“เงินหนึ่งพันล้านอาจเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขาเท่านั้น แต่ถ้านายได้เงินมา นายจะมีชีวิตอยู่เพื่อใช้มันเหรอ?” ซูหยิงเซี่ยกล่าวซูไห่เฉาหัวเราะขึ้นมาทันใด เงินหนึ่งพันล้านเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ? เขาไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม แม้ว่าเธอจะต้องการรักษาภาพลักษณ์ให้หานซานเฉียน เธอก็ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดเช่นนี้เขาแคะหูแล้วพูดกับซูหยิงเซี่ยว่า “ตอนนี้เธอโอ้อวดเก่งขนาดนี้แล้วเหรอ แถมยังพูดแบบไม่ไตร่ตรองเลยสักนิด คิดว่าฉันจะเชื่อเธอไหม?” ซูหยิงเซี่ยยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “คนอย่างนายจะรู้ได้ยังไงว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน” “เก่งกาจเหรอ? คนเกาะเมียกินอย่างเขาเก่งกาจเหรอ” ซูไห่เฉาพยักหน้าตอบรับว่า “เขาเก่งกาจมากจริง ๆ เป็นผู้ชายแท้ ๆ ที่อาศัยเกาะผู้หญิงกิน ไม่มียางอาย ระดับเขาแล้วก็นับว่าเก่งกาจจริง ๆ ” ซูหยิงเซี่ยส่ายหน้า เรื่องแบบนี้เธอเองก็ไม่แน่ใจ และไม่สามารถอธิบายให้ซูไห่เฉาฟังได้ด้วย แต่เธอรู้ว่าหานซานเฉียนจะไม่มีทางปล่อยซูไห่เฉาไปง่าย ๆ เขารนหาที่ตายครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งนี้จะไม่มีทางจบอย่างสวยงามแน่นอน “หวังว่านายจะไม่เสียใจทีหลังนะ” ซูหยิงเซี่ยกล่าว “เสียใจท
ลักพาตัว ! เมื่อซูกั๋วหลินได้ยินสองคำนี้ ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดทันที ซูกั๋วหลินเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานมาก เขาหวังเสมอว่าซูไห่เฉาจะควบคุมตระกูลซูได้ ตอนนี้เมื่อบริษัทตกอยู่ในมือของซูหยิงเซี่ย เขาจึงรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งจนถึงขั้นคิดหาวิธีจัดการกับซูหยิงเซี่ยทุกรูปแบบอย่างไร้ยางอาย โดยหวังว่าจะทำให้ซูหยิงเซี่ยก้าวลงจากตำแหน่ง และให้ซูไห่เฉากลับมามีอำนาจควบคุมบริษัทอีกครั้ง แต่ความคิดของเขาทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น ความกล้าหาญของเขาไม่สามารถสนับสนุนความทะเยอทะยานของเขาได้เลย เมื่อตอนนี้เขาได้รู้ว่าซูไห่เฉาลักพาตัวซูหยิงเซี่ยไป จะไม่รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร! นี่เป็นเรื่องที่อาจจะทำให้ต้องติดคุกได้ เขามีลูกชายเพียงคนเดียวที่จะคอยเลี้ยงดูเขาในวัยชราและจัดงานศพให้ หากลูกชายของเขาต้องมาติดคุกเพราะเรื่องนี้ เขาจะมีชีวิตอยู่ในอนาคตได้อย่างไร! “แกพูดพล่ามอะไร อย่ามาใส่ร้ายลูกชายของฉัน ลูกชายของฉันจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” ซูกั๋วหลินพูดด้วยความโกรธ “ผมจะเอาเรื่องแบบนี้มาพูดล้อเล่นกับคุณทำไม?” หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แกอิจฉาพรสวรรค์และความสามารถของซูไห่เ
เมื่อสองวันก่อน ชายชราคนนี้ปรากฏตัวขึ้นในเรือนจำหยุนหลงเพื่อเข้าเยี่ยมหานจุน! หานจุนขาทั้งสองข้างพิการแล้ว ตอนนี้เขาต้องนั่งบนรถเข็นเท่านั้น โชคดีหลังจากที่กวานหยงแหกคุกไปแล้ว เขาก็ไม่ถูกทุบตีและถูกกดขี่อีกต่อไป เมื่อเขารู้ว่ามีคนมาเยี่ยมที่เรือนจำ ก็ยังคิดว่าหานซานเฉียนจะมาอวดเบ่งต่อหน้าเขา แต่พอเห็นชายชราคนนี้ หานจุนก็ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่นใจ ชายชราคนนี้เคยเป็นคนที่ตามจีบหนานกงเชียนชิวตอนยังเป็นวัยรุ่น ชื่อของเขาคือเซินเวิง เขาเป็นคนที่ลำเอียงมาก หลังจากที่หนานกงเชียนชิวแต่งงานเข้ามาในตระกูลหาน เซินเวิงสาบานทันทีว่าจะไม่แต่งงานกับใครตลอดชีวิต และเขาก็ทำมันได้ เขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนอีกเลย เขามีความรักให้หนานกงเชียนชิวเพียงคนเดียวเท่านั้น ข่าวการเสียชีวิตของหนานกงเชียนชิวนั้นเป็นความลับมาก มีเพียงตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหลวงเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ เมื่อเซินเวิงรู้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ปรารถนาอยากจะยื้อชีวิตของหนานกงเชียนชิวกลับคืนมาจากมือพญามัจจุราช แต่เรื่องราวที่ไม่อาจเป็นความจริงนี้ทำได้แค่คิดเท่านั้น สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการล้างแค้นให้หนานกงเชียนชิว “คุณอยากแก้แค้นไห
