เกี่ยวกับพฤติกรรมของหยางเหมิง นอกจากมี่เฟยเอ๋อร์จะโกรธแล้วก็ยังคงทำอะไรไม่ถูก เพราะในความคิดของเธอ หยางเหมิงไม่รู้ว่าหานซานเฉียนเป็นคนแบบไหน และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการตั้งความหวังไว้กับหานซานเฉียนนั้นมันก็ยิ่งผิด คนขี้ขลาดและไร้ประโยชน์เช่นเขา อาจจะไม่กล้ามาที่หมู่บ้านเฉิงจงด้วยซ้ำ แล้วเขาจะมาช่วยพวกเธอได้อย่างไร? “พี่เฟยเอ๋อร์ คุณหานจะไม่มาจริง ๆ เหรอ?” หยางเหมิงถาม ตอนนี้เธอกลัวมาก และคนเดียวที่เธอติดต่อคือหานซานเฉียน ดังนั้นเธอจึงฝากความหวังทั้งหมดไว้กับหานซานเฉียน หากมันเป็นเรื่องจริงตามที่มี่เฟยอ๋อร์พูด เธอคงหมดหวังแล้ว ถังโก่วไม่ใช่คนดีตั้งแต่แรก และเขาก็ทำอย่างตรงไปตรงมา หยางเหมิงไม่อยากตกอยู่ในเงื้อมมือของคนแบบนี้ "เธออธิษฐานให้เทวดามาช่วย แต่อย่าหวังว่าเขาจะช่วยเรา" มี่เฟยเอ๋อร์พูดอย่างดูถูก หลังจากเหตุการณ์สองครั้ง เธอคิดว่าเธอรู้จักหานซานเฉียนดีพอ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ “ทำไมเหรอ” หยางเหมิงถามอย่างงุนงง เมื่อเห็นว่าหยางเหมิงยังคงมีความหวัง มี่เฟยเอ๋อร์ก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "ครั้งล่าสุดที่ฉันวิ่งในหมู่บ้านในตอนเช้า ฉันทะเลาะกับคนจูงส
“นายกลับไปก่อน ฉันมีเพื่อนที่จะต้องไปทักทาย” หลังจากพูด หยางซิ่งก็รีบออกจากบ้าน “ปีศาจตนนี้มาทำไมอีก” หยางซิ่งถามลูกน้อง ในขณะที่รีบเดิน “ไม่รู้สิ พี่ซิ่ง เขามาตามเราอีกแล้วเหรอ คราวที่แล้วก็ต้องหามส่งโรงพยาบาลไปตั้งหลายคน” ลูกน้องพูดอย่างเป็นห่วง เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด หยางซิ่งรู้สึกเสียวสันหลัง เขาไม่กลัวใครในหมู่บ้านเฉิงจง แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น เขามักจะฝันร้ายในตอนกลางคืน ไม่มีทาง ทักษะของเขาร้ายกาจเกินไป ลูกน้องของหยางซิ่งทั้งหมดถูกล้มลง หยางซิ่งไม่เคยแม้แต่จะพบเจอคนประเภทนี้มาก่อน ในที่สุดหยางซิ่งก็ได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยจากระยะไกล ตัวเขาสั่นโดยไม่รู้ตัว และรีบวิ่งเข้าไปหาเขา "พี่หาน ทำไมวันนี้พี่ถึงว่างมาที่หมู่บ้านเฉิงจงล่ะ" หยางซิ่งถามอย่างระแวดระวัง หลังจากที่หานซานเฉียนได้รับข้อความของหยางเหมิง เขาก็ขับรถมาทันที สถานที่นี้ค่อนข้างวุ่นวาย และหยางเหมิงก็ส่งที่อยู่ที่นี่ให้เขา ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น หากเป็นมี่เฟยเอ๋อร์ หานซานฉียนจะไม่ตอบโต้เธอแน่นอน "หยางซิ่ง ที่นี่มีคนที่ดูลับ ๆ ล่อ ๆ หรือเปล่า" หานซานเฉียนถามเบา ๆ "ไม่ ไม่ ไม่มีอย่างแน่นอน"
