“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันลาออกจากสมาคมหมากล้อม”“ฉันก็ด้วย”“ฉันก็ลาออก”เมื่อหวางเม่าได้ยินแบบนี้ เขาก็ยิ้มอย่างโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอกคนพวกนี้ไม่เคยนึกถึงเรื่องเก่า ๆ เขาเองก็ไม่ต้องถือว่าคนพวกนี้เป็นเพื่อนแล้ว“ตกลง ฉันจะดูแลหานซานเฉียนอย่างดี และจะรอดูพวกนายตกลงมาจากตึกสูง ถ้าถึงตอนนั้นก็อย่ามาขอความช่วยเหลือจากฉันก็แล้วกัน เพราะฉันเองก็ช่วยไม่ไหว” พูดจบหวางเม่าก็หันหลังเดินจากไปในทันทีหลังจากหานซานเฉียนและฉี๋อีหยุนออกจากสนามบิน พวกเขารีบตรงไปยังคลับเมจิกซิตี้อย่างรวดเร็ว“ผมจะส่งคุณกลับบ้านก่อน” หานซานเฉียนบอกกับฉี๋อีหยุน ซูหยิงเซี่ยยังไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์อื่น ๆ ของเขาในเมืองหยุนเฉิง และเขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยอย่างรวดเร็วแบบนี้ รวมถึงฉี๋อีหยุนก็เป็นเพื่อนสนิทของซูหยิงเซี่ย ถ้าฉี๋อีหยุนรู้เรื่องนี้เธอต้องบอกซูหยิงเซี่ยอย่างแน่นอน ดังนั้นหานซานเฉียนไม่คิดที่จะให้ฉี๋อีหยุนไปกับเขาด้วยฉี๋อีหยุนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก ถ้าหานซานเฉียนอยากหาซูหยิงเซี่ยให้เจอต้องใช้พลังของพื้นที่สีเทาอย่างแน่นอน และด้วยเหตุนี้หานซานเฉียนไม่ต้องการให้เธอไปกับเขา เขากังวลว่าเธอจะบอกซู
ด้วยความน่าเกรงกลัวของหานซานเฉียน ต่อให้ภูเขาไท่จะล้มลงตรงหน้า เขาก็ไม่รู้สึกหวั่นไหวแม้แต่น้อย แต่เมื่อเขาเห็นหมายเลขของคนที่โทรเข้ามา เขาก็รู้สึกประหม่าจนมือไม้สั่นระริกเมื่อฉี๋อีหยุนเห็นเช่นนี้ เธอก็แอบกำมือเข้าหากันแน่น แค่โทรศัพท์สายเดียวกลับทำให้คุณตื่นเต้นได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ? ทำไมความรู้สึกที่คุณมีต่อซูหยิงเซี่ยถึงลึกซึ้งเพียงนี้! ตลอดระยะเวลาสามปีในตระกูลซู คุณได้รับความอัปยศอดสูมาทุกรูปแบบ แล้วทำไมถึงปักใจกับซูหยิงเซี่ย ทำไมถึงรักเธอมากขนาดนี้! ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง คุณยอมละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มีเพื่อเธอได้จริงหรือ? อันที่จริงแล้วไม่ใช่เพียงแค่หานซานเฉียนเท่านั้นที่รู้สึกประหม่า ม่อหยางเองก็ยังขยี้จมูกของตัวเองโดยไม่รู้ตัวซึ่งเป็นการแสดงออกที่บ่งบอกถึงความประหม่าของเขาด้วย คนอื่นอาจไม่รู้ความรู้สึกของหานซานเฉียนที่มีต่อซูหยิงเซี่ย แต่เขาได้เห็นทั้งหมดแล้วด้วยตาของตัวเองทั้งสองข้าง เขาเห็นมันมาเป็นเวลาสามปีเต็ม ๆ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก คนทั่วไปจะทำได้แบบนี้ไหม? “รีบรับสิ มัวรีรออะไรอยู่ล่ะ” ม่อหยางเอ่ยเตือนหานซานเฉียน หานซานเฉียนสูดหายใจเข้าลึก แล้วกดปุ่มรับสา
