“ซอนญ่า...โอ...พระเจ้า” ชายหนุ่มงึมงำอยู่กับซอกคอหอมกรุ่น เขาอยากจะหยุดตัวเอง แต่มือไม้กลับล้วงเข้าไปในคอเสื้อหญิงสาวที่อ้ากว้าง
“แดน...อูว”
“พระเจ้า...ซอนญ่า ผมหยุดมันไม่ได้”
แดเนียลเหมือนคนหลงละเมอขณะลากริมฝีปากกลับไปดูดดื่มความหอมหวานจากปากเล็ก ทันทีที่มือหนาล้วงผ่านเข้าไปใต้เนื้อผ้าที่กั้นกลางระหว่างร่างนุ่มเขากลับไม่พบอาภรณ์ชิ้นใดขวางนอกจากเนินเนื้ออุ่นกลมกลึงแน่นตึงที่ตอบรับการบีบเคล้น ร่างสูงใหญ่อยากจะเลื่อนออกไปทว่าร่างกายกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามด้วยการเพิ่มแรงบีบบี้ กดคลึง และไล้ไปมาบนส่วนปลายอ่อนไหวแข็งเป็นไตแค่เขาลูบมันเบา ๆ
สายลับสาวร้องอืออาออกมาไม่หยุดพร้อมทั้งแอ่นร่างนุ่มที่ชายกระโปรงของชุดลายสก็อตเปิดเปลือยจนพ้นขาอ่อนขึ้นไปถึงสะโพก
“แดน...ฉันร้อนเหลือเกินค่ะ ช่วยฉันด้วย”
อลินทิราส่ายหน้าชื้นเหงื่อไปมาภายในห้องซึ่งมีพัดลมเพียงตัวเดียวที่ไม่อาจปัดเป่าประกายไฟร้อนแรงที่ปะทุระหว่างเขาและเธอ
“ผมจะช่วยคุณได้ยังไง”
“เอามันออกไปที...ช่วยเอามันออกไปจากตัวฉันทีค่ะ แดน”
หญิงสาวครางเสียงแหบพร่าขณะดึงทึ้งคอเสื้ออ้ากว้างด้วยท่าทางสุดเซ็กซี่ แดเนียลจำต้องละฝ่ามือที่กำลังบีบคลึงเนื้อกลมนุ่มใต้ชุดกระโปรงบนร่างแน่งน้อยก่อนสนองคำร้องขอด้วยการค่อย ๆ ปลดเปลื้องทุกอย่างออกจากเรือนร่างยวนใจ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอเมื่อชุดสวยถูกรั้งจากเรียวขาขึ้นมาจนพ้นเรือนผมสีน้ำตาลหม่นยาวสลวยและไปกองอยู่บนข้อมือข้างที่ถูกพันธนาการไว้กับขอบเตียงด้วยกุญแจเหล็ก เรือนกายใต้ชุดกระโปรงลายสก็อตปราศจากสิ่งปกปิดแม้ผ้าชิ้นน้อย
อลินทิราเป็นผู้หญิงร่างระหงแม้ไม่สูงใหญ่อย่างหญิงสาวอเมริกันแท้ ๆ ทั่วไปหากเธอก็มี อะไร ๆ ที่ไม่ธรรมดา ดวงตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำพินิจตั้งแต่ใบหน้าสวยหวานสีระเรื่อลงมาจนถึงลำคอและไหล่กลมมน ผิวขาวเนียนละเอียดสะท้อนใต้แสงไฟนวล อะไรก็ไม่ทำให้เขาตะลึงลานได้เท่าทรวงสวยอวบใหญ่ทั้งสองที่กระเพื่อมตามแรงหายใจและสั่นไหวประสาทรับรู้ของชายหนุ่มเป็นที่สุด เขาอยากสัมผัสเนินเนื้ออวบอิ่มตรงหน้าอีกครั้ง อยากลูบไล้เอวคอดกิ่วและหน้าท้องแบนราบพร้อมจูบซับบนสะดือบุ๋ม แดเนียลเก็บจินตนาการความงามของส่วนสัดที่อยู่ต่ำลงไปเมื่ออลินทิราชันเข่าขึ้น แต่หญิงสาวกลับบิดร่างและแอ่นอกเชิญชวนเขาแทน
“ซอนญ่า...รู้มั้ยว่า...คุณสวยเหลือเกิน”
แดเนียลชื่นชมจากความรู้สึกซึ่งอาจอยู่นอกเหนือแรงกดของยาที่มีต่อจิตประสาท อลินทิราคลี่เรียวปากอิ่มเชิญชวน ทว่าร่างสูงใหญ่กลับก้มหน้าลงไปต่ำกว่าลำคอระหง
“อา...แดน”
สายลับสาวครางเสียงสั่นเมื่อส่วนอ่อนไหวบนยอดถันถูกปลุกปั่นจากลิ้นระคายที่ยอกเย้าด้วยการลิ้มเลีย ปากหนาเม้มขบเบา ๆ ก่อนครอบครองนิ่มเนื้ออ่อนไหวจนร่างแน่งน้อยสั่นเทิ้ม
“แดน...ปล่อยฉันเถอะค่ะ...ปล่อยฉัน”
อลินทิราเกินจะเก็บกลั้นขณะพาดเรียวขาไปบนสะโพกของคนตัวโตและพยายามดึงดันข้อมือจากกุญแจเหล็ก บัดนี้เธอหาใช่สายลับผู้เก่งกาจ หากเป็นเพียงอิสตรีที่ไม่อาจหลุดพ้นไปจากวิถีธรรมชาติแห่งชายหญิง ฤทธิ์จากยากล่อมประสาททำให้หญิงสาวรื่นรมย์ถึงขนาดปลดปมผ้าขนหนูให้หลุดจากร่างสูงใหญ่ด้วยมือข้างที่ยังเป็นอิสระ
“ซอนญ่า”
แดเนียลเหมือนคนหายใจขัดขณะฝังจมูกโด่งลงเฟ้นฟอนพวงถันพร้อมทั้งลูบไล้ฝ่ามือไปบนสะโพกและบั้นท้ายกลมกลึง หญิงสาวปลดปล่อยให้เขาเป็นอิสระและเขาเองก็กำลังค้นหาสิ่งสุดท้ายซึ่งแอบซ่อนด้วยปลายนิ้วแกร่งที่คืบคลานลงไปตามหน้าท้องแบนราบที่ร่างอรชรแขม่วลึก
