็น "ท่านไม่ได้ไปบ่อนพนันหรือ?" เจียงซุ่ยฮวนได้ยินคำว่าบ่อนพนัน ก็ขมวดคิ้วทันที "เอ๋? บ่อนพนันอะไร?" ฉู่เฉินดูกระวนกระวายใจ สายตาไม่อยู่นิ่ง "ข้าจะไปสถานที่เช่นนั้นได้อย่างไร?" กู้จิ่นกล่าว "ที่ข้อมือของท่านผูกเชือกแดงสามเส้น หากข้าจำไม่ผิด เ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 540

    กู้จิ่นนั่งข้างเจียงซุ่ยฮวน ถามว่า "อาฮวน เจ้าจะบอกอะไรข้า?" เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องที่นางเห็นที่หน้าประตูวังในตอนกลางวัน รวมทั้งเรื่องที่จีกุ้ยเฟยปลอมตัวเป็นเมิ่งเซียวเขียนจดหมายถึงเมิ่งชิงให้กู้จิ่นฟังด้วย หลังจากเล่าทั้งหมดแล้ว เจียงซุ่ยฮวนกล่าวด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย "จีกุ้ยเฟยช่างมีเล่ห์เหลี่ยมลึกล้ำ หากท่านไม่เปิดโปงนาง สุดท้ายคนที่จะสืบราชบัลลังก์อาจเป็นฉู่อี้" ตอนแรกที่กู้จิ่นรู้ว่าจีกุ้ยเฟยนอกใจฮ่องเต้ เขาโกรธมาก แต่บัดนี้กลับดูสงบมาก เขาถามเสียงเรียบ ๆ "อาฮวน เจ้ายังต้องการใช้มือของจีกุ้ยเฟยจัดการเจียงเม่ยเอ๋อร์ไม่ใช่หรือ?" "อีกอย่าง จีกุ้ยเฟยยังติดค้างเจ้าสองบุญคุณ หากเปิดโปงนางตอนนี้ เจ้าก็จะเสียเปรียบไม่ใช่หรือ?" เจียงซุ่ยฮวนลูบคาง กล่าวว่า "ท่านพูดมีเหตุผล" "แต่เมื่อเทียบกับเรื่องของหม่อมฉัน เรื่องราชบัลลังก์สำคัญกว่า" นางจ้องกู้จิ่นอย่างจริงจัง พูดอย่างมีนัยสำคัญ "ท่านสนิทกับฮ่องเต้มาก คงไม่อยากเห็นพระองค์ถูกหลอกอยู่ตลอดไป" กู้จิ่นมองเข้าไปในดวงตานาง จู่ ๆ ก็หัวเราะขื่น ๆ "อาฮวน เจ้าทายใจข้าได้แล้วใช่หรือไม่?" "ท่านบอกมาได้ หม่อมฉันจะได้รู้ว่าตนเองทายถูกหร

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 539

    แม่ทัพเจิ้นหยวนคุกเข่าอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับสงบยิ่ง ราวกับผิดหวังในตัวฮ่องเต้อย่างถึงที่สุด "ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา กระหม่อมขอมอบป้ายอาญาสิทธิ์ในวันนี้ นับจากนี้ไปไม่มีความเกี่ยวข้องกับราชสำนักอีก" เขาค่อย ๆ ล้วงป้ายอาญาสิทธิ์ออกจากอกเสื้อ ประคองด้วยสองมือส่งไปยังพระพักตร์ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ทรงรับอาญาสิทธิ์โดยไม่ลังเล "สมกับเป็นแม่ทัพเจิ้นหยวน เด็ดขาดทีเดียว" แม่ทัพเจิ้นหยวนโขกศีรษะแรงลงกับพื้น "กระหม่อมขอทูลลา!" พูดจบ เขาลุกขึ้นเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง งานมงคลกลายเป็นเช่นนี้ คนรับใช้ที่หามเกี้ยวและสินสอดข้าง ๆ มองหน้ากันไปมา ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป ฉู่เลี่ยนเดิมก็ไม่อยากแต่งงานกับเมิ่งชิง เห็นเหตุการณ์พัฒนามาถึงขั้นนี้ เขาซ่อนรอยยิ้มที่มุมปากไม่อยู่ ดึงดอกไม้สีแดงใหญ่ที่หน้าอกออก กล่าวว่า "เสด็จพ่อ วันนี้งานแต่งนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ลูกขอทูลลา" "เจ้าจะลาอะไร ใครบอกว่างานแต่งนี้เป็นไปไม่ได้?" ฮ่องเต้ขมวดพระขนง"เอ๋?" ฉู่เลี่ยนตกตะลึง "เสด็จพ่อ จวนแม่ทัพเจิ้นหยวนก็ไม่มีแล้ว จะแต่งงานกันได้อย่างไร? ไม่ทราบว่าพระองค์จะให้ลูกแต่งกับสามัญชนหรือ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 538

    ความหมายของจีกุ้ยเฟยชัดเจน แม้เมิ่งชิงจะทำผิด แต่หากสั่งประหารนางตอนนี้ ฉู่เลี่ยนก็จะไม่มีโอกาสได้เป็นพ่อคนอีกตลอดชีวิต ฮ่องเต้ทรงครุ่นคิด ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แม้ฉู่เลี่ยนจะไม่มีความสามารถอะไร ปกติชอบใช้เล่ห์กลเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ยังดีที่เขาเชื่อฟัง หากเขาไม่มีทายาท ก็จะน่าเสียดายเกินไป "พระสนม ท่านคิดว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร?" ฮ่องเต้ทรงโยนปัญหาให้จีกุ้ยเฟย จีกุ้ยเฟยทูลตอบ "หม่อมฉันเห็นว่า เมิ่งชิงก่อเรื่องอุกอาจเช่นนี้ แม่ทัพเจิ้นหยวนย่อมหนีความผิดไม่พ้น ไม่สู้ลงโทษแม่ทัพเจิ้นหยวนก่อน ส่วนเมิ่งชิงนั้น รอให้นางคลอดบุตรแล้วค่อยจัดการก็ไม่สายเพคะ" "วิธีนี้ดี" ฮ่องเต้ทรงพยักหน้า สั่งหลิวกงกงที่อยู่ข้างกาย "ไปเรียกแม่ทัพเจิ้นหยวนมา เราต้องถามเขาดูว่า เขาเลี้ยงดูหลานสาวเช่นนี้มาได้อย่างไร!" แม่ทัพเจิ้นหยวนนั่งอยู่ในรถม้าหน้าประตูวัง หลิวกงกงนำตัวเขามาอย่างรวดเร็ว เขาเดินอย่างรวดเร็ว ใบหน้ามีแววโกรธ เมื่อเดินมาถึงข้างกายเมิ่งชิง เขาตบหน้านางเต็มแรงหนึ่งที "นางชั่ว!" "ข้าใช้ชีวิตในสนามรบมาทั้งชีวิต กลับเลี้ยงหลานสาวเช่นเจ้าที่ไม่รู้จักกาลเทศะ ช่างเป็นความอัปยศของข้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status