แชร์

สงครามแห่งใจ

ผู้เขียน: อิ่น เยว่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-25 16:18:23

จางชิงหยวนขี่ม้าฝ่าทุ่งหญ้าที่ยาวเหยียด เสียงกีบเท้าของม้ากระทบพื้นดินอย่างสม่ำเสมอ แต่ในใจของเขากลับสั่นไหวรุนแรง ความเงียบสงบของธรรมชาติถูกทำลายด้วยความวุ่นวายที่ก่อตัวในจิตใจของแม่ทัพใหญ่

เขานำทัพใหญ่มุ่งหน้าสู่ชายแดนเป่ย ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างแคว้นต้าหยางและเสียนหู่ พร้อมทหารหลายหมื่นนายที่ตามอยู่เบื้องหลัง

สาส์นท้ารบจากหวงหมิงเจ๋อที่เขาได้รับเมื่อสองสัปดาห์ก่อนยังคงติดอยู่ในใจ มันเต็มไปด้วยคำเยาะเย้ยและการท้าทาย หวงหมิงเจ๋อประกาศถึงความพ่ายแพ้ของแคว้นต้าหยางในอดีต พร้อมกับเผยความจริงที่ทำให้หัวใจของจางชิงหยวนต้องร้าวราน

“ถึงแม่ทัพจางชิงหยวนแห่งแคว้นต้าหยาง

ข้ายังจดจำวันแห่งความพ่ายแพ้ของแคว้นเจ้าที่ด่านต้าเจียงได้เป็นอย่างดี เสียงคร่ำครวญของทหารที่ล้มตาย และเลือดที่ชโลมแผ่นดิน ความพินาศนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เจ้าอาจจะไม่รู้ แต่คนที่เจ้าไว้ใจกลับเป็นผู้ทำลายเจ้าเอง...ลู่หยาง ผู้ซึ่งเคยเป็นคนสนิทของเจ้า ข้าเป็นผู้ใช้มนต์ดำครอบงำเขา และเจ้าไม่อาจทำอะไรได้แม้แต่ปลายนิ้ว

แต่สิ่งที่ทำให้ข้าหรรษาที่สุดคือการที่เจ้าปล่อยให้คนรักของเจ้าถูกสังหาร เป็นข้าเองที่บงการทุกอย่าง

ข้าจะ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วสันต์ในห้วงฝัน   เงามืดแห่งการล่า

    ในกระท่อมเก่าๆ ที่ตั้งอยู่กลางป่าทึบ ณ ชายแดนเป่ย บรรยากาศเย็นยะเยือกถูกทำลายด้วยแสงอันอ่อนแรงจากกองไฟที่กำลังลุกไหม้ ลู่หยวนฮวานั่งเงียบๆ อยู่ข้างกองไฟ สายตาของนางจับจ้องออกไปนอกหน้าต่าง ราวกับมองหาทางออกจากความสับสนและความเจ็บปวดในใจนางยังคงคิดวนเวียนถึงคำพูดของพี่ชาย คำสารภาพเกี่ยวกับการทรยศของลู่หยางและเรื่องราวอันน่ากลัวของค่ายกลเจ็ดทิวาลู่หยางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก้มหน้าลงมองพื้นดิน ความรู้สึกผิดท่วมท้นในดวงตาของเขา“ฮวาเอ๋อร์ ข้าเสียใจจริงๆ ที่ทำให้เจ้าต้องมาเจอกับเรื่องนี้ ข้าไม่เคยอยากให้มันเป็นแบบนี้เลย” เสียงของเขาแน่นไปด้วยความสำนึกผิดที่กัดกร่อนหัวใจลู่หยวนฮวาเงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย “พี่ใหญ่... ข้ารู้ว่าท่านถูกแม่ทัพหวงหมิงเจ๋อใช้มนต์ดำควบคุม ข้าเข้าใจ... แต่ตอนนี้ท่านกลับมาเป็นตัวของท่านเองแล้ว ข้าอยากให้ท่านทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่ามัวแต่หลบหนีความจริงอยู่แบบนี้” นางหวังว่าพี่ชายจะกลับมาเป็นคนที่นางเคยรู้จักอีกครั้งลู่หยางส่ายหัวอย่างช้าๆ “ข้ากลับไปไม่ได้แล้วฮวาเอ๋อร์ ข้าทำลายทุกอย่างไปแล้ว ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถลบล้างสิ่งที่ข้าก่อขึ้นมาได้ ข้าเป็นคนทรยศ ข้าไม่สมคว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • วสันต์ในห้วงฝัน   ต่อสู้แย่งชิง

