"ฉันไม่ได้เจอหานซานเฉียน คุณก็รู้ว่าหานซานเฉียนเป็นเพียงแค่คนที่ถูกขับไล่ออกจากครอบครัว" ฉือจิงกัดฟันพูด "คนไร้ค่าคนนี้ได้ถูกคุณทอดทิ้ง แน่นอนว่าฉันรู้ แต่ตอนนี้หานจุนก็พิการไปแล้ว แถมยังอยู่ในคุก และหานซานเฉียนก็เป็นคนเดียวที่จะสามารถดูแลภาพรวมของตระกูลหานได้ ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้คุณจะไม่ฝากความหวังไว้ที่หานซานเฉียนหรือเปล่า?” หานเหยียนพูดแผ่วเบา “เรื่องของเขาไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลหาน” ฉือจิงกล่าว รอยยิ้มบนใบหน้าของหานเหยียนเข้มขึ้น เธอไม่คิดว่าคนไร้ค่าคนนี้จะถูกครอบครัวของเขาทิ้งอย่างไร้เยื่อใย "ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมพ่อของฉันถึงยืนยันที่จะกำจัดกับคนไร้ค่าประเภทนี้ไปให้พ้นทาง" หานเหยียนพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม เมื่อฉือจิงออกจากโรงแรม รอยนิ้วมือที่แดงและบวมบนใบหน้าของเธอนั้นชัดเจนมาก แต่มันไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่เป็นความโกรธในใจของเธอ ความเย่อหยิ่งของตระกูลหานในสหรัฐอเมริกานั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับเธอ ย้อนกลับไปตั้งแต่ต้น ถือว่าเธอเป็นผู้อาวุโสของหานเหยียน แต่หานเหยียนไม่ได้ให้เกียรติกับเธอเลยแม้แต่สาวรับใช้ก็ยังกล้าที่จะตบเธอ! "หานซานเฉียน ฉันไม่สมควรเป็น
มี่เฟยเอ๋อร์และหยางเหมิงยังไม่เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ ก็เลยยังมีเวลาว่างอีกสองวัน สำหรับผู้หญิงแล้ว การชอปปิงเป็นวิธีที่ดีที่สุดเวลาที่รู้สึกเบื่อ ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด แม้ว่าพวกเขาจะไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เพื่อชอปปิงแต่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย พวกเขาก็จะไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย แต่พอกลับถึงบ้านเมื่อไหร่ ความโทรมพวกนั้นก็จะปรากฏขึ้น ทั้งสองเดินจูงมือกันอย่างสนิทสนม แวะร้านแล้วร้านเล่าลองเสื้อผ้าไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ในมือของพวกเธอกลับว่างเปล่า ในขณะเดียวกัน ทั้งสองไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังตามพวกเธออยู่ข้างหลัง แม้ว่าเมื่อคืนนี้คนที่ไนท์คลับจะถูกฉินจ้าวข่มขู่ไปแล้ว แต่เขาถามคนรู้จักของเขาในบริษัทเทียน กรุ๊ป เรียบร้อย ฉินจ้าวเป็นเพียงหัวหน้าแผนกเล็ก ๆ และเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนในบริษัทเทียน กรุ๊ป ซึ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจหาทางแก้แค้นจากมี่เฟยเอ๋อร์ แม้หน้าตาจะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่สิ่งนี้มันคือรากฐานของคนเลวพวกนี้ ถ้าหากไม่แก้แค้น ก็จะถูกมองว่าเป็นตัวตลก “พี่โก่ว ผู้หญิงสองคนนี้หน้าตาดีทีเดียว หลังจับได้แล้ว พวกเราขอจัดด้วยนะ