“เงินหนึ่งพันล้านอาจเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขาเท่านั้น แต่ถ้านายได้เงินมา นายจะมีชีวิตอยู่เพื่อใช้มันเหรอ?” ซูหยิงเซี่ยกล่าวซูไห่เฉาหัวเราะขึ้นมาทันใด เงินหนึ่งพันล้านเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ? เขาไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม แม้ว่าเธอจะต้องการรักษาภาพลักษณ์ให้หานซานเฉียน เธอก็ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดเช่นนี้เขาแคะหูแล้วพูดกับซูหยิงเซี่ยว่า “ตอนนี้เธอโอ้อวดเก่งขนาดนี้แล้วเหรอ แถมยังพูดแบบไม่ไตร่ตรองเลยสักนิด คิดว่าฉันจะเชื่อเธอไหม?” ซูหยิงเซี่ยยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “คนอย่างนายจะรู้ได้ยังไงว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน” “เก่งกาจเหรอ? คนเกาะเมียกินอย่างเขาเก่งกาจเหรอ” ซูไห่เฉาพยักหน้าตอบรับว่า “เขาเก่งกาจมากจริง ๆ เป็นผู้ชายแท้ ๆ ที่อาศัยเกาะผู้หญิงกิน ไม่มียางอาย ระดับเขาแล้วก็นับว่าเก่งกาจจริง ๆ ” ซูหยิงเซี่ยส่ายหน้า เรื่องแบบนี้เธอเองก็ไม่แน่ใจ และไม่สามารถอธิบายให้ซูไห่เฉาฟังได้ด้วย แต่เธอรู้ว่าหานซานเฉียนจะไม่มีทางปล่อยซูไห่เฉาไปง่าย ๆ เขารนหาที่ตายครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งนี้จะไม่มีทางจบอย่างสวยงามแน่นอน “หวังว่านายจะไม่เสียใจทีหลังนะ” ซูหยิงเซี่ยกล่าว “เสียใจท
ลักพาตัว ! เมื่อซูกั๋วหลินได้ยินสองคำนี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดทันที ซูกั๋วหลินเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานมาก เขาหวังเสมอว่าซูไห่เฉาจะควบคุมตระกูลซูได้ ตอนนี้เมื่อบริษัทตกอยู่ในมือของซูหยิงเซี่ย เขาจึงรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งจนถึงขั้นคิดหาวิธีจัดการกับซูหยิงเซี่ยทุกรูปแบบอย่างไร้ยางอาย โดยหวังว่าจะทำให้ซูหยิงเซี่ยก้าวลงจากตำแหน่ง และให้ซูไห่เฉากลับมามีอำนาจควบคุมบริษัทอีกครั้ง แต่ความคิดของเขาทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น ความกล้าหาญของเขาไม่สามารถสนับสนุนความทะเยอทะยานของเขาได้เลย เมื่อตอนนี้เขาได้รู้ว่าซูไห่เฉาลักพาตัวซูหยิงเซี่ยไป จะไม่รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร! นี่เป็นเรื่องที่อาจจะทำให้ต้องติดคุกได้ เขามีลูกชายเพียงคนเดียวที่จะคอยเลี้ยงดูเขาในวัยชราและจัดงานศพให้ หากลูกชายของเขาต้องมาติดคุกเพราะเรื่องนี้ เขาจะมีชีวิตอยู่ในอนาคตได้อย่างไร! “แกพูดพล่ามอะไร อย่ามาใส่ร้ายลูกชายของฉัน ลูกชายของฉันจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” ซูกั๋วหลินพูดด้วยความโกรธ “ผมจะเอาเรื่องแบบนี้มาพูดล้อเล่นกับคุณทำไม?” หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แกอิจฉาพรสวรรค์และความสามารถของซูไห่เ
เมื่อสองวันก่อน ชายชราคนนี้ปรากฏตัวขึ้นในเรือนจำหยุนหลงเพื่อเข้าเยี่ยมหานจุน! หานจุนขาทั้งสองข้างพิการแล้ว ตอนนี้เขาต้องนั่งบนรถเข็นเท่านั้น โชคดีหลังจากที่กวานหยงแหกคุกไปแล้ว เขาก็ไม่ถูกทุบตีและถูกกดขี่อีกต่อไป เมื่อเขารู้ว่ามีคนมาเยี่ยมที่เรือนจำ ก็ยังคิดว่าหานซานเฉียนจะมาอวดเบ่งต่อหน้าเขา แต่พอเห็นชายชราคนนี้ หานจุนก็ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่นใจ ชายชราคนนี้เคยเป็นคนที่ตามจีบหนานกงเชียนชิวตอนยังเป็นวัยรุ่น ชื่อของเขาคือเซินเวิง เขาเป็นคนที่ลำเอียงมาก