หลังจากที่เจ้านายตื่นจากความตกใจ เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้นและถามฉีหลานว่า "เธอไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม จงเหลียงจะมาที่บริษัทของเราจริง ๆ เหรอ?"“หัวหน้าคะ เขาเป็นคนบอกกับฉันเอง เขาจะมาแน่นอนค่ะ” ฉีหลานกล่าวเจ้านายเดินไปหาฉีหลานและจับมือเธอโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น "ฉีหลาน ถ้าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวตกลงร่วมมือกับบริษัทเราขึ้นมาจริง ๆ เธอจะเป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ของบริษัทเรา และในอนาคตเราจะตอบแทนเธออย่างดีเลย"เมื่อเห็นท่าทีของเจ้านายที่มีต่อฉีหลานแล้ว ฮวงถิงถิงก็กัดฟัน เธอเตรียมเรื่องนี้โดยหวังว่าฉีหลานจะลาออกโดยสมัครใจ เพราะเธอทำงานไม่สำเร็จ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะได้รับคุณค่าจากเจ้านายมากขึ้นจากเรื่องนี้ฮวงถิงถิงรู้จักข้อบกพร่องของตัวเองดี เธอรู้ว่าในสายตาของเจ้านาย เธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ได้เลย นับประสาอะไรกับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้"หัวหน้า คุณเชื่อในสิ่งที่เธอพูดจริงเหรอ?จงเหลียงจะมาที่บริษัทของเราได้ยังไงกันคะ" ฮวงถิงถิงพูดกับเจ้านาย เธอยังคงคิดว่าฉีหลานพูดโกหก แม้ว่าเธอจะคิดหาเหตุผลที่ฉีหลานต้องโกหกไม่ได้ แต่เธอก็ไม่อยากจะเชื่อว่าฉีหลานสามา
มิตรภาพระหว่างมี่เฟยเอ๋อร์กับฮวงถิงถิงไม่ดีขนาดที่เธอจะต้องทำสิ่งนี้ให้ และถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอจะดี เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปเปลี่ยนตารางงานของจงเหลียงได้ตามอำเภอใจ "ฮวงถิงถิง เธอมองฉันสูงไปแล้ว ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดา ๆ คนนึงในบริษัท ฉันจะเปลี่ยนตารางงานของพี่จงตามอำเภอใจได้ยังไง ขอโทษด้วยนะ ฉันทำไม่ได้จริง ๆ" มี่เฟยเอ๋อร์กล่าวฮวงถิงถิงกัดฟัน แม้ว่ามันก็สมเหตุสมผลแล้วที่มี่เฟยเอ๋อร์จะไม่ช่วย แต่เธอก็ยังรู้สึกเกลียดมี่เฟยเอ๋อร์เพราะเรื่องนี้อยู่ดี"พูดตามตรงเลยแล้วกัน ต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมช่วยฉัน" ฮวงถิงถิงกล่าวมี่เฟยเอ๋อร์ยิ้มอย่างเหยียดหยาม ฮวงถิงถิงมีสิทธิ์อะไรมาทำท่าทางหยิ่งยโส ราวกับว่าเธอคือคนรับใช้ของเธอแบบนี้“ที่ฉันรับสายเธอ ก็เพราะเห็นแก่มิตรภาพเมื่อก่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็อย่าโทรหาฉันอีก” หลังจากมี่เฟยเอ๋อร์พูดจบเธอก็กดวางสายทันทีฮวงถิงถิงเกือบจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง แต่คิดได้ว่าเธอเพิ่งซื้อมาใหม่ได้ไม่นาน สุดท้ายจึงไม่กล้าที่จะโยนมันก่อนหน้านี้ฮวงถิงถิงแทบจะไม่เชื่อว่าจงเหลียงจะมาที่บริษัทของเธอ แต่ตอนนี้ได้รับการยืนยันจากมี่เฟยเอ๋อร์แล้ว เธอรู้ได้ทันทีว่าเมื่อพร
