“ฉันอยากปรับปรุงตึกไพรซ์ บิวดิ้ง ที่อยู่ใกล้กับอาคารแฟลทิรอน (Flatiron) ในนิวยอร์คค่ะ คุณเพียร์สัน...ช่วยติดต่อมัณฑนากรให้มาปรับปรุงภายในด้วย ฉันต้องการอินทีเรียที่ดีที่สุดและตอบโจทย์ความเป็นตึกที่หรูที่สุดเคียงคู่กับสัญลักษณ์ของนิวยอร์ค”
เสียงหวานทว่าเด็ดขาดดังขึ้นภายในห้องรับรองอันโอ่อ่าของคฤหาสน์ซึ่งได้ชื่อว่าใหญ่โตและสวยงามมากที่สุดทางฝั่งตะวันตกของแคลิฟอเนีย ร่างเพรียวระหงในชุดกระโปรงสีพีชซึ่งนั่งบนเก้าอี้รับแขกกล่าวก่อนวางเอกสารในมือลงตรงหน้าเพียร์สัน ชายวัยห้าสิบสี่ซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท ไพรซ์ กรุ๊ป
เพียร์สันหยิบปึกกระดาษขึ้นมาขณะขยับแว่นตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนเหลือบมอง โมนิกา สาวสวยวัยเบญเพศผู้มีความงามเตะตา ญาติผู้น้องที่มีความใกล้ชิดทางสายเลือดกับแดเนียล ไพรซ์ เพราะเธอคือหลานสาวแท้ ๆ ของโฮเวิร์ดและยูจีเนีย บิดามารดาของแดเนียล หญิงสาวผิขาวราวหยวกและมีเรือนร่างระหง ใบหน้ารูปไข่เฉิดฉายด้วยดวงตาคม จมูกโด่งและทาปากเป็นกระจับด้วยลิปสติกสีแดงเบอร์กันดีอยู่เป็นนิจ
โมนิกาจบทางด้านการเงินการธนาคารจากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของสหรัฐ เธอคือหนึ่งในบอร์ดคณะกรรมการใหญ่ที่รั้งตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัทซึ่งมีสิทธิ์ตัดสินใจเกือบจะทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในเครือ ไพรซ์ คอร์ป
“ครับ...คุณโมนิกา” เพียร์สันกล่าวก่อนวางเอกสารลง “แต่...ไม่ทราบว่าคุณได้แจ้งเรื่องการปรับปรุงตึกกับคุณแดเนียลหรือยังครับ?”
“จำเป็นด้วยหรือคะ คุณเพียร์สัน ในเมื่อฉันก็มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว”
“บางทีผมคิดว่าอาจจำเป็นครับ”
ชายวัยกลางคนขยับแว่นและกล่าวต่อโดยไม่ได้มองสีหน้าอีกฝ่ายที่เริ่มเครียดตึง
“การปรับปรุงตึกใจกลางเมืองนิวยอร์คต้องดำเนินการด้วยความพิถีพิถันและรอบคอบมากพอสมควร เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในย่านชุมชน ที่สำคัญอาจมีผลต่อภาพลักษณ์ของไพรซ์ กรุ๊ป ผมจึงอยากให้เรื่องนี้ผ่านการอนุมัติจากประธานกรรมการผู้จัดการ นั่นก็คือคุณแดเนียล”
“เขาคงไม่สนใจมันสักเท่าไหร่หรอก! คุณก็รู้นิสัยพี่ชายของฉันดี แดนจะไปไหนหรือทำอะไรไม่เคยบอกใคร ดูอย่างเมื่อวาน ขนาดมีประชุมใหญ่ที่บริษัท แต่เขาดันหายตัวไปไหนเสียก็ไม่รู้!”
โมนิกากระฟัดกระเฟียด เพียร์สันได้แต่เลิกคิ้วและถอนหายใจ เขารู้นิสัยของรองประธานสาวผู้นี้ดี ทุกครั้งที่มีเรื่องไม่ได้ดั่งใจความสวยและฉลาดนั้นก็ถูกหลอมละลายด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายทุกครั้ง ทว่าก่อนที่ผู้จัดการวัยกลางคนจะได้พูดอะไรต่อก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงรถเอสยูวีคันใหญ่ที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์
“เอ๊ะ! นั่นรถของคุณแดเนียล เขาคงกลับมาแล้วล่ะครับ คุณโมนิกา”
หญิงสาวชะโงกหน้ามองก่อนลุกขึ้นเดินตามเพียร์สันออกไปยังประตูทางเข้าทรงโค้ง ด้านหน้ามีรถเอสยูวีสีดำสนิทจอดอยู่และเพียงครู่ประตูด้านคนขับก็เปิดออก
“แดเนียล...” โมนิกาขานเรียกลูกพี่ของเธอที่ก้าวลงมาจากรถ แดเนียลอยู่ภายใต้เสื้อยืดกางเกงยีนส์และส่งยิ้มให้คนทั้งสอง
“สวัสดีครับคุณแดเนียล”
เพียร์สันกล่าวทักทายขณะก้าวไปหยุดตรงหน้าร่างสูงใหญ่
“สวัสดีคุณเพียร์สัน...มีอะไรด่วนหรือเปล่าถึงได้มาที่นี่”
“ไม่มีอะไรด่วนมากหรอกครับ ผมกำลังปรึกษากับคุณโมนิกาเรื่องการปรับปรุงตึกในนิวยอร์ค”