หลังจากที่หนานกงเชียนชิวแต่งงานเข้ามาในตระกูลหาน เซินเวิงสาบานทันทีว่าจะไม่แต่งงานกับใครตลอดชีวิต และเขาก็ทำมันได้ เขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขามีความรักให้หนานกงเชียนชิวเพียงคนเดียวเท่านั้น ข่าวการเสียชีวิตของหนานกงเชียนชิวนั้นเป็นความลับมาก มีเพียงตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหลวงเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ เมื่อเซินเวิงรู้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ปรารถนาอยากจะยื้อชีวิตของหนานกงเชียนชิวกลับคืนมาจากมือพญามัจจุราช แต่เรื่องราวที่ไม่อาจเป็นความจริงนี้ทำได้แค่คิดเท่านั้น สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการล้างแค้นให้หนานกงเชียนชิว “คุณอยากแก้แค้นไห
“บัดซบ ! เจ้าหมอนี่เป็นใคร ทำไมต่อสู้เก่งขนาดนี้” “ให้ตายสิ ไม่คิดเลยว่าจะเจอคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ จะปล่อยให้ถูกตีเฉย ๆ ไม่ได้หรอก” “กรีดรถซะ บอกให้เขารู้ถึงผลที่ตามมาจากการล่วงเกินพวกเรา ถ้าพวกเราหนีไปได้ เขาจะยังตามหาพวกเราเจออีกเหรอ?” พวกเขาถูกหานซานเฉียนซัดจนหมอบ แต่หลังจากหานซานเฉียนเดินจากไป พวกเขาก็เกิดความคิดที่จะแก้แค้นโดยการกรีดรถเสร็จแล้วหลบหนี ถึงอย่างไรหานซานเฉียนก็หาพวกเขาไม่เจอ สำหรับพวกอันธพาลเหล่านี้ หากเสียเปรียบแล้วไม่ทวงคืนศักดิ์ศรี พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร? เมื่อพวกเขาหิวจนท้องร้องจ๊อก ๆ จนต้องแอบกินหมั่นโถวลับหลังคนอื่น แต่ต่อหน้าคนอื่นนั้น ศักดิ์ศรีมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขา “ให้ตายสิ! ให้เจ้าหมอนี่ไปซ่อมรถเถอะ” “ทุบรถมัน” “ดูซิว่ามีอะไรมีค่าอยู่ในนั้นหรือเปล่า เราจะเสียเปรียบไม่ได้” จากนั้นชายหลายคนก็คว้าก้อนหินไว้ในมือ แล้วเดินไปที่รถของหานซานเฉียนอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นรถยนต์สิบกว่าคันก็ทยอยแล่นเข้ามาที่ทางเข้าชุมชน ประตูรถเปิดออกเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ผู้คนนับร้อยปรากฏตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำให้พวกเขากลัวจนขาอ่อน “นี่...นี่ม
หลังจากหลินหย่งเดินออกไปแล้ว คนที่เหลือก็เข้ามาล้อมรถหานซานเฉียนไว้ และไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ราวกับว่าพวกเขากำลังปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญบางอย่าง เดิมทีซูไห่เฉาวางแผนให้หานซานเฉียนเตรียมเงินเป็นเวลาสามวัน อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เงินหนึ่งพันล้าน เขาจำเป็นต้องขายบริษัทของตระกูลซูและเอาเงินมารวมกับเงินกู้ธนาคารครั้งก่อนถึงจะเพียงพอ แต่เขาคิดไม่ถึงว่าหานซานเฉียนจะมาหาเขาเร็วขนาดนี้ เมื่อประตูถูกเตะให้เปิดออก ซูไห่เฉาก็เห็นหานซานเฉียนยืนอยู่ข้างนอก เขาก็ตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ และริมฝีปากสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว“นาย...