สำหรับฉีหลาน เหตุการณ์นี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเธอก็ว่าได้ แต่สำหรับหานซานเฉียน มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างการยกมือและพยักหน้าเท่านั้น เพราะเดี๋ยวเขาก็จะลืมไปในไม่ช้า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีค่าพอที่เค้าจะเก็บมาใส่ใจ ในเวลานี้หานซานเฉียนและม่อหยางนั่งอยู่ในรถคันเดียวกันอย่างเงียบ ๆ ที่ประตูเมือง"เขาคือหลิวต้า คนเดียวที่ติดต่อกับหานกรุ๊ป เขาเข้ามาจัดการเรื่องนี้และทำเงินมากมายใน ฉันตรวจสอบญาติและคนรักของเขาดูแล้วมีเงินก้อนโตโอนเข้าไปในบัญชีธนาคารของพวกเขา ฉันว่าเงินพวกนี้ต้องมาจากหานกรุ๊ปแน่” ม่อหยางพูดกับหานซานเฉียน"นายตรวจสอบได้ละเอียดมาก แต่เราไม่ได้ต้องการเพียงแค่กุมจุดอ่อนของเขา แต่ต้องทำให้เขาทำอะไรให้เราสักหน่อย" หานซานเฉียนกล่าว ในเมื่อหานเหยียนเข้าทางหลิวต้า แสดงว่าว่าเขามีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องหมู่บ้านเฉิงจง ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถอยู่เหนือเขาได้ แต่ต้องหลอกให้เขาทำอะไรช่วยตนแทน“จุดอ่อนพวกนี้น่าจะเพียงพอที่จะขู่เขาได้” ม่อหยางกล่าวหานซานเฉียนส่ายหัว บ่งบอกว่าเขามีความเห็นที่ต่างออกไป ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ในเมื่อหลิวต้ากล้าที่จะรับเงินจำนวนมากขนาน
หานซานเฉียนเคาะประตูอย่างระมัดระวัง มันเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดก่อนที่ประตูจะเปิดออก เห็นได้ว่ามันไม่ได้ถูกล็อกเบื้องหน้าหานซานเฉียนมีสะพานเล็ก ๆ และสายน้ำไหล โรงน้ำชาที่ทรุดโทรมแห่งนี้มีบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งหานซานเฉียนไม่เคยคาดคิดมาก่อนลานด้านในไม่ใหญ่นัก แต่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีคนสองคนนั่งอยู่ใต้ศาลา คนหนึ่งคือหลิวต้า และอีกคนคือชายชราที่อาจเป็นเจ้าของโรงน้ำชาที่โม่หยางกล่าวถึงเมื่อหานซานเฉียนเห็นพวกเขา พวกเขาก็สังเกตเห็นหานซานเฉียนเช่นกันหลิวต้าขมวดคิ้ว ในขณะที่ชายชราทักทายหานซานเฉียนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน "มีแขกมาเยือนสินะ ในเมื่อมาแล้วก็เข้ามานั่งลงก่อนสิ"หานซานเฉียนไม่อืดอาด รีบเดินตรงไปใต้ศาลาทันทีชุดน้ำชาที่เรียบง่ายและถ้วยที่เต็มไปด้วยคราบชาที่เกราะอยู่เผยให้เห็นร่องรอยของกาลเวลามีคราบชาหนาในถ้วยของชายชรา แต่คราบชาในถ้วยของหลิวต้านั้นบางกว่ามาก ซึ่งนี่เป็นการเปรียบเทียบเวลา บ่งบอกว่าเขามาที่โรงชาแห่งนี้ไม่นานนัก ตอนนั้นเอง ชายชราก็ยื่นถ้วยชาให้หานซานเฉียน ซึ่งไม่ใช่ถ้วยใหม่แต่เป็นถ้วยที่มีคราบชาหนาเป็นชั้น ๆสิ่งนี้ยิ่งทำให้หลิวต้าขมวดคิ้วมากยิ่งขึ้น เพราะตอนที่เขา