“บัดซบ ! เจ้าหมอนี่เป็นใคร ทำไมต่อสู้เก่งขนาดนี้” “ให้ตายสิ ไม่คิดเลยว่าจะเจอคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ จะปล่อยให้ถูกตีเฉย ๆ ไม่ได้หรอก” “กรีดรถซะ บอกให้เขารู้ถึงผลที่ตามมาจากการล่วงเกินพวกเรา ถ้าพวกเราหนีไปได้ เขาจะยังตามหาพวกเราเจออีกเหรอ?” พวกเขาถูกหานซานเฉียนซัดจนหมอบ แต่หลังจากหานซานเฉียนเดินจากไป พวกเขาก็เกิดความคิดที่จะแก้แค้นโดยการกรีดรถเสร็จแล้วหลบหนี ถึงอย่างไรหานซานเฉียนก็หาพวกเขาไม่เจอ สำหรับพวกอันธพาลเหล่านี้ หากเสียเปรียบแล้วไม่ทวงคืนศักดิ์ศรี พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร? เมื่อพวกเขาหิวจนท้องร้องจ๊อก ๆ จนต้องแอบกินหมั่นโถวลับหลังคนอื่น แต่ต่อหน้าคนอื่นนั้น ศักดิ์ศรีมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขา “ให้ตายสิ! ให้เจ้าหมอนี่ไปซ่อมรถเถอะ” “ทุบรถมัน” “ดูซิว่ามีอะไรมีค่าอยู่ในนั้นหรือเปล่า เราจะเสียเปรียบไม่ได้” จากนั้นชายหลายคนก็คว้าก้อนหินไว้ในมือ แล้วเดินไปที่รถของหานซานเฉียนอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นรถยนต์สิบกว่าคันก็ทยอยแล่นเข้ามาที่ทางเข้าชุมชน ประตูรถเปิดออกเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ผู้คนนับร้อยปรากฏตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำให้พวกเขากลัวจนขาอ่อน “นี่...นี่ม
หลังจากหลินหย่งเดินออกไปแล้ว คนที่เหลือก็เข้ามาล้อมรถหานซานเฉียนไว้ และไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ราวกับว่าพวกเขากำลังปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญบางอย่าง เดิมทีซูไห่เฉาวางแผนให้หานซานเฉียนเตรียมเงินเป็นเวลาสามวัน อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เงินหนึ่งพันล้าน เขาจำเป็นต้องขายบริษัทของตระกูลซูและเอาเงินมารวมกับเงินกู้ธนาคารครั้งก่อนถึงจะเพียงพอ แต่เขาคิดไม่ถึงว่าหานซานเฉียนจะมาหาเขาเร็วขนาดนี้ เมื่อประตูถูกเตะให้เปิดออก ซูไห่เฉาก็เห็นหานซานเฉียนยืนอยู่ข้างนอก เขาก็ตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ และริมฝีปากสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว“นาย...นายมาที่นี่ได้ยังไง !” ซูไห่เฉาพูดตะกุกตะกักด้วยความตกใจเป็นอย่างมากเมื่อหานซานเฉียนเห็นซูหยิงเซี่ยถูกมัดอย่างแน่นหนาอยู่ที่มุมห้อง ความโกรธของเขาก็ระเบิดขึ้นทันที เขาเดินเข้าไปหาซูไห่เฉาโดยไม่พูดจา พร้อมกับยกขาเตะจนซูไห่เฉาชิดกับมุมกำแพง จากนั้นก็ยกเก้าอี้ขึ้นฟาดใส่ตัวของซูไห่เฉาจนหักเป็นชิ้น ๆ “อย่าตี อย่าตีฉัน” ซูไห่เฉาเอามือกุมศีรษะแล้วพูดไม่หยุด “ดูเหมือนว่านายต้องตายเท่านั้นถึงจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ๆ สินะ” หานซานเฉียนมองซูไห่เฉาด้วยสีหน้าเฉย