“ฉันอยากปรับปรุงตึก ไพรซ์ บิวดิ้งค่ะพี่” โมนิกาแทรกขึ้นขณะก้าวเข้ามาหยุดที่คนทั้งสอง “ฉันอยากทำให้มันดูหรูหรามากกว่าเก่า อยากให้มันดูทันสมัยและน่าประทับใจพอ ๆ กับตึกแฟลทิรอนที่อยู่ใกล้กัน”
“เราอาจคุยเรื่องนี้ที่ประชุมของบริษัท” เจ้าของใบหน้าคร้ามเข้มกล่าวอย่างไม่ใคร่ใส่ใจนักก่อนจะเดินกลับไปที่รถเพื่อเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้ร่างระหงของหญิงสาวในชุดกระโปรงลายสก็อตก้าวลงมาซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ทั้งโมนิกาและเพียร์สัน
“ผมขอแนะนำเพื่อนสาวของผม เธอชื่อซอนญ่า ผมพาเธอมาจากแคนยอนแลนด์ ยูทาห์”
แดเนียลแนะนำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เพียร์สันเลิกคิ้วแสดงความแปลกใจแต่โมนิกากลับจ้องมองหญิงสาวสวยผู้มาใหม่ด้วยแววตาขึ้งเคียด
“ซอนญ่า...นี่คือคุณเพียร์สัน เขาเป็นผู้จัดการที่คอยดูแลทรัพย์สินส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์องไพรซ์ กรุ๊ป และนี่...โมนิกา เธอมีศักดิ์เป็นลูกน้องของผมที่ช่วยดูแลกิจการของไพรซ์ คอร์ป ในนิวยอร์ค”
ชายหนุ่มแนะนำให้อลินทิรารู้จักคนทั้งสอง เพียร์สันยิ้มให้เธอในขณะที่โมนิกาใช้สายตาแทนรอยยิ้ม สาวสวยผมหน้าม้าสีมะฮอกกะนียาวสลวยเหยียดริมฝีปากสีแดงเบอร์กันดีออกเล็กน้อย มันไม่ใช่รอยยิ้มเป็นมิตรแต่เหมือนเหยียดหยันอยู่กลาย ๆ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ...มาจากแคนยอนแลนด์เหรอ? เธอดูแปลก ๆ ไม่ต่างจากภูเขาที่นั่นเลยนะ”“พี่จะให้ซอนญ่าพักอยู่ที่นี่”แดเนียลแทรกขึ้นและนั่นเองทำให้เจ้าของคำพูดเสียดสีหน้าบึ้งยิ่งกว่าเก่า ถึงแดเนียลจะดูใส่ใจผู้หญิงที่เขาพามาหากเธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกดูถูกอยู่ดี“ในฐานะอะไรหรือคะ” สะกดใจถามออกไปด้วยน้ำเสียงหนัก ๆ“ในฐานะเพื่อนที่รู้ใจ และพี่...ก็จะดูแลเธอเอง”ชายหนุ่มกล่าวจบก็จูงมือหญิงสาวที่เขาพามาด้วยเข้าไปในตัวตึก ปล่อยให้โมนิกาที่ยังยืนอยู่กับเพียร์สันเหลือบมองด้วยสายตาไม่พอใจ“คุณคงเห็นแล้วสินะ ว่าแดเนียลเขาไม่มีเวลาจะมาสนใจโครงการปรับปรุงตึกของฉัน”“ครับ...แต่น่าประหลาดใจมาก”“ยังมีอะไรที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าเรื่องที่พี่ชายฉันพาผู้หญิงข้างถนนมาที่นี่อีกอย่างนั้นหรือ?”“ครับ...น่าประหลาดใจที่สุด เพราะผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยควงด้วยมาที่นี่เลย...แม้แต่คนเดียว”ความเห็นของเพียร์สันยิ่งกระตุกความรู้สึกของโมนิกาซึ่งมีความไม่พอใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วให้ย่ำแย่ลงกว่าเก่า ทว่าญาติผู้น้องซึ่งทำหน้าที่เป็นถึงรองประธานบริษัทก็ฉลาดพอที่จะเก็บอารมณ์ขุ่นข้นไว้ข้างใน นิสัยที่ไม่ชอบให้ใครเจ้าก
“แดเนียล!” เมื่อปากเล็กเป็นอิสระเธอก็ทำได้แค่เรียกสติของคนตัวใหญ่และก็เป็นอีกหนที่หญิงสาวต้องพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนแอของตัวเอง อลินทิราน้ำตาหยดไหล ไม่เคยมีใครทำให้เธอเจ็บช้ำได้มากเท่าแดเนียล“แดน...คุณแกล้งฉัน”“นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่ผมกำลังลงโทษคุณต่างหาก ซอนญ่า...ตราบใดที่คุณยังเก็บข้อมูลสำคัญของผมเอาไว้ คุณก็จะถูกลงโทษไปแบบนี้เรื่อย ๆ บอกแล้วยังไงว่าผมน่ะรอได้ แต่คุณจะไหวหรือเปล่าถ้าต้องรองรับอารมณ์เวลาที่ผมเกิดความต้องการขึ้นมา!”“ฉันไม่ใช่นางบำเรอของคุณนะคะ แดน...