“ซอนญ่า” ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าคมคายกลับมาบนแก้มเปล่งปลั่งและกระซิบเบาหวิว
“ซอนญ่า ผมต้องรู้...ว่าข้อมูลของผม...อยู่ที่ไหน” เสียงห้าวขาดเป็นห้วง ๆ แต่อลินทิราก็ยังจับใจความได้ก่อนส่ายหน้าหวานเป็นการปฏิเสธ
“ไม่ค่ะ...แดน...ไม่...ฉันจะยังไม่บอกคุณ”
“ผมจะทำให้คุณบอกผม...ให้ได้”
ร่างสูงใหญ่คาดคั้นด้วยการประกบริมฝีปากบนเรียวปากบวมเจ่ออีกครั้งและคืบนิ้วลงไปใต้ท้องน้อยของร่างบอบบางเพื่อสัมผัสปุยไหมนุ่ม ๆ บนพื้นที่สามเหลี่ยมที่เริ่มฉ่ำชื้น ชายหนุ่มรู้สึกว่าเธอพร้อมเต็มที่ทว่าทันทีที่คืบนิ้วต่ำและหยั่งปลายนิ้วแกร่งลงไปเขาก็ต้องหยุดชะงัก
ร่างแน่งน้อยมีอาการกระตุกและแดเนียลเองก็พบความประหลาดล้ำกับการตอดรัดรุนแรง มันไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด...อลินทิราไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่เคยผ่านมาเพราะยิ่งเขาหยั่งลงไปลึก ส่วนบอบบางทว่าทรงพลังก็ยิ่งบีบรัดจนน่าตกใจ
“แดน...อืม...เบา ๆ สิคะ” สายลับสาวบอกเขาพร้อมย่นคิ้วและเม้มปากแน่น ไม่เคยมีใครสัมผัสเธอได้ถึงขนาดนี้ ถึงจะสุขสมมากแค่ไหนหากเธอก็ไม่ยอมเผยความนัยว่าแดเนียลคือผู้ชายคนแรกที่ก้าวล่วงเข้าไปในตัวเธอ สำนึกในเบื้องลึกทักท้วงว่าเขาเป็นปฏิปักษ์ หากเสียงนั้นก็ไม่ดังไปกว่าความปรารถนาที่เฉือนสติเบื้องบนจนกระเด็น
“ซอนญ่า...ทำไมคุณไม่ยอมบอกผม...หรือคุณอยากให้ผมทรมานคุณ”
“ทรมานฉันเถอะค่ะ...แดน...ทรมานฉัน ถึงยังไงฉันก็จะไม่บอกคุณ”
อลินทิรากระซิบแผ่วต่ำก่อนไล้เลียริมฝีปากหนาแห้งผากบนใบหน้าคร้ามคม แดเนียลขบปลายลิ้นเล็กเบา ๆ และเริ่มทรมานจารชนสาวด้วยการหยั่งนิ้วแกร่งลึกลงไปเรื่อย ๆ ร่างอรชรบิดเร่าจากการคาดคั้นจนสะท้านไหวไปทั่วร่าง ชายหนุ่มเองก็ต้องอดทนอย่างหนักเมื่อยิ่งคนปากแข็งบีบรัดก็ยิ่งทำให้แกนกายของร่างกำยำเครียดเขม็ง
“ซอนญ่า...อา...คุณต้องบอกผม”
“แดน...แดนคะ” ร่างอรชรเป็นฝ่ายดูดกลืนเสียงของเขาเมื่อแดเนียลขยับนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะรัวเร็วและลึกขึ้นเรื่อย ๆ อลินทิราขยับสะโพกพลิ้วไหวเพื่อตอบรับ
“แดนคะ...ฉันอยากสัมผัสคุณ ได้โปรด...เอากุญแจมือออกทีเถอะค่ะ”
บทที่ 4 เมื่อความผูกพันก่อตัว คำเว้าวอนของสายลับสาวทำให้ชายหนุ่มหยุดตัวเองลงชั่วขณะ แม้ยังไม่แน่ใจหากนัยน์ตาสีน้ำตาลแกมเขียวกลับฉายแววปรารถนาล้นท่วม ต่างคนต่างตกอยู่ในห้วงแห่งเพลิงพิศวาส และแดเนียลเองก็ตกเป็นทาสอารมณ์ดิบที่สั่งให้เขายินยอมปลดปล่อยอลินทิราออกจากพันธนาการ“แดน...ฉันต้องการคุณ...เดี๋ยวนี้” ร่างบางตวัดแขนไปรอบแผ่นหลังกว้างทันทีที่เป็นอิสระ หญิงสาวกอดจูบชายหนุ่มเนิ่นนานกระทั่งตัวเธอถูกดันจนแผ่นหลังราบไปกับที่นอน“ซอนญ่า...โอ” แดเนียลครางหอบเมื่อเขาเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้คุมเกมด้วยการขยับขึ้นทาบทับบนแก่นกายตึงแน่นของหญิงสาวที่ถูกความแข็งแกร่งบดเบียดอยู่ภายนอก เขายังไม่เร่งร้อนที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่าง ทว่าก็เห็นเงาแห่งความหวาดกลัวแฝงตัวอยู่หลังม่านหมอกแห่งปรารถนา“ทำไมคุณไม่หนีไปเสีย...ตอนนี้คุณมีโอกาสแล้ว ซอนญ่า”แดเนียลกระซิบถามขณะไล้เลียลิ้นร้อนไปบนแก้มเนียนจรดติ่งหูก่อนกลับมายังกลีบปากนุ่ม“จะให้ฉันหนีไปไหนล่ะคะแดน...ถ้าฉันหนี ใครจะช่วยฉันได้”“คุณเป็นอะไรหรือซอนญ่า” ชายหนุ่มถามซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นการบิดเร่าของร่างที่เขาทาบทับ“ไม่รู้ค่ะ...ฉัน...ไม่รู้ว่า