เมื่อมองไปที่หลังของหานซานเฉียน หยางซิ่งก็เช็ดเหงื่อเย็น ๆ ของเขา เมื่อคิดถึงฉากที่แล้ว เขาก็ตระหนักว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นโง่เขลาเพียงใด คนอย่างเขาจะขอความช่วยเหลือได้อย่างไร? "พี่ซิ่ง ถังโก่วคงจะจบสิ้นแล้วใช่ไหม" ลูกน้องคนหนึ่งถามหยางซิ่ง "เฮ้อ" หยางซิ่งถอนหายใจและพูดว่า "การยั่วยุคนแบบนี้ นับว่าเป็นโชคร้ายของเขาเท่านั้น ดูเหมือนว่าฉันจะต้องหาคนมาช่วยใหม่" หลังจากที่ถังโก่วกลับถึงบ้าน เขาแทบรอไม่ไหวที่จะอาบน้ำ และเอาแต่สาปแช่งหยางซิ่งตลอดเวลา เพราะถ้าเขาไม่ทำให้ต้องสียเวลาไป ป่านนี้เขาคงจะได้เสวยสุขกับนางฟ้าแล้ว “สาวสวยทั้งสอง ฉันอาบน้ำสร็จแล้ว พวกเธอพร้อมหรือยัง” ถังโก่วพูดกับทั้งสองด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ มี่เฟยเอ๋อร์ปกป้องหยางเหมิงที่อยู่ข้างหลังเธอ และพูดว่า "ฉันเตือนคุณแล้ว ถ้าคุณแตะต้องพวกเรา ฉันจะจับคุณเข้าคุก" “คนสวย เธอไม่เข้าใจหรอก ฉันเป็นแขกประจำที่นั่น ฉันอยู่ในนั้นมาไม่รู้กี่ครั้งจ่อกี่ครั้งแล้ว ฉันยังต้องกลัวอีกเหรอ” ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ทำให้ถังโก่วลืมถึงผลที่จะตามมา จะได้รับโทษแบบไหนก็ไม่สำคัญสิ่งสำคัญคือต้องระบายความอยากในใจก่อน แม้ว่ามี่เฟยเอ๋อร์จะรู้ว
ถังโก่วถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว เพราะลูกน้องจำนวนมากนอนอยู่บนพื้น เขาไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้แน่นอน “จะทำอะไร ฉันขอเตือนว่าอย่ายุ่ง ไม่งั้น...” ก่อนที่เขาจะพูดจบ ถังโก่วก็รู้สึกว่าเขาไร้น้ำหนักกลางอากาศ และชนเข้ากับกำแพงอย่างแรง อวัยวะภายในของเขาดูเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ และความเจ็บปวดนั้นเจ็บปวดมากจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะกรีดร้องออกมา หานซานเฉียนเดินไปหาถังโก่วอีกครั้ง วางเท้าบนหัวของถังโกว แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า "ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่แกควรไปหาว่าฉันเป็นใคร" ถังโก่วตกใจมาก สัตว์ประหลาดตัวนี้มาจากไหน ทักษะของเขาร้ายกาจมาก จนเขาสูญเสียพลังในการต่อสู้ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว “ฉันเป็นแค่นักเลง หากนายทำให้ฉันขุ่นเคือง ฉันมีวิธีนับหมื่นวิธีที่จะตอบโต้นาย ฉันจะทำให้นายไม่มีวันอยู่อย่างสงบสุขได้” ถังโก่วกัดฟันและพูด หานซานเฉียนก้มลงเล็กน้อย มองลงไปที่ถังโก่วอย่างสุภาพ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ฟังที่แกพูด แกเตือนว่าให้ฉันฆ่าแก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคตงั้นเหรอ" เมื่อถังโก่วเห็นดวงตาที่ไร้อารมณ์ของหานซานเฉียน เขารู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง และขนทั่วร่างกายของเขาก็ลุกชั