คุณต้องปล่อยฉันกลับยูทาห์”จารชนสาวยังยืนยันเจตจำนงเดิมทว่าชายหนุ่มกลับกระตุกยิ้มมุมปากและหัวเราะในลำคอ“คุณคิดว่าผมจะทำอย่างที่คุณร้องของ่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ...ตอนแรกที่ผมตามหาออโซลย่า ผมคิดว่าถ้าเจอแล้วจะไม่ปล่อยให้ลอยนวล ตอนนี้ผมก็จะทำแบบนั้น ผมจะไม่ฆ่าคุณ สู้เก็บคุณไว้บำบัดอารมณ์เวลาที่ผมเกิดความต้องการขึ้นมาจะดีกว่า และขอเตือนเอาไว้ว่าอย่าได้คิดหนีเด็ดขาด ผมจะไม่ให้คนของผมตามประกบตัวคุณ แต่คุณ...ต้องสำนึกว่าถ้าเกิดทำอะไรผิดพลาดไปคนที่ต้องชดใช้คือแม่บุญธรรมของคุณ!”ร่างสูงออกคำสั่งด้วยเสียงดุดันก่อนผลักร่างบอบบา
“ปกติแดเนียลเป็นคนเก็บตัว เธอคงไม่เคยรู้สินะว่าพี่ชายของฉันไม่ได้เป็นแค่นักธุรกิจที่รู้แต่เรื่องการเงินอย่างเดียว เขามีอีกด้านหนึ่งที่แสนมหัศจรรย์ นั่นคือการเป็นนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์...พวกชอบเล่นแร่แปรธาตุนั่นไง วัน ๆ เขาจะขลุกอยู่ในห้องปฏิบัติการที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ง่าย ๆ “พอพูดถึงตรงนี้อลินทิราก็มองมาด้วยแววตาเป็นประกาย มันทำให้โมนิการู้สึกว่าเธอสามารถกระตุกความสนใจของอีกฝ่ายได้จึงรีบพูดต่อ“แดเนียลเป็นผู้ชายที่ฉลาด แหลมคม แม้แต่เรื่องผู้หญิงเขาก็เป็นคนฉลาดเลือก ก่อนหน้านี้ฉันเห็นเขาควงผู้หญิงหลายคน แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นพวกสาวสังคมโก้หรู การแต่งกายและชาติตระกูลรวมทั้งความรู้ล้วนแต่คู่ควรกับคนอย่างเขา...แดเนียล ไพรซ์ มหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่อที่มีแต่พวกสาว ๆ อยากมาเสนอตัวให้”คำพูดทิ่มแทงของโมนิกาทำให้อลินทิราเจ็บจี๊ดในอกทว่าก็เพียงเสี้ยวหนึ่งในความรู้สึกอันตื้นเขินว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงในแบบฉบับของบุรุษที่คู่สนทนากล่าวถึง ทว่าก็มีเสียงหนึ่งในส่วนลึกว่า เขา เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจเธอมากขึ้นทุกขณะ หญิงสาวเพียงรับฟังและทำสีหน้ารับรู้ แต่ดูเหมือนยังไม่พอสำหรับโมนิกา“ซอนญ่
“คฤหาสน์ไพรซ์มีห้องหับนับไม่ถ้วน ห้องนี้มันไม่เหมาะกับผู้หญิงที่คุณหิ้วมาหรอกค่ะ หรือคุณจะให้ฉันไปนอนห้องแม่บ้านหรือจะเอาฉันไปขังไว้ที่ห้องไหนก็ได้”หญิงสาวไม่รู้ตัวว่าได้ตัดพ้อเขาด้วยความน้อยใจจากคำพูดของโมนิกา ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงอ้อมแขนแกร่งที่กอดรัดเธอแน่นขึ้น“ซอนญ่า...คุณคงลืมไปแล้วว่าผมพาคุณมาที่นี่เพื่ออะไร ผมเคยบอกแล้วยังไงล่ะว่าจะไม่กักขังหรือหน่วงเหนี่ยวคุณไว้ด้วยอะไรทั้งสิ้น แต่คุณอยู่ในฐานะจำเลยที่ต้องทำตามคำสั่งของผมทุกอย่าง!”“นี่มันยิ่งกว่าการมัดฉันไว้ในห้องขังนะคะแดน”“คุณเป็นคนเลือกเอง ซอนญ่า! ถ้าคุณคิดว่าจะกำความลับของผมไว้กับตัวคุณต่อไปก็ต้องยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณได้ทุกอย่าง”“แดน...คุณมันเจ้าเล่ห์”“ก็ยังน้อยกว่าจอมวางแผนอย่างคุณ และนี่คือบทเรียนสำหรับนักวางแผนที่มันจะเริ่มต้นนับตั้งแต่คืนนี้”“แดน...ไม่!” อลินทิราเบิกตากว้างเมื่อแดเนียลใส่อะไรบางอย่างเข้าไปในปากของเขา มันเป็นยาเม็ดเล็กที่ชายหนุ่มไม่ยอมกลืนลงคอแต่กลับบังคับเรียวปากอิ่มให้อ้าออกเพื่อรับมันจากริมฝีปากหนาซึ่งประกบปิดลงมาอย่างรวดเร็ว“อื้อ...อื้อ” หญิงสาวครางลึกเมื่อรู้สึกถึงสิ่งที่