“คุณจะทำอะไร เพื่อนของฉันมาจากบริษัทเทียน กรุ๊ป คุณลืมไปแล้วเหรอ” มี่เฟยเอ๋อร์ขู่ ถังโก่วยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า "เมื่อคืนฉันกลัวเขาจริง แต่ฉันไปสืบมาแล้ว เขาเป็นเพียงหัวหน้าแผนกเล็ก ๆ ไม่ได้มีอำนาจอะไร" คำพูดเหล่านี้ทำให้มี่เฟยเอ๋อร์แสดงสีหน้าหวาดกลัว เขาไม่กลัวฉินจ้าวด้วยซ้ำ มี่เฟยเอ๋อร์ก็ไม่มีอะไรที่สามารถจัดการกับเขาได้ "คุณทำอะไรพวกเรา มันผิดกฎหมายนะ" มี่เฟยเอ๋อร์พูด “คนสวย ฉันจะบอกให้นะ ฉันไม่ใช่คนดี ถ้าฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันคงไม่ทำในสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบวินัย คุณพูดถึงเรื่องผิดกฎหมายไม่ตลกไปหน่อยเหรอ” ถังโก่วหัวเราะอย่างร่าเริง เช่นเดียวกับทุกคน มันไร้สาระที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายกับพวกนอกกฎหมาย รถแล่นไปที่หมู่บ้านเฉิงจง ซึ่งเป็นที่ที่จางหลิงฮวาเคยอาศัยอยู่มาก่อน หลังจากที่รถหยุด มี่เฟยเอ๋อร์และหยางเหมิงก็ลงจากรถ เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบ ก็รู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น หมู่บ้านเฉิงจง ในเมืองหยุนเฉิงเป็นที่เลื่องลือว่ามีแต่ความวุ่นวาย มีคนดีและชั่วปะปนกัน มีคนอยู่ทุกประเภท และมักมีข่าวใหญ่เกี่ยวกับสังคมของที่นี่ ทั้งสองถูกพาเข้าไปในห้องที่ม
เกี่ยวกับพฤติกรรมของหยางเหมิง นอกจากมี่เฟยเอ๋อร์จะโกรธแล้วก็ยังคงทำอะไรไม่ถูก เพราะในความคิดของเธอ หยางเหมิงไม่รู้ว่าหานซานเฉียนเป็นคนแบบไหน และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการตั้งความหวังไว้กับหานซานเฉียนนั้นมันก็ยิ่งผิด คนขี้ขลาดและไร้ประโยชน์เช่นเขา อาจจะไม่กล้ามาที่หมู่บ้านเฉิงจงด้วยซ้ำ แล้วเขาจะมาช่วยพวกเธอได้อย่างไร? “พี่เฟยเอ๋อร์ คุณหานจะไม่มาจริง ๆ เหรอ?” หยางเหมิงถาม ตอนนี้เธอกลัวมาก และคนเดียวที่เธอติดต่อคือหานซานเฉียน ดังนั้นเธอจึงฝากความหวังทั้งหมดไว้กับหานซานเฉียน หากมันเป็นเรื่องจริงตามที่มี่เฟยอ๋อร์พูด เธอคงหมดหวังแล้ว ถังโก่วไม่ใช่คนดีตั้งแต่แรก และเขาก็ทำอย่างตรงไปตรงมา หยางเหมิงไม่อยากตกอยู่ในเงื้อมมือของคนแบบนี้ "เธออธิษฐานให้เทวดามาช่วย แต่อย่าหวังว่าเขาจะช่วยเรา" มี่เฟยเอ๋อร์พูดอย่างดูถูก หลังจากเหตุการณ์สองครั้ง เธอคิดว่าเธอรู้จักหานซานเฉียนดีพอ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ “ทำไมเหรอ” หยางเหมิงถามอย่างงุนงง เมื่อเห็นว่าหยางเหมิงยังคงมีความหวัง มี่เฟยเอ๋อร์ก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "ครั้งล่าสุดที่ฉันวิ่งในหมู่บ้านในตอนเช้า ฉันทะเลาะกับคนจูงส