หลังจากที่ชายชราจากไป ท่าทีของหลิวต้าก็เปลี่ยนไปสิ้นเชิง เขาเทเองดื่มเอง ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของที่นี่ และเขาก็ทำตัวน่าเกรงขามขึ้นราวกับว่าจงใจที่จะข่มหานซานเฉียนเมื่อเผชิญกับสถานการณ์นี้ หานซานเฉียนก็ยิ้มอย่างเฉยเมย เขาเคยเห็นคนที่น่าเกรงขามมามากมาย สำหรับหลิวต้าที่พยายามทำตัวข่มเขาอยู่นั้น หานซานเฉียนคิดว่าเขาดูเหมือนด็กสามขวบเสียมากกว่า“คุณคือหานซานเฉียน?” หลิวต้าถาม“ไม่เลวนี่” หานซานเฉียนกล่าวหลิวต้าเย้ยหยันและพูดว่า "ไม่นึกเลยว่าคุณจะกล้ามาหาผม คุณคงไม่คิดว่าผมจะยอมทำอะไรให้หรอกนะ""ดูเหมือนว่าผมจะไม่มีค่าพอให้คุณสนใจสินะ" หานซานเฉียนพูดเบา ๆหลิวต้าพยักหน้าและพูดห้วน ๆ "รู้ตัวก็ดีแล้ว ผมแนะนำให้คุณรีบหายไปจากหยุนเฉิงซะ ความสามารถอย่างคุณ หากต้องสู้กับหานกรุ๊ปมีแต่จะตายเท่านั้น""ผลประโยชน์ที่หานเหยียนให้คุณ ผมเองก็มอบให้คุณได้เช่นกัน และยังสูงกว่าด้วย คุณจะไม่พิจารณาหน่อยเหรอ?" หานซานเฉียนกล่าวหลิวต้าจิบชา มองหานซานเฉียนด้วยสายตาล้อเลียนพลางพูดว่า "คุณยังไม่รู้จักตัวเองดีพอสินะ และสิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น หานกรุ๊ปสามารถช่วยผมได้มากกว่าที่คุณคิด"“ตำแหน่ง
หานซานเฉียนไม่ได้สนใจคำพูดหยาบคายของหลิวต้า แต่เตือนเขาว่า "ด้วยความสามารถของคุณ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมองสถานการณ์ปัจจุบันในหยุนเฉิงให้ชัดเจน ทำไมคุณไม่ดูให้ละเอียดกว่านี้ล่ะ? สิ่งที่ผมพูด คุณควรลองเก็บไปคิดดู ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องเสียใจทีหลังแน่"“หลายคนอิจฉาที่คุณได้รับการเลี้ยงดูจากผู้หญิง แต่ในสายตาของผม นี่คือความอัปยศของผู้ชาย คุณทำให้ผู้ชายต้องอับอาย เพราะงั้นรีบ ๆ ตายไปซะยังจะดีกว่า” หลิวต้าด่าเมื่อมองดูหลิวต้าเดินออกไปจากโรงน้ำชา หานซานเฉียนก็ใช้มือบีบถ้วยชาและบดขยี้มันจนแตกโดยไม่รู้ตัวผ่ามือและนิ้วของเขาถูกถ้วยชาบาดเป็นแผลหลายแห่ง เลือดสีแดงสดค่อย ๆ ไหลออกมาหานซานเฉียนยืนขึ้นและพูดกับห้องของชายชรา "ท่านผู้เฒ่า ผมทำถ้วยชาของท่านแตก ไว้คราวหน้า ผม หานซานเฉียนจะชดเชยให้ท่านแน่นอน"ในห้องนั้น ชายชราไม่ได้พักผ่อน แต่เฝ้าดูสถานการณ์ข้างนอกผ่านทางหน้าต่าง หลังจากที่หานซานเฉียนพูดจบ ชายชราก็หัวเราะและพูดกับตัวเองว่า "ไม่ได้มีทักษะที่ยอดเยี่ยมอะไร แต่ความหยิ่งในศักดิ์ศรีนั้นคล้ายเขามาก ไม่รู้ว่าไปเอาความดื้อรั้นนี้มาจากไหนกัน”เมื่อออกจากโรงน้ำชา หานซานเฉียนก็กลับมาที่รถ มือขว
