เพื่อไม่ให้หานลี่สงสัย หานเหยียนจึงต้องทำงานบังหน้า เธอใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างคนให้ออกไปกวาดล้างทั่วหยุนเฉิง ราวกับว่าเธอจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะพบหานเฟิง และแม้แต่คนของม่อหยางเองก็ถูกว่าจ้างเมื่อม่อหยางรู้เรื่องนี้ เขาก็แจ้งกับหานซานเฉียนทันทีและถามหานซานเฉียนว่าจะจัดการอย่างไร ขอเพียงแค่เขาสั่ง การกวาดล้างในหยุนเฉิงก็สามารถหยุดลงทุกเมื่อแต่สิ่งที่ทำให้ม่อหยางประหลาดใจก็คือ หานซานเฉียนไม่ได้สั่งให้หยุดเรื่องนี้ แต่กลับขอให้เขาส่งคนไปเพิ่ม ซึ่งนั่นทำให้ม่อหยางงงมาก"ซานเชียน อย่าบอกนะว่านายกำลังสร้างสันติภาพกับหานเหยียนน่ะ?" ม่อหยางถามอย่างสงสัย"ฉันจะสร้างสันติภาพกับผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง แต่ละครฉากนี้ต้องให้เธอแสดงจนสมใจ" หานซานเฉียนกล่าวแสดง?ม่อหยางไม่รู้ว่าหานซานเฉียนคิดจะทำอะไร แต่ในเมื่อหานซานเฉียนต้องการให้เขาทำเแบบนั้น เขาก็จะทำตามที่หานซานเฉียนต้องการ"เอาล่ะ ฉันไม่สามารถเข้าใจความคิดที่บ้าบิ่นของนายได้ แต่เมื่อจบเรื่อง นายต้องอธิบายเพื่อคลายความสงสัยของฉันด้วย" ม่อหยางกล่าว“อืม หลังจากฝุ่นสงบลง ฉันจะบอกทุกเรื่องที่นายอยากรู้”หลังจากวางสาย รอยยิ้มบนใบหน้าของหานซานเฉีย
การนอนหลับในสองคืนที่ผ่านมาหานซานเฉียนมักจะฝันร้ายแปลก ๆ และมักจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวกลางดึก ปวดเหมือนมีใครมาเคาะหัวของเขาให้เปิดออกยังไรอย่างนั้น แต่หลังจากตื่นขึ้นมา อาการปวดก็ค่อย ๆ หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช้าวันรุ่งขึ้น ฉี๋อีหยุนตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารให้หานซานเฉียน เพราะเธอพบว่าหานซานเฉียนไม่ได้ออกไปวิ่งจ้อกกิ้งตอนเช้าในช่วงสองวันที่ผ่านมา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพราะเขาพักผ่อนไม่เพียงพอ“ทำไมสีหน้าคุณแย่ขนาดนี้?” ฉี๋อีหยุนถาม เมื่อหานซานเฉียนออกมาจากห้องหานซานเฉียนส่ายหัวและพูดว่า "ไม่มีอะไรหรอก อาจเป็นเพราะผมกังวลเกี่ยวกับหานลี่มากเกินไป"นี่คือคำอธิบายที่หานซานเฉียนหาให้กับตัวเอง มีเพียงคำอธิบายนี้เท่านั้นที่ทำให้เขาสามารถเข้าใจได้ฉี๋อีหยุนพยักหน้าอย่างเข้าใจและพูดว่า "ทานข้าวต้มเถอะ ถ้าคุณไม่สบายใจจริง ๆ วันนี้ก็ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้านนะ"หลังจากที่หานซานเฉียนเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา ยังไม่ทันได้ทานข้าว เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรหาหานเหยียน"หานซานเฉียน นายโทรมาขอความเมตตาจากฉันเหรอ?" หานเหยียนเพิ่งตื่น ก่อนที่หานลี่จะมา เธอนอนจนถึงเที่ยงทุกวัน แต
"ไม่ทราบว่าคุณต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง หรือที่ที่มีความเป็นส่วนตัวดีคะ" พนักงานถาม"ขอแบบเป็นส่วนตัวครับ" หานซานเฉียนกล่าว การพบกันระหว่างเขากับหานเหยียนไม่ควรให้หานลี่รู้ ไม่อย่างนั้นหานเหยียนอาจลำบากหานซานเฉียนคิดว่า การร่วมมือระหว่างเขากับหานเหยียนจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นหลังจากการพบกันในวันนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดเรื่องนี้แทนเธอ“ตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ” พนักงานพาหานซานเฉียนไปยังที่นั่งด้านในหานซานเฉียนสั่งกาแฟอเมริกาโน่หนึ่งแก้วและมองดูเวลา เขาและหานเหยียนนัดกันตอนสิบเอ็ดโมง ด้วยนิสัยหยิ่งยโสของผู้หญิงคนนี้ เธอน่าจะมาตรงเวลาพอดี ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่รีบร้อนอะไรเขาเพลิดเพลินกับกาแฟ แม้ว่านี่จะไม่ใช่งานอดิเรกของหานซานเฉียน แต่ก็ดีที่ได้ลิ้มรสขมนี้บ้างหลังจากนั้นไม่นาน หานซานเฉียนก็ได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายจากด้านนอก ราวกับว่าลูกค้าไม่พอใจกับบริการ และกำลังโต้เถียงกับพนักงานเพราะมันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปยุ่ง แต่สถานการณ์กลับแย่ลงเรื่อย ๆ แถมยังมีเสียงผู้หญิงร้องไห้ตามมา ทำให้หานซานเฉียนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหานซานเฉียนลุกข
พนักงานมองไปที่หานซานเฉียนด้วยความตกตะลึง ตอนแรกนึกว่าเขาจะถูกทุบตี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนตั้งมายมายขนาดนี้แต่กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักคน!สุดยอด!สุดยอดมากจริง ๆ!"นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าเก่งของพวกนาย?ฉันเห็นแล้ว แล้วยังไงล่ะ?" หานซานเฉียนยิ้มจาง ๆ อุ้งเท้าอ่อนแบบนี้น่าเบื่อจริง ๆ แต่เมื่อลองคิดดู เขาก็เก่งได้แค่กับพวกเด็กน้อยเหล่านี้เท่านั้น เพราะหากคู่ต่อสู้คือบอดี้การ์ดของหานลี่ล่ะก็ คนที่อยู่บนพื้นอาจต้องเป็นเขาเสียเอง"แก..." ชายหัวเหลืองกัดฟันมองไปที่หานซานเฉียนแล้วพูดว่า "แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้ามาตีฉัน เชื่อไหมว่าฉันสามารถทำให้แกหายไปจากโลกนี้ได้”"เป็นเด็กเป็นเล็ก ริอาจจะทำให้คนหายไปจากโลก ใครกันที่ให้ความกล้านี้กับนาย?" หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้า และยกตัวชายหัวเหลืองขึ้นกลางอากาศแม้ว่าชายหัวเหลืองจะถูกทุบตี แต่ก็ไม่มีร่องรอยความกลัวในดวงตา ราวกับว่าเขามีแบล็คที่แข็งแกร่งมาก และมั่นใจว่าจะมีโอกาสแก้แค้นหานซานเฉียนอย่างแน่นอน“ไอ้โง่ ลองแตะฉันอีกทีดูสิ?” ชายหัวเหลืองเย้ยหยันหานซานเฉียนชกหน้าชายหัวเหลืองอย่างไม่ลังเล ทำให้ชายหัวเหลืองกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ไม่รู้ว่าหานเหยียนมายืนอยู่ที่ประตูร้านกาแฟตั้งแต่เมื่อไหร่ หลังจากเห็นฉากทั้งหมดนี้ รอยยิ้มดูถูกก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอหานเหยียนเดินไปหาหานซานเฉียนแล้วพูดนิ่ง ๆ "นายมีความสามารถแข่งกับขยะเหล่านี้ได้เท่านั้นแหละ สิ่งนี้มันทำให้นายรู้สึกเหนือกว่าใช่ไหมล่ะ?""มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เหนือกว่า แต่เป็นเรื่องดีที่ได้สอนบทเรียนให้พวกสวะ" หานซานเฉียนกล่าวหานเหยียนส่ายหัว เธอดูถูกพฤติกรรมของหานซานเฉียนเอามาก ๆ อาศัยความแข็งแกร่งรังแกผู้อ่อนแอกว่า มีแต่เศษสวะเท่านั้นที่จะทำเรื่องแบบนี้“นายไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ สวะยังไงก็คือสวะ”เมื่อหานซานเฉียนเห็นว่าพนักงานลบวิดีโอแล้ว ก็โยนโทรศัพท์กลับไปที่ชายหัวเหลืองก่อนจะพูดว่า "ไสหัวไปซะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก"คนพวกนั้นตะเกียกตะกายออกจากร้านกาแฟไปทันทีพนักงานขอบคุณหานซานเฉียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หานซานเฉียนเพียงแค่ยิ้มตอบเบา ๆ เมื่อกลับมานั่ง หานซานเฉียนก็ถามหานเหยียนว่า "จะดื่มอะไรไหม?""มีอะไรก็รีบพูดมา เวลาของฉันมีค่า และฉันไม่อยากเสียมันไปโดยเปล่าประโยชน์กับขยะอย่างนาย" หานเหยียนพูดเสียงเย็น เธอไม่ได้อยากออกมาพบหานซานเฉียน เพราะมันทำให้