นายมาที่นี่ได้ยังไง !” ซูไห่เฉาพูดตะกุกตะกักด้วยความตกใจเป็นอย่างมากเมื่อหานซานเฉียนเห็นซูหยิงเซี่ยถูกมัดอย่างแน่นหนาอยู่ที่มุมห้อง ความโกรธของเขาก็ระเบิดขึ้นทันที เขาเดินเข้าไปหาซูไห่เฉาโดยไม่พูดจา พร้อมกับยกขาเตะจนซูไห่เฉาชิดกับมุมกำแพง จากนั้นก็ยกเก้าอี้ขึ้นฟาดใส่ตัวของซูไห่เฉาจนหักเป็นชิ้น ๆ “อย่าตี อย่าตีฉัน” ซูไห่เฉาเอามือกุมศีรษะแล้วพูดไม่หยุด “ดูเหมือนว่านายต้องตายเท่านั้นถึงจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ๆ สินะ” หานซานเฉียนมองซูไห่เฉาด้วยสีหน้าเฉย
ซูไห่เฉาถอยหลังสองก้าวจนตัวแนบชิดกำแพง เขาไม่อาจปกปิดความหวาดกลัวในสายตาของเขาได้ เพราะสายตาของหานซานเฉียนนั้นทำให้เขารู้สึกว่าหานซานเฉียนไม่ได้ล้อเล่นอย่างแน่นอน “หานซานเฉียน นายอย่าทำอะไรวู่วามนะ ฉันเตือนนายแล้ว นายต้องคิดถึงผลที่จะตามมาด้วย การฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต” ซูไห่เฉาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งราวกับว่าลำคอของเขากำลังมอดไหม้ สำหรับหานซานเฉียนแล้ว การฆ่าเป็นเพียงการพยักหน้ารับรู้เท่านั้น การพรากชีวิตคนต่ำทรามอย่างซูไห่เฉานั้นง่ายดายเหมือนเหยียบมด ส่วนผลที่ตามมาจากเรื่องนี้ หานซานเฉียนไม่เคยสนใจเลย “หญิงชราแห่งตระกูลซู นายเป็นคนฆ่าเธอใช่ไหม ในเมื่อนายบอกว่าการฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต วันนี้ฉันก็จะให้นายเป็นคนเป็นคนชดใช้เอง” หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา เรื่องนี้เขายังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน แต่จู่ ๆ หญิงชราก็เสียชีวิตอย่างกะทันหันเพราะถูกพิษบางอย่าง นอกจากซูไห่เฉาแล้ว จะมีใครทำเรื่องแบบนี้ได้อีก? หลังจากการเสียชีวิตของหญิงชรา ซูไห่เฉาก็เป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ตระกูลซูถูกปิดตามองไม่เห็นความจริง แต่หานซานเฉียนสามารถมองเห็นแรงจูงใจของซูไห่เฉาได้อย่างง่ายดาย “นายพูดจาเ
เมื่อเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้ของเฟยหลิงเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไรขอทานตัวน้อยคนนี้จงใจปกปิดตัวตน การเก็บนางไว้จะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันนะ?แต่นางรู้ข่าวเกี่ยวของเจียงหยิงหยิงและรู้ตัวตนของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ด้วย ดังนั้นหานซานเฉียนจึงไม่สามารถขับไล่นางไปได้แต่ถ้าอยากรู้ตัวตนของนาง นางก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเก็บนางเอาไว้ถึงจะรู้ได้ว่านางเป็นใคร“เจ้ามาหาข้าเพราะเหตุใด” หานซานเฉียนถาม และหลังจากถามคำถามนี้ เขาก็เตือนอีกว่า “ข้าจำเป็นต้องรู้ หากเจ้าไม่เต็มใจที่จะตอบข้าอย่างตรงไปตรงมา ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ด้วย”“ข้าคิดว่าท่านมีพลังมาก เหตุผลนี้เพียงพอหรือไม่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวนี่...หานซานเฉียนพูดไม่ออก และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าคำถามของเขาไม่จำเป็นเลย และเขาก็ไม่สามารถได้รับคำตอบที่ลึกกว่านี้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่หานซานเฉียนแน่ใจก็คือ เฟยหลิงเอ๋อร์ต้องซ่อนความลับบางอย่างไว้ สำหรับสิ่งที่นางต้องการนั้น บางทีอาจต้องรู้จักกันสักพักถึงจะสามารถรู้ได้“ท่านคงไม่คิดที่จะเก็บนางไว้จริง ๆ หรอกใช่หรือไม่?” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์มองหานซานเฉียนด้วยท่าทางเป็นกังวล นาง