เมื่อเห็นว่าหานซานเฉียนยังมีอารมณ์มาพูดล้อเล่น ฉี๋อีหยุนก็ปัดมือของหานซานเฉียนออกด้วยความโกรธ แต่เมื่อเห็นเขาขมวดคิ้ว เธอก็รีบดึงมือเขากลับมาอย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า "ขอโทษ ฉันทำให้คุณเจ็บใช่ไหม"หานซานเฉียนส่ายหัว ถอนมือออกจากฉี๋อีหยุน แล้วพูดว่า "แผลเล็กน้อยแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ปัญหาใหญ่คือเรื่องของหมู่บ้านเฉิงจง ดูเหมือนว่าจะจัดการไม่ได้ง่าย ๆ"เมื่อเห็นว่าหานซานเฉียนถอนมือกลับ ดวงตาของฉี๋อีหยุนก็ฉายความความโศกเศร้า แต่เธอก็ปกปิดมันอย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะพูดว่า "ฉันสามารถช่วยคุณทำในเรื่องที่คุณไม่อยากทำได้ ฉันไม่มีข้อห้ามอะไรมากมาย ขอเพียงแค่ช่วยตระกูลฉี๋ได้ ไม่ว่าอะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้น""ผมเป็นเป็นผู้ชายนะ จะขอความช่วยเหลือจากคุณได้ยังไง อีกอย่างที่คุณให้เงินมานั่นก็มากพอแล้ว เรื่องที่เหลือ ผมจะจัดการเอง" หานซานเฉียนกล่าว"เมื่อเจอกับสถานการณ์ฉุกเฉิน คุณไม่จำเป็นต้องยึดติดกับสิ่งที่เรียกว่าขีดจำกัด เพราะคู่ต่อสู้ของคุณก็ไม่มีขีดจำกัดนี้เช่นกัน" ฉี๋อีหยุนกล่าว"แล้วคนทุกคนในโลกจะต้องกลายไปคนเลวกันหมดทุกคนเลยงั้นเหรอ? นี่ไม่ใช่มาตรฐานของตัวเองที่คงที่"
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่หานซานเฉียนตื่นขึ้นมา เขาพบว่าฉี๋อีหยุนยังคงนอนขดตัวอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้นอนมาทั้งคืน“ผมนอนหลับสนิทมาก แล้วคุณล่ะ?” หานซานเฉียนถามอย่างจงใจฉี๋อีหยุนมองไปที่หานซานเฉียนอย่างตำหนิ เธอกลัวตลอดทั้งคืน เธอคิดว่าหานซานเฉียนจะออกมาปลอบเธอบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าชายใจแข็งคนนี้จะไม่ปรากฏตัวจริง ๆ มิหนำซ้ำฉี๋อีหยุนยังได้ยินเสียงกรนของเขาอีกด้วย!“คุณยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า” ฉี๋อีหยุนกัดฟันพูด"ผมเป็นผู้ชายหรือเปล่า? มีเพียงหยิงเซี่ยเท่านั้นที่จะได้เห็น สิ่งที่มีค่าแบบนี้จะแสดงให้คุณเห็นง่าย ๆ ได้ยังไง" หลังจากที่หานซานเฉียนพูดจบ เขาก็เดินไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำฉี๋อีหยุนรู้สึกขมขื่นในใจ รอจนเมื่อหานซานเฉียนออกมาจากห้องน้ำ เธอก็พูดกับหานซานเฉียนเพื่อชดเชยหัวใจที่บอบช้ำว่า "ฉันอยากกินน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋"“ถ้าผมกลับมา ผมจะซื้อมาให้คุณก็แล้วกัน แต่ถ้าผมไม่กลับมา คุณก็กินของที่เหลือไปก่อนนะ” หานซานเฉียนกล่าวเมื่อมองไปที่ประตูที่ปิดลง ดวงตาที่เศร้าโศกของฉี๋อีหยุนก็เต็มไปด้วยน้ำตา เธอไม่เคยถูกเมินแบบนี้มาก่อน แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเ