ครั้งหนึ่งเขาเคยกล่าวไว้ว่าเขาจะปกป้องซูหยิงเซี่ยอย่างดี และไม่ปล่อยให้เธอได้รับอันตรายใด ๆ หากเขาไม่สามารถแม้แต่จะรักษาสัญญานี้ได้ เขาจะมีคุณสมบัติเรียกตัวเองว่าผู้ชายได้อย่างไร!“ฉันยังแสดงพลังได้ไม่ถึงครึ่ง แกยังคิดว่าตัวเองยังจะมีโอกาสชนะอยู่ไหม?” หานหลงกล่าวกับหานซานเฉียน“แกยังไม่เห็นเหรอว่าฉันยังไม่ได้ออกแรง?” หานซานเฉียนยิ้มและพูด ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ แต่เขารู้ว่าเขาไม่สามารถล้มลงได้ ไม่อย่างนั้นไม่ใช่แค่เขาที่จะต้องตาย แต่ซูหยิงเซี่ยก็จะตายด้วยเช่นกัน“แกไม่มีโอกาสแม้แต่จะเคลื่อนไหว หรือว่าฉันจะให้โอกาสแกได้ลองใช้ความสามารถของตัวเองดู?” หานหลงหัวเราะ ความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองนั้นห่างไกลกันมาก หานซานเฉียนอย่าได้คิดว่าจะได้สัมผัสแม้แต่เส้นผมของเขา"ฉันกลัวว่าแกจะถูกฉันต่อยจนตายน่ะสิ แกกล้าไหมล่ะ?" หานซานเฉียนจงใจยั่วยุเขา หากอาศัยความสามารถของเขาก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเข้าใกล้หานหลง และโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเขาจึงต้องการให้หานหลงยืนขึ้นและถูกทุบตี ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะสามารถแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่
ความกังวลใจของฉีฮู่และซูหยิงเซี่ยตรงกันข้ามกับหานลี่อย่างสิ้นเชิงหานหลงยังคงเอามือไพล่หลัง เขาไม่ได้ใส่ใจหานซานเฉียนเลยสักนิด และเขาก็ไม่ต้องการแม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้นเพื่อมองคนอ่อนแอเช่นนี้หานลี่นั่งอยู่บนโซฟาราวกับเป็นเทพเจ้า พร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ในไม่ช้าซูหยิงเซี่ยก็จะหมดหวังและหานซานเฉียนก็จะได้รู้ว่าความแตกต่างระหว่างเขากับหานหลง อย่างไรก็ตาม ความดื้อรั้นของหานซานเฉียนยังคงทำให้หานลี่รู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบหานเฟิงกับหานซานเฉียน เขาต้องยอมรับว่าหานซานเฉียนดีกว่าหานเฟิงมาก ถ้าหานเฟิงมีความสามารถครึ่งหนึ่งของหานซานเฉียน และเมื่อให้เขาสืบทอดตำแหน่งผู้นำ เขาจะต้องทำให้ตระกูลหานพัฒนาขึ้นอย่างแข็งแกร่งแน่ “น่าเสียดายที่แกเป็นเพียงคนที่ถูกขับไล่เท่านั้น ถึงจะมีความสามารถ แต่ก็เกิดมาต้อยต่ำ และต้องเป็นข้ารับใช้ไปตลอดชีวิต นี่คือชะตากรรมของแกอย่างไม่มีทางเลือก” "หานลี่พูดเสียงเรียบ หัวใจของซูหยิงเซี่ยพองขึ้นจนจุกลำคอ เธอกำหมัดอย่างไม่รู้ตัว และให้กำลังใจหานซานเฉียนอยู่ในใจ“ไอ้หนู แกมีพลังแค่นี้เองเหรอ?” ก่อนที่กำปั้นจะมาถึงหานหลง เขาก็ถากถางหานซาน
เดิมทีเขาสามารถฆ่าหานซานเฉียนให้ตายได้ง่าย ๆ เหมือนการขยี้มด แต่มันเป็นเพราะเขาประมาทเกินไป เปิดโอกาสให้หานซานเฉียนโจมตีจนนำมาสู่ผลลัพธ์แบบนี้หานหลงเสียใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะตายอย่างอัปยศเช่นนี้!แต่เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว นึกเสียใจไปจะมีประโยชน์อะไร?หานหลงส่ายหัวอย่างอ่อนแรงและหลับตาลงในที่สุดหานลี่รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า เขายืนนิ่งด้วยความงุนงง ไม่เคยคิดว่าจู่ ๆ เรื่องจะพลิกผันมาเป็นแบบนี้เขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าขยะอย่างหานซานเฉียนจะสามารถเอาชนะหานหลงถึงตายได้ด้วยหมัดเดียว!ตอนนั้นเองฉีฮู่เดินไปหาหานซานเฉียนด้วยความประหลาดใจและพูดว่า "พี่ซาน...พี่ซานเฉียน พี่ต่อยเขาจนตายจริง ๆ!"ฉีฮู่รู้ถึงความแข็งแกร่งของหานหลง และความต่างระหว่างหานซานเฉียนและหานหลงเป็นอย่างดี เขาไม่ได้คาดหวังกับการโจมตีของหานซานเฉียนเลย แต่ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขาแตกต่างไปจากสิ่งที่เขาจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิงหมัดเดียว!หานซานเฉียนฆ่าคนที่แข็งแกร่งอย่างหานหลงได้ด้วยหมัดเดียว!"ฉันบอกแล้วไง ถ้าฉันไม่ให้นายตาย นายก็ไม่มีสิทธิ์ตาย" หานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ เขาไม่ได้แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ ขอเพียงแค่หานหลงให
“นายกล้าเปรียบเทียบรูปแบบของเหยียนจิงกับอเมริกาอย่างนั้นนเหรอ ช่างน่าขันเสียจริง” หานลี่กล่าวอย่างดูถูก ในใจของเขาสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ สำหรับการพัฒนาของจีนนั้นไม่สามารถเทียบได้กับส่วนหนึ่งในสิบของสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ และการที่หานซานเฉียนเอาประเทศทั้งสองมาเทียบกันแสดงให้เห็นถึงความไม่รู้หลังจากได้ยินแบบนั้นหานซานเฉีนก็หัวเราะและพูดว่า "ใครกันแน่ที่น่าขัน ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าประเทศจีนไม่ใช่ประเทศจีนอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป และการกลายเป็นมหาอำนาจเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น บางทีคุณควรกลับมาดูภูเขาและแม่น้ำอันยิ่งใหญ่ และการพัฒนาของจีนตั้งนานแล้ว คุณจะได้รู้ว่าตัวเองโง่แค่ไหน”หานลี่ไม่สนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของจีนมาหลายปีแล้ว เพราะหลังจากหานเทียนหยางจากไป เขาก็ขีดเส้นแบ่งระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ครอบครัวตระกูลหานทุกคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาต้องการดูเรื่องตลกของหานเทียนหยาง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดว่าจีนจะมีการพัฒนาอะไรได้ต้องบอกว่าในเรื่องนี้คนในตระกูลหานในเมริกานั้นโง่เขลามาก ภาพจำเกี่ยวกับประเทศจีนในใจของพวกเขายังคงหยุดเวลาไว้ที่หลายสิบปีก่อน และพวกเขาก็ไม่ต้
หานซานเฉียนได้ตัดสินแล้วว่าจะฆ่าเขา ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ไม่สามารถหลีกหนีความตายได้“แกคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไง?” หานลี่พูด“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปลงนรกซะ” หานซานเฉียนออกแรงนิ้วมือของเขา มีแค่เสียงป๊อก เขาก็ตัดคอของหานลี่ทันทีผู้นำตระกูลหานในสหรัฐอเมริกาไม่คิดมาก่อนว่าการเดินทางมาประเทศจีน จะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาหานซานเฉียนเก็บคำถามไว้ในใจ เขาไม่รู้ว่าหานลี่ซ่อนอะไรไว้ แต่ถ้าหานลี่ไม่ยอมพูด เขาก็ได้เพียงค่อย ๆ ตรวจสอบด้วยตัวเองเท่านั้น หากมีเรื่องนี้อยู่จริง เดี๋ยวมันก็ปรากฎขึ้นเองไม่ช้าก็เร็ว"ข่าวการตายของหานลี่ห้ามให้ใครรู้" หานซานเฉียนกล่าวกับคนทั้งสี่ในคฤหาสน์แม้ว่าซูกั๋วเย่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ใบหน้าซีดเซียวของเขาก็ไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะวิธีการฆ่าของหานซานเฉียน ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของเขานั้นแข็งแกร่งมาก ในเมื่อเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วเขาทนกับความอัปยศอดสูในตระกูลซูมาตั้งหลายปีได้อย่างไร?ซูกั๋วเย่าไม่รู้ว่าในชีวิตของหานซานเฉียนการอดกลั้นแทบจะเป็นสิ่งที่เขาต้องทำทุกวัน ตั้งแต่อายุ 12 ปี เขาก็ไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้ใครเห็น"ซานเฉีย
ขณะที่เทียนหลิงเอ๋อร์และเทียนหงฮุยกำลังสงสัยว่าใครโทรหาเทียนฉางเฉิงตอนกลางดึกแบบนี้ เทียนฉางเฉิงก็ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างตื่นเต้นร่างกายของเทียนฉางเฉิงสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัด และใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าเขาได้รับสารกระตุ้นในทันใด“พ่อครับ พ่อเป็นอะไรไป”“คุณปู่คะ ใครโทรมาเหรอคะ”เมื่อเห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามาเป็นหานซานเฉียน เทียนฉางเฉิงก็รู้สึกตื่นเต้นจนพูดไม่ออก เขาชี้ไปที่โทรศัพท์ทั้งสองยิ่งงงงวยมากขึ้น เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเทียนฉางเฉิงถึงได้ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก“ซาน...ซานเฉียน หานซานเฉียน!”เทียนฉางเฉิงหน้าแดง ก่อนจะสำลักคำพูดออกมาเทียนหลิงเอ๋อร์และเทียนหงฮุยมีปฏิกิริยาแบบเดียวกันอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งสองเด้งตัวขึ้นจากโซฟาทันทีเมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นเบอร์ของหานซานเฉียน พวกเขาต่างก็รู้สึกหายใจติดขัด“พี่ชายจริง ๆ ด้วย ตอนนี้เขากำลังโทรหาคุณปู่ หรือว่าจะเขาจัดการกับหานลี่ได้แล้วเหรอคะ!” เทียนหลิงเอ๋อร์พูดด้วยความตกตะลึงเทียนหงฮุยประหลาดใจมากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดีในสายตาของเขา หานซานเฉียนมีเส้นทางเดียวเท่านั้นคือความตาย เขาไม่คิดว่าหานซานเฉียนมี
หานซานเฉียนสามารถจัดการหานลี่ได้ ตระกูลในสหรัฐอเมริกาไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอีกต่อไป บางทีนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนชีวิตของเขา ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าในอนาคตหานซานเฉียนจะมีสถานะสูงส่งแค่ไหน แต่ตระกูลเทียนจะถูกจองจำในหยุนเฉิงตลอดไป ความต่างระหว่างเทียนหลิงเอ๋อร์และหานซานเฉียนจะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นก็แปลว่าเทียนหลิงเอ๋อร์จะมีคุณสมบัติน้อยลงเรื่อย ๆ"ฮึ่ม" เทียนหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและทำเสียงขึ้นจมูก "พี่ชายของหนูไม่บ้าอำนาจเหมือนพ่อหรอกค่ะ เขาเคยพูดกับหนู ว่าจะปกป้องหนูตลอดไป"“ก็หวังว่าอย่างนั้น” เทียนหงฮุยถอนหายใจ"หงฮุย อย่าตัดสินคนอื่นด้วยความคิดเห็นที่เลวร้าย หานซานเฉียนเป็นคนรักษาสัญญา เขาจะไม่มีวันผิดสัญญา หากนายได้รู้จักเขามากขึ้น นายก็จะเข้าใจเองว่าทำไมเขาถึงคู่ควรแก่ความไว้วางใจ” เทียนฉางเฉิงกล่าว“พ่อครับ ผมคิดผิดจริง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมไม่ควรประมาทเขา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าต้นไม้ใหญ่ในปัจจุบันของเขาจะให้ร่มเงาแก่เราในอนาคตหรือไม่นะครับ” เทียนหงฮุยกล่าวอย่างเป็นกังวล“อะไรนะ นายยังต้องการใช้เขาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตระกูลเทียนงั้นเหรอ? นายรีบโยนความคิดแบบนี้ทิ้งไปให
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้เฉินหลิงเหยาที่งุนงงก็ตื่นขึ้นทันทีและลุกขึ้นจากท่านอน"ทำไมปุบปับแบบนี้ล่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?" เฉินหลิงเหยาถามด้วยความสงสัย เฉินหลิงเหยารู้ดีว่าตลอดช่วงเวลาการหย่าร้างซูหยิงเซี่ยทุกข์ทรมานมากแค่ไหน และเธอก็หวังให้ทั้งสองแต่งงานกันใหม่เร็ว ๆ แต่สิ่งนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนเธอสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อนน่ะ เธอแค่ช่วยฉันหาที่พักดี ๆ ก็พอ ไม่ต้องถามอะไรมากกว่านี้แล้ว” ซูหยิงเซี่ยกล่าวทันใดนั้นเฉินหลิงเหยาก็หัวเราะขึ้นมาและพูดว่า "เธอติดค้างเค้าตั้งสามปี มันต้องจ่ายคืนให้เขากี่ครั้งกันนะ เธอจะทนได้เหรอ?"แก้มของซูหยิงเซี่ยเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที แม้ว่าเธอจะรู้สึกอายอยู่บ้าง แต่เมื่อเธอตัดสินใจโทรหาเฉินหลิงเหยาแล้ว นั่นก็หมายความว่าเธอพร้อมที่จะทุ่มสุดตัว“รีบช่วยฉันหาเร็วเข้า อย่ามัวแต่พูดเรื่องไร้สาระ” ซูหยิงเซี่ยกล่าว"ค่ะ ค่ะ ค่ะ ท่านประธานซูของฉัน ไม่ต้องกังวลนะคะ จะหาสถานที่ที่ทำให้เธอพึงพอใจอย่างแน่นอน เจ้าถิ่นหยุนเฉินอย่างฉัน เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ใช่ปัญหา" เฉินหลิงเหยาตบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ ณ โรงแรมเพนนินซูล่า หานเหยียนก
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