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าเป็นขอทาน” หานซานเฉียนถามเฟยหลิงเอ๋อร์อย่างตรงไปตรงมาเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ถ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใคร ก็เก็บข้าไว้ แล้วท่านจะได้รู้ในภายหลัง"หานซานเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดมันชัดเจนมาก นางยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ขอทาน แต่ถ้าหานซานเฉียนอยากรู้ เขาก็ต้องเก็บนางไว้ข้างกาย“นี่เป็นข้อตกลงอย่างนั้นหรือ?” หานซานเฉียนถามพลางขมวดคิ้วเฟยหลิงเอ๋อร์ยิ้มและพยักหน้า“หากข้าไม่สงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเจ้า ข้าก็ไล่เจ้าไปได้ใช่หรือไม่?” หานซานเฉียนกล่าวต่อราวกับว่านางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะพูดแบบนั้น เฟยหลิงเอ๋อร์ย่นจมูกและดูครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้หานซานเฉียน“เราไม่อยากรู้เกี่ยวกับเจ้า รีบออกไปซะ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น“ไม่ ท่านต้องสงสัยเกี่ยวกับตัวข้าแน่” เฟยหลิงเอ๋อร์กล่าวหานซานเฉียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะผยองเช่นนี้ แต่เขาได้รับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์เอาไว้แล้วหนึ่งคน และตัวตนของนางก็พิเศษมากด้วย เขาจะยอมให้เฟยหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วยได้อย่างไร?หานซานเฉีย
เมื่อหานซานเฉียนกลับมาที่ลานบ้าน ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนบันไดศาลาลานด้วยความงุนงงราวกับว่านางเสียสติไปแล้ว“เป็นอะไรไป?” หานซานเฉียนเดินเข้ามาก่อนจะถามขึ้นไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ชี้ไปข้างหน้าและไม่พูดอะไรเมื่อมองไปทางนิ้วของไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ หานซานเฉียนก็พบแผ่นหลังของหญิงสาวผมหางม้า นางดูตัวเล็กมาก แต่เมื่อมองจากด้านหลังก็เดาได้ว่านางเป็นคนที่สวยงาม“นางเป็นใคร?” หานซานเฉียนถามอย่างสงสัยไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ได้สติ นางเงยหน้าขึ้นมองหานซานเฉียนแล้วพูดว่า “นางคือขอทานตัวน้อยคนนั้นไงเจ้าคะ”ขอทานตัวน้อย!หานซานเฉียนก้าวไปข้างหน้าและตะโกนเรียกขอทานตัวน้อย “หันกลับมาให้ข้าดูหน่อยสิ”ขอทานตัวน้อยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของนางแดงราวกับแอปเปิลประณีต ไร้ที่ติ นี่เป็นคำจำกัดความที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่หานซานเฉียนนึกถึงได้เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับตุ๊กตา ไม่เพียงแต่ผิวพันของนางจะเนียนสวยไร้ที่ติเท่านั้น แต่หน้าตาของนางก็ปราณีตมาก ในชีวิตของหานซานเฉียน ไม่มีใครเทียบความงามของฉี๋อีหยุนได้ แต่ด้วยการปรากฏตัวของขอทานตัวน้อยคนนี้ ดูเห