“ผมบอกแล้วยังไงว่าผมรอได้...แต่คุณจะไหวหรือเปล่าถ้าต้องถูกกรอกยาทุกคืน”“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าฉันจะสูญเสียความทรงจำจากยากล่อมประสาทนั่นไหม”“อาจจะไม่...และตรงข้าม คุณอาจจะจดจำมันได้ดี ผมหมายถึง...ทุกอย่างหลังจากที่คุณกลืนยาลงไป”“ไม่...ไม่” เสียงหวานที่พร่ำปฏิเสธถูกกลืนหายเข้าไปในริมฝีปากหนาได้รูปที่ประกบปิดลงมา อลินทิราหมดข้อสงสัยและปราศจากเรี่ยวแรงจะต่อต้าน รับรู้เพียงสัมผัสอันหวานฉ่ำที่ปลายลิ้นและความเร่าร้อนใจกลางเรือนกายซึ่งถูกร่างสูงใหญ่กดทับพร้อมบดเบียดหนักขึ้นเรื่อย ๆ สายลับสาวน่าจะงัดกลยุทธการป้องกันตัวไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ใช่ปล่อยให้นักนิวเคลียร์ฟิสิกส์หนุ่มเปิดเปลือยร่างงามด้วยการเปลื้องชุดกระโปรงลายตารางพ้นออกไปจากตัวเธอจนหมดไม่เว้นแม้แต่อาภรณ์ชิ้นเล็กอันเป็นปราการด่านสุดท้าย “แดน...อือ” จารชนสาวครางเสียงหวิว หากทว่าครั้งนี้ไม่ใช่การตัดพ้อหรือปฏิเสธ อลินทิราบิดร่างกลมกลึงไปมาเมื่อรู้สึกถึงแรงกระตุ้นในกายทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ โอ...นี่เธอเป็นอะไรไปอีก ยานั่นกำลังออกฤทธิ์ทำให้เธอหลงใหลในกายใหญ่โตกำยำของแดเนียลที่ก็เปลือยเปล่าจนหมดแล้วเช่นกัน ทั้งท
แดเนียลเป็นฝ่ายรุกเร้าด้วยการแทรกตัวเข้าไปตรงกลางระหว่างเรียวขางามที่แยกออกและโอบรัดเอวของชายหนุ่มไว้อย่างจะบอกว่าถึงอย่างไรเธอก็ปฏิเสธเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว นักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ผู้หล่อเหลาไล้ริมฝีปากเบา ๆ ราวขนนกไปบนไหล่กลมกลึงโดยไม่ลืมกดปลายนิ้วลงบนบั้นท้ายงอนงามเพื่อดันให้เนินเนื้อสามเหลี่ยมบอบบางด้านหน้าแนบสนิทกับผิวสัมผัสกร้านหนาบนตัวเขามากยิ่งขึ้น“แดน...อือ...อา”อลินทิราหลุดเสียงครางออกมาหลายต่อหลายหนเมื่อส่วนอ่อนไหวถูกเสียดสีเนิบช้าทว่าเป็นจังหวะสม่ำเสมอ มือทั้งสองที่ค้ำยันบนที่นอนกรีดจิกผ้าคลุมเตียงจนมันแทบฉีกขาด“แดนคะ...ฉันอยากถามคุณ” หญิงสาววฝืนพูดเสียงขาดเป็นห้วง ๆ เมื่อเขาเลื่อนใบหหน้าขึ้นมาเผชิญกับเธอและหอบหายใจหนัก“คุณอยากถามอะไรผมตอนนี้หรือ ซอนญ่า”“คุณใช้วิธีการแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่น...บ่อยแค่ไหน?”“วิธีการแบบนี้?” ชายหนุ่มนิ่วหน้า“เหมือนอย่างที่ใช้กับฉัน...ใช้ยา”“ไม่เคย...แม้แต่ครั้งเดียว”คำตอบของแดเนียลทำให้สีหน้าของอลินทิราวูบลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงชายหนุ่มจะอยู่ในอารมณ์ปรารถนาเต็มที่หากแต่เขาก็ยังมีสัมปชัญญะเปี่ยมล้น หญิงสาวทอดถอนหายใจก่อนขยับร่างเปลือยห่างออกไ
“แดน...ฉะ...ฉัน...ไม่...” เสียงหวานครางหอบขาดเป็นห้วง ๆ จากความหวั่นหวามรัญจวนเกินจะต้านไหว หญิงสาวสอดปลายนิ้วเรียวเข้าไปในเรือนผมสีน้ำตาลเข้มประกายทองและขยุ้มเบา ๆ ราวส่งสัญญาณเรียกร้องว่าเธอมิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไปแล้ว“อา...อืม...แดนคะ...ฉันต้องการ...ต้องการคุณค่ะ”อลินทิราละทิ้งความอายและก้มลงมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้สาละวนอยู่ใกล้ใจกลางของความเป็นสาว แดเนียลเลื่อนริมฝีปากผ่านหน้าท้องแบนราบลงไปบรรจบกับปลายนิ้วแกร่งซึ่งไล้อยู่บนรอยแยกที่เห็นกลีบบางสีชมพูรำไร“อ๊ะ...แดน...โอ...พระเจ้า!” ร่างอรชรนั่งแทบไม่ติดเมื่อชายหนุ่มเริ่มไล้เลียดปลายลิ้นหนาผ่านเส้นใยไหมและแทรกลึกลงไปถึงนิ่มเนื้อสีแดงเข้ม แดเนียลดูดซับทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่หยาดน้ำหวานที่เริ่มหลั่งรินออกมา ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมราวดอกไม้ป่าที่ล่อหมู่ภมรเพื่อดูดชิมความหวานจากหมู่ไม้ที่กำลังสยายกลีบดูเหมือนนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์หนุ่มไม่อาจหยุดยั้งตัวเองได้เมื่อแทรกปลายลิ้นลึกเข้าไปสลับกับการลิ้มลองเกสรแสนอ่อนไหวจนร่างแน่งน้อยสั่นเทิ้มคล้ายเทียนหลอมละลายด้วยเปลวไฟระอุร้อน เขาล่อหลอกหญิงสาวให้จนมุมและต้องยอมจำนนต่อรสพิศวา