“นายกลับไปก่อน ฉันมีเพื่อนที่จะต้องไปทักทาย” หลังจากพูด หยางซิ่งก็รีบออกจากบ้าน “ปีศาจตนนี้มาทำไมอีก” หยางซิ่งถามลูกน้อง ในขณะที่รีบเดิน “ไม่รู้สิ พี่ซิ่ง เขามาตามเราอีกแล้วเหรอ คราวที่แล้วก็ต้องหามส่งโรงพยาบาลไปตั้งหลายคน” ลูกน้องพูดอย่างเป็นห่วง เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด หยางซิ่งรู้สึกเสียวสันหลัง เขาไม่กลัวใครในหมู่บ้านเฉิงจง แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น เขามักจะฝันร้ายในตอนกลางคืน ไม่มีทาง ทักษะของเขาร้ายกาจเกินไป ลูกน้องของหยางซิ่งทั้งหมดถูกล้มลง หยางซิ่งไม่เคยแม้แต่จะพบเจอคนประเภทนี้มาก่อน ในที่สุดหยางซิ่งก็ได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยจากระยะไกล ตัวเขาสั่นโดยไม่รู้ตัว และรีบวิ่งเข้าไปหาเขา "พี่หาน ทำไมวันนี้พี่ถึงว่างมาที่หมู่บ้านเฉิงจงล่ะ" หยางซิ่งถามอย่างระแวดระวัง หลังจากที่หานซานเฉียนได้รับข้อความของหยางเหมิง เขาก็ขับรถมาทันที สถานที่นี้ค่อนข้างวุ่นวาย และหยางเหมิงก็ส่งที่อยู่ที่นี่ให้เขา ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น หากเป็นมี่เฟยเอ๋อร์ หานซานฉียนจะไม่ตอบโต้เธอแน่นอน "หยางซิ่ง ที่นี่มีคนที่ดูลับ ๆ ล่อ ๆ หรือเปล่า" หานซานเฉียนถามเบา ๆ "ไม่ ไม่ ไม่มีอย่างแน่นอน"
เมื่อมองไปที่หลังของหานซานเฉียน หยางซิ่งก็เช็ดเหงื่อเย็น ๆ ของเขา เมื่อคิดถึงฉากที่แล้ว เขาก็ตระหนักว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นโง่เขลาเพียงใด คนอย่างเขาจะขอความช่วยเหลือได้อย่างไร? "พี่ซิ่ง ถังโก่วคงจะจบสิ้นแล้วใช่ไหม" ลูกน้องคนหนึ่งถามหยางซิ่ง "เฮ้อ" หยางซิ่งถอนหายใจและพูดว่า "การยั่วยุคนแบบนี้ นับว่าเป็นโชคร้ายของเขาเท่านั้น ดูเหมือนว่าฉันจะต้องหาคนมาช่วยใหม่" หลังจากที่ถังโก่วกลับถึงบ้าน เขาแทบรอไม่ไหวที่จะอาบน้ำ และเอาแต่สาปแช่งหยางซิ่งตลอดเวลา เพราะถ้าเขาไม่ทำให้ต้องสียเวลาไป ป่านนี้เขาคงจะได้เสวยสุขกับนางฟ้าแล้ว “สาวสวยทั้งสอง ฉันอาบน้ำสร็จแล้ว พวกเธอพร้อมหรือยัง” ถังโก่วพูดกับทั้งสองด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ มี่เฟยเอ๋อร์ปกป้องหยางเหมิงที่อยู่ข้างหลังเธอ และพูดว่า "ฉันเตือนคุณแล้ว ถ้าคุณแตะต้องพวกเรา ฉันจะจับคุณเข้าคุก" “คนสวย เธอไม่เข้าใจหรอก ฉันเป็นแขกประจำที่นั่น ฉันอยู่ในนั้นมาไม่รู้กี่ครั้งจ่อกี่ครั้งแล้ว ฉันยังต้องกลัวอีกเหรอ” ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ทำให้ถังโก่วลืมถึงผลที่จะตามมา จะได้รับโทษแบบไหนก็ไม่สำคัญสิ่งสำคัญคือต้องระบายความอยากในใจก่อน แม้ว่ามี่เฟยเอ๋อร์จะรู้ว