ซูไห่เฉาถอยหลังสองก้าวจนตัวแนบชิดกำแพง เขาไม่อาจปกปิดความหวาดกลัวในสายตาของเขาได้ เพราะสายตาของหานซานเฉียนนั้นทำให้เขารู้สึกว่าหานซานเฉียนไม่ได้ล้อเล่นอย่างแน่นอน “หานซานเฉียน นายอย่าทำอะไรวู่วามนะ ฉันเตือนนายแล้ว นายต้องคิดถึงผลที่จะตามมาด้วย การฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต” ซูไห่เฉาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งราวกับว่าลำคอของเขากำลังมอดไหม้ สำหรับหานซานเฉียนแล้ว การฆ่าเป็นเพียงการพยักหน้ารับรู้เท่านั้น การพรากชีวิตคนต่ำทรามอย่างซูไห่เฉานั้นง่ายดายเหมือนเหยียบมด ส่วนผลที่ตามมาจากเรื่องนี้ หานซานเฉียนไม่เคยสนใจเลย “หญิงชราแห่งตระกูลซู นายเป็นคนฆ่าเธอใช่ไหม ในเมื่อนายบอกว่าการฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต วันนี้ฉันก็จะให้นายเป็นคนเป็นคนชดใช้เอง” หานซานเฉียนพูดอย่างเย็นชา เรื่องนี้เขายังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน แต่จู่ ๆ หญิงชราก็เสียชีวิตอย่างกะทันหันเพราะถูกพิษบางอย่าง นอกจากซูไห่เฉาแล้ว จะมีใครทำเรื่องแบบนี้ได้อีก? หลังจากการเสียชีวิตของหญิงชรา ซูไห่เฉาก็เป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ตระกูลซูถูกปิดตามองไม่เห็นความจริง แต่หานซานเฉียนสามารถมองเห็นแรงจูงใจของซูไห่เฉาได้อย่างง่ายดาย “นายพูดจาเ
แต่ในขณะเดียวกัน คำพูดของเหยียนจุนก็แวบเข้ามาในหัวของเซินเวิงอย่างรวดเร็ว ถ้าเขากล้าทำร้ายหานซานเฉียน เหยียนจุนจะเข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอนแม้ว่าเซินเวิงจะไม่เห็นหานซานเฉียนอยู่ในสายตา แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์มองข้ามเหยียนจุน องครักษ์ที่ไม่เป็นที่รู้จักของตระกูลหานผู้นี้ต่างหากที่เป็นหัวหน้าใหญ่ตัวจริง“ซูไห่เฉา นายต้องการแก้แค้นหรือเปล่า?” เซินเวิงหันไปถามซูไห่เฉา เมื่อครู่นี้ชีวิตของซูไห่เฉาถูกแขวนไว้บนเส้นด้าย มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งเพราะชายชราผมหงอกขาวที่อยู่ตรงหน้าเขาผู้นี้ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ แม้ว่าซูไห่เฉาจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เมื่อเขามองดูแล้วก็สามารถบอกได้ทันทีว่าชายชราคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน แค่เตะครั้งเดียวก็ทำให้หานซานเฉียนกระเด็นออกไปได้ เขาต้องเป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน“อยากแก้แค้นครับ อยากแก้แค้นมากครับ” ซูไห่เฉากล่าวอย่างหนักแน่น “คุกเข่าลง เห่าเหมือนสุนัขสองครั้ง แล้วฉันจะให้โอกาสนาย” เซินเวิงกล่าว ถ้าต้องการช่วยหานจุนการหาหมากสักตัวก็ต้องทำให้เขาเชื่อฟังก่อน จะปล่อยให้เขามีความคิดทรยศไม่ได้ ดังนั้นเซินเวิงจึงแสดงความแข็งแกร่งอย่
เมื่อเหยียนจุนเดินเข้ามาในห้องอย่างสบายใจ ความโกรธที่อัดแน่นอยู่เต็มอกของเซินเวิงก็หายไปในทันที เขาสามารถเหยียบย่ำหานซานเฉียนเหมือนมด แต่ไม่สามารถทำต่อหน้าเหยียนจุนได้ “ดูเหมือนว่าคุณจะลืมข้อตกลงของเรานะ นี่หมายความว่าคุณทำลายกฎ และผมเองก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญากฎแล้วสินะ?” เหยียนจุนเดินเข้าไปหานซานเฉียนพร้อมกับพยุงเขามาขึ้นมา แล้วพูดกับเซินเวิงด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเปลือกตาของเซินเวิงกระตุกเพียงเล็กน้อย ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขารู้สึกเกรงกลัวเหยียนจุนจนกลายเป็นความเคยชิน เมื่อเขาเห็นเหยียนจุน เขาก็หมดความมั่นใจในทันที ด้วยความสามารถของเซินเวิงแล้ว เหตุใดเขาจึงทำได้เพียงแค่มองดูหนานกงเชียนชิวแต่งงานกับหานเทียนหยางอยู่เฉย ๆ ได้ล่ะ? นั่นเป็นเพราะว่าการมีตัวตนอยู่ของเหยียนจุน ทำให้เขาไม่กล้าแตะต้องแม้แต่เส้นผมของหานเทียนหยาง!“คนที่ตีเขาไม่ใช่ผม” เซินเวิงกล่าวเหยียนจุนมองไปที่ซูไห่เฉาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และพูดว่า “ถ้าคุณไม่หนุนหลังเขา คนไร้ประโยชน์อย่างเขาจะกล้าทำแบบนี้เหรอ?”ซูไห่เฉาไม่รู้ว่าเหยียนจุนเป็นใคร แต่เขารู้สึกว่าน้ำเสียงที่เรียบเฉยของชายชรานั้นเต็มไปด้วยความทะนงตน แถม