“ทำไมคะ แดน...ฉันก็แค่...อยากรู้ว่าคุณเป็นยังไงเท่านั้น” หญิงสาวกระซิบถามอีกครั้ง แววตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความกังขา“ผมคิดว่าคุณคงพิสูจน์มันพอแล้ว” เสียงห้าวหนักพร่ำถามอยู่กับลำคอเรียวระหง จารชนสาวเลียริมฝีปากแห้งผากก่อนตอบ“ฉันต้องการเวลาอีกนิด”“แล้วผมจะให้เวลาคุณพิสูจน์อีกหลาย ๆ ครั้ง...หลังจากนี้...อืม”แดเนียลยืนยันด้วยเสียงค่อนข้างแน่นหนักก่อนเร่งจังหวะการสอดประสานกระชั้นถี่ ร่างสูงใหญ่จุดประกายความสุขอย่างประหลาดจากก้นบึ้งของสายลับสาว อลินทิราสัมผัสได้ถึงการหลอมรวมที่แตกต่างไปจากครั้งแรก เธอยังนึกถึงรสชาติฉ่ำล้ำของเขาในปากและบัดนี้ทุกอณูของบุรุษผู้ปราดเปรื่องนั้นถูกดูดดึงไว้ในความบอบบางของเธอจนหมดสิ้น“แดน...อา...อืม...อา”“ซอนญ่า...โอ...ไม่...พระเจ้า”คนตัวโตครางไม่ยอมหยุดเมื่อไม่อาจฉุดอารมณ์ปรารถนาที่กำลังทะยานขึ้นสูง ร่างสูงใหญ่โหมตัวตนเข้าสู่ใจกลางความเป็นสาวที่เหงื่อผุดพราวตามเนื้อตัวสีชมพูเรื่อ อลินทิรายกย้ายสะโพกผายเพื่อตอบรับทุกจังหวะที่ชายหนุ่มเสือกไสเข้าไปเต็มกำลังหญิงสาวช้อนนัยน์ตามองบุรุษที่ขยับความแข็งขันเข้าออกและบอกกับตัวเองว่าแดเนียลช่างเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่
“แดเนียล...ฉันรักคุณค่ะ ฉันกลัวเหลือเกินว่าคุณจะไม่กลับมาหาฉันอีก”“ผมต้องกลับมาที่รัก” เขาก้มลงจูบบนเปลือดกตาของหญิงสาวที่ตัวเธอสั่นสะทานขึ้นมาราวกับยังหวาดหวั่น “ยอดดวงใจของผม คุณไม่รู้หรอกว่าผมกลัวมากแค่ไหนถ้ามาถึงที่นี่แล้วไม่พบคุณ”“บ้าน...เป็นที่สุดท้ายสำหรับฉันค่ะ จารชนที่แต่นี้ไปจะเป็นแค่คนธรรมดา แดนคะ...มาเต้นรำกันเถอะค่ะ ฟังซีคะ ต้นหญ้าและขุนเขากำลังร้องเพลง”ร่างอรชรผละห่างจากชายหนุ่มและเริ่มร่ายรำด้วยท่าทางอย่างบัลเล่ต์รีน่าท่ามกลางทุ่งหญ้าส่ายไหวอาบแสงสีเงิน แดเนียลยืนล้วงกระเป๋าและอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ ม้าพันธุ์เทอโรเบรดด้วยความรู้สึกสุขใจ ดวงตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำจับจ้องอยู่ที่ร่างแน่งน้อยที่กำลังเริงระบำกลางที่ราบทุ่งหญ้าพลิ้วไหว เขารักอลินทิรามากเกินกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้ตามลำพังและมองเห็นความวาดหวังถึงชีวิตครอบครัวอันอบอุ่นในกาลเบื้องหน้า นี่อาจเป็นสิ่งที่เขาตามหามาตลอดชีวิตก็เป็นได้ศาลาที่ว่าการกรุงออสโลว์ ประเทศนอรเวย์เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ร่างบอบบางในชุดราตรีสีฟ้าครามซึ่งนั่งอย่างสงบบนเบาะหลังรถเอสยูวีคันใหญ่รีบหยิบขึ้นมากดรับสาย“สวัสดีจ้ะ ซอนญ่า”“ค่ะ...แม่”
“แดน...ที่ผ่านมาคุณไม่คิดบ้างหรือคะว่าฉันเคยทำอะไรแย่ ๆ กับคุณบ้าง อย่างเช่นวางยาคุณ หรือตั้งใจจะเอาคืนให้คุณเจ็บแสบ”“อะไร ๆ อาจแย่กว่านี้ถ้าผมไม่ได้รู้จักคุณ...ออโซลย่า”หญิงสาวเอียงคอเพื่อมองใบหน้าคร้ามคมที่ลดจมูกลงมาเคลียบนแก้มนุ่ม“คุณคงยังไม่ลืมเธอซีนะคะ”“ผมไม่เคยลืมสายลับสาวแสนสวยที่เก่งกาจถึงขนาดถอดรหัสผ่านประตูนิรภัยของผมได้ และยิ่งกว่านั้นเสน่ห์ของเธอก็มัดใจผมไว้จนดิ้นไม่หลุด”“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะแดน...ฉันน่ะไม่เห็นว่าคุณจะพูดดีกับฉันสักหน” อลินทิราอดที่จะตั้งคำถามกับคนที่เธอรักไม่ได้แม้เวลานั้นจะล่วงเลยมาแล้วก็ตาม“อืม...คงตั้งแต่พบกันครั้งแรกในแคนยอน แลนด์ ผู้หญิงอะไรเจ้าเล่ห์ชะมัดทั้งที่รู้ว่าสู้ผมไม่ได้”“ฉันอยากจะฆ่าคุณ” เธอย่นจมูก “ทึ้งคุณให้หลุดเป็นชิ้น ไม่เคยมีใครตามติดและต้อนฉันจนมุมได้เหมือนคุณ”“ตอนแรกคุณจินตนาการว่าผมเป็นคนแบบไหนกัน ซอนญ่า” ชายหนุ่มจุดความอบอุ่นในกายหญิงสาวด้วยการขบเม้มเบา ๆ ที่ใบหูเล็กบาง“ตอนที่ฉันจะรับงานนี้ ฉันแทบไม่สนใจข้อมูลเจ้าของชิปนั่นเลยสักนิดเดียว ฉันคิดเอาเองว่า แดเนียล ไพรซ์ คงเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อ เขาคงเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง
“แม่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ท่านยังปลูกผักและเดินเป็นระยะไกล ๆ ได้ ถึงท่านจะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่เหงา เพราะว่าเจ้าอิงลิชกับเจ้ามูนวอล์คเกอร์นี่ล่ะค่ะ”หญิงสาวหันกลับไปยังม้าสองตัวที่ยื่นหน้าเข้ามาให้เธอลูบไล้แผงคอของพวกมันเล่น พวกมันดูคุ้นเคยและทำราวกับคิดถึงนายของมัน“ตัวนี้เป็นม้าอิงลิช เทอโรเบรดค่ะ มันเป็นม้าฝีเท้าดี ฉันตั้งชื่อมันว่าอิงลิช” อลินทิราบอกพลางลูบไล้ไปบนหัวของม้าตัวใหญ่สีน้ำตาลเข้มซึ่งเรือนขนบนหลังและหางมีสีดำเป็นมันวาว มันดูบึกบึนแข็งแรงทว่าก็เชื่องอย่างไม่น่าเชื่อ“ผมเคยอ่านประวัติของม้าพันธุ์ผสมพวกนี้ ตอนศตวรรษที่สิบเจ็ดนักล่าอาณานิคมพยายามพัฒนาสายพันธุ์ม้าอเมริกันใหม่ ๆ ก็เลยผสมพันธุ์ม้าพื้นเมืองกับม้าแคนาดา มันขึ้นชื่อเรื่องของความแข็งแรง พอหลังจากนั้นก็ผสมกับม้าพันธุ์อิงลิชเทอโรเบรดอย่างเจ้าอิงลิชของคุณนี่ไง”แดเนียลเสริมแต่ยังไม่สัมผัสตัวของมันเหมือนหญิงสาว“และนี่...เจ้ามูนวอล์คเกอร์ค่ะ มันเป็นม้าป่าพันธุ์สเปน เรียกได้อีกอย่างว่าซัลเฟอร์ เป็นม้าของรัฐยูทาห์ค่ะ แม่เป็นคนตั้งชื่อให้เพราะตอนพามาเลี้ยงใหม่ ๆ มันหายไปตอนคืนจันทร์เต็มดวง เราคิดว่ามันคงถูกขโมยหรือไม่ก
“ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อจะขอคุณแต่งงาน แต่ผมยังไม่ได้พบแม่บุญธรรมของคุณ ไม่รู้ท่านจะว่ายังไงบ้าง”“ฉันจะว่ายังไงได้ล่ะคะ”เสียงของหญิงสูงวัยที่แทรกขึ้นมาทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองที่ประตูพร้อมกัน“แม่!” อลินทิราอุทานออกมา เธอลืมตัวจะผละห่างจากชายหนุ่มทว่าแดเนียลยังกอบกุมมือเรียวบางไว้แน่น ดาเลียซึ่งยืนอยู่ที่ประตูยิ้มกับผู้มาใหม่ นางมองเขาด้วยสายตาบอกความประหลาดใจหากก็เต็มไปด้วยความตื้นตัน“สวัสดีค่ะ...ฉันคือดาเลีย เฮอเกรล ฉันเป็นแม่บุญธรรมของอัลลี่เองค่ะ”ดาเลียแนะนำตัวในขณะที่ชายหนุ่มคลายมือจากหญิงสาว“สวัสดีครับคุณแม่ ผม แดเนียล ไพรซ์”“แม่กลับมาตอนไหนคะ ทำไมหนูไม่ได้ยินเสียงเลย”ร่างบางถามแก้เก้อ เธอดูเงอะงะไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะแสดงท่าทางอย่างไรต่อหน้าแม่บุญธรรมในสถานการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้“แม่ลืมของที่จะเอาไปฝากลุงเคิร์คน่ะจ้ะ เลยกลับมาและก็ทันได้ยินว่า คุณแดเนียลจะขอหนูแต่งงาน นี่เป็นความจริงหรือจ๊ะ?”“เป็นความจริงครับคุณแม่”ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสูงวัย นางจ้องมองเขาไม่วาง แดเนียล ไพรซ์ เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาและมีเสน่ห์ดึงดูด เขาทำให้ดาเลียพรึงเพริศราวถูกสะกดด้วยนัย