    บทที่ 23 ต่อสู้แย่งชิงในคืนที่ความมืดมิดปกคลุมป่าอย่างหนาทึบ ลู่หยางและลู่หยวนฮวาต้องซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมเก่าๆ ที่ซ่อนอยู่ในป่าลึก บริเวณชายแดนเป่ย ความเงียบของป่าทำให้บรรยากาศรอบตัวน่าหวาดหวั่นลู่หยางนั่งอยู่ข้างกองไฟที่ใกล้จะมอดดับ แต่แสงสว่างเพียงน้อยนิดนั้นไม่อาจลบความมืดที่ครอบงำอยู่ในจิตใจของเขาชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากการมองกองไฟ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยกังวล หัวใจที่บีบแน่นไปด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่อาจหลีกหนีได้ ถ้าหวงหมิงเจ๋อมาเจอพวกเขาเข้าจะทำอย่างไร เรื่องสถานที่ที่สะสมพลังงานหยินเขารู้แล้วว่ามันคือที่ไหน แต่เรื่องของสตรีที่เกิดคืนเดือนมืดนั้นสิ ที่เขาหนักใจในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่ค่อยๆ ดังขึ้นจากอีกทิศทางของป่า ลู่หยางสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังใกล้เข้ามา มือของเขากำด้ามดาบแน่นเงาดำเคลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ลู่หยางรู้ดีว่าเวลาแห่งการหลบหนีกำลังจะเริ่มขึ้น หวงหมิงเจ๋อรู้แล้วว่าพวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่!"พี่ใหญ่!" ลู่หยวนฮวามองไปที่พี่ชายที่ยืนนิ่ง นางเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามาเช่นกันหวงหมิงเจ๋อปรากฏตัวออกมาจากเงามืดอย่างเงียบงัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • วสันต์ในห้วงฝัน   สายสัมพันธ์ที่ล่อแหลม

    จางชิงหยวนมองลู่หยางที่นอนจมกองเลือด ร่างกายของลู่หยางสั่นสะท้านอย่างหนัก เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลทำให้พื้นดินรอบตัวเขาเปียกชุ่มสายตาของแม่ทัพหนุ่มเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ถูกสะสมมาเนิ่นนาน เขาพุ่งตัวไปหาและคว้าคอเสื้อของลู่หยางอย่างแรง ดึงตัวเขาให้ขึ้นมาเผชิญหน้า ดวงตาของจางชิงหยวนวาววับราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง“เจ้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไป่ซูเหม่ยต้องตาย!” เสียงของจางชิงหยวนสั่นด้วยความโกรธ “ทหารของข้าต้องตายมากมายก็เพราะเจ้า!”ลู่หยางที่บาดเจ็บสาหัสไม่ได้โต้ตอบ ใบหน้าของเขาซีดเซียว ความสำนึกผิดอัดแน่นอยู่ในแววตา แต่เขาไม่มีคำแก้ตัว ร่างกายของเขาหมดเรี่ยวแรงจะสู้ นอกจากยอมรับความจริงที่โหดร้าย เขาเคยเป็นคนของศัตรู คนที่ทำลายแคว้นของจางชิงหยวนและคนที่เขารักลู่หยวนฮวาเห็นพี่ชายถูกกระชากด้วยความรุนแรง นางไม่อาจทนเห็นเขาต้องถูกทำร้ายไปมากกว่านี้อีก นางรีบวิ่งเข้ามายืนขวางระหว่างพี่ชายและจางชิงหยวน น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกขัดแย้งในใจทับถมกันอย่างหนัก“ไม่!” นางตะโกนด้วยเสียงที่สั่นสะเทือน“หากท่านต้องการล้างแค้นเพื่ออดีตคนรักของท่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • วสันต์ในห้วงฝัน   ชาติกำเนิดของลู่หยวนฮวา

    ลู่หยวนฮวาลืมตาตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าด้านนอกยังคงมืดครึ้มเล็กน้อย แสงสลัวจากกองไฟที่เหลือเพียงเถ้าถ่านทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบงันและเยือกเย็นนางสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าข้างกาย เมื่อมือของนางกวาดผ่านพื้นที่รอบๆ ก็พบว่าใครบางคนที่อยู่เคียงข้างนางเมื่อคืนนี้ได้จากไปแล้วหัวใจของลู่หยวนฮวาเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ หน้าของนางพลันแดงเห่อ ความทรงจำของเหตุการณ์เมื่อคืนค่อยๆ กลับมาในหัว ภาพของจางชิงหยวนที่อยู่ทาบทับร่างของนาง มือหนาของเขาที่ลูบไล้ นางพยายามจะปัดความคิดเหล่านั้นออกไป แต่มันกลับชัดเจนและติดอยู่ในใจของนางเสมอ“เขาไปไหนกัน...” นางพึมพำเสียงเบา ขณะที่ลมหายใจของนางเริ่มสั่น นางไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกเช่นไร ความอบอุ่นและความใกล้ชิดที่นางได้รับเมื่อคืนนี้ทำให้หัวใจของนางเต้นรัว ไม่ใช่แค่ความรู้สึกที่ก่อเกิดจากการอยู่ใกล้จางชิงหยวน แต่มันคือความรู้สึกที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาที่เริ่มต้นจากความไม่แน่ชัด แต่เมื่อคืนนี้ทำให้นางตระหนักได้ว่านางมีความรู้สึกบางอย่างที่นางไม่เคยรู้มาก่อน และไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไปลู่หยวนฮวาพยายามจะรวบรวมสติ ตั้งใจจะลุกขึ้นและออกไปดูสถานการณ์ด้าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • วสันต์ในห้วงฝัน   สงบศึกชั่วคราว

    จางชิงหยวนยืนอยู่กลางลานหิน ลมเย็นที่พัดผ่านทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายหลังจากการลาดตระเวนที่ยาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นยิ่งกว่าสายลม คือความทรงจำที่เกิดขึ้นเมื่อคืนความสัมพันธ์ที่เขาและลู่หยวนฮวาได้ก่อร่างขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องของร่างกาย แต่มันเป็นการผูกพันทางจิตใจ ความรักและความเชื่อมโยงที่เขารู้สึกว่าก่อเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทำให้จางชิงหยวนยิ้มออกมาอย่างสุขใจในดวงตาของเขา ลู่หยวนฮวาไม่ใช่แค่สตรีผู้หนึ่ง แต่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาใฝ่ฝันถึง ทั้งความรักและการยอมรับเขารู้สึกว่าตอนนี้เขาพร้อมที่จะให้นางทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความรักที่ลึกซึ้ง อำนาจที่ยิ่งใหญ่ หรืออนาคตที่นางปรารถนา เขาพร้อมจะปกป้องนางจากทุกอันตราย แม้ต้องเผชิญกับศัตรูหรือปัญหาใดๆ ก็ตามแต่เมื่อเขาก้าวเข้าไปในกระโจมที่นางพักอาศัย ความเงียบงันที่ปกคลุมอยู่ทำให้จางชิงหยวนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ บรรยากาศรอบตัวเงียบเหงาเกินกว่าที่ควรจะเป็น ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหว หรือเสียงฝีเท้าอันคุ้นเคยของลู่หยวนฮวาแม่ทัพหนุ่มนั่งลงที่เก้าอี้ หวังว่าจะเห็นหญิงสาวที่ตนรักปรากฏตัวในไม่ช้า แต่เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า การรอคอยนั้นกลับทำให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • วสันต์ในห้วงฝัน   เงื่อนไขของค่ายกล

    ลู่หยวนฮวาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของแนวป่าที่ปกคลุมไปด้วยความเงียบงันของยามค่ำคืน สถานที่แห่งนี้แฝงไปด้วยพลังหยินที่เข้มข้น มีเสียงคร่ำครวญของผู้ที่ล่วงลับไปมากมาย กลิ่นอายของความตายยังคงคละคลุ้งในอากาศ นางรู้ดีว่าที่นี่คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังที่หวงหมิงเจ๋อกำลังตามหา และเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างค่ายกลเจ็ดทิวาในตำราลับที่มารดาบังเกิดเกล้าของนางทิ้งไว้ นางได้อ่านถึงเงื่อนไขในการเปิดค่ายกลเจ็ดทิวาอย่างละเอียดเงื่อนไขแรกคือสถานที่ต้องเต็มไปด้วยพลังหยินที่บริสุทธิ์ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่เกิดสงครามและการนองเลือดครั้งใหญ่ การสังเวยชีวิตที่มากมายนั้นทำให้พลังหยินในบริเวณนี้หนาแน่นมาก จึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเปิดค่ายกลเงื่อนไขที่สองก็คือ ต้องใช้เลือดจากคนที่เกิดในคืนเดือนดับ ซึ่งในตำรากล่าวไว้ว่าพลังหยินในตัวของบุคคลเหล่านั้นจะเป็นเสมือน "สื่อ" ที่ช่วยเปิดค่ายกล นางรู้ดีว่าเลือดของนางแม้เพียงหยดเดียวก็เป็นสิ่งที่หวงหมิงเจ๋อต้องการเพื่อสังเวยและใช้เปิดปิดค่ายกลนี้เมื่อเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ นางก็พบกับภาพที่ทำให้นางต้องตกตะลึง กองทัพนับแสนของหวงหมิงเจ๋อยืนล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • วสันต์ในห้วงฝัน   แผนลับบนแนวเขา