แดเนียลสะดุดคำพูดเมื่อเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้าหวาน คิ้วโก่งขมวดเข้าหากันและริมฝีปากถูกขบจนห้อเลือด ชายหนุ่มแทบไม่รู้สึกตัวว่าอารมณ์ค้างคาเมื่อครู่จะทำให้เขาผลักดันตัวเองเข้าไปในเรือนร่างบอบบางจนหมดสิ้น อลินทิราส่ายหน้าที่เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายพร้อมทั้งใช้ฝ่ามือดันหน้าอกแกร่งแทนที่จะกอดรัดเขาอย่างเมื่อครู่“แดน...ถ้าคุณจะโกรธฉันก็ไม่เป็นไร...หรือถ้าคุณไม่อยากช่วยฉันแล้ว...”“ซอนญ่า” แดเนียลแทรกขึ้นก่อนปลอบประโลมหญิงสาวด้วยการจูบไซ้ไปตามลำคอ ความรู้สึกนั้นแปรเปลี่ยนกะทันหันด้วยตระหนักรู้ว่าเธอเจ็บร้าวมากแค่ไหนในเมื่อนี่คือครั้งแรก“ผมเปลี่ยนใจแล้ว”“คุณว่าอะไรนะคะ?”“ผมอยากช่วยคุณ ซอนญ่า”ชายหนุ่มยืนยันด้วยการขยับสะโพกและดูดเม้มปลายถันสีชมพูเข้มเพื่อช่วยผ่อนคลาย อลินทิรารู้สึกจุกแน่นใต้ท้องน้อยทุกครั้งที่เขาส่งผ่านตัวเองเข้าไป ทว่าความรื่นรมย์ที่เพิ่มขึ้นทีละน้อยกลับทำให้เธออดทนและรับความใหญ่โตนั้นไว้ได้เกือบทั้งหมด“แดน...อ๊ะ...อา” สายลับสาวแอ่นร่างและยกสะโพกตามการเคลื่อนไหวเร่งเร้าขณะฟังเสียงกระซิบกระซาบ“ซอนญ่า...คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”“แดน...มันคับมากค่ะ มันแน่นมากเหลือเกิน”“ไม่เลย...ค
แดเนียลค่อย ๆ เคลื่อนความแข็งแกร่งออกมาและปล่อยให้นิ้วเรียวราวลำเทียนสำรวจบนผิวสัมผัสตึงแน่นที่ตอดเป็นจังหวะ แทบไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่เก่งกล้าขนาดฝ่าระบบป้องกันภัยเข้าไปในห้องทดลองเครื่องไซโคลตรอนได้จะมีเนื้อแท้เป็นแค่สาวพรหมจรรย์ผู้อ่อนหวานใต้ร่างของเขา กลีบปากอิ่มบนดวงหน้าสวยแย้มออกอย่างพึงใจขณะกอบกุมเขาไว้ในมือบางทั้งสอง เธอทำราวกับสิ่งที่อยู่ในมือนั้นน่าอัศจรรย์เพราะยิ่งกอบกำไว้แน่นเท่าไหร่เขาก็ยิ่งมีปฏิกิริยาตอบสนองมากเท่านั้น"ซอนญ่า...โอ...พระเจ้า...พระเจ้า!”เสียงครวญครางดังมาจากใบหน้าหล่อเหลาเมื่อหญิงสาวขยับปลายนิ้วขึ้นลง อลินทิราค้นพบว่าเธอควบคุมแดเนียลได้แม้ไม่ตั้งใจให้เขาทุกข์ทรมาน“ซอนญ่า...คุณมันนางปิศาจ...อะ...โอว”ชายหนุ่มกดจูบลงบนกลีบปากซึ่งผ่อนลมหายใจหน่วงหนักขณะที่การสำรวจด้วยปลายนิ้วดำเนินไปอีกชั่วครู่“แดน...ให้สิ่งนี้กับฉัน...ได้โปรด”อลินทิราร้องขอในที่สุดเมื่อมือเรียวบางถูกมือหนาจับออกห่างทว่าแดเนียลกลับส่งผ่านตัวเขากลับเข้าไปในรอยแยกชุ่มฉ่ำอีกหน คราวนี้หญิงสาวรับรู้ถึงความปวดแสบที่มาพร้อมความเสียวซ่านราวคลื่นพิศวาสที่ม้วนเกลียวบนร่างสาวนับหมื่นระลอก ร่างอรช
แดเนียลกอดกระชับร่างนุ่มซึ่งอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นขณะใช้ความคิดถึงคืนนี้ที่กำลังจะผ่านพ้น ชายหนุ่มกำลังปั่นป่วนกับความสับสนภายในที่ยิ่งทวีความรุนแรงทุกครั้งเมื่อแนบชิดแบบกายถึงกายกับจารชนสาว ทันทีที่ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ ออโซลย่า จากเออร์วิ่ง เขาก็ไม่ลังเลที่จะเดินทางมายังรัฐยูทาห์ เขาเริ่มติดตามอลินทิรามาจากสนามบินด้วยความตั้งใจว่าเมื่อจับตัวสายลับมือหนึ่งแห่งไซออนเนตได้ก็จะคาดคั้นเอาข้อมูลกลับและฆ่าทิ้งเสียให้หายแค้นแต่ให้ตายเถอะ! เขาทำไม่สำเร็จสักอย่าง ทั้งก็ไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการหนำซ้ำยังมาตกหลุมพรางของสายลับสาวที่เขาได้ครอบครองพรหมจรรย์ของเธอแทน แดเนียลไม่อาจข่มตาหลับแม้พยายามปิดสวิทซ์ตัวเองแต่เหมือนยังมีบางอย่างแล่นไหลอยู่ในสมองอลินทิรากระพริบตาถี่ ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากแสงแรกที่พาดผ่านเข้ามาในรุ่งอรุณของวันใหม่ หญิงสาวน่าจะสดชื่นมากกว่านี้หลังการหลับลึกแบบไม่รู้สึกตัวทว่าก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เธอปวดหัวแทบระเบิด มันหนักอึ้งพอ ๆ กับลำตัวซึ่งมีอะไรบางอย่างกดทบ แต่แล้วเมื่อสติคืนกลับมาเต็มที่สายลับสาวก็ถึงกับตาเบิกโพลง“แดเนียล!” เสียงกรีดร้องและอาการดีดดิ้
“ฉันจะไม่คืนมันให้คุณ แดเนียล ไพรซ์! คุณจำไว้ด้วยว่าฉันเกลียดคุณมากกว่าอะไรทั้งหมด!”“คุณเป็นคนบีบบังคับผมเองนะซอนญ่า”ชายหนุ่มแผดเสียงก่อนก้มหน้าลงไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว สายลับสาวเบี่ยงหลบไม่ทันจึงต้องรับจูบหนักอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง“อื้อ...อื้อ” อลินทิราครางอู้อี้ในลำคอ เธอตอบโต้เขาไม่ได้และอ่อนแอลงอย่างน่าใจหายใต้เรือนกายแข็งแกร่ง หญิงสาวบอกตัวเองว่าตอนนี้เธอมีสติครบถ้วน ทว่าร่างกายกลับอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งเหลวยามถูกไฟลน ทั้งที่แดเนียลกำลังโกรธจัดแต่จูบหนักและเรียวลิ้นที่ตวัดไปมาในโพรงปากเล็กกลับจุดความหวามไหวขึ้นในใจที่ต่อต้าน“อือ...อือ” เจ้าของใบหน้าหวานเริ่มครางแผ่วในขณะที่อาการขัดขืนก็ลดน้อยตามไปด้วยและแล้วสายลับสาวก็ตอบรับจุมพิตหน่วงหนักและรู้สึกถึงความตื่นตัวที่เสียดสีบนหน้าขา นี่เธอเป็นอะไรไปถึงได้ยอมปลดปล่อยตัวเองง่ายดายขนาดนี้“แดน!” อลินทิราหอบเหนื่อยหลังจากที่แดเนียลถอนจูบ ร่างบอบบางเปล่าเปลือยสั่นสะท้านเหมือนลูกนก ทำไมเธอต้องอ่อนแอและอ่อนไหวต่อบุรุษที่คุกคามร่างกายเธอเมื่อคืนนี้“คุณทำร้ายฉัน แดเนียล! คุณทำลายฉัน ไม่มีวันที่ฉันจะคืนข้อมูลลับนั่นให้คุณ!”“นี่เป็นข้อต่อร
“ฉันอยากปรับปรุงตึกไพรซ์ บิวดิ้ง ที่อยู่ใกล้กับอาคารแฟลทิรอน (Flatiron) ในนิวยอร์คค่ะ คุณเพียร์สัน...ช่วยติดต่อมัณฑนากรให้มาปรับปรุงภายในด้วย ฉันต้องการอินทีเรียที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ความเป็นตึกที่หรูที่สุดเคียงคู่กับสัญลักษณ์ของนิวยอร์ค”เสียงหวานทว่าเด็ดขาดดังขึ้นภายในห้องรับรองอันโอ่อ่าของคฤหาสน์ซึ่งได้ชื่อว่าใหญ่โตและสวยงามมากที่สุดทางฝั่งตะวันตกของแคลิฟอเนีย ร่างเพรียวระหงในชุดกระโปรงสีพีชซึ่งนั่งบนเก้าอี้รับแขกกล่าวก่อนวางเอกสารในมือลงตรงหน้าเพียร์สัน ชายวัยห้าสิบสี่ซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท ไพรซ์ กรุ๊ป เพียร์สันหยิบปึกกระดาษขึ้นมาขณะขยับแว่นตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนเหลือบมอง โมนิกา สาวสวยวัยเบญเพศผู้มีความงามเตะตา ญาติผู้น้องที่มีความใกล้ชิดทางสายเลือดกับแดเนียล ไพรซ์ เพราะเธอคือหลานสาวแท้ ๆ ของโฮเวิร์ดและยูจีเนีย บิดามารดาของแดเนียล หญิงสาวผิขาวราวหยวกและมีเรือนร่างระหง ใบหน้ารูปไข่เฉิดฉายด้วยดวงตาคม จมูกโด่งและทาปากเป็นกระจับด้วยลิปสติกสีแดงเบอร์กันดีอยู่เป็นนิจโมนิกาจบทางด้านการเงินการธนาคารจากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ...มาจากแคนยอนแลนด์เหรอ? เธอดูแปลก ๆ ไม่ต่างจากภูเขาที่นั่นเลยนะ”“พี่จะให้ซอนญ่าพักอยู่ที่นี่”แดเนียลแทรกขึ้นและนั่นเองทำให้เจ้าของคำพูดเสียดสีหน้าบึ้งยิ่งกว่าเก่า ถึงแดเนียลจะดูใส่ใจผู้หญิงที่เขาพามาหากเธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกดูถูกอยู่ดี“ในฐานะอะไรหรือคะ” สะกดใจถามออกไปด้วยน้ำเสียงหนัก ๆ“ในฐานะเพื่อนที่รู้ใจ และพี่...ก็จะดูแลเธอเอง”ชายหนุ่มกล่าวจบก็จูงมือหญิงสาวที่เขาพามาด้วยเข้าไปในตัวตึก ปล่อยให้โมนิกาที่ยังยืนอยู่กับเพียร์สันเหลือบมองด้วยสายตาไม่พอใจ“คุณคงเห็นแล้วสินะ ว่าแดเนียลเขาไม่มีเวลาจะมาสนใจโครงการปรับปรุงตึกของฉัน”“ครับ...แต่น่าประหลาดใจมาก”“ยังมีอะไรที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าเรื่องที่พี่ชายฉันพาผู้หญิงข้างถนนมาที่นี่อีกอย่างนั้นหรือ?”“ครับ...น่าประหลาดใจที่สุด เพราะผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยควงด้วยมาที่นี่เลย...แม้แต่คนเดียว”ความเห็นของเพียร์สันยิ่งกระตุกความรู้สึกของโมนิกาซึ่งมีความไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วให้ย่ำแย่ลงกว่าเก่า ทว่าญาติผู้น้องซึ่งทำหน้าที่เป็นถึงรองประธานบริษัทก็ฉลาดพอที่จะเก็บอารมณ์ขุ่นข้นไว้ข้างใน นิสัยที่ไม่ชอบให้ใครเจ้าก
“แดเนียล!” เมื่อปากเล็กเป็นอิสระเธอก็ทำได้แค่เรียกสติของคนตัวใหญ่และก็เป็นอีกหนที่หญิงสาวต้องพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนแอของตัวเอง อลินทิราน้ำตาหยดไหล ไม่เคยมีใครทำให้เธอเจ็บช้ำได้มากเท่าแดเนียล“แดน...คุณแกล้งฉัน”“นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่ผมกำลังลงโทษคุณต่างหาก ซอนญ่า...ตราบใดที่คุณยังเก็บข้อมูลสำคัญของผมเอาไว้ คุณก็จะถูกลงโทษไปแบบนี้เรื่อย ๆ บอกแล้วยังไงว่าผมน่ะรอได้ แต่คุณจะไหวหรือเปล่าถ้าต้องรองรับอารมณ์เวลาที่ผมเกิดความต้องการขึ้นมา!”“ฉันไม่ใช่นางบำเรอของคุณนะคะ แดน...คุณต้องปล่อยฉันกลับยูทาห์”จารชนสาวยังยืนยันเจตจำนงเดิมทว่าชายหนุ่มกลับกระตุกยิ้มมุมปากและหัวเราะในลำคอ“คุณคิดว่าผมจะทำอย่างที่คุณร้องของ่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ...ตอนแรกที่ผมตามหาออโซลย่า ผมคิดว่าถ้าเจอแล้วจะไม่ปล่อยให้ลอยนวล ตอนนี้ผมก็จะทำแบบนั้น ผมจะไม่ฆ่าคุณ สู้เก็บคุณไว้บำบัดอารมณ์เวลาที่ผมเกิดความต้องการขึ้นมาจะดีกว่า และขอเตือนเอาไว้ว่าอย่าได้คิดหนีเด็ดขาด ผมจะไม่ให้คนของผมตามประกบตัวคุณ แต่คุณ...ต้องสำนึกว่าถ้าเกิดทำอะไรผิดพลาดไปคนที่ต้องชดใช้คือแม่บุญธรรมของคุณ!”ร่างสูงออกคำสั่งด้วยเสียงดุดันก่อนผลักร่างบอบบา
“แดเนียล...ฉันรักคุณค่ะ ฉันกลัวเหลือเกินว่าคุณจะไม่กลับมาหาฉันอีก”“ผมต้องกลับมาที่รัก” เขาก้มลงจูบบนเปลือดกตาของหญิงสาวที่ตัวเธอสั่นสะทานขึ้นมาราวกับยังหวาดหวั่น “ยอดดวงใจของผม คุณไม่รู้หรอกว่าผมกลัวมากแค่ไหนถ้ามาถึงที่นี่แล้วไม่พบคุณ”“บ้าน...เป็นที่สุดท้ายสำหรับฉันค่ะ จารชนที่แต่นี้ไปจะเป็นแค่คนธรรมดา แดนคะ...มาเต้นรำกันเถอะค่ะ ฟังซีคะ ต้นหญ้าและขุนเขากำลังร้องเพลง”ร่างอรชรผละห่างจากชายหนุ่มและเริ่มร่ายรำด้วยท่าทางอย่างบัลเล่ต์รีน่าท่ามกลางทุ่งหญ้าส่ายไหวอาบแสงสีเงิน แดเนียลยืนล้วงกระเป๋าและอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ ม้าพันธุ์เทอโรเบรดด้วยความรู้สึกสุขใจ ดวงตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำจับจ้องอยู่ที่ร่างแน่งน้อยที่กำลังเริงระบำกลางที่ราบทุ่งหญ้าพลิ้วไหว เขารักอลินทิรามากเกินกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้ตามลำพังและมองเห็นความวาดหวังถึงชีวิตครอบครัวอันอบอุ่นในกาลเบื้องหน้า นี่อาจเป็นสิ่งที่เขาตามหามาตลอดชีวิตก็เป็นได้ศาลาที่ว่าการกรุงออสโลว์ ประเทศนอรเวย์เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ร่างบอบบางในชุดราตรีสีฟ้าครามซึ่งนั่งอย่างสงบบนเบาะหลังรถเอสยูวีคันใหญ่รีบหยิบขึ้นมากดรับสาย“สวัสดีจ้ะ ซอนญ่า”“ค่ะ...แม่”
“แดน...ที่ผ่านมาคุณไม่คิดบ้างหรือคะว่าฉันเคยทำอะไรแย่ ๆ กับคุณบ้าง อย่างเช่นวางยาคุณ หรือตั้งใจจะเอาคืนให้คุณเจ็บแสบ”“อะไร ๆ อาจแย่กว่านี้ถ้าผมไม่ได้รู้จักคุณ...ออโซลย่า”หญิงสาวเอียงคอเพื่อมองใบหน้าคร้ามคมที่ลดจมูกลงมาเคลียบนแก้มนุ่ม“คุณคงยังไม่ลืมเธอซีนะคะ”“ผมไม่เคยลืมสายลับสาวแสนสวยที่เก่งกาจถึงขนาดถอดรหัสผ่านประตูนิรภัยของผมได้ และยิ่งกว่านั้นเสน่ห์ของเธอก็มัดใจผมไว้จนดิ้นไม่หลุด”“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะแดน...ฉันน่ะไม่เห็นว่าคุณจะพูดดีกับฉันสักหน” อลินทิราอดที่จะตั้งคำถามกับคนที่เธอรักไม่ได้แม้เวลานั้นจะล่วงเลยมาแล้วก็ตาม“อืม...คงตั้งแต่พบกันครั้งแรกในแคนยอน แลนด์ ผู้หญิงอะไรเจ้าเล่ห์ชะมัดทั้งที่รู้ว่าสู้ผมไม่ได้”“ฉันอยากจะฆ่าคุณ” เธอย่นจมูก “ทึ้งคุณให้หลุดเป็นชิ้น ไม่เคยมีใครตามติดและต้อนฉันจนมุมได้เหมือนคุณ”“ตอนแรกคุณจินตนาการว่าผมเป็นคนแบบไหนกัน ซอนญ่า” ชายหนุ่มจุดความอบอุ่นในกายหญิงสาวด้วยการขบเม้มเบา ๆ ที่ใบหูเล็กบาง“ตอนที่ฉันจะรับงานนี้ ฉันแทบไม่สนใจข้อมูลเจ้าของชิปนั่นเลยสักนิดเดียว ฉันคิดเอาเองว่า แดเนียล ไพรซ์ คงเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อ เขาคงเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง
“แม่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ท่านยังปลูกผักและเดินเป็นระยะไกล ๆ ได้ ถึงท่านจะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่เหงา เพราะว่าเจ้าอิงลิชกับเจ้ามูนวอล์คเกอร์นี่ล่ะค่ะ”หญิงสาวหันกลับไปยังม้าสองตัวที่ยื่นหน้าเข้ามาให้เธอลูบไล้แผงคอของพวกมันเล่น พวกมันดูคุ้นเคยและทำราวกับคิดถึงนายของมัน“ตัวนี้เป็นม้าอิงลิช เทอโรเบรดค่ะ มันเป็นม้าฝีเท้าดี ฉันตั้งชื่อมันว่าอิงลิช” อลินทิราบอกพลางลูบไล้ไปบนหัวของม้าตัวใหญ่สีน้ำตาลเข้มซึ่งเรือนขนบนหลังและหางมีสีดำเป็นมันวาว มันดูบึกบึนแข็งแรงทว่าก็เชื่องอย่างไม่น่าเชื่อ“ผมเคยอ่านประวัติของม้าพันธุ์ผสมพวกนี้ ตอนศตวรรษที่สิบเจ็ดนักล่าอาณานิคมพยายามพัฒนาสายพันธุ์ม้าอเมริกันใหม่ ๆ ก็เลยผสมพันธุ์ม้าพื้นเมืองกับม้าแคนาดา มันขึ้นชื่อเรื่องของความแข็งแรง พอหลังจากนั้นก็ผสมกับม้าพันธุ์อิงลิชเทอโรเบรดอย่างเจ้าอิงลิชของคุณนี่ไง”แดเนียลเสริมแต่ยังไม่สัมผัสตัวของมันเหมือนหญิงสาว“และนี่...เจ้ามูนวอล์คเกอร์ค่ะ มันเป็นม้าป่าพันธุ์สเปน เรียกได้อีกอย่างว่าซัลเฟอร์ เป็นม้าของรัฐยูทาห์ค่ะ แม่เป็นคนตั้งชื่อให้เพราะตอนพามาเลี้ยงใหม่ ๆ มันหายไปตอนคืนจันทร์เต็มดวง เราคิดว่ามันคงถูกขโมยหรือไม่ก
“ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะขอคุณแต่งงาน แต่ผมยังไม่ได้พบแม่บุญธรรมของคุณ ไม่รู้ท่านจะว่ายังไงบ้าง”“ฉันจะว่ายังไงได้ล่ะคะ”เสียงของหญิงสูงวัยที่แทรกขึ้นมาทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองที่ประตูพร้อมกัน“แม่!” อลินทิราอุทานออกมา เธอลืมตัวจะผละห่างจากชายหนุ่มทว่าแดเนียลยังกอบกุมมือเรียวบางไว้แน่น ดาเลียซึ่งยืนอยู่ที่ประตูยิ้มกับผู้มาใหม่ นางมองเขาด้วยสายตาบอกความประหลาดใจหากก็เต็มไปด้วยความตื้นตัน“สวัสดีค่ะ...ฉันคือดาเลีย เฮอเกรล ฉันเป็นแม่บุญธรรมของอัลลี่เองค่ะ”ดาเลียแนะนำตัวในขณะที่ชายหนุ่มคลายมือจากหญิงสาว“สวัสดีครับคุณแม่ ผม แดเนียล ไพรซ์”“แม่กลับมาตอนไหนคะ ทำไมหนูไม่ได้ยินเสียงเลย”ร่างบางถามแก้เก้อ เธอดูเงอะงะไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะแสดงท่าทางอย่างไรต่อหน้าแม่บุญธรรมในสถานการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้“แม่ลืมของที่จะเอาไปฝากลุงเคิร์คน่ะจ้ะ เลยกลับมาและก็ทันได้ยินว่า คุณแดเนียลจะขอหนูแต่งงาน นี่เป็นความจริงหรือจ๊ะ?”“เป็นความจริงครับคุณแม่”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสูงวัย นางจ้องมองเขาไม่วาง แดเนียล ไพรซ์ เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาและมีเสน่ห์ดึงดูด เขาทำให้ดาเลียพรึงเพริศราวถูกสะกดด้วยนัย