แดเนียลอธิบายในขณะที่อาการตื่นกลัวของอีกฝ่ายเริ่มคลายลง อลินทิราเห็นแววตาคู่นั้นหม่นแสงเมื่อเขาพูดต่อไป“เธอแอบจัดตั้งมูลนิธิในนาม ไพรซ์ คอร์ป เพื่อซออนเนต และถ่ายโอนเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงเพื่อองค์กรของตัวเอง พอเออร์วิ่งรายงานเรื่องนี้พร้อมทั้งยืนยันด้วยเอกสาร ผมก็เริ่มส่งคคนตามประกบจนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ข้อมูลว่าโมนิกานัดพบกับ อลัน ทีทอน เจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามของยุโรป...ผมตามเธอไปพร้อมกับตำรวจและหน่วยสวาทติดอาวุธครบมือ”“ตำรวจคงจับเธอได้แล้วใช่ไหมคะ แดเนียล?”หญิงสาวถามอย่างกระตือรือร้น ความตื่นเต้นประดังอยู่ในอกแทบระเบิดด้วยอยากรู้วาระสุดท้ายของนายใหญ่แห่งไซออนเนต ทว่าแดเนียลกลับยิ้มขื่นและตอบว่า“โมนิกาเป็นคนเก่ง เธอเป็นอัจฉริยะ แต่...” ชายหนุ่มหยุดคำพูดจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยถาม“เธอหนีไปได้ใช่ไหมคะ?”ร่างสูงส่ายหน้าและสูดลมหายใจลึก “โมนิกา...ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ...วิสามัญ”“พระเจ้า!”“เราจัดพิธีศพให้เธอและฝังเธอไว้ในสุสานของตระกูล เมื่อไม่มีนายใหญ่ ไซออนเนตก็ถึงจุดจบ”“บางที...อาจจะไม่” อลินทิราขืนตัวออกจากแขนแกร่ง ดวงตาคู่สวยรื้นน้ำและแดงก่ำ“อาจเป็นจุดจบของไซออนเนต แต่คุณ
“ตอนผมไปโรงพยาบาลและพบหมอที่รักษาคุณ เขาบอกว่าภรรยาของผมอาการดีขึ้นมากและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ หมอกำชับผมให้ดูแลคุณเป็นพิเศษ ผมคิดว่าจะไม่ถามอะไรต่อจนคุณหมอเข้ามาแสดงความยินดีที่ผมจะได้เป็นพ่อคน เพราะภรรยาของผมตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว”หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก เธอรับฟังทุกอย่างแต่เหมือนยังมีสิ่งค้างคาใจ“แดนคะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหนีหรือปกปิดเรื่องนี้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าคุณกลับไปแคลิฟอเนียเป็นเพราะคุณต้องรีบกลับไปหาโมนิกาหรือเปล่า”“ใช่...โมนิกาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมต้องรีบกลับไปที่นั่น”ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ลังเลและทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายหมองลงอย่างเหนได้ชัด กระทั่งเขาพูดต่อทั้งที่กอดเธอไว้แน่น“ตอนที่คุณยังไม่ฟื้นหลังจากหมอผ่าตัดเอากระสุนฝังในออก ผมได้รับโทรศัพท์จากเออร์วิ่ง เขาเป็นนักสืบเอกชนฝีมือดีที่ผมจ้างมาสืบเรื่องนี้ เออร์วิ่งให้ผมรีบกลับไปที่ซานตาโมนิกาด่วนเพราะเขามีข้อมูลบางอย่างให้ผมดู มันเป็นข้อมูลความผิดปกติทางด้านการเงินของบริษัท ตอนแรกที่เขาเข้ามาสืบเรื่องชิปที่หายไป เขารู้แค่ว่ามันเชื่อมโยงกับองค์กรลับไซออนเนต แต่การล้วงข้อมูลลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ทำให้เออร์วิ่งพบกับสิ่งที่น่าต
“ที่ร้านอาหารของลุงเคิร์คในเมืองกำลังหาพนักงานเสริ์ฟเพิ่ม...เอ้อ...ถ้าลูกสนใจจะทำ”“ก็ไม่เลวนะคะ แต่หนูขอเวลาอีกสักพัก”“เมื่อไหร่ก็ได้จ้ะ เมื่อไหร่ก็ได้ที่หนูพร้อม”หญิงสูงวัยยังไม่ทันยกน้ำชาขึ้นจิบก็ได้ยินเสียงแตรรถดังที่หน้าบ้าน“โอ...ตายจริง แม่ลืมซะสนิทเลย” นางวางแก้วชาและเบิกกว้าง “แม่ลืมว่าเช้านี้นัดกับคุณแบรดฟอร์ด เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันเข้าไปซื้อของในเมือง อัลลี่จ๊ะ...หนูคงต้องกินอาหารเช้าคนเดียวแล้วล่ะจ้ะ”“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูไปส่งนะคะ”“ไม่ต้องจ้ะ อัลลี่ หนูกินไปเถอะ แม่ไปก่อนนะจ๊ะ อาจกลับมาตอนบ่าย ๆ”อลินทิราเอียงศีรษะเป็นเชิงรับรู้และเมื่อแม่บุญธรรมของเธอลุกออกไปหญิงสาวจึงเลื่อนจานพาสต้าตรงหน้าไปไว้ด้านข้าง เธออยากกินอาหารฝีมือดาเลียมากที่สุดตั้งแต่กลับมาถึงที่นี่และนางก็จัดเตรียมขอที่บุตรสาวบุญธรรมโปรดปรานมากที่สุดนั่นคือเมนูอาหารอิตาเลียนแต่หญิงสาวกลับลืนมันไม่ลง ผะอืดผะอมจนบางครั้งแทบไม่อยากหันไปมอง นี่คงเป็นอาการแพ้ท้อง ถึงเธอไม่บอกแต่ดาเลียก็จะต้องรู้ในสักวันด้วยตัวนางเองร่างบอบบางลุกขึ้นไปหยุดยืนที่หน้าต่างห้องครัว ภาพภูเขาสีน้ำตาลแดงบนที่ราบทุ่งหญ้าเบื้องนอกท
“อาการของคุณดีขึ้นมากแล้วนะครับหลังจากพักฟื้นมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน หมอว่าตอนนี้คุณซอนญ่าคงกลับบ้านได้แล้วล่ะครับ”นายแพทย์สูงวัยเอ่ยกับหญิงสาวร่าบอบบางในชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มซึ่งนั่งฟังผลการวินิจฉัยครั้งสุดท้ายบนเตียงผู้ป่วย เขาก้มลงดูแผ่นชาร์ตพลางยิ้มรื่น“จะให้พยาบาลแจ้งคุณแดเนียล ไพรซ์ ไหมครับว่าคุณจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้”“คงไม่ต้องหรอกค่ะ...เอ้อ...ตอนนี้เขาคงกำลังยุ่งอยู่กระมังคะ ถ้ายังไงฉันจะบอกให้เขาทราบเองค่ะ”“ครับ...ถ้าอย่างนั้นก็อยาลืมบอกข่าวดีกับเขาด้วยก็แล้วกันนะครับว่าตอนนี้คุณกำลังตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว ผมจะบอกคุณแดเนียลตั้งแต่วันที่เขากลับแคลิฟอเนีย แต่วันนั้นเขาดูเร่งร้อนมากก็เลยไม่ทันได้พูดอะไร แต่ผมคิดว่าถ้าเขารู้ก็คงจะดีใจมาก”นายแพทย์สูงวัยกล่าวอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของคนไข้“ค่ะ...คุณหมอ ขอบคุณมากนะคะ”อลินทิรายิ้มรับแต่หัวใจดวงนั้นทั้งหวาดหวั่นและรันทดท้อด้วยคิดไปต่าง ๆ นานา หลังถูกกระสุนปืนสไนเปอร์ของเฟลรอฟตอนหนีเข้าไปในแคนยอน แลนด์กับแดเนียลเธอก็ถูกส่งมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดและหลับไม่รู้สึกตัวนานเกือบสัปดาห์ กระส
แดเนียลตะโกนทว่าหญิงสาวกลับยืนนิ่ง เธอมองไปรอบตัวซึ่งถูกโอบล้อมด้วยหน่วยสวาท ร่างเพรียวระหงกำหมัดแน่น เธอจะไม่ยอมถูกจับที่นี่เป็นเด็ดขาด“ได้...แดเนียล แต่ฉันอยากคุยกับพี่ก่อนมอบตัวกับตำรวจ”โมนิกายื่นข้อเสนอสักครู่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งซึ่งยืนข้าง ๆ แดเนียลก็ยื่นหน้าเข้ามากระซิบ“ว่ายังไงครับ คุณแดเนียล จะเข้าไปคุยกับเธอหรือเปล่า?”คนถูกถามพยักหน้าก่อนตอบ “ครับ...ผมจะคุยกับเธอ”“ระวังตัวด้วยนะครับ เราไม่รู้ว่าเธอมีแผนอะไรบ้าง”“ขอบคุณครับ ผมจะระวัง” แดเนียลรับปากก่อนเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับญาติผู้น้อง ทุกอย่างเงียบกริบ บรรยากาศรอบตัวบีบคั้นจนน่าอึดอัด เจ้าหน้าที่หน่วยสวาททุกนายซึ่งมีอาวุธครบมืออยู่ในท่าเตรียมพร้อมตลอดเวลากระทั่งชายหนุ่มเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าหญิงสาว“โมนี่” แดเนียลลดเสียงต่ำ เขาเครียดเกร็งในช่องท้องเมื่อต้องมาอยู่ในสภาวการณ์ล่อแหลมและอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ เขาเหมือนตัวประกันของโมนิกา ญาติผู้น้องที่จับจ้องไม่วางตาเมื่อบทสนทนาเริ่มขึ้น“โมนิกา...ตอนนี้คนในองค์กรของเธอถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไว้เกือบหมดแล้ว มูลนิธิถูกสั่งปิด ไซออนเนต...จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว”“พี่คิดว่าเรื่องทุกอย่