    ลู่หยางและจางชิงหยวนนั่งอยู่ภายใต้เงามืดของต้นไม้ใหญ่ แนวป่าทึบที่ทอดยาวเบื้องหน้าพวกเขาคือจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่พวกเขาจะต้องพิชิต มันไม่ใช่แค่ป่าธรรมดา แต่เป็นสนามรบเก่าที่เคยเกิดการสังหารหมู่และเต็มไปด้วยพลังหยินทั้งสองคนมองเห็นได้ชัดเจนว่า กองทัพของหวงหมิงเจ๋อประจำการอยู่ตามพื้นราบ โดยพึ่งพาค่ายกลเจ็ดทิวาที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีใดๆ ที่เข้ามาลู่หยางหันไปมองจางชิงหยวน ใบหน้าของเขามุ่งมั่นแต่แฝงด้วยความระแวดระวัง"ท่านแม่ทัพ ข้าใช้เวลาหลายเดือนสำรวจพื้นที่นี้ ข้าพบว่าพวกมันพึ่งพาค่ายกลมากเกินไป จนลืมเฝ้าระวังแนวเขาที่อยู่ด้านบน"เขาชี้ไปยังภูเขาที่ล้อมรอบบริเวณนั้น "หากเราสามารถใช้เส้นทางนี้เพื่อลงมาจากเขาได้ พวกเราจะสามารถบุกโจมตีจากด้านบน ทำให้พวกมันไม่ทันตั้งตัว"จางชิงหยวนพยักหน้า "ข้าคิดว่าเจ้าพูดถูก พวกมันมั่นใจในค่ายกลมากเกินไป และข้าสังเกตเห็นว่าทหารของพวกมันไม่มีใครมองขึ้นไปยังแนวเขาเลย"ลู่หยางยิ้มเล็กน้อย "ท่านก็เห็นด้วยเช่นกันใช่ไหม? ข้ามั่นใจว่าหากเราแบ่งกองกำลังออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งบุกด้านหน้าส่วนอีกฝั่งหนึ่งเลาะแนวเขาลงมา เราจะสามารถทำให้พวกมันสับสนและบุก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • วสันต์ในห้วงฝัน   เผชิญหน้ากับอดีต

    จางชิงหยวนบุกเข้ามาถึงใจกลางของค่ายกลเจ็ดทิวาได้สำเร็จ ความหนาวเย็นและพลังหยินที่ปกคลุมอยู่ในอากาศทำให้เขารู้สึกหนักหน่วง แต่สิ่งที่หนักหนายิ่งกว่าคือภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นเขาเห้นลู่หยวนฮวานั่งกองกับพื้น ร่างกายของนางถูกพันธนาการไว้ในอ้อมแขนของหวงหมิงเจ๋อ หวงหมิงเจ๋อกำลังจะใช้กำลังบังคับข่มเหงนางจางชิงหยวนที่เห็นภาพนี้ รู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เขายิงธนูปักไปที่แขนของหมงหิงเจ๋อและรีบพุ่งเข้ามาขวางกลางทันที ดาบในมือของเขาสั่นไหวไปด้วยความโกรธหวงหมิงเจ๋อยืนขึ้นและหันมาประจันหน้ากับจางชิงหยวน“เจ้าคิดว่าจะขวางข้าได้หรือ จางชิงหยวน?” หวงหมิงเจ๋อเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าได้ตัวนางไป นางต้องเป็นของข้า"จางชิงหยวนไม่ตอบกลับ เขาฟาดดาบเข้าใส่หวงหมิงเจ๋ออย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างดุเดือด หวงหมิงเจ๋อใช้พลังมนต์ดำเข้าต่อสู้ เขาร่ายเวทมนต์เพื่อกดดันจางชิงหยวน พลังมนต์ดำทำให้บรรยากาศรอบตัวจางชิงหยวนมืดมนและหนักอึ้งขึ้นทุกขณะจางชิงหยวนที่พยายามฝ่าทางเข้ามาช่วยลู่หยวนฮวา สัมผัสได้ถึงมนต์ดำที่ก่อตัวขึ้นรอบตัวเขาภาพรอบข้างเริ่มบิดเบี้ยว ผืนดินที่เต็มไปด้วยความโกลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25

บทล่าสุด

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ตอนพิเศษ 2/2

    วันรุ่งขึ้นขณะที่พวกเขาเดินชมรอบเมือง ทิวทัศน์และบรรยากาศยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม ทว่าในมุมหนึ่งของหมู่บ้านนั้นมีเสียงกระซิบกระซาบขึ้นมา ชาวบ้านบางคนที่ยังคงระแวงกับคำสาปเก่าแก่ได้เริ่มพูดถึงคำสาปที่อาจจะกลับมา นัยน์ตาหวาดระแวงของบางคนจ้องมองลู่หยวนฮวาอย่างระมัดระวัง พวกเขาเริ่มถอยหนีเมื่อเห็นนางเดินเข้าใกล้ลู่หยวนฮวารู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความไม่สบายใจเริ่มทับถมอยู่ในใจของนาง นางหันไปพูดกับชาวบ้านเสียงนุ่ม“พวกท่าน…ไม่ต้องหวาดกลัวอีกแล้วนะเจ้าคะ คำสาปนั้นถูกล้างไปแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีตระกูลต้องสาปอีกต่อไปแล้ว”แต่ชาวบ้านบางคนยังคงไม่คลายความระแวง“แล้วทำไมเด็กๆ ถึงป่วยไม่มีสาเหตุในวันเดียวกับที่ท่านกลับมาเล่า?”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มชาวบ้าน และคนอื่นๆ เริ่มหันไปกระซิบกระซาบ พวกเขาดูคล้ายจะเชื่อคำกล่าวนั้นจางชิงหยวนเห็นภรรยารักถูกแคลนแล้วไม่สบอารมณ์นัก ก้าวเข้ามาข้างหน้า มองไปยังชาวบ้านที่ยังคงแสดงท่าทีหวาดระแวง“ข้าขอเตือนพวกท่านทั้งหลาย อย่าปล่อยให้ความกลัวและความเชื่อที่งมงายมาครอบงำความคิดของพวกท่านอีกต่อไป คำสาปนั้นได้ถูกล้างไปแล้ว และสิ่งที่เกิ

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ตอนพิเศษ 1/2

    สามปีผ่านไป ชีวิตของลู่หยวนฮวาและจางชิงหยวนเปลี่ยนแปลงไปมาก พวกเขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในเมืองหลวง หลังจากการแต่งงานและการล้างคำสาปสำเร็จ ทุกอย่างดูจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นพวกเขามีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อ "จางหรง" เด็กน้อยวัยสองหนาวที่เต็มไปด้วยความสดใสและความซุกซนใบหน้าของจางหรงมีความละม้ายคล้ายคลึงกับมารดาอย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่าดวงตาสีน้ำตาลสวยของเขานั้นสืบทอดมาจากบิดา รอยยิ้มไร้เดียงสาของเด็กน้อยเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนรอบข้างรู้สึกอบอุ่นใจในขณะที่รถม้าค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามเส้นทางที่ลัดเลาะสู่เมืองหมิงอี้ ลู่หยวนฮวาและจางชิงหยวนต่างนั่งอยู่ในความเงียบสงบที่อบอุ่น จางหรง เด็กน้อยวัยสองหนาวที่นั่งอยู่ระหว่างพ่อแม่ แต่ดวงตาใสแจ๋วกลับจ้องมองไปที่ทิวทัศน์ภายนอกอย่างตื่นตาตื่นใจ"หม่าม๊า ดู! ดู!" จางหรงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ขณะที่นิ้วมือเล็กของเขาชี้ไปทางหน้าต่างรถม้า "ม้า... ม้าล้ายย... ม้าใหญ่!"ลู่หยวนฮวายิ้มพร้อมกับยื่นมือไปลูบหัวลูกน้อยอย่างอ่อนโยน "ใช่แล้ว หรงเอ๋อร์ นั่นคือลูกม้า มันวิ่งเร็วมากเลยนะ""หรงเอ๋อร์ เจ้าชอบม้าไหม?" จางชิงหยวนถามลูกชายด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ขณะยิ้มให้กั