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฮวงเซียวหย่งก็รู้สึกเป็นกังวล ท่านอาจารย์มาหาเขาที่จวนของเจ้าเมืองเป็นครั้งแรก แต่ถูกขัดขวางโดยคนโง่เหล่านี้!“เจ้าพวกโง่ กล้าดียังไงมาขวางอาจารย์ของข้า!” ฮวงเซียวหย่งตะโกนยามดูเสียใจและพูดว่า “คุณชายฮวง พวกเราแค่กลัวว่าเขาจะโกหกน่ะขอรับ”ฮวงเซียวหย่งตบหัวยามคนนั้นแล้วพูดว่า “เจ้านี่ช่างโง่เขลาจริง ๆ ใครจะกล้ามาแสร้งทำเป็นอาจารย์ของข้าที่จวนเจ้าเมืองอีก เว้นเสียแต่ต้องการตาย”เมื่อยามได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันสมเหตุสมผลฮวงเซียวหย่งคือใคร เขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเชียวนะ!จะมีใครกล้ามาแกล้งทำเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไร?ซึ่งหมายความว่าชายหนุ่มที่อยู่นอกประตูนั้นเป็นปรมาจารย์สามอันดับหลังจริง ๆ ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลลงมาที่หลังของยาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับหานซานเฉียนไปเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ผ่านประตูนรกไปแล้ว!ถ้าหานซานเฉียนมีนิสัยดุร้าย เกรงว่าพวกเขาคงตายไปนานแล้วฮวงเซียวหย่งวิ่งไปจนสุดทางของจวนเจ้าเมือง ไม่กล้าแม้แต่จะพักหายใจ เมื่อเขาเห็นหานซานเฉียนถูกพวกโง่เขลาขวางไว้ เขาก็โกรธมาก“พวกเจ้ากำลังทำอะไร กล้าดียังไงมา
“เจ้ากำลังทำอะไร รู้หรือไม่ว่านี่คือที่ไหน นี่คือจวนของเจ้าเมือง เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้!”จวนของเจ้าเมืองหานซานเฉียนถูกยามขวางเอาไว้ยามในชุดเกราะหลายคนดูมีพลังราวกับสายรุ้ง โดยมีออร่าที่แม้แต่ราชาแห่งสวรรค์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้หานซานเฉียนรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้มาก และทันใดนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้นี่มันเหมือนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูของคลับระดับไฮเอนด์ หรือโรงแรมบนโลกปัจจุบันที่พยายามขวางเขาไม่ให้เข้าประตูเลยไม่ใช่เหรอเมื่อนึกถึงความจริงที่ว่าหานซานเฉียนเคยพบกับสิ่งต่าง ๆ มากมายบนโลกมาก่อนแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาในโลกเชวียนหยวนด้วย ดูเหมือนว่าธรรมชาติของมนุษย์จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าโลกไหน ๆ ก็มักจะมีคนที่ดูถูกคนอื่นอยู่เสมอ“ข้ามาหาฮวงเซียวหย่ง ไปบอกเขา แล้วเขาจะมาพบข้าเอง” หานซานเฉียนกล่าวพวกยามดูไม่พอใจ ตอนนี้ฮวงเซียวหย่งคือความภาคภูมิใจของจวนเจ้าเมือง ฮวงเซียวหย่งมีความแข็งแกร่งระดับโคมห้า แม้แต่ยามเหล่านี้ก็ดูเหมือนด้พึ่งบารมีของเขาไปด้วยเมื่อเอ่ยถึงและผู้ชายที่อยู่ข้างหน้ากลับพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการพบฮวงเซียวหย
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