ถังโก่วถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว เพราะลูกน้องจำนวนมากนอนอยู่บนพื้น เขาไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้แน่นอน “จะทำอะไร ฉันขอเตือนว่าอย่ายุ่ง ไม่งั้น...” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ถังโก่วก็รู้สึกว่าเขาไร้น้ำหนักกลางอากาศ และชนเข้ากับกำแพงอย่างแรง อวัยวะภายในของเขาดูเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ และความเจ็บปวดนั้นเจ็บปวดมากจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะกรีดร้องออกมา หานซานเฉียนเดินไปหาถังโก่วอีกครั้ง วางเท้าบนหัวของถังโกว แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า "ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่แกควรไปหาว่าฉันเป็นใคร" ถังโก่วตกใจมาก สัตว์ประหลาดตัวนี้มาจากไหน ทักษะของเขาร้ายกาจมาก จนเขาสูญเสียพลังในการต่อสู้ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว “ฉันเป็นแค่นักเลง หากนายทำให้ฉันขุ่นเคือง ฉันมีวิธีนับหมื่นวิธีที่จะตอบโต้นาย ฉันจะทำให้นายไม่มีวันอยู่อย่างสงบสุขได้” ถังโก่วกัดฟันและพูด หานซานเฉียนก้มลงเล็กน้อย มองลงไปที่ถังโก่วอย่างสุภาพ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ฟังที่แกพูด แกเตือนว่าให้ฉันฆ่าแก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคตงั้นเหรอ" เมื่อถังโก่วเห็นดวงตาที่ไร้อารมณ์ของหานซานเฉียน เขารู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง และขนทั่วร่างกายของเขาก็ลุกชั
หลังจากได้ยินคำพูดของมี่เฟยเอ๋อร์แล้ว หานซานเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอมีความไม่มั่นใจ แต่ก็ยังหยิ่งยโส "คุณคู่ควรที่ผมต้องเข้าไปมีปัญหาเหรอ และปัญหานี้คุณก็ก่อขึ้นเอง เกี่ยวอะไรกับผม" หานซานเฉียนมองมี่เฟยเอ๋อร์อย่างเย็นชา คำพูดเหล่านี้สร้างความเจ็บปวดให้กับมี่เฟยเอ๋อร์เป็นอย่างมาก ไม่คุ้มที่จะเข้าไปมีปัญหา! เหล่าคนที่ไล่ตามจีบเธอต่างใช้กลอุบายต่าง ๆ และมี่เฟยเอ๋อร์ก็ได้เห็นกลอุบายแปลก ๆ มามากมาย แต่เมื่อคำที่ออกมาจากปากของหานซานเฉียน มันไม่คุ้มที่จะเข้าไปมีปัญหา ความหมายของประโยคนี้ เหมือนเป็นการทำให้เธอเสื่อมเสียไม่ใช่เหรอ? “ในเมื่อมันไม่คุ้มกับปัญหา ทำไมต้องมาช่วยฉันด้วย” มี่เฟยเอ๋อร์มองไปที่หานซานเฉียนอย่างเย็นชา “ถ้าหยางเหมิงไม่อยู่ที่นี่ คิดว่าผมจะมาไหม” หานซานเฉียนพูดอย่างแผ่วเบา ความหมายของคำเหล่านี้ชัดเจนเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเหมิง เขาคงไม่มีวันมาปรากฏตัวที่นี่ สำหรับมี่เฟยเอ๋อร์ มันเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมา "ข้างในนี้มันเหม็น เราออกไปกันเถอะ" หานซานเฉียนไม่สนใจอารมณ์ของมี่เฟยเอ๋อร์ ผู้หญิงที่หยิ่งผยองแบบนี้ควรโดนซะบ้าง ให้เธอได้เข้าใจบ้างว่า ไม่