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ย้ายจวน

    แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านม่านหมอกบางๆ ที่ปกคลุมจวนตระกูลลู่ ท่ามกลางความเงียบสงบของสถานที่แห่งนี้ ลู่หยวนฮวายืนอยู่เบื้องหน้าจวนที่เคยเป็นทั้งบ้านและที่หลบภัยของนางมาตั้งแต่วัยเยาว์ รอบตัวมีเพียงเสียงลมเบาๆ พัดผ่านต้นไม้และดอกไม้ที่เคยเป็นความสุขของนางในอดีตวันนี้จวนตระกูลลู่ดูเหมือนจะเงียบงันกว่าทุกครั้ง นางยืนอยู่ตรงลานกว้าง มองไปยังประตูที่นางเคยเดินผ่านครั้งแล้วครั้งเล่า นางจำได้ดีถึงความรู้สึกในทุกครั้งที่นางกลับมาจากการเดินทางจวนแห่งนี้เคยเป็นที่พักใจของนาง แต่บัดนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว จวนนี้ไม่ใช่ที่หลบภัยของนางอีกต่อไป มันกลับกลายเป็นเพียงเงาของความทรงจำที่นางต้องละทิ้งลู่หยวนฮวาหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าที่จะก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แม้จะมีความเศร้าและความเจ็บปวดที่ยังคงซ่อนอยู่ในใจ นางรู้ดีว่าการปิดจวนตระกูลลู่เป็นการตัดสินใจที่จำเป็น นางต้องเริ่มต้นใหม่ ชีวิตของนางไม่สามารถถูกผูกมัดไว้กับอดีตอีกต่อไปจางชิงหยวนยืนอยู่ไม่ไกลจากนาง เขามองนางด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเข้าใจและห่วงใย เขารู้ดีว่าการละทิ้งจวนแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับลู่หยวนฮวา แต่เขาเชื่อ

  • วสันต์ในห้วงฝัน   การกลับบ้านที่ไม่สมบูรณ์

    ลู่หยวนฮวายืนอยู่ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของทหารต้าหยางที่กำลังเคลื่อนทัพกลับ เงาของดวงอาทิตย์ที่ตกดินทอดยาวไปไกล บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบงันของชัยชนะ แต่ในหัวใจของนางกลับรู้สึกถึงความสูญเสียที่ยากจะลบเลือนนางก้มลงมองห่อผ้าที่อยู่ในมือ ข้างในนั้นคืออัฐิของลู่หยาง พี่ชายที่เคยยืนหยัดเพื่อปกป้องนางมาตลอดชีวิต บัดนี้กลับเหลือเพียงเถ้าถ่านที่ไร้ลมหายใจน้ำตาของนางไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่นางเดินตามหลังทัพต้าหยาง มือของนางกำห่อผ้านั้นไว้แน่น นางรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของความสูญเสียที่ถ่วงหัวใจของนางจนแทบยืนไม่อยู่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับป้าหลี่ได้"ข้าพูดไว้...ว่าข้าจะจูงมือพี่ใหญ่กลับบ้านพร้อมกัน แต่ตอนนี้ ข้ากลับนำเพียงเถ้ากระดูกของเขากลับไป..."ลู่หยวนฮวาพึมพำเบาๆ ขณะที่มองเถ้ากระดูกในมือของตน นางรู้สึกถึงความหนักหน่วงของความรับผิดชอบที่นางไม่อาจทำได้ตามที่หวัง ความเจ็บปวดจากความสูญเสียที่ท่วมท้นไม่อาจหยุดยั้งน้ำตาที่ไหลออกมาได้จางชิงหยวนที่เดินตามอยู่ไม่ห่าง สังเกตเห็นท่าทีเศร้าสร้อยของนาง เขาเดินเข้ามาใกล้ วางมือเบาๆ ลงบนไหล

  • วสันต์ในห้วงฝัน   การต่อสู้ครั้งสุดท้าย

    ลู่หยางปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางสนามรบที่แสงจันทร์ลอยเลือนราง ใบหน้าของเขาฉายแววเคร่งขรึม สายตาจ้องมองหวงหมิงเจ๋อ ดาบในมือของเขาสะท้อนแสงอ่อนๆ จากดวงจันทร์ความคิดในหัวของเขาไม่ได้มีเพียงการต่อสู้กับหวงหมิงเจ๋อเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความรู้สึกสับสนที่คอยตามหลอกหลอนในใจการตัดสินใจที่จะเสียสละเพื่อแก้ไขความผิดในอดีตและปกป้องคนที่เขารักในปัจจุบันทุกสายตาจับจ้องไปที่ลู่หยาง เมื่อหวงหมิงเจ๋อหันมามอง ความดุร้ายในแววตาของหวงหมิงเจ๋อส่งผลให้ความตึงเครียดเพิ่มพูนขึ้น ขณะที่ลู่หยางยังคงเดินมาด้วยความมั่นใจในตัวเอง ใบหน้าไร้ความหวาดหวั่น ทว่าในใจเขายังคงกังวลถึงน้องสาวที่อยู่ท่ามกลางความอันตรายของค่ายกล ความรู้สึกปกป้องที่มีต่อลู่หยวนฮวาทำให้เขารู้ว่าการเสียสละครั้งนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยของนางความเงียบระหว่างลู่หยางและหวงหมิงเจ๋อนั้นกลับสร้างความตึงเครียดจนทนไม่ไหว ทุกคนในสนามรบรู้ดีว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้จะเป็นจุดสำคัญที่อาจกำหนดชะตากรรมของสงคราม แต่ก่อนที่หวงหมิงเจ๋อจะทันได้ก้าวไปข้างหน้า จางชิงหยวนที่ยืนไม่ห่างออกไปสังเกตเห็นเจตนาของหวงหมิงเจ๋อทันทีความโกรธและความแค้นที่สั่