“แค่การตายของหานเฟิง มันยังไม่มั่นคงพอที่เธอจะได้นั่งในตำแหน่งผู้นำตระกูลหานหรอกนะ” หานซานเฉียนกล่าว“หานเฟิงตายแล้ว ในบรรดาสมาชิกในครอบครัวสายตรงของตระกูลหานยังจะมีใครอีกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะแข่งขันกับฉัน? แกกล้าดียังไงมาบอกว่าฉันไม่สามารถนั่งบนตำแหน่งผู้นำตระกูลได้” หานเหยียนกล่าวอย่างเหยียดหยาม“ลูกชายของหานลี่ตายแล้ว หากเขาไม่ได้ตรวจสอบจนพบความจริง เขาจะยอมไหมล่ะ?” หานซานเฉียนหัวเราะ"ดังนั้นในความคิดของฉัน การตายของหานเฟิงมันเลยยังไม่เพียงพอ จะต้องให้หานลี่ตายด้วย"หานเหยียนขนลุกซู่ทันที หานลี่ตายอย่างงั้นเหรอ!เธอไม่เคยคิดว่าจะทำอะไรกับหานลี่มาก่อนการฆ่าหานเฟิงเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดที่หานเหยียนสามารถทำได้แล้ว และทุกวันนี้เธอฝันร้ายเกือบทุกคืน เธอฝันว่าหานเฟิงจับขาของเธอ และร้องขอความเมตตาพอเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก หานเหยียนก็รู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองมาที่เธอในความมืด ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่กล้าแม้แต่จะปิดไฟนอนในตอนกลางคืนหากเธอฆ่าหานลี่ เธอจะต้องถูกสิ่งนี้ทรมานจิตใจมากขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน"เป็นไปไม่ได้!" หานเหยียนส่ายหัวโดยไม่ลังเล และพูดว่า "นายจะให้
หลังจากหาเหยียนออกจากร้านกาแฟ หานซานเฉียนก็นั่งต่ออยู่พักหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ต้องตัดสินใจแล้ว แต่สำหรับหานซานเฉียนมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียหากหานเหยียนกล้าจัดการหานลี่ ก็หมายความว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมที่สุด และหานซานเฉียนจะไม่สามารถควบคุมคนแบบนี้ได้ในอนาคต เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกให้หานเหยียนเป็นหุ่นเชิด เมื่อไหร่ที่หานเหยียนมีอำนาจในมือ หานซานเฉียนจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่อันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย เธอควบคุมตระกูลหานในอเมริกา และการโจมตีที่เธอจะนำมาสู่หานซานเฉียนก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเช่นกันสำหรับหานซานเฉียน หลังจากแก้ไขปัญหาที่เกิดจากหานลี่แล้ว แต่ปัญหาสำคัญยังไม่หมดไป เพราะผู้หญิงบ้าคนนี้ หลังจากที่เธอได้ครอบครองอำนาจของตระกูลหาน นั่นก็เป็นสิ่งที่หานซานเฉียนจะต้องหวาดกลัวเช่นกัน"บางทีเธออาจจะน่ากลัวกว่าหานลี่ด้วยซ้ำ" หานซานเฉียนส่ายหัวพูดกับตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ทันทีที่เขายืนขึ้น ชายหัวเหลืองก็เดินมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งท่าทางคุกคาม“พี่หลัว คนนี้แหละ” ชายหัวเหลืองชี้ไปที่หานซานเฉียนและพูดด้วยความโกรธหานซานเฉียนยิ้มเบา ๆ ผู้ชายคนนี้ไม่รู้จักความตายสินะ ต
หลังจากได้ยินพนักงานถาม ผู้จัดการร้านก็ส่ายหัวทันที ในฐานะผู้จัดการร้าน สิ่งที่เธอให้ความสำคัญไม่ใช่ความปลอดภัยของหานซานเฉียน แต่คือจะสร้างปัญหาให้กับร้านกาแฟหรือไม่เมื่อครู่หานซานเฉียนช่วยพนักงานจัดการปัญหา แน่นอนว่าเธอรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่อยากจะมีปัญหากับคนเหล่านี้การทำธุรกิจ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการพบเจอกับพวกนอกกฎหมายแบบนี้ เมื่อคุณขัดแย้งกับพวกเขา ก็อย่าได้คิดที่จะได้ทำธุรกิจในอนาคต หากมีอันธพาลสองสามคนนั่งอยู่ที่ประตู ใครจะกล้าเข้ามาบริโภคกันล่ะ?“ไม่เกี่ยวกับเรา อย่าเข้าไปยุ่งเชียว” ผู้จัดการร้านกล่าวพนักงานรู้สึกร้อนใจ จะไม่เกี่ยวกับเธอได้อย่างไร เรื่องทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากเธอต่างหาก"แต่เป็นเพราะฉัน เขาถึงได้มีปัญหากับคนพวกนี้" พนักงานกล่าว“นั่นเป็นเพราะเขาอยากอวดเก่งเอง เธอคิดว่าคนพวกนี้เป็นคนที่จะมีเรื่องด้วยได้งั้นเหรอ? ถ้าเธอทำให้พวกมันไม่พอใจ ทั้งคาเฟ่จะต้องเดือดร้อนแน่” ผู้จัดการร้านต่อว่าพนักงานกังวลมากจนน้ำตาคลอเบ้า เพราะตอนนี้หานซานเฉียนถูกต้อนจนมุมแล้วเดิมทีหานซานเฉียนคิดว่าเหล่าหลัวเป็นเพียงผู้ชายที่ใช้กล้ามเนื้อข่มขู่ผู้คนเท่านั้น แต่ยิ