หลังจากได้ยินคำพูดของมี่เฟยเอ๋อร์แล้ว หานซานเฉียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอมีความไม่มั่นใจ แต่ก็ยังหยิ่งยโส "คุณคู่ควรที่ผมต้องเข้าไปมีปัญหาเหรอ และปัญหานี้คุณก็ก่อขึ้นเอง เกี่ยวอะไรกับผม" หานซานเฉียนมองมี่เฟยเอ๋อร์อย่างเย็นชา คำพูดเหล่านี้สร้างความเจ็บปวดให้กับมี่เฟยเอ๋อร์เป็นอย่างมาก ไม่คุ้มที่จะเข้าไปมีปัญหา! เหล่าคนที่ไล่ตามจีบเธอต่างใช้กลอุบายต่าง ๆ และมี่เฟยเอ๋อร์ก็ได้เห็นกลอุบายแปลก ๆ มามากมาย แต่เมื่อคำที่ออกมาจากปากของหานซานเฉียน มันไม่คุ้มที่จะเข้าไปมีปัญหา ความหมายของประโยคนี้ เหมือนเป็นการทำให้เธอเสื่อมเสียไม่ใช่เหรอ? “ในเมื่อมันไม่คุ้มกับปัญหา ทำไมต้องมาช่วยฉันด้วย” มี่เฟยเอ๋อร์มองไปที่หานซานเฉียนอย่างเย็นชา “ถ้าหยางเหมิงไม่อยู่ที่นี่ คิดว่าผมจะมาไหม” หานซานเฉียนพูดอย่างแผ่วเบา ความหมายของคำเหล่านี้ชัดเจนเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเหมิง เขาคงไม่มีวันมาปรากฏตัวที่นี่ สำหรับมี่เฟยเอ๋อร์ มันเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมา "ข้างในนี้มันเหม็น เราออกไปกันเถอะ" หานซานเฉียนไม่สนใจอารมณ์ของมี่เฟยเอ๋อร์ ผู้หญิงที่หยิ่งผยองแบบนี้ควรโดนซะบ้าง ให้เธอได้เข้าใจบ้างว่า ไม่
“พี่หาน คุณอยากได้น้ำชาไหม” หยางซิ่งถามหานซานเฉียน "ไม่ล่ะ เรามาเริ่มธุรกิจกันเถอะ" หานซานเฉียนพูดเบา ๆ "เรื่องนี้ฉันได้ยินมาจากเพื่อน ตอนนี้หาน กรุ๊ป กำลังหารือกับเบื้องบนแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะสำเร็จ เพราะเบื้องบนจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้" หยางซิ่งกล่าว "ด้วยเงินทุนของหาน กรุ๊ป ไม่แม้แต่จะต้องการความช่วยเหลือ ก็สามารถทุ่มงบเองได้" หานซานเฉียนกล่าว หยางซิ่งพยักหน้า แม้ว่าหาน กรุ๊ป จะไม่ได้ก่อตั้งขึ้นมาเป็นเวลายาวนาน แต่พวกเขาก็ได้แสดงถึงความมั่งคั่งและอำนาจ ต่อหยุนเฉิงและต่างก็ไม่มีข้อกังขา "แม้ว่าหาน กรุ๊ป จะสามารถทุ่มงบได้ แต่พวกเขาก็ยังเป็นนักธุรกิจ และพวกเขายังคงต้องเริ่มต้นจากจุดที่ได้กำไร มันคงจะง่ายกว่าหากพวกเขาได้รับการช่วยเหลือ" หยางซิ่งพูด หานซานเฉียนเงียบลง ด้วยการเคลื่อนไหวนี้ รากฐานของหาน กรุ๊ป ในหยุนเฉิงนั้น ฉันเกรงว่าแม้แต่ตระกูลเทียนก็อาจเทียบไม่ได้ นับประสาอะไรกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉว ดังนั้นหานซานเฉียนจึงต้องหาทางแก้ไขสถานการณ์นี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถในการแข่งขันของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปรียบเทียบกับหาน
สำหรับหยางซิ่งแล้ว ม่อหยางเปรียบเสมือนเทพพระเจ้า และชายร่างใหญ่ที่อยู่บนจุดสูงสุด ปรากฏว่าเขารู้จักกันต่อหน้าต่อตา! สำหรับหยางซิ่ง ข่าวดังกล่าวเป็นเหมือนสายฟ้าฟาด ทั้งน่าตกตะลึงและน่ากลัว เพราะเขาพยายามหาทางแก้แค้นหานซานเฉียน หานซานเฉียนไม่พูด แต่หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรออกแล้วพูดตรง ๆ "ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็มาที่หมู่บ้านเฉิงจง" ม่อหยางเพียงแค่ตอบกลับด้วยคำพูดที่ดี และหานซานเฉียนก็วางสายไป ไม่มีคำพูดแบบพิเศษ ในมุมมองของหยางซิ่ง มันเหมือนกับว่าหานซานเฉียนสั่งม่อหยางมากกว่า ความกลัวที่เล็ดลอดออกมาจากเลือดเริ่มแพร่กระจาย หัวใจของหยางซิ่งเต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว แม้กระทั่งการหายใจของเขาก็หนักขึ้นมาก "เขากำลังมา พวกนายมาทำความรู้จักกันซะ มันจะสะดวกกว่าในการร่วมมือกันในอนาคต" หานซานเฉียนพูดกับหยางซิ่ง หยางซิ่งลอบกลืนน้ำลาย รู้สึกเหมือนกำลังฝัน ด้วยสถานะของเขาแล้ว อยากทำความรู้จักกับม่อหยางอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตอนนี้ โอกาสดังกล่าวดูเหมือนจะอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ถ้าเขาสามารถร่วมมือกับม่อหยางได้ นี่จะเป็นโอกาสของเขาที่จะถึงจุดสูงสุดของชีวิต! “หาน พี่หาน” หยางซิ่งคุกเข่าลงต่อหน้าหาน
"โอเค" หลังจากได้ยินคำพูดของหานซานเฉียน ม่อหยางรู้สึกโล่งใจ และพูดกับหยางซิ่ง "ถ้านายต้องการความช่วยเหลืออะไรก็ถามมาได้ และฉันก็สามารถให้กำลังคนแก่นายได้ นายไม่ต้องสุภาพมากเกินไป ถ้าต้องรับมือกับพวกคนที่โลภขนเกินไป" หยางซิ่งไม่กล้าตอบแบบสบาย ๆ แต่มองไปที่หานซานเฉียนและไม่กล้าพูด จนกระทั่งหานซานเฉียนพยักหน้า "ขอบคุณพี่ใหญ่ม่อ ผมมีกำลังคนไม่เพียงพอจริง ๆ และผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณ " "โอเค นายติดต่อหลินหย่งได้ตลอดเวลา" ม่อหยางพูดอย่างสบาย ๆ ทันใดนั้นม่อหยางก็ยืนขึ้น เดินไปที่ด้านข้างของหยางซิ่ง ตบไหล่ของหยางซิ่งและพูดต่อ "นี่เป็นโอกาสของนาย จงใช้มันให้คุ้มค่า" "ขอบคุณพี่ใหญ่ม่อที่เตือนผม ผมจะไม่ทำให้พี่หานผิดหวังแน่นอน" หยางซิ่งพูดพร้อมกับก้มหัวลง เขาคิดว่าตัวเองจะเป็นได้แค่ตัวกลั่นแกล้งในหมู่บ้านเฉิงจงไปตลอดชีวิต แต่ตอนนี้ เขาคาดว่าจะออกจากพื้นที่ยากจนนี้ให้ได้ สำหรับหยางซิ่ง แม้ว่าเขาจะต้องกัดฟัน เขาก็จะยึดมั่น คนเราเมื่อถึงจุดหนึ่ง แค่ประโยคที่แสนจะธรรมดา ก็สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของผู้อื่นได้ แม้ว่าหานซานเฉียนในปัจจุบันจะไม่ใช่บุคคลสำคัญอันดับต้น ๆ ของจีน แต่ในหยุนเฉิงม