  • วสันต์ในห้วงฝัน   ความในใจของลู่หยาง

    ลู่หยางปรากฏตัวขึ้น ท่ามกลางสนามรบที่แสงจันทร์ลอยเลือนราง ใบหน้าของเขาฉายแววเคร่งขรึม สายตาจ้องมองหวงหมิงเจ๋อ ดาบในมือของเขาสะท้อนแสงอ่อนๆ จากดวงจันทร์ทุกสายตาจับจ้องไปที่ลู่หยาง เมื่อหวงหมิงเจ๋อหันมามอง แต่ยังไม่ทันที่หวงหมิงเจ๋อจะได้พูดอะไร สายตาของทั้งสองประสานกัน ความเงียบชั่วขณะนั้นกลับสร้างความตึงเครียดครึ่งชั่วยามที่แล้ว...ลู่หยางยืนอยู่ลำพังท่ามกลางเงามืดของป่า รอบตัวเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมเบาๆ ที่พัดผ่านกิ่งไม้และเสียงใบไม้ที่ปลิวตามลม ความเงียบในยามนี้กลับยิ่งทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้ง ความคิดในหัวของเขาวนเวียนไปกับภาพความหลังที่ไม่อาจลบเลือน ทั้งพ่อแม่ที่จากไป และซูเหม่ย คนรักที่เขาไม่เคยลืมเลือนเขายืนก้มมองม้วนกระดาษโบราณที่เขาถืออยู่ในมือ ตำราลับของตระกูลที่บอกวิธีล้างคำสาปได้อย่างละเอียด บางทีนี่ควรจะเป็นความหวังของตระกูล ความหวังที่จะยุติคำสาปที่คอยตามหลอกหลอนสายเลือดของเขามานาน แต่สำหรับลู่หยางแล้ว มันกลับไม่ใช่เช่นนั้นอีกต่อไปคำสาปที่ผูกพันสายเลือดแห่งตระกูลลู่เกิดจากความโลภและความเห็นแก่ตัวของบรรพบุรุษผู้กระทำผิดต่อแผ่นดิน การล้างคำสาปนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้ส

  • วสันต์ในห้วงฝัน   เจ็ดทิวา

    ทหารของต้าหยางที่กล้าหาญกลับทยอยล้มลงทีละคน พวกเขาต่างถูกค่ายกลเจ็ดทิวาครอบงำ ร่างกายที่เคยแข็งแกร่งบัดนี้ทรุดโทรมลงด้วยความอ่อนล้าสายตาของลู่หยวนฮวาจับจ้องไปยังทหารที่พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น แต่กลับทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง ราวกับทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ไร้เมตตาใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดอย่างน่าสยดสยอง ดวงตาเคยเปล่งประกายความมุ่งมั่น บัดนี้กลับไร้ชีวิตชีวา สะท้อนถึงการสูญสิ้นซึ่งความหวัง เสียงลมหายใจแผ่วเบาแต่หนักอึ้งดังก้องในอากาศ ราวกับว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ในความเป็นจริงนั้น ความสิ้นหวังที่ค่ายกลสร้างขึ้นได้กักขังจิตวิญญาณของพวกเขาไว้อย่างสมบูรณ์ลู่หยวนฮวายืนมองภาพเบื้องหน้า ความทุกข์ใจที่ท่วมท้นทำให้นางรู้สึกถึงภาระหนักหนาที่นางไม่อาจทนดูต่อไปได้ นางรู้ดีว่า หากไม่มีใครทำลายค่ายกลนี้ลง ทหารทุกคนคงจบสิ้นชีวิตที่นี่ในไม่ช้าหญิงสาวเดินตรงไปที่ใจกลางค่ายกล ปลายเท้ากระทบกับพื้นเสียงเบา กายบางเริ่มสั่นสะท้านจากแรงกดดันที่ค่ายกลปล่อยออกมาเมื่อมาถึงจุดศูนย์กลาง พื้นดินเบื้องหน้านางราวกับเคลื่อนไหวเองได้ แสงสว่างแปลกประหลาดพุ่งขึ้นจากพื้นดิน กระจายไปทั่วบริเ