แดเนียลอธิบายในขณะที่อาการตื่นกลัวของอีกฝ่ายเริ่มคลายลง อลินทิราเห็นแววตาคู่นั้นหม่นแสงเมื่อเขาพูดต่อไป“เธอแอบจัดตั้งมูลนิธิในนาม ไพรซ์ คอร์ป เพื่อซออนเนต และถ่ายโอนเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงเพื่อองค์กรของตัวเอง พอเออร์วิ่งรายงานเรื่องนี้พร้อมทั้งยืนยันด้วยเอกสาร ผมก็เริ่มส่งคคนตามประกบจนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ข้อมูลว่าโมนิกานัดพบกับ อลัน ทีทอน เจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามของยุโรป...ผมตามเธอไปพร้อมกับตำรวจและหน่วยสวาทติดอาวุธครบมือ”“ตำรวจคงจับเธอได้แล้วใช่ไหมคะ แดเนียล?”หญิงสาวถามอย่างกระตือรือร้น ความตื่นเต้นประดังอยู่ในอกแทบระเบิดด้วยอยากรู้วาระสุดท้ายของนายใหญ่แห่งไซออนเนต ทว่าแดเนียลกลับยิ้มขื่นและตอบว่า“โมนิกาเป็นคนเก่ง เธอเป็นอัจฉริยะ แต่...” ชายหนุ่มหยุดคำพูดจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยถาม“เธอหนีไปได้ใช่ไหมคะ?”ร่างสูงส่ายหน้าและสูดลมหายใจลึก “โมนิกา...ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ...วิสามัญ”“พระเจ้า!”“เราจัดพิธีศพให้เธอและฝังเธอไว้ในสุสานของตระกูล เมื่อไม่มีนายใหญ่ ไซออนเนตก็ถึงจุดจบ”“บางที...อาจจะไม่” อลินทิราขืนตัวออกจากแขนแกร่ง ดวงตาคู่สวยรื้นน้ำและแดงก่ำ“อาจเป็นจุดจบของไซออนเนต แต่คุณ
“ตอนผมไปโรงพยาบาลและพบหมอที่รักษาคุณ เขาบอกว่าภรรยาของผมอาการดีขึ้นมากและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ หมอกำชับผมให้ดูแลคุณเป็นพิเศษ ผมคิดว่าจะไม่ถามอะไรต่อจนคุณหมอเข้ามาแสดงความยินดีที่ผมจะได้เป็นพ่อคน เพราะภรรยาของผมตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก เธอรับฟังทุกอย่างแต่เหมือนยังมีสิ่งค้างคาใจ“แดนคะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหนีหรือปกปิดเรื่องนี้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าคุณกลับไปแคลิฟอเนียเป็นเพราะคุณต้องรีบกลับไปหาโมนิกาหรือเปล่า”“ใช่...โมนิกาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมต้องรีบกลับไปที่นั่น”ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเลและทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายหมองลงอย่างเหนได้ชัด กระทั่งเขาพูดต่อทั้งที่กอดเธอไว้แน่น“ตอนที่คุณยังไม่ฟื้นหลังจากหมอผ่าตัดเอากระสุนฝังในออก ผมได้รับโทรศัพท์จากเออร์วิ่ง เขาเป็นนักสืบเอกชนฝีมือดีที่ผมจ้างมาสืบเรื่องนี้ เออร์วิ่งให้ผมรีบกลับไปที่ซานตาโมนิกาด่วนเพราะเขามีข้อมูลบางอย่างให้ผมดู มันเป็นข้อมูลความผิดปกติทางด้านการเงินของบริษัท ตอนแรกที่เขาเข้ามาสืบเรื่องชิปที่หายไป เขารู้แค่ว่ามันเชื่อมโยงกับองค์กรลับไซออนเนต แต่การล้วงข้อมูลลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ทำให้เออร์วิ่งพบกับสิ่งที่น่าต
“ที่ร้านอาหารของลุงเคิร์คในเมืองกำลังหาพนักงานเสริ์ฟเพิ่ม...เอ้อ...ถ้าลูกสนใจจะทำ”“ก็ไม่เลวนะคะ แต่หนูขอเวลาอีกสักพัก”“เมื่อไหร่ก็ได้จ้ะ เมื่อไหร่ก็ได้ที่หนูพร้อม”หญิงสูงวัยยังไม่ทันยกน้ำชาขึ้นจิบก็ได้ยินเสียงแตรรถดังที่หน้าบ้าน“โอ...ตายจริง แม่ลืมซะสนิทเลย” นางวางแก้วชาและเบิกกว้าง “แม่ลืมว่าเช้านี้นัดกับคุณแบรดฟอร์ด เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันเข้าไปซื้อของในเมือง อัลลี่จ๊ะ...หนูคงต้องกินอาหารเช้าคนเดียวแล้วล่ะจ้ะ”“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูไปส่งนะคะ”“ไม่ต้องจ้ะ อัลลี่ หนูกินไปเถอะ แม่ไปก่อนนะจ๊ะ อาจกลับมาตอนบ่าย ๆ”อลินทิราเอียงศีรษะเป็นเชิงรับรู้และเมื่อแม่บุญธรรมของเธอลุกออกไปหญิงสาวจึงเลื่อนจานพาสต้าตรงหน้าไปไว้ด้านข้าง เธออยากกินอาหารฝีมือดาเลียมากที่สุดตั้งแต่กลับมาถึงที่นี่และนางก็จัดเตรียมขอที่บุตรสาวบุญธรรมโปรดปรานมากที่สุดนั่นคือเมนูอาหารอิตาเลียนแต่หญิงสาวกลับลืนมันไม่ลง ผะอืดผะอมจนบางครั้งแทบไม่อยากหันไปมอง นี่คงเป็นอาการแพ้ท้อง ถึงเธอไม่บอกแต่ดาเลียก็จะต้องรู้ในสักวันด้วยตัวนางเองร่างบอบบางลุกขึ้นไปหยุดยืนที่หน้าต่างห้องครัว ภาพภูเขาสีน้ำตาลแดงบนที่ราบทุ่งหญ้าเบื้องนอกท
“อาการของคุณดีขึ้นมากแล้วนะครับหลังจากพักฟื้นมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน หมอว่าตอนนี้คุณซอนญ่าคงกลับบ้านได้แล้วล่ะครับ”นายแพทย์สูงวัยเอ่ยกับหญิงสาวร่าบอบบางในชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มซึ่งนั่งฟังผลการวินิจฉัยครั้งสุดท้ายบนเตียงผู้ป่วย เขาก้มลงดูแผ่นชาร์ตพลางยิ้มรื่น“จะให้พยาบาลแจ้งคุณแดเนียล ไพรซ์ ไหมครับว่าคุณจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้”“คงไม่ต้องหรอกค่ะ...เอ้อ...ตอนนี้เขาคงกำลังยุ่งอยู่กระมังคะ ถ้ายังไงฉันจะบอกให้เขาทราบเองค่ะ”“ครับ...ถ้าอย่างนั้นก็อยาลืมบอกข่าวดีกับเขาด้วยก็แล้วกันนะครับว่าตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว ผมจะบอกคุณแดเนียลตั้งแต่วันที่เขากลับแคลิฟอเนีย แต่วันนั้นเขาดูเร่งร้อนมากก็เลยไม่ทันได้พูดอะไร แต่ผมคิดว่าถ้าเขารู้ก็คงจะดีใจมาก”นายแพทย์สูงวัยกล่าวอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของคนไข้“ค่ะ...คุณหมอ ขอบคุณมากนะคะ”อลินทิรายิ้มรับแต่หัวใจดวงนั้นทั้งหวาดหวั่นและรันทดท้อด้วยคิดไปต่าง ๆ นานา หลังถูกกระสุนปืนสไนเปอร์ของเฟลรอฟตอนหนีเข้าไปในแคนยอน แลนด์กับแดเนียลเธอก็ถูกส่งมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดและหลับไม่รู้สึกตัวนานเกือบสัปดาห์ กระส
แดเนียลตะโกนทว่าหญิงสาวกลับยืนนิ่ง เธอมองไปรอบตัวซึ่งถูกโอบล้อมด้วยหน่วยสวาท ร่างเพรียวระหงกำหมัดแน่น เธอจะไม่ยอมถูกจับที่นี่เป็นเด็ดขาด“ได้...แดเนียล แต่ฉันอยากคุยกับพี่ก่อนมอบตัวกับตำรวจ”โมนิกายื่นข้อเสนอสักครู่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งยืนข้าง ๆ แดเนียลก็ยื่นหน้าเข้ามากระซิบ“ว่ายังไงครับ คุณแดเนียล จะเข้าไปคุยกับเธอหรือเปล่า?”คนถูกถามพยักหน้าก่อนตอบ “ครับ...ผมจะคุยกับเธอ”“ระวังตัวด้วยนะครับ เราไม่รู้ว่าเธอมีแผนอะไรบ้าง”“ขอบคุณครับ ผมจะระวัง” แดเนียลรับปากก่อนเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับญาติผู้น้อง ทุกอย่างเงียบกริบ บรรยากาศรอบตัวบีบคั้นจนน่าอึดอัด เจ้าหน้าที่หน่วยสวาททุกนายซึ่งมีอาวุธครบมืออยู่ในท่าเตรียมพร้อมตลอดเวลากระทั่งชายหนุ่มเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าหญิงสาว“โมนี่” แดเนียลลดเสียงต่ำ เขาเครียดเกร็งในช่องท้องเมื่อต้องมาอยู่ในสภาวการณ์ล่อแหลมและอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ เขาเหมือนตัวประกันของโมนิกา ญาติผู้น้องที่จับจ้องไม่วางตาเมื่อบทสนทนาเริ่มขึ้น“โมนิกา...ตอนนี้คนในองค์กรของเธอถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไว้เกือบหมดแล้ว มูลนิธิถูกสั่งปิด ไซออนเนต...จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว”“พี่คิดว่าเรื่องทุกอย่