  • วสันต์ในห้วงฝัน   เผชิญหน้ากับอดีต

    จางชิงหยวนบุกเข้ามาถึงใจกลางของค่ายกลเจ็ดทิวาได้สำเร็จ ความหนาวเย็นและพลังหยินที่ปกคลุมอยู่ในอากาศทำให้เขารู้สึกหนักหน่วง แต่สิ่งที่หนักหนายิ่งกว่าคือภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นเขาเห้นลู่หยวนฮวานั่งกองกับพื้น ร่างกายของนางถูกพันธนาการไว้ในอ้อมแขนของหวงหมิงเจ๋อ หวงหมิงเจ๋อกำลังจะใช้กำลังบังคับข่มเหงนางจางชิงหยวนที่เห็นภาพนี้ รู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างมาก เขายิงธนูปักไปที่แขนของหมงหิงเจ๋อและรีบพุ่งเข้ามาขวางกลางทันที ดาบในมือของเขาสั่นไหวไปด้วยความโกรธหวงหมิงเจ๋อยืนขึ้นและหันมาประจันหน้ากับจางชิงหยวน“เจ้าคิดว่าจะขวางข้าได้หรือ จางชิงหยวน?” หวงหมิงเจ๋อเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าได้ตัวนางไป นางต้องเป็นของข้า"จางชิงหยวนไม่ตอบกลับ เขาฟาดดาบเข้าใส่หวงหมิงเจ๋ออย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างดุเดือด หวงหมิงเจ๋อใช้พลังมนต์ดำเข้าต่อสู้ เขาร่ายเวทมนต์เพื่อกดดันจางชิงหยวน พลังมนต์ดำทำให้บรรยากาศรอบตัวจางชิงหยวนมืดมนและหนักอึ้งขึ้นทุกขณะจางชิงหยวนที่พยายามฝ่าทางเข้ามาช่วยลู่หยวนฮวา สัมผัสได้ถึงมนต์ดำที่ก่อตัวขึ้นรอบตัวเขาภาพรอบข้างเริ่มบิดเบี้ยว ผืนดินที่เต็มไปด้วยความโกลา

  • วสันต์ในห้วงฝัน   แผนลับบนแนวเขา

    ลู่หยางและจางชิงหยวนนั่งอยู่ภายใต้เงามืดของต้นไม้ใหญ่ แนวป่าทึบที่ทอดยาวเบื้องหน้าพวกเขาคือจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่พวกเขาจะต้องพิชิต มันไม่ใช่แค่ป่าธรรมดา แต่เป็นสนามรบเก่าที่เคยเกิดการสังหารหมู่และเต็มไปด้วยพลังหยินทั้งสองคนมองเห็นได้ชัดเจนว่า กองทัพของหวงหมิงเจ๋อประจำการอยู่ตามพื้นราบ โดยพึ่งพาค่ายกลเจ็ดทิวาที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีใดๆ ที่เข้ามาลู่หยางหันไปมองจางชิงหยวน ใบหน้าของเขามุ่งมั่นแต่แฝงด้วยความระแวดระวัง"ท่านแม่ทัพ ข้าใช้เวลาหลายเดือนสำรวจพื้นที่นี้ ข้าพบว่าพวกมันพึ่งพาค่ายกลมากเกินไป จนลืมเฝ้าระวังแนวเขาที่อยู่ด้านบน"เขาชี้ไปยังภูเขาที่ล้อมรอบบริเวณนั้น "หากเราสามารถใช้เส้นทางนี้เพื่อลงมาจากเขาได้ พวกเราจะสามารถบุกโจมตีจากด้านบน ทำให้พวกมันไม่ทันตั้งตัว"จางชิงหยวนพยักหน้า "ข้าคิดว่าเจ้าพูดถูก พวกมันมั่นใจในค่ายกลมากเกินไป และข้าสังเกตเห็นว่าทหารของพวกมันไม่มีใครมองขึ้นไปยังแนวเขาเลย"ลู่หยางยิ้มเล็กน้อย "ท่านก็เห็นด้วยเช่นกันใช่ไหม? ข้ามั่นใจว่าหากเราแบ่งกองกำลังออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งบุกด้านหน้าส่วนอีกฝั่งหนึ่งเลาะแนวเขาลงมา เราจะสามารถทำให้พวกมันสับสนและบุก

DMCA.com Protection Status